Messages

สิ่งที่คุณวาดนั้น ล้านแล้วแต่เป็นเทพชั้นสูง และวาดได้สวยงามมาก  ขอชมเชย

น่าจะเป็นพระแม่นารายานี คับผม

เท่าที่รู้มา การจุดประทีป ( deepam ) นั้น เป้นการจุดเพื่อสักการะ ไม่ได้แสดงว่า พระเจ้าองค์ไหนจะมีความร้อนมากขึ้น ใจร้อนขึ้น เหมือนกับงาน ดีปาวาลี ก้อหมายถึงการจุดดวงประทีป ในบ้านหรือตามวัด เพื่อให้พระแม่ลักษมีมาสถิตอยุ่ที่ดวงไฟ เพื่อให้เป็นสิริมงคลด้วย ดวงไฟนั้นปัจจุบันในห้องพระแม่ของวัดต่างๆในอินเดียและประเทศไทย ก้อยังจุดอยุ่ในปัจจุบัน ลักษณะเหมือนกับว่าท่านยังคงอยุ่ พูดง่ายๆ เหมือนกับว่าท่านมาตัวตนจริงๆ อย่างที่เราเชื่อถือคับผม

ทางเหนือเรียกพระแม่องค์นี้ว่า คือ พระแม่ อันนาปูรานา แต่ทางอินเดียตอนใต้เรียก พระแม่ว่า พระแม่วิสารัคชี เพื่อแสดง ความศักดิ์สิทธิ์ในศักติ ปรือปาฏิหารของพระแม่ คนอินเดีย จะหมายถึง คำว่า SAKTHI PEETHAS นั่นเอง

จำได้ว่า เมื่อปีที่ผ่านมานั้น มีคนไปจองพื้นที่เอาไว้ก่อนที่จะเริ่มงานก่อนตั้ง1 อาทิตย์ด้วยซ้ำ ถึงขนาดที่ว่าจองกันไว้ขายเลยทีเดียว ทั้งที่ที่ไม่ใช่หน้าบ้านตัวเองด้วยซ้ำ

ที่พาหุรัดมีแน่คับผม ตั้งจิตดีๆ  เดี๋ยวก้อเจอ คับ

อีกชื่อหนึ่งเราจะเรียกกันว่า mal muruga หมายถึง ความยิ่งใหญ่ของพระมุรุกา และปางนี้ เป็นอีกครั้งหลังจากที่พระขันธุ์มาร ทรงแข่งเดินทางรอบโลกทั้งสาม ความว่า "ใครกันที่สามารถเดินทางรอบโลกทั้งสามโลก 3 รอบได้เร็วกว่ากัน" การแข่งกันครั้งนี้ ได้แก่ พระขันธุ์กุมารแข่งขันกับพระพิฆคเนศ โดยมีฤษีนารัทเป็นพยาน และผู้ชนะนั้นจะได้ผมมะม่วงที่ฤษีนารัท นำมาถวายให้แก่ พระศิวะและพระแม่ปารวตีในครั้งนั้น ปรากฏความว่า พระพิฆคเนศชนะการแข่งขัน ด้วยการวนรอบบิดาและมารดา ตามที่เราๆ เองก้อคงเคยได้ยินถึงพระปรีชาสามารถแล้ว แต่ครั้งนี้พระขันธุ์กุมารทรงไม่พอพระทัยเป็นอันมาก ถึงขนาดกับ ลั่นวาจาว่า "จะนำเรื่องนี้ไปป่าวประกาศให้ทั่วทั้งสามโลกถึงความอยุติธรรมครั้งนี้" จากนั้นจึงเดินมุ่งหน้าในแคว้นทมิณ ช่วงในการเดินทางไปนั้นก่อนถึง พระศิวะและพระแม่ปราวตี รวมทั้งพระพิฆคเนศด้วย ทรงเกลียกล่อมให้สงบพระทัยแต่ก้อทรงไม่ยอมอยุ่ดี หลังจากนั้นก้อทรงประทับด้วยนกยูง ลงไปทางใต้ของอินเดีย พอเหล่าคณะเทวดาสืบทราบและตามข่าว ว่า พระขันธุ์กุมารไปบำเพ็ญเพื่อระงับและสงบสติอารมณ์และระงับความละอายในสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นในป่าและไม่สุสิงกับผู้ใด ในรูปลักษณ์ของฤษี(ไม่ได้แต่งองค์ทรงเครื่องอย่างที่เห็น) เหล่าคณะเทวดาจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลแพ่พระศิวะและพระแม่ด้วย  พระศิวะและพระแม่จึงทรงให้สร้างเทวาลัยซึ่งก้อคือ ปาลานี มาไล ในปัจจุบันนี้ ครับผม นี่คือที่มาครับผม ปางนี้ จึงไม่มีเครื่องอะไรมากมาย ก้อแค่เครื่องทรงในการบำเพ็ญแก่พระศิวะนั่นเอง

ในแต่ล่ะเทวาสถานของพระขันธุ์นั้น จะมีความพิเศษ อีกด้วยน่ะคับ

ศรัทธา และ สติ สมาธิ ปัญญา ความดี ความจริง(ปัจจุบัน) จะทำให้ทุกท่านไม่เกิดข้อสงสัยใดๆ แล้วสิ่งต่างๆ นั้นจะเกิดขึ้นเองด้วยศรัทธาเป็นตัวก่อ

