Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - เปรุมาล

#1
พระแม่ดุมมาวตี - Dhumavati ซึ่งเป็นหนึ่งในพระทศมหาวิทยา สำหรับประวัติของพระแม่องค์นี้ (ฉบับภาษาอังกฤษ) สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Dhumavati

#2
น่าจะเป็นพระแม่ปรัตยันกีรา (Pratyangira)


#4
จะตั้งแยกหรือตั้งคู่ก็ได้ครับ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

#6
ไม่แน่ใจว่าสีโปสเตอร์ หรือสีน้ำมันจะใช้ด้วยกันได้หรือเปล่านะครับ
#7
ผมว่า "ปางจินตนาการ" ของผู้สร้างครับ
#8
เคยเห็นมีคนถวายนะครับ (ส่วนตัวผมเคยเห็นแม้กระทั่งน้ำหวานเข้มข้นกลิ่นสละ ที่มีสีแดง ก็ยังมีคนนำไปถวายเลย)
#10
ส่วนสีของขนมโมทกะ ผมก็เคยเห็นทั้งสองสีนะครับ (เห็นสีขาวมากกว่าด้วยซ้ำไป)
#11
เพิ่งเคยได้ยินเรื่องแบบนี้เหมือนกันครับ เพราะปกติถ้าไม่ใช่ขนมที่มีส่วนประกอบที่ทำด้วยเนื้อสัตว์ พราหมณ์ท่านก็รับไปถวายเทวรูปให้หมด
#12
ก็เชิญเทวรูปออกมาทำความสะอาดได้ตามปกติเลยครับ อาจใช้ผ้าสะอาด หรือแปรงปัดฝุ่นได้ตามแต่จะสะดวก (ก่อนจะเชิญท่านลงมาทำความสะอาด ก็อธิษฐานบอกท่านก่อนก็ได้ครับ ว่าจะขออนุญาตเชิญท่านลงมาทำความสะอาด)
#13
อย่างที่คุณ wutthiphat                        บอกครับ ถ้าไปที่นั่น มีทุกอย่างให้เลือกสรร อยากได้แบบไหน ก็มีให้ตามใจปรารถนา
#14
ถ้าไม่ทราบหรือไม่สะดวกที่จะใช้บทสวด ก็อธิษฐานบอกท่านเป็นภาษาไทยเรานี่แหล่ะครับ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
#15
ผมว่าเรื่องนี้มันนานาจิตตัง ผู้รู้บางท่านก็บอกว่าการทำบูชา 16 ขั้นตอนสามารถทำได้ แต่บางท่านก็บอกว่าไม่ควรทำ ส่วนเรื่องกาลัส ส่วนใหญ่จะบอกว่าคนธรรมดาทั่วไปไม่ควรทำ เพราะมีขึ้นตอนและมนต์กำกับเยอะ ผมว่าสำหรับคนทั่วไป แค่จุดธูปจุดประทีป ถวายกำยาน ดอกไม้ ขนม นม เนย ผลไม้ต่างๆ แล้วสวดคาถาบูชาตามที่ตนเองทราบ ก็น่าจะเพียงพอครับ
#16
 
Quote from: Darin on December 27, 2011, 09:04:09
คิดให้ีดีก่อนนะว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากใคร
เทพเจ้าหรือมนุษย์?
มนุษย์ไม่ใช่หรือที่แต่งเรื่องราวเพื่อโจมตีศาสนาอื่น?
แล้วเทพเจ้าไปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ
เทพเจ้ามีความผิดด้วยหรือ?
ทางทีดีเคารพบูชาพระเป็นเจ้าต่อไปเถอะ
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของท่านเลย

ผมชื่นชมและเห็นด้วยกับความเห็นของคุณ Darin ครับ

ฝากถึงคุณบุตรีศรีมหาสิทธิวินายก หากสิ่งที่คุณเคารพศรัทธาไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่น รวมถึงยืนอยู่บนพื้นฐานของความศรัทธาอย่างมีสติและปัญญา ก็ขอให้ดำรงความความศรัทธานั้นไว้เถิดครับ เพราะบางสิ่งบางอย่าง หลายความคิด หลายทฤษฏี หากวิตกหรือคิดมากไป รังแต่จะรบกวนใจเสียเปล่าๆ หากคุณเชื่อมั่นในสิ่งที่ศรัทธา สิ่งเหล่านั้นก็จะบังเกิดผลดีกับตัวคุณเองครับ

