Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - bopeep

#1
อ๋อ ตัวผมก็ไม่ได้ว่า คุณบาสครับ เขาใจคุณ บาส ว่าต้องการอธิบายของคำพูด จากคนบางคนที่ สื่อภาษา ไม่รู้เรื่องนะครับ ต้องขอโทษคุณบาส ด้วยนะครับ ที่ทำให้เข้าใจผิด เพราะสิ่งที่คุณบาสได้อ่าน ผมก็เคยได้อ่านเหมือนกัน ครับ ไม่ได้ว่าคุณบาสนะครับ เข้าใจนะครับ และก็ต้องขอโทษจริง ๆ ถ้าทำให้คุณบาส คิดมาก ขอโทษนะครับ
#2
ผมบูชา พระแม่มารีอัมมัน ในตัวแทนของพระศักติ ใครจะว่าอย่างไรก็ชั่ง ตัวผมเชื่อ และศรัทธา ขอเชื่อ แบบที่เป็นตัวเองแล้วกัน ครับ

อัมมัน คือ ยศ ของแม่

อัมมา คือคำว่า แม่

มารีอัมมัน อัมมา คือ เทพผู้เป็นแม่ ของผม

สุดท้ายนี้ ขอจงมีศิริมงคลแก่ตัวเอง และบุคคลที่นับถือพระแม่มารีอัมมัน นะครับ


โอม ศานติ ศานติ ศานติ ศานตี.......
#3
พี่ยีน ครับ มีอะไรบอกน้องและกัน เดี๋ยวจัดไป ชอบ พวกที่เข้ามาป่วนเว็ป อะ ชอบ ชอบ สู้ ๆ
#4
ชอบในสิ่งที่พี่ยีน คุณ โอ เจ โอม เจ และ คุณบุตรมาเตศวรีศรีมหาอุมาเทวี มากเลยครับ แสดงให้เห็นถึง การยอมรับฟังคนอื่น และให้การ แนะนำที่ ดีชอบ ครับ ชอบ กรุณาทำ ต่อไปนะครับ เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วย ใครหลาย คนได้บูชา แบบ ถูกจริต ถูกวิสัย ของมนุษย์คนหนึ่ง ที่บูชา พระผู้เป็นเจ้า ครับ
#5
เป็นกำลังใจให้นะครับ คุณพี่ยีน
#6
พอเถอะครับ เถี่ยงกันไปก็ม่มีวันจบครับ ในเรื่องนี้ ความรู้ที่มีอยู่ขอทุก ๆ ท่านในที่นี้ ก็ได้มาจากการ อ่าน ศึกษา ถาม และ อื่น ๆ ถามจริง ๆ นะครับ ว่าสิ่งที่ ทุกท่านรู้ อยู่เนี่ย ใครเป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นมา ไม่ใช่ มนุษย์หรอครับ ที่ถ่ายทอด ต่อกันมา สิ่งเหล่านี้ มันเกิดเมื่อ เป็น พัน ๆ ปี ผมไม่ได้ ตำหนิ ใครทั้งสิ้น แต่อยากถามว่า เกิดทันกันหรอครับ เมื่อ พันปีที่แล้ว ว่าเป็นอย่างไร ถึงได้ ออกมาพูด ออกมาบอก ในเรื่องที่ ตัวเองคิด ว่าถูก ผมคนหนึ่งและครับ ที่ไม่สนเรื่อง ประวัติ ความเป็น มาทูก นิกาย ของเทพเจ้า ที่ชาวฮินดูชน บูชาอยู่ เพราะผมเกิดไม่ทัน แล้วที่รู้กัน เห็น กัน ก็ล้วนแล้วแต่ อิงแอบ แอ๊บจำ แอ๊บ แปลจากเขาทั้งนั้น ใครจะบูชาอะไร ย่อมรู้ว่า สมควรหรือไม่ และศรัทธา บูชาเพื่ออะไร ใส่ใจกับ สิ่งที่บูชามากน้อยแค่ไหน ที่จะมานั่งเถียงเรื่องประวัติ ที่ตัวเองรู้แล้วคิดว่าถูกต้อง อย่าลืมนะครับ เราชาวพุทธ ผมพูดถึงชาวพุทธ นะครับ พุทธด้วยสายเลือด บางท่านใน ที่นี้อาจจะนับถือศาสนาอื่น แต่ผมขอพูดถึง คนที่เกิดมาแล้วนับถือศาสนาพุทธ ตามบุพการี ที่ให้กำเนิด เป็นพุทธ โดยสายเลือด มานั่งเถียงกันเรื่องของชาว ฮินดูชน น่าขำ เอาเวลามาแลกเปลี่ยนทัศนคติกันดีไหม อย่าทำเป็น กูรู กูรู้ดี ในเรื่องของชาวฮินดูชน เลยครับ 
#7
เวปนี้ เป็นเวปที่ดีนะครับ นอกจากเจ้าของเวป และ ผู้ดูแล ที่มีความรู้ในเรื่อง ศรัทธา แล้ว ยังรวบรวม ผู้รู้ ทุกสารทิศมาอยู่ที่ เวปนี้อีกนะครับ ไม่น่าละครับ เจ้าของเวป แล้วก็ผู้ดูแล จึงเหนื่อย เข้าใจและ จนบ้างครั้ง คนที่ไม่รู้ อยากจะรู้ หรือ อยากจะเสนอความรู้ของตัวเองที่มี อยู่เพียงน้อยนิด ยังไม่กล้าที่จะเสนอเลย เพราะมี ผู้รู้เยอะนี่เอง เห็นใจนะครับ พี่ยีน สู้ สู้ สู้ ครับพี่ยีน
#8
เออ คุณพิษประจิม จะสื่ออะไรหรอครับ ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ อันนี้ผมก็ไม่รู้นะครับ ว่าอินเดียเหนือเป็นอย่างไร และ อินใต้เป็นอย่างไร เพราะผมเป็นคนไทย ที่นับถือ เทพเจ้า ฮินดูตามแบบฉบับ คนไทยคนหนึ่ง ที่จะสามารถบูชาได้ ผมเป็นผู้ศรัทธาครับ ไม่ใช้ กูรู หรือ กูรู้ดี ครับ ผมรู้เท่าที่รู้ และก็ไม่ได้ อิงแอบแนบ หนังหน้า ทำเป็นรู้ ด้วยครับ เพราะ สิ่งเหล่า เป็นอารยะธรรมของชาวอินเดีย ที่มีมานับพันปี ผมมิกล้าที่จะสรุปว่า เป็นแบบไหน นะครับ แต่กับสิ่งที่คุณรู้มาก็เป็นความรู้ ที่ดีนะครับ ขอบคุณ แต่ไม่ขอเก็บไว้นะครับ เพราะคนละประเด็น อันที่จริง ผมนับถือทาง ศักติด้วยสิครับ พระแม่มกาศักติ - ศิวา ใหญ่สุดสำหรับผม เทพสตรีทุกพระองค์สำหรับผม เกิดจักพลังแห่งศักติ ครับ ผมรู้แค่มาพระแม่ทุกพระองค์ล้วนแล้วแต่เกิดจากพลังแห่งศักติ เสมือน มีดินอยู่ ที่ก้อนใหญ่ ๆ มาก ๆ แล้วเอามาแบ่งปั้นเป็น พระแม่องค์นั้น องค์นี้ แต่ถ้า เรานำ ดินที่ปั้นพระแม่ทุกพระองค์ เอามารวมกัน มันก็เป็นดินก้อนเดียวกัน ไม่ใช่หรอ ครับ ไม่รู้นะครับ ส่วนตัวแล้วคิดแบบนี้นะครับ แล้วอีกอย่างนะครับ อินเดียใต้ เป็นชาวฮินดูที่บูชาเทพเจ้า มาก่อนอินเดียเหนือ ซึ่ง อินเดียเหนือส่วนมากจะเป็นแขกขาว หรือชาวอารยัน ที่เข้ามารุกราน ชาวอินเดียแต่เดิม ดูได้จาก รามยณะ นะครับ คุณปัจจิม
#9
ชอบ ชอบ ชอบ ครับ ความเห็นของ คุณ โอม เจ โอม เจ ชอบ มาก ๆ
#10
ขอชื่นชมเจ้าของกระทู้ ด้วยใจจริงเลยครับ ในการทำขนม ถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าที่ศรัทธา นับถือครับ
#11
ดี ๆ ครับ เป็นความรู้ที่ดีครับ พี่ยีน เป็นความรู้ที่สามารถเก็ยไว้ประดับสติปัญญาได้ ชอบ ๆ ครับ เนื่องด้วยอยากออกความคิดเห็น มะนาวในความเชื่อ คือ สามารถขจัดสิ่งชั่วร้ายได้ ที่นิยม ปักไว้ที่ตรัศูล ก็เพราะว่า ตรีศูลคืออาวุธที่ใช้ ทำลายสิ่งไม่มีหรือความชั่วร้าย แต่ความชั่วร้ายก็จะติดมากับ เลือดอสูร ที่ติดมากับ ตรีศูล จึงใช้ มะนาวปักไว้ ที่ปลายตรีศูลเพื่อ ขจัด สิ่งไม่ดี หรือ สิ่งที่ชั่วร้าย ที่ติดมากับตรีศูลครับ
#12
1.ศักดิ์ศิทธิ์คืออะไรคะ คำนี้อาจดูเหมือนเป็นที่รู้จักและมีความหมายแจ่มชัด แต่คำจำกัดความของท่านทั้งหลายคืออะไรหรือคะ เทวรูปที่ศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าขอแล้วต้องได้ดังขอ ถ้าไม่ได้ถือว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์หรือคะ หากเป็นเช่นนั้นดิฉันซึ่งไม่เคยขออะไรเป็นชิ้นเป็นอันจากท่านเลย เทวรูปของดิฉันจึงไม่มีวันศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ศักดิ์สิทธิได้เลยใช่ไหมคะ

