Loader

รบกวนสอบถามครับ

Started by บุตรมาเตศวรีศรีมหาอุมาเทวี, April 09, 2011, 20:36:35

Previous topic - Next topic

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

ถ้าเป็นผู้ที่มิใช่พราหมณ์  เป็นเพียงผู้บูชา  จะสามารถก่อกองไฟ 
และเอาสิ่งของบูชาต่างๆเช่น ข้าว  ใส่ลงไปในเตาไฟเพื่อถวายเทพได้หรือไม่ครับ 
และมนต์ที่ใช้ก็เป็นเพียงมนต์ง่ายๆทั่วไป  เช่น  โอม  ศักติ  โอม 
เค้าทำคล้ายๆ โฮมัม  อ่ะครับ

คือผมคิดว่าไม่สามารถทำได้จึงได้ทัดทานบุคคลท่านหนึ่งไป  ไม่ให้เขาทำอีก
เพราะผมเคยอ่านเจอว่าเราไม่ใช่พราหมณ์  ไม่สามารถทำได้  และก็ไม่รู้มนต์ต่างๆด้วย
จึงอยากเรียนสอบถามเพื่อนสมาชิกว่ามีความคิดเห็นอย่างไร  และเราสามารถทำได้หรือไม่
เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่ไม่รู้ต่อไปด้วยครับ

ขอบคุณครับ
 

พฤษภกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง
   โททนต์เสน่คงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์   สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์      มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด   ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

ขออนุญาติตอบ ว่าใช่อย่างที่ว่า เราเองมิใช่พรามหณ์ แต่อย่างใดจึงไม่สามารถจะกูณฑ์หรือการบูชาไฟ เพราะในฐานะแล้วเราไม่ใช่นั้นคิอเรื่องจริงคับผม ซึ่ง ผมก้อได้ยินมาอย่างนั้น เหมือนกัน การสวดนั้นต้องเป็นไปตามแบบฉบับของมนตราต่างๆ ใน หลักของผูที่กระทำหน้าที่บูชาเทพทั้งปวง การสวดเพียงบทสวดอย่างเดียวนั้นก้อใช่ถูกต้องเสมอไปครับผม

เห็นด้วยกับคุณเจ้าของกระทู้ค่ะ

กิจบางอย่างมีไว้สำหรับผู้เป็นพราหมณ์เท่านั้นค่ะ เพราะพราหมณ์คือผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เรียนพระเวทจนเจนจบ มนตราและขั้นตอนต่างๆในการประกอบยัชญพิธีมีความละเอียดซับซ้อน ไม่สมควรที่เราจะไปพยายามทำอย่างผิดๆหรือสะเปะสะปะ

การเป็นพราหมณ์นั้น ก็ไม่ใช่ว่าใครบวชแล้วจะเป็นได้ด้วยนะคะ (หลายคนเข้าใจกันว่าอย่างนั้น) ความข้อนี้คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะใช้คำว่า 'วรรณะ'
ดังที่มีคำอยู่คำหนึ่งซึ่งใช้เรียกพราหมณ์ คือคำว่า 'ทวิชาติ' ซึ่งหมายถึง ผู้เกิดสองหน มีนัยว่า การเกิดครั้งแรกคือเกิดจากท้องแม่ ถือเป็ฯพราหมณืโดยกำเนิด ยังไม่มีสิทธิ์เรียนพระเวท (ขนาดเกิดในตระกูลพราหมณ์ยังเรียนไม่ได้เลยนะคะ) ต่อเมื่อเกิดครั้งที่สอง คือ การรับการบวชจากอาจารย์แล้ว จึงจะถือว่าเป็นพราหมณ์โดยสมบูรณ์ ร่ำเรียนไตรเพทและประกอบพิธีต่างๆได้

ข้อนี้ถือกันทั้งนั้น ไม่ว่าพราหมณ์ไทยหรือพราหมณ์เทศค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

    น่าเบื่อกับคนไทยส่วนใหญ่ที่เป็นตามที่ท่านเจ้าของกระทู้ประสบพบเจอมานะค่ะ 
    อยากจะเป็นพลาม .. พราหมณ์กันเสียจนตัวสั่น

    ทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าการจะเป็นพราหมณ์แบบฮินดูได้นั้นต้องปฎิบัติตัวอย่างไรบ้าง ประกอบด้วยคุณธรรมตามแบบใด .. ตามที่คุณอินทุศีตาลากล่าวมาอะนะค่ะ

    แต่คิดว่าพอเอาเข้าจริงๆให้ลองมาเรียนรู้กันจริงๆ พวกนี้พอเจอสัทศาสตร์หรือเวทางคศาสตร์ วิชาพื้นฐานหกประการ
    อันได้แก่ กัลปศาสตร์ ไวยากรณ์ศาสตร์ นิรุกติศาสตร์ ฉันทศาสตร์ กาพยศาสตร์ โชยติศาสตร์ ( โหราศาสตร์และดาราศาสตร์ )

    อิชั้นว่าก็คงจะเผ่นกันป่าราบ

   ไหนจะลักษณะ 11 ประการที่พราหมณ์ควรพึงมี อันได้แก่
   ศม ทม ตป เศาจ สนฺโตษ กฺษมา สรลา ชฺญาณ ทยา อาสฺติกตา และสตฺย 

    มาที่เรื่องการบูชาไฟ  '' โฮมา -
होम ''   การก่อกองกูณฑ์อีก  อิชั้นก็ไม่เข้าใจว่าถ้าไม่ก่อกองไฟเตาไฟ  ไม่ทำพิธีแบบนั้น
    มันหมายความว่าพระเป็นเจ้าจะไม่ทรงรับรู้หรือตอบรับการบูชาของเราหรืออย่างไรค่ะ


   ตอนนี้ก็ดีแต่ทำลอกเลียนแบบพราหมณ์ในวัดคะ จนกลายเป็นค่านิยมแบบผิดๆ กลายเป็นเทรนใหม่ไปละ
   สักแต่ทำ แต่ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร?  มีความหมายอย่างไร?  มีนัยอะไรแอบแฝง?

    ทั้งยังไม่ต้องถามนะค่ะว่าในระหว่างการประกอบพิธีบูชาไฟนั้น ใช้มนต์อะไรกำกับ
    เพราะพวกนี้คงไม่คิดจะเรียนสันสกฤตเป็นเรื่องเป็นราวหรอกคะ

    ส่วนตัวอิชั้นแล้วไม่ค่อยจะเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยนะคะ
    อยากให้เพื่อนๆใช้ปัญญาในการคิด-พิจารณาไตร่ตรองกับการกระทำของกลุ่มคนพวกนี้คะ


    ขอพระเป็นเจ้าคุ้มครองทุกท่านคะ

      

   


ขอบพระคุณพี่ๆทุกท่านครับที่ให้ความรู้และข้อคิดดีๆอีกมากมายเลยครับ
โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยและคอยปรามเขาแต่แล้วก็ไม่พ้นดดนว่าเอาลับหลัง
สุดท้ายก็หวังเพียงว่าเค้าคงจะมองเห็นในแสงสว่างบ้างก็พอครับ

ขอบพระคุณครับ

ปล.พี่ๆท่านใดมีความเห็นอีกขอความกรุณาด้วยนะครับ  ^^
 

พฤษภกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง
   โททนต์เสน่คงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์   สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์      มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด   ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

คนเรารู้ว่าผิดก้อค่อยๆ แก้ไปน่ะคับผม รู้ไว้ใช่ว่าครับผม ไม่ผิดเสมอไปคับ

ผมได้เตือนแล้วครับ  ตอนแรกก็ฟังอยู่
แต่มาทราบตอนนี้ได้ข่าวว่าแอบมาว่าผมลับหลัง 
หาว่าผมหลอกเค้า  เค้าทำได้ไม่ผิด
ก็เลยต้องปล่อยตามกรรมละครับ^^
 

พฤษภกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง
   โททนต์เสน่คงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์   สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์      มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด   ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

ครับ การทำโฮมัม ควรให้พราหมณ์ทำพิธีเถอะครับ ดีที่สุด คุณบุตรมาเตครับขอEmailด้วยครับได้msnไปหาบ้างหนะครับ
โอม มหากาลา ไภราวะ นะมะฮา
ขอนอบน้อมแต่องค์พระมหาไภราวะ ผู้ทรงเป็นที่รักษาความยุติธรรม และ ทรงเป็นนายแห่งความตายและการสงคราม  ขอพระองค์ทรงปกปักรักษาและอวยพรแด่ ข้าพเจ้า บิดามารดาของข้าพเจ้า ครูอาจารย์ของข้าพเจ้า คนรักของข้าพเจ้า และสหายของข้าพเจ้า ให้มีความสุขความเจริญด้วเทอญ


