Loader

มีคนบอกว่าเทวรูปที่ปั้นจากปูนไม่มีพลัง

Started by goboy999, February 05, 2009, 10:57:35

Previous topic - Next topic

0 Members and 3 Guests are viewing this topic.

ผมอยากถามท่านผู้มีความรู้ทั้งหลายครับว่าเทวรูปที่ปั้นจากปูนนั้นไม่มีพลัง จริงป่ะ  เพราะผมไปไหว้พระแม่ที่บ้านของป้าคนหนึ่งซึ่งเป็นเทวรูปของพระแม่มารีอัมมัน ปั้นจากปูนลงรักปิดทองและประดับพลอยตามเครื่องทรง  แต่แล้วจู่ๆ ขณะที่ผมกับป้ากำลังนั่งคุยกันอยู่มีชายคนหนึ่งพร้อมกับหมู่คณะสักประมาณ5-6คน เดินเข้ามาไหว้พระแม่แล้วชายคนนั้นก็เดินมาหาป้าเจ้าของบ้าน แล้วพูดว่า ทำขนาดนี้แล้วทำไม ไม่สร้างเป็นทองเหลืองเลยหล่ะ  ป้าก็ตอบไปว่า ป้าไม่มีเงินทำขนาดนั้นหรอกป้าทำได้แค่นี้ก็เป็นบุญแล้ว แล้วเขาก็พูดว่าแต่ปูนปั้นไม่มีพลังเหมือนทองเหลืองนะ ทนกว่าด้วย  ป้าก็ได้แต่ยิ้มแล้วเขาก็เดินออกไป
ผมเลยอยากถามท่านทั้งหลายครับว่าจริงป่ะ
ปล.ที่ป้าคนนี้สร้างพระแม่บูชาไว้หน้าบ้านก็เพราะป้าเคยอธิฐานขอพระแม่ให้มีงานทำตอนที่ป้าแก่ตกงาน  แต่ป้าแกไม่ได้งานทำหรอกนะ แต่กลับมีคนเอาสตรขนมครกมาให้ ป้าจึงเริ่มลงทุนขายขนมครก จนซื้อบ้านได้(ขายขนมครกยังรวยได้ง่ะ  เดี๋ยวจะไปขายมั่ง55)  พอซื้อบ้านได้ป้าแกก็ไม่ลืมพระแม่ ป้าจึงให้ช่างปั้นพระแม่ไว้บูชาหน้าบ้าน และป้าก็บอกด้วยว่าต่อให้เอาทองแท้ๆหล่อเป็นพระแม่แล้วมาแลกกับป้าแกก็ไม่ยอมแลก
ผมว่าไม่ว่าพระแม่จะสร้างขึ้นด้วยอะไรถ้าเรามีศรัทธาที่บริสุทธิ์ก็สามารถทำให้เทวรูปนั้นศักดิ์สิทธิ์ได้จริงป่ะ
และเพื่อนๆว่าไงครับ ขอความคิเห็นหน่อยครับ

ยกคำพูดของคุณ amrit_bakti จากบอร์ดเก่ามา เค้าบอกว่า
คนอินเดียนั้นไม่ว่าอะไรก็ล้วนแล้วแต่เป็นพระเจ้าได้
ต้นไม้เอาพระเนตรแห่งพระแม่ไปติด หรือเอาผงกุมกุมไปแต้ม ก็เป็นพระเจ้า
กองดินที่ดูไม่มีค่าเอาผงกุมๆ ไปแต้ม หรือเอาผ้าไปผูก ก็เป็นพระเจ้าได้
แล้วทำไมคนเราต้องไปยึดติด ...

ตัวผมเองก็เคยได้ยินเรื่องการสัมผัสพลังแห่งเทวรูปมาว่า

หิน > โลหะ > ไม้ > ซิลิก้า ((เครื่องหมาย > หมายถึงมากกกว่า))

แต่ในทรรศนะของผมไม่ว่าจะเป็น ซิลิก้า หิน  ไม้ หรือ โลหะ ถ้าเราบูชาไว้ที่บ้าน "ฉันเอาหินเลยหล่ะ โลหะเลยก็ได้ จะได้มีพลังเยอะๆ" แต่ไม่เคยไหว้ ไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยแม้กระทั่งจะหันไปมอง มันก้อมีค่าไม่ต่างอะไรกับหินดินทราย ที่เราไม่ได้ลงมือสลักหรือหล่อขึ้นมาเป็นเทวรูปนั่นแหละครับ