ส่วนตัวผมก็นับถือทั้งพุทธและเทพเจ้าทางฮินดู ก็ไม่เห็นจะต้องคิดอะไรมาก ถ้าเราศรัทธาในสิ่งที่ดี ไม่มีบาป สิ่งต่างๆก็ย่อมจะสร้างความสบายใจให้กับตัวผู้บูชาครับ เพราะทุกศาสนาสอนให้ทุกคนเป็นคนดี
#17
ดูจากภาพแล้ว ก็รู้สึกจะเหมือนพระแม่ทุรคากับพระแม่สมายัมปุรัมผสมๆกันนะครับ คือจะว่ายังไงดีล่ะ เอาเป็นว่า ถ้าคุณ cybernews บูชาท่านในฐานะพระแม่องค์ใด ก็บูชาต่อไปเถอะครับ เพราะสมัยนี้พวกโรงหล่อ หรือร้านขายพระ ก็มักคิดพิมพ์คิดแบบเทวรูปที่เอาตามใจชอบ บางครั้งอาจจะไม่ตรงกับเทวลักษณะของเทวรูปแต่ละองค์ที่กำหนดไว้ในเทวปกรณ์ก็เป็นได้
#18
บางคนก็บอกว่าให้นำไปจำเริญ (ทิ้ง) ในน้ำ แต่สำหรับผม ก็ทิ้งไปนั่นแหล่ะครับ เพราะเก็บไว้ก็แห้งกรอบเสียเปล่าๆ แต่ถ้าคุณไม่สบายใจจะเก็บไว้เฉยๆก็คงไม่มีปัญหา หากมีสถานที่เก็บ
#19
ความเห็นส่วนตัวผม คิดว่าถ้าถวายครั้งเดียวแล้วตั้งไว้ยาวทั้งเก้าวัน คงไม่เหมาะ เพราะใครจะไปรู้ว่ากว่าจะถึงเก้าวัน ผลไม้คงเน่าเสีย หรือไม่ขนมที่ถวายคงจะบูดคาหิ้ง ไหนจะมีหนูหรือแมลงสาบอาจมาไต่ตามของไหว้ที่ตั้งทิ้งไว้ ผมว่าถ้าให้เหมาะน่าจะแบ่งถวายทีละนิดจนครบเก้าวันดีกว่าครับ เพราะแม้ของถวายอาจจะน้อยไปบ้าง (เมื่อเทียบกับการถวายเพียงครั้งเดียว) แต่ก็แสดงถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อยของตัวผู้บูชาเองครับ (ถ้าไม่สะดวกถวายทุกวัน  ก็แบ่งเป็นช่วงสามวันก็ยังพอได้ครับ แต่ต้องระวังพวกมดหรือหนูให้ดีๆ เพราะถ้าเกิดไปไต่ตามของไหว้ก็คงไม่น่าดูครับ)
#20


พระแม่วราหิ ( Varahi ) เป็นหนึ่งในสัปตะมาตริกา เกิดจากพลังของพระยมราช และ พระนางยมี หรือ ยมุนา มีพระพักตร์เป็นหมูป่า ผิวพระวรกายเป็นสีมืดมัว - ประดับพระวรกายด้วยเครื่องประดับและเครื่องทรงสีนิลและสีดำ 4 พระกร ถือไม้โกร่งตำข้าว คันไถ และกระทำมุทราทั้ง 2 อย่างข้างต้น ทรงพระที่นั่งยมะบังลังค์เป็นพาหนะ อนึ่ง ในมุทรานั้นมีความหมายแสดงถึงพระกรุณาของพระแม่เจ้าคือ "อัภยัม มุทรา" หมายถึง "เราจะปกป้องเธอ จงอย่ากลัวสิ่งใด" "วระตะการัม มุทรา" หมายถึง "เราให้พรตามที่เธอขอมา"

ที่มา :

http://www.hindumeeting.com/history/sabtamatrika
#21
ใช่ พระแม่วราหิ (Varahi) หรือเปล่าครับ



#22
Quote from: กาลิทัส on April 01, 2009, 13:00:53
  พอดีไปอ่านเจอในเว็บพันธุ์ทิพย์ครับ เลยรีบเอามาลงก่อน เด๋วคุณ hindu ตามไปบ่นกระทู้อื่น ประวัติมารีอัมมา เห็นว่าอ้างอิงมาจากงานสารนิพนธ์ของ วรรณพรรธน์ เรืองทรัพย์ ที่หอสมุดมหาวิทยาลัยศิลปากรท่าพระครับ โพสไว้โดยคุณ อชันฏา