คนเรารู้ว่าผิดก้อค่อยๆ แก้ไปน่ะคับผม รู้ไว้ใช่ว่าครับผม ไม่ผิดเสมอไปคับ

ไปดูพื้นที่เนิ่นๆ ก่อนวันงานแห่พระแม่ ดูว่าจะเป็นพื้นที่เดิมของ ษานุศิษย์ท่านอื่นไหม และควรจะไป ก่อนก้อดี เพราะว่า บางท่าน เป็นสัปดาห์เลยครับผม

เดิมทีมีเทวลัยของพระขันธุ์กุมาร ทั้งหมดหกแห่ง ตามตำนาน ก้อเลยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คล้ายวัดบ้านเรา ครับผม

ก้อขอให้เจ้าของเวปไซด์และสมาชิกทุกท่านมีแต่ความสุขในวันสงกรานต์นี้

ตามความเป็นจริง ก้อจะบอกได้ว่า พระเจ้าองค์ใคก้อเหมือนกัน ไม่ต่างกัน เรา คือ มนุษย์น่ะครับ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรทำ สำหรับผมเอง คือ หากว่าจะบูชา พระเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งก้อ ทำไปตามสมควร น่าจะเป็นการดีกว่า ให้มานั่งแตกแยกกัน เพราะหากไม่อย่างนั้น เทพบางองค์ อวตาร ลงมา ดุบ้าง ร้ายบ้าง ไม่ต้องมานั่งแบ่งกันหรือครับ ว่าองค์นี้ดีกว่า องค์นี้ไม่ดี ไม่ต้องบูชาแล้ว อยากให้ยึดถึงหลักศาสนาน่ะครับจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น น่ะครับ ยึดปัจจุบันเข้าไว้ครับผม

ขออนุญาติตอบ ว่าใช่อย่างที่ว่า เราเองมิใช่พรามหณ์ แต่อย่างใดจึงไม่สามารถจะกูณฑ์หรือการบูชาไฟ เพราะในฐานะแล้วเราไม่ใช่นั้นคิอเรื่องจริงคับผม ซึ่ง ผมก้อได้ยินมาอย่างนั้น เหมือนกัน การสวดนั้นต้องเป็นไปตามแบบฉบับของมนตราต่างๆ ใน หลักของผูที่กระทำหน้าที่บูชาเทพทั้งปวง การสวดเพียงบทสวดอย่างเดียวนั้นก้อใช่ถูกต้องเสมอไปครับผม

พระแม่ วาราฮิ พระพักตร์เป็นหมูป่า พระวรกาย สีดำ เกิดมาจาก พระแม่จันฑิกา หนึ่งใน สายศักคินิกาย นอกจากศาสนาฮินดู ทางเนปาลก็ยังบูชาท่าน

พระแม่องค์นี้มีพาหนะเป็นควาย พระแม่สี่กร บางตำนาน ชื่อ มัสยาปุราณา ได้เขียนไว้ว่า เกิดจากหยดเลือดของพระศิวั อีกด้วยน่ะค้าบ ทราบมาเพียงเท่า

นี้

นับจากด้านในส่วนของพระแม่ก่อน

เป็นพระแม่ที่เป็นคนพัดวี คือ พระแม่วิชญาณี และ พระแม่พิชญาณี

ด้านวงใน คือ พระแม่ลักษมี พระแม่สรัสวดี

ชั้นที่สอง คือ จากซ้าย  พระพรหม พระวิษณุ  พระทักษะ และ สุดท้ายคือ พระสาดาศิวะ

ชั้นาสุดท้าย คือ เหล่าคณะเทพ และเทวดานพเคราะห์ ตรงกลางคือ พระคเนศ และ พระขันธุ์กุมาร

คนรักพระขันธุ์ และ เทพเจ้า และ มหาเทวี ก้อ มาเม้ม กันได้คับ ไม่ได้แบ่งแยกน่ะคับ

dandayudhapani  คือ หนึ่งใน พระนามของพระขันธุ์กุมาร คร้บผม

ABIRAMI AMMAN คือ ปางหนึ่ง ของ พระแม่กาลี ในทางใต้ของอินเดีย คับผม

[การฝันเห็น เทวรูป ใน นิมิตรฝัน หรือการ ระลึกถึงนั้น ในรูปลักษณ์ของ เทพเจ้านั้นๆ ย่อมได้ ศิริมงคล ทุกครั้ง ที่ได้พบเจอ หรือ ฝันเห็นเสมอ]

การฝันเห็น เทวรูป ใน นิมิตรฝัน หรือการ ระลึกถึงนั้น ในรูปลักษณ์ของ เทพเจ้านั้นๆ ย่อมได้ ศิริมงคล ทุกครั้ง ที่ได้พบเจอ หรือ ฝันเห็นเสมอ

รูปบนหากว่าจำไม่ผิด นี่ คือ พระแม่ ปรเมศวรี

รูปด้านล่างนั้น คือ พระแม่นารายานี

สวยมากคับ