ถ้าผมจำไม่ผิดพระนารายณ์องค์นี้ มีพระนามว่า พระรังคนาถสวามี วัดที่ประดิษฐานชื่อวัด ศรีรังคัมครับ
ตำนานเล่าว่า เมื่อรบทศกัณฑ์ชนะแล้ว พิเภก ทูลขอเทวรูปพระนารายณ์มาบูชา พระรามจึงประทานพระรังคนาถใส่บุษบกทองให้
พอมาถึงพิเภกแบกไป ยังไม่ถึงลังกาก็แวะที่อินเดียใต้ ปรากฏว่าบุษบกไม่เขยื้อน จำต้องประดิษฐานไว้ที่นั้น โดยเทวรูปจะหันไปทางลังกา พิเภกก็มองจากลังกามายังเทวรูปนี้เสมอๆ(ชาวใต้ถึงกับเชื่อว่า พอไปทำกำแพงปิดมุมที่พระรังคนาถมองไปยังลังกา ทำให้ลังกาวุ่นวายอย่างที่เห็น)
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อในหมู่ ชาวไวษณวนิกาย สายพระอาจารย์รามานุชะหรือศรีสัมประทายะ ว่า พระรังคนาถมิใช่เทวรูปธรรมดาๆ แต่เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเอง เนื่องจากพระเป็นเจ้าทรงมีพระกรุณามาก จึงทรงลงมาเป็นเทวรูปสำคัญๆในเทวสถานต่างๆ วัดนี้จึงถือกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก
ตำนานเล่าว่า เมื่อรบทศกัณฑ์ชนะแล้ว พิเภก ทูลขอเทวรูปพระนารายณ์มาบูชา พระรามจึงประทานพระรังคนาถใส่บุษบกทองให้
พอมาถึงพิเภกแบกไป ยังไม่ถึงลังกาก็แวะที่อินเดียใต้ ปรากฏว่าบุษบกไม่เขยื้อน จำต้องประดิษฐานไว้ที่นั้น โดยเทวรูปจะหันไปทางลังกา พิเภกก็มองจากลังกามายังเทวรูปนี้เสมอๆ(ชาวใต้ถึงกับเชื่อว่า พอไปทำกำแพงปิดมุมที่พระรังคนาถมองไปยังลังกา ทำให้ลังกาวุ่นวายอย่างที่เห็น)
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อในหมู่ ชาวไวษณวนิกาย สายพระอาจารย์รามานุชะหรือศรีสัมประทายะ ว่า พระรังคนาถมิใช่เทวรูปธรรมดาๆ แต่เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเอง เนื่องจากพระเป็นเจ้าทรงมีพระกรุณามาก จึงทรงลงมาเป็นเทวรูปสำคัญๆในเทวสถานต่างๆ วัดนี้จึงถือกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก