Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - อินทุศีตาลา

#281
ในอาคารหลังเดียวกันนี้ยังมีเทวรุปงามๆประดิษฐานอยู่อีกหลายองค์ค่ะ ที่สำคัญก้เช่น



ชิ้นนี้ขุดพบที่บ้านตะโหนด อำเภอโนนสูง โคราชค่ะ ศิลปะเขมรแบบกำพงพระ สังเกตว่ามีพระเกศาเป็นปอยคล้ายพระศิวะในเทวรุปพระหริหระที่พาไปชมเมื่อครู่เลยนะคะ เศียรนี้มีขนาดค่อนข้างใหญาคือ 73 เซนติเมตร ทั้งองค์คงอลังการน่าดู

ด้านหน้ามวยพระเกศาหลุดหายไปค่ะ ถ้าตรงนั้นเป็นพระพุทธรูป เศียรนี้ก็ต้องเป็นใครคะ (จะมีใครมาตอบไหมน้อ)
ถ้าตรงนั้นเป็นรูปเจดีย์ เศียรนี้ก็จะเป็นพระศรีอาริยเมตไตรยค่ะ

ดิฉันชอบเศียรนี้มาก ด้วยรุปพระพักตรงดงามสมส่วน สีพระพักร์อ่อนหวานงดงาม มองเท่าไรก้ไม่เบื่อค่ะ
#282
อันนี้พิเศษนะคะ


พระคเณศศิลา ศิลปะชวาภาคกลาง มาจากจัณฑิส่าหรี รัฐบาลฮอลันดาซึ่งดูแลอินโดนีเซียอยู่ในขณะนั้น น้อมเกล้าฯถวายรัชกาลที่ 5 มาเมื่อเสด็จประพาสชวาค่ะ
พระคเณศองค์นี้มีบัลลังก์และกุณฑ,ประดับด้วยกระโหลก พร้อมกันนั้นรัฐฐาลฮอลันดาถวายพระธยานิพุทธะทั้ง 4 มาด้วย ดปรดให้ประดิษฐานที่ไพทีพรระมณฑ) วัดพระแก้ว ทำจากหินภูเขาไฟค่ะ

เทวรุปเหล่านี้จัดแสดงอยู่ ณ อาคารมหาสุรสิงหนาท นะคะ หากใครว่างๆแวะเข้าไปชม รับรองไม่อยากกลับออกมาอน่นอนค่ะ
#283


องค์นี้คือพระวิษณุ ศิลปะแบบเทวรูปรุ่นเก่าร่วมสมัยศิลปะพนมดา ขุดพบที่เมืองศรีเทพเช่นกันค่ะ

หากเปรียบเทียบกับพระหริหระที่พาไปชมเมือสักครู่นี้จะเห็นว่ามีบางส่วนคล้ายกัน แต่ก้ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ความน่าสนใจก็คือเทวรุปพระวิษณุองค์นี้มีอิทธิพลศิลปะแบบพนมดาแน่นอน นี่คือสิ่งที่นักวิชาการถกเถียงกันว่าเทวรุปพระหิหระองค์นั้นกับองค์นี้สร้างยุคเดียวกัน ต่างยุค หรือแค่ต่างอิทธิพลกันแน่ค่ะ

เทวรุปเหล่านี้จะไม่ค่อยมีเครื่องประดับอลังการนะคะ มักจะทรงเพียงพระภูษาเรียบๆ มีร่องรอยว่าทาสีด้วยค่ะ แต่จางมากแล้ว เพื่อนๆคงเดาออกว่า ที่ทำเรียบๆก็เพราะศาสนิกชนสมัยนั้นจะตกตแงเทวรูปด้วยเครื่องทองและผ้าแบบสมัยนี้นั่นเอง
#284
องค์นี้ ถ้ามาที่นี่แล้วพลาดชมไม่ได้เลยค่ะ



พระวิษณุจตุรภุช ขุดพบที่กระบี่ค่ะ เป็นเทวรูปรุ่นเก่าที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถเชิงช่างของคนสมัยนั้น เทวรูปองค์นี้มีขนาดใหญ่มาก ประมาณ 200 เซนติเมตร สลักจากหินทราย โดยมีลักษณะทางกายภาพของมนุษย์ที่ชัดเจน สมส่วนและสง่างามมากค่ะ เรียกว่าหุ่นดีสุดๆ (แต่ถ้ามองจากด้านข้างจะเห็นว่าพระอุทรพลุ้ยนิดๆนะคะ)ดิฉันไปที่นั่นทีไรต้องมานั่งชมเทวรุปองค์นี้นานๆ

