Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - Fluorine

#1
ลองไปหาเทวรูปที่ เจเจมอลล์ดูครับ มีอยู่ร้านนึง เอาเทวรูปอียิปต์เข้ามาบ่อยๆ :)
#3
Quote from: �เฟิร์ส—♀คิต} on March 07, 2011, 17:20:07
Quote from: น้อมบูชาพระแม่ทุรคา on March 07, 2011, 17:12:04
ผมเคยได้ยินมาแต่พระแม่ตาราอ่าครับ ไม่ทราบว่าพระองค์เดียวกันป่ะครับ

ขอบพระคุณล่วงหน้าคร้าบบบบบบบ

แต่พระแม่ตาราของอินเดียจะคล้ายพระแม่กาลีมากเลยคับ



พระตารา กับพระกาลี ทั้งเทวรูป ทั้งสิ่งที่พระองค์อุปถัมภ์ คนละเรื่องกันเลยครับ
#8
ถ้าในฉบับที่ฉายในโรงภาพยนตร์จะมีเรื่องของชิวหาด้วยครับ
พอเอามาฉายทางช่องเก้าแล้วตัดออก คงจะต้องการให้กระชับมากขึ้น
#9
นิทานก็ส่วนนิทานครับ

เต่าเดินช้า กระต่ายวิ่งเร็ว ข้อนี้เป็นความจริง

ไม่เคยมีเต่าและกระต่ายตัวใดในโลกมาวิ่งแข่งกันดังในนิทาน

อ่านเทวปกรณ์แล้ว พึงพิจารณาด้วยครับ
#10
ขอบพระคุณมากครับ

ไว้เก็บสตางค์ได้แล้วจะสอบถามอีกทีครับ
#11
สวยมากครับ

ผมอยากเห็นภาพของเทวรูปแบบหน้าตรงชัดๆ แบบยังไม่ได้แต่งได้มั้ยครับ

แล้วซื้อจากที่ไหนครับ ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ ผมเห็นแล้ว ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น

ขอบพระคุณมากครับ
#12
ขอพระเมตตาของพระผู้เป็นเจ้าขจัดความเกลียดชังที่เกิดขึ้นในจิตใจของคนไทย อันมีแก่กันและกัน

#14
@คุณ aratepavane

ข้อความที่คุณแสดงความคิดเห็นนั้น ผมเห็นด้วย แต่ไม่ทั้งหมด
การที่จะ "ปล่อย ใครจะอย่างไรก็ปล่อยเขาไป" หรือ
ปล่อยให้เป็นไปตามกรรม อย่างพุทธสุภาษิตที่ยกมานั้น ผมไม่เห็นด้วยนัก

เพราะเมื่อบุคคลผู้หนึ่งได้สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมนั้น
ควรมีกฏเกณฑ์ และการพิจารณาจากคนในสังคมนั้นๆ ว่าบุคคลผู้นั้น
ควรหรือไม่ควรประพฤติเช่นไร หากกระทำผิดจริงควรได้รับบทลงโทษเช่นไร

ที่กล่าวมานี้ไม่ใช่ผมไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม
แต่ผมมีความเห็นว่า ในการสร้างความสงบเรียบร้อยปกติให้กับสังคมนั้น
ควรมี วิถีประชา จารีต หรือกฏหมายในการควบคุม

หากจะปล่อยให้คนชั่วได้ลอยหน้าลอยตาในสังคม
ส่วนคนดีนั้น ก็เอาแต่ปล่อยปละ ไม่สนใจ ทำแต่ความดีของตัวเอง
ผมเห็นว่าการกระทำเช่นนั้นยิ่งเป็นการบั่นทอนสังคมให้แย่ลงอีก
และสุดท้ายสังคมนั้นก็ย่อมเลวลง
ตามกรรมที่คนในสังคมได้ปล่อยให้คนชั่วลอยหน้าลอยตาในสังคมนั้นเอง

