Loader

การบูชาด้วยคาลัส

Started by เทวาเหนือเกล้า, October 25, 2009, 23:22:14

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

มีใครพอจะทราบตำนานเกี่ยวกับคาลัส(บายศรี) บ้างไหมคะ รบกวนขอความรู้ด้วยค่ะ

วัสดุที่ใช้ทำมีอะไรบ้าง แล้วควรถวายเมื่อไหร่ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

(พอดีมีคนมาทักว่า ให้ขึ้นคาลัสให้องค์พระคเณศที่ห้องด้วย ก็เลย งง ๆ นิดๆ ค่ะ)
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


ลองเข้าไปดูที่ลิงค์นี้นะครับ http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=171.0 พี่กาลิทัสเคยอธิบายไว้พอสมควร

คิดว่าน่าจะช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับกลัศ,กาลัศ หรือกาลาซัมได้ครับ

ปล. กาลัศไม่ใช่บายศรีนะครับ เป็นคนละส่วนกัน
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

ขอบคุณค่ะน้องคิว ผู้น่ารัก

ปล พี่น่ะงงจะแย่แล้วค่ะ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


น้องคิวขา พี่แนท จะทำได้เหรอคะเนี่ย  พี่จะไปหาน้ำศักดิ์สิทธิ์จากไหนอ่ะคะ

เค้าบอกให้พี่ทำ  เอ่อ แต่บายศรีละคะ น้องคิว ตาคนที่เค้ามาทักพี่อ่ะ เ

ขาบอกขึ้นบายศรีก็ได้เหมือนกันตกลงว่า จะให้ขึ้นอันไหนกันแน่คะ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


กลาซัมม คือ ตัวแทนของพระเป็นเจ้านะคั๊บบ

ส่วน บายศรี คือของบูชา นะคั๊บบ
[HIGHLIGHT=#ffff00]มนุษย์จงประพฤติตัวให้แตกต่างจากพราหมณ์ พิธีกรรมบางอย่างควรขึ้นอยู่กับพราหมณ์ส่วนเราซึ่งเป็นมนุษย์ ควรปฎิบัติตัวให้เหมาะสม มีขอบเขตและไม่ก้าวก่ายหน้าที่ของพราหมณ์ [/HIGHLIGHT]

เอ่อ คืออย่างนี้นะครับว่า กาลัสกับบายศรีนี่คนละอย่างกัน ผมก็ไม่เข้าใจว่า"เค้า"ที่พี่แนทหมายถึงนี่ เขาเข้าใจหรือไม่ว่ากาลัสกับบายศรีเนี่ยมันคนละประเภทกันเลย

ดังนั้นผมคิดว่าง่ายและสะดวกที่สุดคือพี่ทำบายศรีบูชาพระเป็นเจ้าดีกว่าครับ
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

ขออนุญาตเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพกาลาซัมของอินเดียใต้ กับกลัสของอินเดียเหนือนะครับ
.
.
กาลาซัมของทางอินเดียใต้ ในงานพิธีคเณศจตุรถี วัดแขก สีลม
.
.
.
กลัสของทางอินเดียเหนือในงานพิธีนวราตรี วัดวิษณุ ยานนาวา
.
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

ส่วนภาพนี้เป็นบายศรีของไทยครับ (ถ่ายในงานเททองหล่อพระคเณศที่ท้องสนามหลวง เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๒)
.
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

แจมนิดนึงครับ

กลัส ทางเหนือ
กลาซัม ทางใต้

เรื่องโลกแตกอีกแล้วครับ กลัสหรือกลาซัม อย่างที่น้องกัลบอกครับ ว่าคือตัวแทนของพระเป็นเจ้า ซึ่งการทำต่างกันไปครับ เหนือ กับ ใต้ยังต่างกันเลย
กลาซัมวางอยู่บ้านบนของวัดเพื่อรับพลังและบรรจุพลังแห่งเทวะ ส่วนน้ำที่อยู่ในกลาซัมเมื่อทำการบูชาแล้วก็นำมาทำพิธีอัมบิเชกัมได้ครับ

