Loader

อยากได้ประวัติและบทสวดของพระหนุมานคะ

Started by Tu-Ti, November 02, 2010, 10:39:39

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

อยากได้ประวัติและบทสวดของพระหนุมานคะ  รบกวนผู้รู้คะ






หนุมาน เป็นลิงเผือก (กายสีขาว) มีลักษณะพิเศษคือ มีเขี้ยวอยู่กลางเพดานปาก มีกุณฑลขนเพชร สามารถแผลฤทธิ์ให้มี ๔ หน้า ๘ มือ และหาวเป็นดาวเป็นเดือนได้ ใช้ ตรีเพชร (สามง่าม) เป็นอาวุธประจำตัว (จะใช้เมื่อรบกับยักษ์ตัวสำคัญๆ) มีความเก่งกล้ามาก สามารถแปลงกาย หายตัวได้ ทั้งยังอยู่ยงคงกระพันแม้ถูกอาวุธของศัตรูทำร้ายจนตาย เมื่อมีลมพัดก็จะฟื้นขึ้นได้อีก

หนุมาน เป็นเทพลิงที่มีความสามารถในการเรียนรู้ ว่องไว ถือกำเนิดจากนางอัญจนา ราชินีลิง หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่กำเนิดโดยเทพเจ้า เป็นผู้ช่วย พระวิษณุ เมื่อครั้งอวตารเป็น พระราม สามารถเหาะได้ เนื่องจากพระบิดาคือ พระวายุ เทพแห่งลม กำเนิดของหนุมานสลับซับซ้อน กล่าวกันว่าพระบิดาของพระราม ได้จัดพิธีเพื่อของโอรส โดยให้มเหสีทั้งสามเสวยขนมองค์ละ ๑ ชิ้น นางไกษเกษี ซึ่งอ่อนชันษาที่สุด ได้รับขนมเป็นองค์สุดท้าย พระนางไม่ชอบขนมนี้ และเมินพระพักตร์นกเหยี่ยวเล็กจึงบินมาคว้าไป มันบินไปในป่า และพบ นางอัญจนา ซึ่งถูกสาปให้เป็นลิง กำลังสวดวิงวินขอบุตรอยู่ ดังนั้นนกเหยี่ยวจึงปล่อยขนม พระวายุก็พัดพาขนมไปตกที่มือของนาง จากนั้น พระศิวะ จึงปรากฎร่างต่อหน้านางและให้นางกินขนม เมื่อนางกิน จึงตั้งครรภ์หนุมานขึ้น ทันทีที่หนุมานเกิดก็มีอาการหิวทันที มารดาจึงไม่พอใจหนุมานนัก ครั้นเมื่อหนุมานเห็นดวงอาทิตย์คิดว่าเป็นผลไม้ จึงกระโดดตามไป ดวงอาทิตย์เคลื่อนหนี หนุมาน ก็ไล่ตามไปไกลจนถึงสวรรค์ของ พระอินทร์ พระอินทร์ทรงใช้วัชระขว้างใส่ขากรรไกรหนุมาน ทำให้หนุมาน หล่นลงมาบนโลก พระวายุ บิดาของหนุมานจึงแก้แค้นให้ โดยเข้าไปสิงอยู่ในร่างของเหล่าเทพเจ้า ทำให้เกิดอาการจุกเสียด พระอินทร์จึงต้องขอขมาพระวายุ และให้พรว่าหนุมานจะเป็นอมตะ (บางคัมภีร์ว่าพระรามให้พรหนุมานให้เป็นอมตะ)


วีรกรรมสำคัญของหนุมานก็คือ เหาะไปยังเทือกเขาหิมาลัยเพื่อนำสมุนไพรมารักษาบาดแผลของพระลักษณ์ พวกยักษ์ได้ขัดขวางหนุมาน แต่หนุมานก็มีชัย อสูรราพณ์หรือทศกัณฐ์ได้ส่งบริวารยักษ์มาฆ่า หนุมาน โดยตั้งรางวัลไว้ว่า ถ้าสำเร็จจะยกอาณาจักรให้ครึ่งหนึ่ง หนุมานได้จับขาของยักษ์เหวี่ยงไปทางกรุงลงกาจนตกลงมาตายต่อหน้าบัลลังก์ของอสูรราพณ์ แต่หนุมานหาสมุนไพรไม่พบ หนุมานจึงยกภูเขาไปทั้งลูก การเหาะโดยแบกภูเขาทั้งลูกไปทำให้เกิดลมวน เมื่อผ่านกรุงอโยธยา พระภรตจึงคิดว่าเป็นการกระทำของอสูร จึงยิงลูกศรใส่ หนุมาน จนตกลงมา เมื่อพบว่าเป็นหนุมาน พระภรตจึงไถ่โทษโดยการใช้ลูกศรยิง หนุมาน กลับไปกรุงลงกา แต่หนุมานปฏิเสธและเหาะกลับไปเอง จากนั้นจึงนำสมุนไพรให้พระราม เมื่อสงครามที่กรุงลงกายุติลง พระรามจึงให้รางวัลโดยการให้พรแด่หนุมาน ซึ่งขอเป็นอมตะ พระรามก็ประทานให้