ขออภิปรายกับคุณ aratepavane เพียงเท่านี้

แก้ไขข้อความ : แก้ไข วิถีชาวบ้าน เป็น วิถีประชา
#15
ข้าพเจ้าว่าคุณนั่นเองต่างหาก ที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง

ลำดับแรกคุณตอบกระทู้ แล้วมีคนตำหนิ พฤติกรรมคุณ โดยไม่ระบุว่าใครบ้างที่ไม่ชอบพฤติกรรมของคุณ

คุณก็ออกมากระฟัดกระเีีฟียดว่า ใครๆนั้นน่ะ หมายถึงใครบ้าง พอมีคนอย่างข้าพเจ้ามาตอบว่า

ข้าพเจ้าเองนั่นเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ชอบคุณ และขอให้คุณปรับปรุงตัว

คุณก็บอกว่า ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องสนใจคุณ

ข้าพเจ้าตอบว่า ไม่สนใจไม่ได้ เพราะไม่ควรปล่อยให้มีพฤติกรรมที่จะสร้างปัญหาให้กับสังคมนั้น

คุณก็ออกมาโวยวายว่า ข้าพเจ้าชอบเหน็บแนม แขวะกัด ทั้งๆที่ความจริงแล้วคุณไม่ได้พิจารณาตัวเองเลย

ว่าในกระทู้นั้น มีคนที่ตำหนิถึงพฤติกรรมของคุณมากน้อยมีใด

ซ้ำยังไล่ข้าพเจ้า เอาเวลาไปตรวจคนไข้เสียดีกว่า .. ก่อนที่คุณจะแก้ไขข้อความ

จนกระทั่งกระทู้นั้นหายไป เพราะเป็นประเด็นขัดแย้ง

คุณก็ไม่ได้้พิจารณาตัวเองเลย มาตั้งกระทู้นี้ ว่ามีสมาชิกหลายท่าน <<

ข้าพเจ้าก็เรียกร้องให้คุณพิจารณาว่าตัวเองสองมาตรฐานหรือไม่

กระทู้ก่อน ไปบีบคั้นให้คนอื่นเขาตอบว่า ใครๆ ที่ว่านั้น หมายถึงใครบ้าง

ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง กระทู้นี้ก็มาใช้คำอีหรอบเดิม 

ซึ่งคุณก็ไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย ...

ถ้าจะตอบให้ตรงกับสิ่งที่คุณต้องการให้การตั้งกระทู้นี้นั้น ข้าพเจ้าก็ตอบได้

"อย่าสักใช้แต่คำว่า ขันติ อุเบกขามาเพื่ออ้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง"

ข้าพเจ้าจะไม่ขอข้องเกี่ยวกับคุณอีก และหวังว่าสมาชิกท่านอื่นคงได้มองเห็นกำพืดของสมาชิกท่านนี้บ้างไม่มากก็น้อย
#16
คุณไม่ได้ตั้งกระทู้นี้เพื่อถามคำถามใดๆ

ดังนั้น ก็ไม่น่าจะคาดหวังอะไรกับคำตอบของคนในกระทู้นี้นัก

ข้าพเจ้าตอบกระทู้คุณตรงประเด็นที่สุดในกระทู้แรกที่คุณถามเกี่ยวกับเรื่องพระกาลี

ถ้าหากคุณยังอายุไม่มากนัก และความจำยังดีอยู่ น่าจะจำได้

ข้าพเจ้าจำได้ว่าข้าพเจ้าเป็นคนตอบกระทู้นั้นคนแรกด้วยซ้ำ

น่าเสียดายที่คุณซึ่งเป็นผู้ตั้งกระทู้นั้นกลับจำไม่ได้เสียเอง

เป็นเพราะ ที่ตั้งกระทู้นั้น ไม่ได้ต้องการความรู้อย่างแท้จริง

แต่เพียงต้องการมาแขวะกันในสังคมแห่งนี้
ก็ไม่อาจทราบได้

อีกประการหนึ่ง ที่ข้าพเจ้าพิมพ์ตอบในความเห็นแรกนั้นผิดจากความเป็นจริงหรือไม่

คุณเองน่าจะตอบได้ดีที่สุด
#17
กระทู้ก่อน คุณถามว่า "ใครๆ" นั้นหมายถึงใครบ้าง

กระทู้นี้คุณกลับเลือกที่จะใช้คำว่า "ท่านสมาชิกบางท่าน"