จะเห็นว่าเทวรุปพระนารายณ์ในสมัยนั้นจะทรงสวมพระมาลาทรงกระบอกเรียบอยู่เสมอ เป็นลักษณะเพาะของเทวรูปองค์นี้ ซึ่งต่อมาก็มีการยักย้ายเป็นพระมาลาแปดเหลี่ยมแต่ก็ยังเป็นทรงกระบอกสูงทั้งนั้น และมักจะไม่สวมเครื่องประดับพระองค์อลังการ แต่มักจะมีผ้าคาดพระโสณี และประภามณฑลโค้งเป็นรุปเกือกม้าด้านหลังเทวรูป โดยสองพระหัตถ์ล่างจะทรงศาสตราวุธเช่น กระบอง โดยเท่าไว้ที่พื้น ทั้งนี้เพื่อความแข็งแรงคงทนของเทวรูป โดยช่างอาจจะเลือกประภามณฑล หรืออาวุธอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้งสองอย่างพร้อมกันในเทวรุปองคืเดียวก้ได้ ส่วนเทวรุปองค์นี้ไม่มีทั้งอาวุธและประภามณฑล แสดงให้เห็ฯว่าช่างสมัยนั้นเก่งและเชื่อมั่นในตนเองมากเลยค่ะ
#285


พระหริหระ หินทราย ศิลปะแบบเทวรูปรุ่นเก่าในประเทศไทยค่ะ สังเกตเครื่องประดับพระเศียรจะเห็นว่าก้านหนึ่งจะเป็นทรงกระบอกเรียบๆไม่มีลวดลาย คือด้านที่เป็นพระวิษณุ อีกด้านหนึ่งเป็นลายคลื่น ซึ่งอันที่จริงคือปอยพระเกศาที่ย้อยลงมาแล้วตวัดขึ้น คือด้านที่เป็นพระศิวะ นุ่งผ้าโธตีสั้นชักชายด้านหน้าเป็นรูปหางปลา

สำหรับเทวรูปองค์นี้น่าสนใจมากเพราะยังถกเถียงกันไม่จบว่าเป็นศิลปะเขมร ศิลปะลพบุรี หรือเทวรูปรุ่นเก่ากันแน่ เมื่อไม่นานมานี้ดิฉันได้คุยกับคุณแต่ก็มิได้นำพาเรื่องเทวรูปองค์นี้ แต่ลืมไปเสียแล้วว่ามีรายละเอียดที่คุยกันว่าอย่างไรบ้าง หากคุณแต่ก็มิได้นำพาแวะผ่านมา รบกวนเล่าถึงเทวรุปองค์นี้ด้วยนะคะ
#286
วันนี้จะขอพาไปดูของที่เพื่อนๆควรไปชมอย่างยิ่งในวังหน้านะคะ

เริ่มต้นจากเทวรูปรุ่นเก่าในประเทศไทย

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราจะเรียกเทวรูปแบบนี้ว่าศิลปะทวาราวดี ต่อมานักวิชาการเห็นพ้องกันว่ายุคทวาราวดีซึ่งเคยมีศูนย์กลางทางภาคกลางของไทยนั้น อิทธิพลศาสนาพราหมณ์ยังไม่แพร่หลาย รูปเคารพทางศาสนานี้จึงไม่น่าจะจัดอยู่ในศิลปะทวาราวดี แต่เพราะเทวรูปเหล่านี้เกิดขึ้นจากฝีมือของคนท้องถิ่นจึงน่าจะจัดอยู่ในกระบวนศิลปะไทยด้วย จึงเปลี่ยนมาเรียกว่า ศิลปะรแบบเทวรูปรุ่นเก่า สรุปว่าเป็นเทวรูปซึ่งคนที่เคยอาศัยอยู่ในพื้นที่ประเทศไทยในปัจจุบันนี้เป็นคนสร้างขึ้นนั่นเอง

เทวรูปรุ่นเก่ามักมีลักษณะอย่างนี้ค่ะ
1. 90% ทำจากหินทราย มีขนาดใหญ่
2. 10%ที่เหลือทำจากโลหะแต่มีขนาดเล็ก
3. ลักษณะไม่เหมือนพระพุทธรูปศิลปะทวาราวดีและศิลปะเขมรเลย แต่กลับมีร่องรองของศิลปะอินเดีย เช่น คุปตะ หลังคุปตะ ปาละและเสนะ เป็นต้น



เทวรูปพระอาทิตย์ ศิลปะแบบเทวรูปรุ่นเก่าค่ะ ขุดพบที่เมืองโบราณศรีเทพ เพชรบูรณ์ จะเห็ฯว่ามีอิทธิพลศิลปะอินเดียอยู่มากแต่ก็แสดงให้เห็นว่ามีลักษณะแบบท้องถิ่นอยู่บ้างโยเฉพาะลวดลายของเครื่องประดับ  เทวรูปพระอาทิตย์นี้จะมีประภามณฑลรูปวงกลมด้านหลังพระเศียรเสมอค่ะ
#287
ยินดีเลยค่ะ และรู้สึกดีมากที่มีเพื่อนเที่ยวด้วยกัน ก่อนอื่นขออนุญาตเล่าถึงพระราชวังบวรสถานมงคลแบบภาพรวมก่อนนะคะ

ระบบการปกครองของไทยตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลาง แบ่งการปกครองระดับผู้นำเป็น 3 ฝ่ายคือ วังหลวง(พระมหากษัตริย์), วังหน้า(พระมหาอุปราช)และวังหลัง (เจ้านายพิเศษ) ซึ่งแต่ละพระองค์มีพระราชอำนาจลดหลั่นกัน

