Messages

ขอบพระคุณมากๆคะ    จริงๆเท่าที่อิชั้นได้เคยศึกษามานะค่ะ  อาจจะไม่มากเท่าไหร่  พบว่าในอรรพเวทมีการกล่าวถึงผึ้งไว้ไม่น้อยเลยคะ

รอบนี้ขอแถมรูปศรีกฤษณะ  ที่เอามาแต่งเป็นผึ้งน้อยนะค่ะ .. อิอิ


   อีกสักนิดเหมือนกัน  เค้าบอกความผึ้งหรือน้ำผึ้ง  เปรียบเสมือนความรักหรือความเสน่ห์หา   ก็ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับศรีกฤษณะของเราด้วยหรือเปล่า

   แต่เห็นมีโศลกหลายบทในตำราฮินดู  จะต้องพบว่าเทพที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับความรักของฮินดู  จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับผึ้งไม่มากก็น้อยคะ


    ขอประทานโทษถ้าให้ข้อมูลบางอย่างผิดไป  ก็อย่างที่บอกว่าสำหรับองค์นี้แล้วอิชั้นไม่สันทัดจริงๆจึงมาตั้งกระทู้ถาม

   ยังไงรอกูรูท่านอื่นมาเสริมอีกทีละกันคะ อิอิ

 
    ปูพื้นไปก่อนนะค่ะ   ความรู้ลึกๆน้อยๆของอิชั้นสำหรับเดวีองค์นี้   เอาแต่พอทราบ

   ที่สนใจคือ  เห็นคติการบูชาผึ้งมีมานานแล้ว   ในสมัยโบราณ  ต้นกำเนิดไล่เรื่อยมาแต่อียิปต์

   ถ้าปกรณ์เดวีองค์นี้ในอียิปต์อิชั้นพอรู้  แต่ที่ไม่เอามาลง เพราะเห็นว่าบอร์ดนี้เป็นบอร์ดฮินดูกลัวว่าจะไม่เกี่ยวกัน .. อิอิ


   จากนั้นการบูชาเดวีองค์นี้ได้แพร่หลายมาสู่คติฮินดูคะ   ซึ่งปกรณ์หรือเรื่องเล่าของเดวีองค์นี้ทางฮินดู   ไม่เคยได้ยินเลย

    ถ้าอย่างไรเดี๋ยวจะฝากรูป  เดวีองค์นี้ในคติอื่น ไว้นะค่ะ  เผื่อเป็นฐานข้อมูล  แม้จะไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างไร

    แต่อิชั้นต้องการทราบปกรณ์ของเดวีองค์นี้ทางฮินดูมากที่สุดคะ   ขอพระแม่ผึ้งน้อยเราคุ้มครองทุกท่าน ..


   

    อิอิ ...  ปกติอิชั้นไม่ค่อยจะได้ถามอะไร   แต่มารอบนี้ต้องยอมจริงๆ   เอิ้กๆ

    อยากทราบประวัติความเป็นมา  พระแม่ผึ้งน้อย  หรือ  บาละมารีเดวี  องค์นี้อะคะ

    เอาประวัติมูรติ  รวมถึงที่มา   ที่ท่านเสกผึ้งจากตัวด้วยนะค่ะ

   หรือจะไม่ทั้งหมดก็ได้   ใครมีตรงไหน  ก็เสริมตรงนั้น  ช่วยๆกันไปจ้า

    สุดท้ายนี้กราบขอบพระคุณและขออัมมันคุ้มครองทุกท่านจ้า
   
   

[เอาไส้ในไปดู]

 
เอาไส้ในไปดู 


 

 

  กลิ่นนี้ก็หอมจ้า   ยี่ห้ออิโรติค  หอมแบบเย็นยะเยือกนะ  เอิ้กๆ ......

 

ขอฝากอีกเรื่องจ้า กลัวหลายๆท่านจะหลงประเด็นไป  เดี๋ยวกลายเป็นว่า แห่กันไปซื้อธูปแขกกำยานแขกกันหมด

  จริงๆ  อิชั้นคิดว่า  ธูปหรือกำยาน  ถ้าเราสรรหา กลิ่นที่หอมที่สุด ปราณีตที่สุด   สุดแล้วแต่กำลังเท่าที่เราจะหาได้

ไม่ว่าจะเป็นธูป ไทย แขก หรือแม้กระทั่งไม้จันทร์ของจีนที่แพงแบบสุดๆ


   พระเจ้าต้องทรงรับรู้เจตนาดีของเราคะ    ว่าเราได้พยามที่สุดแล้ว ที่จะหาสิ่งที่ดีที่สุดมาถวายพระองค์

   
   แต่ก็อย่างว่านะค่ะ  ใครที่พอจะมีกำลังทรัพย์มาก   หรือมีรสนิยมที่ต่างกันออกไป เหมือนอิชั้น ที่ชอบธูปแดนภารตะเป็นที่สุด

   ก็ลองหาซื้อมาใช้กันดู


    อย่าลืมนะค่ะ  การบูชาพระเป็นเจ้า  จะต้องไม่เบียดเบียนตัวเอง  เบียดเบียนคนอื่นจ้า

   

  ธูปที่อิชั้นแนะนำไปทั้งหมดนั้นล้วนเป็นกลิ่นพื้นฐาน  กลิ่นหลักๆดั้งเดิมที่ใช้กันมานมนานคะ  ยังมิได้แนะนำกลิ่นใหม่แปลก

  ประหลาดที่มันพิศดารไปมากกว่านี้เลย  แต่แค่นี้อิชั้นก็ว่า สุดสวิงริงโก้อีโต้บั้มแล้วคะ อิอิ

จะให้แนะนำทั้งหมด   ชาติหน้าก็ไม่จบ  เพราะมันเยอะเหลือเกิน  ถ้าจะลองเทสดมดู คงจะจมูกบนกันไปข้างนึง อิอิ

  ยังไง ลองไปหาซื้อกลิ่นที่เพื่อนๆแนะนำกันดูห่อนแล้วกัน

.............


