Loader

ทำไมอ่ะ พิธีกรรมทางใต้ กับภาคกลลางไม่เหมือนกันหรอ !!!

Started by ohm, January 08, 2011, 23:13:44

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

ทำไมอ่ะ พิธีกรรมทางใต้ กับภาคกลลางไม่เหมือนกันหรอ !!!  งงมากกกเนี่ยเนื่ยย

ทำไมอ่ะ เค้าไม่ให้ตั้ง  กุมารเทพ  รวมกับ  เทพหรอออ   

เห็นที่ตรัง เค้าตั้งกันถมเถไป   ไม่เห็นมีรายเลยย 

เห็น พี่ไปร์  ( thiti)  ว่า  ถ้าตั้งแล้วจะต้องธรณีสาร จะเป็นอัปมงคล   !!!!  สงสัยป่านี้ คนภาคใต้คง อัปมงคลกันทั้งภาคแล้วมั้งงง

งงนะเนี่ยย  ทำไมอ่ะ  ภาคกลางเค้าไม่ตั้งกันหรออ  งงหว่ะ

ผมไม่รู้ว่า ภาคกลางจะเป็นยังไง  แต่ทางใต้  เค้าตั้งกันได้  ถูกต้องทุกอย่างง 

ใครก็ได้ช่วยบอกที   
OhM..!!..GaNesH BoYZaa..[HIGHLIGHT=#ffffff][/HIGHLIGHT]

ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้คงต้องรอผู้รู้มาชี้แจงกันต่อไป

แต่อยากจะเรียนให้ท่านเจ้าของกระทู้ทราบสักเล็กน้อยว่า

เวลาตั้งกระทู้กรุณาใช้ข้อความให้สุภาพ และรบกวนใช้ภาษาให้ถูกต้องด้วยนะครับ
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

ขอตอบในฐานะ ศาสนิกชน ที่ไม่รู้จักคำว่า ธรณีสารนะคับ

ผมเองเป็นคนที่ศรัทธาในความเป็นฮินดู ศรัทธามาก ครับ แต่ผมคิดว่า คำว่าเทพในความหมายของน้องไปร์คงจะหมายถึงเทพในศานาฮินดู

ซึ่งถ้าเป็นผม ผมก็ไม่ตั้งครับ เพราะ ผมถือว่ากุมารทอง  กุมารเทพ  หรือะไรก็แล้วแต่ เป็นเครื่องราง ไม่ใช่เครื่องยึดเหนี่ยวที่ถูกต้องทางศาสนา

มันก็แล้วแต่คน แต่ความเชื่อ  แต่สำหรับผม ผมไม่ไม่ตั้งเลยซักองค์เดียว เพราะผมถือว่า ในฮินดู ไม่มีปกรณ์เล่มไหนเขียนถึงกุมารทอง กุมารเทพ อะไร

เลย  และ เค้ามีความดีที่ถูกต้องตามศีลธรมมอันใด ที่จะสามารถ นำมาขึ้นหิ้ง รวมกับมหาเทพ ได้ ผมคิดว่า หากพี่โอม อยากจะบูชา น่าจะแยกออกจาก

หิ้งมหาเทพดีกว่าครับ แต่ก็แล้วแต่คนมองด้วยแหละ เนอะ แตจ่สำหรับผม กุมารทอง กุมารเทพ คือของนอกศาสนาฮินดูรวมทั้งศาสนาพุทธ ครับ

(แรงไป แต่ขอบอกแบบ ตรงๆ ครับ ไม่ว่ากันนะครับ )
[HIGHLIGHT=#ffff00]มนุษย์จงประพฤติตัวให้แตกต่างจากพราหมณ์ พิธีกรรมบางอย่างควรขึ้นอยู่กับพราหมณ์ส่วนเราซึ่งเป็นมนุษย์ ควรปฎิบัติตัวให้เหมาะสม มีขอบเขตและไม่ก้าวก่ายหน้าที่ของพราหมณ์ [/HIGHLIGHT]

ถ้ากุมารทอง ความคิดตัวหนูเองคือห้ามตั้งไว้ในหิ้งเทพเด็ดขาดค่ะ ควรจะแยกมาอีกหิ้ง และต้องเตี้ยกว่าหิ้งพระและหิ้งเทพ

บ้านหนูไม่มีการเลี้ยงกุมารทองอย่างเด็ดขาดค่ะ ตัวหนูเองดูมวลสารก็ขยะแขยง อีกอย่าง รอบๆหมู่บ้านก็มีอยู่เยอะแล้ว ไม่จำเป็นต้องนำมาเพิ่ม(0-0)!!!


เรียนคุณมาตาศรี มารีอัมมัน นะคับ
กุมารทองไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียดหรือขยะแขยง มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน หากไม่ชอบกรุณาเก็บคำพูดดีกว่านะคับ เพื่อจะไม่ให้เกิดเรื่องทะเลาะกันอีกในบอร์ดเรา หากไม่เหมาะสมขออภัยด้วยนะคับ
คุณความดี....มิได้ขึ้นอยู่กับสายตาใคร

เกิดขึ้นย่อมมีดับไปเป็นธรรมดาดั่งพุทธองค์ทรงตรัส

ขอโทษด้วยค่ะ

(ป.ลหนูเขียนแล้ว ว่า ตัวหนูเองหมายถึง ส่วนตัวหนูเอง ค่ะ)

กุมารทองก็จะมี 2 ประเภทครับ
คือกุมารทองที่ปลุกเสกโดย ฤๅษี หรือ คนที่เล่นอาคม โดยใช้บทสวดที่เป็นสายขาวมาสวด รวมไปถึง เจตนาในการปลุกกุมารด้วยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นเทวดาที่เป็นเด็กทั้งหลาย หรือพวกที่เป็นกุมารดีดีครับ

ส่วนอีกแบบคือการทำโดยไสยดำ โดยวิธีการก็เอาศพเด็กมาย่าง ประมาณนั้น แล้วปลุกเสกด้วยเวทมนต์คาถา ครับ แบบนี้ผมก็ไม่เอาขึ้นหิ้งแน่นนอนครับ

ลองใช้วิจารณญาณครับ


ผมว่าเอาการศรัทธาเป็นตัวตั้งจะดีกว่านะครับ การนับถือศาสนาพุทธพระศาสดาก็คือพระพุทธเจ้า ผมนับถือพุทธและฮินดู ศาสนาฮินดูผมก็นับถือพระศิวะดังนั้นหิ้งเทพของผมก็มีแต่พระศาสดาของผม แต่บางคนนับถือกุมารมากกว่าก็คงไม่ว่ากัน เมื่อก่อนผมนับถือพระศิวะแต่ไม่เคยมีเทวรูป พอดีมีเด็กติดยาไปเอามาจากบ้านร้างมาถามขายเห็นท่านสกปรกมากก็เลยบูชาไว้ อีกองค์ใหญ่กับวัวก็มีร้านปูนปั้นทิ้งไว้รกมากเลยไปถามบูชา พระพิฆเนศแม่ไปทำธุรกิจเค้าก็ให้มา ที่ตัวเองูชามาเองมีแต่พระศิวะ นาฏ ราช เท่านั้นคือมีองค์โลหะองค์เดียว  ดังนั้น เราควรบูชาสิ่งที่เรา นับถือ ศรัทธา จิงๆไม่ใช่มีอะไรก็เอาขึ้นหิ้งแต่ดูแลไม่ทั่วถึงผมเห็นบ่อยมากที่ชอบมาโชว์ว่าบ้านบูชาเยอะมีทุกอย่าง แต่ไม่รู้พระนามสักองค์ หิ้งมีแต่ฝุ่นจับ อย่างนั้นไม่สมควรเลยครับ ส่วนตัวผม ถ้ามีกุมารแล้วที่จำกัดจะตั้งไว้ให้ต่ำกว่าองค์มหาเทพนะครับ แต่ก็แล้วแต่ความศรัทธาของแต่ละบุคคลครับ
Thanks: เกมส์ทําอาหารเกมส์ต่อสู้เกมส์ปลูกผักเกมส์มันๆของขวัญ

แต่สำหรับผม ผมคิดว่าเค้าอาจจะว่าง ตาม ลำดับชั้น  จากเทพชั้นสูง ลง มาตามลำดับมากกว่า
เพราะผมก้อ ตั้งไว้ชั้นเดียวกัน เพราะที่ตั้งไม่ค่อยมี แต่จะหา พานมาลอง องค์เทพ หัยสูงกว่ากุมาร
เพราะกุมาร บางที่ก้ออาจจะมี จากองค์ๆใหญ่ อาจเปงถึงมหาเทพ มาจุติ เปงกุมารก้อน้าจะมีนะ คับ

(ปล) อันนี้เปงความเหงส่วนตัวของผมเองนะ ถ้าผิดพลาดอะไร ขออภัยไว้ล่วงหน้าล่ะกันคับ ^^

ขออณุญาติแบ่งปันความรู้นะครับ ...

