การที่เราเชิญเทวรูปมาองค์หนึ่ง แต่ไม่ถูกต้องตามเทวลักษณะนั้น ภูษาเครื่องทรงไม่ตรงตามปุราณะ จะผิดไหม
และการมีเทวรูป 3 องค์ไว้ภายในบ้าน ผิดไหม รบกวนขอคำตอบจากผู้รู้ค่ะ
พระคเณศ พระอุมา และเทพพระองค์อื่นๆ ห้ามมีไว้บูชา 3 พระองค์ แต่จะมากหรือน้อยกว่านั้นได้ทั้งสิ้น กฎข้อนี้ยกเว้นเฉพาะนักบวชเท่านั้น แต่ถ้าเป็นฆราวาสต้องถือตามกฎเกณฑ์โดยเคร่งครัด มิเช่นนั้นย่อมนำพาซึ่งความกังวลหาความสุขมิได้
เครดิต จากหนังสือพระพิฆเนศ เทพแห่งความสำเร็จ ธนเดช ธนเดชสวัสดิ์ หน้า 148 วรรค 2
ปล.จะด้วยสาเหตุอันใด ก็มิอาจจะทราบได้ ต้องรอท่านผู้รู้อ่านอื่นมาแถลงไขแล้วหล่ะครับ
Quote from: เทวาเหนือเกล้า on January 02, 2010, 21:59:12
การที่เราเชิญเทวรูปมาองค์หนึ่ง แต่ไม่ถูกต้องตามเทวลักษณะนั้น ภูษาเครื่องทรงไม่ตรงตามปุราณะ จะผิดไหม
รบกวนขอดูรูปได้ไหมครับ
พวกภาพเทพต่างๆ เขียนด้วยความรู้สึก ความศรัทธา ไม่ได้อ้างอิงตามปุราณะเหมือนกัน
แต่เขาเขียนตามความเข้าใจ ตามศิลปะไทย
เช่นสมุดข่อย สมุดดำ หนังสือไทย เรียกไม่ถูกครับ ก็ไม่ได้อิงปุราณะทั้งหมด
....
ถ้าไม่ถูกตามเทวลักษณะสุดๆ เช่น พระพิฆเนศปางหมอหยอง(ที่เรียกสั้นๆว่าปางซิกแพ็ก บอกว่าสร้างเลียนแบบศิลปะคันธาระ) อันนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาครับ
ขอบคุณท่านโหราน้อยและคุณตรีศังกุนะคะ วันนี้ ไปเอาองค์วิษณุนารายณ์มาเพิ่มล่ะ เนื้อที่จำกัดอ่ะ ห้ามเจาะ ห้ามติดตั้งอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น
เลยจัดได้แค่นี้ พยายามสุดขีดแล้วค่ะ หิ้งอาจจะรกไปหน่อยนะคะ ส่วนไหนที่ไม่ดี หรือตั้งผิดพลาด บอกกล่าวติชมกันได้นะคะ ยินดีรับข้อคิดเห็นของทุกท่านค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F1ba40f095a64e9ef0ed3f32e91895c81.jpg&hash=9cd62d8ff48bd9859d25ac6f74ceb8861fb7dd19) (http://www.upchill.com/image.php?id=1ba40f095a64e9ef0ed3f32e91895c81)
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Ffb704e7526649e1c5c1cd58506d05eca.jpg&hash=454524bb6440f0b64bdbc052d4f2975c2bb5db96) (http://www.upchill.com/image.php?id=fb704e7526649e1c5c1cd58506d05eca)
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F0ba593178c23cb08c11dd0fadc11f32f.jpg&hash=e57b9b9bd01b7bff6d3595ce35915f7877acbb97) (http://www.upchill.com/image.php?id=0ba593178c23cb08c11dd0fadc11f32f)
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Fb9b3c48c7e860fc298d521d78dfd2d32.jpg&hash=c150bbe20fde8998cecd7d3cb534fb23088fbd5e) (http://www.upchill.com/image.php?id=b9b3c48c7e860fc298d521d78dfd2d32)
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F1ac5f4d808bbb08a51d39c9c0aee1cf0.jpg&hash=eec6e100f7f4fe70bb870b2a48a28a51a2b4b4ef) (http://www.upchill.com/image.php?id=1ac5f4d808bbb08a51d39c9c0aee1cf0)
สาธุคะ หิ้งอันเกิดด้วยศรัทธาอย่างนี้ ดูแล้วน้ำตาจะไหลค่ะ
ทราบว่าคุณเทวาเหนือเกล้าไม่สบายและดีขึ้นแล้ว เพิ่งทราบว่าเคล็ดลับนอกจากหาหมอแล้ว ยังจัดหิ้งบูชาถวายพระเป็นเจ้าจนทรงอำนวยพระพรนี่เอง
องค์ข้างๆพระนารายณ์ที่มีนาคบนพระเศียรนั่นคือพระลักษมีใช่ไหมคะ พระพักตร์งามชดช้อยดูมีเมตตาจังค่ะ
ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงคุ้มครองนะคะ
สวัสดีคะ คุณเทวาเหนือเกล้า
เห็นหิ้งเเล้วทราบทันทีว่าเป็นของผู้ใด หิ้งสวยค่ะ
เสือคิดว่า พระเป็นเจ้าท่านสถิตอยู่ในทุกที่ รูปเคารพคือสัญลักษณ์เเทนพระองค์ จะอยู่ในเทวาลัย
ท่านยังให้พลัง ความอบอุ่นใจ เเละความหวังเเก่ผู้เคารพเเละศรัทธา เทวรูปจะอยู่ในบ้านก็ไม่ใช่เรื่องเเปลกประหลาดอะไร
เพราะเชื่อว่า พระเป็นเจ้าท่านไม่เคยประทานความหายนะ หรือความทุกข์โศกให้สาวก หรือผู้ที่กราบไหว้ท่าน
ทิศทางใดที่คิดว่าไม่มงคล ทิศนั้นยังมีเทวะรักษา ทุกอย่างเเละทุกทรรศนะคติอยู่ที่ใจทั้งหมด
เคยเรียนวิชาความจริงของชีวิต ว่าด้วยความเชื่อ จำได้ว่า อาจารย์เคยสอนโดยยกตัวอย่างว่า
ในงานสมรสคู่หนึ่ง เจ้าสาวเกิดปีวัว(ฉลู) เจ้าบ่าวเกิดปี(เสือ) ผู้คนต่างซุบซิบกันว่า เดี๊ยวเจ้าสาวคงตายก่อนสามี
เพราะว่าเกิดปีเสือ เเต่คนที่เป็นคนกล่าวอวยพรนั้นได้พลิกสถานะการ โดยกล่าวว่า เจ้าสาวเกิดปีวัว
วัว มีความขยัน ซื่อสัตย์ อดทน เข้มเเข็ง เเละเธอจะเป็นศรีภรรยาที่ดี ส่วนเจ้าบ่าวเกิดปีเสือ เสือมีความฉลาด
ว่องไว เท่าทันคน เสือมีอำนาจ เขาทั้งคู่เป็นคู่ที่สมพงศ์กัน จะพากันเจริญก้าวหน้า
ดังนั้นเสือเชื่อว่า ความเชื่อทุกอย่าง สามารถเปลี่ยนเเปลงได้ ส่วนหิ้งที่มีพื้นที่จำกัด เรื่องทิศทาง เสือคิดว่าอย่าไปกังวลหรือคิดมาก
เพราะยังไงโลกนี้ก็เป็นทรงกลม หากคิดว่าทิศใต้ กับ ทิศตะวันตก ไม่มงคล โลกเราก็คงมีเพียงซีกเดียว เอียงๆ เเบนๆ
ถ้าคุณบูชาด้วยหัวใจ ลำลึกถึงพระองค์ด้วยความเคารพรัก เสมือนบิดา มารดา อันเป็นที่รัก ที่พึ่งทางใจของคุณ เเละยกย่องท่านเหมือนชื่อของคุณ คือ เทวาเหนือเกล้า คุณจะตั้งหิ้งเเบบไหน เทวาจะอยู่เหนือเกล้าคุณ หากมีความเชื่อว่า ทุกสรรพสิ่งคือ สิ่งที่พระเป็นเจ้า สรรสร้างขึ้นมา
ด้วยความรัก คุณก็คือสิ่งที่พระเป็นเจ้าท่านรัก เเละสรรสร้างเช่นกัน หิ้งของคุณจะเป็นโต๊ะ เเท่นหิน โต๊ะประดับมุกอย่างอลังกาล หรือ ตู้เสื้อผ้า
ที่คิดว่า ฉันมีเเค่นี้ ฉันอยากยกย่องท่าน ฉันอยากมีพระในบ้าน ฉันอยากมีพระในใจ ฉันอยากอยู่ใกล้พระองค์ ฉันอยากบูชาพระองค์
เเละตู้เสื้อผ้า คือส่วนที่อยู่สูงที่สุดในบ้านที่ฉันมีพอจะวางได้ เเละตู้เสื้อผ้าก็สูงกว่าศรีษะฉัน ทำเถอะคะ เชื่อมั่นเถอะค่ะ คุณทำดีเเล้วคะ
บูหาด้วยหัวใจนะคะ หัวใจที่สูงส่งของคุณเทวาเหนือเกล้า
อย่าให้คำว่า สมควร หรือไม่สมควร มาเป็นข้อกำหนด กางกั้นในสิ่งที่เป็นที่พึ่งของคุณ
ขอบพระคุณกำลังใจจากคุณน้องโด่งผู้น่ารัก และขอบคุณคุณน้องเสือ(ตัวน้อยของพี่) เทวาเหนือเกล้า คำนี้จารึกในใจพี่เสมอค่ะ
หวัดดีค่ะ พี่แนท
ได้เห็นหิ้งพระพี่แนท แล้วจัดได้สวยนะคะ ขนาดพื้นที่จำกัด
กิมชอบองค์พระพิฆเนศที่เป็นหยกอ่ะค่ะ ....