  บทสวดหนุมาน แบบ อินเดียเหนือ
โอม มะโนจาวัม มารุตาตุละยาเวกัม
จิเทนทริยัม พุทธิมาตัม วาริสะตัม
วาตัตตะมาชัม วานะรายุ ธ มุขยัม
ศรีราม ทุตัม สาระนัม ประปัทเย










เครดิต สยามคเณศ  : http://www.siamganesh.com/hanuman.html
แม้นภูเขาจะสูงเสียดฟ้า ก็เตี้ยกว่าผืนหญ้าที่คลุมมัน

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
บอกก่อนว่าข้อมูลข้างบน คือประวัติหนุมานแบบไทย อ้างอิงจากรามเกียรติ์

ตำนานอินเดียว่าพระศิวะอวตารเป็นหนุมาน

ส่วนภูเขาที่หนุมานแบกไปตอนพระลักษมณ์ถูกศรพิษ มีหลายชื่อเรียก เช่น เขาคันธมาทน์ เขาทูนะ เขาโทรณะ เขาสัญชีวินี

ส่วนเมียท้าวทศรถ3คน เกาสุริยา(เกาศัลยา) สุมิตรา ไกยเกษี(ไกเกยี) ฉบับอินเดียว่าขณะทำพิธีโหมกรรม พระอัคนีโผล่จากกองไฟมอบน้ำทิพย์น้ำทิพย์ให้ท้าวทศรถ และท้าวทศรถนำไปให้เมีย3คนดื่ม และคนที่ดื่มมากที่สุดคือนางสุมิตรา เพราะดื่มแล้วมันเหลือ เลยยกให้นางสุมิตราอีกส่วน นางถึงมีลูกสองคน คือ พระลักษมณ์ และ พระสัตรุด(ศัตรุฆณ์) นางไกเกษีมีลูกคือพระภรต นางเกาสุริยามีลูกคือพระราม

เรียนคุณชัย  ดิฉันอยากทราบในส่วนประวัติของหนุมานแบบตำนานอินเดียจังค่ะ ยังไงรบกวนคุณชัยลงเพิ่มเติมอีกได้ไหมคะ ขอบพระคุณค่ะ

ส่วนคุณน้องตองขอบพระคุณที่นำความรู้ดีๆมาฝากกันค่ะ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


ตำนานอินเดีย ผม"ได้ยินว่า"
นางอัญชนา เดิมเป็นนางอัปสรา แต่เผลอตัวไปลบหลู่ฤๅษีท่าน เลยโดนสาปให้เป็นลิง ภายหลังก็แต่งงานอยู่ราชาลิงอยู่กินกันจนมีลูก พระศิวะประทานลูกให้ พลังหนุมานส่วนใหญ่ได้รับจากเทพแห่งลมหรือพระวายุ หนุมานถึงมีพละกำลังมาก จนสามารถแบกภูเขามหึมาได้

ทำไมมันน้อยจังคะคุณชัย น้อยมากกกกกเลย ไม่เป็นไรหรอกค่ะดิฉันอยากรู้ในสิ่งที่คุณได้รู้มา
พลาดหรือไม่พลาด ไม่เกี่ยวกันหรอกค่ะ เล่าสู่กันฟังค่ะคุณชัย ตอบเจ้าหนูจำไมหน่อยก็ดีค่ะ

ปกติทุกอย่างดิฉันมองว่ามันมีสองด้านเสมอดังนั้นไม่แปลกหรอกหากเราจะอ่านด้วยตัวเองเรียน
รู้ด้วยตัวเองหรือว่าเรียนรู้จากการมีผู้อื่นมาเล่าสู่ความรู้นั้นให้เรารับรู้ไปด้วย หากแต่ไม่ว่าจะ
เป็นการอ่านก็ดีหรือการฟังก็ดี เมื่อเราได้รู้มาก็ควรพิจารณา ด้วยจริงไหมคะ  ดังนั้นดิฉันเป็น
คนที่ชอบเรียนรู้ เมื่อสงสัยดิฉันจะถาม เมื่อได้คำตอบก็จะคิดเมื่อคิดแล้ว จึงจะเขียนไว้ใน
สมองและในใจ แต่การหาความรู้เกี่ยวกับพระเป็นเจ้าไม่ว่าพระองค์จะเป็นองค์ใดก็ตาม
เราควรให้ความเคารพต่อทุกพระองค์ค่ะ ดังนั้นดิฉันจึงอยากบอกให้คุณชัยทราบเพราะเกรงว่า
คุณชัยเองจะรำคาญดิฉันเอาเช่นกันค่ะ แต่อย่างไรก็ตามขอบพระคุณค่ะที่ได้นำเอาความรู้มา
แบ่งปันกันค่ะ อย่าลืมนะคะหนังสือหรืออินเตอร์เน็ตไม่ได้เป็นครูได้อย่างเดียว ผู้ที่นำเอาสิ่ง
ที่เราไม่รู้มาบอกให้เรารู้ ผู้นั้นก็ถือเป็นครูได้เช่นกันค่ะ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองค่ะ)
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


เพราะได้ยินมานี่แหละครับ

เล่าเยอะเดี๋ยวพลาด

ขออนุญาติดันค่ะ ยังรออยู่นะคะคุณชัย
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