ส่วนบายศรี เป็นบายศรีที่ทำจากใบตองที่บ้านเราเห็นทั่วๆ ไปนี่แหละครับ

คนไทยส่วนมากจะเรียกกลาซัมว่าบายศรีแขก ((เท่าที่ทราบมานะครับ แต่ความหมายมันไกลกันลิบเลย ถ้าคุณรู้ว่าคำว่าบายศรีนั้นมีรากศัพท์จากอะไร))

คราวนี้มาพูดถึงกลาซัมครับ ผมแนะนำว่าถ้าคุณไม่ใช่พราหมณ์ ไม่มีพระเวทเพื่อผูกกลาซัม อย่าทำเลยครับ วางบายศรีบูชาก็น่าจะเพียงพอแล้ว

สมัยก่อนกันจริงๆ ตัวหม้อทำจากดินเผานะครับ ต้องมีการผูกพระเวทย์บูชาดิน มีการผูกพระเวทย์เพื่อคล้องสายสิญจน์กลัส แต่พี่ไทยเราที่ไม่ค่อยรู้อะไร ก็ไปซื้อหม้อโลหะ มาเลยครับ ตั้งๆๆๆๆ ใส่ปัญจมริตเข้าไป เอาใบมะม่วงวาง เอามะพร้าววาง เป็นอันเสร็จพิธี จริงๆ แล้วไม่ใช่นะครับ ต้องมีการผูกพระเวทย์ทุกขั้นทุกตอน แต่ตามอุปนิษัท การผูกกลาซัมต้องทำโดยพราหมณ์ครับ

ผมฝากไว้แค่นี้แล้วกันครับ แหะๆๆๆ    

กลัศ มันก็คนละอย่างกับบายศรีในคติของเครื่องบูชาของคนไทยนี่ครับ  อย่าเอามาปนกัน เพราะกลัศของสายนิกายแต่ละคติและภูมิภาคของอินเดียเองก็ไม่เหมือนกัน  แต่หลักการโดยรวมคือเหมือนกัน คือ ถ้าทำไม่ครบ ไม่ถูกต้อง ของใช้ไม่ครบ มันก็ไม่ใช่กลัศบูชา หรือกลัศสถาปนา แต่เป็นเพียงภาชนะอย่างนึงใส่น้ำใส่ใบมะม่วงเอามาตั้งไหว้ในพิธีเท่านั้น  เปรียบได้ก็ประมาณแจกันใส่ดอกไม้  ผมว่าจัดแจกันใส่ดอกไม้ไหว้ พระจะดูสวยกว่าอีกนะ  แต่ไม่เข้าใจว่าทำไม คนไทยชอบตั้งหม้อ กันจัง ทั้งๆที่หาของได้ไม่ครบ  หรือเพราะอยากทำให้ได้อย่างที่ วัดแขกเขาทำกัน เลยอยากทำมั่ง   ถามหน่อยอะครับ ปีชาติไม่เคยเห็นตั้งกลัศกัน  แต่ทำไม สมัยนี้ คนชอบตั้งกลัศกันจัง  มันอินเทรนขนาดนั้นเลยเหรอคับ
டொ யொஉ க்னொந் ந்ஹொ அம் இ 5555 http://picasaweb.google.com/devraajsmin

รบกวนพี่ๆเพื่อนๆ อีกแล้วค่ะท่าน ขอบคุณทุกข้อมูลค่ะ ของพี่ยีนส์ คุณมินตรา คุณกัลป์

ขอบคุณ น้องคิวค่ะ สำหรับภาพสวยๆ สุดท้ายนี้พี่ขอตั้งบายศรีให้ท่านดีกว่า น่าจะดีที่สุดนะคะ

เพราะอย่างไร พี่ก็สามารถหาซื้อหรือสั่งทำได้คงจะดีกว่านะคะ อย่างที่น้องคิวว่านั่นล่ะค่ะ

(วันนี้จะไปปากคลองตลาดไปสั่งทำเลยดีกว่า)

