Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - ถุงแป้ง

#1
[COLOR=#2]พอดีไปเจอเวบนี้โดยบังเอิญยังไงเพื่อนๆๆก็ลองอ่านดูนะคะเผื่อเป็นความรู้ใหม่ๆๆ [/SIZE][/COLOR]
[COLOR=#2]ถ้าเวปมาสเตอร์เห็นว่า บทความนี้ไม่สมควรก็ลบได้เลยค่ะ[/SIZE][/COLOR]
ตำนานพระแม่กาลีในมุมมองของพรหมศาสตร์มหัศจรรย์
"เมื่อพระศิวะมหาเทพทรงทราบว่าพระแม่สัตรี
(พระแม่คายตรีปางก่อนที่จะมาจุติเป็นพระแม่ศรีมหาอุมาเทวี)
ทรงเผาตัวตายเพื่อประท้วงท้าวทักษะผู้เป็นพ่อที่กล่าววาจาลบหลู่พระศิวะมหาเทพพระสวามี
ต่อหน้าเทพเทวีและฤษีในงานพิธี
พระศิวะมหาเทพทรงพระพิโรธสุดขีดกระชากมวยผม
ฟาดลงกับพื้นเขาพระสุเมรุมวยผมขาดออกเป็นสองท่อน
ท่อนโคนกลายเป็นจอมอสูรมหาวีระภัทร์(ผู้ตัดและถือเศียรท้าวมหาพรหมธาดาด้วยมือตนเอง)
ท่อนปลาย  กลายเป็นพระแม่กาลีพระแม่ผู้มีรูปร่างน่าเกรงกลัวผิวดำ
(จากตำนานพรหมศาสตร์นี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า
พระแม่กาลีมิใช่องค์เดียวกับพระแม่ศรีมหาอุมาเทวี
ดังที่คนทั้งหลายเข้าใจกันมานานแสนนานเหตุที่เกิดการเข้าใจผิดกันขึ้น
เพราะพระแม่ศรีมหาอุมาเทวีทรงมีปางที่ดุร้ายมีพฤติกรรมเสมือนเจ้าแม่กาลี
สิ่งที่สังเกตได้ถึงความแตกต่างระหว่างปางดุร้ายของมหาเทวีทั้งเก้า
กับพระแม่กาลีคือ
พระแม่กาลีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่ช่างวาดหรือช่างปั้นสร้างให้แลบลิ้น
ส่วนพระแม่อัมพิกา ช่างจะวาดหรือปั้นให้มีเลือดอสูรติดเต็มปาก
เพราะทรงให้พลังดึงดูดอสูรที่ฆ่าด้วยอาวุธไม่ตายกิน)
มหาเทพมหาเทวีทั้งสองถูกสร้างขึ้นจากความโกรธเกลียดและอาฆาตของพระศิวะมหาเทพ
ทรงมีบัญชาให้ทั้งสองไปทำลายล้างพิธีของท้าวทักษะ
และจัดการสังหารท้าวทักษะแก้แค้นให้พระแม่สัตรีฯลฯ
เป็นเรื่องน่าสมเพชที่พวกเจ้าตำหนักหรือสำนักทรงที่รู้ไม่จริงพอประทับทรงเจ้าแม่กาลี
เรียกร้องอยากจะกินเลือดแสดงท่าทางดุร้ายเกรี้ยวกราด
แสดงเอกลักษณ์ด้วยการแลบลิ้นตลอดเวลา
**(รู้กฎนะคะว่าห้ามพูดเองทรงเจ้า เข้าทรง แต่ต้องขอยกมาทั้งบทความของเค้าค่ะ ถ้าไม่เหมาะสมก็ลบได้นะคะ ^^ ไม่ว่ากันค่ะ)
ตามความเป็นจริงแล้วพระแม่กาลีท่านมิได้ปรารถนาที่จะเสวยเลือด
ไม่ว่าจะเป็นเลือดอสูรเลือดคนหรือเลือดสัตว์
แต่ที่ท่านเสวยเลือด(เพียงแค่ครั้งเดียว)ก็เพราะความจำเป็นสถานการณ์บังคับ
ให้ต้องจำใจเสวย
เพื่อแก้สถานการณ์ที่เจ้าแม่จากสวรรค์ทั้งเก้าละเลยหน้าที่ๆได้รับมอบหมาย
อสูรได้รับพระจากพระพรหมว่า
โลหิตอสูรแต่ละหยดตกกระทบพื้นโลกเมื่อใดจะบังเกิดเป็นอสูรตนใหม่เพิ่มขึ้นหยดละหนึ่งตน
แต่ละตนจะมีฤทธิ์เหมือนจอมอสูร
เมื่อเจ้าแม่สวรรค์ทั้งเก้ามัวแต่หลงมัวเมาในโลกจนลืมและละเลยหน้าที่
พระแม่กาลีจึงต้องเสด็จลงมาแก้สถานการณ์ในโลกด้วยพระองค์เอง
ทรงแลบลิ้นออกมาพร้อมแสดงปาฏิหาริย์อันยิ่งใหญ่
บันดาลให้ลิ้นที่พระองค์ทรงแลบออกมานั้นแผ่ขยายดุจพรมกำมะหยี่สีแดงสดปกคลุมพื้นโลกไว้
กันมิให้โลหิตจอมอสูรกระทบสัมผัสกับผิวโลกได้
ด้วยพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่พระแม่กาลีมีทีต่อสามโลก
