บางเรื่องเห็นว่าเรื่องเล็กๆ
แต่กลับมองข้ามคิดว่าไม่สำคัญ
อย่างเรื่องเทวรูป
คิดจะบูชาทั้งที
คิดว่าบูชาอะไรก็ได้
เทวรูปมีตำหนินิดนึงไม่เป็นไร
ไหว้ๆไปเถอะ......คงไม่ต่างอะไรกับการไหว้ก้อนหิน
ถ้าไหว้แบบนั้น
สู้ไหว้สัญลักษณ์แทนองค์ยังดีกว่า เช่น ไหว้ตรีศูล ไหว้ศิวลึงค์
แต่จะไหว้รูปเคารพยังไม่ให้ความสำคัญ
ทั้งที่เรื่องรูปลักษณ์ เรื่องพระปฏิมา เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
คนเราไปทำงานยังต้องให้ตัวเองดูดี ผิวพรรณดี ใส่เสื้อสวยๆ
อยากให้เห็นคุณค่าของรูปเคารพ เหมือนกับที่เห็นคุณค่าของตนเอง
ถ้าไม่ยึดติดเรื่องรูปเคารพ ต่อไปก้ไม่ต้องไปไหว้พระ ไม่ต้องไปเทวาลัย
ก็ไหว้อยู่ที่บ้านนั่นแหละครับ
ไหนๆก็บอกไม่ยึดเรื่องเคารพ
ถ้าไหว้แบบนั้น สู้ไม่มีเทวรูปหรือไม่มีรูปเคารพเสียยังดีกว่ามีรูปเคารพที่มีลักษณะผิดแปลกหรือมีตำหนิ
คือเห็นแล้วอดพูดไม่ได้จริงๆ
ของแบบนี้มันแล้วแต่ความคิดใครความคิดมันนะคะ แต่ที่อยากจะพูดก็คือ
การที่บูชาเทวรูปที่ผิดปกรณ์อันนั้นไม่ขอเถียงเพราะว่ามันก็ผิดจริงๆแต่ถ้าบางคนอาจจะชอบแบบนั้นก็ไปว่าอะไรเขาไม่ได้ สิทธิของเขา
แต่เรื่องที่บอกว่าเทวรูปมีตำหนินี่ อดไม่ไ่ด้จริงๆ ขอบอกไว้เลยว่าไม่มีเทวรูปใดในโลกที่สมบูรณ์แบบ 100 เปอเซน แม้แต่เทวรูปของทางวัดก็ตาม
การจะมีตำหนินิดๆหน่อยๆมันเรื่องธรรมดาของวัตถุ เพราะยังไงเทวรูปก็เป็นเทววัตถุซึ่งก็ยังเป็นสสารชิ้นหนึ่งบนโลก ไม่ว่ายังไงตำหนิมันก็ต้องเกิด
เทวรูปที่วัดแขกสังเกตุดีๆสิ บางเทวรูปอาวุธพระองค์ท่านหัก ทางวัดก็นำมาต่อใหม่แล้วนำมาบูชากันต่อได้ ถ้าคิดในแบบของคุณ ก้แสดงว่า
ทางวัดควรจะนำเทวรูปนั้นไปเก็บและสั่งทำเทวรูปองค์ใหม่ขึ้นมาแทนงั้นสิ แล้วอีกอย่างการเลือกเทวรูปของทุกคนอย่างแรกที่จะต้องใช้ในการเลือกความ
สวยงามอยู่แล้วเพราะเทวรูปนั้นจะคงอยู่กับเราไปตลอดชั่วชีวิตนั้น เราจะต้องมอง ไหว้ ทุกวัน ไม่มีใครหรอกที่คิดจะนำเทวรูปที่ไม่สวย ตัวเองไม่ถูกใจ มา
ไหว้ส่งๆหรอกอย่างแน่นอน แต่บางทีการจะหาเทวรูปที่มีตำหนิน้อยที่สุดนั้นมันก็หายากอยู่เหมือนกัน ก็ต้องเข้าใจบ้าง การหล่อเทวรูปแม้จะพิมพ์เดียวกัน
ก็เถอะแต่หล่อออกมาเป็นร้อยเป็นพันยังไม่เหมือนกันเลย ถ้าคิดว่าการบูชาเทวรูปนั้นยึดติดกับวัตถุ ต้องเป๊ะร้อยเปอเซน ทั้งๆที่ความจริงแล้วก็ไม่มีใครรู้
ว่าจริงๆเป็นยังไง คุณก็คงต้องนั่งสมาธินึกตามแบบของคุณให้เป๊ะแล้วไหว้เอาทางจิตนั่นแหละค่ะ ขอโทดนะคะที่อาจจะพูดตรงไปบ้าง แต่อดไม่ได้จริงๆ
