Loader

อาจจะแปลกๆน่ะค่ะ แต่ขอความคิดเห็นค่ะ

Started by Cz Mhoo-sand, November 23, 2010, 15:09:27

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

เรื่องเล่าวันนี้ ......

[COLOR=#2]เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นู่ได้ไปวัดพระแม่อุมาที่สีลมมาเจ้าค่ะ[/COLOR]

เนื่องจากเพื่อนที่มาจากต่างจังหวัดเค้าอยากไปกราบไหว้ ......... นู่ก้อเลยพาไปเจ้าค่ะ

แล้วพอดีว่าเลิกงานตอนเย็น นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีสีลม มองดูรถเมล์แล้ว อาจจะรถติดยาว ก้อเลยเดินไปค่ะ ถือว่าเป็นการบำเพ็ญความอดทน (มั้ง)

จากสถานีสีลม หน้าดุสิตธานี จนถึงวัดพระแม่เลยค่ะ  (เหนื่อยมากกกกกก ลิ้นห้อยเลยค่ะ)

พอถึงก้อเกือบจะ ทุ่มนิดๆ แระ .........

ปรากฏว่า ถึงเวลาทำอารตีตอนค่ำพอดี ก้อเลยได้โอกาสชมพิธีอารตีให้พระแม่และเทพภายในเทวะสถานตมตำรับอินเดียแท้

และตอนที่คณะพราหมณ์กำลังทำพิธีสวดภายในองค์ประธานค่ะ

รู้สึกว่าตัวเองเหมือนน้ำตาไหล แล้วก้อร้องไห้ออกมา น้ำตาไหลพรากๆ

(แต่ไม่โอเวอร์เหมือนในละครน่ะคะ)

คือรู้สึกว่าเหมือนแม่มาโอบกอดเรา ปลอบประโยนเราอยู่ข้างๆ

................ มันแปลกไหม๊ค่ะ เคยมีใครเหมือนนู่มั้ง หรือนู่ อุปทาน ไปเอง

ยอมรับทุกความคิดเห็นเจ้าค่ะ .......... เพราะสงสัยกับตัวเองในวันนั้น ก้อเลยต้องมาถาม Guru ใน Hm เจ้าค่ะ .........

[HIGHLIGHT=#ffffff]พึงระลึกไว้เสมอว่า [/HIGHLIGHT]' ความบังเอิญ" มันไม่มีในโลก เพราะทุกอย่างล้วนถูกกำหนดแล้ว ด้วย "พรหมลิขิต" :
Credit ",,Cz Holic

ผมไม่มั่นใจนะครับ น่าจะเรียกว่าปีติ รึป่าวครับ
อีโวโฮสติ้ง ถ้าคุณต้องการHostingคุณภาพ โปรดนึกถึงเราอีโวโฮสติ้ง

เป็นกระทู้ที่อ่านเเล้วต้องบอกเลยว่าน่ารักมากอ่านกระทู้นี้รู้สึกเป็นสุขจริงๆ




เสียหายไม่ว่า  แต่เสียหน้าไม่ได้

เป็นบุญของพี่ และเป็นความเมตตาของแม่ค่ะ ก็ จุดมุ่งหมาย ในการไปของพี่คือ วัดของแม่ นี่คะ

ไปทุกครั้งและมีความสุขทุกครั้งค่ะ

ท่านอยู่กับเราเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามค่ะ

......................