แต่ถ้าเราเคารพ บูชา ถวายสักการะ จิตกอร์ปไปด้วยความปราณีตที่จะบูชา ใจน้อมเข้าหาทุกพระองค์ อย่าว่าแต่องค์ท่านจะเป็นปูน หรือซิลิก้าเลย แม้คุณไม่มีเทวรูปเลย คุณก็ได้ได้สัมผัสพลังแห่งพระองค์อย่างแน่นอนครับ

พระอยู่ในใจครับ เราจับท่านขังไว้ในเทวรูปไม่ได้หรอกครับ

ยามใดจุดธูปบูชา
ยามใดกราบลงพระบาท
ยามใดที่ถวายความภักดี
พระท่านก็ประทานพรครับ

ฝากไว้แค่นี้ครับ ถ้าเพื่อนท่านใดจะเสริมเชิญได้เลยคร๊าบ



ไม่ยึดติดที่อะไรใดๆทั้งสิ้น
ขอแค่เราไหว้พระด้วยใจ

พลังก็อยู่ที่ใจนี้แหละค่ะ ...



ขอแสดงความคิดเห็น ส่วนตัว นะคะ
ถามก่อนอยากแรกว่าสมัยก่อน ในยุคพระเวทนั้นไม่มีทองเหลืองไม่มีอุปกรณ์
แม้กระทั่งธุป หรือการบรู เฉกเช่นเดียวกับเทวะรูป
สมัยนั้นแทนเทวะเทวีด้วยหินหรือสิ่งของธรรมดา
แต่ก่อน นม ก้บูชาซิริก้า ยังได้พรขออะไรก็สมหวัง
บางครั้ง มันอยุ่ที่จิตอยู่ที่ศรัทธา
พระเจ้าไม่ได้มาบอกว่าอ้าว เทอไหว้ทองเหลืองสิแล้วจะเป็นมหาเศรษฐี
อยุ่ที่คนนะคะ นานาจิตตัง
อาจ จะเพราะว่าทองเหลืองนั้นสามารถสรงน้ำได้ทน กว่าวัสดุอื่น
อยู่ที่คน นะคะ(นี้คือความเห็นส่วนตัว นะคะ)
อยากโดนรักดูซะที มันก็ดีนะ

ผมขอเสริมอีกนิดนะครับ
    จากที่เพื่อนๆ สมาชิกที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้นถูกต้องแล้วครับ เป็นไปด้วยจิตที่เคารพและศรัทราตั้งมั่น ต่อสิ่งที่เรานับถือ แต่ในที่นี้ผมจะขอกล่าว ถึงวัตถุที่นำมาซึ่งเป็นวัตถุมงคลๆ ต่างๆ
    จากที่ได้ศึกษามา การสร้างวัตถุหรือเทวรูป ถ้าจะให้ดีเป็นพิเศษนั้น จะต้องสร้างจาก ธาตุทั้ง 5 หรือ 4(เนี่ยแหละ) ซึ่งประกอบด้วย ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ และจะต้องกำเนิดเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
     ซึ่งในศาสตร์แห่งวิชาเหล่านี้จะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า ธาตุกายสิทธิ หรือ บ้างก็เรียกว่า วัตถุอาถรรภ์ ก็แล้วแต่จะกล่าวกันครับ
     และสุดท้าย ก็ขึ้นอยุ่กับจิตศรัทรา และคุณงามความดี ที่คงคู่อยู่กับเราตลอดไป ต่อให้ได้ธาตุกายสิทธิ ที่เหนือล้ำ หรือได้อำนาจที่วิเศษยิ่ง ถ้าเราไม่ปฎิบัติแล้ว ซึ่งคุณงามความดี ก็มิรั้งอยู่คุ่เราไปได้หรอกครับ
    

ดิน คือ เทวรูป
น้ำ คือ น้ำเปล่าที่เราถวายพระทุกวัน...หรือ น้ำนมก็ได้
ลม คือ ธูปหรือกำยานที่เราจุด
ไฟ คือ อารตรี หรือที่เราถวามไฟ ครั้งสุดท้ายก่อนเสร็จพิธี...


น้ำหวานคิดแบบนี้ได้มั้ยค่ะ ..??