แต่กิมไม่เห็นภาพไกล ตรงๆ อ่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง
หรือว่าเราดูไม่เป็น คิคิ
ผ้าคลุมหิ้งสีแดงลายไทยสวยจังนะคะ
การจัดยังไม่ถูกต้องนะครับควรแยกพระพุทธที่เป็นแผ่นไม้ไว้ต่างหากครับแล้วคุณบูชาองค์ไหนเป็นพิเศษก็เอาองค์นั้นเป็นประธานครับโดยแยกเป็นสองฝั่งเทพอยู่ฝั่งหนึ่งพระอยู่ฝั่งหนึ่งไม่ควรเอามารวมกัน พวงมาลัยดอกไม้ก็ไม่ควรคล้องที่องค์เทวรูปควรหาพานมาวางจะเหมาะสมกว่า และผ้าที่ห่มเทวรูปอยู่นั้นก็ควรเอาออกไม่สมควรครับจะทำให้พลังของเทวรูปเสื่อมได้
ขอบคุณท่าน Thiti นะคะ
จัดได้สวยมากครับแนท แสดงถึงความตั้งใจ ขอแนะเพิ่มนิดคืออยากให้หาผ้าขาวปูรองพระพุทธรูป
หิ้งของแนทจะเน้นองค์เทพ หากจัดแยกพระพุทธรูป ไว้ต่างหากกับเทพจะดูไม่สมดุลเพราะองค์เทพเยอะ
เท่าที่รู้สามารถจัดรวมได้นะ จะนิยมกลางพระพุทธรูป ซ้ายพระพุทธ(ขวาเรา) เทพต่างๆ ฤาษี ขวาพระพุทธ(ซ้ายเรา) พระสงฆ์
หิ้งแนทบูชาเน้นองค์เทพ น่าจะจัดได้ เพราะไม่มีพระสงฆ์เลย ส่วนการนำดอกไม้ มาลัยคล้ององค์เทพ เราว่าจัดใส่พานน่าจะดีนะ
หิ้งผมยังไม่สวยเท่านี้เลยแต่ก็เน้นที่ใจ น้อมบูชาด้วยศรัทธา ชอบหิ้งแนทที่มีธูปเทียนแพไว้ขอขมาก่อนสวดมนต์(เหมือนผม)
ผิดพลาดประการใดขออภัยท่านผู้รู้แนะนำด้วยนะครับ
เจมส์ซิโน
ปล.พระวิษณุสวยงามมาก
Quote from: thiti on January 06, 2010, 21:10:50
การจัดยังไม่ถูกต้องนะครับควรแยกพระพุทธที่เป็นแผ่นไม้ไว้ต่างหากครับแล้วคุณบูชาองค์ไหนเป็นพิเศษก็เอาองค์นั้นเป็นประธานครับโดยแยกเป็นสองฝั่งเทพอยู่ฝั่งหนึ่งพระอยู่ฝั่งหนึ่งไม่ควรเอามารวมกัน พวงมาลัยดอกไม้ก็ไม่ควรคล้องที่องค์เทวรูปควรหาพานมาวางจะเหมาะสมกว่า และผ้าที่ห่มเทวรูปอยู่นั้นก็ควรเอาออกไม่สมควรครับจะทำให้พลังของเทวรูปเสื่อมได้
สวัสดีคะ พี่แนทเจ้าของหิ้ง พิมมี่เป็นสมาชิกใหม่นะคะ คือพิมมี่ชื่นชมความศรัทธาของพี่มากเลยคะ
สวยงามด้วยความศรัทธา สง่างามด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีคำว่าผิดหรือถูกต้องคะ สำหรับคำว่าศรัทธา ถ้ามีศรัทธาเป็นตัวตั้ง ทุกสิ่งก็จะถูกต้องคะ
พิมมี่สงสัยคะ ว่าทำไมพวงมาลัยถึงคล้องที่องตค์พระไม่ได้ ผ้าที่ห่มเทวรูปก็ไม่ควรห่มไว้
อย่างนี้ วัดแขกสีลม หรือวัดฮินดูทั่วโลกก็ทำผิดวิธีใช่มั้ยคะ วอนผู้รู้ ช่วยไขปัญหาให้ห้น่อยนะคะ
(ภาษาของพิมมี่อาจวกไปวนมานะคะ ขอโทดทีคะ มือใหม่คะ)
Quote from: โหราน้อย on January 02, 2010, 23:10:03
พระคเณศ พระอุมา และเทพพระองค์อื่นๆ ห้ามมีไว้บูชา 3 พระองค์ แต่จะมากหรือน้อยกว่านั้นได้ทั้งสิ้น กฎข้อนี้ยกเว้นเฉพาะนักบวชเท่านั้น แต่ถ้าเป็นฆราวาสต้องถือตามกฎเกณฑ์โดยเคร่งครัด มิเช่นนั้นย่อมนำพาซึ่งความกังวลหาความสุขมิได้
เครดิต จากหนังสือพระพิฆเนศ เทพแห่งความสำเร็จ ธนเดช ธนเดชสวัสดิ์ หน้า 148 วรรค 2
ปล.จะด้วยสาเหตุอันใด ก็มิอาจจะทราบได้ ต้องรอท่านผู้รู้อ่านอื่นมาแถลงไขแล้วหล่ะครับ
เออ คือผมไม่ค่อยเข้าใจอะครับว่าทำไมห้ามมีไว้บูชา 3 องค์ ถ้าเกิดเราบูชาแบบตรีเอกานุภาพ คือพระแม่ลักษมี พระคเณศและ พระสรัสวดีอย่างนี้ได้หรือเปล่าครับ
เพราะพอดีที่บ้านกำลังจะไปหาพระแม่สรัสวดีมาให้ครบ 3 พอมาอ่านหัวข้อนี้เลยชักลังเลแล้วครับ
ปล. มือใหม่ไม่ค่อยมีความรู้ รบกวนผู้รู็ทั้งหลายในบอร์ดด้วยครับ
ที่ใส่มาลัยที่ใส่พาน การถวายความเคารพสักการะ
ส่วนที่คล้องคอไม่ได้ เพราะท่านไม่ใช่นักร้องค่ะ
ล้อเล่นคะ เเซวเล่นน่ะพี่เเนท
ขำคุณเสือร้องไห้ตรงที่ท่านไม่ใช่นักร้อง 555555
ห้าม เทวรูปละสามองค์ครับ เช่น ห้ามมีเทวรูปพระคเณศสามองค์ แต่มีมากหรือน้อยกว่านั้นได้
Quote from: thiti on January 06, 2010, 21:10:50
พวงมาลัยดอกไม้ก็ไม่ควรคล้องที่องค์เทวรูปควรหาพานมาวางจะเหมาะสมกว่า และผ้าที่ห่มเทวรูปอยู่นั้นก็ควรเอาออกไม่สมควรครับจะทำให้พลังของเทวรูปเสื่อมได้
เเปลกจังคราบผึ่งจะทราบนะเนี่ยว่าผ้าที่ห่มเทวรูปเเล้ว จะไม่สมควรเเล้วทำให้เทวรูปเสื่อมใด้อะ เเต่สำหรับผมกลับคิดไม่เหมือนคุณอะ อีกย่างผมก้อว่าสวยดีอะ เจ้าของเขาถวายด้วยใจอะเต็มที่คราบ ผมเป็นกำลังจัยให้อะ
ที่มาของเรื่องการไม่คล้องพวงมาลัยที่องค์พระนั้น คุณเสือร้องไห้เขาน่าจะมีเหตุผลมาจากคำสอนของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ และพระเกจิอีกหลายท่าน
ที่ท่านกล่าวไว้เกี่ยวกับการนำพวงมาลัยไปคล้ององค์พระ โดยยึดจากพระวินัยข้อ คือ ห้ามใช้ของหอม และห้ามตกแต่งร่างกายด้วยดอกไม้
ดังนั้นสูตรนี้จึงถูกนำมาใช้กับพระพุทธด้วย โดยจะไม่นิยมคล้องมาลัยที่องค์พระพุทธ และเกิดการเปรียบเทียบว่าพระนั้นมิใช่นักร้องไม่ควรคล้องมาลัย
ผมก็กระทำเช่นนั้นเหมือนกัน โดยการถวายดอกไม้ใส่พานเอา และเหตุผลอีกอย่างก็เพราะในดอกไม้นั้นมีความชื้นสูง จะทำให้โลหะที่ทำพระ
เกิดรอย หรือเกิดสนิมได้ง่าย
ส่วนการห่มองค์พระนั้น ผมเห็นว่าไม่มีกฏใดห้ามไว้ ดูอย่างการห่มจีวรให้พระพุทธรูป จึงมีปรากฏอยู่มากมาย
ดังนั้นอนุมานได้ว่า คุณเสือร้อไห้เขาน่าจะเอาสูตรมาจากเรื่องการคล้องมาลัยพระพุทธ แล้วขยายไปจนถึงเรื่องห่มจีวร