เห็นด้วยกับคุณ yeney ครับ
ถ้ายึดตามแบบเจ้าของกระทู้ คนจน ๆ ก็คงหมดสิทธิบูชาเทพเจ้า เพราะบางคนเขาต้องบูชาก้อนหิน ขอนไม้ที่เอามาแกะแบบง่าย ๆ ตามกำลังทรัพย์ของเขา แต่เขามีจิตศรัทธา เต็มเปี่ยม ยิ่งกว่าเศรษฐี ที่มีเทวรูปสวย ๆ หรู ๆ เต็มบ้าน แต่ไม่ได้มีคุณธรรมสมกับที่บูชาเทพเลย
การจะหาเทวรูปแบบประณีตสวยงาม ไร้ที่ติ ก็ต้องมีเงินเป็นปัจจัยสำคัญ ใครจะได้มาฟรี ๆ ล่ะครับ ถ้ามีที่ไหนให้ฟรี ผมขอรับองค์นึงแระกัน ผมคนจนครับ
Quote from: laduhmotak on March 05, 2011, 21:06:41
การจะหาเทวรูปแบบประณีตสวยงาม ไร้ที่ติ ก็ต้องมีเงินเป็นปัจจัยสำคัญ ใครจะได้มาฟรี ๆ ล่ะครับ ถ้ามีที่ไหนให้ฟรี ผมขอรับองค์นึงแระกัน ผมคนจนครับ
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.hindumeeting.com%2Fforum%2Frichedit%2Fsmileys%2Fhm%2Fd5f02ecd.gif&hash=82b92801d34d338ca512beb48a4f138eda606099)
คนจนเขาไหว้เทพ
ไม่มีแม้แต่รูปเคารพใดๆทั้งสิ้นนะครับ
เอาง่ายๆเลย
คนจีนชาวบ้านธรรมดา
ไม่มีแม้แต่รูปเคารพในบ้าน
สิ่งที่เอามาบูชาคือแผ่นกระดาษ
เขียนตัวอักษรจีนคำว่า"เทพ"
เพราะถ้ามีรูปเคารพคงไม่รู้ว่าองค์จริงเป็นยังไง
แล้วรูปเคารพปัญหาเยอะแยะจุกจิก
ก็อย่ามีเลยจะดีกว่า
และคนสมัยก่อนก็ไม่ได้ปั้นหรือแกะสลักเทวรูปบูชาเอง.....กลัวว่าทำเองแล้วผิดรูปร่าง
ในความคิดของผมนั้นคือ การจะบูชาเทพสามารถบูชาได้แม้องค์เทวรูปที่มีการหักกร่อนหรือเพียงแค่เขียนพระนามของพระองค์ก็สามารถบูชาได้แล้ว ซึ่งที่สำคัญนั้นต้องปฏิบัติตนให้ดีมากกว่า เอางี้คนจนสามารถบุชาได้แม้เพียงแค่เอ่ยพระนามด้วยความจริงใจก็ได้แล้วครับ คนเรายึดวัตถุไปก็เท่าัน้น ตายไปก็เอาไปไม่ได้อยู่ดี เรากรรมดีไว้เถอะครับ เตรียมเสบียงที่คุ้มค่ากับการเดินทางไกลระยะยาวด้วยการทำความดีเถอะครับ คิดดีพูดดีและก็ทำดีครับ แค่นี้เหล่าเทวะก็ภูมิใจแล้วที่พวกคุณทำความดีบูชาท่าน พระพุทธเจ้าทรงตรัสสรรเสริญการปฏิบัติบูชามากกว่าการทำอามิสบูชามากกว่าครับ เพราะการปฏิบัติบูชาได้บูยกุศลมากกว่ากันเยอะ อีกอย่างในหนังพระกฤษณะ คำของนารัทมุนี ได้บอกไว้ว่า "สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้าคือ ชื่อของพระเจ้า" แค่นี้ก็น่าจะเข้าใจแล้วนะครับ
พระที่สวยๆหายากนะครับ ราคาสูงด้วย
ขนาดสัมริด ผมยังเคยเจอที่มีตำหนิเลยครับ เพิ่งเจอมาเลยอ่ะ
