[HIGHLIGHT=#ffffff][HIGHLIGHT=#fbd5b5]"สัมฤทธิ์" มีความหมายถึง "ความสำเร็จ" ในภาษาสันสฤต [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]
"สำริด" สามารถเขียนอีกอย่างหนึ่งได้ว่า "สัมฤทธิ์" น่าจะมีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤต ตรงกับภาษาบาลีว่า สมิทฺธิ แปลว่า " ความสำเร็จ "
เมื่อชาวสุวรรณภูมิเริ่มรับวัฒนธรรม เทคโนโลยี และคติความเชื่อทางศาสนาจากชมพูทวีป(อินเดีย) เมื่อประมาณ 1,800 ที่
แล้ว จึงนำโลหะสำริด ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมกว่าเหล็ก ไปหล่อเป็นรูปเคารพ สร้างสรรค์เป็นงานศิลปกรรม เพื่อสนองตอบต่อความเชื่อ ประเพณีและพิธีกรรม เช่น สร้างเป็นเทวรูป พระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ ฯลฯ ยกย่องเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ สามารถดลบันดาล
ให้สำเร็จประโยชน์ต่าง ๆ และทำให้อยู่เย็นเป็นสุข ตามความเชื่อในแต่ละลัทธิศาสนา
เทวรูปสำริด ต่าง กับเทวรูปทองเหลืองมากมาย
สำริดที่ทำเทวรูปกันส่วนใหญ่ มี 2 เนื้อ คือ
1. ปัญจโลหะ = โลหะ 5 ชนิด
1 . ดีบุก 2 . ปรอท 3. ทองแดง 4. เงิน 5. ทองคำ
2. สัตตะโลหะ = โลหะ 7 ชนิด
1. ดีบุก 2. ปรอท 3. สังกะสี 4. เหล็กละลายตัว 5 . ทองแดง 6. เงิน 7. ทองคำ
3. นวโลหะ = โลหะ 9 ชนิด
1. ชิน 2. เจ้าน้ำเงิน 3. เหล็กละลายตัว 4. บริสุทธ์ 5. ปรอท 6 .สังกะสี 7 . ทองแดง 8. เงิน 9. ทองคำ
ในอินเดียส่วนใหญ่ จะใช้ปัญจโลหะ 5 ชนิด มาทำเทวรูปมากกว่า และที่เห็นกันในวัด โบสถ์ หรือว่าวัดแขกองค์ประธานนั้นก็เป็นสำริดเหมือนกัน
[เทวูรปสำริดจะมีความเงางาม เป็นสีทองหรือสีทองแดงอร่าม ขึ้นอยู่กับส่วนผสมว่าจะมีทองแดงหรือ ทองคำมากกว่ากัน]
ข้อแตกต่างคือ
1. เวลาเราขัดทองเหลืองนั้น ความมันวาว และความสวยงาม ต่างกับสำริดมาก คือ สำริด จะไม่ดำไว และเป็นสีทองอร่าม ใช้เวลาหลายเดือนถึงจะดำลง และงานละเอียดมาก เพราะแกะพิมพ์ด้วยมือ และราคาแพง
2. น้ำหนักทองเหลืองจะเบากว่าสำริดมากๆ เช่น สำริดองค์ประมาณ 7 นิ้ว หนักเกือบ 10 กิโล เลยทีเดียว เพราะเนื้อตัน คนขายบางคนโกหกเอา
ทองเหลืองที่ฐานกลวง แล้วเอาปูนใส่เข้าไปให้มีน้ำหนัก แล้วบอกเราว่าเป็นสำริดก็มี
3.เทวรูปทองเหลืองหน้าตา งาน จะบูดเบี้ยวบ้าง เพราะว่าเทยางเพื่อก้อปพิมพ์นั้นๆ ราคาเลยถูกลงมา
4. พิมพ์ เทวรูป สำริดจะมีพิมพ์เดียว คนขาย ฉลาด นำพิมพ์สำริด หลายๆองค์มารวม ซึ่งทำให้แตกต่าง (หรือเรียกว่ามิกซ์) แล้วเทเป็นทองเหลืองมาขายแล้วอัดปูนให้หนัก ( หรือเรียกว่าก้อป ) แล้วหลอกเรา บอกว่าเป็นสำริดก็มี