ตำนานคร่าวๆของนาง คือนางเป็นเมียของฤาษีองค์หนึ่งซึ่งอ้างว่าเป็นภาคหนึ่งของพระศิวะ(ดิฉันจำไม่ได้เสียเเล้วว่าชื่ออะไร) เเล้วพระนางมารีอัมมันตอนเป็น คน ชื่อ เรณุกา เธอเป็นคนมีความสามารถพิเศษโดยการปั้นหม้อดินด้วยมนตร์โดยเอาดินจากก้นเเม่น้ำขึ้นมา เเล้วตักน้ำเอามาให้สามีบูชาเทพทุกเช้า

วันหนึ่งเธอก็ไปที่เเม่น้ำตามปกติ เเต่บังเอิญเจอครธรรพ์กำลังทำอะไรกันอยู่ ด้วยความที่เธอเกิดอารมณ์ ทางเพศ ทำให้ความเป็นพรหมจรรย์ของเธอสิ้นสุดลงพร้อมด้วยอำนาจวิเศษที่ว่า เมื่อสามีฤาษีของเธอรู้ความจริง จึงสั่งให้เนรเทศนางไปจากอาศรม หลังจากนั้น ก็ถามลูกๆทั้งสี่คนว่า ใครจะยอมไปฆ่าเเม่ตัวเองได้บ้าง..

มีลูกชายชื่อปรศุรามยอมทำโดยให้เหตุผลว่า คำสั่งของบิดาย่อมสำคัญที่สุด เลยถือขวานไปบั่นคอเเม่ ซึ่งขณะนั้นเองนางเรณุกาหนีไปอยู่ในกระท่อมของหญิงจัณฑาล บังเอิญว่าตอนนั้นมืดเเล้วหญิงสองคนนั้นกอดกันด้วยความกลัว ทำให้ปรศุรามบั่นคอทั้งสองคนพร้อมๆกันเเล้วปรศุรามก็หิ้วหัวเเม่กลับมายังอาศรม บอกพ่อว่าจะขอพรสักอย่างได้ไหม ฤาษีผู้พ่อเลยอนุญาต ทีนี้ปรศุรามเลยขอชีวิตเเม่คืน

ฤาษีพ่อเลยเอาน้ำทิพย์ให้ไปพรมลงที่ต้นคอพร้อมกับต่อหัวด้วยอารามดีใจ ปรศุรามจึงรีบไปที่กระท่อมหลังนั้นเเล้วจัดการต่อหัวอย่างรีบเร่ง

เเต่ดันต่อสลับกัน..หัวเเม่ กับ ร่างจัณฑาล หัวจัณฑาล กับร่างเเม่..

กรรม..พอเรณุกากับจัณฑาลมีอันต้องเป็นไปเช่นนี้ ฤาษีผู้พ่อจึงบอกว่า



ในเมื่อร่างกายของเจ้าเป็นเช่นนนี้ ก็ไม่สมควรอยู่ในอาศรมของข้า ฉะนั้นก็ไปอยู่ข้างนอกโน่น เป็นเทพีรักษาโรคฝีดาษ ถ้าเจ้ามีหัวของเรณุกา เจ้าคือมารีอัมมา เเต่ถ้ามีหัวของจัณฑาล เจ้าจะมีชื่อว่า เอลล่าอัมมา Ellamma ทั้งสองจะเป็นเทพีประจำหมู่บ้านของชาวทมิฬนาฑุ
ที่วัดเเขกสีลม คือส่วนหนึ่งของมารีอัมมันเท่านั้น..จากการศึกษา
ในเชนไน หรือทมิฬนาฑุ มารีอัมมันมีสองเเบบ คือ หัวเป็นมนุษย์กับอสูร(เอลล่าอัมมา) เเต่เขาจะเรียกรวมกันว่า อัมมา หรือ มารี เเละอีกหลายๆชื่อ คนทมิฬถือว่าเป็นภาคหนึ่งของพระอุมาทีเดียว(ในฐานะเทพีประจำท้องถิ่น ส่วนใหญ่เป็นเทพรองในเทวาลัย หากเป็นเทพีประธานจะถือเป็นภาคหนึ่งของอุมา) เเต่ในวัดเเขกสีลมประเทศไทย ถือว่าเป็นตรีมูรติของเทพี (ในระดับเทพีประธานของวัด)

#23
ลองเข้าไปอ่านที่นี่ดูนะครับ http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=273.0
#25
พระพรหมี ครับ ไม่ใช่พระพรหม ส่วนเหตุผลที่ทำไมถึงเชิญมาไว้หน้ารถแห่พระแม่นั้น ผมเองก็ไม่ทราบครับ
#26
เท่าที่ทราบภาพนี้ไม่ใช่สารถีของรถแห่พระแม่ครับ แต่เป็นเทวรูปพระพรหมีที่เชิญมาไว้ที่ด้านหน้ารถครับ
#27
Maha Gauri :

The Eighth Durga is "Maha Gauri." She is as white as a conch, moon and Jasmine. She is of eight years old. Her clothes and ornaments are white and clean. She has three eyes. She rides on bull She has four hands. The above left hand is in "Fearless - Mudra" and lower left hand holds "Trishul." The above right hand has tambourine and lower right hand is in blessing style. She is calm and peaceful and exists in peaceful style. It is said that when the body of Gauri became dirty due to dust and earth while observing penance, Shiva makes it clean with the waters of Gangas. Then her body became bright like lightening. There fore, she is known as "Maha Gauri"


Siddhidatri :

Ninth Durga us Siddhidatri. There are eight Siddhis , they are- Anima, Mahima, Garima, Laghima, Prapti, Prakamya, Iishitva & Vashitva. Maha Shakti gives all these Siddhies. It is said in "Devipuran" that the Supreme God Shiv got all these Siddhies by worshipping Maha Shakti. With her gratitude the half body of Shiv has became of Goddess and there fore his name "Ardhanarishvar" has became famous. The Goddess drives on Lion. She has four hands and looks pleased. This form of Durga is worshiped by all Gods, Rishis-Munis, Siddhas, Yogis, Sadhakas and devotees for attaining the best religious asset.
#29
108 Names of Goddess Saraswati : Shri Saraswati Ashtottara Shatanaamavali

Om Sarasvatyai namaha
Om Mahaabhadraayai namaha
Om Mahaamaayaayai namaha
Om Varapradaayai namaha
Om Shriipradaayai namaha
Om Padmanilayaayai namaha
Om Padmaaxyai namaha
Om Padmavaktrakaayai namaha
Om Shivaanujaayai namaha
Om Pustakabhrite namaha
Om Gyaanamudraayai namaha
Om Ramaayai namaha
Om Paraayai namaha
Om Kaamaruupaayai namaha
Om Mahaavidyaayai namaha
Om Mahaapaataka naashinyai namaha
Om Mahaashrayaayai namaha
Om Maalinyai namaha
Om Mahaabhogaayai namaha
Om Mahaabhujaayai namaha
Om Mahaabhaagaayai namaha
Om Mahotsaahaayai namaha
Om DivyaaNgaayai namaha
Om Suravanditaayai namaha
Om Mahaakaalyai namaha
Om Mahaapaashaayai namaha
Om Mahaakaaraayai namaha
Om Mahaankushaayai namaha
Om Piitaayai namaha
Om Vimalaayai namaha
Om Vishvaayai namaha
Om Vidyunmaalaayai namaha
Om VaishhNavyai namaha
Om Chandrikaayai namaha
Om Chandravadanaayai namaha
Om Chandralekhaavibhuushhitaayai namaha
Om Saavityai namaha
Om Surasaayai namaha
Om Devyai namaha
Om Divyaalankaarabhuushhitaayai namaha
Om Vaagdevyai namaha
Om Vasudaayai namaha
Om Tiivraayai namaha
Om Mahaabhadraayai namaha
Om Mahaabalaayai namaha
Om Bhogadaayai namaha
Om Bhaaratyai namaha
Om Bhaamaayai namaha
Om Govindaayai namaha
Om GOmatyai namaha
Om Shivaayai namaha
Om Jatilaayai namaha
Om Vindhyaavaasaayai namaha
Om Vindhyaachalaviraajitaayai namaha
Om Chandikaayai namaha
Om VaishhNavyai namaha
Om Braahmayai namaha
Om Brahmagyanaikasaadhanaayai namaha
Om Saudaamanyai namaha
Om Sudhaamurtyai namaha
Om Subhadraayai namaha
Om Surapuujitaayai namaha
Om Suvaasinyai namaha
Om Sunaasaayai namaha
Om Vinidraayai namaha
Om Padmalochanaayai namaha
Om Vidyaaruupaayai namaha
Om Vishaalaaxyai namaha
Om Brahmajaayaayai namaha
Om Mahaaphalaayai namaha
Om Trayiimoortaye namaha
Om Trikaalagyaayai namaha
Om Trigunaayai namaha
Om ShaastraruupiNyai namaha
Om Shambhaasurapramathinyai namaha
Om Shubhadaayai namaha
Om Svaraatmikaayai namaha
Om Raktabiijanihantryai namaha
Om Chaamundaayai namaha
Om Ambikaayai namaha
Om MundakaayapraharaNaayai namaha
Om Dhuumralochanamadanaayai namaha
Om Sarvadevastutaayai namaha
Om Saumyaayai namaha
Om Suraasura namaskRitaayai namaha
Om Kaalaraatryai namaha
Om Kalaadharaayai namaha
Om Ruupasaubhaagyadaayinyai namaha
Om Vaagdevyai namaha
Om Varaarohaayai namaha
Om Vaaraahyai namaha
Om Vaarijaasanaayai namaha
Om ChitraaMbaraayai namaha
Om Chitragandhaayai namaha
Om Chitramaalyavibhuushhitaayai namaha
Om Kaantaayai namaha
Om Kaamapradaayai namaha
Om Vandyaayai namaha
Om Vidyaadharasupuujitaayai namaha
Om Shvetaananaayai namaha
Om Niilabhujaayai namaha
Om Chaturvargaphalapradaayai namaha
Om Chaturaanana saamraajyaayai namaha
Om Raktamadhyaayai namaha
Om Nira.njanaayai namaha
Om Ha.nsaasanaayai namaha
Om NiilajaNghaayai namaha
Om BrahmavishhNushivaatmikaayai namaha