โดยปกติทั่วไปธรรมเนียมของคนโบราณ  จะนิยมแยกแท่นบูชาออกจากกันเป็นเอกเทศ  เช่น  แท่นพระพุทธรูปเถรวาท  แท่นเทพเจ้าฮินดู แท่นเทพเจ้าจีน  เป็นต้น 

เพราะอะไร ?  เพราะว่าสิ่งศักดิ์แต่ละลัทธิ แต่ละศาสนา  มีขั้นตอนการปฏิบัติบูชาที่แตกต่างกัน บางอย่างเหมาะกับเทพเจ้าฮินดู แต่ไม่เหมาะกับพระพุทธรูป เป็นต้น   และถ้าแยกได้แบบนี้ระดับสูงต่ำจะไม่เป็นปัญหา  แต่บางครั้งสิ่งแวดล้อม หรือสถานที่ไม่อำนวยที่จะให้ทำแบบนั้นได้ ...... ก็พออนุโลมตั้งร่วมกันได้  แต่ต้องเป็นขั้นเป็นตอน  มีวิธีการ  ไม่ใช่นึกจะตั้งอะไรก็ทำ  แบบนี้ไม่ได้

.... ที่นี้ถามว่าแล้วจำพวกกุมารทองล่ะ  ทำยังไง ??   คำตอบคือ  ต้องแยกไปต่างหากอีกแท่นหนึ่ง  และไม่ควรอยู่ใกล้บริเวณแท่นบูชาพระ และเทพเจ้าด้วย  เพราะกุมารทองคือผี ไม่ใช่เทพ

ยกตัวอย่างง่ายๆ  ถ้าคุณมีเทวรูปพระคเณศในบ้าน และคุณบูชาท่าน ท่านก็จะคุ้มครองคุณอยู่    เกิดวันนึงคุณพาเครื่องรางกุมารทองเข้าบ้าน  สิ่งแรกที่ท่านจะทำคือปกป้องคุณจากอัปมงคล เทวานุภาพของท่านจะขับไล่กุมารทองนั้นไป  แต่ถ้าคุณยังยอมรับกุมารทองนั้นเข้าบ้าน  เท่ากับคุณปฏิเสธการคุ้มครองจากพระคเณศ  จริงหรือไม่ ?

.... แล้วพอมาถึงตรงนี้ก็จะต้องมีคนมาเถียงเราอีกว่า  กุมารทองมีที่เป็น   กุมารเทพ  เป็นวิชาไสยขาว  อะไรก็ตาม ... ถามว่าคุณจะรู้ได้อย่างไรว่ากุมารทองตนไหนเป็นเทพ  ตนไหนเป็นผี ??

แต่ถ้าถามเรา กุมารเทพองค์เดียวที่เรารู้จัก คือ  เทพเจ้านาจา  นั่นแหละคือกุมารเทพของจริง   และคุณต้องบูชาแบบเทพเจ้า ตามธรรมเนียมของคนจีน  ไม่ใช่ถวายน้ำแดง ถวายนม และของเล่น แบบกุมารทองทั่วๆไป


... ส่วนคำว่า  ต้องธรณีสาร  แปลว่า  ถูกอาถรรพ์ หรือมีอัปมงคลต่างๆ ติดตัว  เนื่องจากจากการทำผิดต่อบางสิ่ง  เช่น  ต้องธรณีสารจากการดูดวงบ่อยๆ   ต้องธรณีสารจากการตั้งเทวรูปผิดที่ผิดทาง (ของบางลัทธิ)  เป็นต้น

January 10, 2011, 16:40:35 #10 Last Edit: January 10, 2011, 17:19:38 by มาตาศรี มารีอัมมัน
งั้นง่ายๆ ไม่ควรนำกุมารทอง มาตั้งรวมกันเทพ ขนาด เทพพาหนะ ยังต้องอยู่ต่ำกว่าเทพ งั้นกุมารทองไม่ต้องมีสิทธิพิเศษไปร่วมวงกับเทพนะคะ


ในส่วนตัวผมเองก็เลี้ยงนะกุมารทอง เลี้ยงอยู่4องค์ ทุกองค์ก็จะถูกจัดแยกออกจากโต๊ะบูชาเทพ และโต๊ะของเด็กๆจะต่ำกว่า เวลาวันพระก็จะต้องบูชาเทพก่อน ง่ายๆเทพมาก่อนกุมารทอง ไม่ใช่แค่แยกโต๊ะหรือลดให้ระดับโต๊ะกุมารนะครับ แต่ทุกสิ่งจะต้องมาก่อนกุมารเสมอ

และขอพูดไว้ตรงนี้เลยว่า คนไทยที่บูชาเทพฮินดูอยู่แล้วอยากเลี้ยงกุมารขึ้นมาหรือเลี้ยงไว้อยู่แล้ว  สามารถเลี้ยงได้โดยปกติไม่มีข้อห้ามอะไรทั้งนั้น ใครจะพูดว่า กุมารทองเป็ของต่ำ สกปรก ชั้นผี ไม่สมควรบูชา  ไม่ต้องไปสนใจครับและผมก็ไม่สนใจในคำพูดนั้น  หรือคนบอกว่าบูชากุมารแล้วเทพหนีเทพไม่มาประทานพร อันนี้ยิ่งไร้สาระเลยครับ  เพราะเทพท่านไม่สนใจหรอกว่า ผู้บูชาจะเอาอะไรมาเลี้ยงมาบูชา  ตราบใดที่เรายังรักและศัทธาพระองค์ต่อให้เอากุมารพรายแรงๆมาเลี้ยงท่านก็ไม่หนีเราไปไหน ในพระเวทก็ไม่มีบอกว่าห้ามเลี้ยงกุมารทองด้วย  แต่คุณเลี้ยงกุมารน่ะคุณบอกท่านยังว่าเอาอะไรมา ขอท่านยัง ท่านก็เหมือนกับคนในบ้านในครอบครัวเราแหละครับ ถ้าคุณไม่บอกไม่ขอแน่นอนกุมารปิวหายไปแน่ๆ

ฉะนั้น สบายใจได้ครับ กุมารเลี้ยงได้แต่ต้องเลี้ยงให้ถูกที่ถูกทาง เลี้ยงให้ถูกวิธีก็ปลอดภัย กุมารก็เหมือนกับดาบ2คมล่ะครับ

เพิ่มเติมสำหรับคนที่ค้างคาใจ  http://www.facebook.com/profile.php?id=1739510134#!/permalink.php?story_fbid=160000490712378&id=1739510134

(อย่าให้วัฒนธรรมอื่นมาทำลายมรดกของไทย)

ปล. ตอนนี้มองหาพรายคู่ เล่นแรงๆหน่อย5555555+เอิ๊ก
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

เพิ่มเติมครับ พอดีนึกขึ้นได้ คำสอนของหลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม
วัตถุมงคลสร้างไว้เป็นที่ระลึก
เป็นที่ยึดเหนียวจิตใจ
  อิทธิปฏิหาริย์นั้นเกิดจากแรงศรัทธา
มิใช่ให้หลงงมงาย

วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

โอ้โห ..... อาจารย์เทวบารมี มหาเทวบารมี

ขอชี้แจงหน่อย  ตามที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวมานั้นว่าในพระเวท ไม่ได้ห้ามให้เลี้ยงน้องกุ แต่ในพระเวทก็ไม่ได้สอนหรือแนะนำให้เลี้ยงนิ

คะ  เหตุเพราะมันไม่เกิดประโยชน์อะไร และมิใช่ทางที่จะพาเราเข้าสู่โมกษะธรรมอันเป็นเป้าหมายคำสอนสูงสุดในศาสนาฮินดู



....  ส่วนเรื่องที่ว่าอย่าให้วัฒนธรรมอื่นมาทำลายมรดกไทยนี่ ท่านอาจารย์เทวาบารมีก็ทำอิชั้นช็อกอีกคะ

มีเรื่องอยากจะแนะนำสักหน่อยว่า  แค่มรดกไทยยังน้อยไป  น่าจะเสนอชื่อให้องค์กรยูเนสโก พิจารณาเปนมรดกโลกเลยอะคะ

อิอิ ...  ทั้งหมดนี้พูดเล่นนะค่ะ



ครับกุมารไม่ใช่สิ่งที่นำไปสู่การบรรลุเข้าสู่โมกษะธรรมอย่างที่พี่กิฟบอก  แต่กุมารเป็นเหมือนเป็นกำลังใจเป็นเครื่องเนี่ยวจิตใจ

แหมอ่านท้ายๆแล้วจะหัวเราะให้ดังลั่นปฐพี วะ555555555+เอิ๊ก มรดกนี้ที่เบนพูดถึงคือ มรดกความเชื่อครับ ความเชื่อที่มีมาแต่สมัยโบราณและควรรักษาไว้ กุมารนี้เขาก็เป็นหน้าตาให้ประเทศแล้วนะเดี่ยวนี้ ชาวต่างชาติก็ให้ความสนใจไม่น้อยไปจะทั่วโลกล่ะ โดยเฉพาะฮินดูชนที่ดินอดนฮาระตะแท้ๆยังมีไว้บูชากันแล้ว 55555+ช็อคทำไมอ่ะพี่กิฟ5555+เบนแค่พูดตรงไปตรงมาเองอ่ะ  นี้ถ้าองค์กรยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกก็ดีสิ555+
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

Quote from: มาตาศรี มารีอัมมัน on January 09, 2011, 10:46:43
ถ้ากุมารทอง ความคิดตัวหนูเองคือห้ามตั้งไว้ในหิ้งเทพเด็ดขาดค่ะ ควรจะแยกมาอีกหิ้ง และต้องเตี้ยกว่าหิ้งพระและหิ้งเทพ

บ้านหนูไม่มีการเลี้ยงกุมารทองอย่างเด็ดขาดค่ะ ตัวหนูเองดูมวลสารก็ขยะแขยง อีกอย่าง รอบๆหมู่บ้านก็มีอยู่เยอะแล้ว ไม่จำเป็นต้องนำมาเพิ่ม(0-0)!!!



เรียนคุณ มาตาศรี มารีอัมมา มวลสารที่คุณบอกว่าขยะแขยง มันเป็นสิ่งสำคัญที่ใช่ในการสร้างกุมารทองครับ เป็นหัวเชื้อชักนำกุมารให้มาสถิตในรูปกาย มวลสารที่ว่านี้อาจจะเป็นซากกุมารน้อย  ดิน7ป่าช้า 7โป่ง 7ไร่นา 7สวน 7ขุย 7จอมปลวก 7ท่า 7ตลาด ผงลูกกรอก ผงลูกกรอกแมว ผงกระดูกเด็กต่างๆที่เสียชีวิตในวัดแรงๆเช่นตายวันเสาร์เผาวันอังคาร โลหะอาถรพ์ต่างๆ จำพวกเหล็กพลิกศพ ตะปูโลงศพ ซึ่งของพวกนี้จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างทำกุมารทอง ทำให้กุมารมีฤทธิ์มาก แตกต่างจากกุมารเซริก้าที่ทำกาเรียกจิตเฉยๆ

ข้อมูลที่ยกมาให้อ่านอาจจะสยองหน่อยนะครับ
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

0*0 น่ากลัว บรื๋อ ถ้าจะให้กุมารกับพระไภรวะ ยอมบูชาพระไภรวะดีกว่า หว่ายขนลุก


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นกันนะครับ

แต่ขอฝากไว้สักนิดว่า ขอความกรุณาให้ทุกท่าน ก่อนตอบกระทู้ ควรคำนึงถึงขอบเขตของกฏกติกาเว็บด้วยนะครับ

เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เหมือนหลายกรณีที่ผ่านๆมา.....



กฎ กติกา มารยาท และ บทลงโทษ ลงวันที่ ๒๖/๐๑/๒๕๕๓

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

January 10, 2011, 23:10:08 #18 Last Edit: January 11, 2011, 01:43:22 by บุตรมาเตศวรีศรีมหาอุมาเทวี
ต้องเอาความคิดของท่านที่มีความรู้มาออกความเห็นแทนนะครับ  เพราะความเห็นผมออกจาแรงไปก็ได้

Quote from: Naga on January 10, 2011, 16:33:31
ขออณุญาติแบ่งปันความรู้นะครับ ...

โดยปกติทั่วไปธรรมเนียมของคนโบราณ  จะนิยมแยกแท่นบูชาออกจากกันเป็นเอกเทศ เช่น  แท่นพระพุทธรูปเถรวาท  แท่นเทพเจ้าฮินดู แท่นเทพเจ้าจีน  เป็นต้น 

เพราะอะไร ?  เพราะว่าสิ่งศักดิ์แต่ละลัทธิ แต่ละศาสนา มีขั้นตอนการปฏิบัติบูชาที่แตกต่างกัน บางอย่างเหมาะกับเทพเจ้าฮินดูแต่ไม่เหมาะกับพระพุทธรูป เป็นต้น  และถ้าแยกได้แบบนี้ระดับสูงต่ำจะไม่เป็นปัญหา  แต่บางครั้งสิ่งแวดล้อมหรือสถานที่ไม่อำนวยที่จะให้ทำแบบนั้นได้ ......ก็พออนุโลมตั้งร่วมกันได้  แต่ต้องเป็นขั้นเป็นตอน  มีวิธีการ ไม่ใช่นึกจะตั้งอะไรก็ทำ  แบบนี้ไม่ได้

....ที่นี้ถามว่าแล้วจำพวกกุมารทองล่ะ  ทำยังไง ??   คำตอบคือ ต้องแยกไปต่างหากอีกแท่นหนึ่ง  และไม่ควรอยู่ใกล้บริเวณแท่นบูชาพระและเทพเจ้าด้วย  เพราะกุมารทองคือผี ไม่ใช่เทพ

ยกตัวอย่างง่ายๆ  ถ้าคุณมีเทวรูปพระคเณศในบ้าน และคุณบูชาท่านท่านก็จะคุ้มครองคุณอยู่    เกิดวันนึงคุณพาเครื่องรางกุมารทองเข้าบ้าน สิ่งแรกที่ท่านจะทำคือปกป้องคุณจากอัปมงคลเทวานุภาพของท่านจะขับไล่กุมารทองนั้นไป แต่ถ้าคุณยังยอมรับกุมารทองนั้นเข้าบ้าน เท่ากับคุณปฏิเสธการคุ้มครองจากพระคเณศ  จริงหรือไม่ ?

....แล้วพอมาถึงตรงนี้ก็จะต้องมีคนมาเถียงเราอีกว่า  กุมารทองมีที่เป็น  กุมารเทพ  เป็นวิชาไสยขาว  อะไรก็ตาม ...ถามว่าคุณจะรู้ได้อย่างไรว่ากุมารทองตนไหนเป็นเทพ  ตนไหนเป็นผี ??

