Loader

ยันต์นี้คืออะไร

Started by mahavate, December 01, 2009, 12:10:30

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

December 01, 2009, 12:10:30 Last Edit: December 01, 2009, 12:13:17 by mahavate
สวัสดีครับ

วันนี้รบกวนสอบถาม พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกท่านนะครับ

ว่ายันต์องค์พระแม่กาลี ยันต์นี้มีเทวคุณทางด้านไหน

แล้วก็รายละเอียดต่าง ๆ ภายในยันต์มีความหมายอย่างไร นะครับ


ท่านใดพอทราบผมรบกวนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ


ปล. ถ้าจะเอาไปอัดเป็นรูปเล็กห้อยคอ กับรูปองค์พ่อศิวะ ปางนาฏราชนะครับ จะผิดหลักหรือป่าวครับ


http://www.upchill.com/image.php?id=e0394d722846e37374e661c534cf8872

รูปยันต์องค์แม่กาลี

http://www.upchill.com/image.php?id=3bd39e0eebcee47137bcbc1500d5b467

รูปองค์พ่อศิวะนาฏราช

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะคะ
เท่าที่เห็นรูปยันต์ตระที่คุณmahavateนำมาโพสนั้น ในความคิดของแป้ง น่าจะเป็นยันต์ที่เขียนหรือทำขึ้นมาใหม่ค่ะ
เพราะดูที่ตัวอักษรด้านมุมแล้วมันกลับหัว และดูหัวกะโหลกด้านนอกเหมือนเอามาใส่เพิ่ม อืมมมมม นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
แต่ยันตระที่ถุงแป้งมีของพระแม่กาลี ก็มีอยู่ 2 รูปค่ะค่ะ
kaali-yantra

black-kali-yantra

   มีคนให้ความคิดเห็นเกี่ยวกบเรื่องนี้มาว่า ต้องไปดูหนังเรื่อง เดอะ ดาวินชี โค้ด (The Davinci Code) หรือตำนานโฮลี่เกล(รูปจอกหรือความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องจอกศักสิทธิ์)
ลองสังเกตดูนะคะว่าสัญาลักษณ์ของพระแม่นั้นก็เหมือนโฮลี่เกล ที่เปรียบเสมือนสัญญาลักษณ์ของเพศ ญ นั้นเอง
ส่วนยันตระของพระศิวะนั้นจะเป็นรูป3เหลี่ยมแบบนี้ค่ะ

ถ้าใครพอให้ความรู้เพิ่มเพิมหรือมีผู้รู้ก็ช่วยตอบด้วยนะคะ ^^
[HIGHLIGHT=#c00000][HIGHLIGHT=#ffffff]โอม ศรี มหาลักษมี เจ นะมะฮา [/HIGHLIGHT]
[/HIGHLIGHT]

December 29, 2009, 07:53:05 #2 Last Edit: December 29, 2009, 07:56:43 by กาลปุตรา
ยันต์ที่คุณถุงแป้งนำมาให้ดู นั่นชื่อว่า "ศรี มหากาลี ยันตระ" อันประกอบด้วย มณฑล 8 ทิศ อันแสดงถึงผังจักรวาลทั้งมวล และสวัสติกะที่เวียนซ้ายกับเวียนขวามาซ้อนกัน, จักระ (กลีบบัว) 8 กลีบ อันแสดงถึงผังสุริยจักรวาล และทิศของโลก

วงกลมในกลีบบัวนั้นแสดงถึงโลก ส่วนสามเหลี่ยมกลับหัวนั้นตามคัมภีร์ยันต์ศาสตร์ถือว่าเป็นสามเหลี่ยมแห่งศักติ หรือ เพศหญิง ซึ่งในยันต์ที่คุณนำมาแสดงนี้มีสามเหลี่ยมซ้อนกันถึง 5 ตรีโกณ อันสื่อถึงพลังเพศแม่ของ พระปารวตี, พระทุรคา, พระกาลี, พระลักษมี และ พระสรัสวตี หรือ พระปารวตี, พระลักษมี, พระสรัสวตี, พระคงคา และพระปฤถวี (พระธรณี)

