Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Rattaya Boonyatim

#1
สวัสดีค่ะทุกท่านดีใจที่ได้เป็นสามาชิกของเว็ปนี้นะค่ะ สัญญาว่าจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนสามาชิกนะค่ะจะรับขอมูลที่ยังไม่รู่และแชร์ทุกอย่างที่รู้ค่ะ

มีอะไรช่วยแนะนำได้นะค่ะ
ปูเป้
#2
พูดถึงเรื่องความศัทธาทางศาสนาไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธก็ดีและฮินดูก็ดี ดิฉันขอแชร์ประสบการณ์กับทุกท่านที่ความมีความเชื่อมั่นและศัทธาในองค์เทพและนับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ก่อนอื่นท่านต้องถามตัวเองก่อนว่าท่านเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่ต้องการความสำเร็จและพ้นจากความทุกข์
ในชิวิตมีทรัพย์สิ้นเงินทองตามประสามนุษย์ปุถุชนทั่วไปถ้าคำตอบ ว่าใช้ ก็ต้องถามตัวเองต่อไปว่าตัวท่านมีความศัทธาในพุทธธานุภาพและเทวานุภาพเพียงถ้าคำตอบว่าใช่ ถามใจตัวคุณดูว่าตัวเราทุกคนวิ่งหาทรัพย์สินเงินทองทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สมบัติทางโลก แย้งชิ้งกันทุกอย่างเพื่อให้ได้มาด้าน
การศึกษา,หน้าที่การงานแข่งกันสอบแข่งขันกันประจบเจ้านายเพื่อให้ได้มา ร่วมถึงปัจจุบันจะเป็นการขัดแย้งทางการเมืองก็ดี เหล่านี้ล้วนมีคำตอบอยู่แล้วว่าตัวเราเองที่เป็นหน่วยที่เล็กที่สุดที่หาทางออกปัญหาของมนุษย์ได้โดยการเปลี่ยนพลังด้านลบม้องโลกในแง่ร้ายให้เป็นพลังศัทธาที่ทำให้เรารอดพ้นสิ่งเหล่านี้ไปได้โดย
ถ้าเราเป็นคนพุทธและกราบไหว้พระพุทธเจ้า และบูชาเทพตามพิธีกรรมและศัทธาไม่งมงาย
ถ้าเปรียบเทียบชวิตคนเป็นเปอร์เซนต์ 100%และแบ่งการกระทำที่จะให้เกิดปาฎิหาริย์อยู่สามอย่างด้วยกันคือ
1.ปาฎิหาริย์จากอำนาจพุทธคุณ
2.ปาฎิหาริย์จากเทวดารักษาตัว
3.ปาฎิหาริย์จากกรรม
ให้เริ่มต้นจากการขอพึ่งพระพุทธคุณโดยการสวดมนต์
1.จุดธูปบูชาพระรัตนตรัย
สวดบูชาพุทธคุณและที่ขาดไม่ได้คือสวดบท" ไตรสรณคมณ์"
เพราะการสวดไตรสรณ์คมณ์คือการบอกองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเราขอยึดท่านเป็นที่พึงเป็นสรณะ
เพื่อให้อานุภาพนั้นช่วยคุ้มครองเรา(สิ่งสำคัญต้องมีความเชื่อมั่นบวกศัทธาอย่าสงสัยในอำนาจพุทธคุณนะค่ะเพราะการสวดขอภาวนาจะไม่ได้ผล)
การทำเช่นนี้จะเป็นผลช่วยเรา 25% จากส่วนทั้งหมด 100%จากตัวเราทั้งหมด
2.เทวดารักษาตัว
ขออ้างอิงจากหัวข้อด้านบนที่ว่าพูดถึงเกี่ยวกับเทววานุภาพว่ามีอยู่จริงจากการพิสูจน์ได้ทางพุทธศาสนาโดยให้เจริญสติภาวนาตามคำสอนพระพุทธเจ้าที่แบงการเจริญสติเป็นสองแบบ
2.1 การทำสมถะกรรมฐาน คือการรู้ตัวรู้อารมฌ์ของตน มีสติติดตัวตลอดเวลา
2.2 การเจริญวิปัสนา  คือการทำความไม่รู้จริงให้ดับไปและให้เกิดปัญญา
หากคุณทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้ให้ธิฐานจิตให้สามารถสัมผัสกับเทวดารักษาตัวของเราได้(โดยต้องมีความ
ศัทธาในเทววานุภาพว่ามีอยู่จริง,เทวดารักษาตัวแต่ละคนมีจริงโดยพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง)
หากใครถกเถี่ยงเรื่องเทวดารักษาตัวไม่มีจริงก็จงย้อนถามตัวคุณเองว่าคุณได้พิสูจน์ตัวโดยวิธีเหล่านี้แล้วหรือยัง?
เมื่อคุณเชื่อในเทวดารักษาแล้วก็ให้อธิฐานบารมีจิตเมื่อคุณทำบุญ , คุณอารธนาศิล,เมื่อเจริญสติสมาธิ
เหล่านี้ให้กับเทวดารักษาตัวเองให้ช่วยเหลือในเรื่องต่างที่มีปัญหาอยู่ในชิวิตตอนนี้เรื่องอะไรและให้ท่านช่วยด้านใด ก็อธิฐานจิตบอกท่านไป ผลจากการทำเช่นนี้จะช่วยท่านได้อีก 25% จาก 100%
3.เรื่องของกรรม
กล่าวถึงกรรมคือการกระทำของเราเองถ้าทำความดีก็เรียกว่ากรรมดี ถ้าทำกรรมชั่วก็เรียกว่ากรรมชั่ว
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เรียกว่าตัวกำหนดโชค ลาภ วาสนา เคราะห์ร้าย  บันดาลสุขทุกข์ต่างๆนานับประการแล้ว
คนได้ถึง 50% จาก 100% เพราะว่าการทำดีลบล้างสิ่งที่เราเคยทำผิดพลาดในปัจจุบันแล้วจะทำให้เหมื่อนกับเรากินยาทิพย์รักษาโรคกรรมเก่าได้ , โรคทรัพย์จาง,โรคทุกข์ใจได้ต่าง เหล่านี้โดยเริ่มจากการยึดถือปฎิบัติศิล 5 ข้อทางฆราวาสให้ได้ก่อนข้อไหนทำไม่ได้ก็ค่อยๆแก้ไปแล้วเริ่มทำให้ได้จนครบทั้งห้าข้อร่วมทั่งสำรวจกายวาจาใจให้โกรธน้อยลง อิจฉาน้อยลง ไม่ยึดติดกับสิ่งภายนอกที่ทำไม่ให้เรามีปัญญาในการดำเนินชิวิต
ชิวิตคุณจะค่อยๆดีขึ้นดีขึ้นโดยการปฎิบัติด้วยตัวคุณเอง 

และคุณจะรู้ว่าปาฎิหาริย์ที่มาจากพุทธธานุภาพและเทวนุภาพมีอยู่จริง


หากใครสนใจคุ้ยกับดิฉันเรื่องปัญหาชิวิต
พร้อมจะให้คำแนะนำการแก้ปัญหาชิวิตทางพุทธ
เท่าที่จะทำได้ให้กับกัลยานิมิตรทุกคนนะค่ะ
ติดต่อได้ที่ E-meal asdress RattayaBoonyatim@yahoo.comค่ะ