Loader

คราสในวันขึ้นปีใหม่ จะบอกอะไรกับคุณ?

Started by กาลปุตรา, December 29, 2009, 09:00:30

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

เรื่องคราสนั้นต้องขอทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ ว่าในคัมภีร์พระเวทและปุราณะ ซึ่งเป็นที่รวบรวมภูมิปัญญาทางด้านเทววิทยา ดาราศาสตร์ โชยติษาสตร์ (โหราศาสตร์) และเรรื่องราวตำนานต่างๆ ได้แบ่งตำราคราสไว้เป็น 2 แบบคือ มหาปุราณะ กับ อุปปุราณะ มีประเภทละ 18 คัมภีร์ รวมทั้งสิ้น 36 คัมภีร์ โดยกล่าถึงศัพท์แห่งคราสไว้ดังนี้

1. ตรัส (คระสุ) หมายถึง การถือเอา, การจับกุม, การกลืนกิน
2. ครหะ หมายถึง ดาวเคราะห์ต่างๆ ในระบบสุริยจักรวาล ซึ่งก็รวมพระอาทิตย์ไว้ด้วย
3. ครหณะ หมายถึง การพันธนาการ, การกักขัง, การจับกุม, ความยินยอมจากการใช้กำลัง
4. คราสะ หมายถึง การเข้าครอบครองสิทธิ์โดยเขาไม่ยินยอม, การทำให้มืดมัว, การบดบังแสง, การเป็นฝ่ายตรงข้า
5. ครัสตะ หมายถึง การกลืนกิน, การครอบงำโดยปิศาจ (ในที่นี้หมายถึง อสุรินทร์ราหู)
6. ปราคะ หมายถึง ฝุ่นละออง, ทาสแห่งอารมณ์, การถูกบดบัง
7. อุปราคา หมายถึง ความทนทุกข์ทรมาน, ความเศร้าหมอง, มารยาทอันไม่พึงประสงค์, การทำให้มืดมัว, การเสื่อมเกียติ

ลางร้ายแห่งคราส (อามะนายะอุตปาตะ) โดยจะนำเรื่องมาดังนี้
อนาวฤษฏี จะทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล อันนำมาซึ่งความแห้งแล้ง
อติวฤษฏี จะทำให้ฝนฟ้าตกมากจนเกินไป อันนำมาซึ่งอุทกภัยและดินถล่ม
ทุรภิกษะ จะทำให้เกิดกลียุค ข้าวยากหมากแพง และภัยที่มาจากผู้บริหาร
กีฏะภยะ จะนำมาซึ่งภัยจากพวกหนอน แมลง เข้าทำลายพืชผล
สหมรณา จะนำมาซึ่งการตายหมู่ของผู้คน เช่น เกิดสงคราม, โรคระบาด, แผ่นดินไหวรุนแรง และ ฯลฯ

ครัสตพินทุ (จุดศูนย์กลางคราส)
คราสนั้นมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ สุริยคราส กับ จันทรคราส ฉะนั้นในวันที่เกิดคราสเราจำต้องรู้เสียก่อนว่าพระอาทิตย์ หรือ พระจันทร์นั้นสถิตอยุ่ในราศีใด กี่องศา กี่ลิปดา โดยจุดที่เกิดคราสอย่างเต็มที่ตรงนั้นเรียกว่า “ครัสตพินทุ”
ถ้าจุดครัสตพินทุนั้นไปต้องกับดาวใดในดวงชะตากำเนิดโดยห่างจากดาวดวงนั้นๆ ไม่เกิน 1 องศา ย่อมแสดงว่าคราสที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นย่อมมีอิทธิพลต่อดวงชะตาอย่างเต็มที่
ถ้าจุดครัสตพินทุนั้นอยู่ห่างจากดาวในดวงชะตากำเนิดนั้นๆ มากกว่า 1 องศา แต่น้อยกว่า 3 องศา 20 ลิปดา คราสที่เกิดขึ้นนั้นย่อมมีอิทธิพลต่อดวงชะตาเพียงครึ่งเดียว
ถ้าจุดครัสตพินทุนั้นอยู่ห่างจากดาวในดวงชะตากำเนิดนั้นๆ มากกว่า 3 องศา 20 ลิปดา แต่น้อยกว่า 5 องศา คราสที่เกิดขึ้นนั้นย่อมมีอิทธิพลต่อดวงชะตาเพียงหนึ่งในสี่ส่วน
ถ้าจุดครัสตพินทุนั้นอยู่ห่างจากดาวในดวงชะตากำเนิดนั้นๆ มากกว่า 5 องศาขึ้นไป คราสที่เกิดขึ้นนั้นย่อมไม่มีอิทธิพลต่อดวงชะตาเลย ยกเว้นจะมีกรณีอื่นๆ มาเพิ่มความรุนแรง


