Loader

นารายณ์อวตานภาคที่ 4 : นาราซิมฮา

Started by กาลิทัส, March 26, 2009, 13:15:21

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

ตามตำนานองค์พระนารายณ์ได้ทรงจำแลงพระกายหลายต่อหลายปางด้วยกัน เพื่อทรงปราบมารที่มาสร้างความเดือดร้อนต่อโลกมนุษย์ เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้รักษาดูแลโลกไม่ให้เกิดภัยพิบัติ และในหลายๆปางที่ท่านได้รู้จักนั้น จะมีอยู่ปางหนึ่งที่สำคัญและผู้คนทั้งหลายกล่าวขวัญบูชาอยู่ไม่น้อย นั่นคือ ปาง นาราซิมฮา ในปางนาราซิมฮานี้ องค์พระนารายณ์ทรงมีพระพักตร์เป็นสิงห์ พระวรกายเป็นมนุษย์ ในรูปบูชานั้น จะทรงปรากฏพระแม่ลักษมีอยู่ด้วย และพระสาวกอีกองค์หนึ่ง



ในเหตุที่พระองค์ต้องทรงจำแลงพระวรกายมานั้น ก็เพื่อปราบน้องของหิรัญยักษ์ผู้พี่ ที่ถูกพระนารายในปางยักษ์หน้าหมูป่าฆ่าตายที่เกษียรสมุทร


หิรัญกษิปุ เมื่อสูญเสียพี่ชายแล้วได้สาบานต่อหน้าศพของพี่ชายไว้ว่าจะล้างแค้นกับพระนารายณ์ผู้พิฆาตพี่ชายลงให้ได้ นารัทมุนี จึงได้มาชี้แนะว่าให้ขอพรจากพระพรหม จึงจะสามารถกำจัดพระนารายณ์ได้ หิรัญกษิปุ จึงตั้งหน้าตั้งตาขอพรพระพรหม จนพระพรหมเสด็จมาเพื่อให้พร หิรัญกษิปุ ขอพรให้เป็นอมตะ แต่พระพรหมให้ไม่ได้จึงได้ขอพระพรหมว่า อย่าให้ตายด้วย เทพ มนุษย์ หรือสัตว์ ไม่ว่าจะใหญ่เท่าขุนเขา เล็กเท่ามด ไม่ให้ตายเพราะอาวุธ ไม่ให้ตายในเวลา ทิวา หรือราตรี ไม่ให้ตาย ในหรือนอกเคหะสถาน พระพรหมจึงทรงให้พร แต่นางโฮนีกา น้องสาวได้แจ้งว่า พระพรหมนั้นจะให้พรใครมักจะกำกวม ไม่แน่นอน ทางที่ดีให้ขอพรพระศิวะจะดีกว่า หิรัญกษิปุ จึงขอพรพระศิวะ แต่เหล่าเทพได้ส่งเทวฤษีแปลงเป็นนกแก้วมาขัดขวางการบูชาจนสำเร็จนั้น





ส่วนพระอินทร์ ได้จำแลงเป็นหิรัญกษิปุ เพื่อเข้าไปหานางกายาทู ภรรยาของหิรัญกษิปุที่กำลังตั้งครรภ์ หมายจะย่ำยีนางให้ได้รับความอับอาย แต่พระนารัทมุนีก็ได้เข้ามาขัดขวางและช่วยเหลือกายาทูให้พ้นภัย โดยที่กายาทูได้ไปพักที่อาศรมของนารัทมุนี กายาทู ได้ให้กำเนิดบุตรชาย เด็กน้อยนี้ประหลาดนัก คือท่องพระนาม เจ ศรีฮรี ตั้งแต่อยู่ในท้อง เมื่อคลอดออกมาก็ยังคงท่องอยู่อย่างนั้น