ช่างวาดและช่างปั้นจึงมักแสดงเอกลักษณ์ส่วนพระองค์
ด้วยการสร้างตอนที่พระองค์ทรงแลบลิ้น
พระองค์ทรงเสวยโลหิตจอมอสูรเพียงครั้งเดียวเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของพระองค์
ผมเคยพบเห็นประสบการณ์ที่ขำขันในเรื่องการประทับทรงพระแม่กาลี
ผมไปพักที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านที่ต่างจังหวัดกับหลวงปู่
หญิงสาวในหมู่บ้านที่ไปศึกษาในสถาบันมีชื่อในกรุงเทพ
กลับไปเยี่ยมบ้านเยี่ยมพ่อแม่
เกิดอาการประหลาดประสาทหลอนอ้างว่าเจ้าแม่กาลีมาเข้าประทับทรง
แสดงท่าทางดุร้ายเรียกหาเลือดสดๆถ้าไม่ได้เลือดคนเอาเลือดสัตว์มาให้กินก็ได้
ชาวบ้านต่างเกรงกลัวคิดว่าถ้าหาเลือดให้กินไม่ได้ท่านอาจโกรธจะกินเลือดคนขึ้นมา
จับไก่(ตัวที่ถูกพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกดวงกำลังซวย)มาเชือด
เอากะละมังอลูมีเนียมรองเลือดเอาไปให้พระแม่กาลีดื่มกิน
พระแม่กาลีจอมปลอมแสดงบทบาทสารพัดเพี้ยนจนผู้ใหญ่บ้านทนดูไม่ไหว
ลุกขึ้นปรี่เข้าหาร่างทรงพระแม่กาลี
คว้ากาละมังเลือดสาดใส่หน้าร่างทรง
ใช้มือจิกผมทั้งฟาดกระบานและตบหน้าร่างทรงด้วยกาละมังไปหลายฉาด
เล่นเอาร่างทรงหงายหลังตึงพระแม่กาลีเสด็จลี้ภัยกาละมังออกจากร่างไปทันที
ผู้ใหญ่บ้านชี้หน้าด่าลั่นหมู่บ้าน
“...มึงมันพระแม่กาลีที่ไหน....มึงมันอีผีปอบ..
ผีห่า...มาหลอกกินลาบเลือดบ้านกูต่างหาก...”
ตั้งแต่โดนตบโดนโขกฟาดด้วยกาละมัง
ร่างทรงพระแม่กาลีไม่ยอมพูดยอมจากับใครเลย
รุ่งเช้าร่างทรงหอบข้าวของเก็บใส่กระเป๋าแอบหนีกลับกรุงเทพแต่เช้ามืด
นี่คงเป็นวิธีพิสูจน์ว่าใครประทับทรงพระแม่กาลีจริงหรือไม่ ?
แต่ถ้าคุณใช้กาละมังพิสูจน์แล้วพระแม่กาลีไม่กลัวไม่หนี
คุณก็ต้องเป็นฝ่ายเผ่นหนีเสียเอง
ให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า ๕๐-๕๐(วิ่งไปสันนิษฐานไปนะครับ)
ตามตำนานพรหมศาสตร์ ไม่ปรากฏว่าพระแม่กาลีแบ่งภาคไปจุติที่ใดอีก
พระแม่กาลีมีผู้กล่าวขานถึงพระนามของพระองค์แตกต่างกันไป
ตามดินแดนและพฤติกรรมของพระองค์
(มหาเทพและมหาเทวีแต่ละพระองค์ทรงมีฉายามากมายไม่มีที่สิ้นสุด)
ลักษณะโดยทั่วไป
พระแม่กาลีมีผิวกายดำสนิท ท่านสามารถเนรมิตกายได้ในรูปแบบต่างๆ
บางครั้งมียี่สิบมือยี่สิบเท้า บางครั้งหกมือหกเท้า ฯลฯ
แต่ที่แน่ๆคือ ท่านมิได้แลบลิ้นตลอดเวลา
ขอบคุณข้อมูลจากเวบhttp://www.saksitsart.com ด้วยนะคะ
นี่ก็เป็นอีกมุมมองนึงหรือความคิดเห็นนึง แล้วเพื่อนๆๆล่ะคะ คิดว่ายังไง
#2
รบกวนผู้รู้ด้วยค่ะ พอดีไปโบสถ์เทพมณเฑียร ได้ยินเพลงที่
คนที่มาร่วมพิธีทุกวันเค้าร้องกันค่ะคะตอนอารตรีเสร็จรู้สึกว่าเพราะดีค่ะ ใครมีช่วยบอกด้วยนะคะ
อยากได้ทั้งเพลง บทสวด และคำแปลน่ะคะ ไม่รู้ว่าถุงแป้งขอมากไปรึป่าว ^^
แต่ก็ขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ
#3
ใครมีรูป"บายศรี"สวยๆๆเอามาลงให้ดูบ้างนะคะ
เริ่มจากของถุงแป้งก่อนเลยละกันเนอะ ^^ งานไหว้ครูค่ะ
เป็นงานไม่ใหญ่มากเล็กๆ
ใครมีรูป บายศรีสวยๆๆ เอามาแลกเปลี่ยนกันดูนะคะ