ลำดับธาตุบูชาแล้วเห็นผลไวที่สุดคือ 1. หิน,ดิน (จุดเริ่มต้นแห่งจักรวาล) 2. ไม้มงคล 3. สำริด (รวมธาตุศักดิ์สิทธิ์) 4. ทองเหลือง เหล็ก เงิน 5 . ซิลิก้า เรซิ่น
แต่จะศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่อย่างไร อยู่ที่เราดูแล ปรนนิบัต ปฏิบิติ ท่านดีมากน้อยแค่ไหน มันอยู่ที่ใจ แต่จุดนี้ผมกำลังพูดถึง ธาตุที่บูชาแล้ว เกิดความสัมฤทธิ์สำเร็จ ไวที่สุดครับ (แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดพิจารณา)
ผมไม่อยากให้คนอื่นๆที่ศรัทธาต่อพระพ่อพระแม่ ต้องโดนถูกหลอกไปหลายแสนแบบผม โดยจากพวกที่หากินบนความศรัทธาของผู้อื่นแบบเกินควร
และขอฝากไว้ว่า ต้องฉลาดที่จะถวายสิ่งที่ดีที่สุด โดยการเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุดนั้นอย่างละเอียด รู้ต้นตอ และมีเหตุ มีผลครับ ด้วยความหวังดีจริงๆ
มาแบ่งปันความรู้สำหรับเทวรูปครับ ให้ระวังกัน เพราะคนโพสต์โดนหลอกมาเยอะแล้ว แต่ยังไงผมก็ไม่ได้แอนตี้ทองเหลืองน่ะครับ ที่บ้านผมก็บูชาทองเหลืองและสำฤทธิ์เช่นกัน
อนึ่ง การเลือกซื้อบูชาเทวรูป ก็ไม่ต้องสนเช่นกันว่า จะเนื้ออะไร แบบไหน ขอให้แค่มีใจรัก ชอบ และรู้สึกมีความสัมพันธ์กับเทวรูปองค์
นั้นแล้ว นั่นแหละคือสิ่งศักดิ์ที่สุด และคือคำตอบสำหรับเรา
เทวโมทนา อนุราธนาประสิทธิ์.
เลยอยากทราบว่า มีร้านขายเทวรูปสำริดศิลปะแบบฮินดู ที่ไหนบ้างครับ ช่วยตอบผมที ?
"สำริด" สามารถเขียนอีกอย่างหนึ่งได้ว่า "สัมฤทธิ์" น่าจะมีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤต ตรงกับภาษาบาลีว่า สมิทฺธิ แปลว่า " ความสำเร็จ "
เมื่อชาวสุวรรณภูมิเริ่มรับวัฒนธรรม เทคโนโลยี และคติความเชื่อทางศาสนาจากชมพูทวีป(อินเดีย) เมื่อประมาณ 1,800 ที่
แล้ว จึงนำโลหะสำริด ซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมกว่าเหล็ก ไปหล่อเป็นรูปเคารพ สร้างสรรค์เป็นงานศิลปกรรม เพื่อสนองตอบต่อความเชื่อ ประเพณีและพิธีกรรม เช่น สร้างเป็นเทวรูป พระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ ฯลฯ ยกย่องเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ สามารถดลบันดาล
ให้สำเร็จประโยชน์ต่าง ๆ และทำให้อยู่เย็นเป็นสุข ตามความเชื่อในแต่ละลัทธิศาสนา
เทวรูปสำริด ต่าง กับเทวรูปทองเหลืองมากมาย
สำริดที่ทำเทวรูปกันส่วนใหญ่ มี 2 เนื้อ คือ
1. ปัญจโลหะ = โลหะ 5 ชนิด
1 . ดีบุก 2 . ปรอท 3. ทองแดง 4. เงิน 5. ทองคำ
2. สัตตะโลหะ = โลหะ 7 ชนิด
1. ดีบุก 2. ปรอท 3. สังกะสี 4. เหล็กละลายตัว 5 . ทองแดง 6. เงิน 7. ทองคำ
3. นวโลหะ = โลหะ 9 ชนิด