เรื่องการคล้องมาลัยองค์เทพนั้น สามารถกระทำได้ เนื่องจากศาสนาฮินดูไม่ได้มีพระวินัย หรือข้อห้ามไว้ ดังจะเห็นได้จากในตำนานต่างๆ
จะมีการถวายพวงมาลัยที่องค์เทพเสมอ
ฉะนั้นผมจึงเห็นว่า การคล้องมาลัยองค์พระพุทธรูปนั้นไม่ควร แต่การคล้องมาลัยองค์เทวรูปนั้นกระทำได้ ตามเหตุผลที่อ้างไว้ข้างบนครับ
Quote from: Fluorine on January 07, 2010, 02:19:46
ห้าม เทวรูปละสามองค์ครับ เช่น ห้ามมีเทวรูปพระคเณศสามองค์ แต่มีมากหรือน้อยกว่านั้นได้
คุณหมอกล่าวถูกต้องแล้วครับ
เทพที่มีภรรยา2องค์ ยกเว้นด้วยไหมครับ
พระวิษณุ มีพระแม่ภูเทวี และพระแม่ลักษมี
พระสกันทะ มีพระแม่วัลลี และเทวยานี
ตรงนี้เขาหมายความถึง เทพองค์เดียวกัน เช่น พระคเณศซึ่งก็คือพระคเณศ แล้วมีไว้ 3 องค์พอดี โดยเป็นความเชื่อนะครับว่าจะไม่ดี แล้วมีการนำไปใช้กับเทพองค์อื่นด้วย ทั้งนี้ไม่รวมกับปางที่เอาไปรวมกับเทพองค์อื่นนะครับ เช่น ปางที่ทำมาเป็นรูปพระศิวะ+พระคเณศ+พระอุมา เช่นนี้เป็นต้น ดังดังเรื่องพระสกันทะนั้นจะอยู่ร่วมชายาอีก 2 องค์ก็ถือว่าไม่ผิด เพราะมีสกันทะกุมารปรากฏเพียงองค์เดียว
ส่วนเรื่องศาสตรา หรือ อาวุธของเทพเจ้าก็เหมือนกัน ห้ามมีของชนิดเดียวกันไว้ 2 อัน อาทิเช่น สังข์ ก็ห้ามมีไว้ 2 ขอน หรือ จักรก็ห้ามีไว้ 2 อันจะน้อยกว่าหรือมากกว่าก็ได้ อันนี้ก็ไม่ค่อยทราบที่มาเหมือนกันว่าเพราะอะไร เพียงแต่มีการกล่าวเอาไว้เท่านั้นเอง
ขอบพระคุณทุกท่านสำหรับข้อคิดเห็นค่ะ จะได้แก้ไขและปรับปรุงค่ะ
หากแต่ตัวแนทเองมีข้อสงสัยว่า เทวรูปสององค์จะหันอาวุธเข้าใกล้กันไม่ได้ จริงหรือเปล่าคะ แล้วมาจากสาเหตุอะไรเป็นหลักคะ
รบกวนท่านผู้รู้อีกสักนิดนะคะ จะเป็นพระคุณอย่างสูงเชียวค่ะ
หันอาวุธเข้าใกล้กัน หมายความว่าไง ไม่เข้าใจครับ
นั่นก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ ที่อาจมองว่า การที่เทพเจ้าหันอาวุธเข้าหากันจะไม่ดี เพราะมองว่าเป็นเหมือนการปะทะกะ โดยเฉพาะส่วนนี้ก็มาจากพวกหมอดูฮวงจุ้ยนั่นเอง
อย่างที่ผมเคยเขียนลงไปในนิตยสาร เรื่องการแก้ฮวงจุ้ยครุฑอยู่ตรงข้ามบ้านนั่นเอง โดยมีหมอดูผมขาวชื่อดังท่านหนึ่ง (ไม่ขอบอกนามนะ) ได้คิดวิธีแก้แบบวิตถารขึ้น คือ ให้เอากากีมาตั้งไว้ในบ้าน เพื่อให้พญาครุฑหลงรักและไม่ทำร้าย ซึ่งผมก็เคยแย้งเขาไปว่า หลักฮวงจุ้ยนั้นสอนให้รู้จักการปรับสมดุลของธรรมชาติเป็นหัวใจ
การนำรูปมงคลมาไว้ในบ้านเรือนก็เปรียบเสมือนในบ้านเรามีผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นมงคลอยู่ในบ้านเช่น เทพที่เกี่ยวกับความร่ำรวย เป็นต้น จะได้ทำให้ครอบครัวเราร่ำรวยตามไปด้วย
แต่คราวนี้เขาดันไปเอากากี ซึ่งคนไทยมองว่าเป็นหญิงหลายผัวมาไว้ในบ้าน ผมก็เลยถามเขากลับไปว่าต้องการให้คนในครอบครัวนี้กลายเป็นกะ..?.. ไปหรือไง ถึงเอาหญิงหลายผัวมาตั้งในบ้าน ซึ่งหมอดูที่อายุมากท่านนี้ก็นิ่งตอบไม่ได้
เห็นหรือยังครับคนบางคนอาศัยความดังของตัวเองมาสร้างกระแสของตน ซึ่งผมเองก็เคยใช้วิธีนี้ศอกกลับเขาไปบ่อยๆ เช่นการไปไหว้พระตรีมูรติ เห็นเขามักชอบคิดกันและสร้างกระแสของตัวเองเพื่อเช็คว่าคนสนใจเขามากแค่ไหน โดยบอกว่าการจะไปไหว้พระตรีมูรตินั้นต้องเอาช้างคู่ไปถวาย
ผมก็เลยย้อนศรบ้าง โดยเขียนในแบบผมบ้าง ว่าการไหว้พระตรีมูรติที่ถูกต้องนั้น ต้องมาทำความรู้จักกับพระตรีมูรติกันก่อนว่าท่านเป็นใคร มีอะไรเป็นพาหนะหนือสัตว์คู่วรกายท่าน ผมเลยเขียนไปว่าการถวายช้างนั้นถือว่าไม่ถูกสักทีเดียว ที่ถูกต้องควรถวายสุนัข เพราะเป็นสัตว์คู่วรกายของพระตรีมูรติ อันหมายถึงพระเวททั้งสี่ อีกอย่างถ้าต้องการถวายตัวเดียวก็ถวายวัวตัวเมีย จะถูกกว่า
ผลที่ได้รับก็คือ ในวันวาเลนไทน์หลายปีที่ผ่านมา ผมได้เดินไปดูที่ศาลพระตรีมูรติ ปรากฏว่ามีการนำรูปปั้นสุนัขไปวางกันเป็นจำนวนมาก เลยทราบว่ามาจากกระแสของผม และผมคิดว่าถ้าจะทำเช่นนี้แล้ว ก็ควรทำให้ถูกต้องคล้องจองกับหลักของเขา
การที่มองว่าเทพเจ้าหันอาวุธเข้าหากันแล้วไม่ดี ก็เกิดขึ้นจากที่มาทำนองเดียวกันนั่นเอง แต่มีใครเคยคิดหรือไม่ ว่าพระเจ้านั้นคืออะไร พระเจ้านั้นคือความดีนั่นเอง ส่วนปฏิมากรรมพระผู้เป็นเจ้าก็เหมือนบุคลาธิฐานที่เราต้องการให้ปรากฏความดีให้เป็นรูปเป็นร่างมองเห็นได้
ดังนั้นการที่ความดีหันศาสตราของความดีมาชนกัน ย่อมไม่ใช่เรื่องร้าย เพราะเขาเอาอาวุธแห่งปัญญามาเจอกัน ผมเลยมองสูงขึ้นไปอีกหน่อยว่าไม่ใช่เรื่องไม่ดี แล้วสามารถวางได้ตามความเหมาะสม
แต่ถ้าวางแล้วเรารู้สึกไม่ดี เราก็เปลี่ยนเอาครับ นานาจิตตัง ขอเพียงให้วางแล้วเราสบายใจก็พอ ไม่ใช่เอารูปพระเจ้ามาไว้ในบ้านแล้วเราเองดันมาทุกข์ใจ อย่างงี้ตกลงเราเอามาบูชาหรือเอามาประดับบ้านอวดบารมีกันเล่า
ขอบพระคุณพี่กาลปุตราค่ะ สำหรับแนวคิดดี ๆ
ที่ได้นำมาให้เรียนรู้กันค่ะ
ว่าแต่หนังสือของคุณพี่แถวซอยบ้านหนูสงสัยยังไม่เจริญ (โหรามหาเวทย์) หาไม่ได้สักกะร้านค่ะ
สงสัยต้องไปรอซื้ออ่านที่ซีเอ็ดสถานเดียว