เอามาแค่นี้ก่อนนะคะ ^^
#4
ใครเคยห็นองค์บูชาพระพิฆเณศปางนาฎราช บ้างคะ
คือว่าเพื่อนไปหาบูชาไม่ได้เลย ปางนาฎราชที่เหมือนกับพระศิวะปางนาฎราช เลยนะคะ
แบบขาและมือจะไขว้กัน(อภัยใช้คำศัพท์ไม่ถูกค่ะ) ส่วนมากที่เจอจะไม่ไขว้กัน
ถ้าใครเจอ แจ้งด้วยนะคะ อยากได้ขนาดองค์บูชาค่ะหน้าตัก 3-6 นิ้วค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
#5
อันนี้ไม่ทราบจริงๆๆนะคะ ถ้าใครทราบกรุณาแนะนำด้วยนะคะ
อยากทราบว่า เวลาที่เราบูชาองค์เทพมาแล้ว เราจะให้พรามณ์ที่ สถานโบถ์พรามณ์ทำการเบิกเนตรให้
เราต้องทำอย่างไรบ้างคะ
ต้องเตรียมอะไรบ้าง
มีขั้นตอนยังไง
แล้วเสียค่าใช้จ่ายไหม๊

ขอรบกวนด้วยนะคะ
#6
พระแม่สรัสวตี
เทพเจ้าแห่งนักปราชญ์เทวีแห่งสติปัญญา และความงามการสร้างสรรค์สรรพสิ่ง การดนตรี และมนต์ตรา
 