ฝ่ายหิรัญกษิปุ เมื่อภาวนาขอพรไม่สำเร็จก็ได้ออกทำร้ายผู้นับถือพระนารายณ์ ให้หันมาบูชาตนเอง เมื่อนางกายาทูและบุตรชาย ได้เข้ามาที่วัง หิรัญกษิปุ ได้จัดงานใหญ่โตต้อนรับบุตรชายและภรรยา แต่เด็กน้อยนั้นไม่เป็นที่ถูกใจของหิรัญกษิปุเลยเนื่องจาก เขาพร่ำภาวนา เจ ศรีฮรี อยู่ร่ำไป จึงได้ถูกลงโทษต่างๆนาๆและได้ถูกส่งไปเรียนวิชาอสูร แต่บุตรของหิรัญกษิปุกลับไปสั่งสอนเพื่อนและอาจารย์ถึงพระนามของพระนารายณ์ หิรัญกษิปุจึงโกรธมาก สั่งให้ทหารนำตัวไปโยนแม่น้ำคงคา แต่ด้วยพระพรของพระนารายณ์ จึงได้มีหินลอยน้ำมารับร่างเด็กน้อยไว้ เด็กน้อยจึงได้ไปอยู่กับยมนา เพื่อนที่เรียนด้วยกัน แต่ที่บ้านยมนาได้มีอาชีพปั้นหม้อ



วันหนึ่งลูกแมวของยมนาได้หลุดติดหม้อเข้าไปเผาในกองไฟ เด็กน้อยจึง ภาวนาต่อพระนารายณ์ และทหารได้มาพบเข้าจึงกลับไปรายงานต่อหิรัญกษิปุ คนเหล่านั้นพร้อมกับเด็กน้อยจึงได้ถูกจับไปทรมาน เด็กน้อยถูกบังคับมิให้เอ่ยพระนามของพระนารายณ์อีก แต่เขาไม่ยอม จึงถูกต้มในน้ำร้อนน้ำก็กลายเป็นดอกไม้บูชา ทำให้ทุกคนสรรเสริญเด็กน้อยนั้นเพิ่มขึ้น หิรัญกษิปุ จึงให้บรมครูจัดการสังหารเด็กนั้น โดยที่บรมครูได้ส่ง ยักษ์คิณีสิทธิกา มาจัดการแต่กลับถูกทำลายเอง รวมทั้งบรมครูด้วย แต่ด้วยความกตัญญูของเด็กน้อยพระนารายณ์จึงคืนชีพให้ครูของเด็กน้อยนั้น ทำให้เหล่าครูหันมานับถือพระนารายณ์อีก


เมื่อหิรัญกษิปุรู้ข่าวเข้าจึงโกรธมาก ได้ส่งแซมบาอสูร ไปจัดการทำลายเทวลัยและบุตรชายของตนเอง เมื่อเวลาผ่านไปนานอสูรไม่กลับมาหา มหามนตรีจึงได้ไปดูเหตุการณ์และได้จับตัวเหล่าสาวกกลับมาด้วย ลูกสาวของมหามนตรีแอบไปดูเหตุการณ์ จึงได้ถูกม้าเหยียบเสียชีวิต มหามนตรีจึงพาร่างของบุตรสาวไปขอชีวิตจากหิรัญกษิปุ แต่เขาไม่สามารถทำได้ เด็กน้อยจึงได้ชุบชีวิตให้บุตรสาวของมหามนตรี มหามนตรีจึงไม่ยอมภาวนาต่อนามหิรัญกษิปุ จึงถูกประหาร


เมื่อถึงวันเกิดของเด็กน้อย โฮนีกาได้นำยาพิษมอบให้หิรัญกษิปุ เพื่อผสมนมให้กับเด็กน้อยดื่ม หิรัญกษิปุ ได้มอบนมให้กายาทู เพื่อนำไปให้เด็กน้อย แต่ด้วยพรของพระศิวะเจ้า เด็กน้อยจึงปลอดภัย นางโฮนีกาจึงท้าเด็กน้อยนั่งในกองไฟ ภาวนา เพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ เพราะนางได้รับผ้ากันไฟจากพระนารายณ์มา เมื่อนั่งในกองไฟ