แต่ถ้าถามเรา กุมารเทพองค์เดียวที่เรารู้จัก คือ  เทพเจ้านาจา นั่นแหละคือกุมารเทพของจริง   และคุณต้องบูชาแบบเทพเจ้าตามธรรมเนียมของคนจีน  ไม่ใช่ถวายน้ำแดง ถวายนม และของเล่นแบบกุมารทองทั่วๆไป


... ส่วนคำว่า ต้องธรณีสาร  แปลว่า  ถูกอาถรรพ์ หรือมีอัปมงคลต่างๆ ติดตัว เนื่องจากจากการทำผิดต่อบางสิ่ง  เช่น  ต้องธรณีสารจากการดูดวงบ่อยๆ  ต้องธรณีสารจากการตั้งเทวรูปผิดที่ผิดทาง (ของบางลัทธิ)  เป็นต้น

ตัวแดงคือความเห็นที่ผมเห็นด้วยนะครับ  เพราะชัดเจนดี  เข้าใจได้ง่าย

มาในส่วนที่ว่า  มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล  ซึ่งแล้วแต่จะคิดว่า  เป็นเทพ  เป็นผี  เป็นมหาเทพ?????  มาจุติก็ตาม
หรือจะเป็นมรดกอันล้ำค่าที่บรรพชนได้สืบทอดมาให้ก็ตาม  เป็นเรื่องที่แล้วแต่จะคิด 

แต่อย่างไรก็ตาม  ผมเชื่อว่าถ้าคุณมี  พระผู้เป็นเจ้า  เป็นที่ยึดเหนี่ยวแล้ว  คุณยังต้องหาสิ่งอื่นมายึดเหนี่ยวอีกหรือ???
หรือพระผู้เป็นเจ้าที่คุณบูชายังไม่มีพระกรุณามากพอที่จะทำให้คุณยึดเหนี่ยวได้จนต้อง  ไปหาสิ่งอื่นๆมาทดแทนส่วนที่ขาดหายไป

ในปัจจุบันเท่าที่พบมากับตนเอง  ชาวอินเดีย  แดนภารตะ  เมืองแห่งเทพเจ้า  ที่เค้าจะหันมานิยม  มรดก  ชิ้นนี้ก็ไม่แปลก
เพราะเดี๋ยวนี้พวกเค้าบางคนพอไปถามเรื่องพระผู้เป็นเจ้าบางองค์ยังบอกผิดๆถูกๆ  จนเดี๋ยวนี้คนไทยที่ไปนับถือยังรู้มากกว่าพวกแขกเสี่ยอีก

เรื่องนี้ต้องแล้วแต่บุคคลเรื่องความเชื่อจริงๆ  เพราะถ้าใครเขาไม่ชอบก็ว่าไม่ได้  แต่ถ้าใครจะชอบก็แล้วแต่บุคคล


(เป็นความเห็นส่วนบุคล  โปรดใช้วิจารณญาณ)
 

พฤษภกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง
   โททนต์เสน่คงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์   สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์      มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด   ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

ตามความเห็นผม กุมารเทพน่าจะมีอยู่ครับ
พระกุมารคเนศร์ Bal Ganesh 1
พระกันติเก (พระขันธกุมาร) 1
พระแม่มหากาลี ท่านก็ชอบจำแลงกายเป็นกุมารี 1
พระกฤษณกุมาร 1

ถ้าท่านเหล่านี้สามารถ จำแลงกาย หรือมีภาคที่เป็นกุมาร
ดังนั้นเทวดาองค์อื่นๆ ก็สามารถจำแลงกาย หรือมีภาคที่เป็นพระกุมารเช่นกัน
ดังนั้น จะสรุปได้หรือไม่ว่า จะไม่มีกุมารที่เป็นเทวดาจริงๆ
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าท่านเป็นกุมารเทพจริงๆ อันนี้คงตอบยากครับ เพราะเราคงไม่รู้แน่ๆ
แต่ถ้า องค์เทวรูปองค์ใด ที่ปลุกเสกมา แล้วคนที่ปลุกเสกอาจจะไม่ได้อัญเชิญเทพ ประจำเทวรูปนั้นๆ ลงมา
ก็อาจจะเป็นผีก็ได้จริงมั้ย

เป็นแง่คิดครับ

มองโลก ต้องมองหลายๆมุม ไม่มองเฉพาะความเชื่อ มุมเดียว
เพราะโลกย่อมมีมุม หลายๆ มุม และก็อาจจะเป็นเช่นนั้นด้วย

เป็นความเห็นของผมครับ
แต่สรุปว่า ลองมองในมุมอื่นๆดูกันบ้างนะครับ

สิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้ ตรัสไว้ ไม่ได้แปลว่าไม่มี แต่ที่ท่านไม่ตรัสไว้ เพราะไม่ใช่หนทางแห่งการหลุดพ้น และเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะกล่าวครับ

เป็นข้อคิดของเพื่อนๆ ทุกคนครับ

http://www.youtube.com/v/bAI0LnZMz24&feature=related

นี่น่ะหรอ ที่ว่าพระแม่ทรงจำแลงกายเป็นกุมารี มีอยู่ตอนนึง เด็กใส่ชุดสีแดง

พระมูรูกันเป็นกุมารเทพหรอ ว่าแล้วทำไมน่ารักจัง  

เราเข้าใจว่า กุมารทอง หมายถึง  รูปปั้นเด็ก ไม่ว่าจะเป็นรูปเด็กเกล้าจุกใส่ชุดไทย หรือรูปปั้นเด็กทารกต่างๆนานา แล้วเอามาลงอาคม ประจุอาการ ประจุนาม และประจุวิญญาณเข้าไป ตามวิชาของไสยศาสตร์นั้นซะอีก  ซึ่งถ้าเป็นกุมารทองแบบนี้  ก็ตั้งรวมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเทวรูป หรือพระพุทธรูปต่างๆ  ไม่ได้  เพราะอะไร ?  ก็เพราะว่าเป็นผี  ที่ผูกด้วยอาคมไสยศาสตร์ใช่หรือไม่ ? 

ทีนี้ถามอีกว่ารู้ได้ยังไงว่าเป็นไสยศาสตร์  มนต์ดำ ?  ... คุณดูจากมวลสารอะไรนั่น ที่มีคนอ้างมาซิ  ดินป่าช้า  ดินจอมปลวก ซากเด็ก  ตะปูตอกฝาโลง  ผงกระดูกเด็ก ฯลฯ  นี่หรือมวลสารอันเป็นมงคล  ที่จะนำมาจัดสร้างของอันเป็นมงคล ?? 

... แล้วก็ยังบอกอีกว่า มวลสาร (?) พวกนี้จำเป็นมาก เพราะต้องใช้เป็นเชื้อในการชักนำวิญญาณเด็กมาสถิตในรูปนั้น  .... ถามว่าแล้วแบบนี้ มันคือการที่เรากักขังวิญญานเด็กพวกนั้นไว้ในหุ่นกุมารทอง ใช่หรือไม่ ?


แล้วก็จะต้องมีคนแย้งมาอีกว่า ... อ่าวเราก็เลือกเทวดาเด็ก  หรือวิญญาณที่ดีเข้ามาซิ แค่นี้ก็ใช้ได้  ... ถ้างั้นเราก็ขอถามกลับว่า เทวดา ในความหมายของคุณคืออะไร ?  เทพใช่มั้ย ??  ถ้าใช่คุณไม่มีทางทำได้  เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นเทพ ไม่สิงสถิตในเทวรูป  ท่านมีที่อยู่ของท่าน และท่านใช้เทวรูปเป็นสื่อในการถ่ายทอดเทวานุภาพ มาคุ้มครองคุณเท่านั้น

.... งั้นก็เอาวิญญาณเด็กที่ดีๆ มาประจุใสไปไง  ... อืมๆ ข้อนี้ได้อยู่  แต่มันก็ไม่ต่างอะไรกับการกักขังวิญญานเด็กๆเหล่านี้ไว้  ไม่ให้ไปเกิดมิใช่หรือ ??  ยังไงก็บาปอยู่ดีใช่มั้ย ?