วังหน้าหรือที่เรียกเต็มๆว่ากรมพระราชวังบวรสถานมงคลนั้น เป็นตำแหน่งอุปราช มีพระราชอำนาจรองจากพระเจ้าแผ่นดิน ศักดินา100,000 มักเป็นโอรสพระองค์ใหญ่ หรือ พระอนุชาของพระเจ้าแผ่นดิน ตำแหน่งนี้มีขึ้นครั้งแรกในรัชกาลพระมหาธรรมราชา โดยโปรดฯให้สมเด็จพระนเรศ ทรงดำรงตำแหน่งวังหน้า เสด็จไปประทับ ณ พระราชวังของพระองคื ซึ่งมักเรียกกันว่า "วังหน้า" ตามไปด้วย สำหรับที่อยุธยา วังหน้าก็คือพระราชวังจันทร์เกษม ซึ่งหากมีโอกาส สิรวีย์จะพาไปเที่ยวนะคะ

สำหรับวังหน้าสมัยรัตนโกสินทร์นั้น มีทั้งสิ้น 5 พระองค์ ซึ่งมีเพียงพระองค์เดียวที่ได้ครองราชสมบัติเป็นวังหลวงต่อมา คือกรมหลวงอิศรสุนทร ซึ่งต่อมาเป็นรัชกาลที่ 2 ส่วนพระองค์อื่นนั้น ทิวงคตก่อนวังหลวงทั้งสิ้น

สถาปัตยกรรมวังหน้ามีเอกลักษณ์มากเลยค่ะ โดยมีฐานานุศักดิ์ของอาคารตามลำดับชั้นวังหน้า เช่น หลังคาไม่ลดชั้นยกเว้นพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ซึ่งใช้ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์, ใช้กระเบื้องดินเผาไม่เคลือบสี เป็นต้น ตราประจำพระองค์ของวังหน้าเป็นรูปพระลักษณืทรงหนุมานค่ะ

สำหรับใครที่เคยเข้าไปในวิทยาลัยนาฏศิลป์กรุงเทพ จะเห็นอาคารทรงไทยงดงาม นั่นคือวัดบวรสถานสุทธาวาส วัดประจำวังหน้าค่ะ




พระคเณศประจำวิทยาลัยนาฎศิลป์กรุงเทพ อาคารด้านหลังคือพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส
#289
ยินดีค่ะและขอบพระคุณที่มาเที่ยวด้วยกัน  ขอไปรวบรวมภาพถ่ายสวยๆแปบนึงนะคะ แล้วเดี๋ยวมาพาเที่ยวต่อค่ะ
#290
เฮ้อ ภาพไม่ค่อยขึ้น เอาไว้เดินทางมาใหม่วันหลังนะคะ 555555555 เบื่อซะแล้วค่ะ
#291
ที่นี่มีพระพุทธรูป เทวรุป และโบราณวัตถุสำคัญ ที่งดงามและเก่าแก่มากมายจัดแสดงให้ชม เรียกได้ว่าบางองค์นั่งดูทั้งวันก็ไม่เบื่อค่ะ ยกตัวอย่างเช่น หมู่เทวรูปศิลปะสุโขทัย บนห้องสุโขทัย ชิ้นที่สำคัญที่สุดสูงกว่า5 เมตร คือพระอิศวรและพระนารายณ์ มีพระหริหระหลายองค์ และมีพระพรหมซึ่งหาชมที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ที่สำคัญคือมีเทวรูปเทวีพระองค์หนึ่งซึ่งอาจเป็นพระอุมาค่ะ


#292
พระที่นั่งพุไธสวรรย์ด้านในค่ะ



พระพุทธสิหิงค์ประดิฐานในบุษบกที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสองหลังที่งดงามได้สัดส่วนที่สุดในโลก



จิตรกรรมฝาผนังมารผจญผนังหุ้มกลองพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ค่ะ



จิตรกรรมฝาผนังพระราชพิธีอภิเษกพระเจ้าสุโธทนะกับพระนางสิริมหามายาค่ะ
#293
ทุกวันนี้จึงเหลืออาคารสำคัญจัดแสดงโบราณวัตถุสำคัญของชาติ ดังนี้ค่ะ

1.พระที่นั่งพุทไธสวรรย์เดิมเป็ฯท้องพระโรงของกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ในรัชกาลที่ 1 ต่มาปี 2330 ท่านเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานไว้ที่นี่ และประดิษฐานมาจนปัจจุบัน บุษบกทรงพระพุทธสิหิงค์นี้ได้รับการยอมรับว่างามสมส่วนระดับเอกอุ หนึ่งในสองชิ้นของกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในอาคารมีจิตรกรรมภาพเทพชุมชุม และพุทธประวัติที่งดงามมาก


สิ่งที่คนมักมองข้ามคือ ด้านหน้าพระที่นั่งนี่มีประติมากรรมพระนารายณ์ทรงปืน ซึ่งหล่อขึ้นในรัชกาลที่ 5 โดยช่างฝรั่ง เดิมมีพระราชประสง๕จะไปไว้ที่พระราชวังบ้านปืน แต่สิ้นรัชกาลก่อน จึงเชิญมาไว้ที่นี่แทน