[HIGHLIGHT=#ffffff]พึงระลึกไว้เสมอว่า [/HIGHLIGHT]' ความบังเอิญ" มันไม่มีในโลก เพราะทุกอย่างล้วนถูกกำหนดแล้ว ด้วย "พรหมลิขิต" :
Credit ",,Cz Holic

ถ้าเชื่อตามความศรัทธา คุณพบความปิติที่ได้ชมบารมีของพระองค์ท่าน

ถ้าเชื่อตามหลักวิทยาศาสตร์   ควันธูปเข้าตา 
[HIGHLIGHT=#ffffff][HIGHLIGHT=#000000]โอม...ตวะเม ตวะมาตา จะ บิตา ตวะเมวะ[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff][HIGHLIGHT=#000000][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff][HIGHLIGHT=#000000]ตวะเมวะ พันธุศจะ สะขา ตวะเมวะ[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff][HIGHLIGHT=#000000][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff][HIGHLIGHT=#000000]ตวะเมวะ วิทะยา ทรวิณัม ตวะเมวะ[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff][HIGHLIGHT=#000000][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#ffffff][HIGHLIGHT=#000000][/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff][HIGHLIGHT=#000000]ตวะเมวะ สรวัม มะมะ เทวะ เทวะ [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]

สงสัย ควันกำยานเข้าตาอย่างแรงค่ะ

เอิ๊กๆ ^^
[HIGHLIGHT=#ffffff]พึงระลึกไว้เสมอว่า [/HIGHLIGHT]' ความบังเอิญ" มันไม่มีในโลก เพราะทุกอย่างล้วนถูกกำหนดแล้ว ด้วย "พรหมลิขิต" :
Credit ",,Cz Holic

เค้าเรียกว่า ปิติ ครับ

คือความยินดี ที่ได้พบที่ได้ชื่นชมในพระบารมีครับ

ผมเคยน้ำตาไหลเมื่อครั้งงานแห่ปีที่ผ่านมา รู้สึกดีใจครับ ที่เห็นคนรักทุกพระองค์มากมายขนาดนี้

และพระองค์ช่างสวยสง่าเหลือเกิน มันเป็นความรู้สึก ปลื้มปิติ จนน้ำตาไหลครับ

อิจฉาค่ะ พี่กาลิทัศได้ร่วมงานของพระแม่ที่ผ่านมา

ส่วนตัวข้าพเจ้าต้องโดนเด้งไปภูเก็ต เนื่องจากเทศกาลกินเจ ต้องกลับบ้านไปตามประเพณี

ปีนี้งานพระแม่มาเกือบพร้อมกับงานเทศกาลกินเจง่ะ

อดเลยยยยย แงๆๆ
[HIGHLIGHT=#ffffff]พึงระลึกไว้เสมอว่า [/HIGHLIGHT]' ความบังเอิญ" มันไม่มีในโลก เพราะทุกอย่างล้วนถูกกำหนดแล้ว ด้วย "พรหมลิขิต" :
Credit ",,Cz Holic

มิเชลล์ก็เป็นบ่อยค่ะพี่น้ำตามันชอบเอ่อทุกครั้งเวลามองเทวรูปพระแม่ในโบถส์ และตัวเองจะรู้สึกเหมือนมีมือกลังลูบหัวมิเชลล์อยู่ทำให้รู้สึกขนลุกเสียวสันหลังวาบ คิดในใจคิดไปเองป่าววะ พอถามเพื่อนมันก็บอกว่าเป็นเหมือนกัน และยิ่งรับเสด็จของพระแม่ในงานแห่ทุกปี พอเห็นท่านยาตรามาตรงหน้าเราเขื่อนแตกที่ตาทุกรอบ ความรู้สึกในตอนนั้นคือสะอื้นแล้วก็ร้องออกมาเหมือนเด็กที่ได้เจอแม่
โอม เจ มาตา กี รักสุดหัวใจเลย พระแม่จะอยู่ในใจลูกเสมอ

ตราบใดที่ท้องฟ้ายังมีดวงจันทร์ ตราบนั้นนามพุ่มพวงจะไม่เลือนหาย

ความรู้สึกเหมือนพี่มิเชลล์เลยค่ะ

เหมือนแม่มาอยู่ใกล้ๆ แม่รับรู้ทุกอย่าง ประมานนี้ค่ะ

แล้วน้ำตาก้อไหล (T^T)

