Loader

วัดแขกสีลม

Started by กาลิทัส, January 29, 2009, 16:01:05

Previous topic - Next topic

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

January 29, 2009, 16:01:05 Last Edit: January 29, 2009, 16:09:41 by กาลิทัส
วัดพระศรีมหาอุมาเทวี ((วัดแขกสีลม))

เริ่มจากการเดินทาง ง่ายๆ เลยครับ ถ้ามาทางรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็ลงสถานีศาลาแดง แล้วต่อรถเมล์มาก็ได้ครับง่ายดี ขึ้นรถฝั่งเดียวกับตึก CP นะครับ นั่งได้นิดหน่อยก็ถึงแล้ว รูปร่างวัดสวยงามสะดุดตาครับ ป้ายรถเมล์อยู่หน้าวัดกันเลยทีเดียว ((ถ้าเดินนะครับ ไกลเอาเรื่องอยู่))
หรือว่าจะมาทางรถไฟฟ้าบีทีเอสก็ได้ครับ ลงสถานีศาลาแดงก็ได้ การเดินทางเหมือนกับมารถไฟใต้ดินครับ หรือถ้าจะให้ดีและใกล้กว่าควรลงที่สถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ครับ ลงที่ทางออกที่สามนะครับ

แล้วเดินตามแผนที่เลยครับ เดินตรงไปเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายครับเข้าไปเลยครับ ซอยจะอยู่ก่อนถึงสถานฑูตพม่า เค้าเรียกซอยนี้กันว่า ซอยถนนปั้นครับ ซอยจะอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลเซ็นหลุยส์พอดี จากนั้นเดินไปเรื่อยๆ จนสุดถนนครับ จะเจอวัดแขกพอดีเลยครับ ตามแผนที่ด้านล่างครับ

January 29, 2009, 16:03:16 #1 Last Edit: January 29, 2009, 16:19:16 by กาลิทัส
มาชมรอบๆ วัดกันครับ

ด้านหน้าวัด จะเจอป้ายชื่อวัดก่อนเป็นลำดับแรก


เคยสังเกตุป้ายชื่อกันไม๊ครับ ว่ามันมีสามแถว สามภาษาครับผม คงเดากันไม่ยากนะครับว่าภาษาอะไรบ้าง จากภาพเค้าให้มุมกล้องสวยครับ เห็นโคปุรัม และหอระฆังอย่างชัดเจนสวยงามครับ ((เอาไว้เรื่องโคปุรัม เดี๋ยวผมจะลงกระทู้ให้อ่านนะครับ หลายคนคงสงสัย))

เดินถัดจากป้ายนิดหน่อยก็จะเจอซุ้มประตูทางเข้าครับ ซุ้มประตูลองสังเกตุดูดีๆ ครับว่าจะมีการทำลวดลายเป็นภาพพระแม่ครับ ถ้าไม่สังเกตุให้ดีจะคิดว่าเหมือนกันหมดทุกช่อง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ใครไปลองสังเกตุดูนะครับ ว่ามีพระองค์ใดอีก



อย่าเพิ่งเลี้ยวเข้าวัดเลยครับ มาดูข้างๆ วัดกันก่อนดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง เดินๆๆ ตรงมาอีกหน่อยจะพบสามแยก ((นี่แหละครับ ใครที่เดินจากถนนปั้นจะมาโผล่ทางนี้ ((ด้านข้างวัดนั่นเอง))



ตรงนี้จะมีที่ซื้อของที่ไว้บูชาพระด้านใน ตั้งแต่พวงมาลัย, ธูป, เทียน, กล้วย, นม, น้ำแดง, มะพร้าวอ่อน มีครบครับ แต่เรื่องราคานี่ก็หายห่วงครับ แพงหูชี้เหมือนกันครับ ((ส่วนมากผมจะซื้อของบูชาในวัด และไปซื้อพวงมาลัยจากปากคลองตลาด))



ในวัดได้มาแค่นี้ครับ เพราะเค้าห้ามถ่ายภาพในวัดครับ


January 29, 2009, 16:05:48 #2 Last Edit: January 29, 2009, 16:21:46 by กาลิทัส
**** ประวัดิวัดพระศรีมหาอุมาเทวี ****

