ขอความรู้เรื่องการบูชาพระศิวะแบบง่ายค่ะ

[hindulove]

รบกวนพี่ทั้งหลายช่วยตอบหน่อยค่ะ คือว่าน้ำบูชาพระแม่อุมามานานเกือบ 10 ปีแล้ว โดยบูชาท่านเพราะนับถือท่านมาก และท่านเคยมาช่วยชีวิตหลายครั้งว่าง่ายคือส่วนใหญ่มีอะไรก็จะบอกหรือขอพรกับท่าน  โดยวิธีบูชาคือน้ำสวดมนตร์เช้าเย็น จุดกำยาน จุดตะเกียง ถวายดอกไม้บ้างตามโอกาส ผลไม้บ้าง ตามสะดวก ที่นี้น้ำอยากทราบว่าถ้าน้ำจะบูชาพ่อพระศิวะ น้ำควรทำอะไรบ้างค่ะ เพราะว่าที่บ้านก็มีเทวรูปท่าน น้ำก็เปิดบทสวดท่านบ้างบางโอกาส ส่วนใหญ่จะบูชาท่านในแบบครอบครัวจักรวาล อยากทราบว่ามีอะไรที่ควรเพิ่มทำไหมค่ะ รบกวนพี่ๆผู้รู้ช่วยมาแจ้งแถลงไขหน่อยคะ

ขอบคุณค่ะ....น้ำ

[พิษประจิม]

สวดมนต์ จุดกำยาน สรงน้ำศิวลึงค์
ง่ายสุดแล้วครับ

[hindulove]

ขอบคุณค่ะ  ไม่ทราบว่าการสรงน้ำ ศิวลึงค์ ทำอย่างไรบ้างค่ะ  ขอบคุณค่ะ

[Ratha C]

ถ้าโดยส่วนตัวจะเอาแบบง่ายๆก้อมีนะคร้า เช่น สรงค์น้ำสะอาดปกติของเรานี่แหละ เพราะน้ำก้อคือ พระแม่คงคา สรงค์ด้วยนมจืดรสธรรมชาด ขัดถูศิวลึงค์ให้สะอาดด้วยน้ำตาล หรือ น้ำผึ้ง แต่ หลักสำคัญๆคือ น้ำ และ นม จบจากการสรงค์ อารตี ถวาย ถวายดอกไม้เล็กน้อย หรือถ้าจะไม่อารตีเอาแต่กำยานก้อได้ค่ะ เอาที่เราจัดสรรได้ สะดวก แต่ถ้าหาใบมะตูมได้ก้อจะดีค่ะ  แต่ คงหายากสักหน่อย สวดมนต์ โอมนมัสศิวะยา ไปพร้อมกับการสรงค์ ถ้ามีผ้าผืนสวยๆย้ำผืนใหม่นะคะก้อเอามารองที่ศิวลึงค์เป็นการถวายผ้าให้พระองค์ค่ะ พับเป็นสี่เหลี่ยมผืนเล็กๆวางไว้ตรงใต้ศิวลึงค์เป็นอันเสร็จพิธี สวนผลไม้ ที่เราถวายพอเสร็จพิธี ก้อ ลาลงมารับประทานได้เลยค่ะ เพราะเป็นของมงคล และ เมื่อเสร็จพิธีจากที่บ้านแล้วถ้าอยากจะไปโบสถ์ไปสรงค์ศิวลึงค์ของทางโบสถ์ ก้อ นำตัวและหัวใจไปที่โบสถ์เทพมณเฑียร(ที่เทพมณเฑียรให้เราสรงค์เองได้ค่ะ) หรือ วัดแขกสีลม(พราหมณ์เป็นผู้สรงค์เองเรายืนชมและคอยรับนมจากการสรงค์มารับประทานคนละเล็กน้อยเพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ) หรือ จะเป็นวัดวิษณุก้อได้ค่ะ เอาแต่พอดี ก้อพอ หรือ จะนำศิวลึงค์ของเราเองไปสรงค์เขาพิธีที่โบสถ์เทพมณเฑียรด้วยก้อได้นะคะ อ้อ ถ้าเพื่อนๆท่านใดอยากจะทำบุญกับทางวัดที่จัดงาน ก้อ เตรียมนำนมจืดรสธรรมชาดไปร่วมมถวายในการสรงค์ได้ด้วยนะคะ อนุโมธนาบุญล่วงหน้าค่ะ ^_^