bopeep...ขอเสนอความคิดเห็นนะครับ ความหมายของคำว่าศักดิ์สิทธิ์ นั้น ตามความเข้าใจ อาจจะหมายความว่า ที่เชื่อมั่น เชื่อถือว่า มีอันนาจบันดาลทุกสิ่งให้ได้มาตามประสงค์ หรือ ความขลัง ที่เกิดขึ้นในวัตถุ สิ่งนั้น สิ่งนี้ อันนี้คือความหมายที่คิดนะครับ และสิ่งนี้ก็อยู่กับความเชื่อมนุษย์อย่างผม และทุกคน ในที่นี้ มานาน แล้วนะครับ มันแยกออกจากตัวผม และตัว ทุก ๆ คนในที่นี้ ม่ได้หรอกนะครับ ทั้งในการได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็น และได้สัมผัส เราอาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า เรากำลังอยู่ในคำว่า ศักดิ์สิทธิ์ อยู่ คำว่าศักดิ์สิทธิ์นั้นจะอยู่กับตัวเราตลอดไป ตราบที่เรายังมี ความเชื่อ และความ ศรัทธาอยู่ครับ ผมคิดอย่างนี้นะครับ ถึงแม้ว่าใคร จะว่าสิ่งที่เราบูชาว่าไม่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เราก็ยังเชื่อ และศรัทธา ในความศักดิ์สิทธิ์ ขอท่านอยู่แล้ว ถูกต้องไหมครับ

2.อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ท่านทั้งหลายปรารถนาจะสื่อสารโดยตรงกับพระผู้เป็นเจ้าหรือคะ  และอะไรคือเครื่องหมายยืนยันว่านั่นคือพระเจ้า ดิฉันไม่เคยเห็นนิมิตจากท่านแบบตรงๆเลย หมายความว่าดิฉันยังไม่เป็นที่รักของท่านอย่างนั้นหรือคะ ดิฉันไม่เคยคิดจะสื่อสารกับท่านเลยนอกจากขอให้ท่านรับรู้ความภักดีหรือถ้าท่านเมตตาขอให้ทรงนำทางดิฉันและคนที่รักให้เดินไปตามทางที่ถูกที่ควร ดิฉันเป็นศาสนิกชนที่แย่เพราะไม่พยายามติดต่อกับท่านหรือเปล่าคะ


bopeep...อันนี้เป็นคำถามที่โดนใจผมมากเลยครับ ขอมอบตำแหน่งผมถ้วยและสายสะพายให้เลยครับ น่าตอบเป็นที่สุด คำถามนี้ ขอตอบแบบไม่เกรงใจเลยนะครับ

อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ท่านทั้งหลายปรารถนาจะสื่อสารโดยตรงกับพระผู้เป็นเจ้าหรือคะ

- บางความคิดของคนมุมหนึ่ง ต้องการที่จะเป็นคนที่เหนือกว่าคนอื่น ต้องการเป็นคนเหนือคน ด้วยกิเลส ตัณหา และความต้องการที่จะแสดงตัวว่าเป็นผู้วิเศษเหนือมนุษย์ แล้วก็เอามาหลอกลวงบนความเชื่อของผู้อื่นให้หลงเชื่อ เปลี่ยนจากศรัทธา เป็น ความงมงาย ครับ

- บางความคิดของคนมุนหนึ่ง ต้องการเป็นผู้ศรัทธาที่ต้องการและมีความสามารถ อยากใกล้ชิดกับพระองค์มากจนเก็บ ไปฝัน เก็บไปคิด จนเป็นมโนภาพ ในความฝัน

ในการที่จะสื่อสารกับท่านได้ หรือ สื่อสารกับท่านไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ศรัทธาครับ หน้าที่ของเรามีเพียงแต่ เชื่อ บูชา ปฏิบัติ และอยู่ในความดี นี่ซิครับ คือสิ่งที่สมควรทำ

ในการที่ว่าท่านจะรักเราหรือไม่รักเราก็ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องรู้ขอให้รู้แค่เรารักท่านแค่ไหนก็พอครับ

ในสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเราไม่สามารถ รู้ได้ว่าจริงเท็จ แค่ไหน มีแต่ตัวเองที่รู้ครับ และสิ่งที่เรารู้เราเห็นเอง ก็ต้องเก็บเอามาคิด แล้วก็พิจารณาให้ดีครับ ว่าใช่มากน้อยแค่ไหน หรือ ว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นกำลังหรอกตัวเองอยู่หรือไม่

การตำหนิตัวเองเป็นสิ่งที่สมควรนะครับ และอยากจะบอกว่า จะแย่หรือดีเลิศ ไม่มีใครบอกได้ครับ มีแต่ตัวท่านเองเท่านั้น

