Loader

เทวี Mira

Started by nai 3, December 06, 2009, 21:37:16

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

 มีใครพอจะทราบไหมคัฟว่าเทวีองค์นี้เกี่ยวข้องกับพระกฤษณะอย่างไร
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต



मीराबाई หรือ มีราพาอี

เค้าว่ากันว่าเป็นพระนางราทากลับชาติมาเกิดครับ นางเกิดมาในแคว้นเล็กๆ ของเมืองราชฐาน โดยเกิดประมาณปี 1499 เธอเกิดมาในตระกูลของผู้บูชาพระกฤษณะครับ

เดี๋ยวรายละเอียดจะมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ วันนี้ผมยุ่งๆ นิดนึงครับ ถ้าเพื่อนท่านใดมีเพิ่มเติมช่วยผมได้นะครับ


อยากได้ภาษาไทยอะ
แหะๆ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

 สันตะมีราพาอี (Santa Mirabai) หรือ ภักตะมีราพาอี (Bhakta Mira)

ท่านไม่ใช่เทพเจ้านะครับ แต่เป็นนักบุญองค์หนึ่งในศาสนาฮินดู และเป็นนักบุญหญิงที่มีชื่อเสียงมาก
ท่านเกิดในตระกูลสูง เป็นเจ้าหญิงแห่งราชปุต ในแคว้นราชสถาน ช่วงยุคกลางของอินเดีย

เรื่องราวชีวิตของท่านสนุกสนานและนิยมเล่าสืบๆกัน ตำนานเล่าว่า ท่านหลงรักพระกฤษณะ ตั้งแต่วัยเยาว์
และใฝ่ฝันที่จะเป็นเจ้าสาวของพระกฤษณะ ในวัยเด็กท่านเห็นขบวนแห่เจ้าบ่าวงานแต่งงาน ท่านจึงไปถามกับมารดาว่า
"ใครเล่าจะเป็นเจ้าบ่าวของลูก" มารดาของท่านพาไปยังวิหารประจำวัง และบอกว่า เทวรูปพระกฤษณะเบื้องหน้าคือเจ้าบ่าวของท่าน
นับตั้งแต่วันนั้น ท่านก็เฝ้าใฝ่ฝันถึงพระกฤษณะ จนเวลาต่อมาท่านได้แต่งงานกับราชกุมาร โภช ราช แต่ส่วนตัวท่านก็ยังยืนยันว่า ท่านเป็นเจ้าสาวของพระกฤษณะเท่านั้น

เมื่อขัดแย้งกับครอบครัวใหม่ ท่านได้ยอมสละความสุขแห่งราชวัง ออกไปเร่ร่อนอย่างยากจน
สมาคมอยู่ด้วย สาธุนักบวชทั้งหลาย (สาธุสังฆะ) ตัวท่านได้เป็นสาวกของท่าน ภักตะรามทาส ซึ่งเป็นสานุศิษย์ของท่านสวามีรามานันทะ นักบวชไวษณวนิกายรูปสำคัญ ที่ก่อให้เกิดขบวนการภักติขึ้นในภาคเหนือและภาคตะวันตกของอินเดีย

ขบวนการภักติ เป็นขบวนการการปฏิรูปทางศาสนาที่สำคัญในศาสนาฮินดู ในยุคที่มีความขัดแย้งกับศาสนาอิสลามและผู้ปกครองใหม่
ขบวนการนี้เป็นขบวนการของไวษณวนิกาย เน้นความภักดีต่อพระเป็นเจ้า ปฏิเสธการถือชั้นวรรณะ ไม่เน้นความสำคัญของพิธีกรรมและนักบวช
และมีนักบุญส่วนใหญ่เป็นฆราวาส นอกจากนี้ยังได้สร้างวัฒนธรรมการขับร้องภชัน หรือ กีรตัน บทสวดสรรเสริญและบทกวีต่างๆ และยังให้ความสำคัญกับพระนามของพระเจ้าอีกด้วย
นักบุญที่มีชื่อเสียงในขบวนการภักติยุคกลางของอินเดียได้แก่ ท่านตุลสีทาสผู้ประพันธ์รามายณะ ฉบับภาษาฮินดีโบราณหรือภาษาอวธี (รามจริตมานัส)
มีราพาอี ท่านตุการาม ท่านไรทาสหรือรวิทาส(ทั้งสองท่านเป็นคนวรรณะศูทร) ท่านสุรทาส ท่านนรสีห์ เมหตา ท่านรามทาส ท่านกพีรทาส(ท่านผู้นี้เป็นชาติมุสลิม แต่มีลูกศิษย์ทั้งฮินดูและมุสลิม) ท่านคุรุนานักซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่านกพีรทาส เป้นต้น

