Loader

ขอเรียนถามเกี่ยวกับการบูชาหน่อยครับ (สังข์ และ ไนเวทยัม)

Started by ramadas, February 12, 2009, 16:37:18

Previous topic - Next topic

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

ผมมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการประกอบพิธีบูชาพระเป็นเจ้า
บางประการ จะขอความกรุณาท่านผู้รู้ในบอร์ดนี้ ช่วยไขข้อข้องใจด้วยอะครับ เพื่อจะได้ถือปฏิบัติให้ถูกต้องอะครับ

1.สังข์ที่ใช้เป่าจะนำมาใช้สรงได้หรือไม่ครับ
2.ในการถวายเครื่องสังเวย (ไนเวทยัม) นั้น ต้องพรมน้ำลงบนสิ่งของที่จะถวายด้วยหรือครับ (เห็นพราหมณ์ที่วัดแขกทำ)ไม่ทราบว่ามีนัยยะอะไรในการพรมน้ำอะครับ


ขอบพระคุณครับ
[HIGHLIGHT=#ffffff]ชนใดหวังข้ามอุปสรรค  พึงพำนักพิคเนศนาถา
สำเร็จสมดังจินดา พระองค์พาข้ามพิฆะจัญไร
[/HIGHLIGHT]

เห็นตั้งไว้หลายวันแล้ว ใจคอจะไม่มีใครตอบคุณ ramadas  เลยหรือ ผมก็อยากรู้นะเนี้ย จะว่าไปตามธรรมเนียมฮินดูแท้ เราก็ไม่สันทัดซะด้วย ไอ้จะหาภรรยาเป้นคนอินเดีย ก็ต้องให้ฝ่ายหญิงมาขอ แล้วอย่างเราเนี้ย ถือว่าต่างพันธุ์เขาก็ไม่สนใจ เพราะเราไปเข้าทางละม้ายคล้ายทางเกาหลีญี่ปุ่นมากกว่า แหม่ถ้ามีเมียเป็นคนอินเดียนิดนึงนะ จะเจาะตำนานให้ชัดเจนไปเลย 55555(เนี้ย ถ้าผ่านพาหุรัด เจอแขกสวยๆจะเอาน้ำมันพรายป้ายเลย อิอิ)

แต่จะให้เดาคำตอบที่เจ้าของกระทู้เขาถามมานะ ก็ไม่รู้จะตอบไง ครั้นไปวัดแขกหรือเทพมณเฑียรตอนไหน ก้คุยกะเขาไม่ค่อยรู้เรื่อง จะล่อภาษาเทพปนแขก ก็กลัวเขายันตกกะได เลยต้องนั่งมองหน้ากันกับเพื่อนที่ไปกัน ...   ก็ดูๆไป ไม่รู้จะถามใคร ถ้าท่านหริทาสอยุ่ก็พอลุ้น เพราะเป็นถิ่นเขา ถ้าถิ่นเราก็ต้องเข้าป่า เอ่อ แบบนี้จะหาคำตอบได้ง่ายกว่า


จากคำถามสองข้อ เป็นผมนะ เรื่องสังข์ ถ้าเอาตามที่เห็นมา สังข์เขาจะแยกกัน ตัวเล็กจะเอาไว้รดน้ำ ตัวใหญ่เอาไว้เป่า ส่วนจะเป็นสังข์แบบทักษิณาวัตรหรือเปล่าอันนี้ต้องไปสืบค้นเอา แต่เห็นเขามีคลิบลายสีทองนะตัวที่เอาไว้รดน้ำ ตัวเล้กๆยาวๆรีๆ มีชื่อเรียกอยุ่เหมือนกัน แต่จำไม่ได้ว่าไปอ่านที่ไหน เรื่องสังข์นี้ละ

ส่วนข้อสอง อันนี้ตามความคิดผมนะ คงเป็นน้ำมนต์ที่ผ่านพิธีมาแล้ว พรมเพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ คงตามธรรมเนียมของฮินดูนั้นแหละ ถ้าเป็นผมไม่ได้เป็นพราหมณ์ ก็ล้างๆให้สะอาด แล้วถวายเลย จบข่าว...... 