เลี้ยงกุมารแล้วเทพเจ้าหนี ไม่มาประทานพร มันดูไร้สาระจริงๆแหละครับ  .... เพราะต้องใช้คำว่า "ท่านจะละทิ้งคุณไปเลย "  น่าจะเหมาะกว่า  เพราะว่าอะไร ?  เทพเจ้าท่านทรงรังเกียจอวิชาชั้นต่ำ และความชั่วร้ายทั้งหมด  คุณกักขังวิญญานเด็กไว้ในหุ่นกุมารทอง  ขัดขวางพวกเค้าไม่ได้ไปเกิดตามแต่บุญกรรมที่เค้าได้ทำมา  อันนี้เป็นบาปใช่มั้ย ?  แล้วยิ่งคุณใช้กุมารทองพวกนี้ไปทำร้ายคนอื่นด้วยแล้วล่ะก็  คงไม่ต้องถามนะครับว่ามันบาปมั้ย


แล้วที่เราบอกว่า  เทพเจ้านาจา  เป็นกุมารเทพนั้น เป็นการยกตัวอย่างว่า  ต่อให้เทพเจ้าที่มีรูปลักษณ์เป็นกุมารหรือเด็ก แต่ท่านก็เป็นชั้นเทพ   ถึงยังไงคุณก็ต้องบูชาท่านตามแบบธรรมเนียมปฏิบัติแบบเทพเจ้า  ไม่ใช่แบบกุมารทอง  ไม่ได้หมายความว่า เทพเจ้าที่มีเทวลักษณะเป็นกุมารมีแค่เทพนาจาเท่านั้น

..แต่คำว่า กุมารเทพ  ในความเข้าใจของคนไทย น่าหมายความว่า  กุมารทองนี่แหละ แต่มี 2 แบบ คือ กุมารทองชั้นเทพ  ซึ่งมีคนอ้างว่าเป็นไสยขาว  และกุมารทอง ชั้นธรรมดา ซึ่งปลุกเสกด้วยไสยดำ ใช่หรือไม่ ?  ถ้าใช่ก็ไม่แตกต่างกัน  เพราะการบูชาก็เป็นแบบผีมากกว่า คือเลี้ยงดูให้เหมือนเด็กๆ  มีของเล่น  มีนม  มีขนม  มีน้ำแดง  ตั้งชื่อให้เค้า  ใช่หรือไม่ ?


ส่วนที่มีคนบอกว่า กุมารคเณศ  กุมารกฤษณะ  เท่าที่เราทราบ  นั่นเป็นความนิยมของคนฮินดูที่ยกย่องเทพเจ้าของเค้าเป็นฮีโร่  ก็เลยมีการสร้างเทพเจ้าในรูปลักษณ์ของเด็กออกมา  แต่พวกเค้าก็ไม่ได้บูชาเทพเจ้าตัวน้อยๆนั้นในฐานะเทวรูปเลย (?) .... ข้อนี่เราทราบมาแบบนี้จริงๆ ถ้าผิดพลาดรบกวนผู้รู้ชี้แจง 


....เรานำมาแบ่งปัน  ไม่ได้บอกว่าที่เราที่พิมพ์มาซะเยอะแยะเนี่ย ถูกต้องทุกอย่างนะครับ  คุณไม่ต้องเชื่อก็ได้เพราะเราไม่ได้บังคับว่าใครต้องเลี้ยงกุมาร  ใครต้องบูชาเทพองค์ไหน  ทุกอย่างมันเป็นการตัดสินใจเลือกของคุณเอง  บวกกับกรรมกับวาสนาของคุณ  แต่เราแค่อยากให้เป็นข้อมูล เอาไว้ให้หลายๆคนได้ใช้พิจารณาจากหลายๆมุม ก่อนจะเชื่อตามๆกัน ...



สรุปง่ายๆ  เพื่อให้ตรงประเด็นกับคำถามของเจ้าของกระทู้  ก็คือ

...ถ้าคุุณมีแท่นบูชาเทพเจ้า  หรือพระพุทธรูป คุณก็ไม่ควรนำกุมารทองของคุณไปตั้งรวมกับเทพเจ้า  ต้องแยกไปตั้งต่างหากเพราะกุมารทองเป็นผี ... และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรอยู่ในบริเวณของแท่นบูชานั้นด้วยจะดีกว่า ...





เรียนทุกท่านนะครับ       กุมารเทพในที่นี้  กระผมไม่ได้หมายถึงกุมารทองแม้แต่อย่างใดเลย

เทพก็จะอยู่ส่วนเทพ   ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ  ผีหรือสัมเวสี เลยยย

ดังนั้นที่กระผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา  เพื่อจะถามเกี่ยวกับ  กุมารเทพ   ซึ่งไม่ใช่กุมารทองเลยครับบบ

ซึ่งในกระทู้หลัก กระผมถามว่า เค้าไม่ให้ตั้งกุมารเทพ  รวมกับพระหรอ  แค่นี้ครับบ  ซึ่งไม่เกี่ยวกับกุมารทองเลยครับ

เพรราะมีคนบอกว่า  เค้าไม่ให้ตั้งกุมารเทพรวมกับองค์เทพ  ซึ่งกระผมไม่เข้าใจเลยครับบ   
OhM..!!..GaNesH BoYZaa..[HIGHLIGHT=#ffffff][/HIGHLIGHT]

กุมารเทพ ถ้าหมายถึงอย่างพระมูรูกัน(ขันธกุมาร) หรือพระศรีเณศ อันนี้ตัวรวมได้ค่ะ แต่ต้องอยู่ต่ำกว่า  



(นอกเรื่องนิดๆ)

หนูเองมีเทวรูปพระมูรูกันอยู่ สูงแค่ประมาณ5เซนติเมตรเอง ตอนนี้กำลังหาองค์ใหม่ หนูก็บูชาเหมือนกับท่านเป็นน้องชายเลย วันไหนว่างก็จะอัญเชิญมาสรงน้ำ เอาสร้อยสวยๆใส่ให้ วันไหนว่างมาก เอาไปนั่งคุยพูดชมนู่นชมนี่(0*0) ตอนกลางคือเหงาหรือกลัว เอามานอนกอดเลย
(0-0)



ป.ล หนูทำเกินไปไหมคะ

January 11, 2011, 21:30:59 #24 Last Edit: January 11, 2011, 21:34:02 by บุตรมาเตศวรีศรีมหาอุมาเทวี
ท่านเจ้าของกระทู้ครับ  คือผม งง งง  งง  งง  งง  งองูหลายตัวเลย
คือผมอยากทราบความหมายก่อนว่า  กุมารเทพ  ของท่านเจ้าของกระทู้หมายถึงแบบไหนครับ

1  แบบเกล้าผมจุก  นุ่งชุดไทย
2  แบะที่เค้าว่ากัน  คือพระคเณศแบบเด็ก(บาลคเณศ)  หรือแบบพระขันทกุมารครับ

คือสับสนในความหมายที่ท่านถามมา  เพราะ  เท่าที่รู้กุมารเทพที่รู้จักก็มักจะเป็นแบบเกล้าผมจุก  ใส่ชุดไทย  ถือถุงเงินบ้าง  ยืนกวักบ้าง
ถือจักร  ถือตรี  ถือธนู และฯลฯ  อีกมากมาย  อันนี้ผมเคยสอบถามมา  เค้าบอกว่าเป็นกุมารเทพ  ได้มาจากหลวงพ่อวัดนั้น  หลวงพี่วัดนี้
ท่านให้มาบอกเป็นกุมารเทพที่บำเพ็ญเพียรจนได้เป็นเทพ  ประมาณนี้   ก็เลยไปถามพระที่รู้จักมาท่านบอกว่ากุมารก็คือผีชนิดหนึ่ง 
โดยเอาวิญญาณของเด็กที่ตายเรียกมาเข้าหุ่นแบบต่างๆเพื่อให้เอาไว้ใช้งาน  ส่วนเทพไหมท่านไม่รู้เพราะเห็นตามท้องตลาดตอนนี้
กำลังนิยมกุมารเทพกันมาก  เห็นเค้าทำกัน  ใช้วิธีเดียวกัน  แต่บอกเป็นกุมารเทพ  ท่านว่าได้ราคาดีกว่าเยอะ  แต่ท่านไท่ได้ทำ  ตามนี้ครับผม


