Loader

พระแม่ปัทมาวตี (Padmavati Ma)

Started by กาลิทัส, February 02, 2009, 16:58:08

Previous topic - Next topic

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

พระแม่ปัทมาวตี (Padmavati Ma)



พระแม่ปัทมาวตรี ถ้าจำไม่ผิดนะครับ น่าจะเป็นอีกภาคหนึ่งของพระแม่ลักษมี โดยพระแม่เป็นชายาของพระวิษณุ ที่เราเรียกพระองค์ว่า พระบาลายี ครับ

เล่ากันว่า มีครั้งหนึ่งพระแม่ลักษมี กับ พระวิษณุ เกิดข้อทะเลาะวิวาทกัน ทำให้พระแม่ทรงเสียพระทัยมากจนหนีพระวิษณุไป พระองค์ทรงตามหาพระมเหสี แต่ก็หาไม่พบ จึงทรงสั่งให้สร้างที่พักเล็กๆ ไว้ที่หุบเขาที่ชื่อว่า Venkatadri โดยพระองค์ทรงเปลี่ยนพระนามเป็นศรีนิวาศะ

ต่อมามีพระราชาองค์หนึ่ง ชื่อ อัคศะ ไม่มีบุตรสืบราชสมบัติ แม้พระราชาองค์นี้จะประกอบพิธีขอบุตรจากเทพเจ้าอยู่หลายครั้ง จนครั้งหนึ่ง ทรงตั้งพระทัยจะจัดพิธีขอบุตรอีกครั้ง จึงสั่งให้เหล่าทหารตระเตรียมพื้นที่ในการประกอบพิธี ขณะไถพื้นที่อยู่นั้น ได้เกิดปรากฏการณ์พื้นดินแยกออก และมีเด็กทารกเพศหญิง โผล่ออกมาตามร้อยแยกนั้น พระราชาทรงยินดี และพระราชทานพระนามให้ว่า ปัทมาวตรี

เมื่อ ปัทมาวตรี เจริญพระชันสา ขึ้น จึงโปรดการประพาสป่า และครั้งนั้นเองพี่พระนาง ได้พบกับพระวิษณุ และทั้งสองก็รักกัน แต่พระชาอัคศะ ทรงไม่เห็นด้วยที่จะให้ธิดาแต่งงานกับคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าและเป็นเพียงพรานป่า สุดท้ายพระวิษณุจึงสำแดงพระองค์ให้พระราชาทราบ ในท้ายที่สุด พิธีอภิเสกระหว่าพระแม่ปัทมาวตรี กับศรีนิวาศะ(พระวิษณุ) ได้ถูกจัดขึ้นที่เขา Venkatadri นั่นเองครับ

ส่วนที่เศียรมีลักษณะเหมือนพระพุทธเจ้า ตามปฏิมากรรมนะครับ บางที่จะทำเป็นพ่อนารายณ์สิบปางอวตานไว้โดยรอบครับ แล้วบางตำราถือว่าพระพุทธเจ้าเป็นอีกภาคอวตานหนึ่งแห่งพ่อนารายณ์ครับ

บ้างก็เชื่อว่าพระแม่ปัทวตรี เป็นรูปเคารพของมหาลักษมีในศาสนาเชน ที่ท่านทูนไว้บนพระเศียรไม่ใช่พระพุทธเจ้าแต่เป็น มหาวีระ ศาสดาในศาสนาเชน



ขอบคุณ
องค์ความรู้จาก คุณ ภักดีพระแม่เจ้าครับ

เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก สวยงามมากๆ
ขอบคุณมากๆค่ะ

พระองค์ทรงสง่างาม มากเลย นะคะ
อยากโดนรักดูซะที มันก็ดีนะ

February 06, 2009, 09:42:09 #3 Last Edit: April 04, 2011, 08:48:54 by กาลิทัส
นี่วัดของท่านใต้วัดตรีลูมาลัย


[/quote] ...