ที่ผมไม่ให้คล้องพวงมาลัยองค์ท่านโดยตรงก็เพราะว่ายาฆ่าแมลงที่มากับพวงมาลัยดดอกไม้นั้นจะทำลายเนื้อผิวของเทวรูปไงครับผม และท่านเป็นพวงมาลัยที่ร้อยแบบปราณีตเหมืนในวังกันแบบนั้นสมควรที่จะคล้องมากกว่าครับแต่ก็ไม่ควรบ่อยเช่นกันครับ และถ้าเป็นพวงมาลัยแบบธรรมดาทั่วๆไปไม่ค่อยปราณีตเท่าไรผมว่าควรวางใส่พานเบื้องหน้าท่านจะดีกว่าครับ และผมขออธิบายเรื่องการห่มผ้าเท่าที่ศึกษามานะครับโดยในสมัยนี้เทวรูปส่วนใหญ่เขาจะมีผ้าทรงสลักเสลามาอย่างละเอียดมาให้เรียบร้อยหมดแล้วไม่จำเป็นที่ต้องมาเพิ่มให้เทวรูปอีกแม้จะเป็นเทวรูปเปลือยอกก็ตาม ที่สำคัญที่สุดนั้นการถวายผ้าทรงและเครื่องประดับแก่เทวรูปนั้นยังเป็นเพราะจุดประสงค์ว่าเครื่องถนิมพิมภาภรณ์นั้นเป็นสัญลักษณ์และพลังแห่งความร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์ การถวายจึงเพื่อให้เทวรูปประทานความร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์นั้นแก่ผู้ถวายบูชา และถ้าจะหาผ้าทรงมาถวายก็ไม่ควรหาแบบทั่วๆไปต้องเป็นผ้าชั้นดีอย่างดีทุกอย่างหมดครับซึ่งต้องเป็นบุคคลชั้นสูงเท่านั้นครับและถวายเฉพาะเทศกาลเท่านั้น และการห่มแบบนั้นก็เหมือนการทำให้เทวรูปไม่สามารถแผ่พลังมาได้อย่างเต็มที่แต่เรื่องนี้ก็คงห้ามกันไม่ได้แล้วเพราะคติความดิดใหม่ๆในสมัยนี้กลืนกินคติดั้งเดิมแบบโบราณ ฉนั้นต้องตามเวรตามกรรมแล้วอะครับ
ทำไมต้องเรียกผมว่าเสือร้องให้ด้วยครับ
เรื่องข้อห้าม เทวรูปแบบเดียวกัน 3 องค์ อื้ม รู้สึกว่าเคยอ่านเจอใน นิตยสาร เทวาลัย สมัยก่อนนะ แต่พยายามค้นหาเล่มนั้นไม่เจอ ใครเคยซื้อนิตยสาร เทวลัย เก่าๆไว้ลองเอามาค้นหาดูนะครับ เขามีคำตอบ
ขอประทานโทษนะคะ พิมมี่ว่า การที่เราถวายพวงมาลัย ถวายที่พระศอของเทวรูปนั้น เป็นสิ่งที่ดีงามตามประเพณีของชาวฮินดูนะคะ
แต่ถ้าบางท่านได้ทราบจากทางฝ่ายพุทธมา ก็จะนำมาใส่พานตามวัฒนธรรมทางพุทธอะคะ เหมือนที่ท่านกาลปุตราได้กล่าวไว้อะคะ
ก็ต้องแล้วแต่ละท่านนะคะว่าจะคิดกันแบบไหน บ้างก็หวังดีไม่อยากให้เนื้อของเทวรูปเสียหาย แต่ดิฉันคิดว่า น้ำยาคงเป็นส่วนน้อยละมั้งคะ
ลองดูพระปิไลยาร์ปัตติสิคะ ท่านอยู่มาก็นาน พอๆกับอายุเราหลายคนในที่นี้รวมกันเลยนะคะ ท่านโดนแขวนทั้งดอกไม้ บูชาด้วยภัสตราภรณ์มาตั้งนาน
ท่านยังอยู่ได้ถึงทุกวันนี้เลยนะคะ และดิฉันคิดว่า การที่เราห่มเครื่องทรงถวายนั้น ไม่น่าจะเป็นการจำกัดพลังเทวะนะคะ เทวะท่านมีเทวานุภาพมากมาย
ท่านเป้นถึงมหาเทพ มหาเทวี ท่านคงไม่มาหมดพลังแค่โดนผ้าสาหรีหรือผ้าโดรตีนุ่งห่มไว้หรอกคะ อันนี้คือความคิดของดิฉันนะคะ ไม่งั้นพระแม่ตามวัดต่างๆก็ถูกจำกัดพลังไปด้วยสิคะ
( หากข้อความใดพิมมี่มแรงเกินไป ขออภัยมาล่วงหน้าเลยนะคะ ยินดีรับคับติชมคะ )
อันนี้ผมเห็นด้วยกับคุณพิมมี่อย่างยิ่งครับ
เยี่ยมออลเลยคับ อิอิ:"D
ตอบตาเจมส์ค่ะ
นี่ๆ ตาเจมส์ดูพระของแนทให้ดีนะ แนทไม่ได้ใส่ให้ชัด อ่ะ ใส่ให้ชัดแล้วดูให้ดี ว่าท่านเป็นใคร
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Fffa5843e483462db89a3f00b52607589.jpg&hash=46ded64b0b3ac052e7161adc0307a66a19f1aca8) (http://www.upchill.com/image.php?id=ffa5843e483462db89a3f00b52607589)
เฉลย สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ท่านเป็นพระสงฆ์ใช่ไหมเอ่ย และที่เห็นไม่ใช่แผ่นไม้อัดนะคะ
อุ้มทีน่ะหนักนะ เป็นเนื้อโลหะภายในกรอบ แล้วกรุด้วยผ้าสักหลาดแดงอีกทีหนึ่ง ส่วนพระเครื่ององค์เล็ก
ถามแม่เห็นแม่บอกว่า ป๊าเค้าเช่ามาแบบนี้ แม่ก็เห็นแบบนี้มาแต่แรก ตั้งแต่แนทเกิดมาก็เห็นแล้วอยู่ในบ้านแม่
พอแยกมาอยู่คนเดียวก็เลยขอท่านมา องค์นี้แนทรักมาก รู้สึกว่าจะอายุได้สัก สี่สิบถึงห้าสิบปีแล้วล่ะมั๊ง แต่พยายามดูแล
ท่านให้ดีมาตลอด อิอิ ตาเจมส์ อย่ามึนบ่อยนะเพื่อน อ้อ ปูผ้าขาวแล้วนะ
พี่แนท และทุกท่านขา
(ยกมืออายๆ แล้วทำหน้าจ๋อยๆ)
ดิฉันเป้ฯอีกคนที่หลงไหลการคล้องมาลัยที่เทวรูปมาเลยค่ะ ชอบเป็นชีวิตจิตใจ (เฉพาะเทวรูปของตัวเองนะคะ) ของวัดหรือของคนอื่นจะวางไว้ในที่อันสมควรหรือมอบให้ผู้ดูแลไปจัดการ แต่แต่งเทวรูปด้วยผ้า ทำไม่เป็นค่ะ เลยไม่ได้ทำ 555555 ฝีมือแบบหนู
เอ่อ เคยได้ยินเรื่องสารพิษทำลายเนื้อเทวรูปค่ะ แต่เรื่องพลังเนี่ยเพิ่งเคยได้ยินค่ะ น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย
ชัดแล้วครับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี สวยงามมาก แล้วแนทมีพระพุทธรูปที่เป็นประธานด้วยไหม การตั้งหิ้งนิยมพระพุทธรูปไว้ตรงกลางนะ
ปล.พรุ่งนี้เจอกัน
เรื่องการกำหนดจำนวนเทวรูปสำหรับการบูชาในบ้านเรือน มีกล่าวไว้เหมือนกันในหนังสือเรื่อง ประวัติพระคเณศ ฉบับของเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ (พิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๐) ดังนี้ครับ
.
น.๒๐
.
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimage.ohozaa.com%2Fi9%2Fpram21.jpg&hash=fe438b5af2f001fa860a7a291cfa40a4df729dc4) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=108b1d9567d1211c5cfee3dfef762adf)
.
น.๒๑
.
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fimage.ohozaa.com%2Fix%2Fpram22.jpg&hash=4d5da485f91ae3cac192ddd164e466c1104e19a0) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=810bf0e718afb0c1592cebca36d70503)
.