เด็กน้อยได้ภาวนาเจ ศรีฮรี จนเสียงหายไปกับเปลวเพลิง เพราะเปลวเพลิงร้อนแรงมาก เมื่อเพลิงมอดแล้วให้ปรากฏร่างของเด็กน้อยนั่งอยู่บนกองขี้เถ้า แต่นางโฮนีกา กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว หิรัญกษิปุ จึงนำตัวเด็กน้อยไปขังไว้กับเหล่าสาวกเพื่อให้อดอาหาร พระแม่ลักษมีจึงได้มาจัดการทำอาหารไปเลี้ยงสาวกทุกคนในห้องขัง หิรัญกษิปุ จึงให้ทหารพาตัวเด็กน้อยมา หิรัญกษิปุสั่งให้เด็กน้อยเลิกบูชาพระนารายณ์






แต่เด็กน้อยไม่ยอมเลิกบูชา นางกายาทูเข้ามาขวางจึงถูกตัดหัว เด็กน้อยจึงร้องบูชาต่อองค์นารายณ์ หิรัญกษิปุ จึงได้ถามเด็กน้อยว่าพระเป็นเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน เขาจึงตอบไปว่าอยู่ทุกที่ หิรัญกษิปุจึงทำลายเสา องค์นาราซิมฮา จึงทรงปรากฏพระกาย จับตัวหิรัญกษิปุไว้ แล้วนั่งลงที่ธรณีประตู




แล้วทรงทบทวนว่า เจ้าได้ขอพรไว้ว่า ไม่ให้ตายด้วย เทพ มนุษย์ หรือสัตว์ ไม่ว่าจะใหญ่เท่าขุนเขา เล็กเท่ามด ไม่ให้ตายเพราะอาวุธ ไม่ให้ตายในเวลา ทิวา หรือราตรี ไม่ให้ตาย ในหรือนอกเคหะสถาน แต่ในขณะนี้เป็นเวลา สายัน และเป็นระหว่างในและนอกเคหะสถาน และพระองค์เป็นเทพในรูปครึ่งสัตว์ จึงมิใช่เทพแท้ และสัตว์แท้ และไม่ได้ทรงใช้อาวุธ แต่ทรงใช้มือฉีกอกของหิรัญกษิปุออก
จึงทรงพิชิตมารได้สำเร็จและทรงประทานพรแก่เด็กผู้นั้น


ขอบคุณที่มา


เว็บไซด์มหาเทพ

ภาพจาก

https://theindianmythology.files.wordpress.com/2012/03/narshingha.jpg
http://www.vidursury.com/2009/03/dasha-avatar-part-4.html
http://4.bp.blogspot.com/-ZW-eqTgXm_0/UcsD1IAOP3I/AAAAAAAADMk/3vY05hAzDmA/s1600/lord+narasimha.jpg