น้อง มาตาศรี มารีอัมมัน จ๋า  อันนี้พี่ว่าออกจาเยอะไปอ่ะ  เพราะว่าถ้าถึงขั้นเอามาอาบน้ำ  มานอนกอดนี่ไม่ควรจ๊ะ
เพราะพระท่านคือพระผู้เป็นเจ้า  น่าจะเอาไว้ใาสถานที่อันสมควร ก็คือ  บนโต๊ะหรือหิ้งบูชาจ้า 
เอาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจกะพอนะ  ยึดท่านไว้ให้แน่นๆนะ  เดี๋ยวจะคลอนแคลนไปทางอื่น  อิ อิ
เวลาหนูกลัวก็ให้ภาวนานามของพระองค์จะรู้สึกได้เลยจ๊ะว่าเราปลอดภัย  เพราะ  พระเป็นเจ้าท่านคุ้มครอง
แต่หนูไม่ต้องเลี้ยงท่านด้วยน้ำเขียวน้ำแดงหรือทองหยิบทองหยอดนะ  ท่านคงไม่ชอบ  อิ อิ(ล้อเล่นนะ อิ อิ)
ปล.เรื่องซื้อผ้าแต่งองค์ว่าไงจ๊ะ  เดี๋ยวพี่พาไปกะได้  พี่อยู่แถวๆบางแคอ่ะ  มะไกลนครปฐมเท่าไรอ่ะ  คนบ้านเดียวกัน 555+
 

พฤษภกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง
   โททนต์เสน่คงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์   สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์      มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด   ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

January 11, 2011, 21:44:32 #25 Last Edit: January 11, 2011, 23:43:45 by บุตรมาเตศวรีศรีมหาอุมาเทวี
เอามาให้อ่าแก้เหงาครับ  เป็นวัตถุประสงค์ของท่านผู้จัดทำเว็ปบอร์ด  ที่ยอมเสียสละเวลาส่วนตน
เพื่อคนส่วนรวมครับ  ขอกราบขอบพระคุณไว้ ณ โอกาสนี้ครับ

วัตถุประสงค์


      เนื่องด้วยผม  เป็นบุคคลหนึ่ง ซึ่งเมื่อแรกเริ่มรู้จักเทพทั้งหลายทางศาสนาฮินดูและหลักธรรมต่างๆ      
สิ่งแรกที่ผมนึกถึง คือ ผมจะรู้เรื่องราวตำนานต่างๆ ของทุกๆ พระองค์ได้อย่างไร ?  สิ่งแรกที่คิดถึงคือเว็บไซต์ใน "Internet"
และเมื่อผมได้ทราบและได้รู้เบื้องต้นหรือพื้นฐานแล้วผมพยายามแสวงหาความรู้ต่างๆ ให้พอกพูนขึ้นโดยการใช้ "Internet"
เช่นกัน

      
ผมจึงมีความคิดว่าผมอยากจะใช้โลกไซเบอร์นี่แหละครับ เป็นที่ถ่ายทอด   พูดคุยความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆทางศาสนา      
โดยที่นี่จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ เป็นบันไดขั้นแรก ที่นำเพื่อนๆ  ทุกคนเข้าสู่โลกทางศาสนาฮินดูครับ
ผมไม่ได้ต้องการให้ทุกคน เป็นผู้เชี่ยวชาญทางศาสนา แต่ขอมีส่วนร่วมเป็นบันไดขั้นแรกในหลายๆ       ขั้นที่ทุกคนต้องการเดินไปเสาะแสวงหาโลกที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต
   


[HIGHLIGHT=#ffff00]ขอพรแห่งพระผู้เป็นเจ้าทรงคุ้มครองครับ[/HIGHLIGHT]  ขอบพระคุณครับ
 

พฤษภกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง
   โททนต์เสน่คงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์   สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์      มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด   ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

January 11, 2011, 22:35:06 #26 Last Edit: January 11, 2011, 22:37:36 by มาตาศรี มารีอัมมัน
น้อง มาตาศรี มารีอัมมัน จ๋า  อันนี้พี่ว่าออกจาเยอะไปอ่ะ  เพราะว่าถ้าถึงขั้นเอามาอาบน้ำ  มานอนกอดนี่ไม่ควรจ๊ะ
เพราะพระท่านคือพระผู้เป็นเจ้า  น่าจะเอาไว้สถานที่อันสมควร ก็คือ  บนโต๊ะหรือหิ้งบูชาจ้า 
เอาไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจกะพอนะ  ยึดท่านไว้ให้แน่นๆนะ  เดี๋ยวจะคลอนแคลนไปทางอื่น  อิ อิ
เวลาหนูกลัวก็ให้ภาวนานามของพระองค์จะรู้สึกได้เลยจ๊ะว่าเราปลอดภัย  เพราะ  พระเป็นเจ้าท่านคุ้มครอง
แต่หนูไม่ต้องเลี้ยงท่านด้วยน้ำเขียวน้ำแดงหรือทองหยิบทองหยอดนะ  ท่านคงไม่ชอบ  อิ อิ(ล้อเล่นนะ อิ อิ)
ปล.เรื่องซื้อผ้าแต่งองค์ว่าไงจ๊ะ  เดี๋ยวพี่พาไปกะได้  พี่อยู่แถวๆบางแคอ่ะ  มะไกลนครปฐมเท่าไรอ่ะ  คนบ้านเดียวกัน 555+

............................................**+++***..........................................................

อาบน้ำนี่ประจำ อีกอย่าง ไม่กอดได้ไงน่ารักขนาดนั้น (ล้อเล่น)
น้ำแดงน้ำเขียวทองหยิบทองหยอดไม่มีอยู่แล้วแน่นอน มีแค่ผลไม้กับพวงมาลัย

ป.ล.แล้วแต่นะคะเพราะหนูว่างจนถึงเปิดภาคเรียนใหม่ ไปตอนไหนส่งเมลหรือข้อความมาละกันนะคะ(แต่ข้อความจะดีกว่า)


Quote from: ohm on January 11, 2011, 18:08:14
เรียนทุกท่านนะครับ       กุมารเทพในที่นี้  กระผมไม่ได้หมายถึงกุมารทองแม้แต่อย่างใดเลย

เทพก็จะอยู่ส่วนเทพ   ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ  ผีหรือสัมเวสี เลยยย

ดังนั้นที่กระผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา  เพื่อจะถามเกี่ยวกับ  กุมารเทพ   ซึ่งไม่ใช่กุมารทองเลยครับบบ

ซึ่งในกระทู้หลัก กระผมถามว่า เค้าไม่ให้ตั้งกุมารเทพ  รวมกับพระหรอ  แค่นี้ครับบ  ซึ่งไม่เกี่ยวกับกุมารทองเลยครับ

เพรราะมีคนบอกว่า  เค้าไม่ให้ตั้งกุมารเทพรวมกับกุมารทอง  ซึ่งกระผมไม่เข้าใจเลยครับบ 

งงกับเจ้าของกระดูทู้ครับ  หมายถึง กุมารที่สายเทพ สายพรายหรือป่าวอ่ะ
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้



แล้วกุมารแบบนี้ จัดอยู่ในประเภทไหนครับ 
บ้านผมมีอยู่องค์ นั้งบนสังข์  แต่มี 4 กรอ่ะคับ ถืออาวุธครบเลย
เลยอยากรูปว่าอยู่ในกลุ่มไหน


ผมแวะเข้ามา ไม่ได้มาตอบครับ

แต่ขอถามนอกเรื่องหน่อยว่า...