ซึ่งผมคิดว่าจากข้อความในหนังสือเล่มนี้อาจจะเป็นต้นเค้าให้หนังสือที่ถูกเขียนหรือเรียบเรียงในชั้นหลังๆ นำเอาไปขยายความต่อจนเป็นที่รับรู้และรับทราบมาจนถึงปัจจุบันครับ (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ)
ข้อหนึ่ง ตอบท่าน ศรีอักษรชนนี
สาธุค่ะและขอบพระคุณความรู้ที่ได้นำมามอบให้ค่ะ คุณน้องที่รัก ชัดเจนแจ่มแจ้ง รับทราบและจะนำไปปฎิบัติตามเจ้าค่ะ อิอิ (มีแอบขำ)
ข้อสอง ตอบตาเจมส์ เพื่อนจอมมึน
เรากะลังหาพระประทานอยู่คิดว่าอยากจะได้เป็นหลวงพ่อโสธร หรือไม่ก็เป็นสมเด็จไพรีพินาศ หรือไม่ก็พระพุทธชินราช กำลังมอง ๆ ดูอยู่
ขอบคุณ สำหรับคำชมและคำติเพื่อก่อของนาย เพื่อน
ข้อสาม กราบขอบพระคุณ ทุกท่าน ทุกความเห็น ที่ได้รับมาและได้ทำการแก้ไขแล้วค่ะ ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ
ปล. รักฮินดูมีตติ้งมากค่ะ
อ้าวยังนี้ผมก็อันเชิญพระแม่กาลี กับ พระแม่ทรุคามาบูชาไม่ได้อ่ะสิ เพราะห้ามมีเกินสามองค์ ก่ะว่าจะหาองค์พระแม่อีกองค์เอาองค์ใหญ่ๆๆ มาตั้งไว้กลางบ้านด้วย ร่วมทั้งหมด 7 องค์ในบ้าน
แล้วจะเกิดความกังวลในบ้านยังไงหรอครับ???????
บูชาเทพ แล้วมีความกังวลและกลัดกลุ้มใจตามมา บูชาแล้วเครียดนั่นเครียดนี่ ก็อย่าบูชาเลยครับ
การบูชา เป็นไปเพื่อเทวานุสติ นึกถึงคุณของเทพที่ช่วยเหลือ และเป็นไปเพื่อความศรัทธาครับ
แต่ผมบูชาท่านก็ไม่เคยเครียดเลย ชอบด้วยซ้ำครับ
ในตำราท่านหมายถึงเทวรูปพระเป็นเจ้าที่มีชื่อซ้ำกันสามองค์ครับ (เช่น พระแม่กาลี ๓ องค์ และพระแม่ทุรคา ๓ องค์ เป็นต้น)
ส่วนเรื่องความทุกข์หรือกังวลใจหากบูชาเทวรูปชื่อเดียวกัน ๓ องค์นั้น ท่านเพียงกล่าวไว้ในตำรา จะเป็นจริงมากน้อยเพียงใดนั้น ผมว่าอยู่ที่ตัวผู้บูชามากกว่า หากคุณบูชาเทวรูปพระเป็นเจ้าชื่อเดียวกันสามองค์ แล้วคุณสบายใจไม่ได้เดือดร้อนอะไร ก็บูชาไปเถิด แต่หากไม่คิดอะไรมากที่จะเชื่อตามตำราก็ดีครับ อย่างน้อยเราก็ได้ความสบายใจอีกเช่นกัน
ที่จะให้บรรยายว่าทุกข์ใจหรือเดือดร้อนอย่างไรนั้น ก็เกินวิสัย เพราะผมเองก็ไม่เคยประสบพบเจอ ของแบบนี้มันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เพียงแต่โบร่ำโบราณท่านกล่าวไว้ หากไม่เชื่อก็ฟังหูไว้หูก็ดีครับ...เพราะอย่างไรเสียก็ควรดูที่ตัวเราผู้บูชาโดยควบคู่ไปกับขนบธรรมเนียมการบูชาที่โบราณว่าไว้ หากสิ่งใดเป็นสิ่งที่ดี อันไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อนก็ทำไปเถิดครับ
งี้ ถ้าสมมุตนะคะสมมุต
สมมุตเรามีสององค์ แล้วได้เพิ่มมาอีกองค์
เราเชิญท่านไว้ในกล่องก่อน แล้วหามาเพิ่มให้เป็นสี่หรือห้าแล้วถึงนำขึ้นหิ้งได้ไหมคะ
อารมณ์ว่าเจตนาปกปิดบัญชีทรัพย์สิน
ไรงี้
จงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินแบบนี้ เสี่ยงที่จะโดนปปช.เล่นงานมากๆครับท่าน สิรวีย์
ปล.แซวเล่นนะครับ
Quote from: สิรวีย์ on January 10, 2010, 19:37:16
งี้ ถ้าสมมุตนะคะสมมุต
สมมุตเรามีสององค์ แล้วได้เพิ่มมาอีกองค์
เราเชิญท่านไว้ในกล่องก่อน แล้วหามาเพิ่มให้เป็นสี่หรือห้าแล้วถึงนำขึ้นหิ้งได้ไหมคะ
อารมณ์ว่าเจตนาปกปิดบัญชีทรัพย์สิน
ไรงี้
ระวังเจอองค์ท่านเล่นตลกนะ คือพอได้มาเพิ่มองค์ที่ 4 - 5 แล้วมาเปิดกล่อง ท่านก็หายวับไปไหนก็ไม่รู้ ข้อหานำมาท่านมาแล้วเก็บไว้ในกล่องไม่ยอมบูชา ......ล้อเล่นนะครับ อิอิ
องค์พระแม่ของผมที่บ้านก็ชอบลดตรีศูลของท่านลงมาจริงๆ ผมจับแต่ให้ที่ถือกลางด้านจะได้สวยๆ แต่ตรีศูลจะตกลงมาให้ท่านถือแถวๆช่วงหัวตรีศูลคับ
ก็เลยตามใจท่าน เพราะปรับหลายรอบและ
อะ จึ๊ย
พระเเม่กาลี 3 องค์ ห้ามบูชา
เสือทั้งปั้น ทั้งวาด พระเเม่กาลี 5 องค์เเล้วเนี่ย
ทำไงดีคะ ภาพวาดที่ 6 กำลังมา เสือควรทำไงดีคะ
เทวรูปของพระเป็นเจ้าองค์ต่างๆ ท่านว่าห้ามมีไว้บูชาเป็นจำนวน 3 องค์ครับผม แต่ถ้ามากกว่าหรือน้อยกว่า 3 องค์ก็ไม่มีปัญหาครับท่านเสือร้องไห้
เห็นด้วยกับความคิดของคุณ thiti ครับเพราะถ้าพูดกันถึงเรื่อง เทววิทยา ซึ่งผมเองก็ศึกษามาไม่เอียดเท่าไรนัก(ศึกษมจากเว็บ aromamodaka ของ อ.กิตติ ครับ ใครสนใจก็เข้่าชมได้นะครับ คลิก (http://www.aromamodaka.com) )
1. การประดิษฐานพระ และเทวรูป ก็ควรแยก เทวรูป จาก พระ เพราะพลังที่แผ่จากพระ กับ พลังที่แผ่จาก เทวรูป นั้นต่างกันอีกอย่างพระนั้นไม่ต้องการเครื่องสังเวยในขณะที่เทพนั้นต้องมีการจัดถวายเครื่องสังเวยแต่มีอยู่บางกรณีที่สามารถประดิษฐานรวมกันได้
2. การห่มผ้าพระ พลังของเทวรูป กับ พลังของเทพนั้นเป็นคนละรูปแบบกันครับพลังเทวรูปก็คือ พลังที่ใช้สื่อไปยังเทพ ก็เปรียบเหมือนวิทยุถ้าสัญญาณไม่ดี สิ่งที่เราส่งไปก็อาจไม่ถึงหรือไม่ครบถ้วน ส่วนพลังของเทพทุกท่านก็คงทราบดีอยู่ ดังนั้นการห่มผ้าพระก็เหมือนกับว่ามีสิ่งของมาปิดกั้นคลื่นทำให้สัญญาณไม่ดีครับ เพราะเทวสถานเขายังไม่มีการตกแต่งเทวรูปแต่อย่างใดเลยแต่ก็มีเทวรูปที่ทำมาสำหรับการตกแต่งโดยเฉพาะก็มีส่วนมากเขาจะสร้างเหมือนเทวรูปเปลือยครับก็เพราะว่ายังไงก็ต้องนำผ้ามานำเครื่องประดับมาตกแต่งนั่นคือเทวรูปที่สร้างมาเพื่อรับการตกแต่ง ศีกษาเพิ่มเติม คลิก
(http://www.aromamodaka.com/Theotext3.HTM)