1. ชิน 2. เจ้าน้ำเงิน 3. เหล็กละลายตัว 4. บริสุทธ์ 5. ปรอท 6 .สังกะสี 7 . ทองแดง 8. เงิน 9. ทองคำ
ในอินเดียส่วนใหญ่ จะใช้ปัญจโลหะ 5 ชนิด มาทำเทวรูปมากกว่า และที่เห็นกันในวัด โบสถ์ หรือว่าวัดแขกองค์ประธานนั้นก็เป็นสำริดเหมือนกัน
[เทวูรปสำริดจะมีความเงางาม เป็นสีทองหรือสีทองแดงอร่าม ขึ้นอยู่กับส่วนผสมว่าจะมีทองแดงหรือ ทองคำมากกว่ากัน]
ข้อแตกต่างคือ
1. เวลาเราขัดทองเหลืองนั้น ความมันวาว และความสวยงาม ต่างกับสำริดมาก คือ สำริด จะไม่ดำไว และเป็นสีทองอร่าม ใช้เวลาหลายเดือนถึงจะดำลง และงานละเอียดมาก เพราะแกะพิมพ์ด้วยมือ และราคาแพง
2. น้ำหนักทองเหลืองจะเบากว่าสำริดมากๆ เช่น สำริดองค์ประมาณ 7 นิ้ว หนักเกือบ 10 กิโล เลยทีเดียว เพราะเนื้อตัน คนขายบางคนโกหกเอา
ทองเหลืองที่ฐานกลวง แล้วเอาปูนใส่เข้าไปให้มีน้ำหนัก แล้วบอกเราว่าเป็นสำริดก็มี
3.เทวรูปทองเหลืองหน้าตา งาน จะบูดเบี้ยวบ้าง เพราะว่าเทยางเพื่อก้อปพิมพ์นั้นๆ ราคาเลยถูกลงมา
4. พิมพ์ เทวรูป สำริดจะมีพิมพ์เดียว คนขาย ฉลาด นำพิมพ์สำริด หลายๆองค์มารวม ซึ่งทำให้แตกต่าง (หรือเรียกว่ามิกซ์) แล้วเทเป็นทองเหลืองมาขายแล้วอัดปูนให้หนัก ( หรือเรียกว่าก้อป ) แล้วหลอกเรา บอกว่าเป็นสำริดก็มี
ลำดับธาตุบูชาแล้วเห็นผลไวที่สุดคือ 1. หิน,ดิน (จุดเริ่มต้นแห่งจักรวาล) 2. ไม้มงคล 3. สำริด (รวมธาตุศักดิ์สิทธิ์) 4. ทองเหลือง เหล็ก เงิน 5 . ซิลิก้า เรซิ่น
แต่จะศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่อย่างไร อยู่ที่เราดูแล ปรนนิบัต ปฏิบิติ ท่านดีมากน้อยแค่ไหน มันอยู่ที่ใจ แต่จุดนี้ผมกำลังพูดถึง ธาตุที่บูชาแล้ว เกิดความสัมฤทธิ์สำเร็จ ไวที่สุดครับ (แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดพิจารณา)
ผมไม่อยากให้คนอื่นๆที่ศรัทธาต่อพระพ่อพระแม่ ต้องโดนถูกหลอกไปหลายแสนแบบผม โดยจากพวกที่หากินบนความศรัทธาของผู้อื่นแบบเกินควร
และขอฝากไว้ว่า ต้องฉลาดที่จะถวายสิ่งที่ดีที่สุด โดยการเฟ้นหาสิ่งที่ดีที่สุดนั้นอย่างละเอียด รู้ต้นตอ และมีเหตุ มีผลครับ ด้วยความหวังดีจริงๆ
มาแบ่งปันความรู้สำหรับเทวรูปครับ ให้ระวังกัน เพราะคนโพสต์โดนหลอกมาเยอะแล้ว แต่ยังไงผมก็ไม่ได้แอนตี้ทองเหลืองน่ะครับ ที่บ้านผมก็บูชาทองเหลืองและสำฤทธิ์เช่นกัน
อนึ่ง การเลือกซื้อบูชาเทวรูป ก็ไม่ต้องสนเช่นกันว่า จะเนื้ออะไร แบบไหน ขอให้แค่มีใจรัก ชอบ และรู้สึกมีความสัมพันธ์กับเทวรูปองค์
นั้นแล้ว นั่นแหละคือสิ่งศักดิ์ที่สุด และคือคำตอบสำหรับเรา
เทวโมทนา อนุราธนาประสิทธิ์.
เลยอยากทราบว่า มีร้านขายเทวรูปสำริดศิลปะแบบฮินดู ที่ไหนบ้างครับ ช่วยตอบผมที ?