รูปภาพที่นำมาใส่ใน ในคัมภีร์ยันต์ศาสตร์ฮินดู จะเรียกว่า "ประติมา" อันเป็นรูปแบบที่นำมาเสริมที่หลัง และมีการใส่มนต์ลงไปด้วย ซึ่งเรียกว่า "อักขระ หรือ อักษร" โดยมนต์กำกับยันต์นี้อ่านว่า "โอมฺ ครีมฺ มะฮา-คาลไย นะมะฮ" นั่นเองครับ

ส่วนอีกรูป จะเป็นสามเหลี่ยมที่ตั้งหัว อันหมายถึง พลังแห่ง ศิวะ หรือ เพศชาย นั่นเอง

อยากทราบเรื่องของยันต์ฮินดูมากกว่านี้ ให้รอหน่อยเพราะผมได้เขียนเป็นหนังสือเสร็จเรียบร้อย และส่งต้นฉบับไปแล้ว คาดว่าจะออกวางตลาดในช่วงเดือนมกราคม 2553 ที่จะถึงนี้ พร้อมกับแถมยัน "ศรี ศักติ วิทูระ ยันตร์" อันเป็นยันต์ที่รวบรวมเทพเจ้าไว้ในยันถึง 28 พระองค์ เท่ากับจำนวนนักษัตรบนทั้งฟ้าทั้ง 28 นักษัตรตามคัมภีร์พระเวท

จะเป็นยันต์ที่คุ้มครองครอบจักรวาลเลยทีเดียว ในหนังสือเล่มนี้ก็จะรวบรวมและอธิบายวิธีสร้างยันต์ของชาวฮินดูไว้ทั้งหมด ว่าเขาใช้อะไรบ้าง แต่ละอย่างมีความหมายเช่นไร มีที่มาจากอะไรในคัมภีร์พระเวท เพื่อให้นำไปใช้วิเคราะห์ยันต์ในรูปแบบต่างๆ ของชาวฮินดูได้ หรือ คุณอาจจะสามารถนำไปสร้างยันต์เฉพาะตัวของคุณเองก็ได้ถ้าคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว

ตอนนี้หนังสือเกี่ยวกับยันต์ศาสตร์ฮินดูนี้ กำลังใกล้จะเสร็จสมบูรณ์พร้อมออกวางจำหน่ายแล้ว ขาดแต่เพียงรอยันต์ศรีศักติวิทูร ที่กำลังนำไปสกรีนลงบนผืนผ้า เพื่อจะแถมเป็นที่ระลึก และการนำยันต์นั้นไปปลุกเสกเท่านั้นเอง เสร็จสมบูรณ์เมื่อไรก็จะออกวางตลาดในทันทีครับ

ปล. รูปยันต์ที่ออกมาจะใช้อักษรเทวนาครีลงบนยันต์นะครับ นี่เป็นเพียงรูปตัวอย่างแบบอักษรไทยเท่านั้น
[HIGHLIGHT=#ffff00]
[HIGHLIGHT=#ffff00]อันจิตมนุษย์นั้นชอบวิ่งออกไปแสวงหาพระเจ้าจากวัตถุภายนอก[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]จนลืมย้อนมองดูพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง อันสถิตอยู่ในใจเรา[/HIGHLIGHT]
[/COLOR][/HIGHLIGHT][/FONT]

ท้าวกุเวร ประจำทิศเหนือมะใช่หรอครับ
ส่วนพระอินทร์ ประจำทิศตะวันออก
ทิศใต้ คือพระยม
ทิศตะวันตก คือพระวรุณ

ส่วนพระอีศาน คือพระศิวะครับ

คุรุ คือ พระพฤหัสบดี
มังคละ คือ พระอังคาร

ชาวฮินดูถือว่า ด้านบนของยันต์ และ วัสดุศาสตร์นั้น คือ ทิศตะวันออกครับ ดังจะเห็นได้จากตำราวัสดุศาสตร์ หรือ วาอัสตู ที่เราเรียกกันนั้น จะหันประตูเข้าไปทางทิศตะวันออกนะครับ

ส่วนที่กล่าวว่า พระอีศานคือพระศิวะนั้นก็ถือว่าถูก แต่ในคัมภีร์พระเวทเก่าถือว่าเป็นคนละองค์กัน มาภายหลังจึงยกพระนามนี้ให้เป็นพระนามของพระศิวะ แล้วเกิดการอนุโลมกันไป เหมือนดั่งนิฤติก็เช่นกัน ภายหลังกลายเป็นชื่อของพระเทวีไป ซึ่งก็คือพระอุมานั่นเองและก็อนุโลมเช่นกัน