สำหรับท่านที่ตันแล้วนะค่ะ  คือกูลองมาหมดแล้วจนไม่รู้จะใช้อะไรแล้ว  แนะนำให้มิกซ์ไปคะ

เหมือนที่อิชั้นทำอยู่ตอนนี้  สมมุติ เราจุดแค่หาดอก  ดอกนึง ก็กลิ่นนึง  เอาให้มันครบห้ากลิ่นห้าก้าน

กลิ่นผสมที่ออกมา ก็ได้อารมไปอีกแบบจ้า

.............

ได้ข่าวว่า ตอนนี้ธูปก่านยาวห่อใหญ่  โหลละห้าร้อยบาท  ออกกลิ่นใหม่มาเยอะมาก  เลิศ  ทั้งนั้น

ลองหาซื้อมาลองใช้กันดู  มีอะไรก็มาแนะนำอิชั้นบ้างก็ได้คะ

[อันนี้มิใช่ธูปกำยานคะ เป็นธูปปกติ หอมเย็นแบบไฮโซ 5555]

  อันนี้มิใช่ธูปกำยานคะ เป็นธูปปกติ หอมเย็นแบบไฮโซ 5555

[อีกยี่ห้อนะค่ะ เป็นธูปธรรมดาปกติ ในเครือดาชัน เหมือนกัน]

  อีกยี่ห้อนะค่ะ  เป็นธูปธรรมดาปกติ  ในเครือดาชัน เหมือนกัน

  แต่เป็นกลิ่นสะเดาคะ  เห็นเค้านิยมจุดบูชาพระกาลี  แต่อิชั้นไม่สนคะ  จุดไหว้ได้หมด อิอิ

หอมนะ   แม้ว่าบางคนอาจบอกว่าเหม็นเขียวไปนิด  อิอิ

[เอาปากีซ่า มาให้ดูเด้อ ถ้ารูปเล็กไปก็ขออภัย อิชั้นมีปัญญาหาได้เท่านี้ อิอิ]

 
เอาปากีซ่า มาให้ดูเด้อ  ถ้ารูปเล็กไปก็ขออภัย  อิชั้นมีปัญญาหาได้เท่านี้  อิอิ


อันนี้รูปแบบเปนโหลนะค่ะ



ต่อไป  ถ้าแกะออกมาจะเป็นหลอดคะ  เปนเช่นนี้

[ห๊ะ .. เดี๋ยวนี้วัดแขกใช้กำยานเปียกอัมริตแล้วเหรอพี่ยีนส์ สมัยหนูยังอยู่เป็นกฤษณะ นะ อิอิ ดาชัน]

ธูป กำยาน ทดลองมาเยอะ ใครว่าหอมว่าดี ทดลองให้หมด

แต่ยอมแพ้อยู่ยี่ห้อนึงครับ Amrit ((ถ้าจำไม่ผิดวัดแขกใช้ตัวนี้นะเจ้ากิ๊ฟ))

แต่ยอมแพ้ครับ จุดเข้าไปควันเต็มห้องพระเลยครับ จะนั่งสวดมนต์หมดสิทธิ์ไปเลย

ตอนนี้จุดธูปกำยานดอกเดียวเวลาไหว้พระเป็นพอ

ส่วนเจ้ายี่ห้อนี้



ดมใกล้ๆ ไม่หอมครับ แต่เป็นของแท้ดั้งเดิมของอินเดียเลยก็ว่าได้ หอมระยะไกลครับ แต่เดี๋ยวนี้บอกตรงๆ ว่า
กำยานเปียก แทบจะเลิกใช้ เพราะควันเยอะเหลือเกิน

ห๊ะ ..  เดี๋ยวนี้วัดแขกใช้กำยานเปียกอัมริตแล้วเหรอพี่ยีนส์  สมัยหนูยังอยู่เป็นกฤษณะ นะ อิอิ  ดาชัน

[พี่ยีนส์ค่ะ เป็นอะไรอะ อยู่กันมาตั้งนานไม่เคยเห็นพี่จะขนาดนี้ เอิ้กๆ]

คิดว่าถ้ากระแทกกระเทาะ มีรอยเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้พระพุทธรูปไม่งามครับ

ผมคิดว่าถ้ากันกระแทกขนาดที่ต้องใช้โฟม มาห่อ รถที่ขับส่งพระคงไปวิ่งถนนวิบาก มอเตอร์ครอสดีกว่ามาส่งพระละครับ

ก่อนพิมพ์ถ้าขาดจิตสำนึกที่ดี ก็ไม่ต้องพิมพ์นะครับ

ครอบครัว HM ผมอยากอยู่สงบบ้าง

ถ้าคุณสงบไม่ได้ ขอเชิญออกจากบ้าน HM ด้วยประการทั้งปวงครับ

พี่ยีนส์ค่ะ  เป็นอะไรอะ   อยู่กันมาตั้งนานไม่เคยเห็นพี่จะขนาดนี้   เอิ้กๆ

น้องๆมาหลังไมค์  บอกกลัวพี่กันใหญ่    คงจะถึงเวลาที่ชายยีนส์เราจะออกโรงบ้างแล้ว  อิอิ


บางคนบอกพี่องค์ลง 555   

ขำๆกันไปเด้อ   

[เพิ่มนิดนะค่ะ เห็นเคยได้ยินมาว่าในสมัยก่อนดอกไม้ป่าทุกชนิดสามารถใช้ได้หมด]

 

   เพิ่มนิดนะค่ะ   เห็นเคยได้ยินมาว่าในสมัยก่อนดอกไม้ป่าทุกชนิดสามารถใช้ได้หมด

และชื่อของดอกไม้  มนุษย์ก็เป็นคนไปใส่สีมันแท้ๆ  ตอนเค้าเกิดมา  มิได้มีชื่อนั้นติดมาด้วยสักหน่อย อิอิ

[จริงๆ ธูปทวินที่คุณ mahashakti ว่านั้น เป็นธูปกำยานก็หอมดีคะ ราคาตามนั้นเลย]

  จริงๆ ธูปทวินที่คุณ mahashakti ว่านั้น เป็นธูปกำยานก็หอมดีคะ ราคาตามนั้นเลย


  เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้   มีตัวใหม่ออกมาชื่อซุปเปอร์ปากีซ่า  โหลละสามร้อยห้าสิบ


