Loader

พระแม่คงคา(คงคาเทวี) มารดาแห่งสายน้ำทั้ง ๓ โลก

Started by สฺวสฺติ, March 05, 2009, 13:38:58

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

 


 
   เนื่องจากเห็นหลายๆ ท่าน กล่าวถึงพ่อทั้ง ๓ และแม่ทั้ง ๓ เป็นหลัก ยังไม่มีบทความเกี่ยวกับ พระแม่คงคากันเลยครับ ซึ่งถ้าเปรียบความถึงบทบาทของพระองค์แล้วนั้น ก็คิดว่าคงไม่น้อยไปกว่าพระแม่ ทั้ง 3 ที่เป็นพระชายาใหญ่ ขององค์มหาเทพทั้งได้เลยนะครับ



   จะขอกล่าว ถึง พระคงคาเทวี พระองค์เป็นพระธิดาของท้าวหิมวัตและพระนางเมนกา ซึ่งมีน้องสาวพระนามว่าพระอุมาภควตี พระองค์ทรงเป็นพระชายาของพระศิวะ ตามคติความเชื่อของอินเดีย ว่ากันว่าพระองค์ทรงปลาใหญ่หรือจระเข้เป็นพาหนะ พระองค์เป็นเทวีผู้ให้กำเนิดสายน้ำ คงคาตามความเชื่อของชาวอินเดีย และนอกจากนั้นชาวฮินดูยังเชื่อว่าสายน้ำ คงคานั้นสามรถชำระล้างบาปของตนได้ พระนางคงคานั้นไม่ได้มีปางอันใดเนื่องจากว่าไม่มีการแบ่งภาคลงมาเกิดแต่มีการร่วมกับองค์พระศิวะในปาง คงเคศวรนั้นเอง นอกจากนั้นก็จะคงพบในรูปเคารพของพระศิวะโดยพระองค์จะปรากฏในเทวลักษณะที่เป็นน้ำไหลจากมวยผมของพระศิวะ ตามภาพด้านล่าง




    และแม้แต่ในศาสนาพุทธ หรือคนไทยเอง พระแม่คงคา ก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า ศาสนาอื่น หรือประเทศใด เพราะว่าท่านให้คุณที่มองเห็นได้ชัดแจ้งแน่แท้ ไม่ว่า การดื่ม การชำระ หรือแม้แต่การนำสิ่งไม่ดีจากตัวเราให้ท่านช่วยพัดพาไปให้พ้นกาย เป็นต้น
    การบูชาแม่คงคา โดยทั่วไปในอินเดียการบุชาแม่คงคาจะกระทำการเหมือนเทพองค์อื่นๆคือ จะบูชาด้วยการอารตี และสวดมนต์พระเวทย์ ซึ่งเครื่องบูชาในถาดอารตีจะประกอบด้วย

    - ดอกไม้สีส้มหรือสีเหลืองและดอกบัว
    - ผลไม้ที่มีรสหวานเท่านั้น 5 ชนิด
    น้ำนม
    ตะเกียงน้ำมัน
    กำยาน
    ขนมหวาน
    และจะทำการบูชาแม่คงคาที่ริมแม่น้ำคงคา(ในอินเดีย) แต่ถ้าเป็นในต่างเมืองเช่นเมืองไทย อาจจะทำการบูชาต่อหน้ารูปแม่คงคา หรือที่แม่น้ำใหญ่ และลอยเครื่องบูชาบางส่วนไปกับสายน้ำ เว้นไว้แต่ตะเกียงกับกำยาน เครื่องบูชาที่เหลือก็จะนำมาเก็บไว้รับทานเพื่อเป็นมงคลหรือแจกจ่ายเพื่อทำทานต่อไป แต่ถ้าเป็นการบูชาของไทยนั้นเครื่องบูชาจะประกอบด้วย
    ผ้าแพร 3 สี
    ข้าวตอก
    น้ำนม
    ดอกไม้สีเหลืองหรือส้ม
    พวงมาลัยดอกดาวเรือง
    ขนมหวาน 7 ชนิด
    ผลไม้รสหวาน 5 ชนิด
    รูปปั้นพระแม่คงคา (เทวรูป)

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล ได้แก่ พลังจิต และ วิกิพีเดีย


ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
งานประจำปีของพระแม่คงคา วันไหนคะ