นี่คือประติมากรรมที่งดงามมากในความเห็นของดิฉัน และไม่อยากให้พลาดชมค่ะ ชื่อนารายณืทรงปืนนี้ทำให้คิดว่าคือพระราม ดังพระราชวังบ้านปืนก็มีชื่อเป็นทางการว่าพระรามราชนิเวศน์ค่ะ ดังนั้นนี่คือประติมากรรมพระรามนั่นเอง
#294
ค่าเข้าชม 30 บาทเพื่อบำรุงพิพิธภัณฑ์ ให้เขาเถอะนะคะ ไหนจะค่าจ้างพนักงาน ไหนจะน้ำไฟ ไหนจะค่าซ่อมบำรุง สารพัด

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เดิมเป็นพระราชวังบวรสถานมงคล ที่ประทับของวังหน้าในรัชกาลที่ 1 - 5 สร้างพร้อมๆกับวังหลวงค่ะ จนเมื่อวังหน้าพระองค์สุดท้ายทิวงคตในรัชกาลที่ 5 บรรดาเจ้านายวังหน้าก็ประทับอยู่จนถึงรัชกาลที่ 7 ที่นี่จึงว่างลงและรัชกาลที่ 7 พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เปิดเป็นพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนคร

เมื่อก่อนสนามหลวงมีแค่ครึ่งเดียวนะคะ ใครผ่านไปจะเห็นว่ามีถนนผ่ากลางสนามหลวง ด้านทิศเหนือทั้งหมดเป็นพระราชฐานฝ่ายหน้าของวังหน้าค่ะ



แต่พอสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญทิวงคต วังหน้าส่วนนั้นก็ถูกรื้อเป็ฯสนามหลวง เหลือเพียงพระราชฐานชั้นกลางและชั้นในแบบที่เห็นทุกวันนี้
#295
หลังจากเป็นสมาชิกบอร์ดมาได้ระยะหนึ่ง ทำให้มีโอกาสพูดคุยกับหลายๆคนในบอร์ดนี้ค่ะ เรื่องที่คุยกันบ่อยๆก็สถานที่ต่างๆซึ่งมีของน่าดูน่าชมอยู่มาก

หลังจากดิฉันหลบไปรักษาสุขภาพได้สักพักก้เริ่มเหงาค่ะ เลยคิดหัวข้อกระทู้นี้ขึ้น นอกจากแก้อาการเซ้งของตัวเองแล้ว ยังถือเป็นโอกาสดีชวนเพื่อนๆทุกท่านไปเที่ยวกันค่ะ แต่ละสถานที่น่าสนุก ได้ความรู้ และถูกมองข้ามมานานแล้วทั้งนั้น

เริ่มต้นด้วย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตดุสิต กรุงเทพมหานครค่ะ



พิพิธภัณฑ์นี้อยู่ริมสนามหลวง ระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และวิทยาลัยนาฏศิลป์ค่ะ ฝั่งตรงข้ามศาลอาญา คนไทยมักผ่านไปเฉยๆ มีแต่นักเรียนกับฝรั่งเข้าไปเที่ยว
#296
55555555555

หน้าดิฉันไม่ค่อยอินเตอร์นี่ดิคะ
#297
ขอบพระคุณข้อมูลจากคุณอักษรชนนีค่ะ ของดิฉํนไม่ละเอียดกว่าเท่าไรหรอกค่ะน่าจะประมาณนี้เลยแหละ

คิดภาพวิ่งกรูๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆโผเข้าไปทักกัน แบบที่คุณnarada พูดแล้วข๊ำขำค่ะ ผู้คนคงแตกตื่นน่าดู
#298
ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับภาพที่งดงามเหล่านี้

วันหลังต้องรบกวนคุณ sompope เข้ามาเล่าบรรยากาศให้ฟังด้วยนะคะ

เทวรูปพระขันธกุมารงามสง่าสมเทวสถานะจริงๆค่ะ
#299
อลังการสุดๆค่ะ

ใครที่เคยไปสักการะที่สถานที่จริงคงทราบดีว่าคำ 'อลังการ' ยังน้อยเกินไป
#300
อ๋าย เล่นไม่เป็นอ่ะค่ะ
สมัยเด็กๆเคยพยายาม แต่เวลาก็ผ่ายมาสิบกว่าปีก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ 55555555555
#301
อ้าว มีทุ่มเถียงกันด้วยหรือคะเนี่ย อ่านไม่ละเอียด อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ แค่ดูทีวีก็ทะเลาะกันเยอะพอแล้ว
รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย
#302
ขออนุญาตตอบในฐานะกะเทย ที่เกิดมาเป็นกะเทย และจะตายในฐานะกะเทย (ที่ไม่ต้องข้ามสิ่งกีดขวางหรือเพศพันธุ์ภพชาติใดใดให้วุ่นวาย)
แต่ต้องออกตัวก่อนว่าคำตอบเหล่านี้เกิดขึ้นจากการประมวลจากผู้คนรอบๆตัว (แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นกะเทย รองลงมาเป็นเกย์ อิอิ รอบๆข้างมีแต่สองเพศนี้นะคะ ส่วนผู้หญิงข้ามเพศ เก้ง กวางและสาวเทียมยังไม่มีในกลุ่มค่ะ) ได้จากการสังเกต สอบถาม แต่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ทางวิชาการใดใด