ขอบคุณที่เอามาฝากขอรับ  

อย่าว่าเราลบหลู่พระเป็นเจ้าเลยนะขอรับ เห็นภาพพระนรสิงห์ภาพสุดท้ายนี่เรานึกถึง

"อัสลาน" แห่ง "นาร์เนีย" สุดๆเลย >_<

พระเป็นเจ้าโปรดอภัยความคิดล่วงเกินของข้าพเจ้าด้วย

ขออนุญาตพี่กาลิทัสนะคับเกี่ยวกับเรื่องชื่อของเด็กน้อยที่มีใจยึดมั่นใจองค์พระนารายณ์ในเรื่องนะคับ ข้อมูลทั้งหมดก็ถูกต้องคับ แสดงว่าพี่สืบค้นข้อมูลเก่งมากๆ เลย ขอนับถือจากใจจริงเลยคับ อ้อ แล้วก็พี่ๆ ทุกคนด้วยนะคับ อย่าน้อยใจนะคับ อิอิอิ เข้าเรื่องซะทีนะคับ แค่สั้นๆ น่ะคับ เด็กน้อยในเรื่องที่เป็นบุตรของหิรัณยกศิปุ ผู้ที่เชื่อมั่นในองค์พระนารายณ์นั้น ชื่อว่าประหลาทกุมารคับ (รู้สึกจะเขียนแบบนี้นะคับ  ไม่ใช่ประหลาดแบบนี้นะคับ) แต่ว่าทีนี้เนี่ย มันมีเรื่องต่ออีกนะคับ แต่จะเป็นในปางของพระนารายณ์แปลงเป็นพราหมณ์น้อยขอแบ่งแผ่นดิน 3 ก้าวอ่ะคับ แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว ไม่กล้าเอ่ยคับ เพราะกลัวจะบาปต่อตัวเอง ก็เลยเขียนแบบนี้ดีกว่าคับ ก็เลยมาขอเสริมให้พี่กาลิทัสนิดนึงนะคับ หวังว่าคงไม่ว่ากันนะคับ

กะทู้ดี มีสาระครบถ้วน ขอติดตามและชื่นชมทุกๆท่านที่มาให้ความรู้ค่ะ

โอม เจ ศรีฮริ
[HIGHLIGHT=#ffffff]                      [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff]                           น้อมบูชามหาเทพ มหาเทวี[/HIGHLIGHT]

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวและสาระดีๆครับ

Quote from: chooca on March 26, 2009, 18:52:57
ขออนุญาตพี่กาลิทัสนะคับเกี่ยวกับเรื่องชื่อของเด็กน้อยที่มีใจยึดมั่นใจองค์พระนารายณ์ในเรื่องนะคับ ข้อมูลทั้งหมดก็ถูกต้องคับ แสดงว่าพี่สืบค้นข้อมูลเก่งมากๆ เลย ขอนับถือจากใจจริงเลยคับ อ้อ แล้วก็พี่ๆ ทุกคนด้วยนะคับ อย่าน้อยใจนะคับ อิอิอิ เข้าเรื่องซะทีนะคับ แค่สั้นๆ น่ะคับ เด็กน้อยในเรื่องที่เป็นบุตรของหิรัณยกศิปุ ผู้ที่เชื่อมั่นในองค์พระนารายณ์นั้น ชื่อว่าประหลาทกุมารคับ (รู้สึกจะเขียนแบบนี้นะคับ  ไม่ใช่ประหลาดแบบนี้นะคับ) แต่ว่าทีนี้เนี่ย มันมีเรื่องต่ออีกนะคับ แต่จะเป็นในปางของพระนารายณ์แปลงเป็นพราหมณ์น้อยขอแบ่งแผ่นดิน 3 ก้าวอ่ะคับ แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว ไม่กล้าเอ่ยคับ เพราะกลัวจะบาปต่อตัวเอง ก็เลยเขียนแบบนี้ดีกว่าคับ ก็เลยมาขอเสริมให้พี่กาลิทัสนิดนึงนะคับ หวังว่าคงไม่ว่ากันนะคับ


ผมขอเล่าเรื่องต่อจากพี่กาลิทัสนะคับ

   เมื่อพระนรสิงหาวตารสังหารหิรัณยกศิปุตายไปแล้ว พระนารายณ์จึงทรงสถาปนาให้ประหลาทขึ้นเป็นกษัตริย์แทน ต่อมาประหลาทมีโอรสนามว่า วิโรจัน ซึ่งวิโรจันเองก็มีความศรัทธาในองค์พระนารายณ์เหมือนกับบิดา ถึงกับออกบำเพ็ญตบะ จนได้บารมีแก่กล้า ร้อนถึงพระอินทร์เห็นเหตุการณแล้วเกรงว่าจะเป็นภัยแก่ตน จึงสังหารวิโรจันด้วยวัชระตายไปเสีย แต่วิโรจันมีโอรสองค์หนึ่ง นามว่า พลี ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนบิดาที่สิ้นไป ฝ่ายฤาษีศุกระจารยะคิดแค้นที่ศิษย์ของตนโดนพระนารายณ์สังหาร ทั้งหิรัณยากษะและหิรัณยกศิปุซึ่งเป็นศิษย์ของตนก็โดนสังหาร จึงยุยงให้ท้าวพลีทำพิธีกรรมเสริมอำนาจ จนได้บารมีมากมาย ท้าวพลีจึงยกทัพขึ้นไปบนสรรค์ทำสงครามกับพระอินทร์จนได้ชัยชนะ
   
