Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - mahad

#41
ตอนนี้ร้านป้าที่สนามหลวงสองปิดแล้วจ๊ะ  กำลังหาทำเลใหม่อยู่   เดิมชื่อร้าน  mahad  นี้แหละจ๊ะ  อยู่โซน  1  แถว  14  ใกล้ๆตลาดขายของกินนะ   ขายเพชรขายพลอยตามเรืองตามราวแหละจ๊ะ  เจอพิษเศรฐกิจ  เลยพักก่อน
   แล้วองค์พ่อ  ของคุณjojoเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือจ๊ะ   ตอนนี้ที่สนามหลวงสองมีร้านองค์เทพมาเปิดใหม่
แยะเหมือนกันนะ   โดยเฉพราะองค์พ่อพิฆเนศวร  มีร้านเป็นวานไม้แกะสลักทางเหนีอแวะไปดูมาหรือยังละ
ป้านะไปดูมาเรียบร้อยแล้ว
      เดี๋ยวราวๆต้นปีหน้าเปิดร้านใหม่แล้วมาเที่ยวกันนะ  (พักรอเศรฐกิจก่อน ) แต่ยังไม่รู้ว่าจะเปิดที่เดิมหรือเปล่า  เปิดที่ไหนจะส่งข่าวบอกจ๊ะ   
#42
แต่ที่สำคัญจะมาถึงจุดที่ขออโหสิกรรมนี้ได้   ตัวเราเองนั้น  เราต้องมีฐานบุญที่ดี  ซึ่งต้องมาจากมีทาน  ศีลนำแล้วจะมาถึงการทำสมาธิภาวนาซึ่งอยากอธิบายให้เข้าใจกันอย่างง่ายๆว่าการทำสมาธินั้น  จะอยู่ในขั้นตอนที่สามเป็นเรื่องการภาวนานั้นเอง
   ก่อนที่เราจะทำสมาธิภาวนานั้น    จิตของเราควรตั้งมั่นต้องดำรงค์ตนในฐานะผู้ให้เสียก่อนคือการทำทาน  เพราะถ้าใจเราเป็นผู้ให้แล้ว  การที่เราจะทำอะไรต่อไปมักเป็นเรื่องง่าย   ใจมันเปิดมันพร้อมที่จะไปขอโทษ  ทั้งกรรมที่เจตนาและไม่เจตนา  ใช้หนี้เวรหนี้กรรมที่เป็นทั้งต้นและดอก
ตามช่องทางและมีฐานบุญที่ดีพร้อมที่เราสร้างขึ้นมา
      โดยเฉพาะในเรื่องของการทำสมาธิภาวนา  เพื่อรวมพลังจิตเพื่อจะส่งจิตพุ่งตรงไปขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร  ซึ่งการทำสมาธินั้นเป็นขั้นตอนที่สาม  เหมือนเป็นบันไดสามขั้นเพื่อให้ถึงเป้าหมาย  เพื่อให้การขออโหสิกรรมสำเร็จลงได้  ซึ่งต้องรู้จักทำตั้งแต่ขั้นตอนแรกจึงจะไปขออโหสิกรรมได้สำเร็จ  และไม่มีทางลัดโดยเด็ดขาด
   ถามว่าใช่การทำสมาธิแผ่เมตาอย่างเดียวได้ไหม  ตอบว่าได้ แต่ไม่สทบูรณ์ครบถ้วน  เจ้ากรรมนายเวรบางรายอยู่ในภาวะที่เป็นทุกข์อดอยากหิวโหย  ก็ต้องมีวัตถุ สิ่งของที่เราอุทิศไปให้เขาจึงจะพอใจ  สิ่งของเหล่านั้นเมื่อเราถวายพระแล้วเราอุทิศบุญไปให้เค้าเหล่านั้น  ก็จะกลายเป็นของทิพย์ให้เขาได้รับเมื่อเขารับอย่างพอใจแล้วก็จะลดความอาฆาตพยายาทลงได้
   ถ้าเป็นทางโลก  ให้เปรียบเหมืนเราติดเงินใครแล้วจะขอให้เค้ายกให้แบบมือเปล่า กับมีของที่เขาพอใจไปแลกเปลี่ยนอย่างไหนจะดีกว่ากัน
ท่านทั้งหลายลองตรองดู
   บางคนบอกว่านั่งภาวนาอย่างเดียว แล้วอธิษฐานแผ่กุศลให้เขาอย่างเดียว  เมื่อเขาได้รับแล้วก็ก็จะหลุดพ้นจากทุกข์ที่เป็นอยู่  จะหลุดพ้นอย่างไรขนาดบุญจากทาน  ศีลยังไม่มีเลยแล้วจะเอาบุญที่ไหนไปเผื่อแผ่ให้เขา
