ขอเชิญนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ(พระบาทพลวง) ประจำปี 2553 ค่ะ

[Ratha C]

[HIGHLIGHT=#ffff00]ขอเชิญนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ ในปี 2553 นี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2553 ถึง วันที่ 16 มีนาคม 2553 [/HIGHLIGHT]


นมัสการพระบาทพลวง ที่ เขาคิชฌกูฏ จันทบุรี

เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม

       อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ หรือที่ใครๆ เรียกกันจนติดปากว่า "เขาคิชฌกูฏ" มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอมะขาม และกิ่งอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี และยังเป็นต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำจันทบุรี สภาพป่าในบริเวณนี้มีทั้งป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา และป่าไม้ผลัดใบ มีสมุนไพรและกล้วยไม้ป่านานาชนิด รวมทั้งมีพันธุ์ไม้หายาก คือ ไม้กฤษณา และเนื่องจากเป็นป่าที่อยู่ในเขตเทือกเขาสูงชัน จึงมีสัตว์ป่าชุกชุม เช่น กระทิง เสือ หมี กวาง เก้ง เลียงผา และนกชนิดต่างๆ นอกจากนี้ ตามลำห้วยยังมีปลาพลวง ปลาก้าง ปลาหนวด ปลาดุกรำพัน อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

       สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ได้แก่ น้ำตกกระทิง,น้ำตกคลองช้างเซ ,ยอดเขาพระบาท และที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษนั้นเห็นจะเป็น การนมัสการรอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ หรือพระบาทพลวงนั่นเอง

       พระบาทพลวง หรือ พระพุทธบาทพลวง ประดิษฐานอยู่บนเขาคิชฌกูฎ โดยพระบาทพลวงนี้ เป็นรอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร อยู่บนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ที่จังหวัดจันทบุรี และถือว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดของประเทศไทย และอยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 40 กิโลเมตร

       ทั้งนี้ประชาชนจะนิยมไปนมัสการพระบาทหลวงเป็นจำนวนมาก เพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีนถึงช่วงวันมาฆบูชาของทุกปี จะมีประชาชนขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาททั้งกลางวันและกลางคืน ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของเขาคิชฌกูฏก็ได้จัดงานนมัสการพระบาทพลวงเป็นประจำทุกปีอีกด้วย



[FONT=Tahoma lang=TH]        บนยอดเขาคิชฌกูฏ ที่อยู่สูงเทียมเมฆนั้น  เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงกว่า 1,050 เมตรจากระดับน้ำทะเล  ซึ่งสูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ  จังหวัดจันทบุรี  ทุกๆปีในช่วงที่เปิดให้มีการขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทนั้น จะมีพุทธศาสนิกชนจาริกแสวงบุญมายังยอดเขาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก  เพื่อมาสักการะแผ่นหินซึ่งเชื่อว่าพระพุทธองค์ทรงมาประทับรอยพระบาทไว้  ด้วยความศรัทธาและความเชื่อในอานิสงส์ที่แรงกล้าว่าการได้นมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ถือเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัวและชีวิต[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ  มีลักษณะเป็นรอยบนหินแผ่นใหญ่  มีรอยบุ๋มลึกประมาณ  2  เมตรเศษ  กว้าง 1 เมตร ยาว 2  เมตร  ค้นพบที่ยอดเขาพระบาทห่างจากที่ทำการอุทยานเขาคิชฌกูฏราว 4 กม. และต้องเดินเท้าไปสู่ยอดเขาอีกราว 3 กม.  มีประวัติว่ารอยพระพุทธบาทนี้ได้ค้นพบโดยนายพรานหาของป่า  ที่เดินขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏเมื่อปี พ.ศ.2397  ซึ่งได้พบกับแหวนนาคขนาดใหญ่  และแผ่นหินที่มีรูปก้นหอยเหมือนรอยเท้าและได้แจ้งให้กับหลวงพ่อเพชรเจ้าคณะจังหวัดทราบ  เมื่อตรวจสอบดูก็พบรอยพระพุทธบาทนั้นจริงชาวบ้านต่างก็พากันขึ้นมานมัสการจนกลายเป็นประเพณีสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        ในบริเวณยอดเขาคิชฌกูฏนั้นยังมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติต่างๆ  ที่เชื่อมโยงกับตำนานและความเชื่อทางพระพุทธศาสนา  เช่นก้อนหินขนาดใหญ่มีรูปคล้ายกับบาตรพระคว่ำ  ใกล้กับหินรูปรอยพระพุทธบาท ศิลาเจดีย์รอยพระหัตถ์  รอยเท้าพญามาร  ถ้ำฤๅษี ลานแข่งรถพระอินทร์ หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่า และช้างขนาดยักษ์เป็นต้น [/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        เดิมทีนั้นพระพุทธบาทแห่งนี้เป็นที่รู้จักอีกชื่อว่าพระบาทพลวง  แต่ในปี พ.ศ.2515 พระครูธรรมสรคุณผู้เป็นหลักในการพัฒนาพระบาทพลวง  ได้เสนอให้นำชื่อของเขาคิชฌกูฏจากพุทธประวัติมาใช้เป็นชื่อของภูเขาที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์  ซึ่งคันธกุฎีเคยเป็นสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าในอดีต  และตั้งอยู่บนยอดเขานั้นมาใช้  เพื่อเป็นที่รำลึกถึงพระองค์และแสดงถึงความเจริญในพระพุทธศาสนาอย่างสูงส่งของประเทศไทย[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]สถานที่ตั้ง[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ   ต.พลวง  กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]ความเชื่อและวิธีการบูชา[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        เชื่อกันว่าการได้มานมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฏนั้น  เปรียบได้กับการได้เข้าเฝ้าองค์พระศาสดาถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่  ประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง  และสำหรับผู้ทีมีความเดือดเนื้อร้อนใจนั้น  หากได้มาตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากรอยพระพุทธบาทแล้ว  ความทุกข์กาย หรือความร้อนใจนั้นจะมลายสิ้นไป[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]เทศกาลงานประเพณี[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        การเปิดให้ขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) จะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ประมาณปลายเดือนมกราคม - เดือนมีนาคม รวมระยะเวลา  2  เดือน[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]วันและเวลาเปิด [/FONT]–[FONT=Tahoma lang=TH] ปิด[/FONT]