ถูกครับ ไม่ว่าจะงานดีสักเพียงใดย่อมมีจุดบกพร่องได้เสมอ เพราะทุกอยา่งล้วนไม่เที่ยง ไม่แน่นอนครับ คุณChai ผมชื่นชมในความรู้คุณจริงๆครับ แต่ ความศรัทธา คุณเพิ่มหน่อยเถอะครับ เพราะทุกคนต่างมีกรรมต่างกันย่อมมีความคิดต่างกัน แต่ความคิดที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนย่อมดีครับผม แต่ถ้าทำให้ผู้อื่นทุกข์ด้วยจะเจตนาหรือไม่นั้น คำพูดหรือข้อความที่พิมพ์ลงไปนั้นย่อมส่งผลต่อทุกคนครับผม เพิ่มอีกนิดครับ สติครับสติ
Quote from: chai on March 05, 2011, 17:25:29
เทวรูปมีตำหนินิดนึงไม่เป็นไร
ไหว้ๆไปเถอะ......คงไม่ต่างอะไรกับการไหว้ก้อนหิน
เทวรูปมันก็คือก้อนหินก้อนนึงที่ทำขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ใช่หรือยังไง ถ้าคุนคิดแบบนั้นทำไมคุณไม่คิดซะว่าเราไหว้ก้อนหินที่เป็นตัวแทนของพระองค์ท่านล่ะ จำเป็นด้วยหรอว่าก้อนหินก้อนนั้นจะต้องหรูหราอลังการสวยสดงดงามไร้ตำหนิแม้แต่น้อย เพราะไม่ว่ายังไง ก้อนหินก็คืิก้อนหิน
คุณน่าจะเปิดโลกความคิดของคุนนิดนึงนะคะ ไม่ใช่ปล่อยให้มันแคบ! แบบนี้
อย่างนั้น มนุษย์บุคคลผู้เป็นที่เคารพรัก หากวันใดวันหนึ่งเกิดประสบอุบัติเ้หตุพิการขึ้นมา หรือใดๆก็แล้วแต่มีตำหนิเกิดขึ้นก็ไม่ต้องไปเคารพ
แต่ให้หามนุษย์บุคคลที่งดงามไร้ตำหนิเคารพแทนหรือครับ เสื้อผ้าอาภรณ์เก่าแล้วหาเปลี่ยนได้ แต่กายสังขารแห่งมนุษย์จะหาที่ไหนมาเปลี่ยนครับ
อัปลักษณ์แต่ใจงาม ยังดีกว่ารูปงามแต่ใจทรามนะครับ
"คนจะงามงามที่ใจใช่ใบหน้า คนจะสวยสวยจรรรยาใช่ตาหวาน คนจะแก่แก่ความรู้ใช่อยู่นาน คนจะรวยรวยศีลทานใช่บ้านโต"
รับไว้พิจารณาด้วยสติปัญญานิดนึงนะครับ คำโบราณท่านก็มีมาให้จำไว้ใส่กมล แล้วจะเป็นที่รักของบุคคลที่พบเห็นครับ
แต่จะเอามนุษย์ไปเปรียบกับเทวรูปก็ไม่ควร
แต่ถ้าศรัทธามาจากใจจริงๆ
มั่นใจว่าต่อให้เทวรูปหลักพันบาทก็สามารถหามาบูชาได้
แค่เทวรูปหลักพันบาท ยังจะมาอวดว่าดี
ขอบอกนะคะว่าพวกดิฉันเช่าเทวรูปราคาองค์ละ แสนกว่า เทวรูปนั้นยังมีตำหนิเลยค่ะ คิดหรอคะว่าแค่พันกว่า จะไม่มีตำหนิ
ถ้าอย่างนั้น รบกวนช่วยแจ้งด้วยครับ ว่าคำพูดไหน ประโยคไหนที่ผมนำเทวรูปมาเปรียบกับมนุษย์
ผมแค่ยกตัวอย่างของ มนุษย์บุคคลผู้มีตำหนิที่กาย แต่ไร้ตำหนิที่ใจ กับ มนุษย์บุคคลผู้ไร้ตำหนิที่กาย แต่มีตำหนิที่ใจ
ว่าแบบใดที่สมควรได้รับความเคารพมากกว่ากัน เพื่อเป็นข้อคิดดีๆ เท่านั้นเอง
อย่าใช้อคติ กับความเอนเอียงเ้ข้าหาตัวครับ
ยึดมั่นในหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ทุกอย่างอยู่ที่เหตุและัผล ครับ อย่าเถียงแบบเอาสีข้างเข้าถู