จงระวังความคิดให้ดี เพราะความคิดนี่ละ ทำให้เกิดชาติภพมากมายนับไม่ถ้วน

มิเชลล์ไม่กล้าทำถึงขนาดก่อกองกูณฑ์หรอกค่ะ เพราะขนาดบ้านเรายกตัวอย่างทำบายศรี นาฏศิลป์ ดนตรีไทย ยังจำเป็นต้องมีการครอบครูก่อนถึงจะสามารถทำบายศรี หรือต่อท่ารำต่อเพลงหน้าพาทย์ได้ ก็เหมือนกันศาสนาฮินดูมีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ย่อมมีแบบแผนปฏิบัติ จากอาจารย์ผู้สั่งสอนเท่านั้น จะมาทำซี้ซั้วเองมีหวังโดนคุณอุบาทว์แน่ๆ
โอม เจ มาตา กี รักสุดหัวใจเลย พระแม่จะอยู่ในใจลูกเสมอ

ตราบใดที่ท้องฟ้ายังมีดวงจันทร์ ตราบนั้นนามพุ่มพวงจะไม่เลือนหาย

ใช่แล้วครับมิเชล  เพราะโดยส่วนตัวเคยได้ยินแค่การทำสมาธิด้วยการเพ่งมองกองไฟ
แต่ถ้าก่อ
กองกูณฑ์แล้วถวายสิ่งของลงกองไฟนี่เคยเห็นมาจากหลายที่มากมายเลย
แต่เราก็ไม่สามารถตักเตือนได้เพราะไม่รู้จักเค้าด้วยแค่ผ่านไปคงทำอะไรไม่ได้
แต่นี่เราไปเจอคนรู้จักเลยเตือนแต่ก็โดนมาจนได้  อิ อิ

ถ้าท่านใดพบเจอเพื่อนหรือคนรู้จัก  ก็อยากให้นำความรู้จากกระทู้นี้ไปบอกกล่าว
เขาบ้างเพื่อเป็นการสร้างกุศลก็ดีนะครับ  เขาจะได้ไม่ทำผิดบาปไปมากกว่านี้ครับ

ขอบคุณครับ
 

พฤษภกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง
   โททนต์เสน่คงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์   สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์      มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด   ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

เกรงว่าเตือนแล้วจะไมฟังน่ะสิคะ เขาเชื่ออย่างนี้ ทำมาแล้ว และจะทำต่อไป เฮ้อ เหนื่อยนะคะ
โอม เจ มาตา กี รักสุดหัวใจเลย พระแม่จะอยู่ในใจลูกเสมอ

ตราบใดที่ท้องฟ้ายังมีดวงจันทร์ ตราบนั้นนามพุ่มพวงจะไม่เลือนหาย

งั้นต้องตามกรรมจ๊ะคุณน้อง
พี่เคยเตือนได้บ้างก็อยากจะเตือนอ่ะจ๊ะ
อยากให้เค้าพบทางสว่าง  แต่ถ้าไม่ไหวจริงก็......
ปล่อยไปตามกรรมจ๊ะ  อิ อิ
 

พฤษภกาสรอีกกุญชรอันปลดปลง
   โททนต์เสน่คงสำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวายมลายสิ้นทั้งอินทรีย์   สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์      มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด   ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน

เสริมจากน้องศรีมหามารตีนะครับ เรื่อง ผู้เป็นพราหมณ์ย่อมมีลักษณะ 11 ประการ
คำว่า 'พราหมณ์' หมายถึง ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับพระพรหม พระเวท และอาตมัน ในคัมภีร์ธรรมศาสตร์ บอกไว้ว่า ผู้ใดผู้หนึ่งมีลักษณะ ๑๑ ประการ ดังต่อไปนี้ ผู้นั้นย่อมเป็นพราหมณ์ หรือกล่าวอีกทีก็คือ ผู้เป็นพราหมณ์ย่อมมีลักษณะ ๑๑ ประการ ตามธรรมชาติ คือ ศม ทม ตป เศาจ สนฺโตษ กฺษมา สรลา ชฺญาณ ทยา อาสฺติกตา และสตฺย"