แล้ว คำว่า "คุรุ" นั้นแปลง่ายๆ ว่า "ครู" นั่นเอง เป็นคำที่ใช้ยกย่องพระพฤหัสปติ ซึ่งเป็นครูของเหล่าเทวดา แล้วจึงอนุโลมให้ใช้เป็นหนึ่งในพระนามของพระองค์ในภายหลัง อีกทั้งพระพฤหัสปตินั้นยังมีพระนามอีกมากมาย แต่เนื่องจากยาวมาก จึงเลือกที่จะใช้คำว่า "คุรุ" ใส่ลงไปในยันต์แทน

คำว่า "มังคละ" นั้นหมายถึงพระอังคาร ซึ่งผมไม่อยากใส่คำว่า "อังคาร" ลงไป เพราะจะหมายถึงแดงดั่งถ่านไฟ อันดูแล้วน่ากลัวเกิน จึงใช้พระนามอีกพระนามหนึ่งของพระองค์ที่มีพระนามว่า "มังคละ" อันหมายถึง ผุ้นำมาซึ่งมงคล แทนจะดีกว่า

พระนามของนพเคราะห์ทั้งหมดนี้ผมนำมาจาก คัมภีร์โหราศาสตร์อินเดียที่ได้ศึกษามา แล้ววางตามแผนผังของภาควิชาวัสดุศาสตร์ + โชยติษาสตร์ เพื่อให้เกิดพลังและความถูกต้องตามตำราครับ
[HIGHLIGHT=#ffff00]
[HIGHLIGHT=#ffff00]อันจิตมนุษย์นั้นชอบวิ่งออกไปแสวงหาพระเจ้าจากวัตถุภายนอก[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]จนลืมย้อนมองดูพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง อันสถิตอยู่ในใจเรา[/HIGHLIGHT]
[/COLOR][/HIGHLIGHT][/FONT]

ขอบคุณความรู้ สาระ อันประเสริฐ ของ กาลปุตรา มากๆค่ะ
[HIGHLIGHT=#ffffff]
ภควาน จักรวาลชนนี
[/HIGHLIGHT]

เพราะ..สังคม ประเมิณค่า ที่จนรวย คนจึงสร้าง..เปลือกสวย ไว้สวมใส่

หากสังคม..วัดค่า ที่ภายใน  คนจะสร้าง..จิตใจ ที่ '' ใฝ่ดี''





December 29, 2009, 09:05:43 #6 Last Edit: December 29, 2009, 09:10:36 by ตรีศังกุ
เข้าใจแล้ว

ขอบคุณมากครับ

...

นึกออกแระ ผมลืมนึกอย่างนึง

ในคัมภีร์พุทธเรียกทิศตะวันออกว่า ทิศเบื้องหน้า
เรียกทิศเหนือว่า ทิศเบื้องซ้าย
ทิศใต้ว่า ทิศเบื้องขวา

ขอบคุณครับ

สงสัยเรื่องดาวนักษัตร ของเดิมมี27ดวง หรือ 28ดวงครับ

ที่ผมจำได้ มี27ดวง

28ดวง ทางจีน ญี่ปุ่น รับมาเพิ่ม

ดาวนักษัตรนั้น ตามตำราโบราณมีด้วยกันทั้งสิ้น 28 กลุ่มนักษัตรครับ โดยไล่ตั้งแต่ 01 องศาของราศีเมษเรื่อยไป จนถึง 30 องศาของราศีมีน จะมีชื่อของกลุ่มดาวนักษัตรดังต่อไปนี้

