Messages

ปัญหาคล้ายๆกันเลยค่ะ หนูก็ติดเรื่องที่ประดิษฐานค่ะ แม้ว่าจะมีห้องว่างพอให้ทำห้องพระ ทว่าก็ไม่ใช่บ้านของเราเองค่ะ จะไปแผ่อาณาจักรซะใหญ่โตก็ใช่ที่ เลยต้องพยายามหาเทวรูปขนาดพอดีๆมาบูชาค่ะ
ซึ่งก็ดีนะคะทำให้เวลาขนย้ายสะดวก เทพเจ้าอยู่ที่ใจค่ะพี่

อ๋อ ค่ะ
ขอบพระคุณคุณกาลิทัสมากค่ะ แค่อยากทราบว่ามีใครมีบุญได้ครอบครองบ้างเท่านั้นเอง นอกจากในอินเดียโน่น
เห็นบอกว่าพื้นที่มณฑลโดยรอบที่ประดิษฐานศาลิครามศิลาถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหมคะ

สวัสดีค่ะพี่แนท นี่โด่งเพิ่งเคยเห็นสาลิครามศิลานี่เป็นครั้งแรกนะคะ ตื่นเต้นจัง เอ อย่างนี้มีใครแถวๆนี้มีไว้บูชาบ้างหรือเปล่าคะเนี่ย

คุณหริทาสขา ไม่ขายแถวกรุงเทพบ้างเหรอคะ นครปฐมอันที่จริงก็ไม่ไกลนะคะ แต่ไปลำบากจริงๆ (สั่งทางไปรษณีย์ได้ก็ดีนะคะ) อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆมากค่ะ

ขอบพระคุณคุณกาลิทัสมาก
เลยค่ะ

ขอบพระคุณ คุณ NaGa มากค่ะ

เคยได้ยินมาว่าเป็นศิลาศักดิ์สิทธิ์อันเกี่ยวเนื่องกับพระวิษณุและพระศรีซึ่งเสด็จลงมาเป็นแม่น้ำคัณฑกี แต่พยายามหารายละเอียดว่าศิลานี้มีรูปร่างอย่างไร หาไม่ได้เลยค่ะ ใครมีรายละเอียดบ้างคะ เห็นบอกว่ามีลวดลายคล้ายกงจักร และบอกว่าอาจเป็นหินฟอสซิล จริงไหมคะ

ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ สังข์นี่มิลักษณะดีหรือร้ายไหมคะ นอกจากเราจะดูว่าเวียนซ้ายหรือเวียนขวา

เมื่อวานดิฉันใช้ตะไบถูค่ะทุกท่าน ขาวจั๊วะเป็นยองใย แต่ก็เล่นเอามือเกือบแหกไปเหมือนกัน ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นที่ดิฉันพอใจแล้ว

คิดว่าจะหามังสีมารองสักหน่อย

ขอบพระคุณคุณกษิตินะคะ เป็นความรู้ใหม่เลยค่ะเนี่ย

นานมาแล้วได้มีบุญเห็นสังข์สำคัญสององค์ หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะไม่มีร่องบุ๋มที่บอกว่าเป็นรอยพระดัชนีพระนารายณ์เลยอ่ะค่ะ ช่างเขาบุทองที่ช่องทองของสังข์ทั้งหมด ดิฉันตาฝาดไปเองหรือว่ามีสังข์แบบนั้นอยู่ด้วยคะ และมีอะไรพิเศษหรือเปล่า

ดิฉันชอบสังข์มากค่ะ เป็ฯของที่สวยงามและแสดงภูมิปัญญาของบรรพชนของมนุษยชาติจริงๆ สวยด้วย มีความหมายด้วย หายากด้วย

สังข์เป่านี่เขามีวิธีเลือกเสียงไหมคะ เห็นเวลาใช้ในพระราชพิธีคล้ายว่ามันจะเสียงดังวู้ๆๆๆๆๆ แต่เวลาไปตามร้าน เวลาเขาทดลองเสียงมันดังโป๊ดๆ