  แต่ผลปรากฎว่า  สู้ปากีซ่าแบบดั้งเดิมของเก่าไม่ได้เลยคะ  เทียบไม่ติด อิอิ


แถมแพงกว่าอีก

[กำยานเปียกอัมริตตอนนี้ ตกโหลละ 230 บาทนะค่ะ ถือว่าไม่แพง และกล่องนึงก็เยอะอยู่]

กำยานเปียกอัมริตตอนนี้  ตกโหลละ  230 บาทนะค่ะ  ถือว่าไม่แพง และกล่องนึงก็เยอะอยู่

แต่ถ้าเจ้าของกระทู้ทน กลิ่น  ทนควันเยอะๆได้ ก็แนะนำคะ 

แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ  ลองตัวอื่นที่เพื่อนๆแนะนำดูก่อน ไม่งั้นอาจจะเสียชีวิตได้คะ



กำยานเปียกมีอีกยี่ห้อนึงนะค่ะที่หนูเชียร์  และคาดว่าวัดแขกสีลมน่าจะใช้กลิ่นนี้อยู่นะค่ะ

ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน  กลิ่นนี้ใช้กันมานานแล้วคะ  ตั้งแต่หนูเด็กๆเลย หลายสิบปีเลยละ เอิ้กๆ


กำยานเปียกกฤษณะ  โหลละหนึ่งร้อยหกสิบบาทนะค่ะ

[กำยานเปียกที่คุณ mahashakti ว่า ที่มีแถมสติ้กเกอร์ต่างๆ ใช่ ยี่ห้ออัมริตปะค่ะ]

  กำยานเปียกที่คุณ mahashakti ว่า   ที่มีแถมสติ้กเกอร์ต่างๆ  ใช่ ยี่ห้ออัมริตปะค่ะ

[อีกยี่ห้อนะค่ะ ธูปธรรมดา กลิ่นจำปา น่าจะโหลละ ไม่เกิน ร้อยเจ็ดสิบ กลิ่นอ่อนๆ ของ sac แล้ว กลิ่นนี้เลิศคะ]

อีกยี่ห้อนะค่ะ   ธูปธรรมดา กลิ่นจำปา  น่าจะโหลละ ไม่เกิน  ร้อยเจ็ดสิบ   กลิ่นอ่อนๆ  ของ sac แล้ว  กลิ่นนี้เลิศคะ

เหมือนเดิมเลย เดินเข้าไปในร้าน  พี่ครับ พี่ค่ะ   ธูปจำปาของ sac โหลนึง  เอิ้กๆ  แล้วทุกอย่างก็จะจบคะ


จำหน้าตาไว้นะ




พอดีลงรูปผิดคะ อันนี้เป็นโคนสามเหลี่ยม  แต่ธูปก็หน้าตางี้เลย เปนกล่องยาวๆหกเหลี่ยม

[เอาไปอีกยี่ห้อนึงนะ เฮมเหมือนกัน แต่เป็นกลิ่นแก่จัน เป็นธูปปกติ ควันไม่เยอะ ไม่แรง แต่กลิ่นหอมเลิศสุดๆ]

เอาไปอีกยี่ห้อนึงนะ  เฮมเหมือนกัน   แต่เป็นกลิ่นแก่จัน เป็นธูปปกติ ควันไม่เยอะ ไม่แรง แต่กลิ่นหอมเลิศสุดๆ

ปล. อิชั้นไม่ได้เป็นภรรยาเจ้าของโรงงานผลิตธูปนะ  แค่อยากแบ่งปันสิ่งดีๆจ้า


เอาหน้าตาไปดูคะ  เดินเข้าไปบอก พี่เอาเฮม จันดัน  หรือแก่นจันโหลนึง  มีทุกร้านคะ

[แถมนะค่ะ อิอิ พอดีเจอรูป อิอิ มีน้องๆหลังไมค์มาหลายคนว่าให้ลงรูป]

 

    แถมนะค่ะ อิอิ  พอดีเจอรูป อิอิ   มีน้องๆหลังไมค์มาหลายคนว่าให้ลงรูป

   เอาไปอีกยี่ห้อนึงนะ  รับรองไม่ผิดหวัง   ยี่ห้อเฮมคะ  แต่เป็นกลิ่นกุหลาบ


  เดินเข้าไปบอกเค้าว่า เอาธูปเฮมกุหลาบ   เป็นธูปธรรมดานะค่ะ มิใช่ธูปกำยาน  ควันไม่เยอะ  กลิ่นไม่แรง

แต่หอมกุหลาบมากกกกกกกกกกก   ไม่ผิดหวัง  ถ้าไม่ถูกใจมาด่าอิชั้นได้  สำหรับคนที่ชอบกลิ่นอ่อนๆนะ


ออกแพ็คเกจมาสองแบบนะค่ะ    ทั้งสองกำมะหยี่และ ก่อลงกระดาษหกเหลี่ยม


  โหลละไม่เกิน ร้อยแปดสิบบาท

จำหน้าตาไว้คะ

นี่สันสกฤตคะ

[เจอรูปละค่ะ นี่ เฮมจำปานะค่ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ อยู่ได้นาน แต่ข้อเสียคือก้านมันชื้นเกินจุดไม่ติด]

เจอรูปละค่ะ  นี่ เฮมจำปานะค่ะ   กลิ่นหอมอ่อนๆ อยู่ได้นาน แต่ข้อเสียคือก้านมันชื้นเกินจุดไม่ติด

ไหม้ไม่หมด

[รูปพระกาลีด้านหลังสวยมากคะ อิอิ]

รูปพระกาลีด้านหลังสวยมากคะ  อิอิ

[เรื่องราคาอิชั้นไม่แน่ใจนะค่ะ ถ้าอย่างไรลองไปสอบถามอีกที เพราะตอนนี้อิชั้นอยู่ต่างประเทศ]

 
   เรื่องราคาอิชั้นไม่แน่ใจนะค่ะ  ถ้าอย่างไรลองไปสอบถามอีกที เพราะตอนนี้อิชั้นอยู่ต่างประเทศ