01. อัศวินี (अश्विनि)
02. ภรณี (भरणी)
03. กฤตติกา (क्रृत्तिका)
04. โรหิณี (रोहिणी)
05. มฤคศีรษะ (म्रृगशीर्षा)
06. อารทรา (आर्द्रा)
07. ปุนรวสุ (पुनर्वसु)
08. ปุษยะ (पुष्य)
09. อาศเลษา (आश्लेषा)
10. มฆา (मघा)
11. ปูรวะ ผาลคุนี (पूर्व फाल्गुनी)
12. อุตตระ ผาลคุณี (उत्तर फाल्गुनी)
13. หัสตะ (हस्त)
14. จิตรา (चित्रा)
15. สวาติ (स्वाति)
16. วิศาขา (विशाखा)
17. อนุราธา (अनुराधा)
18. เชยัษฐา หรือ เชษฐา (ज्येष्ठा)
19. มูละ (मूल)
20. ปูรวาษาฒา (पूर्वाषाढ़ा)
21. อุตตราษาฒา (उत्तराषाढ़ा)
22. อภิชิตะ (अभिजित)
23. ศรวณะ (श्रवण)
24. ศรวิษฐา (श्रविष्ठा) หรือ ธนิษฐา (धनिष्ठा)
25. ศตภิษา (शतभिषा)
26. ปูรวภัทรปทา (पूर्वभाद्रपदा)
27. อุตตรภัทรปทา (उत्तरभाद्रपदा)
28. เรวตี (रेवती)

แล้วต่อมาเนื่องจากต่อมาได้มีการตัดฤกษ์ออกไป 1 ฤกษ์คือ "อภิชิตะ" เนื่องจากเป็นฤกษ์ที่เล็ก และแคบมาก (อยู่ในราศีมกร) เพื่อให้เกิดความลงตัวในการหารและแบ่งจักรราศี (9 x 3 = 27) จึงทดอภิชิตฤกษ์ไว้ในที่เข้าใจ ของนักโหราศาสตร์ชั้นสูง และคงเหลือที่กล่าวเพียง 27 นักษัตรฤกษ์ ดังนั้นในตำราไทยที่ได้รับสืบทอดมาบางตำราจึงไม่ได้กล่าวถึง หรืออธิบายในฤกษ์นี้ไว้

ส่วนทางจีนซึ่งรับเอาวิชาโหราศาสตร์ไปจากอินเดีย ยังคงไม่ทดอภิชิตฤกษ์ โดยให้คงไว้ 28 นักษัตรฤกษ์ไว้ดังเดิม

ส่วนการแปลชื่อฤกษ์นั้น ผมยึดตามตัวอักษรเทวนาครีนะครับ เพราะจะถูกต้องมากกว่า ส่วนในไทยนั้นต่างตำราก็ต่างเขียนกันไปคนละแบบ อันอาจทำให้สับสนชื่อฤกษ์ได้

ปล. ชักชอบคุณ "ตรีศังกุ" ซะแล้วสิ แสดงว่ามีความรู้ทั้งทางด้านเทววิทยา และ ทางโหราศาสตร์ด้วย อีกอย่างเป้นคนที่ช่างซัก ช่างถามดี อันบ่งบอกถึงการเป็นคนที่รู้จักแสวงหา ดังแก้วน้ำที่ไม่ยอมเต็ม ดีครับการเรียนเทววิทยาของฮินดูที่ถูกต้องนั้น ต้องเรียนโหราศาสตร์ประกอบกันด้วย เพราะทั้ง 2 ตำรานั้นมีที่มาจากที่เดียวกัน เพียงแต่แยกสาขาแตกแขนงออกไปเท่านั้น โดยจะกล่าวเชื่อมโยงถึงกันตลอด
[HIGHLIGHT=#ffff00]
[HIGHLIGHT=#ffff00]อันจิตมนุษย์นั้นชอบวิ่งออกไปแสวงหาพระเจ้าจากวัตถุภายนอก[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]จนลืมย้อนมองดูพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง อันสถิตอยู่ในใจเรา[/HIGHLIGHT]
[/COLOR][/HIGHLIGHT][/FONT]

ผมไม่มีความรู้หรอก

เพียงแต่ผมเป็นคนชอบสังเกต ชอบสงสัยหน่ะครับ

คำว่า อาสาฬหะ สันสกฤตเรียกว่า อาษาฒะ ของไทยว่าคือเดือน8

ปีอธิกมาส คือปีที่มีเดือนแปด2หน ดาวฤกา์อาสาฬหะมี2ดวง อุตตราษาฒะ(อุตตราสาฬหะ) และ ปูรฺวาษาฒะ(บุพพาสาฬหะ) อาจเป็นเพราะเหตุผลนี้

เพราะ12เดือน มีเดือนเดียวที่ดาวฤกษ์แยกเป็น2กลุ่ม คือ ดาวอาสาฬหะ อาสาฬหบูชา คือ พิธีบูชาในเดือนอาสาฬหะ เป็นเดือนที่ดาวฤกษ์อาสาฬหะเสวยฤกษ์

อาสาฬหะ อ่านว่า อาสาน-หะ

คุณกาลปุตราขา หนังสือวางแผงแล้วอย่าลืมมาบอกข่าวนะคะ จะรีบไปหามาเป็นเจ้าของด้วยคนค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

โอ้โห ได้ความรู้แบบลึก ๆ เลยครับ
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
รอติดตามหนังสืออยู่นะครับ

 


               โอ้โหห   พี่ออส กาลปุตรา  หนูอ่านแล้วขนลุกเลยคะ  แต่ไม่ใช่องค์จะลงหรืออะไรนะ 555


               พี่นี่สุดยอดจริงๆ  ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบาย  มาม้ามืดมากก  เล่นสะเอาคนเก่าที่อยู่เดี้ยงเลย



               หนูตัดสินใจไม่ผิดจริง   นี่นับว่าเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่แก่พวกเราชาว hm



               ข้าน้อยขอคารวะ  และซูฮกหลายๆเด้อ



                อีกนิดนึง  และที่พี่บอกว่าหนูมีปัญญา  ปัญญาน้อยหรือเปล่าค่ะ อิอิ   จริงๆแล้วหนูไม่เก่งไรเลย


                แถมหัวช้าด้วยซ้ำ   กราบขอบพระคุณมาสำหรับความรู้คะ   อิอิ


              เตรียมตัวเหนื่อยไว้เลย  กำลังแกะมนต์สันสกฤตอีกหลายสิบบท อิอิ


อิอิเสริมๆๆคัฟเด๋วว่างๆๆจะเอาชื่อดาวฤกษ์ภาษาจีนมาให้เป็นการเพิ่มความรู้คัฟอิอิ

ขอบพระคุณท่านกาลปุตราค่ะ สำหรับความรู้ดี ๆ ที่ได้แบ่งปันกันค่ะ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


ขอบพระคุณท่านกาลปุตราค่ะ สำหรับความรู้ดี ๆ ที่ได้แบ่งปันกันนะครับ หวังว่าคงเอาความรู้ดีๆๆมาแบ่งปันกันอีกนะครับ

โอววว... น่าสนใจมากกกกกกกกกกกก
แต่..ไม่มีหัวด้านนี้เรย...อ่านแล้ว สมองไม่โหลดเก็บไว้เลยอ่ะ

เอาไว้ รออ่านหนังสือของคุณกาลปุตราดีกว่าครับ
หนังสืออกเมื่อไหร่ อย่าลืมบอกกันด้วยนะครับ

รู้สึกว่าหนังสือของพี่ออสจะออกวางจำหน่ายแล้วนะครับ เพราะจากกระทู้นี้

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1694.0

มีพี่คนนึงไปเห็นหนังสือมาก่อนแล้ว

ยังไงรอพี่กาลปุตราออกมาบอกชัดๆ อีกทีครับว่าใช่หนังสือของพี่เค้ารึเปล่าครับ

อิอิ จริงๆ  แล้ว พี่ออส  บอกว่า งานแห่พระแม่ ปีนี้ เตรียมยันต์ ไว้ แจก ด้วย


เหอ.....เหอ.....เหอ......

เหอะๆๆผมซื้อมาแล้วครับเมื่อคืนที่เซเว่น
ผ้ายันต์สวยดีครับชื่อ"ยันต์คุ้มดวงชะตา พลัง 108 มหาเทพ-เทวี"
เนื้อหาภายในอัดแน่นเพียบละเอียดเลยครับ
โอม ทัต ปูรูชยา วิดมาเฮ วักรา ทุนดายา ดีมาฮี ทะโน ทันติ ปราโชดายะ 

ช่วย pm ราคาให้ผมทราบหน่อยครับท่านกษิติ

ผมอยากได้เก็บไว้ซักเล่มเหมือนกันครับผม

สนใจเหมือนกันคับหาได้ที่ไหนบ้างอะคับ

March 11, 2010, 06:06:38 #23 Last Edit: March 19, 2010, 13:06:16 by กาลปุตรา
ต้องขอโทษด้วยที่หายไปนาน และไม่ได้มาตอบกระทู้ (ช่วงนี้ยุ่งนิดหน่อยครับ)

หนังสือออกวางตลาดแล้วครับ ที่ร้านแพร่พิทยา, B2S, ศูนย์ฯจุฬา, ร้านซีเอ็ดบุ๊ค และเซเว่น

วันนี้ผมไปสอบถามให้มา สำหรับผู้ที่อยู่ ตจว. ได้ความว่าหนังสือเล่มนี้ส่วนมากวางจำหน่ายใน กทม.