ขอบพระคุณคุณกาลิทัสมากค่ะ อันที่ได้รับมานี่เขาขัดมาแล้วในระดับหนึ่งค่ะ แต่ก็ยังกระดำกระด่างอยู่บ้างพอสมควร กำลังคิดจะกลับไปใช้กระดาษทรายถู ไม่รู้จะรอดหรือเปล่านะคะนี่

เทวรูปพระสรัสวดีที่บ้านท่านประทับยืนน่ะค่ะ (ถ้าใช่เทวรูปท่านนะคะ) เลยอยากให้เทวรูปพระพรหมประทับยืนด้วย จำเป็นไหมคะที่ต้องเป็นแบบนี้ และจำเป็นไหมคะว่าเทวรูปคู่กันต้องเป็นศิลปะแบบเดียวกัน

อ๋อ นึกออกแล้วค่ะ ซอยนั้นเข้าไปบ่อย แต่ไม่ค่อยได้มองหาสังข์เท่าไร เสาร์นี้มีที่เที่ยวแล้วค่ะ

ขอบคุณนะคะพี่แนทคนสวย

และถึงจะพยายามเรียนรู้ ก็รู้น้อยค่ะ ส่วนมากจะงงซะมากกว่า

เคยนั่งรถผ่านโรงละครแห่งชาติกับศิลปินแห่งชาติท่านหนึ่ง ซึ่งคนมักลืมไปว่าท่านเป็นศิลปินแห่งชาติด้วย ท่านชี้ให้ดูพระคเณศบนหลังคาโรงละครแล้วบอกว่า "โด่ง ดูซิ แปลกดีนะ พระคเณศของกรมศิลปากรนี่ใส่กางเกงขายาวซะด้วย" ตอนนั้นขำไปตามระเบียบค่ะ แต่ก็งงงง เพิ่งมาอ๋อทีหลังว่าท่านหมายถึงอะไร

ขอบพระคุณค่ะพี่แนท พาหุรัดไปมาบ่อยมากค่ะ แต่ไม่รู้ว่าตรงไหนเรียกว่าตรอกแขก ขอคำแนะนำด้วยค่ะ (ฟังดูฉลาดน้อยยังไงไม่รู้นะคะ 5555)

วันนี้เพื่อนกลับมาจากไปเที่ยวต่างประเทศมาค่ะ มีของฝากเป็นหอยสังข์ขนาดประมาณกำลังน่ารัก แต่ยังขัดมาไม่ดีเท่าไร เลยอยากรบกวนถามทุกท่านว่า ปรกติเขาใช้อะไรขัดสังข์ให้ขาวคะ

สังข์เป่าพอรู้จักร้านค่ะ แต่อยากได้สังข์รดน้ำมากกว่า เขาซื้อที่ไหน ราคาประมาณเท่าไร พอมีใครทราบไหมคะ เคยไปดูมีแต่ทำจากกระเบื้องทั้งนั้นเลย อยากได้หอยมากกว่า เพื่อนบอกว่าราคาเป็นหมื่นจริงเหรอคะ

ถามเรื่องสังข์มาสองครั้งแล้วค่ะ หวังว่าคงไม่มีใครรำคาญดิฉันนะคะ ถ้าเป็นอย่างนั้นคงต้องขำอภัยไว้ ณ ที่นี่ เป็นฐม

คุณตรีศังกุเล่าถึงกรมพระสรัสวดีน่าสนใจมากค่ะ เพิ่งนึกได้ว่าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร มีเทวรูปที่ได้รับมาจากกรมพระสรัสวดีเดิม เป็นรูปเทพผู้ชายประทับนั่งขนาดสมาธิบนฐานสูง ในพระหัตถ์ถือสมุดบัญชีค่ะ แปลกดีนะคะ ชื่อ กรมพระสรัสวดีแต่มีเทวรูปเป็นผู้ชาย วันหลังว่างๆจะไปถ่ายรูปมาให้ชมกันนะคะ