[กาลิทัส]

ตามที่น้องกระต่าย Ratha C  ได้เอ่ยไว้ครับ

[hindulove]

ขอบคุณค่ะ รบกวนถามต่อว่า การสรงศิวลึงค์ จำเป็นต้องทำทุกวันไหมค่ะ
หรือต้องทำตอนไหนค่ะ.....ขอบคุณค่ะ

[อักษรชนนี]

เรื่องการบูชาศิวลึงค์นั้น พี่กาลิทัสเคยนำมาโพสไว้นานแล้วในกระทู้ http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=226.0

ซึ่งผมขออนุญาตินำมากล่าวซ้ำไว้ในกระทู้นี้อีกสักครั้งนะครับ เพราะดูแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อท่านเจ้าของกระทู้และเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆที่มีศรัทธาในการบูชาศิวลึงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใกล้วันศิวะราตรีแล้ว น่าจะนำไปใช้ประโยชน์ในการบูชาเองที่เคหะสถานของแต่ละท่านได้ (ในกรณีที่ไม่สามารถไปร่วมพิธีที่ศาสนสถานได้ครับ)

(สำหรับคำถามเรื่องวิธีการบูชา ตลอดจนวันที่ควรบูชาศิวลึงค์ ซึ่งคุณ hindulove สงสัยนั้น ในเนื้อหาที่นำมาลงให้ด้านล่าง น่าจะตอบคำถามได้ครอบคลุมทั้งหมดครับ ^_^)

ปล. เนื้อหาทั้งหมดที่นำมาลง ขอยกเครดิตให้เจ้าของเนื้อหาซึ่งก็คือ พี่หริทาส ครับผม

การบูชาพระศิวลึงค์นั้น ก็เช่นเดียวกับบูชาเทพเจ้าอื่นๆครับ คือการบูชาด้วยอุปจาระ(ขั้นตอนและสิ่งต่างๆ) ตามวิธีการครับ แต่ที่พิเศษคือถือว่าพระศิวะ เป็นผู้ทรง "อภิเษกปริยะ" คือทรงชื่นชอบการสรงด้วยสิ่งต่างๆครับ


[/COLOR]

เราจึงบูชาพระศิวลึงค์ด้วยการสรงสิ่งต่างๆ อันได้แก่ ปัญจามฤต คือ 1.นม 2.โยเกิร์ต 3.เนย 4. น้ำผึ้ง 5.น้ำตาล และทั้ง 5อย่างผสมกัน
จากนั้น สรงด้วยน้ำสะอาด น้ำหอม แต้มด้วย ภัสมะ (ขี้เถ้าศักดิ์สิทธิ์) ผงสินทูร(สีส้ม) กุงกุม(สีแดง) หรือถ้าไม่มี จะใช้กระแจะจันทร์แบบไทยๆก็ได้ครับ แล้ว บุชาด้วย ใบมะตูมซึ่งขาดไม่ได้ในการบุชาครับ ดอกไม้ต่างๆ อาหารผลไม้ หมากพลู ธูป ประทีป การสวดมนตร์และอารตีครับ
แต่หากไม่สามารถจัดหาสิ่งต่างๆเหล่านั้นได้ครบก็ควรสรงด้วยนมและน้ำสะอาด บูชาใบมะตูมและขี้เถ้าศักสิทธิ์(วิภูติหรือภัสมะ) ถ้าทำบุชาได้ทุกวันยิ่งดี แต่ควรจะได้ทำในทุกวันจันทร์(โสมวาร)ครับ เพราะถือกันว่าเป็นวันของพระศิวะ และ ศิวราตรีของทุกเดือน คือวันแรม 14 ค่ำครับ และไม่ควรปล่อยให้สิ่งสกปรกเน่าบูดคาที่พระองค์ หรือนำสิ่งต่างๆที่ไม่สมควรมาสรง เช่นบางคน บอกให้เอาไวน์บ้าง น้ำแดงบ้างไปรดสรง ซึ่งเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง) ระหว่างทำบูชาหรือสรงในขั้นตอนต่างๆ ก็ให้สวด "โอม นมะ ศิวาย" (อ่านว่า โอม นะมัช ฉิวายะ หรือ โอม นะมะฮะ ฉิวายะ)ครับ และสามารถสวดมนตร์ต่างๆที่ผมเคยนำมาลงในหนังสือเรื่องวิมุกโตทัยครับ

