Loader

เมื่อผมทำขนมต้มถวายเทพ

Started by devillolli, July 13, 2010, 21:53:14

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

วันนี้มีเวลาช่วงเย็นเหลือเยอะครับ เลยเดินเบาๆไปตลาด ซื้อของมาทำขนมต้มขาว ถวายองค์พิฆเนศที่ผมบูชาอยู่

เริ่มจากวัสดุ อุปกรณ์กันดีกว่าครับ

1.แป้งข้าวเหนียว (ผมซื้อมาครึ่งโล 15บาท ตราช้างเอราวัณ)
2.มะพร้าวส่วนโรยหน้า+คลุก
(ส่วนตัวแล้ว ผมชอบมะพร้าวที่ออกมันๆมากกว่าที่หวาน เลยเลือกซื้อมะพร้าวสำหรับคั้นกะทิมาครับ
ซึ่งถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ ชอบแบบไหน ก็ซื้อแบบนั้นมานะครับ อาจจะเป้นมะพร้าวอ่อน แล้วมาขูดกับมือแมวเอาก็ได้)
3.มะพร้าวส่วนที่ใช้ทำไส้(อันนี้ ใช้มะพร้าวที่ใช้คั้นกะทินะครับ) ปริมาณก็ พอทานก็ได้ 5 บาท 10 บาท
4.น้ำตาลมะพร้าว(ถ้าหาไม่ได้ ใช้น้ำตาลปี๊บแทนนะครับ)
5.เกลือ (คิดว่าน่าจะมีกันทุกครัวเรือนนะครับ ไม่ต้องซื้อ อิอิ)

เริ่มทำกันดีกว่าครับ รอนานเดี๋ยวมะพร้าวจะหืนเีสียเปล่า

เริ่มจาก กวนไส้กันดีกว่าเนอะ
(แนะนำว่า กวนกับเตาถ่าน จะดีมากๆ)

ขั้นตอนแรกนะครับ
ตั้งกระทะ ลงบนเตาที่ติดไฟดีแล้ว
เทน้ำประมาณครึ่งถ้วยตวง (ผมกะเอานะ เอาจวักตักใส่ 2 จวัก อิอิ)
แล้วเอาน้ำตาลมะพร้าวของเรา ประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ พูนๆ ลงไปละลายซะ(กะเอาอีกแล้วครับ เฮ้อ)
พอน้ำตาลละลายดีแล้ว (ให้มันเหนียวๆข้นๆ) ก็เอามะพร้าวลงไปคลุกเลยครับ

ผัดไปเรื่อยๆ จนมะพร้าวเหนียวมาก จากสีน้ำตาล จนกลายเป็นสีแดงๆ ลองหยิบมาเี้คี้ยวดูจะนิ่มๆ ไม่กรุบ
แล้วพักไว้ครับ

ขั้นตอนถัดมา
ทำแป้งกันเลยครับ
นำแป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง (เหมือนเดิมครับ ผมกะเอา)
ค่อยๆ หยอดน้ำอุ่นลงไปพร้อมกับหาไม้พาย กวนๆๆๆ ไปด้วย หยอดจนแป้ง เหนียวปั้นเป็นก้อนได้
แล้วก็เอามือเนี่ยล่ะครับ (ล้างก่อนนะ) ลงไปนวดๆๆๆๆ จนแป้งเนียนสวย
แล้วก็คลึงแป้งเป็นท่อนยาวๆ เท่านิ้วโป้ง แล้วก็เด็ดมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 2-3 เซนติเมตร
ตามใจชอบเลยครับ ใครซาดิสม์ ปั้นก้อนใหญ่ๆก็ไม่ว่านะ แต่อย่าใหญ่มากเลย เดี๋ยวทานไม่ไหว
ทำจนหมดแป้งแล้วพักไว้นะครับ
(พยายามอย่าเอาแป้งไว้ใกล้ๆกันนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นก้อนเดียวเหมือนเดิม เสียเวลาเด็ดกันใหม่อีก)

ถึงเวลาต้มกันแล้วครับ
เตรียมถาด ใส่มะพร้าวสำหรับคลุกลงไปครับ (ถาดกว้างหน่อยนะครับ)
แล้วโรยเกลือบางๆ เบาๆ ลงไป แล้วคลุกๆๆๆ มะพร้าวให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ก่อน