   ลิ้งค์น้องเฟริสคอมผมมันไม่ยอมให้เปิดมานแจ้งว่ามีไวรัสอ่ะครับ แง้ว

ข้อมูลเยอะไม๊ครับ ถ้าไม่เยอะวานก็อปปี้แปะให้หน่อยครับผม  

วันที่ 7 เดือน 7 วันไหว้พระแม่คงคาของญี่ปุ่น
วันที่ 07 เดือน 07 ปี 07 (7 กรกฎาคม 2550) ทั่วโลกคลั่งไคล้การจัดงานที่สำคัญๆ นอกจากจะเป็นตัวเลขที่จดจำง่ายแล้ว
ยังเชื่อกันว่าเป็นตัวเลขมงคล และมีประวัติศาสตร์ ตำนานที่น่าจดจำมากมาย ถือเป็นเลขศักดิ์สิทธิ์-นำโชค คู่รักในฝรั่งเศส-อเมริกาแห่จองจัดงานวิวาห์ กาสิโนก็แจกแจ๊คพ็อต 777 รางวัล ออกลอตเตอรี่ให้รางวัลสูงถึง 7 ล้านยูโร ส่วนไทยก็แห่นัดสังสรรค์กลุ่ม-ศิษย์เก่าในวันดังกล่าว เชื่อจะทำให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม สำนักข่าวเอเอฟพีได้รายงานถึงความคลั่งไคล้เลข 7 ของชาวต่างชาติ ก่อนหน้าที่จะถึงวันที่ 7 เดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือน 7 และปีนี้คือปี ค.ศ.2007 หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า "07-07-07" โดยปรากฏว่าในวันดังกล่าวมีคู่รักจำนวนมากทั้งในสหรัฐและฝรั่งเศสพากันจับจองที่จะจัดงานแต่งงาน เพราะเชื่อว่าเลข "7" ถือเป็นเลขที่ดีและให้โชคลาภ

นายฌอง-ดานิแอล แฟร์มิเยร์ นักวิเคราะห์ตัวเลขชาวฝรั่งเศส กล่าวว่า เลข 7 เป็นเลขที่ศักดิ์สิทธิ์ มีอำนาจพิเศษ และยังเป็นเลขที่ขึ้นชื่อว่านำโชคลาภมาให้ ดังนั้น วันที่ 07-07-07 ซึ่งมี 7 หลายตัว จึงจะช่วยทำให้เกิดโชคมากยิ่งๆ ขึ้นไปอีก โดยเลข 7 เกิดขึ้นจากการรวมกันระหว่างเลข 4 กับเลข 3 ซึ่งเลข 4 เป็นสัญลักษณ์ของสสาร และเลข 3 เป็นสัญลักษณ์ของวิญญาณ

โดยนายแฟร์มิเยร์กล่าวว่า วันที่ 7 กรกฎาคม 2007 เป็นวันดีสำหรับการแต่งงาน เพราะจะทำให้ชีวิตการแต่งงานมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น

ทั้งนี้ ในวันดังกล่าวมีคู่รักจำนวนมากที่จะเข้าพิธีแต่งงานกัน และหนึ่งในจำนวนคู่รักที่จะแต่งงานกันนั้น ก็มีคู่ของ "โทนี ปาร์กเกอร์" นักบาสเกตบอลชื่อดังของเอ็นบีเอชาวฝรั่งเศส ที่จะเข้าพิธีวิวาห์กับ "อีวา ลองโกเลีย" ดารานางแบบสาวชื่อดังชาวอเมริกัน ที่จะเข้าพิธีวิวาห์กันที่ปราสาท โวส์-เลอ-วีกงต์ นอกกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ด้านเว็บไซต์ เดอะน็อตดอทคอม บริษัทจัดงานวิวาห์ของสหรัฐ ระบุว่า มีคู่รักในสหรัฐที่วางแผนตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่าจะแต่งงานในวันที่ 7 กรกฎาคม มากถึงกว่า 30,000 คู่ ในขณะที่ทุกๆ ปีจะมีเพียงคู่รักราว 12,000 คู่ ที่เลือกแต่งงานในวันเสาร์ของเดือนกรกฎาคม

ด้านร้านเดวิดส์ ไบรดาล ร้านขายปลีกชุดวิวาห์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ทางร้านต้องจัดส่งชุดเจ้าสาวมากถึง 20,000 ชุด ในวันที่ 7 กรกฎาคม ซึ่งถือว่ามากกว่าทุกปีในช่วงเวลาเดียวกันถึงเท่าตัว และเชื่อว่าในวันดังกล่าวน่าจะมีคู่วิวาห์มากถึง 65,000-70,000 คู่ทั่วประเทศ