3. และขออนุญาตถามตรงๆว่าอะไรทำให้ท่านคิดว่าพระเจ้าจะทรงสื่อสารกับท่านซึ่งยังอยู่ในกองกิเลสอยู่ เห็นในตำนานต่างๆกว่าใครจะติดต่อกับท่านได้ก็ต้องอาศัยกิจอันยอดยิ่งต่างๆนาๆ

bopeep...ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ อาจจะเป็นเพราะว่า ความต้องการของจิตที่ต้องการให้พระผุ้เป็นเจ้าได้รับรู้ถึงความศรัทธาในตัวตนของคน ๆ หนึ่งมั้งครับ ว่า เขาคือผู้ศรัทธาพระผู้เป็นเจ้า  ไม่ได้รวมพวกอุตริ นะครับ พูดถึงดดยทั่วไป ซึ่งถ้าความคิดนี้ ผมคิดว่าหลายท่านในที่นี้ และ ตัวของคุณเจ้าของกระทู้เอง ก็คงคิดเหมือนผมในเรื่อง อยากให้ท่านได้รับรู้ ว่าเราศรัทธาท่าน แค่ไหน แต่ผมก็ไม่ได้หวัง ให้เป็นเช่นนั้น การสื่อสารถึงท่านคงจะเป็นไปไม่ได้ ขนาดชาวฮินดูชนแท้ ยังสื่อสารกับพระผู้เป็นเจ้าของเขาเองได้เลยครับ อย่าได้ไปยึดติด กับภารตะฟิมล์มากเลยครับ เขาสร้างมาเพื่อความบันเทิง ครับ

**** เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ จงปฏิบัติ จงศรัทธา จงเชื่อ จงรัก ในพระผู้เป็นเจ้าที่เราบูชานับถือ ก็พอครับ สิ่งที่พิมพ์ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ****



#13
ครับ ในเรื่องประวัติ ผมก็พอ ทราบมาบ้างนะครับ เพราะว่า เคยมีรุ่นพี่ที่ เรียนอยู่ ในเจนไนเคยเหล่าให้ฟัง ในเรื่องอารยะธรรม ขอบคุณมากครับ ที่นำเสนอให้ได้รู้ถึงประวัติครับ
#14
ถูกต้องนะครับ ที่พี่ยีน กับ พี่แม่หญิงฟองแก้ว พูด ผมในฐานะผู้ศรัทธาในเทพเจ้า และก็เป็นชาวพุทธ ซึ่งการบูชาของผมจะขึ้นอยู่ด้วยเหตุและผลทั้งสิ้น ตามที่ได้ดดนสั่งสอนมา และในสมัยนี้ก็จริง ที่คนบางส่วนที่บูชาตามกันเป็นแฟชั่น แล้วนำวัตถุมาเป็นเครื่องยึดติด ผมจึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อให้แง่คิดบางมุมที่ผมปฏิบัติ อยากให้ผู้ศรัทธานั้น คิดให้ดีและ ตระหนักให้มาก ในการที่จะทำการบูชา และอยากให้สมกับฐานะ ความรู้ที่มีในเรื่องนี้ เพราะเราไม่ได้เป็นชาวฮินดูชนในสายเลือด และก็ไม่ได้ร่ำเรียนในเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้โดนปลูกฝังมาในเรื่องนี้โดยเฉพาะ จึงอยากให้ผู้ศรัทธาที่เพิ่งเริ่มบูชาคิดให้ดีก่อนที่จะบูชาพระผู้เป็นเจ้าว่าต้องการอะไรหาหลักในการบูชาให้ดี และวัตถุหรือเทวรูปที่ผมตั้งเป็นกระทู้ ก็อยากให้คิดให้ดี ให้สมฐานะ ให้พอเหมาะ และพอเพียง อย่างบางท่าน ต้องอดเพื่อเก็บเงินซื้อเทวรูป อันนั้นย่อมไม่ผิดที่ต้องการอยากได้ของสวยงาม แต่ถ้าไม่มีความพอดี เมื่อมีองค์นี้แล้ว ไปเห็นองค์นี้ในรูปแบบอื่น ก็มีความต้องการอีก ถูกต้องไหมครับ แล้วต้องอดกันอีกกี่มื้อถึงจะพอกับความอยากที่ตัวเองมี จึงมาให้แง่คิดว่าจะบูชา อะไรก็ขอให้คิดและพิจารณาด้วยเหตุผลให้ดีเสียก่อน ผมว่าท่านก็คงจะคิดเหมือนที่เราคิดจะหาเทวรูปให้สมฐานะของพระองค์ท่านในฐานะลูกผู้ศรัทธาท่านก็คงคิดในฐานะแม่และพ่อว่าสิ่งของที่ลูกหามาให้สมฐานะของท่านต้องแลกมาด้วยการอดของลูกท่านก็คงไม่สบายใจ จึงอยากให้ท่านทั้งหลายอยู่ในความพอดี ดีที่สุดครับ
#15
กระทู้ของผมนี้ เสนอในเรื่อง การบูชาที่พอควร แก่ ตนเอง และฐานะ ด้วยความศรัทธาและความรัก ไม่อยากให้การบูชาเปลี่ยน จากศรัทธา มาเป็น แฟชั่น วัตถุ  นิยมของแพงเกินตัว เกินความเป็นจริง เกินสมควร ไม่ได้หมายความเป็นอย่างอื่นแต่อย่างใด
#16
อ้างอิงคำพูดของคุณพรทิพย์....ตามที่คุณคิดนั้น  มีคนจำนวนอีกไม่น้อยคะที่อ้างว่าบูชาด้วยใจ ซึ่งที่จริงแอบไปทางมักง่ายมากกว่า

bopeep...ใช่ครับที่คุณพูด มีคนจำนวนไม่น้อยครับที่เป็นแบบนั้น แต่ละคนก็มีความคิดแตกต่างกันครับ อันนี้ผมไม่เถียง แต่ความมักง่ายนั้นไม่ใช่ความคิด การไม่ได้ใส่ใจในเนื้อหาที่เขียน ไม่ได้คิดแล้วก็ไตร่ตรองตาม อันนี้สิครับ คือความมักง่าย การบูชาด้วยใจนั้นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สมควร อยากให้คุณลองคิดดูว่า ถ้าเกิดคน ตาบอด มองไม่เห็น แต่ศรัทธาพระผู้เป็นเจ้า อยากถามว่าเขาบูชาเทวรูป หรือว่าเขาบูชาองค์เทพด้วยสามัญสำนึกและจิตที่ตั้งมั่นของเขาครับ
 
อ้างอิงคำพูดของคุณพรทิพย์....เข้าใจนะคะว่าความศรัทธาที่เหลือล้น  ทุกสิ่งอย่างในจักรวาล อนันตจักรวาลคือพระแม่ พระแม่อยู่ทุกที่ทุกแห่ง จะหยิบเอาก้อนหิน เศษกรวด เศษไม้ ฯลฯ มาบูชาแล้วคิดว่าเป็นพระแม่ก็จะเป็นพระแม่ แล้วก็คิดพระเจ้ามีอยู่ทุกที่ สำคัญที่ใจ (ถ้าอย่างนั้นมาร สิ่งชั่วร้ายอยู่ที่ไหนในเมื่อทุกอณูของจักรวาลคือพระเจ้า ? )

 
bopeep...อย่างที่คุณบอกก็น่าคิดนะครับ แต่ผมกลับคิดว่ามนุษย์เป็นผู้สร้างจินตการเรื่องเทพเจ้าขึ้นเพราะเช่นนั้น มนุษย์ก็ย่อมสร้างจินตการเกี่ยวกับมารด้วยเช่นกัน ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้ เป็นพระแม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นมาร ได้เช่นกัน แล้วแต่ จะเลือกทางไหน ระหว่างเทพ กับมาร