พอจะประมวลได้ประมาณนี้ค่ะ

1. สาเหตุหลักของการบูชาพระกาลีของกลุ่มนี้เกิดจากศรัทธาด้วยเทวลักษณะค่ะ แน่นอนว่าอันแรกคือพระองค์ท่านเป็นสตรีเพศ(เหมือนใจพวกเรา) แต่มีความดุดันเด็ดขาด เหมือนเป็นกำลังใจให้กับพวกเราซึ่งมีการต่อสู้ทั้งภายในใจตัวเองและต่อผู้คนรอบข้างค่อนข้างดุเดือด นอกจากพระกาลีแล้ว พระทุรคาก็ได้รับการนับถือค่อนข้างมากด้วยเหตุเดียวกันนี้ และที่เข้าใจกันอย่างกว้างขวางในหมู่คนรอบๆข้างดิฉันก็คือ เชื่อกันว่าพระกาลีอนุเคราะห์เรื่องเพศรสด้วยค่ะ ซึ่งอันหลังไม่ยืนยันเทวปกรณ์นะคะ แต่เชื่อกันอย่างนี้จริงๆ หากคุยกันในฐานะมรรตรัยชนคงต้องเรียนตรงๆว่าเรื่องเพศรสนี้สำหรับคนกลุ่มนี้ค่อนข้างพิเศษมากกว่าชายหญิงทั่วไป ถึงไม่ได้สำคัญที่สุดแต่ก็ไม่ใช่ไม่คำนึงถึงเลย

มีเพื่อนจำนวนหนึ่งส่วนมากเป็นกะเทยให้คำตอบตรงกันอย่างน่าแปลกใจว่า พวกหล่อนเชื่อว่าพระกาลีจะปราบมารชีวิตพวกเธอได้อย่างรวดเร็วและราบคาบ คิดว่าหลายคนคงทราบว่ากะเทยจำนวนหึ่ง ย้ำว่าจำนวนหนึ่งนะคะค่อนข้างชอบอะไรที่ชัดเจน (ไม่อยากใช้คำว่าสุดโต่ง)สังเกตจากกิริยา พฤติกรรม การแต่งตัวหรือแม้กระทั่งอุปนิสัย พวกหล่อนฟันธงว่าพระกาลีมีรูปลักษณ์ที่ชัดเจน ทรงพลัง น่าศรัทธา

2.เห็นด้วยกับความเห็ฯที่ว่าคติบูชาพระกาลีนั้น ในกลุ่มคนรอบๆดิฉันมักเป็นเรื่องคล้ายๆ ลัทธิเอาอย่าง คือนับถือเพราะได้รับการบอกต่อค่ะ แต่เชื่อว่าถ้าพวกหล่อนไม่ได้ศรัทธาแล้วคงไม่รับเอามาง่ายๆ ดังนั้นข้อนี้ในความเห้ฯจึงมาเป็นที่สองค่ะ

3. เหตุต่อมาซึ่งน้อยมากคือศรัทธาท่านด้วยเทวปกรณ์ค่ะ แบบปกรณ์จริงบ้าง ปกรณ์แผลงๆบ้าง แต่โดยรวมๆแล้วฟังเรื่องท่านจึงศรัทธา

สำหรับตัวดิฉันเองนับถือท่านนะคะ แต่ไม่มีเทวรูปท่านที่บ้านและคงจะไม่หามาไว้เพราะค่อนข้างเกรงรูปลักษณ์ท่านค่ะ

#303
สงกรานต์ทำงานค่ะปีนี้ กว่าจะได้กลับบ้านคงกลางๆช่วงสงกรานต์ค่อนไปทางท้ายๆแล้ว
ยังไงฝากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเล่นน้ำเผื่อด้วยนะคะ

ปล.เรื่องมะพร้าวน่าสนใจมากค่ะ
#304
มาเป็นกำลังใจให้คุณเจ้าของกระทู้ด้วยอีกคนหนึ่งนะคะ

ศรัทธาของคุณงดงามจนคำนินทาใดใดเอิ้อมไม่ถึวงหรอกค่ะ แต่ตามธรรมดาของโลกนี้ ย่อมมีทั้งคำสรรเสริญและติฉิน อยู่ที่ว่าเราจะให้น้ำหนักอันไหนมากกว่ากัน ของที่ล้ำค่าที่สุดของเรา อาจจะไม่ใช่ของล้ำค่าของคนอื่นๆก็จริง แต่ของนั้นไม่ได้ด้อยค่าเพราะคำหยามหมิ่นของคนอื่นนะคะ ใจเรานี่แหละที่สำคัญ

สิ่งที่คุณทำน่าสรรเสริญที่สุดเลยนะคะ ดิฉันยังไม่สามารถทำได้อย่างนั้นเลย เราหยิบยื่นสิ่งดีๆออกไป ใครจะรับหรือไม่ เรื่องของเขาค่ะ