ปริคัณฑานตะ (คราสที่เกิดในฤกษ์สนธิ หรือ นวางค์ขาด)
ใน 1 จักรราศีเราแบ่งออกเป็น 108 นวางค์ โดยทั้ง 108 นวางนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงด้วยกัน ช่วงละ 36 นวางค์ ซึ่งฤกษ์สนธิ หรือ นวางค์ขาดนั้นก็คือ นวางค์ลูกสุดท้ายของราศีกรกฏ, ราศีพิจิก และ ราศีมีน โดยถ้าเกิดคราสในจุดนี้ในคัมภีร์โบราณจะเรียกว่า “ปริคัณฑานตะนวางศ์” <o:p></o:p>
ปริคัณฑานตะนั้น แปลว่า ข้อพับ, บานพับ, ข้องอศอก ดังนั้นถาเกิดคราสในนวางค์สุดท้ายของ 3 ราศีที่กล่าวมา คราสนั้นย่อมให้ผลที่รุนแรงและอันตราย


ซึ่งทั้งหมดนี้คือความหมาย และ ผลของคราสโดยย่อ (ซึ่งถ้าผมนำมาแสดงหมด คงจะหลายหน้ามาก)  และขอเข้าเรื่องเลยดีกว่า สำหรับคราสที่จะเกิดในช่วงเดือนมกราคม 2553 ซึ่งจะมีด้วยกัน 2 คราสดังนี้
1. จันทรคราส ในช่วงรอยต่อของวันที่ 31 ธ.ค. 52 กับ วันที่ 1 ม.ค. 2553 (สากลถือว่าเป็นวันที่ 1 มกราคมแล้ว) โดยจะเกิดจันทรคราสบางส่วน สามารถมองเห็นได้ในประเทศไทย ตั้งแต่เวลาประมาณ 01.51 น. ถึงเวลา 02.54 น. จุดศูนย์กลางของคราสจะอยู่ในช่วงเวลา 02.23 น.


การเกิดคราสในวันปีใหม่นี้ จุดศูนย์กลางของคราสและพระจันทร์จะสถิตในราศีเมถุน 16 องศา 21 ลิปดา เสวยอารทราเทวีฤกษ์ อันเป็นฤกษ์ของราหู ซึ่งตามตำราโหราศาสตร์อินเดียถือว่าเป็นฤกษ์แห่งมงคลทางโลกียวิสัย

จันทรคราสในวันนี้ พระจันทร์จะถูกดาวเกตุ (ซึ่งอยู่ตรงข้ามราหูเสมอ) จับไม่ใช่ราหูจับ จุดเกิดคราศจะอยู่ในส่วนที่ 5 ของท้องฟ้ายามราตรี (แบ่งท้องฟ้าในเวลากลางคืนออกเป็น 7 ส่วน) คำทำนายคือ พ่อค้านักธุรกิจ พวกที่เสพสุขอยู่บนกองเงินกองทอง พวกอนุภรรยา พวกที่ประกอบอาชีพบำรุงบำเรอกาม ของมึนเมาจะมีภัย เหล่าขุนนางผู้ใหญ่จะต้องประสบปัญหามากมายให้แก้ไข ตลอดจนสัตว์จตุบาทจะนำโรคภัยมาให้มนุษย์

จันทร์คราสนี้เกิดในราศีเมถุน ท่านทำนายว่า พวกสตรีชั้นสูง ผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต พวกศิลปิน จะประสบเรื่องไม่ดี