เอ่อน้องคิวค่ะ พี่ว่าเค้าคงไม่เข้าใจหรอกค่ะ ถ้าเขาเข้าใจ เขาก็คงจะไม่บอกให้พี่สับสนเช่นนี้หรอกค่ะ

พอดีคนนี้เขาอยู่ห้องใกล้ๆ พี่เขาขอมาชมองค์พระคเณศที่พี่บูชาอยู่อ่ะค่ะ

แล้วเขาก็บอกว่า น่าจะขึ้นคาลัส หรือ บายศรีให้ท่านนะคุณ น่านล่ะค่ะ ที่มาของเรื่อง

พี่ว่านะเค้าคงไม่แยกไม่ออกแหงๆเลยค่ะ จริงอย่างทุกคนว่า คาลัสนี้ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ ต้องพราหมณ์เท่านั้น

ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


ตามที่คุณเล่ามา ก็แสดงว่า เขาไม่ได้ศึกษา ไม่ได้รู้จริง แต่สอนคนอื่น แล้วเอาความไม่รูจริงของตัวเองมาสอน ไงครับ  นี่ละครับ บาป เพราะทำให้คนเราออกห่างจากพระเวท ออกห่างจากจารีต ของศาสนา  และความถูกต้องตามครรลองของศาสนา ครับ  นี่แหละคับคือที่มาของความเสื่อม  เทียบกับพุทธก็คือ  ขนาดพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปไม่นานก็มีคนจาบจ้วง พุทธองค์ และมีการคิดเอง เออเองในพระธรรมวินัย  จนต้องมีการ รวบรวมพระธรรมวินัยกันใหม่ เช่นกัน  ถ้าพวกเรา คนไทย  แม้ไม่ใช่เจ้าของศาสนา แต่เราก็ไม่ควรทำไร ที่ประหลาดและแตกต่างของศาสนา  อย่าไปสร้างความคิดอะไร ประหลาดๆจากความไม่รู้กันเลยครับ  ไหว้แบบง่ายๆ   สองมือไหว้ด้วยใจ ก็เพียงพอ    ถ้าไม่รู้ในศาสตร์ ไม่รู้ในแก่นของประเพณี   ไปสรรหากัน ไปทำกัน  จนเละ  สุดท้ายแล้ว  เรากำลังทำอะไรกับศาสนาอยู่กันแน่    เราเองหรือเปล่าที่ทำให้ศาสนาเสื่อม  อันนี้ไม่ได้พูดแรงไปนะ  เพราะว่าถ้าปล่อยให้คนเรา คิดอยากทำไรก็ทำกันไป โดยสักแต่อ้างว่า ทำด้วยใจ   สุดท้าย  ศาสนาคืออะไร ประเพณีดีงาม  จารีตที่สั่งสมกันมาคืออะไร  เพราะงั้น  สิ่งที่คุณ คิดได้นั้น ดีแล้วครับ อยากให้ศึกษาให้มาก  แล้วจะเข้าใจเองครับ  ว่า กลัศบูชานั้น ไม่ใช่ สักแต่ว่าจะตั้ง เอาน้ำใส่ เอง เหรียญหยอด เอาใบมะม่วงวาง  อันนั้น มันตลกในสายตาของเจ้าของศาสนา  เหมือนแขกๆ เพื่อนผมที่เดินเที่ยวงานวัดแขก   ตอนงานแห่   ถามว่าไปดูอะไร คำตอบคือ  ไปดูตัวตลกตามข้างถนน    มันน่าเจ็บใจมั้ยละครับ    แต่ผมก็ขำนะ  เออจริง มันตลกจริงๆแหละ  เต็มสองข้างถนนเลย   
டொ யொஉ க்னொந் ந்ஹொ அம் இ 5555 http://picasaweb.google.com/devraajsmin

ขอบคุณคุณมินตราผู้รู้แจ้งค่ะ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


ไม่เป็นไรมิได้ 555+
டொ யொஉ க்னொந் ந்ஹொ அம் இ 5555 http://picasaweb.google.com/devraajsmin