พระท่านว่า
ใครชอบใครชังช่างเถิด ใครเชิดใครแช่งช่างเขา
ใครเบื่อใครบ่นทนเอา ใจเราร่มเย็นเป็นพอ

จำไม่ได้ว่าใครแต่งนะคะ แต่เดาว่าเป็นท่านพุทธทาส

สาธุ
#305
ไปมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วค่ะ อาจจะเดินสวนกันใช่ไหมค่ะ แหม....รู้งี้ฝากเนื้อฝากตัวกับหัวหน้าแก๊งตั้งแต่วันหนั้นเลยก็ดี นี่ล่ะเหตุผลที่ควรทำเสื้อของพวกเรา จะได้ทักทายกันไงคะ

คือดิฉันคุ้นๆว่าเคยเห็นประติมากรรมคล้ายๆเทวรูปองค์นี้อยู่ที่ไหนสักแห่ง เช่นอาจจะประดับอยู่ในเทวสถานที่อินเดีย หรืออาจจะเป็นรูปวาดอะไรแบบนี้อ่ะค่ะ

คุณอักษรชนนีกรุณาแจ้งมาว่าเคยเห็นในเว็บขายเทวรูปฝรั่งด้วยค่ะ
#306
เมื่อต้นสัปดาห์ผ่านไปเดินเที่ยวที่พาหุรัดค่ะ โดยที่ไม่ได้มีจุดหมายอะไรเป็นพิเศษ แต่ในที่สุดก็ได้เทวรูปองค์นี้กลับมาที่บ้าน ชอบมากเลยค่ะ  คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นที่ไหนแต่นึกไม่ออกอ่ะค่ะ ใครพอมีข้อมูลรบกวนด้วยนะคะ ค้างคาใจจริงๆ

(คุณภาพไฟล์อยู่ในเกณฑ์ห่วยเลยนะคะ เพราะว่าใช้กล้องมือถือรุ่นโบราณ พอดีกล้องถ่ายรูปไม่ได้อยู่แถวนี้ค่ะ)


#307
ดิฉันเป็นข้าพระบาทพระศรีเหมือนกันค่ะ
แล้วถ้าอยากเข้าแก๊งด้วยต้องทำไงก่อนอ่ะคะ
อิอิ

*-*
#308
โดยส่วนตัวเชื่อว่า หากเราไม่ละทิ้งพระผู้เป็นเจ้า พระองคืก็จะไม่ละทิ้งเรา
อยู่ที่ว่าคุณละทิ้งท่านหรือเปล่า

หรือบางทีบางอารมณ์เราอาจจะเผลอไผลไปกับกิเลสบ้าง แต่ถ้าในที่สุดคุณมีสติ พระองค์ก็จะสถิตย์อยู่กับคุรอีกครั้งค่ะ

ในฐานะมรรตรัยชน ไม่มีทางที่เราจะบริสุทธิ์ผุดผาดไปได้หรอกค่ะ คล้ายๆเราเดินทางไปข้างหน้า บางทีก็หลงทางบางทีเหนือ่ยก้แวะหิวก็หากิน อาจจะผิดทางบ้างอาหารเป็นพิษบ้าง ไม่ใช่เรื่องสำคัญใหญ่โตอะไร อยู่ที่ว่าทางที่คุณคิดจะเดินเป็นทางที่ดีหรือไม่ และคุณใฝ่ใจในทางนั้นเพียงใด เล็กๆน้อยๆพระเจ้าทางคงไม่ทรงถือสา หรือแม้จะใหญ่โตหากเราสำนึกผิดและตั้งใจใหม่ท่านก็พร้อทจะอำนวยพระพรอีกครั้ง

เป็นกำลังใจให้นะคะ
#309
ยินดีค่ะ แต่ยังไงลองค้นต่อและสอบเทียบข้อมูลดูก่อน ดิฉันก็พูดไปเรื่อยตามประสาคนสมองน้อย
#310
ขอบพระคุณ คุณ Naga มากเลยค่ะ สำหรับความกรุณาแบ่งปันรูปสวยๆ
ดิฉันก็ชอบเดินเที่ยวละแวกนั้นเช่นกันและยกมือไหว้พระนางธรณีบีบมวยผมเสมอๆ
ก่อนหน้านี้ท่านถูกทาทองทับแต่การบูรณะครั้งหลังสุดปีที่แล้วหรือปีก่อนนี้ได้ลอกสีทองออกโชว์เนื้อโลหะรมดำอย่างที่เห็นในปัจจุบัน สวยไม่หยอก
การบูรณะครั้งเดียวกันนี้ยังได้บูรณะอนุสาวรีย์อันเนื่องด้วยสมเด็จพระพันปีอีกแห่งหนึ่งใกล้ๆกัน คืออนุสาวรย์สหชาติ ริมคลองหลอด ใกล้ๆวัดราชประดิษฐ ที่คนชอบเรียกกันว่าอนุสาวรีย์แม่หมู ทั้งสองแห่งนี้ เมื่อบูรณะเสร็จแล้วพระวรชายาเสด็จทรงเปิดค่ะ