ข่าวระบุว่า บรรดาโบสถ์ในนครลาสเวกัสนั้น ต่างถูกคู่บ่าวสาวจับจองไว้สำหรับทำพิธีแต่งงานกันเต็มหมดแล้ว โดยที่โบสถ์ฟลาวเวอร์ส เพียงแห่งเดียว มีคู่รักที่จองสถานที่ไว้สำหรับประกอบพิธีแต่งงานในวันที่ 7 กรกฎา คม มากถึง 113 คู่ด้วยกัน ซึ่งมากกว่าปกติถึง 3 เท่า

ด้านกาเลอรี ลาฟาเย็ต ห้างสรรพสินค้าแห่งใหญ่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า ทางห้างมีงานแต่งงานมากถึง 774 คู่ด้วยกันในวันดังกล่าว ขณะที่บรรดาบริษัทรับจัดงานวิวาห์หลายแห่งต่างมีงานล้นมือกันในวันที่ 7 กรกฎาคม

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหลายคู่จะพลาดไม่สามารถจัดงานแต่งงานในวันดังกล่าวได้ เพราะไม่มีสถานที่หรือไม่มีโบสถ์จะเข้าพิธีแต่งงาน ก็ยังสามารถหาโชคลาภจาก 07-07-07 ได้ โดยที่สหรัฐมีการแจกรางวัลแจ๊คพ็อตสูงถึง 777 รางวัลในวันดังกล่าว และยังมีการเสนอโปรโมชั่นพิเศษสำหรับอาหารเย็นในราคา 777 ดอลลาร์ หรือจะเป็นโปรโมชั่นแบบทั้งคืนก็อยู่ที่ 7,777 ดอลลาร์

นอกเหนือจากนี้ ในวันที่ 7 กรกฎาคม ยังเป็นวันที่จะมีการประกาศผลการคัดเลือก 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ที่ให้ประชาชนทั่วโลกได้ร่วมกันลงคะแนนเลือกสถานที่ที่สมควรเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ และยังเป็นวันที่จะมีการจัดคอนเสิร์ต "ไลฟ์ เอิร์ธ" ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนของ "อัล กอร์" อดีตรองประธานา ธิบดีสหรัฐ เพื่อรณรงค์การต่อต้านภาวะโลกร้อน

การจัดคอนเสิร์ตดังกล่าวมีขึ้นใน 9 เมืองด้วยกัน คือ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น, นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน, นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย, กรุงโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้, นครริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ, นครนิวยอร์ก สหรัฐ, เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี และนครอิสตันบุล ประเทศตุรกี

ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่น มีเทศกาล "ทานาบาตะ" (Tanabata) หรือที่เรียกเป็นภาษาไทยว่า "เทศกาลแห่งดวงดาว" ตามความเชื่อที่ว่าความหวังจะเป็นจริงหากเขียนมันลงบนกระดาษ 5 สี แล้วนำไปแขวนไว้ที่ต้นไผ่ มีนักท่องเที่ยวหลายคนจากญี่ปุ่นและทั่วโลกไปดูการประดับโคมกระดาษที่ตกแต่งทั่วเมือง ขบวนพาเหรด และ light up ในตอนกลางคืน และเขียนสิ่งที่ปรารถนาลงบนกระดาษ เพื่อไปแขวนที่ต้นไผ่ เป็นการบูชาพระแม่คงคา หรือทางช้างเผือก ตามตำนานของญี่ปุ่น


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วที่ฝั่งแม่น้ำด้านเหนือ ของ "อามาโน่ คาวา

(อามาโน่
=
สวรรค์
,
คาว่า
=
แม่น้ำ
>>
แม่น้ำสวรรค์ คือทางช้างเผือกนั่นเอง)" บนสวรรค์มีลูกสาวของเทพผู้ครองสวรรค์ นางหนึ่งชื่อว่า "โอริ ฮิเมะ" นางสวยงามและขยันขันแข็งทำงานตัวเป็นเกลียว ไม่ยอมหยุด งานของ "โอริ ฮิเมะ" เป็น หน้าที่ประจำคือ "การทอผ้า" และผ้าที่ "โอริ ฮิเมะ" ทอนั้นก็สวยงามประณีตเป็นที่พึงพอใจของ หมู่เหล่าทวยเทพทั้ง หลายทุกถ้วนหน้า และการที่ผ้าที่"โอริ ฮิเมะ"ทอแล้วเป็นที่พึงพอใจ ของหมู่ทวยเทพทั้งหลายนั้น จึงทำให้"โอริ ฮิเมะ" ต้องทอผ้าอยู่ตลอดวันตลอดคืน แต่นางก็ขยัน ขันแข็งไม่เคยหยุดงานทอผ้าของนางเลย..ความที่นางไม่เคยหยุดพัก ผ่อน..

