Loader

ตำนานแห่งดีปาวลีหรือดีวาลีหรือทิวาลี

Started by เทวาเหนือเกล้า, November 10, 2012, 01:53:43

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

ความรู้และตำนานแห่งวันดีปาวลีหรือดีวาลีหรือทิวาลี

Deepawali (दीपावली) หรือ Diwali (दिवाली) เทศกาลแห่งแสงสว่าง ที่เหล่าผู้บูชาเทพรู้จักกันดี ว่าเป็นวันบูชาพระแม่มหาลักษมีเทวีแห่งทรัพย์และการเงิน แต่ลึกลงไปมากกว่านั้นยังมีอีกหลายตำนานที่มาแห่งวันดีปาวลี

ตำนานที่มาของเทศกาลดีปาวลีสามารถสืบย้อนกลับไปในสมัยโบราณอินเดียเมื่อเป็นเทศการแห่งการเก็บเกี่ยวอีกครั้ง แต่มีตำนานต่าง ๆ ชี้ไปที่จุดเริ่มต้นของ ทิวาลี หรือดีปาวลี บางรัฐในอินเดียเชื่อว่าเทศกาลนี้เป็นงานฉลองการแต่งงานของพระลักษมีกับพระวิษณุ ในขณะที่ในรัฐเบงกอลทางตะวันตกของอินเดียเทศกาลนี้จะเกิดขึ้นเพื่อเคารพสักการะพระแม่กาลีมหาเทวีความแข็งแกร่งและผู้ปราบมาร,พระพิฆเนศ พระเป็นเจ้าผู้มีเศียรเป็นช้าง ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสัญลักษณ์ของความเป็นมงคลและภูมิปัญญาและยังบูชามากที่สุดมาจวบจนถึงปัจจุบันนี้ ในเชนไน ดีปาวลีนั้นมีความสำคัญจากเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้ามหิวาราผู้ได้บรรลุนิพพาน เทศกาลดิวาลี ยังเป็นการเฉลิมฉลองเอกราชที่ได้รับกลับมาโดยพระรามพร้อมกับนางสีดาและพระลักษณ์จากสิบสี่ปีที่ถูกเนรเทศของเขายาวและการปราบปีศาจกษัตริย์แห่งยักษ์อสูร ทศกัณฐ์ หรือ ราวัณ (Ravana) และการเฉลิมฉลองความสุขของการกลับมาของกษัตริย์ของอโยธยาเมืองแห่งพระรามผู้เป็นสว่างแห่งอาณาจักรด้วยตะเกียงดิน Diyas (ตะเกียงน้ำมันสร้างขึ้นด้วยดินปั้น)

วันของเทศกาลดิวาลีนั้นขึ้น 4 วันโดยในแต่ละวันเพื่อเฉลิมฉลองแต่ละตำนานในแต่ละวัน และแต่ละตำนานมีเรื่องราวของเป็นตัวเองดังต่อไปนี้
ตำนานที่1นั้นคือ วันแรกของเทศกาลนารากะจตุรถีซึ่งเฉลิมฉลองการสังหารอสูร Naraka (นาระกะ)โดย พระกฤษณะ
ตำนานที่ 2 บูชาพระแม่มหาลักษมีเทพีแห่งความมั่งคั่ง ทรัพย์สิน การเงิน พระองค์ได้เมตตาที่จะประทานพรให้กับเหล่ามวลมนุษย์และสานุศิษย์แห่งท่าน ตำนานยังได้กล่าวอีกว่า เป็นวันเฉลิมฉลองชัยชนะแห่งวามนาวตาร(พราหมณ์แคระซึ่งเป็นอวตารหนึ่งแห่งพระวิษณุ) ที่ได้รับชัยชนะจากการปราบอสูรพาลี
ตำนานที่3  หลังจากที่อสูรพาลีได้พ่ายแพ้ต่อพระวิษณุพระองค์ได้เมตตาให้พรอสูรพาลีมีโอกาสที่จะได้ครองโลก 1 วันภายใน 1 ปี และก้าวออกมาจากนรกและสามารถที่จะปกครองโลกได้เพียงวันเดียวเท่านั้น (ตำนานนี้เป็นตำนานแห่งเหล่าผู้บูชาอสูรพาลี เหล่าชาวเมืองพาลีก็จะจุดประทีปโคมไฟทั่วเมืองและแห่แหนร้องรำทำเพลงเฉลิมฉลองการกลับมาแห่งราชาพาลี)
ตำนานที่4 Dvitiya ดวิทิยา (เรียกว่า Bhai Dooj ไบดุชหรือบางที่ก็จะเรียกว่าวันไบดุย) ในวันนี้เหล่าน้องสาวที่แยกบ้านออกไปจะเชิญพี่ชายมาที่บ้านและเลี้ยงดูอาหารพี่ชายของตน จากนั้นเมื่อพี่ชายกินอิ่มก็จะเจิมหน้าผากให้กับน้องสาวและให้ของขวัญกับน้องสาวของตนเอง

ความสำคัญของไฟและประทัดในเทศกาล ดีวาลี

พิธีกรรมที่เรียบง่ายมีความนัยยะสำคัญที่ ความสว่างของบ้าน บ้านที่ควรจะมีไฟสว่างทั้งบ้านตลอดคืนและท้องฟ้าที่มีประทัด และ พลุ คือการแสดงออกถึงการกราบกรานขอบพระคุณสรวงสวรรค์สำหรับความรัก ความสำเร็จ สุขภาพ ความมั่งคั่ง ความรู้ สันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง เสียงของไฟประทุ เหล่าประทัด พลุที่จุดขึ้นบนท้องฟ้า บ่งชี้ของความสุขของคนที่อาศัยอยู่บนโลกทำให้พระเป็นเจ้ารับรู้ว่าเหล่ามวลมนุษย์สำนึกยิ่งว่าตนได้รับพรและความกรุณามากเพียงใด




Credit:  ความรู้จาก Swami Atichanni  /  Sri Maha Vishnu Mandir, India

         Eng. translated to Thai by Devanueaklao
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


  ภาพพิธีบูชาง่ายของดีปาวลี

<img src="http://www.up2disk.com/uploads/76dd1c3.jpeg
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ


ภาพวันไบดุย/ไบดุช หรือ Bhai Dooj


                         <img src="http://www.up2disk.com/uploads/8fed037.jpg
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