[FONT=Tahoma lang=TH]        เนื่องจากไม่ได้เปิดให้นมัสการได้ตลอดปี  ควรสอบถามรายละเอียดจากอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ก่อนทุกครั้ง [/FONT]
[FONT=Tahoma lang=TH][/FONT]
[FONT=Tahoma lang=TH][/FONT]

[HIGHLIGHT=#ffff00][HIGHLIGHT=#ffff00][FONT=Tahoma lang=TH][HIGHLIGHT=#00b0f0](รายละเอียดทั้งหมด) เซิตจากกูเกิลค่ะ ปีนึง เปิดเพียงแค่ 3 เดือนนะคร้า ปีนี้ใครไปยกมือขึ้น ส่วน "รฐา" ไป sure คร้า ^_^เบอร์นี้ เพิ่มเติมให้นะ[HIGHLIGHT=#00b0f0]คร้า [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/FONT][/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#00b0f0]039-452-056 เบอร์วัดกะทิง เขาคิชฌกูฏค่ะ เจ้าหน้าที่บริการดีน่ารักมากๆค่ะสามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆได้เลยค่ะ ^_^[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]

[อินทุศีตาลา]

เคยไปมาเมื่อสองปีที่แล้วค่ะ สุดๆเลย

[nooneloveme]

ปกติไปเกือบทุกปีค่ะ

แต่อยากไปวันที่ตรงกับวันบวงสรวงมากกว่าค่ะ (วันเปิดเขา และ วันปิดเขา) มีอะไรให้ดูเยอะดี ^^

ปีนี้คนคงจะเยอะขึ้นกว่าเดิมนะคะ เพราะว่าไปแต่ละปีคนก็เยอะขึ้นทุกปีเลยค่ะ

[Ratha C]