แทนที่จะเอ่ยชื่อ อย่างที่คุณเรียกร้องให้คนอื่นทำ
#18
ข้าพเจ้าได้แสดงความเห็นต่อพฤติกรรมของคุณพรทิพย์แล้ว

หวังว่าคุณพรทิพย์เอง รวมถึงสมาชิกท่านอื่นๆของสังคมแห่งนี้

พิจารณาได้ว่า ควรมีแนวทางในการปฏิบัติเพื่อควบคุมความเรียบร้อยของสังคมนี้ต่อไปอย่างไร
#19
ข้าพเจ้าคงไม่สนใจกระทู้ของคุณพรทิพย์ไม่ได้
เพราะการไม่หยุดยั้งการกระทำชั่วนั้น เท่ากับเป็นการปล่อยให้ผู้ที่กระทำชั่ว
ในกรณีที่รู้ตัว เท่ากับว่าปล่อยให้ความชั่วนั้นเข้าครอบงำสังคม
ในกรณีที่ไม่รู้ตัว เท่ากับปล่อยให้ความชั่วนั้นเข้าครอบงำบุคคลผู้นั้น

ดังนี้แล้ว ข้าพเจ้าจึงแสดงความคิดเห็นในฐานะของสมาชิกคนหนึ่งในสังคมแห่งนี้
เพื่อเป็นการตำหนิ และไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคุณพรทิพย์
ทั้งการใช้คำพูดเหน็บแหนม การนำรูปของสมาชิกท่านอื่นมาลงโดยไม่ได้รับอนุญาต
ซ้ำร้ายยังขอโทษแกมเหน็บแหนม เป็นต้น

หวังว่าคุณพรทิพย์คงเข้าใจในเจตนาของข้าพเจ้าในที่สุด
#22
คัดจากส่วนหนึ่งของหนังสือ คเณศวิทยา โดย ศรีหริทาส ผู้เรียบเรียง ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร


เทวรูปนี้มีชื่อเรียกว่า "พระอาทยันตะปรภู" หรือ อาทยันต มหาปรภู ซึ่งแปลว่า "พระเป็นเจ้าผู้ทรงพลัง ในเริ่มแรกและสุดท้าย"
อาทฺยนฺตะ - อาทิ(เริ่มต้น,แรก) +อนฺต (สุดท้าย) ปรภู พระเจ้าผู้ทรงพลัง

เหตุที่มีการทำรูปเคารพของพระอาทยันะ ปรภู เพราะเชื่อว่า ทั้งพระคเณศ และพระหนุมานล้วนเป็นเทพประจำวันอังคาร
ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู และเป็นเทพเจ้าเพียงแค่สององค์เท่านั้นที่มีอำนาจเหนือเทวดานพเคราะห์ หรือไม่ได้รับผลใดๆ
จากอำนาจของนพเคราะห์ จึงเชื่อกันว่า หากได้บูชาพระอาทยันตะ ปรภู จะบรรเทาทุกข์โทษอันเกิดจากพระเคราะห์เบียดเบียนได้