ป.ล.ว่าไปตามที่ได้เห็นและได้ยินได้ฟังมา อย่าดุดิฉันกันเลยนะคะ ได้โปรด

และ ป.ล.(อีกครั้ง) ได้รับเทวรูปศิลปะทมิฬมาองค์หนึ่งค่ะ เป็นผู้หญิงสองกรพระกรขวาทรงถือห่วงกลมๆ พระกรซ้ายถือของยาวๆแบนๆ ท่านยกพระบาทขวาขึ้นหงาย ฝ่าพระบาทเป็นลายดอกไม้ ส่วนขาซ้ายย่อเล็กน้อย ที่ใกล้พระบาทซ้ายมีศัตว์ปีกชนิดหนึ่ง ปากยาว ตอนได้มาทั้งคนให้คนรับงงว่าเป็นใคร
จะเป็ฯไปได้ไหมคะว่าท่านคือพระสรัสวดี ห่วงกลมๆคืออัษมาลา และของยาวๆแบนๆคือพระเวท ส่วนสัตว์นั้นคือหงส์ เคยมีนักวิชาการบอกว่าเป็ฯพระสรัสวดีขณะร่ายรำ อย่างงี้ผิดธรรมเนียมไหมคะ ทุกวันนี้บูชาท่านในฐานะพระสรัสวดีค่ะ

หู องค์ความรู้ล้วนๆ ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ

55555 สรุปว่าดิฉันควรทาสีท่านไหมคะ แล้วสีไรดีเนี่ย

มีใครเคยเห็นเทวรูปพระพรมประทับยืนไหมคะ (แบบที่เราสามารถเชิญท่านมาประดิษฐานที่บ้านได้นะคะ) พยายามหาอยู่ค่ะ ส่วนมากท่านนั่ง

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในซอยบ้านดิฉันแถวลาดพร้าว บ้านหนึ่งมีศาลพระพรหมอยู่หน้าบ้าน นอนอยู่ดีดี พระพรหมอันตรธานไปเสียแล้วค่ะ เหอๆๆๆ เจ้าของบ้านร้องไห้ใหญ่ บอกเสียดายอายุตั้ง 50 กว่าปีแล้ว ปรกติดิฉันชอบไปไหว้ท่านในบ้านนั้นบ่อยๆค่ะ ช่างปั้นได้สวยมาก เสียดายแทน

คิดว่าคนในบอร์ดทั้งหมดมีศรัทธาเป็นที่ตั้ง และมีปัญญารู้คิดเป็นเครื่องประกอบกันอยู่แล้วค่ะ ส่วนการแสดงออกในศรัทธาความเชื่อที่ไม่สร้างความเดือนดร้อนให้ใครเป็นไปตามสิทธิมนุษยชนและเป็นไปตามกฎหมาย เราสามารถทำได้

"ศรัทธา" เป็นเรื่องเฉพาะตนนะคะ ใครจะละเมิดของใครก็มักเกิดปัญหาเสมอ และอันที่จริงถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็อย่าไปขัดขวางศรัทธาใครเลยค่ะ บาป

เทวรูปและบรรดาเครื่องประกอบทั้งหลายก็คือวัตถุสมมุตินะคะ มีผลต่อจิตใจของผู้ศรัทธาแต่ไม่ใช่องค์พระเป็นเจ้า ดิฉันเดาว่าเทวรูปและข้าวของจึงไม่น่าจะใช่แก่นแท้ของศาสนาพราหมณ์ - ฮินดู การมีไว้ การหามา หรือการสร้างสรรค์บนพื้นฐานของความพอเพียงก็เป็นสิทธิอันชอบธรรม

ดังนั้นผู้มีกำลังจะสรรสร้างสิ่งต่างๆเพื่อฉลองศรัทธาก็เป็นสิทธิที่เขาพึงทำได้ หากเขาทำด้วยศรัทธาและตั้งอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียง เขาก็ได้รับพระพรเอง