Quote from: sweetinlove on February 06, 2009, 10:53:17
ดิน คือ เทวรูป
น้ำ คือ น้ำเปล่าที่เราถวายพระทุกวัน...หรือ น้ำนมก็ได้
ลม คือ ธูปหรือกำยานที่เราจุด
ไฟ คือ อารตรี หรือที่เราถวามไฟ ครั้งสุดท้ายก่อนเสร็จพิธี...


น้ำหวานคิดแบบนี้ได้มั้ยค่ะ ..??

คิดว่าน่าจะได้เช่นกันครับ เพราะเหมือนว่ามีใครเคยสอนผมเรื่องที่ คุณ sweetinlove กล่าวไว้ แต่ผมจำไม่ได้ว่า ใครสอนไว้ นานจนจำไม่ได้

เหมือนกับที่มีอาจารย์ท่านหนึ่งสอนให้ผมปั้นเทวรูป ที่ประกอบไปด้วยธาตุ แต่ธาตุเหล่านี้ ก็สามารถสร้างได้จากพระเวทหรือการบูชาหรือการอันเชิญ กับธาตุที่เกิดจากธรรมชาติ ที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น

ในทางพระพุทธศาสนากล่าวว่า..
  ถ้าเราทำบุุญด้ยวัตถุที่ปราณีตมาก
หรือมีราคาสูง บุญที่ได้ก็จะมากตามไปด้วย
สมัยก่อน จึงมีการหล่อพระด้วยทองคำเกิดขึ้น

แต่การทำบุญที่จะได้บุญสมบูรณ์นั้น ต้องถึงพร้อมด้วย
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม

เรามีความพร้อมแค่ไหน เราก็ทำเท่าที่เราปรารถนาอยากจะทำ
ย่อมได้บุญอย่างสมบูรณ์ ส่วนความศักดิ์สิทธิ์ของเทวรูปนั้น
ขึ้นอยู่กับศรัทธา เหมือนที่ทุกๆท่านกล่าวมาค่ะ

คนที่มาทักแบบนั้น คงแยกไม่ออก ระหว่างคำว่าบุญกับความศักดิ์สิทธิ์
ถ้าเราต้องไปกู้ยืมเงินมาสร้าง คงได้บุญน้อยลง กราบไหว้ท่านทีไร
ใจก็พะวงถึงหนี้สิน จะหาความสุขจากที่ไหนได้

ปล.เทวรูปที่บ้านก็สร้างด้วยปูนเหมือนกันค่ะ ทองเหลืองก็มี
แต่ก็ไม่เห็นว่าองค์ที่เป็นทองเหลืองจะลุกมาแสดงอภินิหารใดๆ
สรุป...ศรัทธาอยู่ที่ใจค่ะ แม้จะเป็นเพียงกระดาษ หรือรูปวาด
ท่านก็เมตตาผู้ที่กราบไหว้ท่านด้วยศรัทธาเสมอค่ะ.....

เอาเรื่องจริงๆจากตำนานเลยนะ ไม่อิงพุทธ ไม่อิงไทย เรื่องมีอยู่ว่า คุรุท่านหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ท่านคุรุท่านนี้ก็คงได้ไปอยู่ในรวมกับพระผู้เป้นเจ้าแล้ว(ปรมาตมัน) ท่านมีนามว่า บรมหงษ์ โยคะ นันทะ หลายๆท่านคงรู้จัก ในหนังสือประวัติการเดินทางจาริกของท่านนั้นล้วนแล้วแต่ทำให้จิตของผู้แสวงหาได้สว่างขึ้น ใครได้อ่านจะเข้าใจในตนเองมากขึ้น มีอยู่ตอนหนึ่งที่ท่านกล่าวว่า ท่านได้เดินทางไป ณ เทวาลัยแห่งหนึ่ง เพื่อไปกราบนมัสการ พระแม่กาลี แต่ครั้งท่านไปถึงในวิหาร ท่านกลับไม่พบเทวรูปใดๆเลย เจอแต่ก้อนหินสีดำๆ แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจอะไร คงเดินค้นหาต่อไปเรื่อยแถมไม่เจอผู้ใด จนเหนื่อยท้อ ท่านเลยออกมานั่งนอกวิหาร ในใจก็ท้อต่อว่าพระองค์ว่าทรงกลั่นแกล้ง หิวก็หิว เหนื่อยก็เหนื่อย ใจมันท้อ เพียงเท่านั้น พระแม่กาลีก็ทรงปรากฏกายขึ้น ท่านได้กล่าวกับ คุรุโยคะนันทะว่า ทำไมไม่ใช้ใจมองหาพระองค์ละ ก้อนหินสีดำที่อยูในวิหาร นั้นแหละที่เราสถิตย์ และเราก็สถิตย์อยู่ในทุกหนแห่ง ที่บริวาลเราบูชา และสรรพสัตว์ทั้งหลายนี้ก็คือเรา ครั้นพระแม่ทรงตรัสจบ คุรุโยคะนันทะ ก็มีดวงตาเห็นสรรพสิ่งทันที และลงก้มกราบแทบธรณี พอเงยหน้าขึ้นมา พระแม่ก็ท่านหายไปจาก ณ แห่งนั้นแล้ว แต่มีนักบวชของวิหารนั้น ได้เดินออกมาจากวิหาร และเข้ามาเชื้อเชิญ ท่านคุรุ เข้าไปรับประทานอาหาร และได้กล่าวว่า เชิญท่าน ......พระแม่ทรงทราบดี และพระองค์ ทรงให้ข้าพเจ้าได้จัดเตรียมอาหารไว้รองรับท่านแล้ว เชิญท่านเข้าข้างใน......