นอกจากนี้มีคำกล่าวในภาษาทมิฬว่า "เริ่มต้นด้วยพระคเณศ และสิ้นสุดด้วยพระอัญชเนญ(หนุมาน)" หมายความว่า
เริ่มต้นกิจการให้บูชาพระคเณศ และเมื่อสิ้นสุดให้บูชาหนุมาน กิจการต่างๆก็จะมีความสำเร็จสมบูรณ์
#23
คุณพรทิพย์คัดลอกข้อความส่วนหนึ่งจาก

http://w3.manager.co.th/lite/ViewNews.aspx?NewsID=9490000119620

หรือว่าเป็นเจ้าของบทความในเวปไซต์ดังกล่าวเองครับ

ถ้าไม่ใช่เจ้าของบทความ กรุณาให้ credit ด้วยครับ
#24
 

1.จาก  "พวกเกย์นั้นมักจะมีชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้องผูกพันกับเรื่องกามารมณ์ในรูปแบบที่ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมส่วนใหญ่
    หลายๆคนก็ทำถึงขนาดแย่งชิงสามีของคนอื่นหรือทำลายครอบครัวของใครก็ได้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน
    ก็มีให้เห็นกันอยู่เสมอ เป็นข้อเท็จจริงที่สังคมชาวเกย์ด้วยกันก็ไม่ปฏิเสธ"

ถ้าพูดกันตรงๆตามความเป็นจริงในสังคมปัจจุบันเรื่องเกย์รักกันในสังคม ไม่เหมือนในสมัยก่อน ตอนนี้สังคมส่วนใหญ่เปิดกว้างและยอมรับแล้ว ดังจะเห็นได้จากงานแต่งงานกัน ตามหน้าสื่อหนังสือพิมพ์ต่างๆ

ถ้าจะบอกว่าเกย์แย่งชิงสามีคนอื่นทำลายครอบครัว อันนี้ พบเจอได้ทั้งเพศปกติ ประเด็นนี้จึงตกไป


สำหรับข้อที่เจ้าของกระทู้ไม่เห็นด้วยในประเด็นที่ 1
ผมขอเสนอความเห็นในมุมมองของรักร่วมเพศคนหนึ่งดังนี้

แม้ว่าสังคมปัจจุบันจะเปิดกว้างและยอมรับเรื่องรักร่วมเพศแล้ว แต่ส่วนใหญ่รักร่วมเพศมักจะมีพฤติกรรมด้านความรักที่ปิดบัง
ไม่ว่าจะเป็นการปิดบังต่อสาธารณชน ในทัศนะส่วนตัวแล้วความรักของรักร่วมเพศนั้นก็ยังไม่เป็นที่เปิดเผยและได้รับการยอมรับ
ในสังคมทัดเทียมกับความรัก ชาย-หญิง

ส่วนประโยคที่ว่า "แย่งชิงสามีของคนอื่น หรือทำลายครอบครัวของใครก็ได้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว" ผมขอแสดงความเห็นดังนี้ครับ

อาจารย์กิตติแสดงความคิดเห็นในเรื่องของการบูชาเทพเจ้าในตอนท้ายว่า "จริตนิสัยของคนเราโน้มนำไปทางใด
    เราก็เหมาะสมที่จะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับจริตนิสัยอย่างนั้น " ดังนั้น ไม่ใช่ว่ารักร่วมเพศทุกคนจะนิยมบูชาพระแม่

กาลี ผู้ที่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ใด ย่อมมีจิตใจที่โน้มเอียงไปทางนั้น รักร่วมเพศหลายคนบูชาเฉพาะพระคเณศ บางคนบูชาพระนารายณ์เท่านั้น บางคนบูชาพระศิวะเท่านั้น ดังนั้นคำตอบดังกล่าว จึงหมายถึงบุคคลที่ "ชอบของแรงและเป็นอันตราย พวกนี้หวังโชคลาภในแบบที่ได้มาด้วยการเสี่ยง และมักเป็นพวกที่มีโทสะแรง และอาฆาตพยาบาท เกลียดใครก็ปรารถนาให้คนผู้นั้นได้รับความวิบัติทันตาเห็น หรือได้รับทุกขเวทนาตามที่ตนต้องการ" ครับ   


#25
ขออนุญาตคัดลอกจาก www.aromamodaka.com โดยอาจารย์กิตติ เช่นเดียวกับข้อความข้างต้นครับ