Iti Shree Saraswati Ashtottara Shatanamavali Samaptam
#30
หิ้งเทวรูป ดูลงตัวดีครับ ไม่มากไม่น้อยเกินไป สรุปแล้วชอบครับ
#31
ไปหาดูี่พาหุรัดสิครับ มีทุกสิ่งให้เลือกสรรค์ ถามให้หมดทุกร้าน รับรองเจอแน่นอน
#32
Mahishasuramardini Stotra (with meaning)

ayi girina.ndini na.nditamedini vishvavinodini na.ndanute
girivara vi.ndhya shirodhinivaasini vishhNuvilaasini jishhNunute .
bhagavati he shitikaNThakuTuMbini bhuuri kuTuMbini bhuuri kR^ite
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 1..

O daughter of the mountain, who makes the whole earth happy, who makes the whole universe rejoice, praised by Nandin | dwelling on the peak of the great Vindhya mountain, glittering widely, praised by those desirous of victory | O Goddess, wife of the blue necked Siva, One who has many families, One who has done a lot, | be victorious, be victorious, O destroyer of the demon mahisa, with beautiful braids of hair, daughter of the mountain Himalaya ||

suravaravarshhiNi durdharadharshhiNi durmukhamarshhiNi harshharate
tribhuvanaposhhiNi sha.nkaratoshhiNi kilbishhamoshhiNi ghoshharate .
danuja niroshhiNi ditisuta roshhiNi durmada shoshhiNi sindhusute
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 2..

O bestower of boons on Gods, One who assails those hard to control, who tolerates those with ugly faces (?), one engrossed in rejoicing | One who nourishes the three worlds, One who pleases sankara, One who removes sins, One who engrosses in sound of Om (?) | One who is angry with the progeny of Danu (demon), One who is angry with the sons of Diti (also demon), One who destroys those with evil intoxication of pride, daughter of the ocean |

ayi jagadaMba madaMba kadaMba vanapriya vaasini haasarate
shikhari shiromaNi tuN^ga himaalaya shR^i.nga nijaalaya madhyagate .
madhu madhure madhu kaiTabha ga.njini kaiTabha bha.njini raasarate
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 3..

O mother of the world, my mother, One who loves to dwell in a forest of Kadamba trees, One who keeps on smiling | One who is on her own dwelling on the tall peak of the Himalaya, the greatest among the mountains | One who is very sweet, One who has the treasure of demons Madhu and Kaitabha, destroyer of the demon Kaitabha, engaged in dancing ||

ayi shatakhaNDa vikhaNDita ruNDa vituNDita shuNDa gajaadhipate
ripu gaja gaNDa vidaaraNa chaNDa paraakrama shuNDa mR^igaadhipate .
nija bhuja daNDa nipaatita khaNDa vipaatita muNDa bhaTaadhipate
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 4..