ถ้าเราไปวัดเทพมณเฑียรในวันอาทิตย์ตั้งแต่ 9 โมง เราก็จะพบการขับร้องภชัน นั่นคือวัฒนธรรมการชุมนุมกัน เพื่อร่มขับสวดร้องเพลงสรรเสริญ และสนทนาธรรมในศาสนา เรียกว่า สัตสังฆ์ อันได้รับอิทธิพลจากขบวนการภักติในยุคกลางนี่เอง

ย้อนกลับมาที่ท่านมีรา

ตัวท่านมีราเอง ได้ประพันธ์กวีนิพนธ์จำนวนมาก ใช้ขับร้องมาจนถึงทุกวันนี้ บทขับของท่านเรียกว่า มีราภชัน ซึ่งเป็นบทกวีพรรณนาความรักที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า ในแบบคู่รัก ที่มีความงดงามไพเราะ จนผู้ฟังที่มีใจอ่อนไหวอาจน้ำตาตกได้ง่ายๆ  เป็นเอกลักษณ์ของมีราภชัน และท่านถือว่าตัวท่านเองเป็น นางโคปี ผู้หลงรักพระกฤษณะจนแทบบ้าคลั่ง และเฝ้ารอคอยวันที่จะได้พบพระผู้เป็นที่รักยิ่งของตน

ตามตำนานเล่าว่า ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ท่านได้เข้าไปอยู่ในวิหารของพระกฤษณะและได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เชื่อกันว่า พระกฤษณะได้รับท่านไปอยู่ในโคโลกอย่างมีความสุขแล้ว

ท่านเป็นตัวอย่างของศาสนิกชนผู้ภักดีต่อพระเป้นเจ้าอย่างสูงสุดท่านหนึ่งครับ

December 09, 2009, 23:31:03 #5 Last Edit: December 09, 2009, 23:35:13 by หริทาส
ผมขอนำภชันของท่านมีราบางบท ซึ่งผมได้แปลไว้ เพื่อสอนนักศึกษาในรายวิชาศาสนาฮินดู ที่ศิลปากร
มาลงไว้พอเป็นตัวอย่างนะครับ

121

วันนี้ ฉันได้ยินได้ฟัง(เรื่องอัน)นำมาสู่ความปีติยินดีของฉัน
ว่าองค์พระหริได้ทรงมาเยือน
(ฉัน)พบว่า ที่จริงแล้ว พระองค์ไม่ได้เสด็จมาดอก
ฉันเพ่งมองไปยังท้องถนนด้วยความโหยหาอาวรณ์
ดวงตาทั้งคู่ของฉันจะไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งของฉัน
และปลดปล่อยกระแสท่วมท้นของหยาดน้ำตา

ฉันจะสามารถทำสิ่งใดอีกเล่า ?
ฉันได้พบกับความสูญเสียอย่างแท้จริง
มีรากล่าว
“ ข้าฯแต่พระคิริธร นายเหนือหัวของฉัน
ข้าพระองค์เฝ้าคอยการเสด็จมาของพระองค์ ด้วยความหวังอันยิ่งใหญ่ ”

122
วสันตฤดูช่างแผ่กว้างออกไป
และชายส่าหรีของฉันก็เปียกปอน
พระองค์ก็มาจากไปสู่ดินแดนอันไกลโพ้น
และหัวใจของฉันก็พบว่า มันเหลือที่จะทนรับได้
ฉันยังคงส่งจดหมาย ถึงพระผู้เป็นสุดที่รักของฉัน
ถามว่า เมื่อไหร่ที่พระองค์จะเสด็จกลับมา
พระเป็นเจ้าของมีรา คือพระคิริธร ผู้ทรงศักดิ์
ข้าฯแต่พระกฤษณะ พระเชษฐาแห่งพระพลราม
โปรดอนุญาตให้ข้าน้อยได้เห็นพระองค์เถิด