๒ อาจารย์บอกว่าพระแม่กาลีกับแม่พระอุมาเป็นคนละองค์กัน
    และมีภาวะเป็นเทพปิศาจ เทพปีศาจเป็นอย่างไงอ่ะครับ 
   
    อ.กิตติ : พระแม่กาลี พระอุมา และพระทุรคา เป็นเทพคนละองค์กันมาแต่เดิม
    และต่างก็ได้รับการนับถือในชนเผ่าที่แตกต่างกัน
    มีลัทธินิกายเป็นของพระองค์เอง
    ต่อมาเมื่อเผ่าที่นับถือพระแม่อุมามีชัยชนะเหนือเผ่าที่นับถือเทวีอีก ๒
    องค์นั้น ก็รวมเทวีทั้งสองเข้าเป็นภาคหนึ่งของพระแม่อุมา
    ในขณะเดียวกับที่พระแม่อุมาเองก็ถูกนำไปรวมเข้าในไศวะนิกาย
    ที่นับถือพระศิวะเป็นใหญ่
    เทพปีศาจ (Devil God) คือภูตหรือปีศาจที่มีพลังอำนาจแก่กล้าถึงชั้นเทพ
    แต่ยังมีอุปนิสัยและพฤติกรรมเป็นแบบปีศาจอยู่
    จึงไม่อาจเลื่อนขั้นเป็นเทพได้โดยสมบูรณ์
    ขณะเดียวกันก็มีพลังเหนือภูตและปีศาจทั่วไป จึงเรียกกันว่าเทพปีศาจ
    คล้ายกับเทพอสูร ซึ่งได้แก่ยักษ์ อสุรกาย และรากษสที่มีฤทธิ์เสมอชั้นเทพ
    แต่ก็ยังเป็นอสูรอยู่
#26
ขออนุญาตคัดลอกคำตอบจาก www.aromamodaka.com โดยอาจารย์กิตติ วัฒนะมหาตม์ นักเขียนสารคดีเชิงเทววิทยาท่านนึงดังนี้ครับ

  ๓. คำถามข้อนี้ไม่ทราบว่าควรถามหรือไม่
    หากอาจารย์เห็นว่าไม่สมควรตอบหรือเผยแพร่ก็ตัดออกไปก็ได้ครับ คือ
    ผมสังเกตพบว่ากลุ่มคนจำนวนมากที่นับถือมหาเทพฮินดูโดยเฉพาะพระอุมาเทวีที่วัดแขกสีลม
    จะเป็นผู้หญิงและชายที่เป็นเกย์ (ไม่ได้จะดูถูกกลุ่มเกย์หรือกระเทยนะครับ)
    ผมจึงสงสัยว่า กลุ่มผู้หญิงกับกลุ่มเกย์นี้จะมีสัมผัสพิเศษกับพระอุมาเทวีหรืออย่างไรครับ
    จึงพบว่าคนสองกลุ่มนี้จะเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่นับถือพระอุมาเทวีครับ
   