งานนี้เดาตลอดศก  

  กรรม เค้าเพิ่งตั้งกระทู้เมื่อวานตอนเย็นๆ เองพี่ตี๋ ผมได้อ่านอยู่ แต่พอดีติดกิจธุระไปร้านซะก่อน ตอนนี้ก็ขอไปนอนซักสองงีบครับ เด๋วมาตอบให้ ง่วงมาก จาเป็นลม แล้วครับ ตาลายๆ ครับผม

   ก็วัยรุ่นนิ จายมันร้อนอะ เลยมองไม่เห็นอยากฮู้ละก้า นึกว่าตั้งหลายวันแย้วอะดิ  

Quote from: ลองภูมิ on February 13, 2009, 11:52:11
   ก็วัยรุ่นนิ จายมันร้อนอะ เลยมองไม่เห็นอยากฮู้ละก้า นึกว่าตั้งหลายวันแย้วอะดิ  

กระทู้นี้ พี่ชายบอกว่าวัยรุ่น กระทู้นู้น บอกว่าแก่แล้วหลงลืม สงสัยพี่ชายเราจะมีหลายอายุเนาะเนี่ย เขามีแต่ season change แต่งานนี้คงเป็น old up and down   

ตอบข้อแรกก่อน

สำหรับเรื่องสังข์นะครับ ส่วนมากเค้าจะแยกกันนะครับ คือสังข์รดน้ำก็สังข์รดน้ำ สังข์เป่าก็สังข์เป่า ซึ่งปรกติแล้ว สังข์รดน้ำจะตัวเล็กกว่าซักหน่อย ถ้าไปซื้อ ก็บอกเค้าได้ครับ ว่าต้องการสังข์เป่าหรือสังข์รดน้ำ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นสังข์ชนิดเดียวกันครับ ภาษาง่ายๆ ก็เรียกว่า สังข์อินเดียนี่แหละครับ เพียงแต่ว่า สังข์เป่า ต้องเอามาเจาะรูตรงก้นครับ ให้มันเป่าแล้วเกิดเสียงได้ครับ เหตุที่เค้าแยกกันก็เพราะคิดเรื่องการไหลของน้ำที่ผ่านจากสังข์ครับ เพราะสังข์เป่า มีการเจาะรูตรงก้น จะทำให้น้ำไหลได้สองทิศทางครับ  ปกติแล้วตามความเชื่อเดิมของสังข์ จะมีสองชนิดครับ คือ
สังข์อุตราวัตร และ สังข์ทักษิณาวัตร



สังข์อุตราวัตร คือ สังข์ที่มีลักษณะเวียนซ้ายครับ







สังข์ทักษิณาวัตร คือ สังข์ที่มีลักษณะเวียนขวาครับ







สังข์ทั้งสองแบบนี้เชื่อกันว่าเป็นสังข์ที่มีความเป็นมงคลทั้งคู่ครับ แต่ด้วยคติไทย ที่เชื่อว่าอะไรเวียนขวาแล้วดี จึงนิยมใช้สังข์ทักษิณาวัตรกันซะมากกว่าสังข์อุตราวัตรครับ




ตำนานสังข์ที่ใช้ในพิธีทางศาสนาพรามหณ์

ตำนานที่ 1

เป็นของที่เป็นมงคลอย่างยิ่ง เรื่องเล่าทางศาสนาพราหมณ์ที่เกี่ยวกับสังข์ คือ ตำนานเรื่องนารายณ์สิบปางในปางที่สามคือมัสยาวตารซึ่งพระนารายณ์แบ่งภาคเป็นปลาไปปราบอสูรหัยครีพซึ่งอาศัยขณะที่พระพรหมเผลอหลับพระเวทได้ไหลออกมาจากโอษฐ์ หัยครีพจึงฉวยจังหวะนั้นลักคัมภีร์พระเวทไปจากสวรรค์ ก่อนหน้าที่พระนารายณ์จะสังหารหัยครีพนั้นทางฝ่ายหัยครีพได้นำพระเวททั้งสี่ไปฝากไว้กับสังข์อสูรแล้วทำให้พระนารายณ์ต้องตามไปจนพบว่าสังข์อสูรนำพระเวททั้งสี่กลืนกินเข้าไปอยู่ในท้อง พระองค์จึงแสดงฤทธานุภาพใช้มือแหวกท้องสังข์จนนำพระเวทออกมาได้ รอยบุ๋มข้างปากสังข์นั้นเชื่อกันว่าเป็นรอยหัตถ์ของพระนารายณ์นั้นเอง