ตั้งหม้อใส่น้ำ เยอะพอสมควร บนเตา (ใช้เตาแก๊สนะครับอันนี้ ถ้าใช้เตาถ่าน พรุ่งนี้น้ำก็ไม่เดือด)
แล้วเอาไส้ที่พักไว้ มาปั้นเป้นก้อนกลมๆ
(ใครชอบหวานน้อย ปั้นเล็กกว่าแป้งนิดนึง ใครชอบหวานมาก ปั้นเท่าแป้งเลยนะครับ)
แล้วก็ยัดลงไปในแป้ง แล้วห่อไส้ให้มิด แล้ววางไว้รอน้ำเดือด

ระหว่างรอน้ำเดือด ก็ปั้นไปพลางๆครับ หรือจะปั้นจนหมดแล้วค่อยต้มก็ได้นะ
(แต่ผมเตือนแล้วนะ ว่าอย่าวางแป้งที่ปั้นแล้วชิดกัน ไม่งัน มันจะรวมพลังกันต่อต้านเราครับ)

พอน้ำเดือด ก็โยนแป้งลงไปเลยครับ รอจนแป้งลอยขึ้นมาแล้วก็ช้นมาคลุกกับมะพร้าวที่เตรียมไว้

แค่นั้นเองครับ ง่ายมากๆ

สูตรนี้ทำทานกันเองในบ้านมานานแล้วครับ
ที่ทำนี้ี้จะไม่หวานมากมายจนแสบคอ และไม่ได้อบควันเทียน
(ผมว่าอบควันเทียนแล้วเลี่ยนอะ)
จึงทานได้เรื่อยๆครับผม

ทำเสร็จแล้ว ถวายเลย ประหยัดดีด้วยครับ ทำเองด้วยความศรัทธา
แล้วก็มั่นใจในส่วนผสมด้วย

ทำด้วยน้ำพักน้ำแรง ผมว่าอานิสงค์มันแรงดีอ่ะครับ

หากกระทู้นี้ไม่เกี่ยวข้อง หรือเนื้อหาไม่สมควรแก่สถานที่ ยินดีให้ลบกระทู้ได้โดยไม่แจ้งให้ทราบ และขออภัยไว้ ณ ที่แห่งนี้ด้วยครับ


*เดี๋ยวอัพรูปก่อน แล้วจะมาแปะรูปนะครับ

ขอบคุณสำหรับสูตรขนมต้มนะครับ

ผมเองเคยซื้อมาถวายพระคเณศเหมือนกัน แต่เพิ่งจะทราบสูตรการทำแบบละเอียดๆก็วันนี้เอง

ชื่นชมกับคุณเจ้าของกระทู้ที่ตั้งใจทำขนมถวายพระเป็นเจ้าอันเป็นที่รักของคุณนะครับ

ปล. รอชมภาพขั้นตอนการทำนะครับ ^_^
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

ถ่ายด้วยกล้องมือถือ ไม่ค่อยชัดนะครับ

อันนี้ ขั้นตอนการผัดไส้



ผัดให้เหนียว จนเป็นก้อนๆ เลยนะครับ ลักษณะจะแดงๆ ออกใกล้ๆจะไหม้แล้ว

ไส้จะหอมมาก ข้างบ้านจะออกมาถามเลยครับ ว่าทำอะไรทาน

จะได้ออกมาแบบนี้ครับ



แล้วแป้ง ก็นวดให้ได้ประมาณนี้อะครับ



แล้วก็มายัดไส้

(ขอโทษจริงๆ ถ่ายรุปตอนยัดไส้มาให้ดูไม่ได้มือเต็มแล้วครับ)


เทียบขนาดไส้ กับ แป้ง (แป้งผมราวๆ หัวแม่โป้งมืออะครับ)



เมื่อปั้นเสร็จแล้ว ก้อนจะกลมๆ สวยๆ



เอาไปต้มเลยครับ



พอลอยน้ำก็เอาไปคลุกกับมะพร้าวขูด หน้าตาเป้นแบบนี้เลยครับ เมื่อเรียงใส่ถ้วยสวยๆแล้ว



**เผยแพร่ได้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ และไม่ต้องขอก่อนด้วยครับ
ขนมไทย กำลังจะเลือนหายไปจากคนไทย ช่วยกันเผยแพร่ไป

คนที่ได้ คือคนไทย ผมยินดีที่จะเห็นขนมไทยอร่อยๆ มีแต่คนชมนะครับ

โห น่าทานครับ
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

เยี่ยม !!!

ไว้ประเดี๋ยวจะลองทำถวายพระคเณศ ในงานคเณศจตุรถีปีนี้ดู

เพราะเท่าที่เห็นจากขั้นตอน(ในภาพ)แล้ว ก็ไม่สลับซับซ้อนเท่าไหร่

(ว่าแต่จะมีใครกล้าชิมฝีมือผมไหมนี่ เหอๆ)   
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

Quote from: อักษรชนนี on July 13, 2010, 22:23:25
เยี่ยม !!!