    อ.กิตติ : มีคำถามเพียงไม่กี่คำถามที่ผมเห็นว่าไม่สมควรตอบหรือเผยแพร่
    หนึ่งในนั้นก็คือคำถามที่ว่า ทำไมผมจึงเขียนหนังสือช้ามาก วันๆ
    ทำอะไรอยู่ถึงเขียนช้าอย่างนั้น (ฮา)
    สิ่งที่คุณเห็นมานั้นเป็นความจริง แต่คนสองกลุ่มนี้มีเหตุผลต่างกันในการเป็นขาประจำของวัดพระศรีมหาอุมาเทวี
    นั่นคือในกรณีของกลุ่มผู้หญิงนั้น แม้แต่ในอินเดีย พระแม่อุมาเทวี (หรือที่จริงสำหรับวัดนั้นคือพระแม่มารีอัมมัน)
    ก็เป็นเทพยอดนิยมอันดับหนึ่งของผู้หญิง
    เพราะพระแม่อุมาคือสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่และพลังอำนาจของสตรีเพศ
    ดังนั้นพระองค์จึงเป็นที่นิยมชมชอบของผู้หญิงตั้งแต่ที่มีการศึกษาสูง
    หรือทำงานระดับเป็นผู้บริหารในองค์กรใหญ่ๆ และเจ้าของกิจการ
    ไปจนถึงแม่บ้านธรรมดาๆ ที่การศึกษาไม่สูงนักหรือเป็นคนหาเช้ากินค่ำ
    เหตุผลก็คือ คนเรามักจะมีความรู้สึกว่า ถ้าบูชาเทพที่เป็นเพศเดียวกัน
    จะมีความเข้าใจและเห็นใจในปัญหาของตนมากกว่า ซึ่งนั่นก็เป็นความจริง
    ปัญหาของผู้หญิงนั้นต้องการความละเอียดอ่อนในการเข้าใจและเข้าถึงในแบบที่ผู้ชายมักจะมองข้ามไป
    ในขณะเดียวกับผู้หญิงก็ต้องการพลังในการปกป้องคุ้มครอง
    และวาสนาบารมีในรูปแบบที่พึงได้จากการบูชาเทพเจ้าเพศชายด้วย
    พระแม่อุมาทรงมีคุณสมบัติดังที่กล่าวมานี้ครบบริบูรณ์ในองค์เดียวกัน
    คือทรงมีทั้งความเมตตา ละเอียดอ่อน พิถีพิถันในแบบของผู้หญิงจริงๆ
    ในขณะเดียวกันท่านก็ทรงอำนาจและเป็นเทพที่เด็ดขาด
    และในบางแง่มุมท่านก็มีภาพลักษณ์ที่เหนือกว่าเทพผู้ชาย เช่น
    ในเทพนิยายแขกบางเรื่องที่แต่งให้ท่านทรงมีอำนาจเหนือพระศิวะผู้เป็นพระสวามี
    สิ่งนี้ประทับใจผู้หญิงอินเดีย ผู้หญิงไทย และผู้หญิงไม่ว่าชนชาติใดก็ตามที่ถูกกดขี่ข่มเหงด้วยจารีตประเพณีในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่
    จึงไม่แปลกอะไรที่ผู้หญิงจะนิยมบูชาท่านมาก
    ส่วนพวกเกย์นั้น เท่าที่ผมเห็นมาจะมีแนวโน้มที่จะนิยมบูชาพระแม่กาลีมากกว่า
    เพราะในแง่หนึ่งคนพวกนี้ก็มีอุปาทานบางอย่างที่คล้ายกับคนที่ชอบบูชายักษ์หรือบูชาราหู
    คือชอบของแรงและเป็นอันตราย พวกนี้หวังโชคลาภในแบบที่ได้มาด้วยการเสี่ยง
    และมักเป็นพวกที่มีโทสะแรง และอาฆาตพยาบาท
    เกลียดใครก็ปรารถนาให้คนผู้นั้นได้รับความวิบัติทันตาเห็น
    หรือได้รับทุกขเวทนาตามที่ตนต้องการ
    ในขณะเดียวกันคุณก็คงรู้ว่า
    พวกเกย์นั้นมักจะมีชีวิตประจำวันที่เกี่ยวข้องผูกพันกับเรื่องกามารมณ์ในรูปแบบที่ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมส่วนใหญ่
    หลายๆคนก็ทำถึงขนาดแย่งชิงสามีของคนอื่นหรือทำลายครอบครัวของใครก็ได้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน
    ก็มีให้เห็นกันอยู่เสมอ เป็นข้อเท็จจริงที่สังคมชาวเกย์ด้วยกันก็ไม่ปฏิเสธ
    คนเหล่านี้รู้กันดีว่าพวกเขาไม่อาจได้รับผลในเรื่องเช่นนี้ได้จากการบูชาเทพองค์อื่นใดนอกจากพระแม่กาลี
    เพราะพระแม่กาลีท่านเป็นเทพปีศาจ ท่านจึงไม่คำนึงถึงศีลธรรมใดๆ ทั้งสิ้น
    ถ้าไหว้ดีพลีถูกท่านพอใจท่านก็ช่วยให้สมหวัง ไม่เหมือนพระแม่อุมา
    ถ้าเป็นพระแม่อุมาแล้วเรื่องที่ผิดศีลธรรมท่านไม่โปรด
    พวกเกย์จึงนิยมบูชาพระแม่กาลีมากกว่า
    มิใช่เป็นเพราะมีสัมผัสพิเศษกับองค์เทพแต่อย่างใด
    เป็นธรรมดาที่ว่า จริตนิสัยของคนเราโน้มนำไปทางใด
    เราก็เหมาะสมที่จะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับจริตนิสัยอย่างนั้น
    การดูว่าใครนิสัยเป็นอย่างไร
    จึงอาจดูได้จากเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาบูชาอยู่
    โดยเฉพาะถ้าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาบูชาด้วยความชอบความศรัทธาส่วนตัวของเขาจริงๆ
    มิได้เป็นการเห่อตามกระแส
    ก็เป็นหนทางหนึ่งที่จะดูลักษณะนิสัยของเขาผู้นั้นได้ไม่ยาก
#27
รบกวนถามคุณ durgakali ด้วยครับว่า พระแม่ปัญจมุข ที่ประดิษฐาน ณ เทวาลัยแห่งนั้นคือ พระแม่องค์ใดครับ
เพราะถ้าพูดถึงพระแม่เจ้าที่มีห้าหน้า หรือปัญจมุขดังชื่อเทวาลัย ก็น่าจะนึกถึงพระแม่คายตรีเป็นลำดับแรก