  แต่พาหุรัด ราคาธูปไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายๆ    ลองไปถามดูอีกที  หรือท่านอื่นที่เคยซื้อมาใช้

ก็มาช่วยเจ้าของกระทู้บอกราคาได้คะ


  ส่วนเรื่องรูปภาพ  อิชั้นไม่ได้หาเซฟไว้ในเครื่องเลยคะ   ถ้าอย่างไรท่านอื่นมีก็ช่วยหากันมาเพิ่มเติมได้


   แต่ถ้าคุณสนใจจริงๆ  ก็สามารถไปบอกชื่อยี่ห้อธูปที่ร้านได้เลยคะ


   ย้ำนะค่ะ  จุดแต่พอดี  จุดแต่เหมาะสม   เป็นห่วงสุขภาพอะคะ  อิอิ

ขอให้มีความสุขกับกลิ่นหอมของธูป  จากแดนภารตะมากๆเด้อ  อิอิ







   

[อย่างแรกต้องทราบก่อนว่าคุณมีรสนิยมแบบไหน เพราะธูปแขกธูปอินเดียมีหลายแบบเหลือเกิน มีทั้งธูปกำยานและธูปธรรมดาคะ ธูปกำยานคือธูปที่ก้านเปียกๆออกชื้นๆหน่อย และให้ควันที่เยอะมากมายคะ ธูปปกติ ลักษณะจะเป็นก้านไม้ธรรมดา ออกแห้งๆ ให้ควันที่ไม่เยอะมากเท่ากับธูปกำยานคะ .................................................. ชั้นขอแนะนำกลิ่นโปรดที่อิชั้นชื่นชอบละกัน ส่วนใหญ่เป็นธูปกำยาน กลิ่นแรงมากคะ แต่ตอนนี้ชินแล้ว อิอิถ้าคุณทนไหวนะ กลิ่นแรกเลย ถือเป็นไฮไล้สำหรับย่านพาหุรัดคะ " ปากีซ่า " เอิ้กๆอิชั้นไม่มีคำอธิบายสำหรับยี่ห้อนี้คะ สุดๆจริงๆ ลองไปหาซื้อมาใช้ดู ให้กลิ่นแบบภารตะจริงๆจุดเล่นๆแค่ก้านเดียวเพื่อดมกลิ่นก็เลิศแล้ว ราคาตอนนี้ตกอยู่ที่โหลละ 320 บาท หลอดละ 26 บาทนิดๆ ราคาส่งนะค่ะ กล่องนึงมีสิบก้านคะ .................................................. ห้อที่สองนะค่ะ ยังคงเป็นธูปกำยานเหมือนเดิมเลย แต่ให้กลิ่นที่อ่อนลงมานิดนึง และยังคงเป็นกลิ่นแขกๆเหมือนเดิมคะ ยี่ห้อที่ว่านี้คือสันสกฤต อธิบายไม่ถูกนะค่ะ ว่ากลิ่นมันเป็นอย่างไร แต่จุดแล้วได้อารมณ์ รู้สึกถึงความขลังของเทวรูปคะ คิดไปเองนะค่ะ อิอิราคาโหลละ 160 บาท ตกกล่องละ 13 บาทนิดๆ ราคาส่งเหมือนเดิมคะ กล่องนึงมีประมาณยี่สิบห้าก้านคะ .................................................. ยี่ห้อที่สามที่จะแนะนำนี้ เป็นธูปกำยานกลิ่นสุดท้าย ที่ติดท็อปเท็น ธูปขายดีพาหุรัดคะ เอิ้กๆ ธูปกำยานเช่นเดิม แต่ให้กลิ่นที่อ่อนลงนิดนึงตัวนี้อยู่ได้นานเป็นขั่วโมงๆเลยคะ ยี่ห้อเฮมจำปานะค่ะ สองร้อยยี่สิบบาท ส่วนใหญ่จะแบ่งขายครึ่งโหลนะค่ะ ราคาครึ่งโหลก็จะตกอยู่ที่หนึ่งร้อยสิบบาทหลอดนึงมียี่สิบกว่าก้านคะ อิอิ ราคาโหลนี่ตะตกกล่องละ สิบแปดบาทนะค่ะ อิอิ คุ้มดีจริงๆคะ .......................................... จริงๆอิชั้นมีราชื่อธูปธรรมดาที่อยากจะแนะนำ แต่นี่เห็นว่าท่านอื่น ได้แนะนำไปแล้ว เลยขอเว้นไว้ก่อนคะ ไว้ถ้าคุณสนใจจริงๆจะขอมาเพิ่มเติมคะ ธูปก้านยาวก็โอเคนะค่ะ ตกครึ่งโหลละสองร้อยห้าสิบบาท ใช้ได้นานเป็นชั่วโมงๆ ไหนจะกำยานโคนสามเหลี่ยมอีก ไหนจะกำยานเปียกอีก ไหนจะกำยานแท่งปัญจวตีอีกถ้าอย่างไรลองไปหาซื้อมาลองใช้ดูก่อนนะค่ะ ถ้าสนใจอีกค่อยกลับมาถามใหม่ก็ได้ เดี๋ยวนี้มีหลากหลายรูปแบบคะ ทั้งกลิ่นดั้งเดิมโบราณ กลิ่นดอกไม้ กลิ่นอโรม่า เยอะแยะคะส่วนตัวแล้วอิชั้นเป็นคนที่ชื่อชอบธูปแขกมาก คลั่งไคล้มากๆ แต่ขอแนะนำทุกท่านให้จุดในปริมาณที่พอดี เพื่อมิให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของทุกๆท่านคะถามว่าอิชั้นชื่นชอบขนาดไหน ก็ประมาณว่า นั่งๆอยู่ แล้วกลิ่นโชยมา อิชั้นสามารถตอบได้เลยว่าเป็นยี่ห้ออะไรคะ เอิ้กๆๆๆๆๆ]

   อย่างแรกต้องทราบก่อนว่าคุณมีรสนิยมแบบไหน   เพราะธูปแขกธูปอินเดียมีหลายแบบเหลือเกิน   
  มีทั้งธูปกำยานและธูปธรรมดาคะ   ธูปกำยานคือธูปที่ก้านเปียกๆออกชื้นๆหน่อย   และให้ควันที่เยอะมากมายคะ
ธูปปกติ  ลักษณะจะเป็นก้านไม้ธรรมดา  ออกแห้งๆ  ให้ควันที่ไม่เยอะมากเท่ากับธูปกำยานคะ


   ..................................................