ดิฉันเชื่อว่าทั้งคุณตรีสังกุและคุณเทวาเหนือเกล้าหวังดีต่อพวกเราทั้งมวลนะคะ รักกันไว้เถิดเราเกิดร่วมแดนไทย

นะคะ คิดเหมือนกันเลย ขอบพระคุณค่ะที่สนับสนุน
ที่บ้านมีน้ำปรุงขวดหนึ่งซื้อมานานมากแล้วยังไม่เคยเปิดใช้เลย คราวนี้ได้ใช้ประโยชน์สักที

ต๊าย ตาย ขอประทานโทษอย่างสูงค่ะพี่แนทขา ไม่ได้คิดจะลบหลู่เลยนะคะ พูดเล่นให้เห็นขำค่ะพี่

ขอบพระคุณ คุณเทวาเหนือเกล้าและคุณกาลิทัสค่ะ

คิดวิธีนี้เหมือนกันค่ะ แต่ฟังดูขโม๊ย ขโมย

แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วนะคะ

ภาพพระกฤษณะภาพนี้มีความหมายกับดิฉันมากค่ะ พยายามหามาบูชาที่บ้านมาเกือบสองปีแล้ว แต่หาไม่เจอสักที มีใครแนะนำสถานที่บูชาได้บ้างไหมคะ

กุมกุมทำให้เทวรูปเปื้อนอ่ะค่ะ แม้จะเป็นของคู่ควรแต่ดิฉันไม่ค่อยชอบเท่าไร จะผิดประเพณีไหมคะถ้าใช้ดินสอพองผสมน้ำปรุงเจิมเทวรูปเพื่อบูชาแทน

เช่นเดียวกับคุณ NaGa ค่ะ มีคนยืนยันเหตุผลเดียวกันนี้ให้ฟัง ดิฉันก็ว่าฟังดูดีนะคะ
แต่ แหม....ไม่ไว้ใจโบสถ์พราหมณืเหรอคะ สถานที่ออกมิดชิด ผู้คนพลูกพล่าน
แต่เมื่อไม่มานมานี้ เออ แอะ....พระเครื่องในพิพิธภัณฑ์มันยังพยายามขโมยไปจนได้
เหอ เหอ เหอ...
ปล.ไม่ได้ดูถูกเทวรูปที่อยู่ในโบสถ์เดี๋ยวนี้นะคะ นับถือท่านมาก เพียงแต่คิดว่า ของดีก็มีแต่น้อยคนได้เห็น บูชาได้แบบแกนๆ แถมพระศรีจำลอง ก็จำลองแบบลวกๆซะอีก

ไม่รู้จะว่าไงก็ต้อง เหอ เหอ เหอ ไปตามระเบียบค่ะ

ขอบพระคุณคุณ NaGa มากค่ะ
สมัยเด็กๆเมื่อยังเป็นศาลหลังเก่าอยู่นั้น เราได้ขึ้นไปปิดทองที่เทวรูปพระแม่ย่าเลย สมัยนี้เขาไม่อนุญาตแล้ว
กลับบ้านที่ไรแวะไปกราบทุกที

มณฑปใช้เรียกสิ่งก่อสร้างที่มีผังเป็นรูปจตุรัส มียอดแหลม มีผนังทึป ไม่ใช่หรือคะ หากไม่มีผนังและมีขนาดเล็ก นิยมเรียกบุษบก

ขอพระศรีอำนวยพรให้กับความตั้งใจอันดีแล้วของคุณเจ้าของกระทู้นะคะ

ค่ะ ทราบแล้วค่ะว่าไม่เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าจะมีคนพูดให้ฟังว่าพระคเณศศิลปะอื่นๆไม่ค่อยทรงถือวัชระ
มีแต่ของไทยเท่านั้น ยังจำได้เลาๆว่ามีการถกเถียงกันว่าเพราะอะไร รู้สึกจะสรุปหลายข้อ ข้อหนึ่งคือ เพราะผู้ที่ทรงพยายามนำคติบูชาพระคเณศกลับมาเผยแพร่ในฐานะบรมครูศิลปะอีกครั้งนั้นคือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระนามเดิมว่า วชิราวุธ