ไม่ค่อยได้พบเทวาลัยที่สร้างถวายพระแม่คายตรีน่ะครับ
#29
อยากได้หนังสือ
Hindu goddess : Beliefs and practices แฮะครับ พี่กิฟ ^^
#30
ขอบคุณอาจารย์พี่ตุลครับ ^^
#31
ร้านหนังสือที่ผมเห็นหนังสือของคุณกาลปุตราวางแผง คือ ร้านแพร่พิทยา และร้าน B2S สาขาเซ็นทรัลฯปิ่นเกล้าครับ
#32
http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1103.0

คุณกาลปุตรา กล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ไว้ในกระทู้นี้ครับ
#33
สูจิน. เข็ม; เครื่องชี้; รายการ; สารบัญ. (ป., ส.).

สูติ, สูติ–[สู–ติ–] น. การเกิด, กําเนิด, การคลอดบุตร. (ส.).

สูจิบัตรน. ใบแจ้งกำหนดการต่าง ๆ ในการประชุม การแสดงมหรสพ
เป็นต้น เช่น สูจิบัตรการแสดงวิพิธทัศนา.
สูติบัตรน. เอกสารที่แสดงถึงสัญชาติ วัน เดือน ปี เวลา สถานที่
เกิด และชื่อบิดามารดาของบุคคลโดยนาย ทะเบียนเป็น
ผู้ออกให้.
จำว่า สูติ แปลว่าเกิด ก็ได้ครับ เหมือนประสูติ

ประสูติ, ประสูติ-[ปฺระสูด, ปฺระสูติ-] (ราชา) น. การเกิด; การคลอด. ก. เกิด; คลอด.
(ส. ปฺรสูติ; ป. ปสูติ).
#34
"พระพุทธเจ้าสอนให้เสียสละ และยอมรับผลกรรมโดยไม่ตอบโต้"

