การอารตีและถวายของ(สงสัย)ค่ะ

[Ratha C]

รบกวนท่านผู้รู้นะคะ พอดีสงสัยในเรื่องการอารตีค่ะ คือ เวลาไปวัดแขกสีลม จะสังเกต พราหมณ์ อารตีก่อนคือใช้ควันกำยาน และ อารตีไฟ แล้ว ถวายของ คือ ข้าว กล้วย2ลูกมีใบพลูรอง2ใบ และ กลีบดอกไม้พรมน้ำมนต์ และ สะบัดดอกไม้สุดท้ายที่พระแม่สรัสวตี  และ อารตีส่งพระแม่อีกรอบนึง เป็นอันเสร็จพิธี และ อารตีก่อนวัดปิดอีกครั้ง แต่ ถ้าเราอยู่ที่บ้านบูชาที่บ้าน คือ อยากทราบว่า การอารตี คือ รอบแรก เราจุดกำยานปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป และ อารตีไฟใช่มั๊ยอ่ะ ค่ะ พร้อมทั้งสั่นกระดิ่งด้วย เป็นการปลุกเรียกพระองค์ให้มารับของถวายใช่หรือไม่ค่ะ และ เราก้อ ถวายของผลไม้ตามแต่สะดวกส่วนใหญ่ใช้กล้วย2ลูกใบพลูรอง2ใบ พร้อมดอกไม้ ที่ลอยน้ำแล้วนำมาแตะที่ผลไม้แล้วพรมๆที่องค์เทพที่บ้านอ่ะค่ะ บางวันว่างจัดใช้ช้อนตักน้ำที่ลอยดอกไม้วนที่ผลไม้แล้วก้อป้อนพระองค์เลยและพรมดอกไม้ที่หลัง แหมทุกๆคนก้อ คงรักทุกๆพระองค์เหมือนเราใช่มั๊ยอ่ะ คะ มี ท่านนึง เรานับถือ ท่านเคยสอนว่า ถ้าเราจะมีองค์มหาเทพบูชาที่บ้านต้อง ทำให้ พระองค์เหมือนมีชีวิตจริงๆ ให้ความใส่ใจในพระองค์ให้เหมือนผู้ใหญ่ในครอบครัว เป็นต้น และ องค์จะ ศักดิ์สิทธิ์ เราก้อ คิดว่า เป็นอย่างนั้นนะคะ เพราะบางเรื่อง เราไม่สามารถระบาย พูดกับใครได้ แต่ เราสามารถ พูดกับพระองค์ได้ แต่ เราต้องไม่งมงายนะคะ และ สวดมนต์ และ อารตรีไฟ อีก  1 รอบเป็นการส่งพระองค์กลับขี้นสวรรค์วิมานและก้อลาของลงมาทานเลยแต่ดอกไม่ยังไม่เครียร์ออกนะคะ คือ งง อ่ะ ค่ะ ว่า ทำไมเราต้องอารตี 2รอบ คือเราไม่ส่งพระองค์กลับไม่ได้เหรอค่ะ แบบ ให้พระองค์อยู่กับเราเลย ที่ถามอาจเป็นคำถามที่แบบ งงๆ หน่อยนะคะ คือ งง จริงๆอ่ะ ค่ะ แต่ก้ออยากได้ข้อมูลการบูชาที่ถูกวิธี คือ เป็นผู้บูชาธรรมดานะคะ แต่ก้ออยากได้การบูชาที่ถูกต้องค่ะ บางวันเราบูชา เราสั่นกระดิ่งอย่างนี้ คนที่บ้านก้อไม่เข้าใจ แบบ ทำอารายของมัน กุ๊งกิ๊ง กุ๊งกิ๊ง แต่ บางที เราก้อ ทำอย่างพอดีนะคะ คือแบบ สั่นกระดิ่งเบาๆ บางทีแบบให้ดังกิ๊งนิสเดียว ไม่อารตีไฟ แต่เอากำยานไปวนๆและเอาวางไว้ข้างนอกแทน มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันหน่อยนะคร้า อ้อ สงสัยอีก 1ข้อ เห็นพราหมณ์บางคน ใช้ นิ้วนางเจิมผงกุมกุม บางคนใช้นิ้วโป้ง มีความหมายว่าอย่างไรบ้างค่ะ แล้วถ้าเราสวดมนต์เสร็จแล้ว เราจะเจิม หน้าผากตัวเอง ตอนนี้ใช้นิ้วนางข้างขวาอยู่ถูกไหมอ่ะค่ะพอเสร็จและก้อลูบขี้นที่กลางศรีษะเลยค่ะ  อ้อ บางวัน ถ้าไม่อารตีไฟ ใช้กำยาน วนๆรอบองค์แทน ถวายของสวดมนต์และ เราก้อ เอามือไปอังที่ตะเกียงขอพรแทนดวงไฟจากการอารตีที่บางวันเราไม่ได้ทำอ่ะค่ะ อ้อตะเกียงจะจุดระหว่างการถวายของสวดมนต์จุดจนจบพิธีเลยค่ะแล้วก้อดับ แต่ตอนนี้เนยแพงม๊ากกก ใช้นำมันพืชแทนค่ะ  ยังไงช่วยเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะคร้า อ้อ ถ้าเพื่อนๆไปที่วัดแขกสีลมนะคะ ตรงบนฝ้าข้างบนในโบสถ์นะคะ แหงนหน้ามองขี้นไปข้างบนนะคะ ตรงที่มีองค์พระคเนศ ที่เป็นองค์เรียงๆ กันอ่ะคะ ตอนนี้ เราเห็นเค้า มีจิตกร เข้ามาวาดภาพ หลายๆปางค์ ไปมาวันศุกร์เห็นประมาณ 3ภาพ สวยมั๊กมาย ยังไงอย่าลืมแหงนหน้าขี้นไปชมกันนะคะ มี องค์พระคเนศปางเหรัมภะคณะปติด้วย แต่ เค้ายังลงสีไม่ค่อยเสร็จเท่าไหร่ มีอารายดีๆ นำมาแบ่งปันกันนะคร้า^_^