ตามที่ดิฉันเคยเล่าไว้คราวที่แล้วว่าโดยส่วนตัวดิฉันเดาว่าอุทกธารแห่งนี้ ตอกย้ำความเป็นเทวีแห่งสายน้ำให้กับคนไทยอย่างมากนะคะ เพราะสมัยนั้นใครอยู่แถวนี้ แล้วอยากดื่มกินใช้ประโยชน์จากน้ำก็นึกถึงพระนางธรณีที่สะพานผ่านพิภพ ซึ่งมีน้ำไหลออกจากพระเมาฬีตลอด เวลานี้คนไทยส่วนใหญ่จึงนึกถึงพระธรณีว่าเป้นผู้ประทานน้ำ

พระยาจินดารังสรรค์ (พลับ) นี้ ฝากผลงานไว้อีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ คือพระบรมรูปรัชกาลที่ 4ในท้องพระโรงตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศน์วิหารค่ะ ฝีมือท่านงามมากเชียว นับเป็นศิลปินไทยแท้ไม่กี่คนที่มีฝีมือปั้นหลากหลาย ปั้นรูปเหมือนก็ได้ ปั้นประติมาแบบประเพณีก็ได้

ส่วนสมเด็จฯผู้ทรงออกแบบศาลนั้น ทุกท่านคงทราบซึ่งในฝีพระหัตถ์ทางศิลปะของท่านดีแล้ว

#312
อย่างไรก็ตาม มีผู้แย้งว่า นามทั้ง 8 นี้ มักถือกันว่าเป็นนามของนาฑากิณี ซึ่งเป็นบริวารของเหรัชระเช่นกัน แต่นัยว่ามีอาวุโสกว่า และว่าฑากิณีมีด้วยกัน 5 ตระกูล นามทั้ง 8 นี้คือตระกูลวัชระ และยังมีตระกูลกรรมะ ปัทมะ พุทธะ อัญมณี มีหน้าที่รักษาธรรมะและผู้ปฏิบัติธรรม มีปรกติอยู่ในอากาศ

บ้างก็ว่าฑากิณีและโยคนีคือพวกเดียวกัน และไม่ได้ปรากฎพระองค์เหนือเทพอินดู เพียงแค่ รูปเคารพของเหวัชระจะปรากฎรูปเทพฮินดู 8 องค์รักษาทิศ อาจสร้างใกล้รูปนางบริวารเหล่านี้เลยดูเหมือนสร้างเหนือกัน เทพทั้ง 8 คือพระพรหม พระอินทร์ พระวิษณุ พระศิวะ พระยม พระกุเวร พระนิรฤติและ Vemacitrin (?)

บางพวกก็ว่านางทั้ง 8 คือบริวารของพระกาลีนั่นเอง

เหล่านี้คือความเห็นจากหลายสาขาซึ่งเป็นธรรมดาของศาสนาซึ่งมีประวัติยาวนาน มีการเผยแพร่กว้างขวางและมีหลักมากมายทำให้มีองค์ความรู้มากมายและสับสน และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงคติที่ไม่จำเป็ฯต้องมีข้อยุติที่ตายตัว ต่างก็คือเห็นไปตามการพิจารณาของตนค่ะ ดังนั้นใครเชื่อถืออันไหนก็ไม่น่าจะผิดอะไร

นี่ออกตัวไว้ก่อนค่ะ พูดเยอะเดี๋ยวผิดจะโดนไม่ใช่น้อย แต่ถ้าตรงไหนแปร่งๆใครอยากมาเสริม มาเติม หรือมาแนะนำ ดิฉันอยากและยินดีฟังมากเลยค่ะ จะได้ขอฉลาดขึ้นพร้อมๆกันไปด้วย ทั้งหมดนี้ก็ฟังจากเขา อ่านจากเขามาอีกทีค่ะ ตัวเองน่ะค่อนข้างสมองกลวง ตอบนอกเรื่องมากไปแล้ว ขอยุติแต่เพียงเท่านี้แล


#313
คุณ jaidevima  คะ

โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องปรกติค่ะที่เกิดการเข้าใจสับสนเช่นนั้น เพราะคติการสร้างรูปโยคินีค่อนข้างหลากหลายมาก แต่โดยปรกติแล้วรูปโยคินีมักจะไม่สร้างต่างหากค่ะ มักสร้างร่วมกับเหวัชระ ทั้งบนฐานเดียวกัน หรือแยกกันแต่ต้องตั้งประกอบกัน ส่วนวัชระโยคินี ซึ่งเป็นศักตินั้น มีน้อยมากที่สร้างแยกต่างหากค่ะ โดยมากมักปรากฎคู่กับพระเหวัชระและทรงโอบกอดศักติของพระองค์ไว้ แต่ที่พบศิลปะเขมรมักจะเป็นรูปสตรีทรงเครื่องกษัตริย์ มีสองกร และแยกจากเหวัชระค่ะ แต่ตั้งคู่กัน