ชั้นขอแนะนำกลิ่นโปรดที่อิชั้นชื่นชอบละกัน  ส่วนใหญ่เป็นธูปกำยาน   กลิ่นแรงมากคะ   แต่ตอนนี้ชินแล้ว อิอิ
ถ้าคุณทนไหวนะ  กลิ่นแรกเลย  ถือเป็นไฮไล้สำหรับย่านพาหุรัดคะ  " ปากีซ่า  "   เอิ้กๆ
อิชั้นไม่มีคำอธิบายสำหรับยี่ห้อนี้คะ   สุดๆจริงๆ   ลองไปหาซื้อมาใช้ดู   ให้กลิ่นแบบภารตะจริงๆ
จุดเล่นๆแค่ก้านเดียวเพื่อดมกลิ่นก็เลิศแล้ว    ราคาตอนนี้ตกอยู่ที่โหลละ  320 บาท    หลอดละ  26 บาทนิดๆ  ราคาส่งนะค่ะ  กล่องนึงมีสิบก้านคะ


  ..................................................


ห้อที่สองนะค่ะ  ยังคงเป็นธูปกำยานเหมือนเดิมเลย  แต่ให้กลิ่นที่อ่อนลงมานิดนึง    และยังคงเป็นกลิ่นแขกๆเหมือนเดิมคะ
ยี่ห้อที่ว่านี้คือสันสกฤต    อธิบายไม่ถูกนะค่ะ  ว่ากลิ่นมันเป็นอย่างไร  แต่จุดแล้วได้อารมณ์  รู้สึกถึงความขลังของเทวรูปคะ  คิดไปเองนะค่ะ  อิอิ
ราคาโหลละ  160 บาท    ตกกล่องละ   13 บาทนิดๆ  ราคาส่งเหมือนเดิมคะ  กล่องนึงมีประมาณยี่สิบห้าก้านคะ


..................................................

ยี่ห้อที่สามที่จะแนะนำนี้  เป็นธูปกำยานกลิ่นสุดท้าย  ที่ติดท็อปเท็น  ธูปขายดีพาหุรัดคะ  เอิ้กๆ    ธูปกำยานเช่นเดิม   แต่ให้กลิ่นที่อ่อนลงนิดนึง
ตัวนี้อยู่ได้นานเป็นขั่วโมงๆเลยคะ   ยี่ห้อเฮมจำปานะค่ะ    สองร้อยยี่สิบบาท   ส่วนใหญ่จะแบ่งขายครึ่งโหลนะค่ะ   ราคาครึ่งโหลก็จะตกอยู่ที่หนึ่งร้อยสิบบาท
หลอดนึงมียี่สิบกว่าก้านคะ อิอิ   ราคาโหลนี่ตะตกกล่องละ  สิบแปดบาทนะค่ะ  อิอิ   คุ้มดีจริงๆคะ


..........................................

   จริงๆอิชั้นมีราชื่อธูปธรรมดาที่อยากจะแนะนำ   แต่นี่เห็นว่าท่านอื่น  ได้แนะนำไปแล้ว   เลยขอเว้นไว้ก่อนคะ  ไว้ถ้าคุณสนใจจริงๆจะขอมาเพิ่มเติมคะ
ธูปก้านยาวก็โอเคนะค่ะ   ตกครึ่งโหลละสองร้อยห้าสิบบาท  ใช้ได้นานเป็นชั่วโมงๆ   ไหนจะกำยานโคนสามเหลี่ยมอีก  ไหนจะกำยานเปียกอีก  ไหนจะกำยานแท่งปัญจวตีอีก
ถ้าอย่างไรลองไปหาซื้อมาลองใช้ดูก่อนนะค่ะ   ถ้าสนใจอีกค่อยกลับมาถามใหม่ก็ได้    เดี๋ยวนี้มีหลากหลายรูปแบบคะ  ทั้งกลิ่นดั้งเดิมโบราณ  กลิ่นดอกไม้ กลิ่นอโรม่า  เยอะแยะคะ
ส่วนตัวแล้วอิชั้นเป็นคนที่ชื่อชอบธูปแขกมาก   คลั่งไคล้มากๆ   แต่ขอแนะนำทุกท่านให้จุดในปริมาณที่พอดี  เพื่อมิให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของทุกๆท่านคะ
ถามว่าอิชั้นชื่นชอบขนาดไหน  ก็ประมาณว่า นั่งๆอยู่ แล้วกลิ่นโชยมา  อิชั้นสามารถตอบได้เลยว่าเป็นยี่ห้ออะไรคะ   เอิ้กๆๆๆๆๆ

ความรู้สึกแรกเลยเมื่ออิชั้นได้อ่านกระทู้นี้จบลง    ต้องขอบอกเลยคะว่าพูดอะไรไม่ออกจริงๆ
รู้สึกดีใจ   ปลื้มใจจริงๆ    กับกระทู้ที่มีสาระเช่นนี้    ตลอดจนเจตนาดีของเจ้าของ
กระทู้ที่ต้องการให้เพื่อนๆท่านอื่นได้รับทราบข้อเท็จจริงบางอย่าง    และความเห็นส่วนตัว    ในทรรศนะของท่านอื่นๆแม้ว่าจะเห็นต่างกันบ้าง    แต่อิชั้นเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่เรามี   และมีโดยเท่าเทียมกัน   มีอยู่ในตัวเต็มเปี่ยมเลยนั้นก็คือความศรัทธาต่อพระเป็นเจ้าคะ  อิชั้นเชื่อมั่นล้านเปอเซ็นตรงนี้ว่าไม่มีใครจะน้อยหน้าไปกว่าใครได้