Large O One who split the heads (of demons) into hundreds of pieces and One who cut the trunks of great battle elephants | whose great lion is skilled in terrifying valor in tearing apart the temples of enemy elephants | One who has cut down into pieces the heads of enemy chieftains with the strength of her own
arms ||

ayi raNa durmada shatru vadhodita durdhara nirjara shaktibhR^ite
chatura vichaara dhuriiNa mahaashiva duutakR^ita pramathaadhipate .
durita duriiha duraashaya durmati daanavaduuta kR^itaa.ntamate
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 5..

Large O One who holds the invincible and undiminishing striking force which arose on the occasion of killing the enemies who were hard to subdue on the battlefield | who made Pramatha, the great attendant of Shiva, a leader in subtle thinking, her commander (?) | who decided to destroy the messenger of demons who were sinful, with evil intentions, thoughts and mind ||

ayi sharaNaagata vairi vadhuuvara viira varaabhaya daayakare
tribhuvana mastaka shuula virodhi shirodhi kR^itaamala shuulakare .
dumidumi taamara du.ndubhinaada maho mukhariikR^ita tigmakare
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 6..

O One who gives protection to the great heroic husbands of the enemy wives who have come seeking refuge | One who holds in her hands a spotless spear pointed towards the head of the opponent who is causing a great pain for all the three worlds | One who is like the blazing hot sun, aroused by the power of resounding noise of the drums of Gods ||

ayi nija hu.NkR^iti maatra niraakR^ita dhuumra vilochana dhuumra shate
samara vishoshhita shoNita biija samud.hbhava shoNita biija late .
shiva shiva shuMbha nishuMbha mahaahava tarpita bhuuta pishaacharate
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 7..

O One who has blown aside hundreds of streams of smoke coming from demons with smoking eyes merely with her own roaring | who is like a vine of blood-drops grown from the dried blood drops in battle | One who delights in the company of auspicious Shiva, Shumbha, Nishumbha, and the spirits who were fed during the great battle.|

dhanuranu sa.nga raNakShaNasa.nga parisphura da.nga naTatkaTake
kanaka pisha.nga pR^ishhatka nishha.nga rasad.hbhaTa shR^i.nga hataavaTuke
kR^ita chaturaN^ga balakShiti raN^ga ghaTad.hbahuraN^ga raTad.hbaTuke
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 8..

Large One who decks herself with dancing ornaments on throbbing limbs at the moment of the battle, making her bow ready | who killed the huge enemy soldiers with a shining sword and with (arrows from) a quiver which has golden brown spots | who made the battleground with fourfold army into a stage with a colorful drama with screaming little soldiers ||

jaya jaya japya jayejaya shabda parastuti tatpara vishvanute
bhaNa bhaNa bhiJNjimi bhi.nkR^ita nuupura si.njita mohita bhuutapate .
naTita naTaardha naTiinaTa naayaka naaTita naaTya sugaanarate
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 9..

Large Be victorious! be victorious! whose victory should be sung, praised by the whole universe ready to sing the praise extolling her victory | who attracted the attention of shiva by twinkling of bells making various sounds of dancing | who delights in beautiful singing and in dance-drama presented by a leading dancer acting out the role of an actress with half of his body ||

ayi sumanaH sumanaH sumanaH sumanaH sumanohara kaa.ntiyute
shrita rajanii rajanii rajanii rajanii rajaniikara vaktravR^ite .
sunayana vibhramara bhramara bhramara bhramara bhramaraadhipate
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 10..

Large O One who has a flowerlike complexion attractive to the good heart of the goodhearted people | (meaning of this part is unclear, the last word seems to mean "surrounded by the face of the moon" ) (meaning of this compound is not clear)

sahita mahaahava mallama tallika mallita rallaka mallarate
virachita vallika pallika mallika bhillika bhillika varga vR^ite .
sitakR^ita pullisamulla sitaaruNa tallaja pallava sallalite
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 11..

avirala gaNDa galanmada medura matta mataN^gaja raajapate
tribhuvana bhuushhaNa bhuuta kalaanidhi ruupa payonidhi raajasute .
ayi suda tiijana laalasamaanasa mohana manmatha raajasute
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 12..