พี่ๆใน Hm ก้อบอกว่า "ปิติ" ค่ะ
[HIGHLIGHT=#ffffff]พึงระลึกไว้เสมอว่า [/HIGHLIGHT]' ความบังเอิญ" มันไม่มีในโลก เพราะทุกอย่างล้วนถูกกำหนดแล้ว ด้วย "พรหมลิขิต" :
Credit ",,Cz Holic

หนูเข้าไปครั้งแรกในวันบูชาพระกฤษณะ  พอเข้าไปในโบถส์ รู้สึกเหมือนเข้าไปในวังเลยค่ะ

แต่มันแปลกที่ว่า มีแสงสีทองสว่างมาปรากฏหน้าเทวรูปพระแม่องค์ประธานในเทวาลัย เห็นแต่แขนเทวรูปโผล่ออกมา ถามแม่ก็บอกไม่เห็นมีอะไร

เช่าเทวรูปพระแม่องค์ละ4.999ไป1องค์พราหมณ์ให้พราหมณ์เจิม พอพราหณ์เอาไปสวดรู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่างมากระทบตัวหนู ขนลุกเลยล่ะค่ะ

ป.ล.พึ่งนึกได้ค่ะ เมื่อเดือนกันยาที่ผ่านมา


Quote from: Kaaliamman on November 25, 2010, 20:08:26
หนูเข้าไปครั้งแรกในวันบูชาพระกฤษณะ  พอเข้าไปในโบถส์ รู้สึกเหมือนเข้าไปในวังเลยค่ะ

แต่มันแปลกที่ว่า มีแสงสีทองสว่างมาปรากฏหน้าเทวรูปพระแม่องค์ประธานในเทวาลัย เห็นแต่แขนเทวรูปโผล่ออกมา ถามแม่ก็บอกไม่เห็นมีอะไร

เช่าเทวรูปพระแม่องค์ละ4.999ไป1องค์พราหมณ์ให้พราหมณ์เจิม พอพราหณ์เอาไปสวดรู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่างมากระทบตัวหนู ขนลุกเลยล่ะค่ะ

ป.ล.พึ่งนึกได้ค่ะ เมื่อเดือนกันยาที่ผ่านมา

อาจจะเรียกได้ว่า "ประสิทธิ" ใช่ไหมค่ะ ???
[HIGHLIGHT=#ffffff]พึงระลึกไว้เสมอว่า [/HIGHLIGHT]' ความบังเอิญ" มันไม่มีในโลก เพราะทุกอย่างล้วนถูกกำหนดแล้ว ด้วย "พรหมลิขิต" :
Credit ",,Cz Holic

.

อ่านแล้วรู้สึกดีไปด้วยครับ ^_^

ความสุขจากการสักการะบูชาองค์เทพนั้น สามารถแสดงออกมาได้มากมาย
ในทางเทววิทยา เราสามารถอธิบายปราณที่ได้รับจากองค์มหาเทพได้หลายอย่าง
ต่อไปนี้คือคำอธิบายสั้นๆ ต่อความรู้สึกและภาพต่างๆ ที่เราได้เห็น
เป็นคำอธิบายจากพราหมณาจารย์ที่สอนเรื่องเทววิทยาแก่ผม จากอาศรมพรหมปุรุษ ณ ประเทศอินเดียครับ

สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเรา เมื่อได้บูชาเทพ
มีความปลาบปลื้ม น้ำตาคลอ น้ำตาไหล
นี่คือการได้รับพลังด้านความเมตตาจากพระองค์

มีความร่าเริง สดชื่น อารมณ์ดีตลอดทั้งวัน
นี่คือการได้รับพลังด้านการเติมเต็มให้สภาพจิตใจที่เศร้าโศก

มีความฮึกเหิม กล้าหาญมากขึ้น ความกลัว ความอ่อนแอในจิตใจมลายหายไปสิ้น
นี่คือการได้รับพลังจากด้านที่แกร่งกล้า ห้าวหาญของพระองค์

มีความสงบ รู้สึกนิ่ง สุขุม...วันนั้นทั้งวันคุณอาจมองทุกสิ่งทุกอย่างด้วยสายตาที่อ่อนโยนมากขึ้น
นี่คือการได้รับพลังด้านสมาธิและปัญญาจากพระองค์

มีอาการตัวสั่น ใจสั่น ขากระตุก รู้สึกหนาวๆ ไปทั้งตัว
นี่คือการได้รับพลังด้านการเยียวยาจิตใจที่อยู่ในช่วงตกต่ำ
อาจจะเป็นช่วงที่ชีวิตเพิ่งผ่านพ้นความเลวร้ายไปหมาดๆ เพิ่งผ่านพ้นอุบัติเหตุที่แคล้วคลาดมา
แล้วเทวานุภาพแห่งพระองค์ก็ได้แทรกซึมเข้ามาเพื่อขจัดสิ่งสกปรกในจิตใจของเราให้มลายหายไป

ที่กล่าวมานี้ คือปราณที่ส่งจากเทวรูปอันศักดิ์สิทธิ์ เข้ามากระทบกับตัวเรา เมื่อไปสักการะตามเทวสถานต่างๆ
แล้วยังมีเรื่องของ "ภาพ" ที่พระองค์แสดงให้เราเห็นด้วยตาเนื้อ
ตรงนี้ไม่ใช่ปราณ แต่เป็น "ภาพนิมิต" ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์เนรมิตให้เราเห็น ณ ขณะนั้น
รวมไปถึงการปรุงแต่งเฉพาะตัวด้วยครับ
(การมองเห็นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล หันไปถามคนรอบข้างก็ไม่มีใครเห็นเหมือนเราครับ)

ทั้งการมองเห็นแสงสว่าง แบบแสงอาทิตย์ ออกมาจากด้านหลังเศียรเทวรูป
การมองเห็นแสงสว่าง แบบแสงหิ่งห้อย วิ่งไปมาอยู่รอบๆ เทวรูป
การมองเห็นแสงสว่าง แบบแสงยาวๆ วิ่งๆ อยู่รอบๆเทวรูป
การมองเห็นเทวรูปขยับได้ การเห็นพระแม่ขยับปากพูดกับเราได้
การมองเห็นเทวรูปมีขนาดสูงใหญ่ขึ้นกว่าขนาดจริงที่เป็นอยู่
การมองเห็นเทวรูปอันตรธานหายไปจากตำแหน่งนั้นๆ

ยังมีพลังที่ส่งมากระทบประสาทสัมผัสอื่นๆ ของเราอีก เช่น
การได้กลิ่นธูป ในขณะที่คนอื่นไม่ได้กลิ่น
การได้ยินเสียงสวดมนต์ เสียงร้องเพลง ในขณะที่คนอื่นไม่ได้ยิน
รวมไปถึงลางสังหรณ์ต่างๆ ที่เราได้รับเมื่อเราได้บูชาเทพไปถึงระดับหนึ่ง
ฯลฯ

อย่างนี้เป็นต้น...

และยังมีการอธิบายพลังแห่งมหาเทพ มหาเทวี โดยเฉพาะในวัดศักติ หรือวัดของพระเทวีต่างๆ
เอาไว้ว่า "สิ่งศักดิ์สิทธิ์" สามารถแสดงนิมิตให้เราเห็นเทวรูปของพระองค์ในลักษณะต่างๆ ได้ดังนี้