[HIGHLIGHT=#d99694]ปีที่แล้ว ไปมา 2 รอบค่ะ รอบแรก คนพอจะเดินขี้นได้ อย่างสบายๆ แต่ ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงวันเกิดหลวงพ่อ เดินแบบ คนติดอ่ะค่ะ ก้าวต่อก้าว ทรหด ม๊ากกก แต่ หลวงพ่อ ท่านจะบอก เสมอๆว่า การที่เรา สามารถ เดินขึ้นไป กราบนมัสการรอยพระพุทธบาท บทยอดเขาที่สูงๆได้นั้น คือ กุศโลบาย ให้เราไม่ย่อท้อต่อความลำบาก ค่ะ เวลา เรากลับมาจาก การกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทแล้ว เวลา เรา ท้อๆสิ่งใด ให้เรานึกดูซิ ว่า เขาคิชฌกูฏ เรา หน่ะ ขี้นมาแล้วนร้า ท่านที่เคยไปจะทราบดี จริงมั๊ยคร้า ส่วนตัวดิชั้น..คาดว่าปีนี้สงสัยคงต้องใช้เครื่องผ่อนแรงด้วยการเช่าไม้เท้า อีกแน่ๆ เลยค่ะ(ไม่ใช่คนแก่นร้าคร้าแต่หนูเดินไม่ไหวจริงๆใครอยากรู้ต้องลองนร้าคร้า) เพื่อนๆท่านใดไม่เคยไปว่างๆลองไปดูนะคร้า บรรยากาศดีมากๆเลยค่ะ ได้ฟิวอีกแบบนึงด้วย ทั้งพักผ่อน ทำบุญ และประเด็นสำคัญยังมี ลานมหาเทพด้วยนะคร้า ครบทุกๆพระองค์เลยหล่ะ ปีที่แล้วยังแอบนำผ้าเวสตี้ไปนุ่งให้พระคเนศ 5 เศียร ตรงลานเทพมาด้วยค่ะ ขออนุญาต จากทางวัดแล้วนะคะ เพราะการขึ้นเขาคิชฌกูฏนั้นมีกฏ กติกา คือ ห้ามเด็ดต้นไม้ ใบหญ้าทุกชนิด เป็นต้น และควรช่วยกันรักษาความสะอาด เพราะบนเขา ที่เปิด 3 เดือนนั้น จะมีพิธีเปิดเขา คือ สัตว์ต่างๆ เช่น ช้าง หมี เก้ง กวาง เค้า จะไม่ออกมารบกวนเราแม้แต่มดและยุงสักตัวยังไม่มากัดเลยค่ะ แต่ ถ้า ทำพิธีปิดเขาแล้ว ช่วง 9 เดือนที่เหลือ จะเป็นที่สำหรับสัตว์ป่า พักอาศัยและหากินค่ะ ฉะนั้น ช่วง 3 เดือนที่เขาเปิดนั้น เรา ไปเหมือนแย่งที่พักอาศัยของสัตว์ป่าเค้า ฉะนั้นเราควรอนุรักษ์ป่าให้ดีที่สุดค่ะ^_^[/HIGHLIGHT]

แอบมีภาพมาให้ชมค่ะ ถ่ายเองนะคร้า ภาพนี้ รอยพระพุทธบาท ค่ะ




ส่วนภาพนี้ เป็น ภาพพระคเนศ ปางค์ 5 เศียร ตรงลานเทพ ที่ รฐา นำผ้าเวสตี้ นำไปแต่งองค์ถวายมาค่ะ





และภาพนี้คาดว่า ผู้ใจบุญ คงนำพระคเนศ ศิลปะอินเดียใต้ขี้นมาถวายกับทางวัดเห็นว่าสวยดีเลยถ่ายภาพมาชื่นชมค่ะ อยากได้ อยากได้

[matakali]

ตั้งใจจะไปเหมือนกันเจ้าค่ะ ถ้ามีโอกาส คงไปร่วมพิธิเปิดเขาด้วยอ่ะ

[Ratha C]

พอดีเพิ่งไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาท ที่เขาคิชฌกูฏ มาค่ะ ไปเมื่อวัน ที่ 11-3-2553 ที่ผ่านมา เอาบุญมาฝากครอบครัว HM ทุกท่านนะคร้า

ตรงนี้คือ ลูกพระบาทค่ะ จะมีรอย พระบาทของพระพุทธเจ้า ที่ใหญ่ที่สุดในโลก



ไม้เท้าช่วยนำพา เรา ขึ้นสู่ยอดเขาค่ะ คือ เครื่องช่วยทุ่นแรงอย่างดีเลย อยู่ตรงทางขี้นเขานะคะ ไปยืม ใช้ได้ค่ะ โดยการทำบุญหยอดตู้พระ



รอยพระพุทธบาทค่ะ ต้องไปขอพรที่นี่ คือ ไฮไลท์สำคัญ ค่ะ โดยการ นำดอกไม้ธูปเทียนทองเงิน และ ความศรัทธา ไปขอพรจากรอยพระพุทธบาทนะคะ


ท่านพอเขียน ปลุกเสก กระเป๋า สตางค์ ให้ เงิน ทอง พอกพูน เพื่อความเป็นสิริมงคล


สอบถามเส้นทางจากรถบัสได้นะคะ มีสายเอกมัย และ หมอชิต ราคา ประมาณ 197 บาทค่ะ มี พรณิภาทัวร์ และ เชิดชัยทัวร์ค่ะ รถออกทุกๆครึ่งชั่วโมง



อิ่มบุญสุขใจ ก้อ ต้อง ได้ใบ ประกาศนียบัตร ค่ะ มีความหมายว่า ชิติ เม คือ เราชนะแล้ว Mountains of religion เพื่อนๆท่านใด ยังไม่ได้ไปยังไปทันนะคะ เพราะ ท่านพ่อเขียนจะอยู่ ถึง วัน ที่ 17 มีนาคม 2553 นี้ค่ะ ขี้นเขา คืน วัน ที 16 มีนาคม ยังทันอยู่
นะคะ รฐา ฝากประชาสัมพันธ์ ค่ะ ^^

[เสือร้องไห้]