คำตอบนี้คงเป็นคำตอบได้ดีนะครับ

"เราก็สถิตย์อยู่ในทุกหนแห่ง ที่บริวารเราบูชา และสรรพสัตว์ทั้งหลายนี้ก็คือเรา"
ประโยคนี้โดนใจสุดๆ  จริงๆด้วยพระแม่สถิตอยู่ทุกที่ทุกหนทุกแห่งที่ลูกๆของท่านเอ่ยพระนามถึงท่าน
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครับได้ความรู้ทุกความคิดเห็นเลย 

เฮอๆๆๆ...ท่านทั้งหลาย มหาเทพ สถิตอยู่ทุกหนแห่ง แม้ในอนูเนื้อของพวกเธอก็มีเทพเจ้า..เหตุไฉน จึงมองเห็นแต่ในกองธาตุธุลี ไม่มองลึกไปในวิญญาณเล่า
ผู้มีปกติ แสวงหาทางพ้นทุกข์ ย่อมมีตามองเห็นธัมม์ที่พระตถาคตประกาศไว้ดีแล้ว

อ่านจบแล้วอยากจะร้องค่ะ พี่น้อง...

Quote from: ۞ Musika ۞ on February 07, 2009, 09:34:21
อ่านจบแล้วอยากจะร้องค่ะ พี่น้อง...


ทำไมหละครับ พี่น้อง...  หรือว่าไปบูชาของแพงมาครับ พี่น้อง...

Quote from: อิสสโรมุนีย์ on February 07, 2009, 09:22:53
เฮอๆๆๆ...ท่านทั้งหลาย มหาเทพ สถิตอยู่ทุกหนแห่ง แม้ในอนูเนื้อของพวกเธอก็มีเทพเจ้า..เหตุไฉน จึงมองเห็นแต่ในกองธาตุธุลี ไม่มองลึกไปในวิญญาณเล่า


ท่านผู้ทรงคุณวุฒิมาให้ความกระจ่างอีกท่าน แล้ว ครับ เป็นไงสบายดีไหมครับ ท่านหมอธรรม กำไล ยังไงถ้าไม่เจอท่าน ผมจะฝากพี่ลองภูมิไปให้เหมือนเช่นเคยนะครับ แต่บวชแล้วนี่จะใส่ได้หรือเปล่าหนอ คิคิ

Quote from: สัตตเทวบุตร on February 07, 2009, 09:43:43
Quote from: ۞ Musika ۞ on February 07, 2009, 09:34:21
อ่านจบแล้วอยากจะร้องค่ะ พี่น้อง...


ทำไมหละครับ พี่น้อง...  หรือว่าไปบูชาของแพงมาครับ พี่น้อง...

ป่าวค่ะ...ที่บ้านมีแต่องค์น้อยๆ เล็กๆ

แต่ที่จะร้องเพราะโดนใจ

"เราก็สถิตย์อยู่ในทุกหนแห่ง ที่บริวารเราบูชา และสรรพสัตว์ทั้งหลายนี้ก็คือเรา"


ผมว่าอยู่ที่จิตใจคนที่ชามากกว่า  อยู่ที่วัตถุนะคับ  ให้วัตถุดีเยี่ยมลำเลิศเเต่จิตใจต่ำมันก็ไม่มีพลังไรทั้งนั้น  แต่ถ้าเป็นวัตถุธรรมดาเเสนจะธรรมดา  แต่มีจิตใจที่ดีงามเคารพศรัทธา จะมีพลังมากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่าเลยคับ  จิตใจของคุณนั้นหละคือตัวบ่งบอกถึงพลังอันดีงาม