อนิมา   (เทวรูปย่อตัวได้)       ขนาดเล็กลงเพื่อบรรจุในเรือ
มหิมา   (ขยายตัวได้)          นิมิตให้ผู้ร้ายเห็น ให้เกิดความเกรงกลัว
คริมา   (น้ำหนักมากขึ้น)       โจรไม่สามารถยกขโมยออกไปจากวัดได้
ลคุมา   (น้ำหนักเบาขึ้น)        ชาวบ้านยกหินขนาดใหญ่เป็นรูปพระศิวะขึ้นมาจากน้ำได้โดยง่าย
ปรัปติ   (ล่องหนอันตรธาน)      บังตาไม่ให้ผู้ใดมองเห็น
ปรกัม   (เสกทุกสิ่งที่ปรารถนา)   ประทานพรแก่ผู้กราบสักการะ
อิษัตว   (แข็งแกร่งขึ้น)         แผ่นดินไหว อาคารถล่ม แต่เทวรูปไม่เสียหาย
วิศตว   (ทรงอำนาจ)            ลงโทษผู้ลบหลู่ ปกป้องผู้ศรัทธา

ตรงนี้ผมท้าทายได้ว่าพลังต่างๆ เป็นจริงดังกล่าวทั้ง 8 ข้อ
ใครไม่เชื่อ ลองไปขโมยเทวรูปที่วัดแขกหรือเทพมณเฑียรดูครับ ได้เจอทุกข้อแน่นอน ^_^

เหล่านี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราได้จริงๆ ด้วยความศรัทธา
ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ และไม่ใช่ไสยศาสตร์ ไม่ใช่ความงมงาย
คือการที่เราได้รับ "พลัง" หรือ "ปราณ" จากองค์เทพจริงๆ
เอาวิทยาศาสตร์มาอธิบายไม่ได้ เอาไสยศาสตร์มาอธิบายไม่ได้

จึงเกิดเป็นศาสตร์อีกศาสตร์หนึ่งขึ้นมา นั่นคือ "เทววิทยา"
จะอยู่ตรงกลางระหว่างวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์

ผู้ศรัทธาจะมีทั้งที่ได้รับพลังจริงๆ และมีทั้งที่รู้สึกไปเอง คิดไปเอง
แต่ไม่ว่าเราจะคิดไปเอง หรือ จะมีพลังอะไรบางอย่างวิ่งเข้ามาสู่ตัวเราจริงๆ ก็ตาม
ผมแนะนำให้คงความรู้สึกศรัทธาอย่างนั้นอยู่เสมอ ศรัทธาและใช้ปัญญาประกอบ อย่าตั้งแง่ อย่าลบหลู่

ใจสั่นด้วยความศรัทธา น้ำตาคลอด้วยความรักในพระแม่ จิตใจแจ่มใสสดชื่นด้วยความดีใจที่ได้มาสักการะ ฯลฯ
ตลอดจนการมองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้สัมผัส ฯลฯ ถึงอะไรบางอย่างที่พิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์

ไม่ว่าจะอย่างไร  ก็เป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น
ความรู้สึก ปฏิกิริยาทุกอย่าง ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา มันก็คือ "ความสุข" ที่ได้จากการบูชาเทพนั่นเอง
และความสุขจากการบูชาเทพ ก็คือสิ่งที่ผู้ศรัทธาอย่างเราๆ ได้แสวงหามาตลอดครับ

สิ่งที่ให้ระมัดระวัง คือ อย่าไปหลงใหลกับมันมากเกินไป
อย่าจมอยู่กับสิ่งที่เห็น และไม่ต้องปรารถนาจะได้เห็นบ่อยๆ
บูชาเทพด้วยศรัทธาและปัญญา นิมิตที่ได้สัมผัสคือรางวัลจากพระองค์
มันคือความสุข คือพลังที่พระองค์เนรมิตให้เราเชื่อมั่นในเทวานุภาพ ว่าพระองค์มีอยู่จริง
อย่าตั้งหน้าตั้งตาไป "ชมบารมี" หรือบังคับตัวเองให้ "เห็น" ในทุกๆครั้งที่ไปกราบ
เมื่อสภาพร่างกาย สภาพจิตใจ สภาพแวดล้อม ทุกอย่างลงตัวแล้ว
พลังต่างๆจะปรากฎขึ้นมาให้ประจักษ์เองโดยเราไม่ได้ร้องขอ

