Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - lati

#1


โพธิญาณพฤกษา
พันธุ์ไม้ที่พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ประทับตรัสรู้


ต้นสะเดา (ต้นนิมพะ)


ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 33 พระสุตตันตปิฎกเล่ม 25 ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ สุเมธพุทธวงศ์ กล่าวไว้ว่าพระพุทธเจ้าองค์ที่ 14 พระนามว่า พระสุเมธพุทธเจ้าผู้ทรงแสวงหาประโยชน์เพื่อสรรพสัตว์ทรงเปลื้องสัตว์ให้พ้นจากเครื่องผูกเป็นอันมาก ได้ประทับตรัสรู้ ณควงไม้สะเดา หลังทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ 8 เดือนเต็ม

ในบ้านเรานั้นสะเดามี 3 พันธุ์ คือ

1. สะเดาอินเดีย มีลักษณะขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย ปลายใบแหลมเรียวแคบมากคล้ายเส้นขร ผลสุกในเดือน ก.ค.- ส.ค.

2. สะเดาไทย มีลักษณะขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย แต่ปลายของฟันเลื่อยทู่ โคนใบเบี้ยวแต่กว้างกว่า ปลายใบแหลม ผลสุกในเดือน เม.ย.- พ.ค.

3. สะเดาช้าง หรือต้นเทียมไม้เทียม ขอบใบจะเรียบ หรือปัดขึ้นลงเล็กน้อย โคนใบเบี้ยวปลายเป็นติ่งแหลม ขนาดใบและผลใหญ่กว่า 2 ชนิดแรก ผลสุกในเดือน พ.ค.- ส.ค.



ในที่นี้จะพูดถึง ต้นสะเดาอินเดีย ที่เป็นโพธิญาณพฤกษาของพระสุเมธพุทธเจ้า สะเดาอินเดีย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Azadirachta indica A. Juss." อยู่ในวงศ์ "Meliaceae" ในภาษาบาลีเรียกว่า "ต้นนิมพะ" หรือ "ต้นมหานิมพะ"ชาวฮินดูเรียกว่า "นิมะ"มีชื่อพื้นเมืองที่เรียกกันต่างไปในแต่ละท้องถิ่นของไทย คือ กะเดา(ภาคใต้), สะเลียม (ภาคเหนือ), คินินหรือขี้นิน (ภาคอีสาน), ควินิน,ควินนิน, จะตัง, ไม้เดา, เดา เป็นต้น

ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า ในพรรษาที่ 11พระพุทธเจ้าได้จำพรรษาภายใต้จิมมันทพฤกษ์ คือไม้สะเดาอันเป็นมุขพิมานของเพรุยักษ์ ใกล้นครเวรัญชา

สะเดาเป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 8-16 เมตร เปลือกสีน้ำตาลแกมเทา ลำต้นเปลา ตรง เรือนยอดเป็นพุ่มหนาทึบ ใบประกอบแบบขนนก มีสีเขียวเข้มและหนาเป็นมันวาว ขอบใบหยัก เป็นฟันเลื่อย ปลายใบแหลมเรียวดอกสีขาวออกเป็นช่อตามปลายกิ่ง มีกลิ่นหอม ผลกลมรี ผิวบางมีเมล็ดภายในเมล็ดเดียว เมื่อสุกจะมีสีเหลืองและมีกลิ่นหอม

สรรพคุณด้านพืชสมุนไพรนั้นมีมากมาย ใบอ่อนและดอกนำมารับประทานเพื่อบำรุงโลหิตและน้ำดี ช่วยย่อยอาหาร แก้ลม แก้พยาธิ แก้เลือดกำเดาไหลแก้ริดสีดวงในคอ แก้ลม บิดมูกเลือด, ผล ใช้บำรุงหัวใจที่เต้นไม่เป็นปกติ,รากใช้แก้โรคผิวหนัง ยางใช้ดับพิษร้อน, เปลือกใช้แก้ไข้มาเลเรียและน้ำมันจากเมล็ดใช้เป็นสารกำจัดแมลงศัตรูพืช