ส่วนเรื่องที่ว่า ในวันเกิดคราสนั้นตามตำราพระเวทและโชยติษะ นั้นกำหนดให้ทำอะไรบ้าง ก็จะมีดังนี้ ในค่ำคืนของรอยต่อปีเก่ากับปีใหม่นี้ เนื่องจากพระจันทร์ถูกเกตุจับ จึงถือว่าเหมาสำหรับการทำพิธีกรรมทางศาสนา หรือ ไสยศาสตร์ที่เกี่ยวกับเมตตามหานิยม เช่น ทำพิธีสวดมนต์ไหว้พระ การเสริมดวง การเสริมเสน่ห์ การทำพิธีขอเงินพระจันทร์ การแกะกะลาตาเดียวเป็นรูปพระเกตุ เป็นต้น ท่านว่าขลังนัก ถ้าทำในขณะคราสเริ่มกลืนกิน หรือ ในขณะที่คราสเข้าสู่จุดศูนย์กลาง

2. สุริยคราส ในช่วงบ่ายของวันที่ 15 มกราคม 2553 มองเห็นได้ที่กรุงเทพฯ ในเวลา 14.06 น. โดยเป็นการคราสเพียงบางส่วนของพระอาทิตย์ และเป็นคราสที่จับโดยราหู พระอาทิตย์จะไม่เสียกำลังมาก เนื่องจากจุดศูย์กลางของคราสจะสถิตในราศีมกร 1 องศา 1 ลิปดา พระอาทิตย์เสวยอุตตราษาฒโจโรฤกษ์ อันเป็นฤกษ์ของพระอาทิตย์เอง ทำให้พระอาทิตย์นั้นเข้มแข็งขึ้น เมื่อเกิดใหม่ย่อมเป็นพระอาทิตย์วัยเด็กที่สดใสและมีฤทธิ์มาก

การเกิดสุริยคราสในวันนี้ จะเกิดในส่วนที่ 6 ของท้องฟ้ายามกลางวัน ท่านให้ทำนายว่า สตรีและสัตว์เพศเมียจะได้รับความเดือดร้อน พวกชนชั้นต่ำ พวกอริศัตรูทำลายชาติ จะมีภัย ประสบกับความวิบัติ

สุริยคราสครั้งนี้จะเกิดขึ้นในราศีมกร ท่านทำนายว่า สัตว์น้ำจะหายาก พวกชนชั้นต่ำจะได้รับความเดือดร้อน พวกที่นิยมใช้เวทมนตร์คาถาในทางที่ผิด พวกร่างทรง จะได้รับผลแห่งภัย พวกที่ชอบใช้กำลังและอาวุธในการต่อสู้จะประสบความวิบัติ

ส่วนเรื่องที่ว่าในวันเกิดสุริยคราสในวันที่ 15 มกราคม 2553 นี้จะเหมาะทำอะไรนั้น ก็ต้องขอบอกว่า ควรสวดมนต์บูชาสุริยเทพ ในบทสุริยนมัสการเพื่อต้อนรับพระอาทิตย์ที่กำลังเกิดใหม่โดยจะมีฤทธิ์มากหลังเกิดใหม่จากการจับกินของราหู อีกทั้งเหมาะสำหรับการทำพิธีปลุกเสกของขลังที่เกี่ยวกับคงกระพันชาตรี และพวกอิทธิฤทธิ์ ในแบบไสยขาวนะครับ เพราะถ้าเป็นไสยดำจะใช้ไม่ได้ในการเกิดคราสครั้งนี้ เพราะ คำทำนายกล่าวว่าพวกใช้ไสยดำจะถูกทำลาย ในวันนี้ควรสวดมนต์ไหว้พระเสริมดวงชะตาในด้านพละกำลังและสุขภาพ เหมาะสำหรับการแกะสลักกะลาตาเดียวเป็นรูปพระราหู อีกทั้งการสักยันต์คงกระพันชาตรีมาก

ส่วนเรื่องว่าคราสนั้นจะให้กำลังมากแค่ไหน อันนี้ต้องรอดูวันเกิดคราสนะครับ เพราะเป็นเรื่องนอกเหนือการทำนายได้ คือ ให้ดูว่าคราสนั้นสามารถมองเห็นได้หรือไม่ มีเมฆมาบดบังหรือไม่ ถ้าเป็นคราสร้ายแล้วมีเมฆมาบดบัง ท้องฟ้าไม่แจ่มใส คราสนั้นก็จะถูกลดฤทธิ์ร้ายลงในสถานที่ที่เราดูด้วย เพราะถูกกรองความเข้มข้นลงจากเมฆให้อ่อนโดยลง