เพราะพิมพ์ครั้งแรกจำนวนแค่ 3,000 เล่ม ดังนั้นท่านที่อยู่ ตจว. จะหาซื้อยากหน่อยนะครับ ต้องขออภัยด้วย

เนื่องจากทางการตลาดของบริษัทเป็นผู้จัดการในเรื่องการจัดจำหน่ายและเลือกร้านลง ผมเข้าไปยุ่งไม่ได้


ราคาจะอยู่เล่มละ 159 บาท หน้าบกจะมียันต์ "ศรี ศักติ วิทูระ" ติดอยู่ข้างหน้าครับ

[HIGHLIGHT=#ffff00]
[HIGHLIGHT=#ffff00]อันจิตมนุษย์นั้นชอบวิ่งออกไปแสวงหาพระเจ้าจากวัตถุภายนอก[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]จนลืมย้อนมองดูพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง อันสถิตอยู่ในใจเรา[/HIGHLIGHT]
[/COLOR][/HIGHLIGHT][/FONT]

จะไปตามล่าหามาให้ได้เลยอะคับ

ร้านหนังสือที่ผมเห็นหนังสือของคุณกาลปุตราวางแผง คือ ร้านแพร่พิทยา และร้าน B2S สาขาเซ็นทรัลฯปิ่นเกล้าครับ

ในที่สุดก็ใด้มาครอบครองสักที ได้มาเมื่อคืนนี้เองคับ
จะอ่านให้สมกับที่ใช้เวลานการซะตั้งนาน

เพิ่งได้หนังสือมาครอบครองเหมือนกันครับ หลังจากที่ใช้ความพยายามเสาะแสวงหามาพอสมควร ^_^

ปล. ขออนุญาตแสดงความเห็นสักนิดนะครับคุณกาลปุตรา เผื่อมีการจัดพิมพ์ครั้งต่อไป ผมว่าน่าจะปรับปรุงให้หน้าปกมีความแข็งแรงกว่านี้อีกสักนิดก็จะดีมากๆเลยครับ เพราะปกตอนนี้ผมว่ามันบอบบางไปนิด จากการเจาะช่องสำหรับโชว์ผ้ายันต์ไว้ที่กลางปกหน้า ฉะนั้นเวลาที่เปิดหนังสืออาจทำให้ปกขาดได้อ่ะครับ
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

รับทราบครับคุณอักษรชนนี

ผมเองก็ได้บอกทางบริษัทไปแล้วในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากเป็นหน้าที่ของทางฝ่ายออกแบบปกและการจัดพิมพ์

ซึ่งผมเองก็มองเหมือนกันว่า เมื่อเอายันต์ออกมาแล้วจะทำให้หนังสือเก็บยาก เนื่องจากปกจะอ่อนเกินไป

ทีแรกที่ผมเสนอไปคือ

1. ไม่ให้คว้านปกและให้ทำเป็นปกแข็ง

2. ตัวยันต์นั้นให้แยกจากหนังสือไปเลย เพื่อจะได้เก็บรักษาง่าย

3. กระดาษที่ใช้พิมพ์ควรเป็นกระดาษปอนด์ แม้จะมีราคาขายที่แพงกว่า แต่คนอ่านสมัยนี้จะยอมรับมากกว่า เพิ่มราคาอีก 40 - 100 ก็ไม่มีใครว่า
(ไม่รู้ใครคิดเหมือนผมหรือไม่นะครับ ในฐานะคนรักหนังสือ จะมองว่าถ้าเป้นกระดาษพิมพ์ที่ดี และเป็นหนังสือที่ควรเก็บสะสมจะแพงขึ้นอีกนิดก็ไม่เกี่ยง)