กิรดังได้สดับมาเช่นนี้นะคะ

พลเรือตรีหลวงสุวิชาญแพทย์ (อั๋น สุวรรณภาณุ)อนี่เป็นทหารเรือค่ะ และมีความนับถือพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นอย่างยิ่ง ทราบมาว่าท่านเป็นต้นทางของความเชื่อว่าเมื่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตแล้วได้บังเกิดเป็นพรหม ทำหน้าที่คุ้มครองเมืองไทย ดูเหมือนว่าคุณหลวงฯจะบอกว่าท่านเป็นหนึ่งในคณะผู้ทำหน้าที่ "พระสยามเทวาธิราช"

เมื่อผู้บริหารของโรงแรมเอราวัณดำริจะสร้างศาลเทพารักษ์ของโรงแรม ไปปรึกษาท่านจึงเกิดศาลพระพรหมเอราวัณขึ้น ดดยหมายเอาว่าคือรูปของพรหมองค์ที่เคยจุติมาเป็นพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ เขาเรียกท่านว่า "ท่านพ่อเกศโร" อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ

ส่วนเทวรูปนี่ เวลานั้นกำลังคิดจะผูกลักษณะของ "ท่านพ่อเกศโร" กันอยู่ บังเอิญคุณหลวงฯไปพบรูปปั้นที่ใครไม่ทราบ ดิฉันจำชื่อไม่ได้ ซึ่งปั้นขึ้นตามนิมิตในฝันแล้วถูกใจจึงถ่ายแบบมาสร้างเป็นพระพรหมเอราวัณ

สรุปท่านจึงเป็นพรหมคติพุทธออกแนวผีเล็กๆ (ไม่ได้ลบหลู่นะคะ ถ้าไม่สมควรของประทานโทอย่างสูงด้วยค่ะ เป็นสำนวนของนักวิชาการท่านหนึ่ง)

ขอบพระคุณ NaGa (ที่นับถือ) และพี่แนท (ที่เคารพ) มากค่ะ

อันที่จริงก็คิดเหมือนคุณ NaGa เป๊ะเลยค่ะ แต่เห็นช่วงหลังมีหนังสือหลายเล่มพยายามแยกแยะความหมายของสีกายของพระองค์ เลยนึกสนุกตามเขา

พอดีตอนนี้กำลังจะให้ช่างมาระบายเทวรูปพระคเณศที่บ้าน ซึ่งได้รับมากจากคนอื่นอีกที เนื้อโลหะเดิมสีกระดำกระด่างค่ะ เพราะเจ้าของไม่ค่อยได้ดูแลและตกทอดมาสองชั่วคนแล้ว เจ้าของเดิมเขาทาสีไว้ค่ะแต่เพราะกาลเวลากัดกร่อนและคนที่ให้มาไม่ค่อยได้มีเวลาบูชา เลยดูทรุดโทรม สงสารท่าน เลยคิดจะทาสีใหม่ ไม่ทราบจะสมควรหรือเปล่าคะ

เคยอ่านงานของคุณอรุณศักดิ์ กิ่งรัศมี (หรือเปล่าน้า....จำชื่อได้ลางๆ) เขาบอกว่าพระกายของพระคเณศ "น่าจะ" มีสีเหมือนก้อนเมฆ "ก็ได้" ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นสีเทาๆขาวๆ เลยคิดจะระบายเป็นสีนี้

เทวรูปที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ค่อยได้ไปเดินเลือกซื้อเลยค่ะ จำนวนหนึ่งสั่งช่างปั้นตามเทวลักษณะที่ดิฉันได้พยายามตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน อีกส่วนหนึ่งได้รับมอบมาจากคนอื่น