ด้วยเหตุที่ท้องของสังข์อสูรเคยเป็นที่เก็บคัมภีร์พระเวทอันเป็นคัมภีรศักดิ์สิทธิ์ พระนารายณ์จึงสาปไว้ว่าต่อไปภายหน้าหากใครจะประกอบมงคลพิธีใดๆก็จงเอาสังข์เข้าร่วมอยู่ในพิธีนั้น ผู้ใดรดน้ำผ่านอุทรสังข์น้ำนั้นจะเป็นมงคลกันอุบาว์ทเสนียดจัญไร ผู้ใดเป่าลมผ่านสังข์ในมณฑลนั้นก็จะเป็นมงคล

ตำนานที่ 2

สังข์ คือหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 14 อย่าง อันเกิดจากการกวนเกษียรสมุทรของเหล่าเทวดาและอสูร

ตำนานที่ 3

สืบเนื่องมาจากตำนานแรกครับ ที่อสูรขโมยคัมภีร์พระเวท แล้วพระอินทร์ทรงทราบ จึงเป่าสังข์ปลุกองค์พระวิษณุให้ปราบอสูรครับ ดังนั้น สังข์จึงเป็นเครื่องมงคล ไว้สำหรับอัญเชิญทวยเทพต่างๆครับผม

เรื่องสังข์ฝากไว้แค่นี้ครับ

ขอบคุณ
รูปภาพและเนื้อหาบางส่วนจากเว็บ  www.amulet.in.th  มา ณ ที่นี้ครับ




ส่วนเรื่องการถวายข้าว ผมไปยกของแป็บครับ เดี๋ยวมาตอบครับผม

การถวายข้าว เพื่อนอินเดียใต้เรียกว่า ไนเวตรียัม (ไนเวทยัม) แต่เพื่อนอีกคนที่อยู่อินเดียเหนือมันเรียกว่า เจยะอาปรัน ((ผมอาจเขียนผิด แต่สำนวนไม่ผิดแน่ครับ)) เค้าบอกว่าการถวายข้าวพระที่อินเดียเค้าจะใช้น้ำจากแม่น้ำคงคาครับ ซึ่งถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ การพรมน้ำลงไปเป็นการชำระล้าง มันใช้คำว่า clearness เลยครับ ใช้น้ำจากแม่น้ำคงคามาทำให้สิ่งที่เราจะถวายแก่พระเป็นเจ้าสะอาดและบริสุทธิ์ และการพรมน้ำนี้เป็นการอัญเชิญเทพเจ้ามารับข้าว หรือ สิ่งที่เราถวายครับ ว่าอาหารบริเวณที่เราพรมน้ำไปนี้พวกเรายินดี และเต็มใจสรรหาสิ่งที่ดี มาถวายแก่พระองค์ ขอให้พระเป็นเจ้าโปรดรับสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ถวาย ประมาณนี้ครับ

แจ่มแจ้งเลยครับ ขอบพระคุณอย่างสูงครับ
[HIGHLIGHT=#ffffff]ชนใดหวังข้ามอุปสรรค  พึงพำนักพิคเนศนาถา
สำเร็จสมดังจินดา พระองค์พาข้ามพิฆะจัญไร
[/HIGHLIGHT]