ค้นๆดูข้อมูลของนางโยคินี  พบบทความที่อาจารย์กฤษฎา พิณศรี กล่าวไว้ในวารสารเมืองโบราณว่า ประกอบไปด้วย

1) นางเคารี (Gauri) ประจำทิศตะวันออก ผิวสีดำ ถือถ้วยหัวกระโหลกในมือขวาและถือปลาในมือซ้าย
2) นางเฉารี (Chauri) ประจำทิศใต้ ผิวสีทองแดง ถือกลองในมือขวา และถือหมูป่าในมือซ้าย
3) นางเวตาลี (Vetali) ประจำทิศตะวันตก ผิวสีแดงส้ม ถือเต่าในมือขวา และถือถ้วยหัวกระโหลกในมือซ้าย
4) นางฆษมารี (Ghasmari) ประจำทิศทิศเหนือ ผิวสีเขียว ถืองูในมือขวา และถือถ้วยหัวกระโหลกในมือซ้าย
5) นางปุกกาสี (Pukkasi) ประจำทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผิวสีน้ำเงิน ถือสิงโตในมือขวา และถือขวานสั้นในมือซ้าย
6) นางชาพารี (Shabari) ประจำทิศตะวันออกเฉียงใต้ ผิวสีขาวขุ่น ถือนักบวชในมือขวา และถือพัดในมือซ้าย
7) นางฉนฑลี (Chandali) ประจำทิศทิศตะวันตกเฉียงใต้ ผิวสีเทา ถือกงล้อในมือขวา และถือคันไถในมือซ้าย
8.) นางโทมพี (Dombi) ประจำทิศทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผิวสีเหลืองทอง ถือวัชระในมือขวา และถือปลาในมือซ้าย
#314
ขอบพระคุณคุณอักษรชนนีค่ะ

ไม่ผิดหวังเลย เวลามีงานที่ไหน แล้วมีเหตุให้ไม่ได้ไป ชอบคิดว่า "ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวรอดูรูปจากคุณอักษรชนนีก็ได้ เผลอๆรูปสวยกว่าในงานจริงๆซะอีก"

ไม่ผิดหวังเจงๆ
#315
เหวัชระและนางโยคินี



เหวัชระบนกลอง?
#316
เห็นด้วยกับความเห็ฯที่ว่านี่คือเหวัชระนะคะ

เหวัชระนั้น มีจุดเด่นที่มักเหยีบบนร่างมนุษย์หรือซากศพค่ะ และมักจะยกพระบาทขวาขึ้นมาไว้บริเวณข้อพับของพระชงฆ์ซ้าย ซึ่งเรียกว่า อรรธปรยังก์

เหวัชระนั้น นิกายตันตระเชื่อว่าเป็นหนึ่งในคณะเทพยิดัม ซึ่งมีหน้าที่พิทักษ์พระพุทธศาสนาและศาสนิกชนจากการรบกวนของภูติผี ตามหลักประติมานวิทยาว่ามีวรรณะฟ้า หลายพระเศียร หลายพระกร และบางทีมี 4 พระบาท โดยสองบาทเหียบศพ อีกสองบาททำอรรธปรยังก์ ศิลปะเอเชียตะวันออกสร้างท่านคู่กับศักติด้วย แต่เมื่อแพร่ขยายมาทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ศิลปะเขมรท่านมักปรากฎองค์เดียว และมีเพียงสองพระบาทเหยียบศพอยู่แต่สังเกตตีดี บางครั้งจะเซาะร่องที่ข้างพระชงฆ์ทั้งสอง เพื่อแสดงให้เห็นว่ามี4 พระบาท แต่งพระองค์อย่างอลังการ บางทีเป็นรูปเคารพลอยองค์ บางทีปรากฎรูปสลักบนเครื่องใช้ในพิธีเช่นสังข์ บางทีก็ปรากฎเป็นคล้ายๆพระพิมพ์สำริดซึ่งเรียกว่า เหวัชระมณฑล

ท่านมีบริวารเป็นนางโยคินี 8 ตน รักษาทิศทั้ง 8 โดยมักทำรูปนางเหล่านั้นมีสองกร สามเนตรและทำท่าอรรธปรยังก์เหนือซากศพ ด้วย และบางตำราว่านางทั้ง 8 จะปรากฎพระองค์เหนือเทพเจ้าฮินดู นัยว่าเป็นการข่มกันทางลัทธิความเชื่อ

พล่ามมาซะยาว หวังว่าท่านเจ้าของกระทู้และผู้ชมทุกท่านจะไม่ว่านะคะ

ปล.ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มีเหวัชระงามๆจัดแสดงอยู่หลายองค์ในห้องเขมร ว่างๆเชิญชมนะคะ
#317
ขอบพระคุณคุณอักษรชนนีมากเลยค่ะ ภาพสุดท้ายนี่ล่ะค่ะที่ตามหา
#318
เรียนทุกท่าน

ดิฉันอยากได้ภาพจิตรกรรมพระธาตุจุฬามณีเจดีย์มากเลยค่ะ หากใครพอจะมีรบกวนด้วยนะคะ

ขอบพระคุณทุกท่านที่เมตตาค่ะ
#319
รออยู่เช่นเคยค่ะ