ขออนุญาตเล่าภูมิหลังตัวเองว่าเป็นคนที่ศึกษามาทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีค่ะ และสนใจประติมานวิทยามาก ความรักในศิลปกรรมและความศรัทธาอย่างยิ่งในพระผู้เป็นเจ้าทำให้ค่อนข้างสนใจเทวรูปเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในแง่ของเทวลักษณะ และเชื่อเหลือเกินว่าหากเราเชื่อมั่นในพระองค์ท่านแม้เรากราบไหว้ก้อนหิน ก็มีค่าเหมือนเราได้บูชาแทบบัวบาทของท่าน เลยไม่ค่อยได้สนใจเรื่องพิธีเท่าไร ย้ำว่า "ไม่ค่อย" นะคะ ถ้ามีโอกาสก็ดีแต่ไม่ได้ให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง และเทวรูปนั้นนอกจากเป็นงานศิลปะที่สามารถจรรโลงจิตใจมนุษย์ให้โน้มไปสู่ความดีงามแล้ว ยังเป็นเสมือนสิ่งแทนพระผู้เป็นเจ้าด้วย เลยให้ความสำคัญเรื่องเทวลักษณะซึ่งเป็นร่องรอยของภูมิปัญญาจากบรรพชนที่ใช้ในการสร้างสรรค์เป็นเรื่องแรก

เรื่องพระคเณศนี้ ดำริที่จะทาสีมาจากศรัทธาล้วนๆเลยค่ะ แต่ก็อย่างที่เล่ามาแต่ต้นว่าอยากรู้ว่าอย่างไรถึงจะเหมาะ จะปล่อยให้ท่านกระดำกระด่างก็ไม่สบายใจ

มีเรื่องขำๆเรื่องหนึ่งนะคะ เมื่อสมัยยังรับราชการอยู่ในหน่วยงานที่ดูแลรักษาสมับัติของชาติอยู่นั้น วันหนึ่งมีโอกาสไปเยี่ยมสำนักงานแห่งหนึ่ง ซึ่งผู้ทำหน้าที่ดูแลโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุนั้นเป็นผู้หญิง เขาเชิญดิฉันไปนั่งใกล้โต๊ะทำงาน ดิฉันมองลงไปตกใจมาก เห็นพระเศียรของพระพุทธรูปหินทรายกลิ้งโค่โร่อยู่ใต้โต๊ะทำงานของเธอ ดิฉันร้องบอกว่าไม่ควรทำอย่างนั้น เธอตอบดิฉันมาอย่างหน้าตาเบิกบานว่า

"ไม่เป็นไรค่ะคุณโด่ง อันนี้ตรวจแล้ว เป็นของปลอม" ตอนนั้นดิฉันขำไม่ออกนะคะ ต้องให้คนยกไปไว้ที่อื่นก่อน แต่มาคิดทีหลังแล้วนึกขำปนสังเวช

เล่ามายืดยาวไร้สาระแก่นสาร ต้องขอบพระคุณทั้งสองท่านอีกครั้งนะคะ ดีใจมากเลยที่มีคนเขามาให้คำแนะนำ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ

อ่อ...เคยได้ยินมาว่าพระคเณศในประเทศไทยเท่านั้นที่ถือวัชระ ที่อื่นเขาไม่ทำกัน ถูกต้องไหมคะ

ขอบพระคุณทุกท่านค่ะที่ให้ความกระจ่าง ตั้งใจจะหมายถึงวัดแขกจริงๆตามที่คุณอักษรชนนีว่าจริงๆนั่นล่ะค่ะ แต่พิมพ์ตกๆหล่นๆ เคยได้ยินในบอร์ดพูดกันว่าตอนเช้าพรามหณืที่วัดแขกจะเจิมเทวรูปให้ ไม่แน่ใจว่าดิฉันเข้าใจไปเองหรือเปล่า หากระทู้นั้นก็ไม่เจอแล้ว