3การถวายดอกไม้นั้นก็อย่างที่คุณ thiti กล่าวมา คือไม่ควรคล้องที่องค์เทวรูปโดยตรง ซึ่งก็ตามที่กล่าวมาครับว่าจะทำลายเนื้อเทวรูป เพราะเทวรูปที่อยู่ในภาพดูแล้วน่าจะทำจากเรซิน แต่ถ้าหากอยากที่จะจัดคล้องเทวรูปควรทำในโอกาศพิเศษเช่น งานประจำปี ฯลฯ ผมเองก็เคยมีประสบการณ์ ขนาดเทวรูปของผมสร้างมาจากโลหะ เพียงแค่ผมเอามะนาวมาปักที่ดาบของเทวรูปพระแม่มารีอัมมัน เพียงครั้งเดียวก็เป็นคราบมาจนถึงทุกวันนี้เลยครับ
Quote from: คุณ บาส on January 13, 2010, 16:06:00
เห็นด้วยกับความคิดของคุณ thiti ครับเพราะถ้าพูดกันถึงเรื่อง เทววิทยา ซึ่งผมเองก็ศึกษามาไม่เอียดเท่าไรนัก
1. การประดิษฐานพระ และเทวรูป ก็ควรแยก เทวรูป จาก พระ เพราะพลังที่แผ่จากพระ กับ พลังที่แผ่จาก เทวรูป นั้นต่างกันอีกอย่างพระนั้นไม่ต้องการเครื่องสังเวยในขณะที่เทพนั้นต้องมีการจัดถวายเครื่องสังเวยแต่มีอยู่บางกรณีที่สามารถประดิษฐานรวมกันได้
2. การห่มผ้าพระ พลังของเทวรูป กับ พลังของเทพนั้นเป็นคนละรูปแบบกันครับพลังเทวรูปก็คือ พลังที่ใช้สื่อไปยังเทพ ก็เปรียบเหมือนวิทยุถ้าสัญญาณไม่ดี สิ่งที่เราส่งไปก็อาจไม่ถึงหรือไม่ครบถ้วน ส่วนพลังของเทพทุกท่านก็คงทราบดีอยู่ ดังนั้นการห่มผ้าพระก็เหมือนกับว่ามีสิ่งของมาปิดกั้นคลื่นทำให้สัญญาณไม่ดีครับ เพราะเทวสถานเขายังไม่มีการตกแต่งเทวรูปแต่อย่างใดเลยแต่ก็มีเทวรูปที่ทำมาสำหรับการตกแต่งโดยเฉพาะก็มีส่วนมากเขาจะสร้างเหมือนเทวรูปเปลือยครับก็เพราะว่ายังไงก็ต้องนำผ้ามานำเครื่องประดับมาตกแต่งนั่นคือเทวรูปที่สร้างมาเพื่อรับการตกแต่ง ศีกษาเพิ่มเติม คลิก
(http://www.aromamodaka.com/Theotext3.HTM)
3การถวายดอกไม้นั้นก็อย่างที่คุณ thiti กล่าวมา คือไม่ควรคล้องที่องค์เทวรูปโดยตรง ซึ่งก็ตามที่กล่าวมาครับว่าจะทำลายเนื้อเทวรูป เพราะเทวรูปที่อยู่ในภาพดูแล้วน่าจะทำจากเรซิน แต่ถ้าหากอยากที่จะจัดคล้องเทวรูปควรทำในโอกาศพิเศษเช่น งานประจำปี ฯลฯ ผมเองก็เคยมีประสบการณ์ ขนาดเทวรูปของผมสร้างมาจากโลหะ เพียงแค่ผมเอามะนาวมาปักที่ดาบของเทวรูปพระแม่มารีอัมมัน เพียงครั้งเดียวก็เป็นคราบมาจนถึงทุกวันนี้เลยครับ
สวัสดีคะ อันนี้ก็ต้องตามความคิดเห็นของแต่ละคนนะคะ ใครทำใครได้ ลองคิดดูนะคะ ไม่มีใครทราบหรอกคะว่าที่คนนั้นบอกว่าถูก คนนี้บอกว่าผิด
มีผู้เดียวที่รู้ก็คือพระเป็นเจ้าเท่านั้นแหละคะ ดิฉันเอง ก็ไม่ได้เก่งกาจมาจากไหนนะคะ แต่อยากจะลองเสนอความคิดเห็นว่า ทำไมศาสตร์ทางทมิฬที่บูชาเทวมาเป็นนมนานนับพันๆปี ยังมีการนุ่งห่มเครื่องทรง แล้วก็มีการอภิเศกเทวรูปตลอดเวลา มีการถวายอาหาร และมาลัยที่มูลติบ่อยๆ ไม่ต้องอางอิงไปยังศาสตร์ของทางใต้หรอกคะ ลองไปดูกันที่ศาสตร์ทางวัดเทพมณเทียร ในหนังสือบูชา เท่าที่ดิฉันพอจะทราบมา ในพิธียังมีถวายเครื่องทรงบูชา
ตลอดจนมาลัยคล้องคอเทวะเพื่อเป็นการฉลองพระองค์ ลองมาเปรียบเทียบกันดูนะคะ ที่ว่ามาดิฉันว่าไม่มีใครถูกใครผิด เพราะแต่ละคนก็ทำความเชื่อของตน เอาเป็นว่า ศรัทธาดีกว่าคะ และก็ความสบายใจ
Quote from: Om Sakthi Parasakthi on January 13, 2010, 20:19:21
Quote from: คุณ บาส on January 13, 2010, 16:06:00
เห็นด้วยกับความคิดของคุณ thiti ครับเพราะถ้าพูดกันถึงเรื่อง เทววิทยา ซึ่งผมเองก็ศึกษามาไม่เอียดเท่าไรนัก
1. การประดิษฐานพระ และเทวรูป ก็ควรแยก เทวรูป จาก พระ เพราะพลังที่แผ่จากพระ กับ พลังที่แผ่จาก เทวรูป นั้นต่างกันอีกอย่างพระนั้นไม่ต้องการเครื่องสังเวยในขณะที่เทพนั้นต้องมีการจัดถวายเครื่องสังเวยแต่มีอยู่บางกรณีที่สามารถประดิษฐานรวมกันได้
2. การห่มผ้าพระ พลังของเทวรูป กับ พลังของเทพนั้นเป็นคนละรูปแบบกันครับพลังเทวรูปก็คือ พลังที่ใช้สื่อไปยังเทพ ก็เปรียบเหมือนวิทยุถ้าสัญญาณไม่ดี สิ่งที่เราส่งไปก็อาจไม่ถึงหรือไม่ครบถ้วน ส่วนพลังของเทพทุกท่านก็คงทราบดีอยู่ ดังนั้นการห่มผ้าพระก็เหมือนกับว่ามีสิ่งของมาปิดกั้นคลื่นทำให้สัญญาณไม่ดีครับ เพราะเทวสถานเขายังไม่มีการตกแต่งเทวรูปแต่อย่างใดเลยแต่ก็มีเทวรูปที่ทำมาสำหรับการตกแต่งโดยเฉพาะก็มีส่วนมากเขาจะสร้างเหมือนเทวรูปเปลือยครับก็เพราะว่ายังไงก็ต้องนำผ้ามานำเครื่องประดับมาตกแต่งนั่นคือเทวรูปที่สร้างมาเพื่อรับการตกแต่ง ศีกษาเพิ่มเติม คลิก
(http://www.aromamodaka.com/Theotext3.HTM)
3การถวายดอกไม้นั้นก็อย่างที่คุณ thiti กล่าวมา คือไม่ควรคล้องที่องค์เทวรูปโดยตรง ซึ่งก็ตามที่กล่าวมาครับว่าจะทำลายเนื้อเทวรูป เพราะเทวรูปที่อยู่ในภาพดูแล้วน่าจะทำจากเรซิน แต่ถ้าหากอยากที่จะจัดคล้องเทวรูปควรทำในโอกาศพิเศษเช่น งานประจำปี ฯลฯ ผมเองก็เคยมีประสบการณ์ ขนาดเทวรูปของผมสร้างมาจากโลหะ เพียงแค่ผมเอามะนาวมาปักที่ดาบของเทวรูปพระแม่มารีอัมมัน เพียงครั้งเดียวก็เป็นคราบมาจนถึงทุกวันนี้เลยครับ
สวัสดีคะ อันนี้ก็ต้องตามความคิดเห็นของแต่ละคนนะคะ ใครทำใครได้ ลองคิดดูนะคะ ไม่มีใครทราบหรอกคะว่าที่คนนั้นบอกว่าถูก คนนี้บอกว่าผิด
มีผู้เดียวที่รู้ก็คือพระเป็นเจ้าเท่านั้นแหละคะ ดิฉันเอง ก็ไม่ได้เก่งกาจมาจากไหนนะคะ แต่อยากจะลองเสนอความคิดเห็นว่า ทำไมศาสตร์ทางทมิฬที่บูชาเทวมาเป็นนมนานนับพันๆปี ยังมีการนุ่งห่มเครื่องทรง แล้วก็มีการอภิเศกเทวรูปตลอดเวลา มีการถวายอาหาร และมาลัยที่มูลติบ่อยๆ ไม่ต้องอางอิงไปยังศาสตร์ของทางใต้หรอกคะ ลองไปดูกันที่ศาสตร์ทางวัดเทพมณเทียร ในหนังสือบูชา เท่าที่ดิฉันพอจะทราบมา ในพิธียังมีถวายเครื่องทรงบูชา