ทางคติอินเดียถือว่า ผู้ใดนอนใต้ต้นสะเดาแล้วโรคภัยไข้เจ็บจะหายไปเพราะสะเดาเวลาคายน้ำออกจะมีสารระเหยบางชนิดที่เข้าใจว่ามีคุณสมบัติทางยาใช้รักษาโรค ถึงกับมีเรื่องเล่ากันว่าภรรยาชาวอินเดียที่ไม่ยอมให้สามีออกไปต่างบ้าน พยายามสั่งสามีว่าเมื่อจะไปให้ได้ก็ไม่ว่า แต่ในระหว่างเดินทางไปจะพักนอนที่ไหนขอให้นอนใต้ต้นมะขาม เมื่อนึกจะกลับบ้านก็ขอให้นอนใต้ต้นสะเดาสามีก็เชื่อฟังภรรยา เมื่อออกจากบ้านก็นอนใต้ต้นมะขามเรื่อยไปต้นมะขามกล่าวกันว่าเป็นต้นไม้ที่ทำให้เกิดความเจ็บไข้เมื่อนอนใต้โคนอยู่เรื่อยๆ ก็เกิดอาการไม่สบายไม่สามารถจะเดินทางต่อไปได้จึงคิดเดินทางกลับบ้าน

เมื่อนึกถึงคำภรรยาสั่งไว้ว่าขากลับให้นอนใต้ต้นสะเดาจึงนอนใต้ต้นสะเดาเรื่อยมาฤทธิ์ทางยาของไม้สะเดาก็รักษาอาการไข้ของชายคนนั้นให้หายไปทีละน้อยๆและหายเด็ดขาดเมื่อกลับมาถึงบ้านพอดีนับว่า หญิงอินเดียมีกุโศลบายดีมากการที่พระพุทธเจ้าจำพรรษาใต้ต้นสะเดาจะเกี่ยวข้องกับคติดังกล่าวหรือไม่คงไม่มีใครทราบ

แต่คตินี้ก็น่าจะให้ข้อคิดบางอย่างเพราะแพทย์แผนปัจจุบันพยายามสกัดสารพวกอัลคอลอยด์บางอย่างไปใช้ผสมยา เช่นทำยาธาตุ ยาแก้ท้องเสีย ฯลฯ ฉะนั้นเวลากลางคืนสะเดาจะคายน้ำรวมทั้งคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาย่อมจะมีสารระเหยพวกนี้ออกมาด้วย เมื่อสูดเข้าไปเรื่อยๆก็อาจเป็นการบริโภคได้ทางหนึ่ง

มะขามมักจะอยู่ตามโคกและตามโคกมักจะมีสัตว์พวกงูพิษซุ่มอยู่คนนอนก็จะต้องคอยระมัดระวัง จะไม่เป็นอันหลับอันนอนก็ย่อมจะเพลียไม่มีแรงเดินทางต่อ และพาลจะเจ็บป่วยไปด้วยแต่สะเดาชอบขึ้นตามที่ราบโล่ง บรรดาสัตว์ร้าย เช่น งูไม่ชอบอาศัยคนนอนก็นอนสบายทำให้มีกำลังแข็งแรงคนเราถ้านอนได้เต็มที่ก็สามารถสร้างภูมิต่อสู้กับโรคภัยได้เช่นกันก็เป็นได้

สะเดาอินเดีย ค่อนข้างจะหายาก แหล่งปลูกใหญ่คือทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด และการตอนกิ่งปักชำ

ปัจจุบัน สะเดาเป็นไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดอุทัยธานี

#2
อยากได้วิธีทำที่แปลเป็นไทยค่ะ
ถ้ามีขอขอบคุณค่ะ
#3
แบบว่าเป็นคนหนึ่งที่บูชาพระแม่เหมือนกันแต่อยู่ในศาสนาพุทธก็ไม่ละทิ้งพุทธเพราะศรัทธาทั้งพระแม่และพระพุทธเจ้า  การบูชาทั้ง 2 อย่างนี้จะเป็นการผิดไหม แต่เราว่าไม่ผิดน่ะเพราะการที่เราบูชาพระแม่เเละพระพุทธเจ้าในศาสนาพุทธนั้นเราจะมีทั้งพระและเทพคอยปกปักรักษา  ศาสนาพุทธและฮินดูก็อยู่คู่กันมาจนเราแยกไม่ออกเลยล่ะ 

จะบอกวิธีบูชาพระแม่แล้วเรา จะสำเร็จ  คืออย่าขาดการบูชาและต้องเน้นการบูชาด้วยใจเป็นหลัก  สิ่งที่ขาดไม่ได้ ใบนีม(สะเดา)ดอกชบาสีแดง น้ำนมเพราะพระเเม่
โปรดเสวยนมมากและน้ำแดงเพราะพระแม่ชอบสีแดง  ส่ิ่งหนึ่งคือ น้ำมะพร้า้้วเพราะพระแม่จะใช้ล้างเท้า
ส่วนจะให้ได้บุญเยอะอีกถ้าเป็นพุทธให้บูชาพระปรางประจำวันเกิดตนเองเพื่อเป็นศิริมงคงให้แก่ตนเอง ลองปฎิบัติดูแล้วคุณจะรู้ว่าพระแม่มีจริง