จึงเป็นเพราะการนี้ เทพผู้ครองสวรรค์ผู้เป็นบิดาก็ ให้เป็นห่วงและสงสารธิดามากจึงคิดที่จะให้นางได้มีคู่ครองนางจะได้มีความสุขเล็ก ๆน้อย ๆ บ้าง เทพผู้เป็นบิดาจึงประกาศหาคู่ให้กับ"โอริ ฮิเมะ" แล้วการเลือกคู่ของ"โอริ ฮิเมะ"ก็บังเกิด ขึ้น นาง ถูกตาต้องใจชายหนุ่มที่ชื่อ "ฮิโกโบชิ"มาก ชายหนุ่ม ผู้นี้เป็นคนเลี้ยงวัวอยู่ฝั่ง ด้านใต้ ของ "อามาโน่ คาวา (ทางช้างเผือก)" "ฮิโกโบชิ"เป็นชายหนุ่มที่ขยัน ขันแข็งไม่แพ้ไปจาก"โอริ ฮิเมะ" และที่สำคัญคือชายหนุ่มร่างกายกำยำและ สง่างามเป็นที่สุด..

"โอริ ฮิเมะ" ถูกตาต้องใจและลุ่มหลงชายหนุ่ม "ฮิโกโบชิ"เป็นอันมาก.."ฮิโกโบชิ"ก็ดูจะถูกใจในตัว"โอริ ฮิเมะ"เหมือนกัน เทพผู้เป็นบิดา เห็น ว่าทั้งสองถูกตาต้องใจกันอย่างนั้น จึงจัดการให้ทั้งสอง ได้แต่งงานกันสมดังใจปรารถนา..

ตามเนื้อเรื่องทุกอย่างฟังแล้วดูเหมือนจะ มีความสุข.. แต่ตรงนี้ก็เกิดปัญหาขึ้นมาเข้าจนได้เพราะเมื่อ "โอริ ฮิเมะ"กับ"ฮิโกโบชิ"ได้แต่งงานกันแล้ว "โอริ ฮิเมะ"ก็ไม่ยอมทำงานทอผ้า ของนางอย่างแต่ก่อน..ทั้งสองจะออกไปเที่ยวด้วยกันทุกวัน ทุกคืน "โอริ ฮิเมะ" มีความสุขมากและลุ่มหลง"ฮิโกโบชิ"

จนเหลือคนานับลุ่มหลงจนลืมหน้าที่ และ งานประจำของนาง...ใหม่ๆ เทพผู้เป็นบิดา ก็ให้อภัยมาตลอด

แต่ยิ่งนานวันเข้า "โอริ ฮิเมะ" ก็ยิ่งหลงระเริงไปกับ ความรักจนลืมหมดทุกสิ่งทุกอย่างเอาแต่ออก ไปเที่ยวกับ"ฮิโกโบชิ" หนักเข้าเทพผู้บิดาจึงเกิด พิโรธจึงลงอาญาสาปให้ทั้ง สองแยกจากกันไปคนละทิศ "ต่อจากนี้ให้แยกเจ้าทั้งสองไปอยู่คน ละฝากฝั่งของ "อามาโน่ คาวา(ทางช้างเผือก)" ให้แยกจากกันไปอยู่แต่คนละทิศ แต่บัดนี้ "

เมื่อ"ฮิโกโบชิ" โดนแยกจากไปแล้ว "โอริ ฮิเมะ" ก็ให้เป็นโศกเศร้าอาดูรที่ต้องพรัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รักนางร่ำอาลัย "ฮิโกโบชิ"

ผู้เป็นสามีสุด ที่รัก จนน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด เทพผู้เป็นบิดาเฝ้ามองความเศร้าโศกของนางทุกวันทุกคืน.. เทพผู้เป็นบิดาเห็นอาการ ของนางร้ายแรงแบบนั้นก็ให้เป็นสงสารนางอย่างสุดที่จะทนอยู่ได้ จึงบอก อนุญาตนางว่า "ในทุก ๆปีให้นางข้าม อามาโน่คาวา(ทางช้างเผือก)ไปพบ "ฮิโกโบชิ" ได้หนึ่งครั้ง แล้ววันนั้นก็คือวันที่ 7 เดือน 7 (กรกฏาคม)ของทุก ๆ

ปี

แล้วจากนั้นมา...ทั้งสองจึงได้เกิดมีความหวัง ว่าจะ ได้พบกันถึงแม้ว่าจะเป็น หนึ่งปีหนึ่งครั้งก็ตาม"โอริ ฮิเมะ"จึงกลับมา ขยันขันแข็งตั้งหน้าตั้งตา ทำงานทอผ้าของนางต่อเหมือนเดิม..