สาธุค่ะพี่ต่าย  ถ้าน้องกระต่ายอยู่ใกล้  จะส่งM 150  ไม่ใช่ M 16  นะคะ  ให้เอ็มร้อย50เเรงใจไม่มีวันหมด
เเหมขึ้นเขา  ลงห้วยช่วยเรยเต็มที่  ว่าเเต่พี่ต่ายขึ้นเขาขออะไรคะ  เเต่ดูท่าทางพี่ต่ายจะไม่เหนื่อยมากนะคะ
จากรูป  ยังสวย  เซ็กซี่  ดูดี  มีสกุล  อยู่เลยคะ  อย่างที่บอกอะนะคะ  ผู้หญิงอย่าหยุดสวย  เพราะกะเทยจะสวยกว่า
ยังไงเหนื่อยเเค่ไหน  ก็ขอสวยเลิศ  ไว้ก่อนใช่ไหมคะ  สาธุกับพี่ต่ายด้วยนะคะ

[จิ้งจอกพันหน้า]

นี่ไง นี่ไง ที่ เมื่อวานคุย กะเพื่อนในเอ็ม  อยู่เรย อิอิ   เป็นที่ใฝฝันเรยอะนิ่ ที่อยากจะไป แต่ปืนเขาไม่ไหว แก่แร้วอ่ะ 555+



บุญไม่ถึง เรยเรานิ่ เหอ...เหอ......เหอ......  ตื้นตันใจแทนคุณน้อง เรยอ่ะ พอตอนที่ถึงที่หมาย ... แบกบุญกลับมาเพียบเรยอ่ะดิ่เนี่ย อิอิ


อุตส่าห์ เอารูป มาฝากกันด้วย อิ อิ  เห็นในรูปเอากระเป๋าไปให้หลวงพ่อท่านปลุกเสก  เอาร่ะ เอาร่ะ เงินไหลมาเงินไหลมาเงินไหลมา อิอิ.....


ทริป หน้าไปอย่ารืมบอกอ่ะ จะส่งกำลังใจไปด้วย (ไปเองคงปืนเขาไม่ได้อ่ะ) เหอ....เหอ.....เหอ......

[อักษรชนนี]

อนุโมทนากับพี่ต่ายด้วยนะครับ

ได้บุญกันไปเต็มๆเลยงานนี้ สุดยอดดดด

[Ratha C]

[HIGHLIGHT=#92d050]ใครพลาดปีนี้เพราะเขาคิชฌกูฏปิดแล้วค่ะ แต่ เราก้อสามารถไปร่วมทำบุญกับท่านพ่อเขียนได้ที่ วัดกะทิง จ.จันทบุรี นะคะ ตอนนี้เขาปิดแล้วเราไม่ต้องขี้นเขาค่ะ เพราะระหว่างเขาปิดหลวงพ่อเขียนจะขึ้นไปจำวัดบนเขา เป็นเวลา 3 เดือน และ พอช่วงเปิดเขาหลวงพ่อเขียนจะให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีรอยพระพุทธเจ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกและสิ่งมหัศจรรย์หลายๆสิ่งบนยอดเขา ในเวลา 9 เดือนที่ เปิดเขานั้น จะให้สัตว์ป่าได้อยู่อาศัย เป็นแหล่งหากินเพราะเป็นป่าดิบชื้น ทางวัดจะไม่ให้ผู้ใดขึ้นไปเด็ดขาดค่ะ เรา จึงสามารถ ไปนมัสการท่านพ่อเขียนได้ที่วัดกะทิง จ. จันทบุรี แต่ งานนี้ เรา ก้อ เอาบุญมาฝากทุ้กๆๆ คนนะคร้า วันไปก้อประชาสัมพันธ์เพื่อนๆสมาชิก HM ไปหลายท่านเหมือนกัล ปีที่แล้ว ก้อชวนนร้า ไม่เป็นไร ปีหน้า ถ้า ไม่พลาด เด๋ว ชวนใหม่ได้ค่ะ น้องเสือ พี่จิ้งจอกพันหน้า รีบมาลงชื่อด่วนๆเลย เพราะเจ๊เกียร์ไนท์ เจ๊แกพลาดไป 2 ปีและ ปีหน้าจะลากไปให้ได้ค่ะ ถ้าเดินไม่ไหว จะมีสะเหลี่ยงเจ้านางให้นั่งขี้นไปไม่ต้องเดินนะคร้าทางวัดเค้าเรียก เก๋ๆว่า ขี้นเฮลิคอปเตอร์ ค่ะ มีลูกหาบหาบเราขี้นไป เลิศศศศ ^^[/HIGHLIGHT]

[ศรีมหามารตี]

อยากไปกราบสักครั้งเหมือนกันคะ  คุณต่าย  อิอิ   ขอบพระคุณสำหรับภาพสวยๆคะ