วัดพระศรีมหาอุมาเทวี ตั้งอยู่บนถนนสีลมวัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือ วัดแขกสีลม วัดของทางศาสนาฮินดูที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่บูชาพระอุมาเทวี ชายาของพระศิวะ วัดแขกนี้คาดว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย ร.5 ราว พ.ศ. 2453-2454 โดยคณะชาวอินเดียใต้ซึ่งเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยนานแล้ว เมื่อนายไวตีฯ และญาติมิตรที่ตั้งบ้านเรือนอยู่บนถนนสีลมมีศรัทธาจัดสร้างวัดเพื่อเป็นที่บูชาพระอุมา ตามลัทธิศักติทางศาสนาฮินดู คณะกรรมการอาทิ นายไวตรีประเดียอะจิ นายนารายเจติ นายโกบาระตี ได้ขอแลกที่ดินของพวกตนกับสวนผักของนางปั้น อุปการโกษากร มีเจ้าแม่ศรีมหาอุมาเทวีเป็นประธานองค์เทพและเทพี (เทวี) ต่าง ๆ ได้นำมาจากประเทศอินเดีย รวมทั้งพระพิฆเนศวรองค์หนึ่งซึ่งคตินิยมของพราหมณ์ฮินดูตอนใต้ถือว่าทรงเป็นเทพที่รักษาพรหมจรรย์ตลอดกาล

สถาปัตยกรรมของวัดเป็นศิลปะโบราณของอินเดียตอนใต้ผสมผสานกัน ระหว่างสมัยโชละและปาลวะ ในอินเดียจะพบได้ในเทวาลัยตอนใต้ของประเทศโดยเฉพาะในรัฐทมิฬนาดู ภายในมีองค์พระแม่ศรีมหามารีอัมมันประดิษฐาน เป็นเทพ ประธานอยู่กลางโบสถ์แวดล้อมด้วยพระพิฆเนศ พระขันธ์กุมาร พระศิวะ พระกฤษณะ พระวิษณุ พระแม่ลักษมี และพระแม่กาลี มีเทวาลัยขนาดเล็กบริเวณกลางลานเทวสถาน ภายในเป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์

วัดพระศรีมหาอุมาเทวีเป็นวัดนิกายที่ผู้ก่อตั้งนับถือว่าเป็น ศักติ คือนับถือเทพสตรีเป็นหลัก เทพสตรีอย่าง พระศรีมหาอุมาเทวี หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า เจ้าแม่อุมา นั้น เป็นพระมเหสีของ พระอิศวร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น พระผู้ทำลาย ถือได้ว่าเมื่อยามที่พระองค์ทรงเสวยร่างเป็นเจ้าแม่อุมา จะเป็นเจ้าแห่งความเมตตากรุณา และงามสง่า ดังนั้นผู้มีจิตศรัทธาจึงนิยมไปกราบไหว้บูชา และขอพรมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องความรัก และ เรื่องการขอบุตรนั้น ได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ และมีโอกาสจะสัมฤทธิ์สูงมากทีเดียว

ในช่วงวันขึ้น 1-9 ค่ำ เดือน 11 รวม 9 วัน 9 คืนนั้น เป็นเป็นช่วงเวลาของเทศกาลดูเซร่า หรือนวราตรี ของชาวฮินดู ซึ่งเป็นงานแห่พระแม่อุมา และเชื่อกันว่าในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่พระแม่และขบวนเทพจะเสด็จมายังโลกเพื่อประทานพรให้กับมนุษย์

ทำตัวอย่างไรเมื่อไปวัดแขก ((สีลม)) ???

คราวนี้ก็จะมาต่อว่าถ้าเราจะไปล่ะ ต้องทำตัวยังไงบ้าง สำหรับคนไปครั้งแรกคงเก้ๆกังๆ (เหมือนผม)

ลำดับแรกคือ

การหาของไปสักการะบูชาครับ ((ตรงนี้อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้นะครับ อย่างผมก็มีมั่งไม่มีมั่ง ตามกำลังทรัพย์ครับ แค่ได้ไปก็ชื่นใจแล้วครับ)) เอาเป็นว่ากรณีว่าต้องการมีของไปสักการะนะครับ ก็จะมีด้วยกัน 3 วิธี