ตลอดจนมาลัยคล้องคอเทวะเพื่อเป็นการฉลองพระองค์ ลองมาเปรียบเทียบกันดูนะคะ ที่ว่ามาดิฉันว่าไม่มีใครถูกใครผิด เพราะแต่ละคนก็ทำความเชื่อของตน เอาเป็นว่า ศรัทธาดีกว่าคะ และก็ความสบายใจ
ถูกต้องครับอย่างที่กล่าว แต่ที่ผมทราบผมเห็นเค้าเผาสาหรี(ไม่รู้เขียนถูกหรือเปล่า)เพื่อถวายแก่พระแม่นี้ครับ ถ้าผิดประการใดผมก็ขออภัยด้วยครับ เพราะผมศึกษาทางด้านเทววิทยา ไม่ค่อยได้ศึกษาทางด้านนี้เท่าไร ความรู้ด้านนี้ของผมเลยไม่ค่อยแน่น เวลาผมตอบก็มักเอาหลักเทววิทยามาตอบซะส่วนใหญ่ครับ
การบูชาเทพไม่จำเป็นต้องไปตามแบบฮินดูทุกอย่างหรอกครับคนสมัยนีเชื่อแขกไปหมดเห็นเขาทำอะไรก็ทำตามเอาอย่าง โดยแท้เราก็เป็นคนพุทธไม่ใช่ฮินดู ที่จะต้องเอาอย่างอย่างแบบพวกเขาไปสะหมด ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยเหมาะสมกัน และการที่เราได้มาได้บูชาท่านก็เพราะว่าเราเคยบูชาท่านมาก่อนท่านก็เลยตามมาคุ้มครองในชาตินี้ไม่ได้เป็นเรื่องวิเศษใดๆ
55555 ขอบพระคุณคุณลองภูมิและคุณโหราน้อยนะคะที่เป็นห่วง หลังจากหายไป (เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินตามที่ท่นแนะนำมา) ณ เวลานี้ยังปลอดภัยหายห่วงค่ะ
โดยส่วนตัวดิฉันด้อยความรู้ทั้งเทววิทยา มายาศาสตร์ ประติมาณวิทยา ปราณีตศิลป์ ฯ แต่เพราะรักในศิลปะและศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า ก็จะยึดคติว่า เทวรูปที่บูชาอยู่ที่บ้าน ดิฉันจะไม่ถวายพัสตราภรณ์ค่ะ ด้วยเหตุผลหลักคือ ทำไม่เป็น 555555555555 ส่วนเหตุผลต่อมาคือ พัสตราภรณ์เหล่านั้นจะบังเทวรูปตามที่คุณบาสและอาจารย์กิตติ วัฒนมหาตม์บอกไว้
ดังที่เคยเรียนมาหนึ่งในเหตุผลที่มีเทวรูปไว้ที่บ้านคือหลงไหลในศิลปะและรักในวิชาประติมานวิทยา ดังนั้นเทวรูปเหล่านี้นอกจากบูชาท่านในฐานะสื่อกลางพระผู้เป็นเจ้าแล้ว เป็นเหมือนตำราเล่มงามให้ศึกษาทบทวนทุกท่านที่มองเห็นท่าน เลยไม่ชอบให้อะไรมาบดบังรายละเอียดบนองคืเทวรูป จะมีก็การขัดเงาและประดับพลอยหรือคริสตัลลงไปบ้างเพื่อความสวยงาม แต่ยอมรับว่าเรื่องคล้องมาลัยกับองค์เทวรูปนี่ ชอบมากกกกกกกกกกก รู้สึกชื่นใจเวลาเห็นท่านคล้องมาลัยมะลิหอมๆ มีดอกไม้สีสดใสอยู่บนพระองค์ท่าน แม้จะทราบว่าอาจเป็นอันตรายกับเนื้อเทวรูปก็ตาม
แหม ทำแล้วสบายใจ ทำแล้วชอบนี่ห้ามกันยากค่ะ (ออกแนวดื้อด้าน)
Quote from: สิรวีย์ on January 13, 2010, 21:14:45
55555 ขอบพระคุณคุณลองภูมิและคุณโหราน้อยนะคะที่เป็นห่วง หลังจากหายไป (เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินตามที่ท่นแนะนำมา) ณ เวลานี้ยังปลอดภัยหายห่วงค่ะ
โดยส่วนตัวดิฉันด้อยความรู้ทั้งเทววิทยา มายาศาสตร์ ประติมาณวิทยา ปราณีตศิลป์ ฯ แต่เพราะรักในศิลปะและศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า ก็จะยึดคติว่า เทวรูปที่บูชาอยู่ที่บ้าน ดิฉันจะไม่ถวายพัสตราภรณ์ค่ะ ด้วยเหตุผลหลักคือ ทำไม่เป็น 555555555555 ส่วนเหตุผลต่อมาคือ พัสตราภรณ์เหล่านั้นจะบังเทวรูปตามที่คุณบาสและอาจารย์กิตติ วัฒนมหาตม์บอกไว้
ดังที่เคยเรียนมาหนึ่งในเหตุผลที่มีเทวรูปไว้ที่บ้านคือหลงไหลในศิลปะและรักในวิชาประติมานวิทยา ดังนั้นเทวรูปเหล่านี้นอกจากบูชาท่านในฐานะสื่อกลางพระผู้เป็นเจ้าแล้ว เป็นเหมือนตำราเล่มงามให้ศึกษาทบทวนทุกท่านที่มองเห็นท่าน เลยไม่ชอบให้อะไรมาบดบังรายละเอียดบนองคืเทวรูป จะมีก็การขัดเงาและประดับพลอยหรือคริสตัลลงไปบ้างเพื่อความสวยงาม แต่ยอมรับว่าเรื่องคล้องมาลัยกับองค์เทวรูปนี่ ชอบมากกกกกกกกกกก รู้สึกชื่นใจเวลาเห็นท่านคล้องมาลัยมะลิหอมๆ มีดอกไม้สีสดใสอยู่บนพระองค์ท่าน แม้จะทราบว่าอาจเป็นอันตรายกับเนื้อเทวรูปก็ตาม
แหม ทำแล้วสบายใจ ทำแล้วชอบนี่ห้ามกันยากค่ะ (ออกแนวดื้อด้าน)
คุณสิรวีย์ นี้เหมือนผมเลยครับ ชอบที่เทวรูปที่เห็นศิลปะแบบเต็ม แต่ก็ชอบที่จะคล้องพวงมาลัย แต่ก็พยายามเอาเฉพาะพวงมาลัยแพงๆและถวายเฉพาะโอกาสพิเศษ และก่อนจะถวาย ก็แช่น้ำ (เพื่อสารเคมีจะหลุดออกบ้าง) แช่สักพักแล้วก็สลัดเบาๆให้น้ำออก จึงคล้อง
ดิฉันเน้นพวงมาลัยดอกมะลิหอมค่ะ และพยายามหาที่ร้อยด้วยมะลิจริงทั้งหมด มาลัยพวงละ 10 บาท เดี๋ยวนี้มีมะลิไม่ถึง 10 ดอกมั้งคะ เข้าใจว่ามะลิราคาค่อนข้างแพง ดิฉันจะสั่งน้องข้างบ้านร้อยให้เป็นพิเศษ น้องเขาบูชาเทพแต่ยังไม่มีเทวรูป แล้วน้องก็มีฝีมือมาก ชอบประดิษฐ์ประดอย สั่งร้อยมาลัยเธอก็ขยันร้อยมาเป็ฯลายนั้นลายนี้ แถมคิดแต่ค่าดอกไม้ไม่คิดค่าฝีมือ ยัดเยียดเท่าไรก็ไม่เอา ดิฉันก็เลยใช้วิธีเชิญเธอมาไหว้เทวรูปที่บ้านดิฉันเสียเลย ให้มาได้ทุกเวลา ทุกวัน อยู่นานแค่ไหนก้ได้ ไปๆมาๆ น้องเขาจะได้บุญมากกว่าดิฉันซะแล้ว เพราะน้องเขาลงมือทำของสวยๆงามๆเอง ดิฉันมีปัญญาแค่พับกลีบให้น้อง
ดิฉันเน้นมะลิและดอกไม้หอม ร้อยสวย กลิ่นหอม แต่ขอให้แห้งๆหน่อยค่ะ พวงมาลัยชื้นกลัวสนิมขึ้นเทวรูป
55555555
ขอร้องและขอเตือนนะค่ะ ทนไม่ไหวจริงๆ ปัจจุบันนี้ดิชั้นพบว่ามีคนไปลอกไปก็อปสำนวนของท่านอาจารย์กิตติ วัฒนะมหาตม์
มาใช้กันเยอะมาก โดยอ้างว่าเป็นศาสตร์เทววิทยาที่ตนได้ศึกษาและร่ำเรียนมา อีกอย่างดิชั้นมาทราบว่าตอนนี้อาจารย์ปิดรับลูกศิษย์แล้ว
เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลา งานรัดตัวเป็นเกลียว