เรื่องสังข์ เพื่อนๆหลายคนก็ได้มาตอบแล้วนะครับ
ผมมาเรื่องไนเวทยัมแล้วกันครับ
ในการถวายไนเวทยัมนั้น
ถ้าตามขั้นตอน (อันนี้ที่นำมาจากหนังสือ คู่มือการทำบูชา นิตยปูชาและรุทราษฺฏาธยายี ภาษาสันสกฤต ของท่านพระคุณเจ้าสวามีศิเวนทรปุรี นะครับ ซึ่งท่านอาจารย์บัณฑิตลลิต ที่เทพมณเฑียรก็ปฏิบัติตามแนวทางนี้)
จะเริ่มด้วยการพรมน้ำไปยังที่ๆจะถวาย ทำนอง่าเพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ จากนั้นทำปรกฺษารฺณัม คือการล้างมือของผู้ถวายด้วยน้ำเล็กน้อยเพื่อให้เกิดความสะอาด
จากนั้นนำอาหารที่จะถวายวางไว้เบื้องหน้าเทวรูป ทำการพรมน้ำไปพร้อมๆกับภาวนาคายตรีมนตร์ในใจ เพื่อให้อาหารนั้นบริสุทธิ์ แล้วทำมุทราครับ ทำเธนุมุทรา (และอาจทำมัสยมุทราหรือทำจักรมุทราด้วย จะทำมุทราไหนอันนี้แล้วแต่สำนักครับ) จากนั้นสวดมนตร์ในพระเวทบทถวายอาหาร "นาภฺยาอสีธํ ตริกฺษ...." จบแล้ว ทำมุทรา(จำชื่อไม่ได้แล้ว ลักษณะเหมือนโบกหรือหยิบอากาศเบื้องบนอาหารถวายเทวรูป)ถวายอาหารลงในปราณทั้ง 5 เริ่มด้วย 1โอมฺ ปราณาย สวาหา 2โอม อปานาย สวาหา 3.โอม วฺยานาย สวาหา ....ฯลฯ
แล้วถือว่าไดเถวายอาหารแล้ว
จากนั้นจึงถวาย "มธเยปาณียมฺ" คือน้ำดื่มในระหว่างอาหารจะใช้ช้อนหรือ ใบมะม่วงตักน้ำก็ได้ และถวาย"อาจมนียมฺ หสฺตปรกฺษารณมฺ คือทำนองน้ำล้างพระโอษฐ์ล้างมือ" จึงเป็นเสร็จขั้นตอนของการถวายไนเวทยมฺครับ
จากนั้นก็จะเป็นการถวาย ตามฺพูลมฺ หรือหมากพลูต่อไป

อันนี้คือตามแบบแผนที่ระบุไว้ในหนังสือครับ ซึ่งจะทำในการบูชาทั้ง 16 ขั้นตอน (โษฑโศปจาร)หรือ 5 ขั้นตอน(ปญฺโจปจาร)

แต่ถ้าเราไม่สามารถทำได้ตามแบบนี้ก็ไม่ผิดครับ เพราะค่อนข้างยุงยากมากทีเดียว
ก็ให้ประพรมน้ำที่ๆจะถวาย แล้วถ้าเป็นผลไม้ก็ล้างให้สะอาดก่อนถวาย แล้วพอจะถวายก็พรมน้ำเล็กน้อยลงบนอาหารทั้งหมดที่จะถวาย อธิษฐานถวายของท่าน อธิษฐานถวายอาหารลงในปราณทั้ง 5 จากนั้นกล่าวคำบูชาพระองค์นั้นก็เพียงพอแล้วครับ ไม่ต้องกังวลครับ

ที่ผมชี้แจงให้ฟังข้างต้น เพื่อไว้เป็นความรู้ครับ

อ่อ เพิ่มเติมอีกนิดนะครับ

ท่านบัณฑิตลลิตเคยบอกว่า
ถ้าถวายอาหารแก่เทพเจ้าที่เป็นองค์พระนารายณ์ หรืออวตารของพระนารายณ์ เช่น พระราม พระกฤษณะ พระนรสิงห์ ฯลฯ
อย่าลืม ใส่ใบกระเพราลงในอาหารนั้นๆด้วยครับ เพื่อที่พระองค์จะได้รับอาหารนั้นด้วย เพราะชาวอินเดียเชื่อว่า ถ้าไม่ใส่ใบกระเพราลงในอาหารนั้นพระนารายณ์จะไม่ทรงรับอาหารนั้นครับ เพราะกระเพรานั้นเป็นยอดดวงใจของพระนารายณ์ครับ(พระแม่ตุลสี) แต่ถ้าเป็นเทวีต่างๆและพระคเณศ ให้ใส่ กานพลูลงในอาหารที่จะถวายครับ