อ้างอิงคำพูดของคุณพรทิพย์ ... ถ้าทุกสิ่งอย่างมันง่าย มันสะดวกขนาดนั้น โบราณเค้าจะคิดค้นศาสตร์ด้านการสร้างเทวรูป เทวลักษณะ ปติมาณวิทยากันทำใม


bopeep...ถูกต้องนะครับ ว่ามันไม่ง่าย แต่มันก็ไม่ได้อยาก กว่าที่มนุษย์ที่จะคิดและก็จะพิจารณาในสิ่งต่าง ๆ ในเรื่องเทวรูป เทวลักษณะล้วนแล้วแต่เกิดจากการรังสรรค์ด้วยช่างออกมาในรูปแบบ ที่ผู้ศรัทธาในองค์เทพต่าง ๆ ต้องการ และ ได้ไว้เพื่อบูชา

อ้างอิงคำพูดคุณพรทิพย์...ปัจจุบันเห็นเยอะนะคะ บูชาเอาตัวเองสะดวกไว้ก่อน ไอ้นู่นไม่มี ไอ้นี่ไม่พร้อม แล้วก็ปลอบใจตัวเองกันว่า เอาน่าเราบูชาด้วยใจ (มักง่ายคะ)

bopeep...ถูกครับบูชาที่ตัวเองสะดวกไว้ก่อน อย่าเหมาว่ามักง่ายสิครับ การบูชาตามกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ในกระเป๋า ไม่เดือดร้อนใคร

การบูชาที่ทำให้เราร้อนใจอย่างนี้สิครับแย่และมักง่าย การบูชาพระผู้เป็นเจ้าแล้วมีความสุขขณะบูชา แต่ต้องมานั่งทุกข์กับเงินที่หยิบยืมเขามาบูชา

เอาแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่สุขใจดีกว่าครับ ผมขอเป็นอีกหนึ่งเสียงครับที่เป็นกำลังใจกับผู้ศรัทธาที่ทุนทรัพย์น้อย ถ้าบูชาของไม่อลังการ แต่ว่ามีความศรทธาด้วยใจอันบริสุทธิ์ ที่อยากจะทำให้แด่พระผู้เป็นเจ้าที่เรา เคารพ สรรเสริญ ยกย่อง บูชา แบบนี้สิครับดีที่สุด


อ้างอิงคำพูดคุณพรทิพย์...เรื่องเทวรูปก็เหมือนกัน คุณไม่คิดเหรอคะว่าคนขายเขาก็มักง่ายพอกัน  ไม่มีเทวรูปแม่กาลี ก็อ้างว่า เอานี่ไปสิบูชาแทนได้ พระแม่เหมือนกัน อวตาร   ทุกอย่างเป็นมายา ถ้าคิดว่าศรัทธาชนะทุกอย่าง เทวรูป พิธีกรรม ศาสตร์บูชา ธูป กำยาน เป็นแค่น้ำจิ้มไร้สาระ......

bopeep...นั่นเรื่องของคนขายนะครับ ไม่ทราบเหมือนกัน แต่สิ่งที่ผมได้มาก็ได้มากจากชาวฮินดูชนทางตอนใต้ครับ ในอินเดียตอนใต้สมัยเก่าเขาก็บูชาพระแม่กาลี ในรูปแบบมารีอัมมันอยู่แล้วครับ ไปลองศึกษาได้นะครับ หรือ ไม่ก็ถามพี่กุหลาบขาวก็ได้ เทวรูปที่เป็นลักษณะ พระแม่กาลี แลบลิ้น เหยีบบนพระศิวะ เนี่ยเป็นแบบของช่างปั้นสมัยใหม่ แล้วมันมาถูกใจพวกที่ชอบของแรง หรอกครับ กรุณาศึกษาให้ดีก่อน และอีกอย่างนะครับ ผมไม่ได้บูชาพระแม่ต่าง ๆ ผ่านเทวะรูปครับ แต่ผมผ่านทางมนตราครับ

พิธีกรรม ศาสตร์บูชา ธูป กำยาน สิครับ ยกตัวอย่างที่ละอย่างนะครับ เรื่องพิธีกรรมนะครับ ผมเชื่อและศรัทธาในพิธีกรรมที่มีมานับ 1000 ปี ของชาวฮินดูชนแท้นะครับ ศาสตร์การบูชา ก็ต้องปฎิบัติตามหลักของศาสตร์นั้น ๆ
#17
คุณเสือร้องไห้ก็พูดเกินไป จะมี ซักกี่ท่านครับ ที่คิดแบบนี้ แต่ผม เทวรูป บูชาอะ ครับ ผมมีน้อย แต่เวลาถึงเทศกาล ผมก็จะสั่งปั้น หรือ ซื้อมาเพื่อประกอบพิธี แล้วก็นำไป ลอยน้ำ เหมือนกัน คำว่าพอมันยากนะครับ เพราะความอยากได้มันสูง แต่ก็อยากมาบอก มาเตือน ไม่ให้มันสูงมาก เท่านั้นเอง หรอกครับ ยกตัวอย่างนะครับ บางท่านเนี่ย ที่บ้าน มีเทวรูปราคา รวมกัน เท่ากับ มอเตอร์ไซค์ฟีโน่ คันนึงเลยนะครับ
#18
ที่ตั้งกระทู้นี้ ขึ้นมา เพราะ ผมอยากให้ ทุกคน ที่ศรัทธาในเทพเจ้า ของชาวฮินดู นะครับ ว่า การบูชาเทพเจ้า อะครับ อย่า ยึดติด กับรูปลักษณ์ และก็อย่า สิ้นเปลืองในการค้นหา เทวรูปมาบูชาเลยครับ เอาที่ว่า เราอยากบูชามากที่สุดดีกว่าครับ เพราะจริง ๆ แล้ว ชาวฮินดูชนเขาก็ไม่ได้สรรหา เทวรูปมาบูชาเลยครับ และก็ไม่ค่อย บูชา เทพ หลายองค์ด้วย  จึงอยากให้ประหยัดกันครับ ท่านคงไม่ว่าอะไรหรอกครับ ที่ไม่เช่าท่านมา ถึงไม่เช่าท่านมา ท่านก็ให้พรอันประเสริฐแก่ผู้ศรัทธาอยู่แล้วครับ ผมคิดว่า องค์เทวรูป ควรจะมี เท่าที่สมควรมากกว่า เพราะเราบูช่ากันในบ้าน เราไม่ได้ มีเทวลัย จึงต้องมีเทพเจ้าหลายพระองค์ ผมก็ไม่รู้นะครับ ว่าความต้องการ ใครเป็นแบบไหนนะครับ แต่ถ้า เช่าองค์เทวรูปเพื่อให้เป็นหนึ่ง ให้เป็นที่รู้จัก ให้เป็นผู้ที่คิดว่าแน่ ให้เป็นคนที่คิดว่ามากมาย ด้วยเงินตรา อย่าเลยครับ เสียดายเงิน นำเงินเหล่านั้น ไปเลี้ยงอาหารกลางวันเด็ก หรือไปเลี้ยงเพลพระ หรือเอาไปซ่อมโบสถ์ซ่อมหลังคา ที่วัด ผมว่า หน้าจะเป็นบุญเป็นกุศล มากกว่านะครับ แล้วเทพเจ้าที่เราบูชาก็จะได้รับบุญกุศลที่เราสร้างถวายแด่ท่านด้วย ผมคิดอย่างนี้นะครับ เป็นความคิดส่วนตัว
#19
พี่ยีนส์ ครับ ผมว่านะ ปล่อยไปเถอะ ครับ บางเรื่องอะ จะให้มันได้ ทุกอย่าง ผมว่าเป็นไปไม่ได้หรอก ขนาดนิ้วคนยังไม่เท่ากันเลย จะเอาสิ่งไหนทำให้ สิ่งต่าง ๆ มัน สมดุลได้เล่าพี่ แต่ยังงัย ก็เป็น กำลังใจให้นะ ครับ พี่ยีนส์
#20
จริงครับเห็นด้วยกับทุกคน ครับ เพราะสิ่งต่าง ๆ คือ สิทธิส่วนบุคคลที่จะทำ แล้วทุกคนคงรู้ ว่าสิ่งที่ทำไปนั้น สมควรหรือไม่อย่างไร จะให้ คนหนึ่งคนใด ทำตามคงเป็นเรื่องยากมาก ๆ เพราะเช่นนั้น อยู่กับตัวเองดีที่สุด  ผมว่านะ
#21
ดูแล้วมันจะเป็นเรื่องร้ายแรงเลยนะครับ เรื่องพวกนี้ ยังงัยก็เบา ๆ หน่อยและกันครับ เพราะนี้ คือห้องที่พบปะของผู้ศรัทธาในเทพเจ้าของชาวฮินดูทั้งนั้น ใจเย็น ๆ นะครับ ค่อย ๆ พูดกัน
#22
พรทิพย์อยากทราบว่า การใช้งานในบอร์ดแห่งนี้ มีบางคนใช้ พระนามของเทพเจ้าที่ทุกๆคนในโลกนี้นับถืออยู่ บางคนตั้งชื่อว่าเป็น บุตร บุตรี ของเทพองค์นั้นองค์นี้ พรทิพย์อยากทราบว่าสมควร หรือไม่?