[อ.กันต์ปางคเณศ ศรีอริยเมตตา]

อ.กันต์ ตอบ วิธีถวายของบูชาองค์เทพเทวาต่างๆ [อ่านให้ละเอียด]

ใช้ ธูป 9 ดอก สำหรับปักในกระถางธูป และธูปอีกจำนวนหนึ่ง ตามจำนวนภาชนะที่จัดถวาย ภาชนะละ 1 ดอก เทียน 1 คู่
      เมื่อจัดเตรียมพร้อมแล้ว เผากำยานในเตาหน้าแท่นบูชา จุดเตาน้ำมันหอม[ถ้ามี] แล้วนำเครื่องสังเวยใส่ถาดรวมยกมาถวายบนโต๊ะหน้าโต๊ะหมู่หรือหน้าแท่นบูชา ยกมือขึ้นจบ
    จุดเทียน ธูป 9 ดอก กล่าว คาถาอัญเชิญเทพเจ้ามารับเครื่องสังเวย จากนั้น กล่าวอัญเชิญเป็นภาษาไทยว่า
      ข้าพเจ้าขออัญเชิญ [ชื่อองค์เทพ] มารับเครื่องสังเวย ซึ่งข้าพเจ้า[หรือและบุคคลอื่น]เป็นผู้หามาจัดถวาย ณ สถานที่บูชาแห่งนี้
      ปักธูป 9 ดอก ลงในกระถางธูป   ***แล้วจุดธูปตามจำนวนภาชนะของเครื่องสังเวย***[สวดคาถาก่อนปักธูปนะครับ] 

    กล่าวบทถวาย อาหารว่า  "โอม  นาตะวิฑะ มัณฑะ บุชะปาณิ สมัตตะยุติรามิ"
 