ศิวลึงค์นั้น เสมอด้วยพระมูรติหรือรูปเคารพของพระศิวะครับ ในเทวสถานที่สำคัญๆหลายๆที่จึงไม่มีเทวรูปของพระศิวะ ศาสนิกชนบูชาที่ศิวลึงค์จึงเท่ากับบูชาพระศิวะครับ ดังนั้นศิวลึงค์จึงไม่ใช่ วัตถุเพื่อการบูชาสิ่งอื่นๆ แต่ตัวศิวลึงค์เองเป็นวัตถุแห่งการบุชาอันสูงสุด เป็นของที่มีสิริมงคลและเป็นของสูง มีบางที่หนังสือบางเล่มเผยแพร่ว่า ให้เอาศิวลึงค์ไปเป็นของบูชาพระแม่ทุรคาบ้างพระแม่กาลีบ้าง จึงเป็นสิ่งที่ผิดเพี้ยนไปจากหลักการของศาสนาครับ บางคนก้บอกว่า พระศิวลึงค์เป็นของอัปมงคล เท่ากับลบหลู่พระเป็นเจ้า อันนี้แถมมาเพื่อแก้ความเข้าใจผิดครับ

ขยายความ ปัญจมฤต

ปัญจามฤต มาจากคำว่า ปัญจ +อมฤต คือของอันเป็นอมฤต หรือเป็นของอันเทพเจ้าทั้งหลายชอบ มี 5 อย่าง โดยสรงทีละอย่าง ไปจนครบ 5 อย่าง แล้วจึงสรงทั้งหมดที่ผสมกันทั้ง 5 อย่างเป็นอย่างที่ 6 ครับ แต่ในบางพิธีที่ทำแบบย่อๆ อาจสรงเพียง 5 อย่างผสมกันโดยไม่ได้แยกสรงทีละอย่างก็มี สรงแค่ 5 อย่าง โดยไม่มีที่ผสมกันก็มี อันนี้แล้วแต่สภาพการณ์และตำรา ที่มาต่างๆครับ


ในการสรงถวายนั้น บางสำนักบางที่ ก็มีรายละเอียดปลีกย่อย ออกไปอีก เช่น นอกจากสรงด้วยปัญจามฤตแล้ว ยังสรงด้วย สัปตเอาษธ (น้ำสมุนไพร 7 อย่าง มี หญ้าฝรั่นและขมิ้นเป้นต้น)
จันทนสนานมฺ น้ำจากไม้จันทน์
ปัญจคัภย์ (ของจากโคทั้ง 5 )
น้ำเจือทอง
น้ำคงคาฯลฯ
อันนี้จะเรียกว่าการสนานมฺ หรือการอาบสรงด้วยน้ำต่างๆ คืออาบน้ำถวายแด่เทพเจ้านั่นเอง

ที่เรียกว่าการ "อภิเษก"นั้น จริงๆแล้วจะต้องสวดมนตร์ในพระเวทด้วยในระหว่างการสรง แต่บางทีก็เรียกการสนานมฺและการอภิเษกปนๆกันไปโดยหมายถึงการสรงนั่นเอง

การอภิเษกที่สำคัญๆ จะทำหลังจากสนานด้วยสิ่งต่างๆแล้ว โดยจะต้องมีอุปกรณ์เพื่อให้น้ำที่ถวายอภิเษก(จะเป็นนม นมอ้อย หรือน้ำเปล่าก็ได้)ค่อยๆไหลลงช้าๆ ระหว่างนั้นพราหมณ์ผู้รู้เวทจะสวดมนตรืในพระเวทต่างๆ เช่น ถ้าถวายสรงพระศิวลึงค์จะสวด ศรีรุทรมฺ นมกมฺ จมกมฺ ในยชุรเวท ถ้าสรงพระคเณศจะสวด คณปตยาถวรศรีษะ ในฤคเวท สรงพระนารายณ์ก็ ปุรุษสูกตะ เป็นต้น แต่หากไม่มีพราหมณ์ผู้รูเวท ก็ทำเพียงการสนานด้วยประการต่างๆ