ผมขอเสนอความคิดเห็นนะครับ............. เรื่องนี้ นานา จิตตัง ครับ แล้วแต่ความคิด ส่วนบุคคล ทุกคนในที่นี้ล้วนแล้วแต่มี สมองและปัญญาเท่าเทียม ในการคิด การอ่าน อยู่แล้ว ครับ ผมว่านะ คงจะ คิดกันได้ว่าสมควร ไม่สมควร เรื่องชื่อนะครับ ผมไม่เถียงในเรื่อง ที่ชาวฮินดูชนจะมีชื่อ ตัวเองชื่อเดียวกับเทพเจ้าที่ เคารพ และ ชาวไทยบางคน ที่มีชื่อเดียวกับเทพเจ้า ต้องดูที่เหตุและผลครับ ว่า แต่ละบุคคลเขาคิดกันแบบไหน อาจจะใช้เชื่อให้เป็นสิริมงคล หรือ อาจจะแสดงตนให้คนอื่นรู้ว่าฉันบูชาเทพองค์นี้อยู่นะ หรือจะบอกว่าฉันคือเทพเจ้าเหมือนกันนะ อันนี้ก็แล้วแต่ ความคิดครับ และเรนื่องบุตร ทุกคนอยากเป็นบุตร แห่งเทพทั้งนั้นและครับ แต่บางคนอาจจะแสดงตนว่าเป็นบุตร หรือ บุตรี แห่งท่าน แต่สิ่งนี้ ผมขอนะครับ อย่าเลย มันจะทำให้ชีวิตพวกคุณวิบัติ ครับ ที่คิดว่าตัวเองเป็นบุตรแห่งท่าน อยากให้ใช้เป็นผู้ศรัทธธาดีกว่าไหม จะได้ดูดีกว่านี้ ไม่ได้ว่าใครนะครับ แค่อยากบอก และอีกอย่างนะครับ เราเป็นคนไทยโดยชาติกำเนิด ปละเราก็ ไม่ได้มีสายเลือดของชาวฮินดูชนโดยแท้ เพราะฉะนั้น อย่าเปลี่ยนชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้แต่เกิดเลยครับ มันดูเป็นคนเนรคุณ

เรามารณรงค์ใช้ชื่ออื่นไม่ดีกว่าหรือคะ?

ผมขอเสนอความคิดเห็นนะครับ...........อันนี้เราก็พูดไม่ได้นะ ต้องแล้วแต่ความคิด และ วิจารณญาณ ของแต่ละบุคคล เราไปบังคับใครเขาไม่ได้หรอกครับ แต่เราก็อย่าทำและกัน

และอีกอย่างที่ยังติดข้องอยู่ในใจพรทิพย์ก็คือ บางคนใช้ รูปภาพของเทพแทนตัวเอง ไม่ทราบว่า จะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ พรทิพย์รู้สึกใจคอไม่ดีเลยนะคะ
 

ขอเสนอความคิดเห็นนะครับ..... มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ ถ้าเราคิดว่ามันไม่สมควรเราก็ไม่ต้องทำ แต่จะให้คนอื่นมาคิดเหมือนเราก็เป็นเรื่องยาก ฉะนั้น ขอให้ปล่อยวางครับ
#23
ขอเสนอความคิดเห็นหน่อยนะครับ เป็นความคิดส่วนตัวนะครับ มารีอัมมัน คือเทพประจำเมืองหรือประจำท้องถิ่นในอิเดียใต้ อะครับ และอีกส่วนหนึ่งนะครับ ชาวอินเดียใต้เนี่ย จะบูชาพระแม่กาลี ผ่าน รูปลักษณ์แห่งพระแม่มารีอัมมันแล้วแต่เดิมครับ ผมคิดว่าเรื่องเทวะรูป คือความเชื่อ ความศรัทธา ความคิด และความเป็นศิลปะของจิตกร แล้วบรรจงลวดลาย และรูปลักษณ์แห่งพระองค์ ออกมาให้มีตัวตันแบบนั้น แบบนี้ มากกว่า นะครับ สำหรับผมเมื่อก่อนก็อยากรู้ที่มาขององค์เทพมากนะครับ เมื่อผมเริ่มบูชา แรก ๆ ผมก็ได้ ไปเชนไน มา และก็ได้เช่าเทวรูปมา องค์หนึ่ง ซึ่ง ผมบอกกับเขาว่า อยากได้พระแม่กาลี แต่เขาก็หยิบองค์พระแม่มารีอัมมันมาให้ ทีแรกก็งง แล้วก็มีคำพูดคำหนึ่ง สะกิดมาว่า เชื่อไหมหล่ะว่าองค์นี้คือพระแม่กาลี ถ้าเชื่อองค์นี้ก็คือกาลี หลังจากนั้น ผมจึงเลิก เจาะจงองค์เทพว่า องค์นี้ต้องเป็นอย่างนั้น องค์นั้นต้องเป็นอย่างนี้ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้ว แต่เกิดจาก การจินตนาการของมนุษย์ ทั้งนั้น ผมคิดว่าเทวรูปที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ที่ไม่สามารถสัมผัสเศษเสี้ยวแห่งขุมพลังของเทพเจ้าได้เรากำลังสวดมนตราให้กับเทพองค์ใดอยู่ เรากำลังถวายเครื่องบวงสรวงกับเทพองค์ใดอยู่มากกว่า เราจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้นถึงท่านไหม
สำหรับมนุษย์ผู้ยึดติด ใน รูป รส กลิ่น เสียง มากกว่า ครับ นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวครับ

ข้าพเจ้าของบูชา พระแม่ศักติ ทั้ง ในดิน ในน้ำ ในอากาศ ในมหาสมุทร สุดขอบจักรวาล

โอม ศักติ ปารา ศักติ
โอม ศักติ ปารา ศักติ
โอม ศักติ ปารา ศักติ
โอม ศักติ ปารา ศักติ

ข้าขอบูชา เดวีทิเทพ พระศักติ-ศิวา พระนามของท่านช่างมากมาย เพราะพระแม่คือ ทุกสิ่งแห่งจักวาล
#24
ผมขอเสนอความคิดเห็นนะครับ แต่ ไม่ใช่เรื่องที่พูดกันนะครับ ขอพูดถึงเรื่อง สี่แยก ราชประสงค์ ทุกท่านในที่นี้ คงจะรู้ว่า สี่แยกราชประสงค์ คือ สี่แยกเทวดา ถูกต้องไหมครับ การที่ สี่แยกนี้ เกิดขึ้นขึ้นเนื่อง ด้วยการที่ สี่แยกนั้น มี เทรูปมามาย โดยที่ผู้ที่ก่อสร้าง เชื่อในพลังแห่งเทพเจ้า จึงสร้าง ขึ้น เนื่อง ด้วยเอาไว้ทานพลังแห่งกัน และกัน จะได้ไม่ให้พลัง อีกฝ่าย ทำลาย อีกฝ่าย นะครับ ไม่เชื่อ ก็ลองสำรวจดูนะครับ ว่าจริงไหม ไปดูได้นะครับ ว่าทุกตำแหน่งของเทพเจ้า จะ ประจันหน้า กันอยู่เลย ยกตัวอย่างเช่น พระตรีมูรติ จัตั้งประจันหน้ากับ พระพรหมฝั่งตรงข้าม และยังมีอีกหลายองค์เลยครับ อย่างเช่นนารายณ์ ทรง สุบรรณ พระแม่ลักษมี อีก เยอะเลย ครับ อันนี้เป็นความรู้ที่ผมเคยได้ยินมานะครับ อาจจะถูกต้องหรือ ผิด ผมก็ไม่รู้ แต่ที่ สังเกตุ และ ด้วยเหตุผลที่ เขาบอกมาก็น่าเชื่อเหมือนกัน
#25
ขอเสนอความคิดเห็นกระทู้นี้ ด้วยคนนะครับ เพราะเป็นกระทู้ เกี่ยวกับปางนี้ โดนใจมาก ๆ เลย เพราะ ผมเป็นคนบูชา พระศักติ-ศิวา อยู่แล้ว แต่เดิม นะครับ อยากจะบอกว่า เห็นด้วยทั้ง พี่ยีนส์ และ พี่โอม และอีกหลาย ๆ คนคิดว่า เป็นอย่างนั้น และอย่างนี้ แต่ความเชื่อของผมคือ ปางนี้ คือ
ปางศักติ-ศิวา แบบ ฟันธง ของผมเอง และปางนี้ ที่ผมเชื่อ คือ ขุมพลัง ทั้งหมดแห่งจักวาล และ ธรรมชาติ ปางนี้ คือ การก่อกำเนิดแห่งจักรวาล ทั้งหมด ปางนี้ คือปางซึ่งก่อให้เกิด มนุษย์คนแรก ปางนี้ บ่งบอกถึง การสืบเชื้อสาย ของเผ่าพันธุ์ ปางนี้บ่งบอกถึง พลังแห่งชายและหญิงซึ่งเป็นของคู่กัน ปางนี้บ่งบอกถึงความไม่มีตัวตนแห่งมหาเทพ ปางนี้บ่งบอกถึงความไม่ใช่เรา หรือเธอ แต่บอกถึง ว่าเราคือเธอ เธอคือ เรา ปางนี้คือ ทุกสิ่งทุกอย่าง แห่งขุมพลังทั้งปวง ปางนี้คือ ปางที่ ก่อให้เกิด องค์เทพต่าง ๆ ที่เราบูชา แม้เพียงได้บูชาปางนี้ เสมือน ได้บูชา เทพ ทั้งปวง ไม่ว่า จะอยู่ในดิน ในน้ำ ในอากาศ ในมหาสมุทร สุดขอบจักรวาล แล้ว พลังแห่งท่าน คือพลังทั้งหมด ครับ ในความเชื่อของผม ผมขอเชื่อแบบนี้นะครับ 
#26
ขอเสนอความคิดเห็นหน่อยนะครับ ถ้าเป็นความเชื่อทางไทย นะครับ เรื่องของบูชา ถ้าถวายเครื่องบวงสรวงแล้ว แมลงวันตอม จะถือว่า เครื่องบวงสรวงนั้น ได้โดน เปรต สัมภเวสี รับไปแล้ว แต่ถ้า มดขึ้น หมายถึงว่า เหล่า ครูบาอาจารย์ หรือ ทวยเทพ ได้มารับ เครื่องบวงสรวงนั้น แล้ว อะครับ ไม่รู้ว่าจะใช่หรือเปล่าในเรื่องนี้ แต่ก็ได้ยินมาอย่างนี้ ก็มาเล่าสู่กันฟัง ขอบอกนะครับ ว่าเป็นความเชื่อ
#27
Quote from: balloon101 on June 09, 2010, 19:43:15
ก็ศึกษาดีแล้วคับก็เลยอยากเอาท่านมากบูชาเพราะเป็นตังค์ของตนเอง
ครับ พี่ก็ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องเงินของน้อง เพราะพี่ก็ไม่รู้ว่า จะเป็นเงินน้องหรือเป็นเงินใคร ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย แต่ที่บอกก็เพราะเป็นห่วง อยากให้รู้จริง ๆ ไม่ใช้ เป็นคนแบบ กูรูดี รู้แต่รู้แบบผิด ๆ ทำให้ชีวิตตัวเอง เป็นอัปมงคล แล้วพี่ก็ไม่ได้ใส่ใจด้วย ว่าน้องจะเป็นผู้มีเงินมาจากไหน ไม่ได้สำคัญแล้วมันก็ไม่ได้ทำให้พี่ดีขึ้น หรือแย่ลง กว่าที่เป็นอยู่ แต่ที่ทำให้มันต่ำคือจิต ใจ ที่ช่วยแนะนำ แล้วเป็นอย่างนี้ ไม่คิดว่าน้องจะอวดดีได้ขนาดนี้ ถ้าคิดว่า จะทำ ก็ทำเถอะ อย่าถามใครเขาเลย เก่งแล้ว แต่พี่ก็ให้อภัยนะ ถือว่าไม่รู้ แล้วพูดโดยที่ไม่ได้ คิด ถ้าน้องโตกว่านี้นะ คงจะโดนไม่ใช่น้อย แต่ครั้งนี้ให้อภัยนะ ครับ เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องเป็นราว และอีกอย่านะครับ คุณน้อง ถ้าน้องเที่ยวซื้อองค์เทพบูชาทุกองค์ที่น้องเคารพ น้องไม่ต้องซื้อบ้านใหม่เอาไว้ตั้ง เทวรูปเลยหรอ หัด คิดด้วย พี่ว่าน้องคงมีสมอง ในการ พิจารณา สิ่งเหล่านี้ เพราะตัวพี่เอง ยังต้องคิดเลย เพราะพี่เป็นผู้ที่บูชา เทพสาย พระแม่ ไม่งั้น มีพระแม่กี่องค์พี่ไม่ต้องเช่า ทุกองค์เลยหรอ คิดก่อนนะจ้ะ เพราะว่า ถ้าเป็นความคิด อันไม่ได้ไจตร่ตรอง อย่างน้องเนี่ย มี ล้าน ก็หมดล้าน ด้วยความหวังดี [/SIZE][/COLOR]
#28
นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