มีบ้างบางส่วนที่อยากจะเพิ่มเติมเข้าไป    ในจุดนี้ถ้าจะเห็นต่างหรือมองคนละมุมกับท่านอื่นก็กราบขออภัยด้วยคะ
สิ่งที่อิชั้นอยากจะให้เพิ่มเติมเข้าไปในการสักการบูชาพระเป็นเจ้านั้นก็คือ  คุณต้องเป็นคนดีคะ  และหมั่นกระทำความดีคะ   ไล่กันมาเลยตั้งแต่ดีต่อบุพการี  ครูบาอาจารย์  ตลอดจนเพื่อนมนุษย์ด้วยกันคะ
โดยส่วนตัวแล้วนะค่ะ  อิชั้นเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นลัทธินิกายศาสนาใดในโลก  พระเป็นเจ้าต้องโปรดคนดีคะ
แม้ว่าตัวอิชั้น  และเพื่อนๆทุกคนมา ณ วันนี้  อาจจะคิดว่าจะยังดีไม่พอ  แต่อิชั้นว่า  เรามาเริ่มกันใหม่ได้คะ
แค่คุณคิดว่าจะเป็นคนดี  อิชั้นก็เชื่อมั่นว่าพระเจ้าจะต้องทรงรับรู้รับทราบในเจตนาดีในส่วนลึกๆของคุณคะ

ก็เห็นด้วยนะค่ะ  อย่างที่ท่านอื่นๆได้กล่าวไปในเรื่องของอามิสบูชา  การบูชาด้วยวัตถุสิ่งของตลอดจนปัจจัยต่างๆ
แต่อิชั้นเห็นตามสมควรคะ  ว่าไม่ควรจะเดือดร้อนตัวเอง  เดือดร้อนคนอื่น  ทำได้ตามความสามารถตามกำลังคะ

เชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า  สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าอิชั้น  ตลอดจนเพื่อนๆทุกคนที่เห็น  ไม่ว่าจะเป็นตัวอิชั้นหรือท่านอื่นๆ
ไม่มีใครจะสามารถทราบได้ว่าสิ่งเหล่านั้น  ใช่มายาของพระเป็นเจ้า  มายาสวรรค์หรือไม่
เพราะฉะนั้น  อิชั้นว่าทำแต่พอควรเถอะ  ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่เดือดร้อนตัวเอง ไม่เดือดร้อนคนอื่นเป็นพอ


คงไม่ต้องบอกหรือเปรียบเทียบกับ ฤษี โยคี โยคินี ตลอดจนผู้ที่สำเร็จญาณขั้นสูง   ที่สามารถสัมผัสกับพลังของพระเป็นเจ้าได้    ท่านเหล่านั้นไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย   ไม่มีแม้แต่กระทั่งมูรติ หรือเทวรูป  แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านเหล่านั้นมีคือใจคะ  ใจที่น้อมเข้าหาพระเป็นเจ้าเสมอ

มีอีกสิ่งหนึ่งที่อยากจะเพิ่มเติมคือ  พบว่ามนุษย์สมัยนี้ยึดติดกับวัตถุและพิธีกรรมมากไป  จนมองข้ามสารัตถะที่แท้จริง  ตลอดจนหลักคำสอนของศาสนาไปคะ   ตรงนี้อิชั้นไม่อยากจะให้ผู้ที่กำลังเข้ามาในวงการนี้มองข้ามตรงจุดนี้ไปคะ   แล้วคุณจะรู้ว่าแก่นแท้จริงๆของศาสนาคืออะไร  อยู่ตรงไหน และมุ่งเน้นอะไร


สรุปนะค่ะ  สำหรับกระทู้นี้คือ   อิชั้นเพิ่มเรื่องการเป็นคนดีประพฤติปฎิบัติตัวดีเข้าไปด้วยคะ   เชื่อว่าพระเป็นเจ้าจะต้องโปรดคุณแน่   ความจริงคำถามในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นกับอิชั้นมาแล้วนะ  แล้วก็ได้มีโอกาสไปเรียนถามอาจารย์ท่านหนึ่งที่อิชั้นให้ความเคราพเป็นพิเศษ   มา ณ วันนี้เลยอยากยกคำพูดของท่านมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันคะ   เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง  ไม่มากก็น้อยนะค่ะ

“  องค์เทพจะโปรดผู้บูชาที่เป็นคนดีเท่านั้น  ดังนั้นผู้บูชาเทพจึงจำเป็นที่จะต้องประกอบแต่คุณงามความดีเป็นพื้นฐาน  เป็นความเคยชินในชีวิตประจำวัน  จึงจะทำให้จิตผ่องใสเกิดพลังที่จะเชื่อมโยงไปถึงองค์เทพบนสวรรค์ได้   

ดังนั้นถ้าไม่ทำความดี   อย่าว่าแต่จะทำให้เทพเจ้าทรงเมตตาเราไปตลอดรอดฝั่ง
แม้กระทั่งผู้ที่สวดมนต์ได้ยาวๆ  หรือคล่องแคล่วเพียงใด  ก็ไม่มีพลังที่จะทำให้เทพเจ้าทรงตอบรับ  เสียงสวดมนต์ของคนชั่ว  ที่ดวงจิตเต็มเปี่ยมไปด้วยความขุ่นมัวมืดทึบ  จะตะโกนสวดดังขนาดไหน  ก็ไม่เท่าเสียงกระซิบของคนที่มีจิตใจผ่องใส  ปิติสุขในอำนาจความดีของเค้าหรอกคุณ