      จากนั้นกล่าวเป็นภาษาไทยว่า ข้าแต่ [ชื่อองค์เทพ] ด้วยการกราบไหว้บูชาบวงสรวงนี้ ข้าพเจ้าขอน้อมถวายขนม และ ผลไม้อันมีรสเลิศต่างๆแด่พระองค์ ขอทรง รับเครื่อง สังเวยและของบูชาเหล่านี้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ข้าพเจ้า

         ***แล้วปักธูปลงบนอาหารในภาชนะอย่างละ1ดอก***

      จากนั้นหากต้องการขอพรในสิ่งใด ก๊กล่าวขอให้ทรงประทานพรในสิ่งที่ต้องการได้

         ***รอเวลาเทพเจ้าทรงรับเครื่องสังเวย คือ ชั่วระยะเวลา ธูปหมดทุกดอก***

         ***ในระหว่างรอเวลา หากผู้บูชามีความสามารถทางดนตรี ที่มีเสียง นุ่มนวล[ไม่กระดางหูและเสียงไม่ดังนัก]
    บทเพลงที่บรรเลงถวาย ควรเลือกเพลงที่มีความไพเราะนุ่มนวล รวมทั้งชื่อเพลงก๊ต้องเป็นเพลงที่เป็นมงคลบรรเลงด้วยความตั้งใจ
    หากเล่นดนตรีไม่เป็น สามารถใช้การเปิดดนตรีจากเครื่องเสียงได้ ควรเลือกเพลงที่มีทำนองนุ่มนวลสุภาพ เปิดถวายเพียงเบาๆ***

       เมื่อธูปหมดดอก รอให้เพลงที่เล่น หรือ เปิดถวายอยู่นั้นจบแล้วค่อยปิด จากนั้นทูลขอให้ทรงประทานพรตามที่ได้ขอไปแล้วให้สมความปรารถนา แล้วกล่าวอัญเชิญเทพเจ้ากลับยังทิพยสถาน เสร็จแล้วดับเทียน

       เมื่อเทียนดับสนิท จึงทูลขออนุญาตลาเครื่องสังเวย เครื่องสังเวยที่ถวายไปแล้วนั้นเรียกว่า*ปัจฉา*
ให้ยกภาชนะแต่ละอย่างขึ้นจรดหน้าผาก เป็นการแสดงความเคารพ*แล้วถ่ายปัจฉาใส่ภาชนะอื่น นำไปแบ่งรับประทานกันในบ้าน ส่วนภาชนะที่ใช้ใส่เครื่องสังเวยถวายให้ นำไปล้างให้สะอาดทันที!!! อย่าแช่ทิ้งไว้*            
      หลังลาเครื่องสังเวยแล้ว ควรตรวจดูว่ามีเศษเถ้าตกหล่นอยู่หรือปล่าว ควรทำความสะอาดให้เรียบร้อย


     !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
                      ทำความเข้าใจ

    ในพิธีกรรมการปฏิบัติบูชาเทพของชาวฮินดูโดยทั่วไป จะเห็นว่า มีการลั่นระฆัง เป่าสังค์ และไกวบัณเฑาะว์ในการอัญเชิญเทพ
    เมื่อ ถวายบูชาแล้วมีการร้องเพลงสรรเสริญหรือ   อารตี[Arti] พร้อมกับบูชาไฟ   ตามหลักของอาศรมสรัสวัต ศาสตรีแล้ว
    *นี่เป็นสิ่งที่ควรกระทำเฉพาะในพิธีใหญ่ๆ หรือในเทวาลัยเท่านั้น การนำมาปฏิบัติในเคหะสถาน ก๊เท่ากับ เป็นการเปลี่ยนเคหสถานให้เป็นเทวสถาน นั่นคือจากบ้านปุถุชนคนธรรมดากลายเป็นที่อยูของนักบวช ถ้าเราหรือคนในบ้านไม่อาจถือพรตได้อย่างนักบวช ผลร้ายจะบังเกิดมากกว่าผลดี*



                     ขอพรอันดีจงบังเกิดแด่ท่าน
                   โอม กัน คะณะปัตตะเย นะโม นะมะฮา               
                  by อ.กันต์ปางคเณศ ศรีอริยเมตตา

