อยู่ให้เหมือนลิ้นในปากงู
เขี้ยวของโลก ที่ขบขย้ำคนอยู่ คือ โลกธรรม 8 ประการ กลุ่มแรก คือ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข กลุ่มกลังคือ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ นั่นคือการได้ และการเสีย หรือบวก กับลบ นั่นเอง ซึ่งเป็นเพียงมายา ปรากฎการชั่วคราว ตามเหตุและปัจจัยปรุงแต่งขึ้น
เห็นความเกิด ดับ ของมายานี้ แล้วไม่ถือมั่น ไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรมจึงอยู่ในโลก ไม่ต้องหนีไปไหน แต่ก็ไม่ถูกเขี้ยวของโลก เหมือนลิ้นงู ที่อยู่ในปากงู ชิดเขี้ยวอันเต็มไปด้วยน้ำพิษแต่ไม่เคยถูกพิษนั้นเลย สำหรับโลกนอกตัวเราสมัยนี้ก็นับว่าเต็มไปด้วยพิษงูเราจะอยู่อย่างฉลาดโดยไม่ถูกเข้ากับพิษเหล่านั้น มีผลเท่ากับอยู่กันคนละโลกทีเดียว
ขอขอบคุณข้อมูลหนังสือชีวิตงามเล่ม 16 งับผม
เป็นข้อคิดที่ดีมากๆครับ
ขออนุโมทนาและขอบคุณจากใจจริงนะครับท่านเจ้าของกระทู้
เห็นด้วยคะ
อนุโมทนาบุญค่ะ กับโลกธรรม 8 ของคู่โลกและคู่กับมนุษย์ค่ะ
โอ้ ดีมากๆ เลยคุณ ธิติ
สุดยอดดดดดดดดด คร้าฟ
พระองค์อยู่หลังม่านเมื่อความทุกข์ ความร้อน ความทรมาน ความวุ่นวาย ความหนักอึ้งเกิดขึ้นในจิตใจของผู้ใด ขอท่านได้โปรดทราบเถิดว่า ในขณะนั้น พระพุทธองค์ กำลังประทับอยู่เบื้องหลังของความทุกข์นั้น คือจะดลใจปรากฎในดวงจิตของบุคคลนั้นเอง เพื่อแนะแนวทางแห่งความหลุดรอดจากความทุกข์ให้แก่เรา แต่เราจะได้ยินคำชี้แนะของพระพุทธองค์หรือไม่ มันขึ้นอยู่ที่สติปัญญาของเราแต่ละคนนี่เอง
(ขอขอบคุณหนังสือชีวิตงามเล่ม16งับผม)
ข้อความดีๆครับผม
ธรรมมะเป็นสิ่งอมตะ ผู้ใดดำรงชีวิตอยู่ในธรรม ทำชีวิตให้เป็นอันหนึ่งอันเดีนวกับธรรม ชีวิตของผู้นั้นย่อมกลายเป็นอมตะไปด้วย -พระธรรมปิฎก
วันวารเปลี่ยนแปรผัน ชีวิตพลันดับสลาย ความดีอยู่เหนือความตาย คงคุณค่าไว้นิรันดร
ณ ที่ใดดวงใจไม่ว้าวุ่น เงียบละมุน อุ่นล้ำด้วยธรรมสาร ณ ที่นั้น เป็นจุดหยุดวิญญาณ กล่อมดวงมาน ด่ำซึ้ง เข้าถึงธรรม
ขยันโพสข้อความดีๆจัง ก็จะขยันอ่านเหมือนกัน คับ ฮิฮิ
เวลาเหนื่อยๆ มาอ่านแล้ว รู้สึกเหมือนได้พักผ่อน
อ่านแล้วให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายจิตใจจริงๆ
ขอบคุณนะคะที่นำมาบอกต่อ
ขอบคุณค่ะ