(1) เตรียมของไปเองจากบ้าน หรือไปหาซื้อครับ ตามสะดวก แต่จะให้ดีควรมีถาดใส่ไปด้วยครับ ((พรามหณ์ท่านคืนถาดให้ครับ)) ของถวายก็เป็นจำพวกผลไม้ นมสด นมเปรี้ยว พวงมาลัยดอกไม้ครับ

(2) ไม่เตรียม ไปหาเอาดาบหน้า ตรงนี้สามารถหาซื้อได้บริเวณข้างวัดครับ มีทุกอย่าง ตั้งแต่ น้ำแดง, พวงมาลัย, นมสด, นมเปรี้ยว, มะพร้าว, กล้วย ส่วนราคาแพงหูตั้งเหมือนกันครับ

ความสวยงามของพวงมาลัยดอกไม้ที่ขายอยู่ข้างวัด ((มาลัยไทยงดงามจริงๆ))




(3) เข้าไปซื้อของบูชาภายในวัดครับ เค้าจะจัดลงถาดไว้ให้ครับ ผมไปมาถ้าจำไม่ผิด ถาดละ 60 บาท ในถาด จะมีธูป เทียน พวงมาลัยดาวเรือง นม กล้วย มะพร้าว อ้อย จุดขายจะอยู่บริเวณหน้าทางเข้าโบสถ์เลยครับ เงินที่ได้เค้าเอาไว้บำรุงวัด และสร้างสิ่งต่างๆ เวลามีงานประจำปีครับ ((ไม่ใช่หน้าวัดนะครับ)) เมื่อซื้อเสร็จ

ลำดับที่สอง

เมื่อได้ของเรียบร้อย จัดการจุดธูปเทียนบูชาตรงหน้าโบสถ์เลยครับ เอาถาดผลไม้และเครื่องสักการะต่างๆ วางไว้ข้างหน้าเรานั่นแหละครับ แล้วก็จุดธูป จุดเทียนไหว้ครับ เริ่มจากสวดบูชาองค์พระเคนชก่อนนะครับ

จากนั้นยกถาดที่เราเตรียมไว้เข้าไปในโบสถ์ครับ เดินเข้าไปเลย จะเจอพรามหณ์อยู่สองคน ประจำตำแหน่งอยู่ด้านหน้าประตูกลาง คือ

พราหมณ์คนหนึ่ง จะทำหน้าที่รับถาดของบูชาจากเราครับ
พราหมณ์คนที่สอง จะถือถาดที่บรรจุน้ำและผงเจิมไว้คอยเจิมหน้าผากให้เราครับ

ยกถาดไปให้พราหมณ์คนที่คอยรับถาดของบูชา ท่านจะเอาของเข้าไปถวายพระแม่ เรายืนรอท่านก่อนอย่าเพิ่งไปไหนนะ เพราะซักพักท่านจะเอาถาดพร้อมของหนึ่งอย่างมาคืนให้เรา ของที่ได้รับคืนแต่ละคนได้ไม่เหมือนกันครับ ถ้าได้เป็นพวก นม, กล้วย หรือของทานได้ ก็เอาไว้กินครับ เป็นสิริมงคล ถ้าเป็นมาลัยดอกไม้ ก็เอาเก็บกลับบ้านไปบูชาครับ การคืนของนี้เป็นธรรมเนียมของฮินดูครับ เค้าจะเรียกว่า ]" ประชาต "ครับ

จากนั้นยกมือขึ้นพนมครับหันหน้าไปทางพราหมณ์ที่ถือถาดผงเจิมนะครับ ให้ท่านเจิมหน้าผากให้ ผงเจิมจะมีสองสีครับ

สีแดงหรือผงสีชาด เค้าจะเรียกกันว่า ผงกุมกุม
สีขาว จะเรียกว่า ผงวิภูติ

ส่วนมากถ้าท่านเจิมผู้หญิงท่านจะเจิมแค่สีแดง
ถ้าเจิมผู้ชายจะเจิมทั้งสองสีครับ
((เรื่องผงสีเอาไว้ผมจะมาลงลายละเอียดให้อีกที))