   แสดงว่า  ผู้ที่สอนอย่างนี้ไม่ศึกษาพุทธศสานาอย่างท่องแท้  อย่าไปหลงเชื่อ
   

คัดลอกมาจากหนังสือ  อยู่อย่างสว่าง โดย ธ.ธรรมรักษ์
คราวหน้าจะเอาการขออโหสิกรรม  และ พิธีขออโหสิกรรมด้วยตนเองมาฝากจ๊ะ
#43
[HIGHLIGHT=#e5e0ec]ป้าอ่านในหนังสือ   อยู่อย่างสว่าง   เห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาลงให้  สมช.HM ได้อ่านกัน[/HIGHLIGHT]

[HIGHLIGHT=#ffff00]เรื่องการแก้กรรมนั้นขอยืนยันเลยว่าแก้ไม่ได้[/HIGHLIGHT]++++ ใครในเรื่องการขออโหสิกรรม  ที่จะช่วยคลายกรรมหนักให้เป็นเบาได้  และยิ่งทำกรรมดีผลบุญกุศลนั้นก็จะยิ่งช่วยให้เราพบกับความสุขสมหวังในชีวิตเร็วขี้น  เพราะบุญมันส่งผลเร็วกว่าบาปกรรมที่เคยทำไว้   เมื่อเราทำบุญมากเข้าๆและไม่ทำบาปเพิ่มขึ้น  ก็จะทำให้วิบากกรรม
ชั่วที่เคยทำไว้เบาบางลง  หรือชะลอการส่งผลได้  แต่ก็จะได้รับเศษเวรเศษกรรมอยู่
     กรรมนั้นแก้ไม่ได้แต่เราสามารถไปขออโหสิกรรมได้  เมื่อเจ้ากรรมนายเวร เขาพอใจยกโทษให้  อโหสิกรรมแก่เราแล้วกรรมตรงนั้นจะบรรเทาเบาบางลงแต่ยังคงได้รับเศษเวรเศษกรรมอยู่ดี
     การทำสมาธิภาวนาฝึกจิตให้สงบและนิ่ง  เพื่อรวบรวมจิตให้เป็นหนี่งเดีย
     ขอย้ำว่า เป็นเพียงช่องทางหนึ่งที่เราจะเข้าไปเจราจากับเจ้ากรรมนายเวรในขณะนี้  ในสภาวะจิต  การเจรจาที่ดีที่สุดและเป็นดี ต่อลูกหนี้อย่างเราก็คือ  การที่ลูกหนี้เข้าไปหาเจ้าหนี้ถึงที่  ไม่ใช่ให้เจ้าหนี้วิ่งไล่ทวงหนี้
     การทำสมาธิภาวนานี้   เป็นการทำในกรณีที่เจ้ากรรมนายเวรที่มีชีวิต  และเราไม่สามารถติดต่อเขาได้  หรือในกรณีที่เขายังไม่ยอม อโหสิกรรมให้เราต่อหน้าและลับหลัง  เป็นการส่งกระแสจิตไปถึงจิตเขาโดยตรงก่อนที่จะมีโอกาสได้ทำกรรมดีต่อกัน  ด้วยกาย วาจา เมื่อได้พบกัน   ส่วนการทำสมาธิภาวนาสำหรับเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นวิญญาณ  คือการสื่อระหว่างจิตต่อจิตเท่านั้น  การขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรนั้น  หลายท่านอาจเคยได้ยินว่า   เราทุกคนนั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเอง  และสามารถทำแทนผู้อื่นได้โดยฉะเพราะคนในสายเลือดเดียวกัน  ทั้งบุพการี  พ่อแม่พี่น้องที่ใกล้ชิด  จะทำได้ดีกว่าคนอื่นๆ   
#44
ขอบคุณทุกท่านที่ค้นหามาให้ชม   
ชื่นชมท่านทั้งหลายจากหัวใจเหี่ยวๆของป้า...ฮิ..ฮิ
ความรู้เดิมเท่าหาอึ่ง  ต้อนนี้งอกเพิ่มมาอีกเป็นหางอ่าง .....55555
#45