พระพุทธเจ้า ไม่ได้สอนให้ยอมรับกรรมโดยไม่ตอบโต้ครับ พระพุทธเจ้าสอนให้รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นทุกข์ สอนให้รู้ว่าทุกข์นี้เกิดขึ้นจากสมุทัย สอนให้รู้ว่าเส้นชัยที่จะพ้นจากทุกข์นี้คือนิโรธ และสอนให้รู้ว่าทางที่จะไปยังเส้นชัยนั้นคือมรรค
พระองค์ไม่ได้สอนให้คนยอมรับผลกรรมอย่างเดียว แต่ให้ปฏิบัติกรรมดี และมรรคเพื่อพ้นจากทุกข์ด้วย
นี่คือคำสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาครับ

"พระแม่ทุรคา พระแม่กาลี พระแม่คือผู้มีความยุติธรรม และจะต่อสู้กับทุกอย่างเพื่อความถูกต้อง และสอนให้รู้จักการขอพรกับพระองค์เพื่อให้พระองค์เมตตาประทานความเข้มแข็งและพลังใจ แต่เมื่อดิฉันได้ตั้งกระทู้การบูชาพระแม่กาลี ทำไมหลาย ๆ คนบอกว่าไม่จำเป็นมันอยู่ที่ใจ และอย่าหวังผลอะไรในการเคารพบูชา"

หลักของการบูชาเทพเจ้าทั้งปวง ไม่ใช่เฉพาะเพียงแต่ความเข้มแข็งและพลังใจเท่านั้นที่ผู้บูชาจะได้รับจากพระเป็นเจ้า ผู้บูชาจะได้รับการคุ้มครองปกป้อง และสิ่งดีงามทั้งหลายย่อมถูกชักนำเข้าหาผู้ที่บูชาเอง โดยไม่ต้องคาดหวัง แต่สิ่งที่สูงสุดที่ผู้บูชาปรารถนาคือการเข้าถึงพระเป็นเจ้า และยกระดับจิตใจและจิตวิญญาณของเราเพื่อเป็นหนึ่งกับพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งไม่ใช่เพียงผลที่ควรจะคาดหวังอย่างเป็นรูปธรรมเท่านั้น แต่เป็นผลดีกับจิตวิญญาณของผู้บูชาเองในที่สุดด้วยครับ   
#35
ถึงผมจะไม่ค่อยได้ตอบ เพราะผมไม่ค่อยรู้จักสมาชิกท่านอื่นๆเท่าไหร่นัก
แต่ผมก็เข้ามาดูทุกครั้งที่เปิดเว็ปเบราเซอร์ครับ

ขอเป็นกำลังใจให้เว็ปมาสเตอร์ และพร้อมให้ความร่วมมือครับ
#36
การใช้อุปกรณ์ที่ทำจากวัสดุเดียวกัน เพื่อความประณีตของแท่นบูชาครับ
ไม่ได้แปลว่า ถ้าใช้วัสดุต่างชนิดกันแล้ว แสดงว่าเป็นการลบหลู่เทพเจ้า

แต่การใช้วัสดุชนิดเดียวกัน แสดงถึงการประณีต ละเอียดละออของผู้บูชา
ว่าพยายามใส่ใจในรายละเอียด รวมถึงแสดงให้พระเป็นเจ้าเห็นถึงความตั้งใจในการบูชาด้วยครับ

สำหรับของผม ใช้เซรามิคทั้งหมดครับ
#37
ห้าม เทวรูปละสามองค์ครับ เช่น ห้ามมีเทวรูปพระคเณศสามองค์ แต่มีมากหรือน้อยกว่านั้นได้

#38
ความรู้สันสกฤตผมน้อยกว่าพี่กิฟท์อีกครับ

ที่ตอบได้เพราะว่าผมเคยเห็นมาก่อนน่ะครับ :D
#39
น่าจะเป็นคำว่า "โษฑโศปจาร" นะครับ พี่กิฟท์
#40
* Fluorine ปรบมือให้คุณกาลปุตราครับ

สวัสดีครับ ขออนุญาตทำความรู้จักครับ ^_^