แต่อย่าบังอาจไปคิดว่า "ท่านมาลงประทับ" เชียวนะครับ เพราะมันเป็นคนละเรื่อง
(เข้าเรื่องนี้จนได้ ไม่คุยเรื่องประทับทรง แต่เอาสักหน่อยครับ แหะๆ)

ขอผู้ศรัทธาจงเกิดความสุขในการบูชาเทพกันถ้วนหน้าครับ

หากศาสนิกชนฮินดูปฏิบัติการบูชาเทพอย่างถูกประเพณี เดินบนทางที่ถูกที่ควร
ไม่หลงมัวเมาไปกับอวิชชาทั้งหลาย
ศาสนาพราหมณ์และมหาเทพอันเป็นที่รักยิ่งของเราคงมีภาพลักษณ์ที่ดีกว่านี้

ขอชัยชนะจงมีแด่พระเป็นเจ้า
...กราบแทบพระบาทรูปดอกบัวแห่งพระองค์...สยามคเณศ
พิทักษ์ - สยามคเณศ

เสียงเพลงกับกลิ่นกำยาน อันนี้เจอบ่อยค่ะ ตอนไปวัดแขกสีลม(อันเดียวกันกับที่ผ่านมา)พราหมณ์เขาทำพิธี ป้ากับแม่เขาหลบควัญจากเตา เห็นเขาบอกว่าเหม็นบ้างแหละเมาบ้างแหละ แต่หนูได้กลิ่นหอมๆจะว่ากำยานหรือไม่ก็น้ำมันหอมโชยมากับควัน
บางทีอยู่ที่บ้านก็มีกลิ่นกำยานโชยมาบ้างก็มีทั้งๆที่ไม่ได้จุดอะไรไว้

ส่วนเพลงนี่ตอนหนูมุดเข้าไปใต้โต๊ะคอมเพราะปลั๊กไม่ติดก็ได้ยินเสียงเพลงอินเดียแว่วมาสงสัยใหญ่เลยคอมไม่ได้เปิด เพลงมาได้ไง
บางที่คอมเพิ่งเปิด ยูทูปยังไม่ทันเข้าเลย เสียงเพลงบูชาพระแม่ดังออกมาจากลำโพงเองแล้วก็เงียบไป งงตึบเลยค่ะ

ไปทีไรก็มีความรู้สึกแปลกๆตลอดล่ะครับ ทั้งน้ำตาคล่อ  หนาวๆเย็นๆ ฮึกเหิม อีกทั้งเวลาได้กราบพระประธานยิ่งรู้สึกดีมาก พอออกจากวัดขึ้นรถแท๊กซี่ก็รู้สึกสงบจิตอารมณ์ดีแบบอยากอยู่ในวัดต่อ รถวิ่งออกไปแล้วยังมองวัดจนลับสายตาไปเลย กลับถึงบ้านก็ทำงานได้เต็มที่ แถมสมความปราถนาในสิ่งที่ขอครับ
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

พระแม่เมตตามากๆเลยค่ะ ให้พรบันดาลปรารถนาได้เกือบทุกเรื่อง(ยกเว้นเรื่องไม่ดี)

^^
[HIGHLIGHT=#ffffff]พึงระลึกไว้เสมอว่า [/HIGHLIGHT]' ความบังเอิญ" มันไม่มีในโลก เพราะทุกอย่างล้วนถูกกำหนดแล้ว ด้วย "พรหมลิขิต" :
Credit ",,Cz Holic

แวะมาอ่านกระทู้นี้กี่รอบก็รู้สึกดีทุกครั้งไป
เสือว่าการที่คุณเจ้าของกระทู้น้ำตาไหล
เเล้วรู้สึกปิติ  มีความสุข  กับสิ่งที่เกิดขึ้น
เสือว่าเป็นเรื่องที่ดี เเละทำให้คุณรู้สึกดีค่ะ
สมกับที่คุณมุ่งมั่นเเละตั้งใจไว้ที่จะไปหาพระเเม่  ที่วัด