[อ.กันต์ปางคเณศ ศรีอริยเมตตา]

หลังเสร็จพิธี สวด

ศานติ มนตรา

[Shanti Mantra]

โอม ศานติ อันตะริกษัม ศานติ ปฤถิวี ศานติ

อาปาศะ ศานติ โอสะธะยะษะ ศานติ

วนัสสะปัตตะยะษะ ศานติ วิศศะเวเทวะ ศานติ

พรหมมะ ศานติ สะระวะ ศานติ

ศานติ เรวะ ศานติ

โอม ศานติ ศานติ ศานติ

คำแปล: ขอความสงบสุขจงมีแก่บรรยากาศ ผืนดิน ผืนน้ำ พืชพรรณธัญญาหารท้งหลาย สรรพชีวิตในป่าทั้งหลาย

ขอความสงบสุขจงมีแก่พรหม เหล่าเทวะ และทุกๆสิ่ง ขอให้มีแต่ความสุข และความสงบสุขเท่านั้น

วิธีใช้: สวดเป็นมนต์บทสุดท้ายในการประกอบพิธีบูชาองค์เทพ ในการทำสมาธิ และการถือศีล สวดเพื่อปรับสภาพจิตใจจากการที่ได้พบเห็นสิ่งที่ทำให้เกิดความโกรธ ความเศร้าสลด หรือความตกใจ สวดเพื่อช่วยเหลือคนและสัตว์ ให้บรรเทาความเจ็บปวด หรือความทุกข์ยากทั้งหลาย สวดเพื่อบรรเทาผลของอำนาจลี้ลับ คุณไสยมนต์ดำ ทั้งที่มีต่อตนเองและผู้อื่น สวดเพื่อปรับแก้อาถรรพณ์ในสถานที่ต่างๆ และสวดเพื่อส่งวิญญาณผู้ตายไปสู่สุคติ

ขอพรอันดีจงบังเกิดแด่ตัวท่าน

โอม กัน คะณะปัตตะเย นะมะฮา

by อ.กันต์ปางคเณศ ศรีอริยเมตตา

[Fluorine]

อ.กันต์ครับ

อ.ลอกข้อความมาจากหนังสือคู่มือบูชาเทพ ของอาจารย์กิตติ วัฒนะมหาตม์ โดยสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุคส์ทุกกระเบียดนิ้ว
กรุณาให้ credit กับเจ้าของบทความด้วยครับ

[อ.กันต์ปางคเณศ ศรีอริยเมตตา]

ที่มาจากความรู้ด้านบนนะครับ

credit by ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหอสุดแห่งชาติ

         อ.กิตติ วัฒนะมหาตม์

คู่มือบูชาเทพ:กรุงเทพ:สร้างสรรค์บุ๊คส์ จำกัด

     117 หน้

1.เทพปกรณัม. I ชื่อเรื่อง.

292.13

ISBN 974-341-283-2

*ขอพรอันดี จงบังเกิดแด่ท่าน*
   โอม กัน คะณะ ปัตตะเย นะโม นะมะฮา
  by อ.กันต์ปางคเณศ ศรีอริยเมตตา

[Ratha C]

ขอบคุณ อาจารย์กันต์ นะคร้า ช่วง หลังๆมานี่ หนูก้อ ไม่ได้อารตี สั่นกระดิ่ง แล้วค่ะ เพราะคนที่บ้านไม่ค่อยเข้าใจ พยายามปฏิบัติ ให้ถูกกาลเทศะที่สุดเท่าที่จะทำได้ อะไร ที่มากเกินไปเค้าไม่เข้าใจ ตอนแรกเราก้อ ต่อต้าน แต่ตอนนี้ เอาส่วนรวมและคนที่อยู่ด้วยก่อนดีกว่า หนูคิดว่าทุกๆพระองค์คงเข้าใจหนูนะคะ ขอบพระคุณสำหรับขอ้มูลดีๆนะคร้า