ส่วนเรื่องเทวสถานต่างๆ จะปิดม่านซุ้มพระผู้เป็นเจ้า และ ไม่ประกอบพิธีกรรม นั้นเนื่องจากท่านไม่แน่ใจในผลของคราสว่าจะออกมาดีหรือร้าย เนื่องจากตำรากำหนดคำทำนายไว้ก็จริง แต่ก็มีอีกข้อที่ถูกกำหนดไว้คือ ให้ดูในขณะเกิดคราสด้วย ว่ามีลางร้าย ลางดีใดมาปรากฏเพิ่มอีกหรือไม่ ฉะนั้นพราหมณ์ท่านจึงไม่นิยมเสี่ยงให้พลังร้ายของครหะเข้าสู่หรือสัมผัสองค์เทพเจ้าได้ เหมือนอย่างเช่นพระเสาร์ทรงทำให้พระศิวะต้องไปทุกข์ทนในป่าช้าอยู่หลายปีนั่นเอง
[HIGHLIGHT=#ffff00]
[HIGHLIGHT=#ffff00]อันจิตมนุษย์นั้นชอบวิ่งออกไปแสวงหาพระเจ้าจากวัตถุภายนอก[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]จนลืมย้อนมองดูพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง อันสถิตอยู่ในใจเรา[/HIGHLIGHT]
[/COLOR][/HIGHLIGHT][/FONT]


สวัสดีครับคุณกาลปุตรา เป็นความรู้ที่ดีมาก ๆ ครับ พอดีผมมีบทสวดเป็นเป็นฮินดีอยากให้คุณกาลปุตราช่วยแปลหน่อยนะครับเพราะเห็นว่าคุณกาลปุตราจะแปลให้เป็นธรรมทานเลยอยากให้ดูให้นิดหน่อยนะครับ รบก่วนขออีเมลล์ด้วยนะครับผมจะได้ส่งให้ดูครับขอบพระคุณครับ

ขอบพระคุณคุณกาลปุตรามากๆครับ
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

สุดยอดมากเลยค่ะ ขอบพระคุณมากๆเลย

ไม่ทราบมีบทบูชาพระอาทิตย์ไหมคะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

ยังไงเดี๋ยวผม จะขึ้นกระทู้ให้ใหม่เลยนะครับ เพราะจะได้แยกไว้ในเรื่องของมนต์ หรือ เพลงบูชาเลย เพื่อจะได้ถูกต้องตามที่เจ้าของบอร์ดเขากำหนดไว้ ว่าเกี่ยวกับมนตร์นั้นควรอยู่ในกระทู้เพลงบูชานะครับ

ผิดพลาดประการใด ในการแปลก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
[HIGHLIGHT=#ffff00]
[HIGHLIGHT=#ffff00]อันจิตมนุษย์นั้นชอบวิ่งออกไปแสวงหาพระเจ้าจากวัตถุภายนอก[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]จนลืมย้อนมองดูพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง อันสถิตอยู่ในใจเรา[/HIGHLIGHT]
[/COLOR][/HIGHLIGHT][/FONT]

ขอบพระคุณท่านกาลปุตราค่ะ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


ขอบคุณนะครับ
โอม ทัต ปูรูชยา วิดมาเฮ วักรา ทุนดายา ดีมาฮี ทะโน ทันติ ปราโชดายะ 

อย่างนี้เทวรูปที่บ้านต้องหาอะไรมาปิดมาคลุมตอนเกิดคราสคืนนี้มั้ยครับ
หรือว่าต้องทำอะไรเพิ่มเติมมั้ยครับ

 

          พี่ออสกาลปุตรา  ม้ามืดจริงๆ  เล่นเอาอึ้งไปหลายตลบ อิอิ   กราบขอบพระคุณสำหรับความรู้อีกคะ อิอิ


 
         พักหลังออกหน้าออกตาเยอะหน่อย  ร่วมแจมแม่งทุกกระทู้ที่พี่ออสอยู่  ว่างๆทักมาบ้างนะ อยากเม้าแตก อิอิ


 


           จริงๆแล้วแอบชอบท่อนนี้มาก  พวกร่างทรงจะได้รับผลแห่งภัย อิอิ  ถึงเวลาแล้วละ



               ออกหน้าออกตามากไปเปล่าเนี่ย อิอิ