ไว้ประเดี๋ยวจะลองทำถวายพระคเณศ ในงานคเณศจตุรถีปีนี้ดู

เพราะเท่าที่เห็นจากขั้นตอน(ในภาพ)แล้ว ก็ไม่สลับซับซ้อนเท่าไหร่

(ว่าแต่จะมีใครกล้าชิมฝีมือผมไหมนี่ เหอๆ) 


ปีนี้พี่ๆในบอรืดจะไปที่ไหนกันเหรอครับ

ผมไม่เคยไปเลย อยากไปบ้างจัง

จะลองทำเหมือนกันจ้า ดูสิว่าเราจะทำได้อร่อยหรือป่าว ถ้าดีก็ร๊ากกกกกี้ ถ้าแย่ก็แหวะ >v<
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

Quote from: โอม มหา บารมี เทวา  โอม on July 13, 2010, 22:31:06
จะลองทำเหมือนกันจ้า ดูสิว่าเราจะทำได้อร่อยหรือป่าว ถ้าดีก็ร๊ากกกกกี้ ถ้าแย่ก็แหวะ >v<


ใช้ศรัทธาทำครับ ใส่ความตั้งใจลงไปเยอะๆ

อาหารที่มีใจเป็นส่วนผสม อร่อยที่สุดในโลกครับ

ยกตัวอย่าง กับข้าวฝีมือแม่ผม ครับ

อร่อยทุกอย่างเลย

อิอิ

Quote from: devillolli on July 13, 2010, 22:29:44
Quote from: อักษรชนนี on July 13, 2010, 22:23:25
เยี่ยม !!!

ไว้ประเดี๋ยวจะลองทำถวายพระคเณศ ในงานคเณศจตุรถีปีนี้ดู

เพราะเท่าที่เห็นจากขั้นตอน(ในภาพ)แล้ว ก็ไม่สลับซับซ้อนเท่าไหร่

(ว่าแต่จะมีใครกล้าชิมฝีมือผมไหมนี่ เหอๆ) 


ปีนี้พี่ๆในบอรืดจะไปที่ไหนกันเหรอครับ

ผมไม่เคยไปเลย อยากไปบ้างจัง

สำหรับผม วางแผนว่าจะไปร่วมงานที่วัดแขก สีลม (๑๑ ก.ย.) ตามด้วยงานของภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ (๑๓ กย.) และปิดท้ายด้วยงานของสยามคเณศที่เทพมณเฑียร (๑๘-๑๙ ก.ย.) ครับ
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

Quote from: devillolli on July 13, 2010, 21:53:14

ทำด้วยน้ำพักน้ำแรง ผมว่าอานิสงค์มันแรงดีอ่ะครับ



อันนี้ถูกต้องที่ซู๊ด  ดีใจที่มีคนเข้าใจถูกต้องอย่างนี้


พรที่เทพประทานจะไม่มีวันเสื่อม  เว้นแต่ผู้นั้น จะเสื่อมไปจากพรเอง

Quote from: อักษรชนนี on July 13, 2010, 22:23:25
เยี่ยม !!!

ไว้ประเดี๋ยวจะลองทำถวายพระคเณศ ในงานคเณศจตุรถีปีนี้ดู

เพราะเท่าที่เห็นจากขั้นตอน(ในภาพ)แล้ว ก็ไม่สลับซับซ้อนเท่าไหร่

(ว่าแต่จะมีใครกล้าชิมฝีมือผมไหมนี่ เหอๆ)   

อย่างน้อยเจ้าของต้องชิมเองแหละ 1

ส่วนอีกหนึ่งนี่ ฮ่าๆๆๆ คือ พระองค์ที่โดนถวายแหละครับ

สุดท้าย ขอให้ทำแบบปราณีต อร่อย หรือ ไม่อร่อย ทำด้วยใจปราณีต หวังจะถวายสิ่งที่ดีที่สุด นั่นคือของที่อร่อยที่สุดแหละครับ

เหมือนพ่อเหมือนแม่ ลูกทำกับข้าวให้ทาน และเห็นว่าลูกตั้งใจ จะอร่อยหรือไม่ท่านก็ทานด้วยความอิ่มใจ ด้วยความรัก และความปรารถนาดีครับ

น่าทานเชียวค่ะ เห็นแล้วหิวๆๆๆ

ขอชื่นชมเจ้าของกระทู้ ด้วยใจจริงเลยครับ ในการทำขนม ถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าที่ศรัทธา นับถือครับ