พอเจิมเสร็จให้เราแบมือรับน้ำจากท่านครับ ((คงเหมือนน้ำมนต์บ้านเรา)) พอรับมาแล้วก็ทานแล้วก็ลูบหัวครับ เป็นอันเสร็จครับ อาจถวายเงินกับพราหมณ์ก็ได้ครับ ใส่ไว้ในถาดผงเจิมนั่นแหละครับ ถือเป็นมารยาทครับ พรามหณ์ท่านจะไม่เรียกร้อง แต่ชาวฮินดูถือเป็นมารยาทครับผม แล้วเราก็ค่อยๆ เดินไหว้เทวรูปในวัดได้เลยครับ ถ้าวันดีคืนดีไปเวลาดีตรงกับเวลาถวายข้าวพระยิ่งดีเลยครับ พรามหณ์ท่านจะสั่นกระดิ่งหน้าวัดแล้วก็อารตีไฟ อารตีควันกำยาน ถวายข้าวพระ สวดมนต์ถวายด้วย ผมจำเวลาไม่ได้ว่าเค้าทำเวลาไหนบ้างครับ

ถ้ามีมาลัยพวงสวยๆ ไปเอง ไปสะกิดบอกพรามหณ์ที่ว่างให้เอาถวายพระองค์ไหนก็ได้ภายในโบสถ์ครับ ท่านจะเอาไปคล้องให้ครับ ของผมท่านจะสวมให้ที่เศียรพระบ่อยๆ งามแท้ๆ ครับ แถมเห็นแล้วชื่นใจ พวงมาลัยของเรา ได้สักการะองค์ท่านแล้ว

เกร็ดความรู้เล็กน้อย

1. ทำไมต้องเจิมหน้าผาก
การไปไหว้พระเจ้าแล้วทำการเจิมหน้าผาก แปลว่า เราได้รับพรจากทุกพระองค์แล้วครับ

2. มีเทวรูปให้บูชาหรือเปล่าในวัดมีครับ ตรงหน้าโบสถ์ตรงข้ามกับที่ให้เราบูชาเครื่องสักการะนั่นแหละครับ แต่ราคาแพงหูตั้งเหมือนกัน

3. พราหมณ์ที่วัดแขกรับเจิมหรือเปิดเทวรูปไม๊มีครับ แต่ต้องเป็นเทวรูปที่บูชาจากภายในวัดเท่านั้นครับ เอามาจากที่อื่นไม่รับครับ

**** สุดท้ายนี้ขอบคุณ พี่พราหมณ์ ที่คอยคล้องมาลัยถวายพระที่ผมเอาไปถวายเสมอครับ ****

บ๊ะ น่าไปจริงแต่ ของทำไมมัน แพ้งงงแพงไปมา10กว่ารอบเดินเข้ไปถามราคาเทวรูปพระแม่อุมาขี่เสือประมาณครึ่งคืบกว่า"องค์นี้เท่าไรคับ"
"750บาทจร้า" เท่านั้นและคับโอ้กก แพงจึงเดินออกมาเลย มีตังแค่150กะจะซื้อของที่ระลึกซะหน่อยเลยไม่เอาแล้วToT     

ขออนุญาตแก้ไขบางประโยคนะครับคุณdurgakali  (เพราะบางคำไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่)

ส่วนความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่า ถ้าคุณdurgakali ไม่มีงบประมาณจะไปเช่าวัตถุมงคลก็ไม่เป็นไร  ไปไหว้พระอย่างเดียวก็ได้นี่ครับ
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

[HIGHLIGHT=#7030a0]ผมเห็นด้วยกับเว้ปมาสเตอร์นะครับ แล้วอีกอย่างก็ไม่ถือว่าแพงเกินไป  เพราะเงินนั้นก็เป็นการทำบุญ คือการเอาไปปรับปรุงวัดครับ[/HIGHLIGHT]
พระผู้เป็นเจ้าสูงสุดซึ่งมีอยุ่เพียงพระองค์เดียว  เป็นผู้ซึ่งมีพระเนตรและพระพักตร์มากมายรอบทิศทาง  มีพระกรและพระบาทอยู่โดยรอบทิศ  ด้วยพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดพระองค์เดียวนี้ทรงมีสภาวะแผ่ครอบคลุมไปทั่วสกลจักรวาล   
เศวตาศวตรอุปนิษัท