สวยทุกภาพเลยคับ และประวัติก็เพิ่งจะรู้เลยนะเนี่ย น่าสนใจมาก  ขอบคุณมากค้าบบบ

ขอร่วมแชร์ความรู้นิสนึงไม่ว่ากันนะพี่

จากรูปพระปัทมาวาตีที่พี่กาลิทัสโพสเป็นคนละองค์ที่อยู่กับพระเวงกาเตส

แต่เป็นกลุ่มเทพที่หายสาปสูญไปแล้ว กลุ่มนี้คือกลุ่มเดวดาส เป็นเทพกลุ่มที่สวามิภักดิ์ต่อพระพุทธเจ้า มีอยู่ไม่กี่องค์ที่ยังมีการบูชาอยู่

เช่นองค์พระปัทมาวตี ยัคชี องค์พระอิศวารา (อิศวรนี่เอง) พระแม่ชักเกศวารี(คู่กับพระสุทรรศสนา)

นี่เป็นอีกรูปลักษณ์นึงของทางบ้านผม และมีองคืที่คู่กับพระปัทมาวตี ชื่อพระ ดาราดาเนนดรา ยัคชา(ไม่นิยมบูชาแต่ผมยังเคยเห็นเทวรูปท่านอยู่นานแล้ว)

ผิดถูกไม่ว่ากันนะครับ


ขอบคุณค่ะ ว่าแต่รูปสามสาวเนี่ยมายังไงอ่ะพี่ยีนส์
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


ขอบคุณค่ะ พี่ยีนส์

ก็เพิ่งเคยได้เห็นรูปภาพ และพระประวัติค่ะนี่แหล่ะค่ะ

[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

เป็นรูปวัดพระปัทมาวาตี แห่งหนึ่งครับ




เป็นรูปพระปัทมาวตี กับพระ ดาราเนนดรา กับกำลัง เฝ้า พระพุทธเจ้าอยู่

ดูแล้ว
เหมือนพระมหาวีระ
แหะ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

November 03, 2009, 17:22:40 #11 Last Edit: November 03, 2009, 17:33:35 by หริทาส
ขอแอบเสริมและแก้ไข กลัวว่าจะเข้าใจผิดกันครับ

รูปพระแม่ปัทมาวตีที่นำมาลงไว้นั้น  ที่จริง เป็น เทวีพระองค์หนึ่งในศาสนาไชนะ หรือศาสนาเชน  อันเป็นศาสนาที่เกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกัน และควบคู่กับพุทธศาสนาโดยตลอด

ศาสนาเชนได้มีการหยิบยืมรูปเคารพทั้งในพุทธศาสนาและศาสนาฮินดูไปใช้ เช่น พระเทวีปัทมาวตี ที่เดิมเป็นพระนามหนึ่งของพระแม่ลักษมี ศาสนาเชนได้หยิบยืมเอารูปลักษณ์และคติความเชื่อไป เช่นความเชื่อเรื่องความโชคดีและร่ำรวย ด้วยเพราะศาสนิกชนในศาสนาเชนมักต้องประกอบอาชีพการค้าขาย เนื่องจากถือหลักอหิงสาอย่างเคร่งครัด จึงไม่สามารถประกอบอาชีพหลายๆอย่างได้ เช่น กสิกรรม และ ประมง ที่ต้องเบียดเบียนชีวิตอื่น ดังนั้นเทวีพระองค์นี้จึงเป็นพระเทวีที่สำคัญ

นอกจากเทวีปัทมาวตีแล้ว ยังมีเทพอื่นๆของศาสนาฮินดูกลายเป็นเทพในศาสนาไชน ด้วย เช่น พระแม่ ไชนยักษี อัมพิกา ซึ่งคือพระแม่เคารีในศาสนาเชน หรือพระคเณศ ก็ทรงอยู่ในฐานะ "ยักษะ" หรือเทพเจ้าจำพวกหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ รูปลักษณ์ของพระศาสดาในศาสนาเชนจะมีความคล้ายคลึ่งกับพระพุทธรูปในพุทธศาสนามาก พระศาสดาเหล่านี้เรียกว่า พระตีรถังกร (ในพระบาลีเรียกเดียรถีร์ ) (พระมหาวีร เป็นตีรถังกร พระองค์หนึ่ง ในบรรดาหลายองค์ เช่นพระปารศวนาถ สวามี  พระอาทินาถ สวามี เป็นต้น) ซึ่งมีหลายพระองค์เช่นเดียวกับในศาสนาพุทธ แต่ข้อต่างอย่างสำคัญระหว่าง พระตีรถังกรกับพระพุทธเจ้า คือ พระตีรถังกรมักจะไม่ทรงจีวรหรืออาภรณ์ใดๆ แต่จะมีรูปจักระ หรือดอกไม้อยู่ตามพระวรกาย คนไทยที่ไปเที่ยวอินเดีย มักเข้าใจผิดว่ารูปพระตีรถังกรเหล่านี้ เป็นพระพุทธรูปอยู่เสมอ