"ศิวลึงก์ กับ ปลัดขิก"

ตั้งด้วยกันได้ไหม ?

และมีใครมองว่า ศิวลึงก์ กับ ปลัดขิก เป็นอันเดียวกันบ้าง ?

และใครที่มองว่า มันไม่เหมือนกันแล้ว ?

ผมมีอันเบ้อเร่อเลยครับ ^^
หากศาสนิกชนฮินดูปฏิบัติการบูชาเทพอย่างถูกประเพณี เดินบนทางที่ถูกที่ควร
ไม่หลงมัวเมาไปกับอวิชชาทั้งหลาย
ศาสนาพราหมณ์และมหาเทพอันเป็นที่รักยิ่งของเราคงมีภาพลักษณ์ที่ดีกว่านี้

ขอชัยชนะจงมีแด่พระเป็นเจ้า
...กราบแทบพระบาทรูปดอกบัวแห่งพระองค์...สยามคเณศ
พิทักษ์ - สยามคเณศ

ผมว่าน่าจะอันเดียวกันครับผมเคยฟังมาจากคนเล่นพระมากลุ่มหนึ่งที่เค้าเล่น ปลัดขิก หลวงพ่ออี๋ กันเค้าบอกว่า ปลัดขิกกับศิวลึงค์ เหมือนกันแต่ปลัดขิกเข้ามาตามหราหม์ของทาาง ขอม  ยังไงรอคนมาอธิบายอีกทีนะครับ


ผมหมายถึงกุมารทางสายเทพครับ  ไม่ใช่กุมารทองง

และเป็นกุมารที่บำเพ็ญเพียรจนมีบารมี ...
OhM..!!..GaNesH BoYZaa..[HIGHLIGHT=#ffffff][/HIGHLIGHT]

Quote from: ฟู_Alone(O.o) on January 12, 2011, 13:57:51


แล้วกุมารแบบนี้ จัดอยู่ในประเภทไหนครับ 
บ้านผมมีอยู่องค์ นั้งบนสังข์  แต่มี 4 กรอ่ะคับ ถืออาวุธครบเลย
เลยอยากรูปว่าอยู่ในกลุ่มไหน


พวกกลุ่มแปดกรสี่กรนั้นผมว่า กลุ่ม ศิลปะมากกว่านะ เพราะกุมารทองจริงๆไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ   มันแค่ทำให้คนตาม.....ซื้อไปประดับตกแต่งให้ดูขลังเท่านั้นหล่ะ  ส่วนพวกกุมารเซลิก้าธรรมดา จัดในกลุ่มกุมารที่ไม่ใช่เทพและพราย คือ ผีเด็กธรรมดาล่ะครับ ทำไมถึงจัดว่าเป็นแบบนั้น เพราะกุมารพวกนี้แค่เจิมเรียกจิตมาสิงสู่เพียงอย่างเดี่ยว ไม่ได้ผ่านพิธีกรรมตามต้นฉบับของกุมารทอง เช่นการใส่มวลสาร การปลุกเสกตั้งธาตุทั้ง4 การปลุกเสกเรียกอาการทั้ง32 และมนต์ตราอื่นๆอีก ง่ายๆกุมารที่เข้าพิธีปลุกเสกจริงเหมือนกับเขาเกิดขึ้นมาใหม่ มีฤทธิ์เดชอำนาจบารมี มีศีลมีธรรมอยู่ในศีลในธรรม ส่วนกุมารที่เป็นพวกเซลิก้าธรรมดาที่ให้ตาม...เปิดเนตรเรียกจิตมาสิงสู่แทบไม่มีพลังอะไรเลยถึงมีแต่อ่อนมาก ส่วนสายพรายอาจจะแตกต่างกับสายเทพนิดหน่อย จะแรงกว่าทางด้านการแสดงอธิฤทธิ์เดชอำนาจไม่ค่อยเงียบสงบและก้าวร้าวกว่า(แต่ก็ชอบ)แต่ก็ยังอยู่ในศีลในธรรมอยู่ถ้าผู้เลี้ยงปฏิบัติดีเลี้ยงดี คือ ห้ามให้กุมารทำสิ่งที่ผิดนั้นเอง สายเทพแทบจะไม่ทำเลยแต่ถ้าจำเป็นจริงๆจะทำ สายพรายยังไงก็ได้แต่อย่ามากไป หมั่นทำบุญให้เขาด้วยก็ดี

จะเทพจะพราย จะกึ่งเทพกึ่งพราย จะพรายขาวพรายดำ จะกุมารเรียกจิตเซลิก้า  เขาก็มีจิตใจแบบคนแบบเด็กๆทั่วไปครับ
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

 
Quote from: ohm on January 12, 2011, 20:40:51
ผมหมายถึงกุมารทางสายเทพครับ  ไม่ใช่กุมารทองง

และเป็นกุมารที่บำเพ็ญเพียรจนมีบารมี ...

... เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า  กุมารเทพ  ที่คุณเจ้าของกระทู้พยายามจะสื่อคืออะไร ????

กุมารทางสายเทพ  และกุมารที่บำเพ็ญจนมีบารมี  ???? ..... อันนี้ยิ่ง งง  เข้าไปอีก  ..... ตอนนี้เราเดาว่า คำว่า กุมารเทพ ของคุณ อาจจะไม่เหมือนที่เรา และพี่น้องชาว HM รู้จัก  หรืออาจจะเป็นการเข้าใจผิดเกี่ยวกับที่มา?  หรือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือกัน เป็นการเฉพาะในท้องถิ่น ?

ถ้าคุณมีรูปภาพมา  เราอาจจะเข้าใจตรงกันนะครับ ....

งงเหมือนกันนะคะนี่ สรุปกุมารเทพ หมายถึงอะไรกันแน่

เอ่อ...ที่บอกว่า  บำเพ็ญเพียรจนมีบารมีนี่คือบำเพ็ญเพียรจนได้เป็นเทพ  ประมาณนี้เปล่าครับ
และตอนที่บำเพ็ญอยู่นี่เค้าเป็นไรมาก่อนอ่ะครับก่อนจะได้มาเป็นเทพอย่างที่บอกอ่ะครับ
คือเป็นผี  เป็นพราย  หรืออะไรอ่ะครับ  งง  หรือแบบที่บอกกันว่าเป็นเทพเด็ก  หรือมหาเทพมาจุติเป็นกุมาร  ประมาณนี้ป่ะครับ
 

พฤษภกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง
   โททนต์เสน่คงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์   สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์      มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด   ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

ผมก็ไม่แน่ใจนักสำหรับคำว่ากุมารเทพของท่านเจ้าของกระทู้นะครับ

อย่างแรก เราคงต้องแบ่งกันครับ อย่างภาคบ้านเรายังแบ่งเป็นเหนือ กลาง ใต้ อีสาน แต่ละภาคก็พูดจาด้วยสำเนียงต่างกัน วัฒนธรรมทั้งหลายก็แตกต่างกัน นับประสาอะไรกับเรื่องของศาสนาและสิ่งที่นับถือจะไม่แตกต่างกันล่ะครับ

อย่างอินเดียก็เหมือนกัน เทพเจ้าบางพระองค์ปรากฎในอินเดียใต้แต่ไม่ปรากฎในอินเดียเหนือ

แล้วบางสิ่งบางอย่างที่ปรากฎในประเทศไทย อาจจะไม่ปรากฎในอินเดียก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือ

กุมารทอง กุมารพราย กุมารเทพ หรืออะไรทั้งหลายแหล่ ผมเชื่อว่าไม่มีปรากฎอยู่ในศาสนาใดๆ ทั้งสิ้นครับ แต่กุมารทั้งหลายนี้ (ผมไม่ได้หมายรวมกุมารเคนช หรือ พระกฤษณะวัยเด็กนะครับ) เกิดจากความเชื่อ เชื่อต่อๆ กันมาว่ามีอยู่จริง สามารถเลี้ยงเพื่อให้เกิดอิทธิฤทธิ์ทั้งหลายทั้งปวงได้

ดังนั้นคงไม่ต้องถกเถียงกันว่าวางได้หรือไม่ได้ดีกว่าครับ เพราะเรายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ากุมารนั้นเป็นของในศาสนาใด

ใครใคร่บูชาอันใด ก็บูชาเถิด ตามความเชื่อของแต่ละบุคคลครับ สำหรับตัวผมเอง ผมก็บูชากุมารเหมือนกันครับ ไม่ได้บูชาเพื่อเอาไปทำร้ายใคร แต่ผมบูชามานาน เรียกได้ว่าผูกพันซะมากกว่า แต่เวลาสักการะบูชาเทพเจ้ามาก่อนเสมอ เอาเป็นว่าแยกเรื่องการบูชาครับ ไม่เอามาปะปนกันใดๆ ทั้งสิ้น เพราะผมเชื่อว่า พระพุทธองค์ ประเป็นเจ้า สูงกว่ากุมารน้อยๆ ของผมเสมอครับ

ความเห็นส่วนตัว
ผมไม่เคยคิดว่าบูชากุมารแล้วต้องตั้งสูงกว่าเทพ หรือ เทียบเท่า
ผมไม่เคยคิดว่ากุมารอยู่สายเดียวกับเทพเจ้า
ผมไม่เคยคิดว่าต้องบูชากุมารพร้อมกับเทพเจ้า
ผมไม่เคยคิดว่า ถ้าบูชากุมารแล้วเทพเจ้าจะไม่รักผม เพราะผมเชื่อว่าผมบูชาพระองค์ ผมรักพระองค์ พระองค์ต้องรู้ และประทานพรที่ดีงามกับผมเสมอ

โชว์ตัวลูกชายนิดนึง ภาพนี้ไม่ได้ให้เทียบเท่าพระชีวกโกมารภัจจน์นะครับ เพียงแต่ยกลงมาเพื่อเปลี่ยนหิ้งพระใหม่ครับ (สององค์นี้บูชามาห้าปีกว่าแล้วครับ)



อย่าลืมนะครับ แยกคติทางศาสนาให้ออก อย่าเอามาตีและปะปนกันครับ ฝากไว้แค่นี้ครับ


อ่านข้อความของคุณกาลิทัสแล้วถูกใจมากครับแบบว่าโดนเลยครับ

ถ้ามีลิงค์ให้กด ถูกใจ เหมือนเฟลสบุ็คจะกดหลายๆๆรอบเลยนะครับ

^_^
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม


ผมเอง ก็ไม่ใช่ฮินดูชนครับ
แต่ผมเป็นคนที่ "รักในพระเจ้า"
ผมมีพระคเณศ พระมหาเทพทั้งสามองค์ พระมหาเทวีทั้งสามองค์ พระกฤษณะ พระราม
และก็มีพระพุทธรูป..
ตลอดจนผมก็ศรัทธาในพระเยซูคริสต์เจ้า
มีโปสเตอร์ไม้กางเขนและรูปภาพเหตุการณ์ในไบเบิลหลายแผ่น
และมีโปสเตอร์พระนามแห่งพระอัลเลาะห์ของศาสนาอิสลามไว้ด้วย แน่นอน ผมมีอัลกุลอานด้วยครับ
และผมก็ศึกษาในสายวิชาของ คุรุนานัก อันเป็นศาสนาแห่งสันติภาพด้วย
ทางสายมหายาน ผมก็ศึกษาทางพระโพธิ์สัตว์ พระแม่กวนอิมนี่ เป็นองค์แรกที่ผมสนใจการไหว้เจ้าเลยครับ

ทั้งหมดนี้ ผมมีอยู่ในห้องพระเดียวกัน แต่แยกแท่นกันเป็นเอกเทศ ไม่ปะปนกัน

ผมจึงมีความคิดเห็นว่า เราศรัทธาอะไร ก็ไหว้ได้ทั้งหมด ไม่มีข้อห้ามอะไร
อยู่ที่ว่า เราปฏิบัติการบูชาได้ขนาดไหน ใส่ใจต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างเต็มที่หรือเปล่า

กุมารทอง ความจริงแล้ว ใครก็สามารถจัดหาบูชาได้ ตามความชอบ ความศรัทธา
เช่นเดียวกับนางกวัก หรือรูปปั้นของเจ้าอื่นๆ ที่มีดวงวิญญาณสถิตอยู่
และทั้งหลายทั้งปวงนั้น ก็ควรแยกแท่นบูชาจากกัน (ถ้าไม่สุดวิสัยจริงๆ)

ที่แนะนำให้แยกกัน เพราะการถวายเครื่องสักการะสังเวยบูชา
ผู้บูชาจะได้จัดให้ถูกต้องตามประเพณีของแต่ละศาสนา
การบูชากุมารทองก็เช่นกัน ผมแนะนำให้แยกออกมาต่างหาก ให้เป็นที่ของเค้า

กุมารทอง ในความหมายที่เป็น รูปปั้นเด็ก ผมจุก แกละ แบบไทยๆ
ที่มีการปลุกเสกให้วิญญาณเด็กสถิตอยู่ภายในรูปนั้น
ไม่จัดเป็นพระเจ้า ไม่จัดเป็นศาสดา

(แต่ถ้าจะมีใครในอนาคต ดันเขียนตำรา ยกกุมารทองให้เป็นพระเจ้าขึ้นมา ก็ค่อยว่ากันอีกที)
ฉะนั้น ไม่ควรจัดวางไว้ระดับเดียวกับองค์เทวะ

กุมารทองถามว่าบูชาแล้วดีไหม ก็ขอตอบว่า ให้ผลดีสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง และไม่ดีสำหรับคนอีกกลุ่มหนึ่ง
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความศรัทธา ความสมัครใจ
ไม่มีใครสามารถบังคับได้

ถ้าเลี่ยงไม่ได้ หากต้องการจัดให้อยู่ในบริเวณเดียวกัน
ก็ควรลดต่ำลงมาให้มากที่สุด ไม่บังองค์เทพและเหล่าฤาษีหรือพระเกจิต่างๆ

แต่สำหรับ "เทพที่อยู่ในรูปของกุมาร" (องค์กฤษณะ พาลคเณศ ฯลฯ)
ถือว่าเป็นเทวะ เป็นมหาเทวะ เป็นเทพเจ้า เป็นพระเจ้า
จะประดิษฐานบนแท่นบูชาให้สูงเท่าไหร่ก็ตามใจผู้บูชาได้เลยครับ

สรุปแล้ว มีแค่ 2 คำตอบนี้เท่านั้นเองครับ
- กุมารทอง ไม่ควรวางระดับเดียวกับเทพ เพราะไม่ใช่พระเจ้า
- เทพฮินดูที่อยู่ในรูปกุมาร ถือเป็นพระเจ้า ตั้งไว้สูงรวมกับเทวรูปอื่นๆ ได้

อยู่ที่ว่า กุมารที่คุณมีอยู่ คือกุมารแบบไหน

หากศาสนิกชนฮินดูปฏิบัติการบูชาเทพอย่างถูกประเพณี เดินบนทางที่ถูกที่ควร
ไม่หลงมัวเมาไปกับอวิชชาทั้งหลาย
ศาสนาพราหมณ์และมหาเทพอันเป็นที่รักยิ่งของเราคงมีภาพลักษณ์ที่ดีกว่านี้

ขอชัยชนะจงมีแด่พระเป็นเจ้า
...กราบแทบพระบาทรูปดอกบัวแห่งพระองค์...สยามคเณศ
พิทักษ์ - สยามคเณศ