และในทุก ๆปี ของวันที่ "อามาโน่ คาวา" (ทาง ช้างผือก) จะ ออกมาปรากฏบนท้องฟ้านั้น ก็เป็นอันว่า "โอริ ฮิเมะ"และ"ฮิโกโบชิ" ก็จะได้มาพบกันสมดังใจ ปรารถนา จบแล้วสำหรับเนื้อเรื่องความเป็นมา Romantic ที่มาของ"ความรักแห่ง ทางช้างเผือก "

ทางด้านประเทศไทย คนไทยจำนวนหนึ่งได้รับอิทธิพลจาก 07-07-07 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกด้วยเช่นกัน โดยเห็นว่าวันดังกล่าวเป็นวันดีที่สมควรมาพบปะสังสรรค์เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หรือรวมพลังกัน คนกลุ่มต่างๆ ในไทยจึงนัดพบปะสังสรรค์กัน ส่วนใหญ่นัดแนะผ่านเว็บไซต์ต่างๆ อาทิ สมาชิกเว็บไซต์ www.thaiindie.com นัดกันเวลา 19.00 น. ที่ร้านคาสเซ็ต (บ้านจูนแบร์การ์เด้น และโมโมโกะ) อารีสัมพันธ์ ซอย 2, เว็บมาสเตอร์ www.aiyazawa.com นัดสมาชิกที่สยามสแควร์,ศิษย์เก่านิเทศศาสตร์ 33 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นัดผ่าน www.nitade.net ที่ ร้าน stu-fe เวลา 20.00 น., ศิษย์เก่าวารสารศาสตร์ รุ่น 40 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นัดผ่านเว็บ www.jc40.net ที่ร้าน สระ-ลาน-ลม,กลุ่ม "อนุชนคริสเตียน" นัดผ่านเว็บ www.kingdomgenerations.org จัดงาน Hunger for Purity เวลา 09.00-16.00 น. ที่คริสตจักรสดุดี (สุขุมวิท 103 ) และศิษย์เก่าสวนกุหลาบ รุ่น 107 (พ.ศ.2526-2531) เลี้ยงที่สมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบ เวลา 18.00 น.

กลุ่มอนุชินคริสเตียนให้เหตุผลที่นัดวันดังกล่าวว่า "จัดในวัน 07/07/07 เพราะว่าในต่างประเทศก็จัดด้วย นี่ไม่ใช่การถือโชคลาง แต่เป็นการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อให้มีพลังฝ่ายวิญญาณ เราเชื่อในการอธิษฐานและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน"

ในด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จัดรายการโลกสวยด้วยมือเรา พบกับบทเพลงจากศิลปินดารา เรื่องน่ารู้และผลกระทบของโลกร้อน  ถ่ายทอดสด ตลอด 3 ชั่วโมง ออกอากาศร่วมกับสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และเครือข่ายวิทยุกว่า 100 สถานี ทั่วประเทศไทย และผ่านไทยทีวีโกลบอลเน็ตเวอร์ค 170 ประเทศทั่วโลก  ในเวลา 20.15-23.15 น. วันที่ 7 เดือน 7 ปี 2007



ขอบคุณข้อมูล
:
[/table]
No [HIGHLIGHT=#ffffff]one [/HIGHLIGHT]is PERFECT

เพิ่งทราบครับว่าที่ญี่ปุ่นก็มีพระแม่คงคา

ไม่ทราบน้องเฟริสทราบรึป่าวครับ ว่าการนับถือพระแม่คงคาของประเทศญี่ปุ่นนั้น ได้รับอิทธิพลทางศาสนามาจากฮินดูหรือว่ายังไงครับ

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับน่าจะเป็นการเล่าต่อต่อกันมาของคนสมัยโบราณของญี่ปุ่นนะครับแต่ในประเทศจีนก็มีประเพณีแบบนี้คล้ายกันครับตามข้อความด้านล่างครับ

ทำไมคนญี่ปุ่นต้องอธิษฐานขอพรในวันนั้นกันหรือ ? แล้วทำไมจะต้องเอากระดาษคำอธิษฐานไปผูกติดไว้ที่ต้นไผ่ด้วยล่ะ ?