ศม หมายถึง ความสุภาพ ภายในจิตใจไม่มีความยุ่งยากหรือปั่นป่วนด้วยกาม โกรธ โลภ หลง

ทม หมายถึง สภาพจิตใจที่ได้รับการระงับไว้แล้ว รู้จักข่มจิตใจของตนด้วยความสำนึกในเมตตา และมีสติอยู่เสมอ รู้จักอดกลั้น ไม่ปล่อยจิตใจให้หวั่นไหวไปตามอารมณ์ได้ง่าย ๆ

ตป แปลว่า ความร้อน หรือการร้อน หมายถึง การฝักใฝ่ในการหาความรู้ ความจริง และพยายามทำให้สำเร็จ ไม่ว่าจะผจญกับความยากลำบากเพียงใด

เศาจ แปลว่า ความบริสุทธิ์ หมายถึง การทำตนเองให้บริสุทธิ์ทั้งใจและกาย

สนฺโตษ หมายถึง พอใจ หรือมีความสุขในทางสันติ

กฺษมา หมายถึง ความอดกลั้น อดโทษ พยายามอดทนโดยถือความเมตตากรุณาเป็นที่ตั้ง

สรลตา แปลว่า ความซื่อตรง ทั้งการพูดและการกระทำ

ชฺญาณ หมายถึง ความชอบทางการศึกษาหาความรู้

ทยา หมายถึง ความมีเมตตากรุณาต่อชีวะทั้งหลาย

อาสฺติกตา คือ การมีความเชื่อถือ ไว้วางใจ เชื่อฟัง และมอบความจงรักภักดีไว้ต่อพระพรหม

สตฺย แปลว่า จริง หรือความจริง หมายถึง ความเห็นอันสุจริต บริสุทธิ์ใจ ซื่อสัตย์ต่อกันที่มา : เอกสาร หลักธรรมของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู จัดพิมพ์โดยเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์***********************************************************ส่วนเรื่องของการบอกกล่าวกับเพื่อนนั้น ก็เหมือนกับดอกบัวสี่เหล่า ของพระพุทธศาสนาครับ แค่เพียงอย่าท้อใจ ในการที่จะบอกกล่าวหรือสั่งสอนในสิ่งที่ถูกต้อง ดั่งเช่นองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้สอนธรรมแก่ชนทั้งหลาย อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย หวังเพียงเพื่อให้ธรรมของพระองค์ถูกเผยแผ่ออกไปให้มากที่สุด เพียงแต่ชนทั้งหลายนั้น จะนำเอาคำตรัส หรือธรรมนั้นไปได้มากหรือน้อย หรือ ไม่ได้อะไรเลย เท่านั้นเองครับ(ปล.ที่นำเอาศาสนาพุทธยกเช่นมากล่าวในบอร์ดฮินดูนั้น เพราะเชื่อว่าเข้าใจง่ายและเห็นภาพครับ และสอดคล้องกับตรงนี้ได้อย่างดีครับ)

ขออนุญาติพี่กาลิทัศนะครับ พอดีผมจะเอาข้อความอันนี้ไปลงในเฟสบุ๊คที่เกี่ยวกับฮินดู ชื่อกลุ่ม ฮินดูบูชา ครับผมขอบคุณมากครับพี่
โอม มหากาลา ไภราวะ นะมะฮา
ขอนอบน้อมแต่องค์พระมหาไภราวะ ผู้ทรงเป็นที่รักษาความยุติธรรม และ ทรงเป็นนายแห่งความตายและการสงคราม  ขอพระองค์ทรงปกปักรักษาและอวยพรแด่ ข้าพเจ้า บิดามารดาของข้าพเจ้า ครูอาจารย์ของข้าพเจ้า คนรักของข้าพเจ้า และสหายของข้าพเจ้า ให้มีความสุขความเจริญด้วเทอญ


จงระวังความคิดให้ดี เพราะความคิดนี่ละ ทำให้เกิดชาติภพมากมายนับไม่ถ้วน