อันนี้ท่านบัณฑิตบอกมานะครับ

  ในที่สุดพี่หริทาสก็ทนไม่ไหว

ออกมาเป็นหน่วยสวาท เพิ่มเติมข้อมูลให้น้องๆ และเพื่อนๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

ขอบคุณค๊าบบบบบบบ

[HIGHLIGHT=#f2dcdb]ได้ความรู้มากๆค่ะ ขอบพระคุณนะคะ[/HIGHLIGHT]

สบายดีเปล่า คุณ หริทาส ผมเองก็เหนื่อยๆจากงานบวงสรวงหล่อพระมา เหนื่อยเจงๆ   แต่ความรู้ที่บอกมานั้นก็เยี่ยมครับ  คนทั่วไปจะได้ทำได้เท่าที่ควรทำ  เพราะเป็นหลักการทั่วๆ ไป

ราคาสังข์แบบเป่า เท่าที่เคยสำรวจราคานะครับ มีตั้งแต่ประมาณ 500 บาท ไปจนถึงหลักพันครับ 

สวัสดีครับทุกท่าน

ว่างๆก็คงแวะวเวียนมาตอบตามอัตภาพครับ

สวัสดีครับคุณกระบี้น้อย

งานผมยุ่งมากมายเพราะว่าช่วงนี้ก็ใกล้สอบแล้ว ต้องรีบตรวจงานนักศึกษาให้ทันอ่ะครับ
ยังไงก็รักษาสุขภาพนะครับทุกท่าน

  เข้าใจนะคนที่เป็นครูบาอาจารย์เนี้ย เพราะคนใกล้ตัวก็เป็น แต่ถ้าได้รับเงินสนับสนุนมากๆเท่าเอกชนก็ดี แต่ในกรณีของหลวงก็ลำบากหน่อย แต่ก็ทำไปเถอะ เป็นแม่พิมพ์ของชาติครับ เหนื่อยหน่อยแต่ก็ภูมิใจ จิงปะน้องเชค

สังข์ในตำนานที่2 คือสังข์ สังข์นั้นอาจจะสวยมากๆ พระวิษณุเลยรับไว้ครับ
จำไม่ได้ว่าสังข์นั้ชื่ออะไร แต่มีชื่อครับ

สังข์นี้ไม่มีระบุกำเนิดไว้ในมหาภารตะ หรือ รามายณะ

แต่หลายๆ ตำราเชื่อว่าเป็น   ปัญจชันยสังข์

ขอบคุณพี่ยีนส์ค่ะ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


สังข์เป่านี่เขามีวิธีเลือกเสียงไหมคะ เห็นเวลาใช้ในพระราชพิธีคล้ายว่ามันจะเสียงดังวู้ๆๆๆๆๆ แต่เวลาไปตามร้าน เวลาเขาทดลองเสียงมันดังโป๊ดๆ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

สังแต่ละตัว เสียงไม่เหมือนกันค่ะ เพราะเกิดจากธรรมชาติ มนุษย์ไม่ได้สร้างขึ้นค่ะ

ฉนั้น ต้องลองค่ะว่าเสียงสังข์ ตัวไหนถูกใจเรา เสียงแหลม เสียงสูง เสียงทุ้ม อยู่ที่ขนาดสังข์ด้วยค่ะ ยิ่งตัวเล็กเสียงยิ่งแหลม ลองหาดูค่ะ เป่าๆๆๆไป
[HIGHLIGHT=#000000][/HIGHLIGHT]