เสือชอบหนังเรื่องนึงจำชื่อเรื่องไม่ได้ด้วย  เเต่มีตอนนึงที่จำได้เเละรู้สึกดี

เรื่องมีอยู่ว่าผู้หญิงคนนึงตั้งเเต่เด็ก  เธอจะเห็นพระเเม่
เธอเห็นพระเเม่เป็นดั่งเเม่ของเธอเอง  เพราะว่าเธอเป็นเด็กกำพร้า 
อยู่มาวันนึง  เธอตั้งใจที่จะทำขนม ไปถวายพระเเม่
เเต่จะด้วยว่าส่วนผสมผิด  หรืออะไรก็ตาม  โดยที่เธอไม่รู้
พอเธอทำเสร็จ เธอก็ยิ้มปิติมากเลย   เเล้วก็เรียกหาพระแม่
ท่านเเม่คะ  ท่านเเม่ขา  เเล้วท่านเเม่ก็ปรากฎกายขึ้น 
เเล้วเธอก็ยื่นขนมให้ท่านเเม่ เเล้วบอกว่า  ขนมนี่ลูกตั้งใจมาถวายท่านเเม่
เเล้วเธอก็ใช้มือของเธอหยิบ  ป้อนท่านเเม่  ท่านเเม่ก็ทานขนมที่เธอป้อน
จากนั้นท่านเเม่ก็ยิ้ม  เเละเดินไปอีกมุมนึงซึ่งไม่ไกล  เธอถามท่านเเม่ว่าอร่อยไหม
ท่านเเม่บอกอร่อย  เเล้วเธอก็ทานบ้าง  เมื่อเธอทานก็ทำหน้าเหย๋เก  เเบบงง
เเล้วเธอก็เอ่ยถามท่านเเม่ว่า  ขนมไม่อร่อย  เเต่ทำไม ท่านเเม่บอกว่า  อร่อย

ท่านเเม่หันมาตอบเธอ  พร้อมกับพูดว่า  ก็เธอตั้งใจทำให้ฉันนี่


ซึ่งเป็นตอนที่เสือประทับใจมากที่สุด  ไม่ว่าเรื่องนี้จะถูกเเต่งหรือเป็นเรื่องที่
เกิดขึ้นจริงกับใครก็ตาม เสือว่า สิ่งที่เรื่องนี้ต้องการสื่อ คือ   
ท่านเเม่จะมอง  เเละเห็นลูกด้วยหัวใจเสมอ  เห็นในเจตนา  เห็นในความตั้งใจ

เเละตาของท่านเเม่  ไม่เคยหลับ  เเละลืมจากความรัก

เช่นเดียวกัน  กับการที่คุณรู้สึก  เหมือนท่านเเม่ลูบหัวคุณ
เเล้วคุณรู้สึกเเละคิดว่ามือนั้นเป็นมือของท่านเเม่
ไม่ผิด  ที่จะคิด  เเละรู้สึก  โดยใช้หัวใจคิด
ปิดสมอง เอาเหตุผล  ความน่าจะเป็น  เงื่อนไขใดใดออกไป
เปิดรับความสุขให้ล้นเปี่ยม  นำความสุข  ที่ได้คิดเข้ามาเเทน 
นั่นล่ะ  โลกนี้มีความสุขอีกเยอะเลย 

ขอบคุณ  คุณเจ้าของกระทู้ที่เเบ่งปันเรื่องเล่าดีดี
เเบ่งปันความสุข  ให้คนอีกมุมนึงได้รู้สึก
เเละเสือก็รู้สึกดี กับเรื่องเล่าของคุณเช่นกัน


ขอพระเเม่เจ้าอวยพร






เสียหายไม่ว่า  แต่เสียหน้าไม่ได้

[HIGHLIGHT=#c0c0c0][HIGHLIGHT=#7030a0]โชคดีที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้  รู้สึกปิติจริงๆ ค่ะ[/HIGHLIGHT] [/HIGHLIGHT]