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีค่ะท่านกาลิทัส  ศรีจักรา  ป้ามีเป็นยันต์เอาไว้บูชา  แต่เป็นแบบรูปทรงสูงแบบนี้พึ่งเคยเห็นค่ะ
ดีใจมากๆที่เป็น  สมช.HM  ได้ความรู้มากๆเลย 
#46
[HIGHLIGHT=#f2dcdb]ขอบคุณท่านอักษรฯ มากค่ะ [/HIGHLIGHT]
ที่นำสิ่งดีๆมาให้ชมพระบารมี 
    ขอให้คุณพบแต่สิ่งดีๆเช่นกันนะค่ะ
#47
เคยได้ยินชื่อเสียงวัดนี้มานานแล้วค่ะ  ดารานักแสดงเป็นลูกศิษย์ฒษกมายหลายคน   ไปหาเพื่อนที่ อ.ท่าช้างผ่านบ่อยๆ
พึ่งทราบว่างานไห้วครู  บายศรีสวยงาม อลังการณ์ขนาดนี้   ปีหน้าต้องขอไปชมของจริงแล้วแหละแบบนี้
ขอบคุณมากค่ะสำหรับผู้ที่นำมาให้ชมบารมี   
#48
[HIGHLIGHT=#ffffff]สวยงามค่ะสวยงาม    [/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#ffffff]  ปีนี้ผ่านไปแล้ว   ปีหน้าป้าไปหาที่โต๊ะแน่นอน   โต๊ะป้าและเพื่อนๆอยู่หน้าตึก บสก.
[/HIGHLIGHT][HIGHLIGHT=#ffffff]แต่ปีนี้ป้าไม่ได้ไปร่วมจ๊ะ   เพื่อนๆก็ตั้งที่เดิมแหละจ๊ะ  ตอนหัวค่ำ 19.00 (โดยประมาณ)
มีสวดโซฮา  ถวายพระเป็นเจ้ากันทุกปี    [/HIGHLIGHT]
#49
[HIGHLIGHT=#f2dcdb]ป้าต้องขอบคุณๆเกียร์ไนท์อย่างสูง    [/HIGHLIGHT]แต่ป้าลงรูปอะไรไม่เป็นกับเค้านี้ซิ   
ต้องรอหลานมาหาแล้วค่อยวานเค้าทำให้   ส่วนเรื่องผ้าและเครื่องทรงอื่นๆพอมีบ้างแล้ว
เดี๋ยวป้าจะรีบโทรไปตามหลานให้รีบมา
#50
[HIGHLIGHT=#ffffff]คือว่าป้าอย่าแต่งองค์เทพเป็นนะจ๊ะ  ไม่ทราบว่ากูรูท่านใด  พอที่จะสละเวลาอันมีค่าของท่านสอนให้ได้บ้างหรือพอจะทราบไหมว่ามีที่ใดรับสอน   [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff]ป้าเคยหัดทำเองไม่สำเร็จ    ถ้าไม่ยากจนเกินไป   จะลงให้ดูในเวปที่ละสเตปก็ได้ [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff]แต่ป้าหัวค่อนข้างช้า(แบบว่าโง่นะ)  กลัวทำไม่ได้[/HIGHLIGHT]   
           [HIGHLIGHT=#953734]   ช่วยสงเคราะห์หญิงชราด้วยนะจ๊ะ  [/HIGHLIGHT]
   [HIGHLIGHT=#5f497a] ขอขอบคุณความมีน้ำใจของชาวHMล่วงหน้ามานะที่นี้[/HIGHLIGHT]
#51
โอกาสแบบนี้ไม่ได้จะเกิดขึ้นกับทุกคนเสมอไป   คุณเป็นผูู้้ที่พระองค์ทรงพระเมตตา   
[HIGHLIGHT=#00b050]ยินดีด้วยอย่างยิ่งเลย (แต่แอบอิจฉาลึกๆนะนี้)  ล้อเล่นนะจ๊ะ อย่าถือสาคนแก่นะ[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#00b050][/HIGHLIGHT]
#52
Quote from: pop_pop on October 04, 2009, 19:17:59
อย่างคุณป้าสอนก็เข้าใจอ่ะครับ ติดนิดนึงว่าเวลาที่บอกต้องใช้ว่าตะคอก(แสดงอาการ)ถ้าพูดกันดีๆบอกดีผมจะไมติดใจเลยครับเพราะใจผมก็ระลึกอย่างที่คุณป้าบอกใครๆก็อยากเฝ้าพระแม่อยากทำบุญครับเข้าใจมาก