Who is in charge of huge royal elephants in fury whose rut is streaming down their temples incessantly | princess, the daughter of the ocean, who has the beauty of the moon, the ornament of all the three worlds | princess of cupid who enchants the minds desirous of ladies with beautiful teeth ||

kamala dalaamala komala kaa.nti kalaakalitaamala bhaalalate
sakala vilaasa kalaanilayakrama keli chalatkala ha.nsa kule .
alikula saN^kula kuvalaya maNDala maulimilad.hbhakulaali kule
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 13..

Large Whose spotless forehead is enhanced by the beautiful complexion, pure and delicate like that of lotus petals | whose flock of swans is moving sportingly with steps which are the marks of all beautiful arts | whose bees from the bakula trees meet on the tops of lotus flowers which are crowded with (their own) bees |

kara muralii rava viijita kuujita lajjita kokila maJNjumate
milita pulinda manohara guJNjita ra.njitashaila nikuJNjagate .
nijaguNa bhuuta mahaashabariigaNa sadguNa saMbhR^ita kelitale
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 14..

Large Whose sweet cooing sounds made with the flute held in her own hands have put to shame the Kokila bird and who has sweet thoughts | who is in colorful mountain groves pleasantly resounding with the assembled mountain folks | whose playbround is filled with good qualities of the flocks of the great tribal women who are manifestations of her own qualities ||

kaTitaTa piita dukuula vichitra mayuukhatiraskR^ita cha.ndra ruche
praNata suraasura maulimaNisphura da.nshula sannakha cha.ndra ruche .
jita kanakaachala maulipadorjita nirbhara ku.njara kuMbhakuche
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 15..

Who has set aside the brilliance of the moon with the colorful rays coming from the yellow silk she is wearing on her waist | whose toe-nails shine like the moon because of the rays emanating form the crest jewels of the bowing gods and demons | whose breasts outshine the temples of wild elephants and the high peaks of the golden mountains ||

vijita sahasrakaraika sahasrakaraika sahasrakaraikanute
kR^ita surataaraka saN^garataaraka saN^garataaraka suunusute .
suratha samaadhi samaanasamaadhi samaadhisamaadhi sujaatarate
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 16..

Who has set aside the brilliance of the moon with the colorful rays coming from the yellow silk she is wearing on her waist | whose toe-nails shine like the moon because of the rays emanating form the crest jewels of the bowing gods and demons | whose breasts outshine the temples of wild elephants and the high peaks of the golden mountains ||

padakamalaM karuNaanilaye varivasyati yo.anudina.n sa shive
ayi kamale kamalaanilaye kamalaanilayaH sa kathaM na bhavet.h .
tava padameva paraMpadamityanushiilayato mama kiM na shive
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 17..

O benevolent goddess accompanied by Shiva, if someone daily cherishes your lotuslike feet | (contd. from prev line) then, O lotus dwelling Lakshmi, how will he not become wealthy? | O auspicious Goddess, is there anything that I would not have, if I earnestly believe that your feet are the highest goal to be achieved? ||

kanakalasatkala sindhu jalairanu siJNchinute guNa raN^gabhuvaM
bhajati sa kiM na shachiikucha kuMbha taTii pariraMbha sukhaanubhavam.h .
tava charaNaM sharaNaM karavaaNi nataamaravaaNi nivaasi shivaM
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 18..

If someone bathes you, the playground of virtues, with shining golden waters of the ocean | will he not experience in heaven the happiness (equal to that of Indra) embracing the full bosom of Sachi? | O Goddess worshipped by the speech of Gods, I take refuge in your feet, which are also the abode of Shiva ||

tava vimalendukulaM vadanendumalaM sakalaM nanu kuulayate
kimu puruhuuta puriindumukhii sumukhiibhirasau vimukhiikriyate .
mama tu mataM shivanaamadhane bhavatii kR^ipayaa kimuta kriyate
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 19..

He who sufficiently dedicates himself to your entire moonlike face, which is as bright as a host of spotless moons | will he be turned away (in heaven) by the moon-faced beauties of the city of Indra? | (the text of this line is unclear)

ayi mayi diinadayaalutayaa kR^ipayaiva tvayaa bhavitavyamume
ayi jagato jananii kR^ipayaasi yathaasi tathaa.anumitaasirate .
yaduchitamatra bhavatyurari kurutaadurutaapamapaakurute
jaya jaya he mahishhaasuramardini ramyakapardini shailasute .. 20..
.. iti shriimad.h aadyasha.nkaraachaaryavirachitaa shriimahishhaasuramardini
stotraM saMpuurNam.h ..