ศาสนามีความสำคัญต่อสังคมมนุษย์ คือ
๑. ศาสนาทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เพราะทุกศาสนาล้วนมุ่งหวังให้ศาสนิกชนของตนเป็นคนดี และเมื่อศาสนิกชนเป็นคนดีแล้วสังคมก็ย่อมจะปราศจากความเดือดร้อน
๒. ศาสนาเป็นบ่อเกิดแห่งธรรมจรรยา และขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม และหากบุคคลในสังคมประพฤติปฏิบัติตามหลักทางศีลธรรมที่ศาสนานั้น ๆ วางไว้ย่อมทำให้สังคมมีความสุข
๓. ศาสนาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เพราะศาสนิกชนสามารถดำเนินวิถีชีวิตตามแบบอย่างของพระศาสดา หรือปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา
๔. ศาสนาจะช่วยให้มนุษย์ทราบว่าสิ่งใดดีชั่ว ถูกผิด ตามมาตรฐานของศาสนานั้น ๆ และทราบถึงผลแห่งการกระทำนั้น ๆ เช่น คำสอนเรื่องหลักกรมในพระพุทธศาสนา ว่าทำดีได้ดี หรือทำชั่วได้ชั่ว เป็นต้น
๕. ศาสนาเป็นแหล่งรวมศิลปวิทยาการ และถ่ายทอดวิทยาการ เนื่องจากจะเป็นแหล่งความรู้ของศาสตร์แขนงต่าง ๆ และถ่ายทอดศาสตร์เหล่านั้นไปสู่มนุษย์ในสังคม ความรู้ทางการแพทย์ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรม การช่าง การดนตรี และหัตถกรรม เป็นต้น
๖. ศาสนาเป็นเครื่องส่งเสริมความมั่นคงในการปกครองประเทศ เช่น พระมหากษัตริย์ไทยทรงยึดมั่นและดำเนินนโยบายในการปกครองประเทศด้วยหลักทศพิธราชธรรม ๑๐ ประการ
๗. ศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจเมื่อปุถุชนเกิดความทุกข์ร้อนใจ กล่าวคือ เมื่อคนเราเกิดความทุกข์กายและใจก็ย่อมจะหาทางออกให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น และรูปแบบหนึ่งของการแก้ไขปัญหาคือการนำหลักธรรมทางศาสนาที่คนเคารพนับถือมาเป็นที่พึ่งทางใจ และนำหลักธรรมมาใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา

[คลิปในยูทูปมีแต่ลงไม่เปนคะ 555 เดี๋ยวต้องถามพี่ยีนส์ พอดีน้องคิวเราไม่สะดวก อิอิ]

 

    คลิปในยูทูปมีแต่ลงไม่เปนคะ  555  เดี๋ยวต้องถามพี่ยีนส์    พอดีน้องคิวเราไม่สะดวก อิอิ

   ตอนนี้แม่ถ้วยแกอยู่  ที่ ไน ไน้ คลับ   ใช่มะค่ะพี่กี้  อิอิ

   คิดถึงเด้อ  หลังๆมาไม่ได้อะไรกันเลย เอิ้กๆ

ของที่บูชาพระแม่กาลี นะคะส่วนใหญ่ที่สำคัญ นะคะ

สิ่งที่ต้องบูชามีดังนี้คะ

๑.ศรัทธาที่ประเมินค่าไม่ได้
๒.ความรักที่ลูกพึงมีต่อมารดา
๓.การบูชาแบบไม่ได้หวังผลคะ
ส่วนเรื่องของสิ่งของ จะเป็นผลไม้หรืออะไรก็ได้คะ แต่จำเป็นมากนะคะว่าของเหล่านั้นที่คุณถวาย จะต้องไม่เป็นทุกข์สำหรับคุณ เช่น หากคุณมีตังค์แค่
สองร้อยบาท คุณซื้อขนมต่างๆดอกไม้หลากสี  หรือของที่พระแม่ทรงโปรดมา แต่คุณเองก็ทุกข์เพราะไม่มีตังค์พอ ดิฉันคิดว่า คุณใช่ความบริสุทธิ์คือศรัทธาของคุณเถอะคะ หากคุณมีกำลัง ก็สามารถทำได้คะ เพราะดิฉันเห็นคนสมัยนี้ เมื่อเป็นทุกข์ก็รู้จักพระเจ้าคะ แต่พอมีความสุข ก็เห็นพระองค์เป็นแค่หินก้อนนึง อีกอย่างถ้าคุณคิดที่หวังผลตอบแทนหรือกำไรมหาศาลจากเทพเจ้าด้วยการถวายของบวงสรวงเหล่านี้ ดิฉันคิดว่าอย่าทำเลยดีกว่าคะ
เพราะเหมือนเป็นการให้ใต้โต๊ะเจ้า ถ้าสำเร็จก็ดีไป แต่ถ้าไม่สำเร็จ เทพองค์นั้นก็จะถุกลดบทบาททันที  หรือถ้าคิดจะถวายของเพื่อต้องการโอ้อวดศักยภาพของตัวเอง ดิฉันก็คืดว่าอย่าทำคะ ทำแล้วคงไม่เกิดผลในทางที่ดีเท่าไหร่ นี่คือสิ่งที่พิมมี่อึดอั้นตั้นใจมานานแล้วคะ ยังไงก็ถือว่า
เอาภูเขาหิมาลัยออกจากอกละกันนะคะ อิอิ

ชอบมากๆๆ  ตรงท่อนนี้ สุดๆคะ  อิอิ[/B]

[เราไม่มีเทวรูป มีแต่รูปได้หรือเปล่าค่ะ .. อิอิ .. คุณตรีศังกุ]

เราไม่มีเทวรูป  มีแต่รูปได้หรือเปล่าค่ะ .. อิอิ ..  คุณตรีศังกุ

[กำ เริ่มเบลอ พิมคำว่าวิญญาณตกไป เอิ้กๆๆ]

  กำ   เริ่มเบลอ  พิมคำว่าวิญญาณตกไป เอิ้กๆๆ

[ขอแถมอีกสักนิดนะค่ะ แม้ว่าข้อความนี้ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระทู้ก็ตาม แต่อิชั้นเห็นว่าเป็นความรู้อะคะ]

 
 
   ขอแถมอีกสักนิดนะค่ะ   แม้ว่าข้อความนี้ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระทู้ก็ตาม   แต่อิชั้นเห็นว่าเป็นความรู้อะคะ


เรื่องที่ว่าคัมภีร์ของอิหร่านมีความคล้ายคลึงกับฮินดูมากๆ   ตามที่ท่านพี่ออสได้กล่าวไป   รวมถึงพระนามของเทพเจ้า ที่มาจากภูมิภาคเดียวกัน  แต่จะต่างกันตรงที่การออกเสียง
 