เมื่อสมัยก่อนในวันที่ 7 เดือน 7 (กรกฏาคม) ของทุก ๆ ปีนั้น จะเป็นวันที่คนญี่ปุ่นจะมีพิธีบูชา \" พระแม่คงคา \" หรือมีชื่อเฉพาะอีกอย่างว่า \" ทานาบาตะซึเมะ \" ซึ่งในวันนี้พวกผู้หญิงจะทำการทอผ้า และจะนำไปบวงสรวงหรือเซ่นไหว้ ให้กับแม่คงคา เพื่ออธิษฐานขอให้พระแม่คงคาช่วยคุ้มครองอย่าให้เกิดหรือมีทุพภิกขภัยใด ๆ เกิดกับครอบครัวของพวกเธอในภายภาคหน้ากัน...

พิธีการและธรรมเนียมการอธิษฐานขอพรทำนองนี้ ก็เกิดมีที่ประเทศจีนเหมือนกันชื่อ \" โฮชิ มาซึรี (เทศกาลขอพรจากดวงดาว) \" จะทำขึ้นในวันที่ 7 เดือน 7 (กรกฏาคม)ของทุก ๆ ปีเหมือนกับญี่ปุ่น จุดประสงค์ก็คล้าย ๆ กัน จะมีแตกต่างก็นิด หน่อย คือในวันนี้พวกผู้หญิงที่ประเทศจีนจะทำการอธิษฐานขอพรจากดวงดาวเพื่อขอให้ตนนั้น ทำการทอผ้าและเย็บผ้าร้อยเข็มได้เก่ง ๆ กัน...

เล่ากันต่อ ๆ มาว่าพิธีการและธรรมเนียมการ อธิษฐานขอพร\" โฮชิ มาซึรี (เทศการขอพรจากดวงดาว) \" ของจีนนี้ ได้ตกทอดมาถึงญี่ปุ่นด้วย และรวมถึงว่าที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ได้พอดีมีพิธีบูชา \" พระแม่คงคา(ทานาบาตะซึเมะ) \" ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่คล้าย ๆ กันอยู่ ดังนั้นในเวลาต่อมาประมาณในสมัยเอโดะพวกประชาชน พลเมืองทั้งหลาย จึงกำหนดให้มีธรรมเนียมการขอพรจากดวงดาวกันขึ้นมา ด้วยการเขียนคำ อธิษฐานขอพรที่ตัวเองต้องการใส่ลงไปในกระดาษแล้วจะนำไปผูกติดไว้ที่ต้นไผ่นั้นได้กำเนิด เกิดขึ้นและได้ทำสืบเนื่องต่อ ๆ กันมาจนปัจจุบันนี้นั่นเอง ..
No [HIGHLIGHT=#ffffff]one [/HIGHLIGHT]is PERFECT


ขอขอบพระคุณสำหรับทุกๆข้อมูลคร้าฟผ้ม .....
เลยจะรบกวนถามท่านผู้รู้ ว่าถ้าอย่างสมมุตว่าจะบูชา
เทวรูปพระแม่คงคาเนี่ยจำเป็นต้องเอาไว้ในภาชนะ สำหรับใส่น้ำ
แล้วเอาเทวรูปพระแม่ใส่ลงไปในนั้น ใข่ป่าวอ่ะคร้าฟ ....

เทศกาลนี้มาจากจีน

เรื่องของเรื่อง คือสาวทอผ้าซึ่งเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ไปหลงรักหนุ่มเลี้ยงวัวบนโลก และภายหลังเด็กเลี้ยงวัวกลายเป็นดาว ไปมาหาสู่กัน จนเจ้าแม่สวรรค์ทราบเรื่อง เอาปิ่นปักผมขีดเป็นทางยาวๆกั้นระหว่างสวรรค์ แล้วกลายเป็นแม่น้ำเชี่ยวกราก ทั้ง2คนเลยได้แค่พบหน้ากัน

แล้วคู่นี้รักกันมาก มีนกสวรรค์จำนวนนึงก่อตัวเป็นสะพานให้2คนไปหาด้วยความรัก

เทศกาลนี้ถึงมีการพับนกจำนวนมาก เพื่อให้คนรัก2คนได้พบกัน

ตำนานเรื่องนี้ภาษาจีนเรียกว่า 牛郎織女