4. ชือหนังสือ ที่แรกผมตั้งไปให้ในชื่อ "คัมภีร์ยันต์ศาสตร์ (ฮินดู)" แต่เนื่องจากฝ่ายขายกลับมีทรรศนะว่า ถ้าตั้งแบบนั้นจะทำให้ขายยาก เขาเลยเปลี่ยนมาเน้นการตลาดที่ตัวของยันต์แทน แล้วใช้ชื่อหนังสือว่า "ยันต์คุ้มดวงชะตา 108 มหาเทพ-เทวี" ทำให้จุดประสงค์ในการเขียนของผมซึ่งจะเน้นในเรื่องความรู้นั้น ถูกเปลี่ยนไปบ้างจากชื่อหนังสือ

อันนี้ก็ต้องเข้าใจ ต้องพบกันครึ่งทาง คนเขียนก็อยากให้งานดี คนขายก็อยากจะขายได้

สุดท้ายมีอะไรผิดพลาดไปในหนังสือก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เนื่องจากหนังสือเล่มนี้ทางบริษัทให้เวลาผมเขียนแค่ 2 สัปดาห์เอง หลังจากที่ผมนำยันต์ที่ทำแจกในงานแห่ประจำปีวัดแขกสีลมไปให้เจ้าของบริษัทในช่วงก่อนวันปีใหม่ 53 แล้วเจ้าของบริษัทเลยขอให้ผมเขียนเรื่องยันต์นี้ในวันนั้นเลย (แบบว่างานเข้าชนิดไม่ได้ตั้งใจ) แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุดแล้วครับ

ขอขอบคุณทุกท่านนะครับที่ช่วยอุดหนุน แล้วจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งให้ทางบริษัททราบเพื่อการปรับปรุง ขอบคุณครับ
[HIGHLIGHT=#ffff00]
[HIGHLIGHT=#ffff00]อันจิตมนุษย์นั้นชอบวิ่งออกไปแสวงหาพระเจ้าจากวัตถุภายนอก[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]จนลืมย้อนมองดูพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง อันสถิตอยู่ในใจเรา[/HIGHLIGHT]
[/COLOR][/HIGHLIGHT][/FONT]

อ่อๆๆ เป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบพระคุณ คุณกาลปุตรานะครับ ที่ช่วยอธิบายและชี้แจงให้ได้เข้าใจ

ผมก็คิดอย่างคุณกาลปุตรา ในฐานะคนที่รักและชอบเก็บสะสมหนังสือเหมือนกันครับว่า หากจะเพิ่มต้นทุนการผลิตนิดๆหน่อยๆเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพของตัวรูปเล่มหนังสือทีดีขึ้น ผมคนหนึ่งหล่ะที่ไม่มีปัญหาในการที่สำนักพิมพ์จะเพิ่มราคาหนังสือ เพราะผมก็ยังเห็นว่ามันเป็นการคุ้มค่า เมื่อเทียบกับคุณภาพของรูปเล่มที่ได้มา (แต่อีกมุมก็เข้าใจเหตุผลทางการตลาดของสำนักพิมพ์ อย่างที่คุณกาลปุตราได้อธิบายมาครับ)

ยังไงผมก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณกาลปุตราสร้างสรรค์หนังสือที่มีเนื้อหาดีๆแบบนี้ออกมาอีกเรื่อยๆนะครับ ^_^
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

[HIGHLIGHT=#7030a0]ต่างจังหวัดหายากจังครับ[/HIGHLIGHT]
พระผู้เป็นเจ้าสูงสุดซึ่งมีอยุ่เพียงพระองค์เดียว  เป็นผู้ซึ่งมีพระเนตรและพระพักตร์มากมายรอบทิศทาง  มีพระกรและพระบาทอยู่โดยรอบทิศ  ด้วยพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดพระองค์เดียวนี้ทรงมีสภาวะแผ่ครอบคลุมไปทั่วสกลจักรวาล   
เศวตาศวตรอุปนิษัท

อ่านแล้วคับดีคับชอบ
เป็นหนังสือทรงคุณค่าน่าสะสมอีก1เล่ม
แต่ไม่ทราบว่าจะมีหนังสือเล่มอื่นๆตามมาอีกไหมอะคับ
ถ้ามีก็จะเฝ้ารอติดตามต่อไปคับ

อยากได้ยันต์พระแม่กาลีบ้างจังคับ ยังไม่มีเลย งืมๆๆ