   ฝ่ายพระอินทร์และเหล่าเทวดาเมื่อพ่ายแพ้แก่ท้าวพลีจึงไปขอความช่วยเหลือจากพระนารายณ์ พระนารายณ์ทรงรับปากว่าจะช่วยเหล่าเทวดา จึงแบ่งภาคลงมาเกิดเป็นโอรสของพระกัศยปเทพบิดรกับนางอทิติเทพมารดา มีนามว่า วามน เพราะมีกายเตี้ยแคระ
   วันหนึ่ง ท้าวพลีได้กระทำพิธียัญญกรรมอย่างหนึ่ง โดนมีการแจกทานด้วย พราหมณ์น้อยวามนจึงไปร่วมพิธีด้วย แล้วเอ่ยขอเพียงที่ดินสามก้าวย่าง ท้าวพลีนั้นก็จะให้ดังประสงค์ แต่ฤาษีศุกระจารยะนั้นรู้ด้วยญาณว่า วามนพราหมณ์นั้นไม่ใช่พราหมณ์ธรรมดา แต่เป็นพระนารายณ์อวตารมา จึงแปลงกายไปขวางทางน้ำไหล ไม่ให้น้ำไหลจากเต้าน้ำทักษิโณทกที่จะเทยกแผ่นดินสามก้าวย่างให้แก่วามนพราหมณ์
   ฝ่ายวามนพราหมณ์ เมื่อเห็นเช่นนั้น จึงนำเอาก้านหญ้าคาแทงเข้าไปในรูเต้าน้ำ โดนตาของฤาษีศุกระจารยะๆทนไม่ไหวจึงหลบออกมา ฤาษีศุกระจารยะจึงบอดไปข้างหนึ่งนับแต่นั้น เมื่อท้าวพลีเทน้ำทักษิโณทกแล้ว พราหมณ์วามนจึงกลับคืนเป็นพระนารายณ์ดังเดิม แล้วกระทำ "ตรีวิกรม" หรือ "ย่างสามขุม" โดยทรงขยายร่างให้ใหญ่เท่าจักรวาล แล้วย่างก้าวแรกเหยียบหมดทั้งผืนโลก ก้าวที่สองย่างเหยียบสวรรค์ เพียงสองก้าวของพระองค์ก็ทรงได้ทั้งสวรรค์ทั้งโลกมนุษย์กลับคืนมา
   จากนั้นพระนารายณ์จึงถามว่า จะให้พระองค์วางพระบาทอีกก้าวที่ใด ท้าวพลีจึงขอให้พระนารายณ์วางพระบาทบนศีรษะของตน พระนารายณ์ทรงชื่มชมในความศรัทธาของท้าวพลี จึงให้พรว่า เมื่อทรงวางพระบาทบนศีรษะของท้าวพลีแล้ว ให้ท้าวพลีนั้นมีอายุยืน และไปอยู่ในแดนบาดาล รวมถึงทรงสรรเสริญว่า ท้าวพลีนั้นเป็นสาวกของพระองค์อีกด้วย และเมื่อถึงวันหนึ่งท้าวพลีจะได้มาเป็นใหญ่ ปกครองทั้งสวรรค์และโลกอีกครั้งหนึ่ง
   เรื่องก็จบลงด้วยประการฉะนี้

   ผิดถูกอย่างไรก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคับ ^^

   โอม นะโม ภควะเต วาสุเทวายะ
                     
                    Jai Maa Adhi Shakti
                     जय माँ आधी शक्ति

ขออนุญาติดันครับ ถือเป็นอีกหนึ่งกระทู้ดีๆ ครับ