แต่ในการสรงบางครั้งก้มีการเลือกเอาโศลกต่างๆ มาประกอบการสวด หรือเลือกบทสวดสันสกฤตที่มีความไพเราะ เป้นต้น มาใช้สวด บางทีจึงเรียกว่า การ สโตราภิเษก แต่ถ้าไม่ทราบโศลกต่างๆ ก็สามารถ สวดมนตร์สั้นของเทพองค์นั้นในการใช้สวดได้ เช่น โอม นมะ ศิวาย เป็นต้น

โศลกขณะถวายสรงศิวลึงค์

สรงนม(ปยสฺนานมฺ)
มธุรํ โคปยะ ปฏปูตํ ปุรสฺกฤตมฺ
สฺนานารถฺ เทวเทเวศ คฤหาณ ปรเมศรวร

สรงโยเกิร์ต (ทธิสฺนานมฺ)
ทุรฺภํทวฺย สุสฺวาธุ ทธิสรฺวปริยมฺปรมฺ
ตุษฏิ ทมฺปารฺวตีนาถ สฺนานาย ปฺรติคฤยตาม

สรงเนยใส (ฆฤตสฺนานมฺ)
ฆฤตํ คาวฺยํ ศุจิรฺสฺนิคฺธํ สุเสวฺยํ ปุษฏิทายกมฺ
คฤหาณ คิริชานาถ จนฺทฺรเศขร

สรงน้ำผึ้ง (มธุสฺนานมฺ)
มธุรํ มฤทุโมหฆฺนํ สฺวรภํค วินาศนมฺ
มหาเทเว ทุมุตฺสฤษฺฏํ ตวสฺนานาย ศํกร

สรงน้ำตาล (ศรฺกสฺนานมฺ)
ตาปศาตึกรี ศีรา มธุรา สฺวาท สํยุตา
สฺนานารฺถ เทวเทเวศ ศรฺกเรยํ ปฺรทียเต

น้ำสะอาด (ศุทฺโธทกสฺนานมฺ)
คํคา โคทาวารี เรว ปโยษฺณี ยมุนา ตถา
สรสฺวตฺยาทิ ตีรฺถานิ สฺนานารฺถํ ปฺรติคฺฤหฺยตาม

เครดิตคนโพส พี่ หริทาส คนเดิมครับ
ขอบคุณครับ
ที่มาจากบอร์ด Hindumeeting เก่าครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ
ช่วยกันเก็บไว้พอดีไปค้นหาเจอเลยเอามาลงใหม่ครับ
ต้องขออภัยที่มาลงเลยวันศิวะราตรีครับ

[/LEFT]

[hindulove]

ขอบคุณสำหรับความกระจ่างนะคะ  อย่างนี้ถ้าไม่สะดวกทำทุกวันสามารถเลือกทำได้ อาทิตย์ละครั้งทุกวันจันทร์ได้ใช่ไหมค่ะ แล้วเวลาไหนก็ได้ตามสะดวกใช่ไหมค่ะ  อีกคำถามอยากทราบว่า บรรดาเครื่องสรงศิวลึงค์เช่น นมหรือโยเกิรติ์ เมื่อทำเสร็จแล้ว สามารถลาไปรดทิ้งหรือทำความสะอาดศิวลึงค์ได้ใช่ไหมค่ะ

[อักษรชนนี]

ใช่ครับ ถ้าไม่สะดวกก็ทำอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งในวันจันทร์

ซึ่งถ้าคุณมีศรัทธาตั้งใจในการสรงศิวลึงค์ทุกวันจันทร์ แล้วไม่สะดวกที่จะสรงด้วยปัญจมฤตทั้ง ๕

ก็สามารถใช้เพียงนมและน้ำสะอาดในการสรงได้ครับ (เหมือนกับที่มีกล่าวไว้ในเนื้อหาข้างต้น)

ส่วนเรื่องนม โยเกิร์ต หรือปัญจมฤตนั้น หลังสรงเสร็จแล้วก็นำไปรดทิ้งในที่อันสมควร

สำหรับศิวลึงค์ เมื่อสรงแล้วก็เช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อย ไม่ควรทิ้งไว้ให้เลอะเทอะครับ

[หริทาส]

ขอบคุณน้องอักษรชนนีที่ นำข้อมูลเก่าๆมาลงให้ใหม่ครับ

[จิ้งจอกพันหน้า]

ขอบพระคุณคร้าฟ สำหรับ ความรู้ ทั้งหมด ทั้งมวล

เพื่อการกระจ่างแจ้ง ไม่ทำอะไรไขว้เขวไป ........


สาธุ สาธุ สาธุ