   อืมมม เห็นด้วยกับทุกๆท่านคับ เพราะเราบูชาพระแม่ไม่ได้บูชาวัตถุที่เรามองเห็นคับ แม้พระแม่ที่เรามองเห็นจะอยู่ในวัตถุธาตุชนิดใด ถ้าใจเราเคารพบูชา ศรัทธาอย่างแท้จริงด้วยใจบริสุทธิ์ ก็จะมีพลังทั้งนั้นล่ะคับ มากน้อยแค่ไหน แล้วแต่แรงศรัทธา และการปฏิบัติตัวของผู้บูชาเองอ่ะคับ  ....น้ำชาในถ้วย ถ้วยตกแตกไป แม้ถ้วยที่แตกไม่ใช่ถ้วยอีกต่อไปแล้ว แต่น้ำชาที่หกบนโต๊ะก็ยังคงเป็นน้ำชา เอาผ้ามาซับน้ำชาออก น้ำที่อยู่ในผ้า ก็ยังคงเป็นน้ำชาอยู่ดี

ขอบคุณมากค่ะ

อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกดีจัง

แม้แต่เทวรูปที่แตกหักไปแล้ว

ก็ไม่ทำให้เสื่อมค่าค่ะ

อยู่ที่ศรัทธาจิงๆ
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

เพิ่งได้อ่านกระทู้นี้   ปูนก็มาจากหินมิใช่หรือ  มาจากน้ำมิใช่หรือ  มาจากดินมิใช่หรือ  ทุกสิ่งล้วนมาจากธรรมชาติ  สำคัญที่เรามองท่านอย่างไร  เรามองท่านเป็นวัสดุ  หรือมองท่านเป็นพระเป็นเจ้า  นั่นต่างหากที่สำคัญ   ทุกสิ่งอยุ๋ที่จิตและศรัทธา+ปัญญา
[HIGHLIGHT=#000000]*****จยันตี มังคลา กาลี  ภัทรกาลี กปาลิณี*****  [/HIGHLIGHT]

ไม่ว่าเทวรูปจะหล่อหลอมด้วยวัสดุ หรือ สิ่งใดก้อตาม เราคิดว่า พระองค์สถิตอยู่ในใจพวกเราทุกๆคนตลอดเวลาจริงมั๊ยคร้า ขนาดองค์ที่ทำจากกระดาษเปเปอร์มาเช่ เราคิดว่ายังทรงมีพลังและมีคุณค่ามากๆเลย ทั้งๆที่สรงค์น้ำไม่ได้ มะก่อนขนาด รูปจากกล่องกำยานภาพมหาเทพสวยๆ เราก้อไม่ทิ้งนะ เอามาตัดตบแต่งสวยๆ ไว้เวลาใกล้วันเกิดเพื่อนๆ เอาไปเคลือบใสให้ดูดีหน่อย ให้เป็นของขวัญวันเกิดเพื่อนๆเป็นของมงคล เพื่อนๆยังดีใจกันใหญ่เลย เซฟค่าของขวัญไปได้อีก ไอเดียนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์คร้า  ^_^
[HIGHLIGHT=#d99694][HIGHLIGHT=#d7e3bc]   "เรา"สามารถเห็นอะไรได้ก้อด้วย"หัวใจ"ของ"เรา"เท่านั้น[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#d99694][HIGHLIGHT=#d7e3bc]สิ่งสำคัญ"เรา"ไม่สามารถเห็นได้ด้วย"ดวงตา[HIGHLIGHT=#d7e3bc]"  [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]

มีแต่คนตอบแบบโดนใจ(คนแก่)จริ๊ง ๆ  อยากให้ทุกคนบูชามหาเทพ  ด้วยความศรัทราอันแรงกล้า  ด้วยจิตที่บริสุทธิ์
ที่มีต่อพระองค์ท่านเหนือสิ่งอื่นใดก็เพียงพอแล้ว  พระองค์ท่านสถิตอยู่ทุกหนแห่งโดยฉะเพาะในใจเรานี้แหละ (สำคัญกว่าทุกที่)
มีคนเคยเล่าให้ฟังว่าประเทศอินเดียบางบ้านยากจนมาก   ไม่มีเงินจะซื้อหาเทวรูปมาบูชา  แต่พวกเข้า
ศรัทราในพระเป็นเจ้าของเค้า  เค้าก็จะเอาก้อนหินมาแทนพระองค์แล้วสวดบูชา  บางบ้านก็ไม่มีอะไรเลย
เพียงแต่หันหน้าไปในทิศทางที่พวกเค้าคิดว่าพระองค์ท่านสถิตอยู่   เค้าก็สามารถสวดมนตราถวายพระองค์ท่านได้แล้ว
(ฟังเค้าเล่ามาอีกที่หนึ่งแต่แหล่งข้อมูลค่อนข้างเชื่อถือได้)