O Uma, you should be kindly disposed toward me because of your virtue of compassion toward the meek | (meaning unclear) | you may choose to do (with me) whatever is appropriate, she removes the great pain (of her devotees). |

From : http://www.scribd.com/doc/2084875/Mahishasuramardini-Stotra-With-Meaning
#33
เข้าใจว่าทุกคนมีศรัทธาเหมือนกัน แต่ศรัทธาแล้วต้องอย่าลืมพก "ปัญญา" ติดตัวมาด้วย

จะเชื่ออย่างไร ถืออย่างไรไม่มีใครว่า แต่อย่าลืมใช้ปัญญาเข้ามาประกอบ

จริงอยู่ถ้าไหว้หินก้อนเดียวแล้วศรัทธา ก็มีค่าเท่ากับไหว้เทวรูป

แต่ในมุมกลับกัน แม้หินที่ชาวอินเดียกราบไหว้ อย่างอััษฏะวินายะกะ
ก็ยังมีรูปร่างคล้ายพระพิฆเนศไม่ใช่หรือ

บรรดาตำราทางประติมานวิทยาอีกเล่า คงต้องเอาไปเผาทิ้งให้หมดเสียแล้วกระมัง

เพราะเดียวนี้คนเราศรัทธาแรงกล้า เทวรูปต่างๆก็หมดความหมาย

อย่าลืมว่าระดับจิตของคนเราต่างกัน บางคนเข้าถึงเทพเจ้าได้ก็ด้วยการบูชาผ่านเทวรูป

อันนี้ไม่นับคนบางกลุ่มที่คิดว่าตัวเองสื่อได้โดยตรงกับเทพเจ้า

คำว่าบูชาอย่าง "ศรัทธา" กับบูชาอย่าง "มักง่าย" มันมีเส้นบางๆขีดกั้นอยู่

ขอให้ใช้ปัญญาพิจารณาเอาดูเถิด....
#34
ไม่ใช่คุณกาลิทัส แต่ขอมาช่วยตอบแทนให้นะครับ  ประวัติพระกัตตวรายัน เข้าไปอ่านได้ที่นี่เลย

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=47.0

ปล. คำว่า "ประวัติ" สะกดแบบนี้นะครับ ไม่ใช่ "ประหวัด"
#35
เท่าที่หามาได้ก็มีประมาณนี้ ไว้รอผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจทานอีกทีนะครับ

พระพรหม ( ब्रह्मा )

พระศิวะ ( शिव )

พระวิษณุ ( विष्णु )

พระอุมา ( सती )

พระแม่กาลี ( काली )

พระแม่สรัสวตี ( सरस्वती  )

พระแม่ลักษมี ( लक्ष्मी )

พระแม่กายาตรี ( गायत्री )

พระพิฆเนศ ( गणेश )
#37
ลองใช้โฮสนี้ดู http://image.ohozaa.com/index.php ค่อนข้างเสถียรครับ
#38


เนยบริสุทธิ์ หรือ PURE GHEE สามารถหาซื้อได้ที่พาหุรัดครับ
#39
ส่วนตัวนะครับส่วนตัว.....สำหรับผมคิดว่าเป็นการตีความเรื่องความเชื่อของพวกเราๆกันเองนี่แหล่ะครับ ว่าถ้าได้ของอย่างนั้น แล้วจะเป็นอย่างนี้ เพราะตามปกติของทั้งหมดหลังจากผ่านการบูชาแล้ว พราหมณ์ก็จะนำส่วนหนึ่งมามอบคืนให้แก่เรา ถือว่าเป็นของเทวะประสาท อันเป็นมงคล หากเป็นขนมหรือผลไม้ ก็ให้เรานำกลับมารับประทาน ด้วยเชื่อว่าเป็นอาหารทิพย์ หากได้ดอกไม้ก็ให้นำกลับมาบูชาที่บ้าน ซึ่งเป็นธรรมเนียมปกติของฮินดูชนที่พึงปฏิบัติหลังจากบูชาพระเป็นเจ้าแล้วเท่านั้นเองครับ (ไม่น่าจะมีความหมายอะไรที่พิเศษไปกว่านี้)
#40
พระทัคฑูเศฐ (Dagdusheth) เป็นนามของเทวรูปพระพิฆเนศที่มีชื่อเสียง ซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ เมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย โดยที่องค์เทวรูปมีการประดับประดาด้วยเครื่องประดับที่ทำจากทองคำ และเพชร นิล จินดาทั่วทั้งองค์ จนได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นเทวรูปพระพิฆเนศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกองค์หนึ่ง...