Quote from: Fiath on October 02, 2009, 06:24:31
อยากไปงานแห่ งานบุญทุกที่ ทุกงานนะ ไปทีไรเสียความรู้สึกทุกทีเลยง๊ะ
ถึงผมจะมีโต๊ะอยู่แต่ก็รู้สึกถึงความเห็นแก่ตัวในงานบุญมากมาย เห้อๆๆ...ปลงๆๆ เข้าใจคุณ pop_pop มากมาย

[HIGHLIGHT=#ffff00]   ป้าเองก็เข้าใจคุณๆนะ  ทุกวันนี้งานบุญไม่ว่าจะเป็นฮินดูหรือพุทธ   ไปร่วมงานก็จะเกิดอาการเสียอารมณ์[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]เพราะมนุษย์เราทุกวันนี้มีแต่ความเห็นแก่ตัว  ทำกันจนติดเป็นนิสัยเลยไม่รู้ว่าไอ้ที่ตัวเองทำนั้นนะมันคือความเห็นแก่ตัวเบียดเบียนผู้อื่น[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]คิดแล้วเศร้านะ  ป้าเองทุกวันนี้ถ้าไปจำเป็นก็ไม่ค่อยไปร่วมงานกับใครเท่าไร   เพราะไปกับมาบางครั้งก็คงไม่ได้บุญหรอก [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]เพราะพอเราไปเจอคนเห็นแก่ตัวกลับมาเราก็จะอารามณ์เสียด่าว่าเขาเหล่านั้น      เลยทำให้บุญที่อุส่าไปทำมาไม่ได้กับเขาเลย [/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]คิดแล้วเศร้านิ......ไปชมภาพบารมีพระแม่ดีว่าจะได้สุขใจ.......[/HIGHLIGHT]
#53
งดงามมากเลยจ๊ะ   เชื่อว่าการจัดโต๊ะบูชาพระแม่นี้เป็นการแสดงถึงความรู้สึกภายในใจที่มีต่อพระองค์ท่าน
ฉะนั้นทุกท่านจึงแสดงพลังแห่งความศรัทราอันแรงกล้าที่มีต่อพระองค์ท่าน    จนมิอาจจะหาคำใดมาบรรยายได้ถูก   
มีแต่จะชื่นชมเจ้าของซุ้มอย่างจริงใจ  ในความศัทราของท่าน
#54
สวัสดีจ๊ะ   ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของพระเป็นเจ้า

     นู๋กิมจ๋าโฆษณาชวนเชื่อน่าดูนะเรานะ   
#55
[HIGHLIGHT=#92d050]ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆความรู้ดีๆที่ท่านมอบให้    พระเป็นเจ้าทรงคุ้มครอง[/HIGHLIGHT]
#56
Quote from: Kimnei on September 28, 2009, 08:11:20
ขอบคุณค่ะ 

ทำด้วยใจศรัทธาและกำลังทรัพย์ที่เรามีอยู่
   ป้าเห็นด้วยที่ซู๊ด........
[HIGHLIGHT=#ffff00]เข้ามาหาความรู้ไม่นานชักเก่งใหญ่หลานป้า.......[/HIGHLIGHT] 55555
#57
ขอขอบคุณทีมงาน  HM  ทุกท่านที่ทุ่มกายใจให้กับพระเป็นเจ้า  นำความรู้และสิ่งดีมาเผยแพ่รกับคนที่ไม่รู้หรือรู้มาแบบผิดๆ  ทำให้คน
มีความรักและศรัทราในพระเป็นเจ้ามากขึ้น  รู้แก่นแท้ในการบูชาพระองค์ท่าน...
ขอให้บุญกุศลที่ทุกท่านทำที่ได้กระทำไม่ว่าจะคร้งไหนๆ ก็ตาม ( ผ่านมาแล้วหรือกำลังทำอยู่ในปัจจุบัน  หรือในอนาตคที่จะถึงนี้)
จงเป็นสะพานบุญให้ทุกท่านพบแต่ความสุขความเจริญ  ประสบความสำเร็จในทุกๆด้านที่ท่านปรารถนาเถิด......