ส่วนรูปพระเทวีปัทมาวตี รูปที่เป็นเทวรูปหินอ่อน เป็นเทวีปัทมาวตี ในวัดเชน ชื่อวัดอาทีศวร ในเมืองมุมไบครับ


คิดว่าคนตั้งเขียนเรื่องนี้ คงนำเรื่องพระปัทมาวตีในศาสนาฮินดูมา แล้วเผอิญไปเอารูปพระปัทมาวตีของเชนมาแทน จึงกลัวว่าจะเกิดความสับสน ส่วนรูปข้างบนไม่ใช่พระพุทธเจ้าในฐานะองค์อวตารของพระวิษณุ แต่เป็นพระตีรถึงกร พระศาสดาเชนครับ
ส่วนองค์เทวีที่เรียกว่า ปัทมาวตีของฮินดูที่ผมเคยเห็นภาพจากวัดทางใต้ ก็เป็นเทวีพระลักษมีทรงดอกบัวในพระกรบนทั้งสอง เหมือนที่เราเห้นทั่วๆไปครับ

ในอินเดียไม่ถือเป้นเรื่องเสียหายนะครับที่จะเคารพนบไหว้ พระศาสดาหรือเทพเจ้าของศาสนาอื่นๆ เช่น ไชนะ หรือพระพุทธเจ้า เพราะชาวฮินดูคิดว่า พระศาสนาเหล่านี้ล้วนเกิดภายในอินเดีย ซึ่งจัดเป็น ระบบฮินดู หรือต่างส่งอิทธิพลถึงกัน ฮินดูบางคนก็คิดว่า ศาสนาไชน เป็นส่วนหนึ่ง ของสนาตนธรรม หรือศาสนาฮินดูครับ

ขอบคุณค่ะ พี่หริทาส
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


ขอบคุณ คุณหริทาสที่ มา ช่วย เสริม เติมเเต่ง นะครับ

นางปัทมาวดี คือนางเวทาวดีกลับชาติมาเกิด

แล้วเรื่องนี้ มันมีเรื่องนางสีดาตัวจริงตัวปลอม นางสีดาตัวจริงอยู่กับพระอัคนี นางสีดาที่อยู่ลงกาคือนางสีดาตัวปลอม พระอัคนีส่งนางเวทาวดีไปแทนนางสีดา

แล้วตอนนางสีดาลุยไฟ พระอัคนีปรากฎตัว และส่งนางสีดาตัวจริงให้พระราม นางสีดาขอให้พระรามรับนางเวทาวดีเป็นเมียอีกคน แต่พระรามไม่รับ พระรามถือแนวคิดผัวเมียเดียว นางเลยอธิษฐานว่าให้ชาติหน้าอวตารมาแล้วคู่กัน

ชาติต่อมาพระวิษณุอวตารเป็นพระศรินิวาส นางเวทาวดีอวตารเป็นนางปัทมาวดี ตอนที่พระเจ้าอากาศราชทำพิธีไถนา เจอแบบเดียวกับนางสีดา แต่เจอในดอกบัว เลยตั้งชื่อว่าปัทมาวดี

นางเวทาวดี คือพระลักษมีอวตารเป็นพราหมณีเพื่อหลอกทศกัณฐ์ให้ลวนลามนาง เพื่อนางเวทาวดีจะได้แช่งทศกัณฐ์

http://www.nangindia.com/forum/index.php?topic=1209.0

ตอนที่ฤๅษีไปหาพระพรหม พระพรหมทำเปนไม่สนใจ ฤๅษีสาปพระพรหมว่าไม่มีวัดบนโลกมนุษย์(ในอินเดียมีวัดพระพรหมที่เดียว อยู่ทะเลสาบบุษกร)

แล้วไปหาพระศิวะ พระศิวะไม่สนใจ ฤๅษีสาปว่าต่อไปให้คนบูชาพระศิวะในรูปศิวลึงค์

อย่างที่พี่คิวเคยได้บอกไว้

ดูท่าทางคุณ plawan22 ดูเป็นคนมีความรู้เยอะจริงๆ เลยนะคะ

และขอบคุณพี่หริวาสค่ะ ที่มาช่วยเพิ่มเติมความรู้ให้
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

ผมก็แค่เป็นคนชอบอ่านหนังสือเยอะ....ก็เท่านั้นครับ