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆของพี่หริทาสและพี่กาลิทัสมากๆครับ
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

ลัทธิภักติ รับอิทธิพลพระพุทธศาสนามาครับ

ขอบคุณทุกคนนะคัฟ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

December 11, 2009, 16:00:55 #9 Last Edit: December 11, 2009, 20:05:40 by หริทาส
ตอบคุณ plawan

เรื่องลัทธิภักติ ที่คุณหมายถึง น่าจะหมายถึงลัทธิภักติที่ปรากฏในไวษณวนิกายช่วงแรกๆ ซึ่งอาจได้รับอิทธิพลของพุทธศาสนาที่กลายเป็นมหายานแล้ว แต่ทั้งนี้นักวิชาการหลายท่านยังถกเถียงว่า ลัทธิภักติในพระพุทธศาสนามหายานเองก็อาจได้รับอิทธิพลจากฮินดูก็ได้ เพราะปรากฏว่า แนวคิดเรื่องความภักติ มีปรากฏในคัมภีร์ชั้นอุปนิษัทที่เก่าแก่ ซึ่งเรื่องนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ครับ

แต่ในที่นี้ผมหมายถึง "ขบวนการภักติ" (Bhakti Movement) ซึ่งอยู่ในช่วงยุคกลางของอินเดีย เป็นขบวนการปฏิรูปศาสนาฮินดู ที่นำโดยฆราวาส
โดยได้รับอิทธิพลของไวษณวนิกายที่นำโดยท่านสวามีรามานันทะ และท่านกพีรทาส และอาจได้รับอิทธิพลย้อนไปถึง สมัยนักปรัชญาอินเดียเวทานตะฝ่ายไวษณวนิกาย คือ ท่านมัธวาจารย์ วัลลภาจารย์และท่านไชตันยะ
ขบวนการภักตินี้ ส่งอิทธิพลต่อการเกิดขึ้นของศาสนาสิขและพิธีกรรมต่างๆของศาสนาฮินดูภาคเหนือในปัจจุบันครับ เช่นการภชัน กีรตัน การชุมนุมเพื่อฟังเทศนาคัมภีร์ต่างๆ ฯลฯ

อีกประการหนึ่ง ช่วงเวลาที่เกิดขบวนการภักติ เป็นช่วงเวลาที่พระพุทธศาสนาปลาสนาการไปจากอินเดียแล้วครับ อีกทั้งวรรณคดีของไวษณวนิกายยุคแรกๆมีการพาดพิงถึงพระพุทธศาสนาหลายอย่าง แต่หากเราไปดูวรรณกรรมฝ่ายภักติ ของขบวนการนี้ จะพบว่า แทบไม่มีการกล่าวถึงพระพุทธศาสนาเลย แต่มักจะกล่าวถึง ศาสนาฮินดูและศาสนาอิสลามหรือความพยายามที่จะประนีประนอมทั้งสองศาสนา หรือมีลักษณะเป็นกวีนิพนธ์เสียมากกว่าแนวคิดทางปรัชญาครับ
ถ้าจะได้รับอิทธิพลพุทธศาสนาจริงๆก็เจือจางเต็มที และหากจะกล่าวอย่างรัดกุม คงกล่าวได้ว่า ขบวนการภักติได้รับอิทธิพลของไวษณวนิกายในยุคก่อนๆมากกว่าครับ

September 20, 2010, 02:02:55 #10 Last Edit: September 20, 2010, 02:15:42 by ศรีมหามารตี
ขออนุญาติ ขุดกระทู้นี้ขึ้นมานะค่ะ  พอดีมีรูปพระแม่มีราพาอี สวยๆ มาฝากคะ เลยรีบเอามาลงไว้ก่อน เกรงว่าภาพจะหาย