  ความคล้ายกันที่สังเกตได้จากการอ่านคัมภีร์ของสองนิกายนี้เช่น  เรื่องที่มีสุนัขเฝ้าสะพานและการเดินทางไปยังสวรรค์ในคัมภีร์อุปนิษัทของอินเดีย    มีเรื่องกล่าวถึงวิญญาณ
เมื่อเดินทางไปสวรรค์   จะได้รับการต้อนรับจากนางฟ้านางอัปสร  500 คน   
ส่วนในอิหร่านเมื่อเดินทางไปสวรรค์ จะพบกับศาสนาของตนเอง ในรูปของหญิงสาวสวยงามคนหนึ่ง   ถ้าหากผู้นั้นได้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องบนโลก  หากไม่แล้วต้องพบกับ
ยายแก่ที่น่าเกลียด

  ก่อนที่จะพบกับการต้อนรับในสวรรค์   วิณญาณจะต้องข้ามสะพานในอินเดียมีหญิงสาวหรือพระเจ้าเป็นพยานในการเดินทาง  ในคัมภีร์เรียกสะพานนี้ว่า  สะพานแห่งการแก้แค้น   นำวิณญาณที่ดีไปสู่สวรรค์และนำวิณญาณที่ไม่ดีลงนรก
วิณญาณจะต้องเดินทางไปรับการพิจารณา    วิณญาณปรากฎต่อหน้าเทพเจ้ามิธรา กับเทพเจ้าอีกสององค์ คือเทพเจ้าสราโอซ่า  และเทพเจ้ารัษนุ  และในที่สุดวิณญาณก็จะเดินผ่านขั้นตอนอีกหลายขั้น   ทั้งนี้แล้วแต่การกระทำ 
ถ้าเป็นคนมีความคิดที่ดีวิณญาณจะเดินทางไปถึงดวงดาว    ถ้ามีวาจาดีวิณญาณจะเดินทางไปถึงดวงจันทร์  และถ้าทำความดี  วิณญาณจะเดินทางไปถึงดวงอาทิตย์  และเดินทางไปถึงสวรรค์
ในคัมภีร์พระเวทของอินเดียกล่าวไว้ว่า   วิณญาณของผู้กระทำความดีจะเดินทางเลยเส้นทางของดวงอาทิตย์  แต่ในศาสนาโซโรอัสเตอร์  กล่าวว่าวิณญาณเมื่อเดินทางไปถึงสวรรค์  จะมีโวฮุ มานนท์  พาไปยังสุวรรณบัลลังค์ของพระเจ้าออร์มาสด์

[กราบขอบพระคุณพี่ตุล ศรี หริทาส ขวัญใจพวกเราชาว HM มากๆคะ สำหรับ ความรู้ ความเห็นส่วนตัว ตลอดจนคำอธิบาย]

 

   กราบขอบพระคุณพี่ตุล ศรี หริทาส  ขวัญใจพวกเราชาว HM  มากๆคะ  สำหรับ ความรู้  ความเห็นส่วนตัว ตลอดจนคำอธิบาย


   ในมิติมุมมองปรัชญาศาสนาที่ลึกซึ้ง    นับว่ากระทู้เป็นประโชยน์อย่างยิ่งคะ

[จริงๆ แกลงคลิปไว้ด้วยนิค่ะ พี่กี้ ในยูทูปอะคะ]

  จริงๆ  แกลงคลิปไว้ด้วยนิค่ะ พี่กี้  ในยูทูปอะคะ

[เลิศๆๆๆๆ คิดถึงแม่ต๋อยมาก อยากเม้าแตกแหลกลาน อิอิ]

 

  เลิศๆๆๆๆ  คิดถึงแม่ต๋อยมาก   อยากเม้าแตกแหลกลาน   อิอิ

[จริงคะ ของพวกนั้ไม่ได้มาทำกันเล่นๆ เพราะถ้าทำอะไรผิดพลาดไป ความเสื่อมจะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว]

 

  จริงคะ  ของพวกนั้ไม่ได้มาทำกันเล่นๆ   เพราะถ้าทำอะไรผิดพลาดไป ความเสื่อมจะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

  อยากให้คุณศึกษามากกว่านี้นิดนึง    และถ้าไม่เดือดร้อนอะไรมาก  ก็บูชาไฟอารตี สวดมนต์  แบบปกติ อิชั้นว่าก็เลิศแล้วคะ

   ของอย่างนี้ส่วนหนึ่งอยู่ที่ใจ  เชื่อว่าพระเจ้าก็จะทรงทราบถึงเจตนาของเราคะ

[โทษทีคะ อิชั้นลืมดู ว่าพี่ยีนส์เอา กามัคชี่สโตตรัมให้คุณแล้ว]

    โทษทีคะ  อิชั้นลืมดู ว่าพี่ยีนส์เอา กามัคชี่สโตตรัมให้คุณแล้ว


    งันเอาหัวใจสั้นๆ ไปและกันนะ สำหรับองค์นี้


    .... โอม  นะโม กามัคชี่เดวี อามุขิมี กูรูๆ สวาฮา .....


แต่ไงรอท่านอื่นที่รู้มากกว่านี้มาเพิ่มเติมนะค่ะ อิอิ

  อิชั้นยังอ่อนหัด   

[โห คุณ กามัคชี่ส่วนใหญ่มันตราเป็นทมิฬนะ ยากอะ]

โห  คุณ  กามัคชี่ส่วนใหญ่มันตราเป็นทมิฬนะ  ยากอะ
 


แต่เคยเห็นอยู่  มนต์ที่เป็นสันสกฤต   ยังไงลองไปดู ศรีกามัคชี่ สโตตรัมนะ 

หรือไม่ลองไปถามพี่ยีนส์อะคะ  555

โยนให้สะงั้น   แต่ทมิฬ อิชั้นไม่สันทัดจริงๆ   


อัมมันคุ้มครองจ้า

[เอางี้คะ พอมีรูปมั้ยค่ะ เพราะอิชั้นก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกันคะ]

 

   เอางี้คะ    พอมีรูปมั้ยค่ะ   เพราะอิชั้นก็ไม่เคยได้ยินเหมือนกันคะ