ข้อ1. เป็นพิธีกรรมส่วนตัวของพราหมณ์ ที่คนนอกไม่สามารถดูได้ และอีกอย่างหนึ่งคงกลัว พวกร่างทรง จะไปแอ้แอ๊บ แอบจำ และแอบ ลอกเลียน แบบ แอบนำมาเป็นพิธีกรรมของตัวเอง มั้งครับ
#29
พี่ว่านะครับน้อง อย่าพึ่ง หักโหม ในการบูชาเลย ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปดีกว่า นะครับ เพราะหลาย ละเอียดในการบูชา มันมีอีกมาก นะครับ ค่อย ๆ ศึกษา หาความรู้ไป เรื่อย ๆ ดีกว่า ครับพี่ว่า
#30
ผมขอเสนอความคิดเห็นส่วนตัวเลยบ้างนะครับ ที่ผมทราบมานะครับ การอารตี ส่วนมากจะไปทำกันที่วัดเสียมากกว่า สำหรับ พิธีกรรมของฮินดูชน เพราะการอารตี จะต้องมีองค์ประกอบ ให้ครบ 9 อย่างถึงจะเรียกได้ว่านั่นคือ พิธี อารตี แต่ที่ผมทำผมจะเรียกว่า การถวายอัคคี หรือ ถวายไฟมากกว่า เพราะการถวายไฟ ที่ผมรู้มาเราสามารถ ทำได้ในบ้าน ครับ เพื่อตัดปัญหาเรื่องการอารตี นะครับ ผมคิดว่า เปลี่ยนจากการอารตีไฟ มาเป็น ถวายไฟดีกว่าไหมครับ จะได้ไม่ต้อง ทะเลาะกันเรื่อง ทำได้ หรือทำไม่ได้
#31
ขออนุญาตนะครับ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ขอบอกว่าส่วนตัวจริง ๆ ตัวผมคิดว่า มนุษย์เราไม่มีสิทธิ์ที่จะได้แต่ต้องท่านเลยแม้แต่องค์เทวะรูป ที่เป็นตัวแทนแห่งท่าน เวลาผมจะเจิมแป้งหรือถวายแป้งให้ท่าน ผมทำแค่โปยไปที่ปลายเท้าท่านเท่านั้น เพราะผมคิดว่ามนุษย์เราทำได้แค่นี้ จริง ๆ มิอาจเอื้อมเอามือ อันสกปรกโสมม ไปเจิมที่กลางหน้าผากท่านเลย คืดแล้วดูจะบาปอย่างมาเลยครับ
#32
ผมขอพูดและแสดงความคิดเห็นนะครับ พระอินทราราชในคติไทยนะครับที่ได้เรียนรู้มาท่านทรงช้างเอรวัณแค่หนึ่งเชือกนะครับ ช้างเอรวัณคือสิ่งที่บ่งบอกความยิ่งใหญ่แห่งองค์อินทร์ เนื่องด้วย จริง ๆ แล้วช้างเอรวัณไม่ได้มีเศียรแค่สามเศียร จริงแล้ว

ช้างเอรวัณ มี 33 เศียร ในแต่ละเศียร มีงา อยู่ 7 งา ในแต่ละงา มีสระบัว อยู่ 7 สระ ในแต่ละสระ มีดอกบัว อยู่ 7 ดอก ในแต่ละดอก มีนางฟ้า อยู่ 7 องค์

ลองคิดเล่น ๆ กันดูนะครับ ว่าช้างเอรวัณจะ ตัวใหญ่ขนาดไหน แต่ที่เห็นกันว่าท่านมี สามเศียร เพราะอาจจะทำให้ดูสวยงาม นี่คือความคิดนะครับ 
#33
ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ (อันนี้เป็นความคิดเห็นของผมเองนะครับ ผมเป็นคนที่บูชาสายพระสดาศิวา - ศักติ นะครับ)

การกำเนิดพระวิษณุ พระวิษณุกำเนิดจากการกวนเกษียรสมุทรของพระสดาศิวะ

การกำเนิดพระพรหม พระพรหมกำเนิดจากการที่พระวิษณุบรรทมสินธุ์ และมีดอกบัวพลุดออกมาจากสะดือของพระนารายณ์และมีสายยาวขึ้นไปบนสวรรค์เมื่อดอกบัวบานออกในดอกบัวนั้นก็มีบุรุษอยู่ผู้หนึ่งนั้นคืดพระพรหม

การกำเนิดมนุษย์คนแรก มนุษย์คนแรกถูกสร้างขึ้นโดยพระพรหมมีเพศเป็นชาย

การกำเนิดสตรีคนแรก สตรีคนแรกของจักรวาลคือพระสรัสวตีนั่นด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อพระพรหมสร้างมนุษย์ผู้ชายคนแรกขึ้นมาแต่มนุษย์ไม่สามารถขยายจำนวนให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้ จึงกราบทูลต่อองค์สดาศิวะในเรื่องนี้ พระสดาศิวะจึงทรงให้พระศักติทำการเข้ารวมร่างกันเป็นหนึ่งเดียว ทำให้พระพรหมนั้นเข้าใจ และทูลให้พระศักติ สร้างสตรีขึ้นมายังโลกนั่น คือพระสรัสวตี

การกำเนิดพระแม่ทั้งสาม พระแม่ทั้งสามเกิดจากการอวตาร แห่งพระแม่ศักติ - ศิวา พระแม่ลักษมีเกิดจากพระหัตถ์ซ้าย พระแม่สรัสวตีเกิดจากพระหัตถ์ขวา และพระแม่สตี หรือ พระแม่ปราวตีเกิดจากดวงจิตแห่งท่าน

การกำเนิดพระศรีคเนศ พระคเนศกำเนิดจาก พระแม่ปราวตีนำเหงื่อใครมาสรรสร้างให้เป็นสาวกแห่งท่าน

การกำเนิดพระขันธกุมาร กำเนิดจากดาวราศรี ซึ่งเมื่อครั้งที่อสูรตนหนึ่งได้รุกรานสวรรค์และอสูรตนนั้นได้รับพรจากพระพรหม ว่า จะไม่มีใคร ทำลายชีวิตตนได้นอกจากลูกชายที่กำเนิดจากองค์ศิวะเทพ จึงทำให้เหล่าเทพ เทวา ทูลของพระศิวะให้มีบุตร พระขันธกุมารจึงถือกำเนิดขึ้น