ทุกคำตอบโดนใจมากเลยค่ะ
ศรัทราคำเดียวเท่านั้นค่ะ
เพราะถึงมีองค์ท่านไว้เคารพมากมาย
แต่ไม่มีใจศรัทรา  ไม่มีจิตตั้งมั่นถึงองค์ท่าน
ก็ไม่เกิดอะไรแน่นอนค่ะ
โอมเจมาตากาลี

ขอ สาธุ กับกุศลจิต ของท่านทั้งหลาย

ใด้อ่านแล้ว

ใด้รู้แจ้งแล้ว

ยอมรับจริงๆกับความศรัทธา ที่ท่านทั้งมีต่อพระเป็นเจ้า

สาธุๆๆ (ยิ้มๆ ยิ้มอย่างสุขใจ)
Yes, I  Love  HM...       

สาธุ ศรัทธาอันแรงกล้า ไม่ว่าจะเป็นวัตถุอันใด เศษธุลี หรือทองคำ หากมีศรัทธา และหมั่นบูชา ทุกๆสิ่งย่อมมีค่าเท่าเที่ยมกัน แม้ต่างกันด้วยราคา แต่ว่าคุณค่าในจิตใจสูงสุด อย่าลืมค่ะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอยู่ทุกหนทุกแห่งในจักรวาลนี้ อยู่ที่ใจ หากน้อมโน้มเคารพ พระเป็นเจ้าจะไม่ทอดทิ้งเราแน่ๆ สาธุแก่ผู้รู้ทุกท่านที่ให้ความกระจ่างกับผู้รู้น้อยอย่าง ญ. ค่ะ อ่านทุกๆความเห็นแล้วตื้นตันใจมาก ขออย่าได้ละทิ้งศรัทธานะคะ สาธุ สาธุ สาธุ

เห็นด้วยกับทุกๆคนเลยค่ะ  ถ้าไม่สามารถหาองค์ท่านในรูปแบบไหนได้เลย  แค่รูปภาพ  ก็สุดยอดแล้วละคะ  หรือถ้าแม้แต่รูปภาพท่านก้ไม่มี 

ขอแค่มีท่านในใจ  .... ก็มากเกินพอแล้วละค่ะ 
[HIGHLIGHT=#ffff00]ผู้ที่ได้ชื่อว่าบุตรแห่งเทวะ  ย่อมมีหัวใจของเทวะ    [/HIGHLIGHT]


อย่าคิดมาก ตัวเรายังมิใช่ของเราโดยแน่แท้ สุดท้ายยังไม่มีใครยิ่งใหญ่ไปกว่า โลงงงง หรอก เฉกเช่นเดียวกันพระเจ้าคือทุกสิ่งอย่าง ดิน นํา ลม ไฟ ทอง เหล็ก ไม้ นาค เงิน ล้วนแล้วเป็นสิ่งพึงสมมุติเพื่อให้มวลมนุษยชาติระลึกในเทวตานุสติทั้งสิ้น จงพึงสร้างแต่สิ่งดีงามเถิด ใครผู้ใดว่าเป็นแค่สัมฤทธิ์ จงอย่าใส่ใจ เปรียบเสมือนคําตรัสตราแห่งองค์พระกฤษณะเทพในคราหนึ่งที่ว่า ถ้าพึงเห็นชั้นเป็นแค่เด็กเลี้ยงวัว ชั้นก็จะเป็นแค่เด็กเลี้ยงวัว หากแต่มวลมนุษย์ผู้ใดเห็นเราเป็นพระผู้เป็นเจ้ามาโปรดแล้วไซร้ชั้นจะเป็นพระเจ้าให้แก่พวกเค้าเหล่านั้นในทุกเมื่อเชื่อวันทุกสรณะทุกขณะจิตโดยเช่นกัน....................