คือถ้าอย่างไรจะยกสำนวนอาจารย์มาใช้หรือแอบอ้าง ก็ขอให้ๆเครดิสอาจารย์บ้างนะค่ะ หรือบอกแหล่งที่อ้างอิงมาก็ได้ว่าอาจารย์ผม
สอนแบบนี้ เพื่อมารยาทอะคะ โตๆกันแล้ว เตือนด้วยความหวังดีคะ ครูบาอาจารย์เป็นของสูงควรเคราพ
Quote from: giftzy_69 on January 13, 2010, 22:10:52
ขอร้องและขอเตือนนะค่ะ ทนไม่ไหวจริงๆ ปัจจุบันนี้ดิชั้นพบว่ามีคนไปลอกไปก็อปสำนวนของท่านอาจารย์กิตติ วัฒนะมหาตม์
มาใช้กันเยอะมาก โดยอ้างว่าเป็นศาสตร์เทววิทยาที่ตนได้ศึกษาและร่ำเรียนมา อีกอย่างดิชั้นมาทราบว่าตอนนี้อาจารย์ปิดรับลูกศิษย์แล้ว
เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลา งานรัดตัวเป็นเกลียว
คือถ้าอย่างไรจะยกสำนวนอาจารย์มาใช้หรือแอบอ้าง ก็ขอให้ๆเครดิสอาจารย์บ้างนะค่ะ หรือบอกแหล่งที่อ้างอิงมาก็ได้ว่าอาจารย์ผม
สอนแบบนี้ เพื่อมารยาทอะคะ โตๆกันแล้ว เตือนด้วยความหวังดีคะ ครูบาอาจารย์เป็นของสูงควรเคราพ
ใช่ครับ ที่ผมศึกษามาก็มาจาก อาจาร์ยกิตติ วัฒนะมหาตม์ และ link ที่ผมเชื่อม ก็ไปที่เว็บ aromamodaka โดยตรงครับ
ดิฉันได้รับข้อความจากคุณบาสแล้วคะ ก็ดีใจด้วยที่คุณกล่าวเช่นนั้น ต่อไปเราทำไรจะได้เจริญๆ เพราะความรู้ที่ท่านให้มา
แต่ก็ยังมีอีกหลายท่านที่แอบอ้างสำนวนอาจารย์มาใช้เยอะ แล้วไม่ให้เครดิส แต่ดิชั้นเงียบมานาน จนมีคนบอกว่าให้ดิชั้นช่วยเตือนเค้า
ถึงทำคะ ก่อนหน้านี้ก็เก็บเงิยบมานาน เอิ้กๆ
ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ อย่างน้อยๆก็ได้รู้ว่าคุณคือลูกศิษย์อาจารย์เหมือนกันคะ ขอพระเจ้าคุ้มครองนะค่ะ อิอิ
แหม น่ายินดีแทนคุณgiftzy_69 และคุณบาสจริงๆค่ะ นอกจากจะเป็นศิษย์ร่วมสำนักที่มาพบกันโดยบังเอิญแล้ว ยังมีอาจารย์ที่เต็มไปด้วยองค์ความรู้อย่างอาจารย์กิตติ วัฒนมหาตน์
ดิฉํนยังไม่เคยคุยกับอาจารย์เลยสักครั้งค่ะ แต่เคยพบอาจารย์สองครั้งโดยที่ไม่ได้พูดคุยกัน ทว่าเหมือนดิฉันรู้จักอาจารย์มานานเลยค่ะ เพราะอ่านหนังสือท่านเยอะมาก ที่บ้านมีหนังสือของอาจารย์เป็น collection เลย ชอบงานของอาจารย์ซึ่งครอบคลุม ครบถ้วน ตรงไปตรงมา และจูงใจให้เราพยายามศึกษาข้อมูลต่อๆไป
ในฐานะผู้ศึกษาด้านประติมานวิทยา ดิฉันยินดีที่จะประกาศทุกครั้งที่มีโอกาสว่า ดิฉันเริ่มสนใจเรื่องเหล่านี้และมีความรู้ในระดับหนึ่งได้ด้วยอาศัยหนังสือของอาจารย์กิตติ นี่เอง
หากเป็นไปได้ ฝากความเคารพท่านผ่านคุณบาสและคุณ giftzy_69 ด้วยนะคะ
ในเมื่อหนังสือจำนวนมากผลงานของอาจารย์เป็นประดุจครูของดิฉัน อาจารย์เองก็น่าจะเป็นครูของดิฉันด้วยท่านหนึ่ง
เพียงแต่ดิฉันยังไม่เคยไปกราบท่าน และไม่มีบุญได้ฝากตัวเป็นศิษย์ เท่านั้นเอง แต่ส่วนตัวเรียนตามตรงว่าไม่ได้คิดอยากจะรบกวนท่านด้วยการฝากตัวเป็นศิษย์นะคะ เพียงท่านเจียดเวลาสร้างสรรค์ผลงาน ก็เป็นพระคุณกับศิษย์อย่างไม่เป็นทางการคนนี้ และอีกมากมายเหมือนกัน
สาธุค่ะ คุณน้องโด่ง น่ารักจัง พี่เองก็เพิ่งเริ่มจะสะสมหนังสือท่านเหมือนกันตอนนี้ ดีใจจัง
โหหหห .... หลังจากที่ดิชั้นออกโรงไปไม่นานเท่าไหร่ ปรากฎมีเหล่าเพื่อนๆพี่ๆใน hm ส่งทั้งข้อความส่วนตัวทั้งอีเมลล์มา
ขอโทษกันตรึมเลยคะ อิอิ จริงๆแล้วดิชั้นก็มิได้มีเจตนาจะต่อว่าอะไรเลยนะค่ะ แค่อยากเตือนและอธิบายให้เข้าใจคะ
ซึ่งคนที่ควรจะไปขอโทษจริงๆควรจะเป็นทางอาจารย์มากกว่านะค่ะ แต่มา ณ วันนี้ก็เห็นมีเพื่อนๆหลายคนได้บอกแหล่งที่มา อ้างอิง
ซึ่งก็ชัดเจนอยู่แล้ว ดิชั้นว่าก็ไม่น่าที่จะเป็นปัญหาคะ ถ้าอย่างไรไว้เจออาจารย์อาจจะฝากบอกท่านอีกที อีกอย่างก็ไม่สะดวกด้วยสิ
เพราะตอนนี้เรามิได้อยู่เมืองไทย
แต่มาคิดว่าเมื่อศิษย์สำนึกแล้วรวมทั้งตระหนักดีแล้ว คนเป็นครูย่อมให้อภัยศิษย์ได้เสมอคะ ดิชั้นเชื่ออย่างนั้น
อีกอย่างเลยนะค่ะเห็นแล้วก็น่าภูมิใจแทนท่านอาจารย์จริงๆ ที่มีคนชื่นชอบผลงานอาจารย์มากขนาดนี้ อิอิ ดิชั้นเชื่อว่าไม่มาก
ก็น้อยใน hm คงมีทั้งลูกศิษย์รวมทั้งแฟนคลับของอาจารย์อยู่เยอะคะ ก็รู้สึกดีใจที่เราก็มีอาจารย์คนเดียวกัน แม้ว่าจะไม่ใช่ศิษย์
ก้นกุฎิก็เถอะ
ดิชั้นเชื่อว่าการรู้พระคุณครูเป็นสิ่งที่ดีงาม ที่คนที่เจริญแล้วควรจะต้องมีไว้คะ ความกตัญญูกตเวที และเมื่อมีสิ่งนี้แล้ว
ภายภาคหน้าต่อไปจะทำอะไรๆก็คงจะมีแต่ความเจริญ ดิชั้นเชื่ออย่างนี้นะค่ะ
และเนื่องในวันครูของเมืองไทยที่จะใกล้เข้ามาถึงเร็วนี้ ดิชั้นขอยกกลอน บูชาพระคุณครูมาไว้ เพื่อเตือนให้พวกเรามีจิตสำนึก
ที่ดีงาม รักความกตัญญูคะ ทั้งคุณครูปัจจุบัน รวมทั้ง องค์ปฐมคุรุเทวี ศรีมหาสรัสวตีมารดาแห่งพระเวทของพวกเราด้วยนะค่ะ
พระจันทร์เพ็ญเด่นสกาวพราวกระจ่าง ส่องสว่างผ่องประภัสจำรัสฉาย
กระพริบแสงเด่นฟ้าดาราราย ความมืดคลายฟ้าสวยด้วยจันทร์เพ็ญ
ความมืดเหือนอวิชาประดาศิษย์ ครูนิมิตแสงไฟให้มองเห็น
ประคองศิษย์เคียงข้างไม่ว่างเว้น ผ่านทุกข์เข็ญสู่วิถีที่ดีงาม
จับมือน้อยค่อยบรรจงลงอาลักษณ์ แจ้งประจักษ์รักอุ่นคุณที่สาม
ศิษย์หลงชั่วมัวเมาคอยห้ามปราม ชี้ทางยามศิษย์มืดมนซึ่งหนทาง...
ขอพรบารมีแห่งองค์ปฎมคุรุครูบาอาจารย์ทั้งหลายปกปักษ์รักษาเหล่าศิษย์ที่มีความกตัญญูและภักดีทุกคนนะค่ะ
พี่กิฟซี่ ช่างสำนวนยิ่งนัก กลอนเพราะคะ
ขอชม
ปลื้ม
ปลื้ม
ปลื้ม
ปลื้มพี่กิฟซี่สุดๆ
-*- น้อง เสือ นิ่ ไปทุกกระทู้ เจงๆ เรย 55