    
[HIGHLIGHT=#000000][HIGHLIGHT=#d8d8d8]พระแม่สรัสวดี เทวีแห่งสติปัญญา คือชายาของพระพรมผู้สร้างโลก เป็นเทวีที่งดงามมาก พระฉวีวรรณผิวขาวผุดผ่องเปรียบดั่งไข่มุก หรือหิมะ อาภรณ์ผ้าไหมแก้วขาวพิสุทธิ์ประดับไปด้วยเพชร ระยิบระยับแวววาวสุกใสไปทั้งองค์ ประทับบนหงส์ และนกยูง มีเครื่องดนตรีที่ชื่อว่า "วีณา{พิณ}อันศักดิ์สิทธิ์ มีน้ำใจอันดีเป็นยิ่งนัก พระองค์ประทับอยู่ในวิมาน ณ สวรรค์ชั้นพรหม หรือพรหมโลก เป็นมหาเทวีหนึ่งในสามเทวีสูงสุด และยังเป็นบรมครูของพระคเณศท่านถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆให้แก่องค์พระพิฆเณศ ด้วย ในศาสนาพราหมณ์ -ฮินดู ในประเทศอินเดียยังมีแม่น้ำสายที่สำคัญมากที่ชื่อ สรัสวดี อีกด้วย [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#000000][HIGHLIGHT=#d8d8d8]
[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]      
พระองค์ยังเป็นผู้ให้กำเนิดบทสวดมนต์บทแรกของจักรวาล ชาวฮินดูยังนับถือพระสรัสวดีเป็น เทวีแห่งเวทมนต์ คาถา และการประกอบพิธีกรรม ฉะนั้น หากมีการประกอบพิธีบูชาเทพหรือเทศกาลใดๆแล้ว ถ้าอัญเชิญ พระพิฆเนศ  เป็นเทพองค์แรกก็จะทำให้พิธีนั้นๆเกิดสิริมงคลขึ้น และการอัญเชิญ พระแม่สรัสวตี ร่วมด้วย ก็ย่อมบันดาลให้การสวดมนต์และการประกอบพิธีกรรมทุกขั้นตอน ดำเนินไปอย่างศักดิ์สิทธิ์ มีพลังเข้มข้นและมีประสิทธิภาพสูงสุด

      พระสรัสวดีทรงโปรดการแสดงดนตรี การบรรเลงบทเพลง การร้องเพลงถวาย การอ่านบทกวีถวาย ฯลฯ ผู้บูชานิยมเปิดเพลง หรือบรรเลงดนตรีที่มีท่วงทำนองประณีตงดงามถวายแด่พระองค์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีประเภทใดท่านก็โปรดทั้งสิ้น เช่น พิณ จะเข้ ขิม ไวโอลีน กีต้าร์ เปียโน กลอง ฯลฯ

    รูปภาพของพระแม่สรัสวดี หรือ สรัสวตี นั้นจะสังเกตได้ง่ายที่สุดคือ พระองค์จะทรงเครื่องดนตรีที่เรียกว่า วีณา (จะเข้ของอินเดีย )อยู่เสมอ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการดนตรี ศิลปะทุกแขนง และการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ฯลฯ พระหัตถ์อีกข้างจะถือ คัมภีร์ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความรู้ ปัญญา การเขียน การอ่าน การศึกษา และพระหัตถ์อีกข้างทรงถือ ลูกประคำ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการสวดมนต์ การภาวนา การทำสมาธิ การประกอบพิธีกรรม ฯลฯ

     บางลัทธิ บางคติที่มีการวาดรูปพระสรัสวตีเพื่อการบูชานั้น อาจจะวาดให้พระองค์ทรง ขลุ่ย สังข์ คันศร คฑา บ่วง ลูกบด ประตัก ฯลฯ แล้วแต่จิตรกรจะสร้างสรรค์ขึ้น สำหรับพาหนะของพระแม่สรัสวดีคือ หงษ์ และ นกยูง เน้นที่สีขาว บางครั้งก็ทรงประทับบนดอกบัวสีขาว










#7
สวัสดีค่ะ ครอบครัว HM
ชื่อถุงแป้งค่ะ ฝากเนื้อฝากตัว ฝากหัวใจและแรงศรัทธาที่มีต่อองค์เทพเทวาและเทวีด้วยนะคะ
เพิ่งมาเจอเว็บนี้ เป็นเว็บที่ดีมากเลยค่ะ ดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆ ที่ได้รู้จักเว็บนี้
ยังไงมีอะไรก็แนะนำ เข้ามาพูดคุยกันนะคะ