ดิฉันชอบพิธีที่วัดวิษณุเช่นกันค่ะคุณกาลิทัส แต่ยังไม่เคยเชิญเทวรูปของตัวเองไป เคยแต่ไปไหว้พระแล้วเห็ฯมีคนเชิญมา พราหมณ์ท่านดูยินดีที่จะทำพิธีให้จริงๆเลยค่ะ

หากเราไม่ได้บูชาเทวรูปจากทางวัด พราหมณ์จะไม่ทำพิธีให้ใช่ไหมคะ

พระคเณศที่เราพบเห็นกันมีสีกายมากมายเลยค่ะ อยากทราบว่าที่จริงแล้วท่านควรมีพระกายสีอะไร หรือหากเราคิดจะบูชาท่านควรเลือกสีพระกายสีอะไรจึงจะดีคะ

ขอบพระคุณ คุณกาลปุตรามากค่ะ
นับเป็นมณีเม็ดงามอีกเม็ดประดับเว็บบอร์ดเลยค่ะ

ขอบพระคุณค่ะที่แจ้งข่าว

ขอต่อท้ายแถวไปร่วมงานด้วยคนค่ะ จะเจอใครในบอร์ดหรือเปล่าน๊า

ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ ผู้ที่ให้ความกระจ่างทางปัญญาแก่เรา ก็เท่ากับเป็ฯครูอาจารย์นั่นล่ะค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ

ขอแก้คำผิดค่ะ พระบาทของรุปเคารพเป็นหินทรายสีขาวนะคะ แต่เปื้อนฝุ่นของศิลาแลงจนเป็ฯสีแดงๆค่ะ

ทิศเหนือของเมือง ภายในเขตกำแพงเมือง ปรากฎโบราณสถานแห่งหนึ่ง สร้างจากศิลปาแลงทั้งหลัง ด้านหน้าเป็นมุขยื่น ใช้เป็นทางขึ้น ฐานซ้อนเป็นชั้นๆ ด้านหลังเจาะช่องประตูแต่ไม่มีทางลง ด้านข้างทั้งสองด้านทำเป็นประตูหลอก ภายในปรากฎชิ้นส่วนพระบาทของรูปเคารพหินปราย และแท่นโตรณะวางเรียงอยู่ สันนิษฐานว่าเป็นสิ่งก่อสร้างศิลปะลพบุรี น่าจะสร้างขึ้นก่อนสมัยสุโขทัย ช่วงที่ขอมปกครองดินแดนแถบนี้อยู่ และคงเป็นเทวาลัยสำคัญ ดังปรากฎว่า สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเคยทรงพบชิ้นส่วนรูปเคารพจำนวนหนึ่งในบริเวณนี้ จำนวนหนึ่งถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง ใกล้ๆกันนั้นเอง เป็นรูปสลักสตรี เปลือยอก นุ่งผ้ามีเชิงจีบเป็นริ้วคล้ายศิลปะเขมรแบบนครวัด ภายในโบราณสถานปัจจุบันปรากฎชิ้นส่วนของหน้าบันแต่รายละเอียดกระเทาะหมดแล้ว ยอดพังทหลายลงหมด แต่สันนิษฐานว่าเคยเป็นยอดปรางค์ ชาวบ้านเรียกเทวาลัยแห่งนี้ว่า "ศาลตาผาแดง"



ด้านหน้า บันไดชันมาก




ด้านหลังเห็นช่องประตูที่เจาะไว้ ด้านข้างทำเป็นประตูหลอก



พระบาทของเทวรูปทำจากหินทรายสีแดง (ไม่รู้ถ่ายมาสีเพี้ยนไหม) อยู่กลางครรภคฤหะพอดี น่าจะเป็นเทวรูปประธาน คงมีคนเชิญเสด็จท่านจากไปนานแล้ว



โตรณะที่ไม่แน่ใจว่าอยู่ที่นี่มาแต่เดิมหรือย้ายมาจากไหน กับเครื่องบูชาร่วมสมัย สร้างบรรยากาศได้ดีสุดยอดค่ะ