การกำเนิดพระแม่ซันโตชี ผมก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่า พระแม่ท่านเป็นบุตรีแห่งพระศรีคเนศ  ผมเคยดูในภารตะฟิมล์เกี่ยวกับพระแม่เหมือนกันท่านก็กำเนิดจากพระศรีคเนศ เนื่องด้วยพระขายาทั้งสองอยากมีบุตรีจึงใช้ดวงจิตของพระชายา สร้างพระแม่ขึ้น พระแม่กำเนิดขึ้นในดอกบัว คับที่จำได้นะ และพระแม่ก็ได้มีหน้าที่ดูแลสายพระคงคาสายหนึ่งในอินเดียใต้ ถ้าจะไม่ผิดนะ

ขอแค่นี้และกันครับ

ป.ล.ผมไม่ใช่ผู้รู้นะครับ แค่ได้อ่านผ่านตามาบ้าง ผมไม่รู้จะขอบคุณใครนะครับ งั้นก็ขอขอบคุณ หนังสือทุกเล่มที่ผมอ่าน และก็ www.google.com ด้วยและกันครับ



#34
งั้นดูความคิดเห็นของผมบ้างนะครับ ส่วนผมเนี่ย จะมาทาง ไศวนิกาย กับ ศักติ คือ บูชา พระศิวะ และพระแม่ ผมเป็นคนที่บูชา เทพฝ่ายชายแค่ 3 องค์เท่านั้น คือ พระสดาศิวะ พระคเนศ และพระขันธ์ ในความคิดของผมคือ พระสดาศิวา-ศักติคือ พระบิดาและพระมารดาแห่งตรีจักรวาล ด้วยคำถามที่ว่า ทำไมเทพองค์อื่นไม่มีบุตร ด้วยเหตุผลที่ว่า นะจะเป็นบทบาทในเรื่องของเทพฮินดู วะมากกว่า คือ เทพองค์ใดมีบทบาทมาก หรือมีผู้บูชามาก ก็จะมีประวัติและที่มาให้ได้เรียนรู้เยอะ แต่เทพที่ไม่ได้มีบทบาทมากนัก ก็จะมีประวัติให้คนหาน้อยอะครับ และความคิดส่วนตัวนะครับ การที่เทวปกรณ์ที่แสดงให้เห็นว่าองค์เทพ มีบุตรหรือธิดานั้น เป็นการให้มองถึงการดำรงไว้ซึ่งเผ่าพันธ์ของมนุษย์ ว่าจะต้องมีทายาท เพื่อสืบสกุลไม่ให้มนุษย์หมดไปจากโลก
#35
"โอม นมัส ศิวา" แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนะครับ ผมว่า และหม้อคุณเนี่ยครับ เป็นหม้อของใคร ถ้าเป็นหม้อของพระแม่ ก็น่าจะบูชาด้วยการสวด ด้วย มนต์ที่ว่า "โอม ศักติโอม"
#36
เรื่องทุ่มมะพร้าวนะครับ ตามความเชื่อบางท่าน ในประเทศไทยที่ ผมสอบถามมา แล้วเขาเล่าให้ฟังนะคีรับ นั่นคือ ด้วยพระนามศักดิ์สิทธิ์ แห่งพระแม่มหากาลี เมื่อได้เอื้อนเอ่ย พระนามท่าน หรือเชิญท่านลงมากยังโลกมนุษย์ต้องแลกด้วยชีวิต 1 ชีวิต นั่นเป็นกฎที่เลี่ยงไม่ได้ แต่การจะฆ่าชีวิต 1 ชีวิต เพื่อสังเวย พระนาม เป็นอะไรที่โหดร้าย และบาปมาก เพราะเราเป็นเมืองพุทธ และพระนาง ก็ไม่ได้ยินดีให้มีการฆ่าผู้บริสุทธิ์ อยู่แล้ว เพราะพระนาง ฆ่าแต่อสูร เพราะเช่นนั้น เขาเลย สร้างให้มะพร้าว 1 ลูก เท่ากับสิ่งมีชีวิต 1 ชีวิต เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เพื่อเชิญท่านลงมา แทนการฆ่าชีวิต อันนี้ ผมก็ไม่รู้ จริงเท็จแค่ไหน แต่คิดแล้วมันก็เป็นเหตุผลที่ฟังแล้วรู้สึกดี และสอดคล้อง แต่ก็ไม่คิดว่าถูก เพราะเราไม่รู้ ถ้าใครรู้เรื่องปามะพร้าวก็บอกด้วยและกันครับ 

ส่วนเรื่องถือศีลให้พระศิวะ 19 ข้ออะครับ ถ้าใช่ มันเป็นเทวปกรณ์ ของพระพรหมไม่ใช่หรอครับ ผมไม่แน่ใจ ถ้าใคร มีข้อมูล เอามาลงด้วยนะครับ จะได้ทำให้เขาตา สว่าง ตื่น จากความฝันสักที
#37
ที่เคยได้ยินมามีแต่นาราซิมฮา เคย พระนรสิงห์ ไม่เคยได้ยินนาราซิมฮี เลยครับ ความรู้ใหม่ จริง ๆ เคยแต่ได้ยิน ชื่อ พระแม่ปรัตยันกีรา กับพระแม่ พิริทแยงกีรา
#38
งั้นผมก็ต้องขอโทษคุณเสือด้วยและกันครับ ที่เข้าใจผิด ในความคิดของคุณเสือ และก็โอเคนะที่คุณเสือ มาชี้แจงให้รู้ ชอบครับ มี่แจกแจงให้ฟัง จะได้ไม่เข้าใจผิดอีก ยังงัยก็ขอโทษคุณเสือด้วยและกัน แต่ขอบอกว่า ความแรงยังคงอยู่ แต่ผมเป็นคนที่ไม่ชอบโพสอยู่แล้ว ถ้ามันไม่ขัด จิต จริงๆ
#39
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับเรื่อง พระแม่ถือศลีถวายพ่อ 19 ข้อ ผมเกิดไม่ทันและคนข้างกายผมก็คงจะเกิดไม่ทันเช่นกันเพราะไม่มีใครรู้ เรื่องนี้ ยังงัย ช่วยบอกด้วยนะครับ ว่า 19 ข้อ มีอะไรบ้าง แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับการทุ่มมะพร้าว
#40
Quote from: durgakali on April 04, 2010, 14:32:12
ไม่ไช่คับ เป็นการบูชาพระแม่กาลีเก้าปางคับ อัมเบ กาลี คนแขกจะเรียกว่า เการี หรือ โกรีคับ
[/SIZE][/B]

รู้สึกว่าจะอิน กับพระแม่กาลีมากเลยนะครับ ไม่ว่าเห็นอะไรก็เป็นพระแม่ไปซะหมด ผมไม่เถียงนะครับ เรื่องความยิ่งใหญ่ของพระแม่เพราะผมก็เชื่อและศรัทธาในตัวท่าน มาก แต่ก็ต้องแยกแยะออกนะครับ ว่าอะไรเป็นอะไร คิดถึงหลักควมเป็นจริงบ้าง อะไรบ้าง นะครับ อย่าเอาความคิดตนเป็นใหญ่ กาลีคือ กาลี ไม่ใช่ เการี เข้าใจซะใหม่ด้วยนะครับ เพราะ พระนามของพระแม่ ดรุกา นอกจาก จะมีอัมพิกา แล้วก็จะมีเการี นี่แหละครับ ถ้าผมจำไม่ผิดเพลงนี้ เป็นเพลง อารตีด้วยซ้ำไป