   โอม......ข้าแต่ท่านทวยเทพมหาเทพทุกๆพระองค์ทุกๆพระนามทุกๆพระญาณ  ข้าพเจ้าขอพระองค์ท่านโปรดทรงเล็งเห็นใจความศัทรา
ที่แรงกล้าและใจที่บริสทธิ์ที่เค้าเหล่านี้มีต่อพระองค์ท่านด้วยเถิด   
ขอบารมีพระองค์ท่านโปรดทรงประทานความสงบผาสุขและพรอันยิ่งใหญ่ให้เค้าเหล่านี้ด้วยเถิด.....โอม...ศานติ...ศานติ...ศานติ..
#58
น่าเสียดายมากๆเลยเพราะปีนี้ป้าไม่ได้ไปร่วมงานแห่กับสานุศิษย์ทั้งหลาย   
          แต่อ่านบทความขอแต่ละท่านแล้ว  ป้าเข้าใจความรู้สึกของทุกท่านนะ  ทั้งผู้ที่จัดสถานที่ต้อนรับ   
ทั้งผู้ไปรวมงานแบบไม่ได้จัดสถานที่  แต่ทุกคนทุกท่านมีเจตนาเดียวกันคืออยากเฝ้าพระแม่อย่าง   ใก้ลชิด(ที่สุดเท่าที่จะทำได้)
           ฉะนั้นป้าอยากให้ทุกท่านทำใจอยากซีเรียดใส่กัน  เพราะเราไปร่วมงานบุญ(ต้องท่องไว้ในใจ)ใจเราต้องป็นกุศลให้มากที่ส
เพื่อเตรียมรับบุญกุศลที่เราไปร่วมกันทำในครั้งนี้
      แต่ท่านที่ไปโดยไม่ตั้งสถานที่  เวลาจะไปยืนต้อนรับขบวนพระแม่ก็ควรดูว่าเราไปบดบังใครเค้าหรือเปล่า  เพราะคนที่ไปจัดสถานที่(ตั้งโต๊ะ)
เค้าก็ต้องการที่จะให้พระแม่ทรงเสด็จมาที่โต๊ะเค้าอย่างใกล้ที่สุด(เป็นของธรรมดา)
      ส่วนท่านที่จัดสถานที่ก็ใจเย็นสักนิด  อย่าถึงขนาดไล่กันเลยบอกเค้าดีๆว่าเราจัดที่สำหรับพระแม่อย่าบังเราเลย แต่ถ้าเจอเหตุการแบบ
คุณpurple_tulip  บอกก็คงต้องระวังแล้วละ  เพื่อนๆที่ไปด้วยกันต้องช่วยกันดูแล(ป้ายังไม่เคยเจอแบบมั่วนิ่มมาเอาของเราไปถวาย)แต่ลวงกระเป๋าเคยเจอแต่ไม่ใช่กับตัวเองเพื่อนคนอื่นๆเค้าโดนกัน
      ป้าสังเกตุดูมีปัญหากันทุกปี  ตั้งแต่การจอง(ผูกเชือก)สถานที่เลยแหละ  บางคนก็ไร้มารายาทจริงๆนั้นแหละ  คือมีคนผูกเชือกเอาไว้แล้ว
เขียนชื่อแปะไว้   มีคนพอมาถึงมาดึงของเค้าออกเอาเชือกและชื่อตัวเองขึงไว้แทน  เห็นแล้วเศร้า
      เอานะทำใจ [HIGHLIGHT=#92d050]  ต้องทำใจ [/HIGHLIGHT]บุญที่จะสำฤทธิ์ผลคือบุญที่เกิดจากใจที่เป็นกุศลจิต(ใจที่บริสุทธิ์)
#59
ยินดีต้อนรับน้องใหม่ไฟแรง  สู่ครอบครัว HM  อันแสนอบอุ่นของพวกเรา(หรือป่าวหว่า) 555555
#60
หวัดดีจ๊ะหนูหญิง   หนูกิม   ป้ายุ่งนิดหน่อย   เลยไม่มีเวลาเข้ามาทักทาย คิดถึงหนูๆเช่นกันจ๊ะ
   หนู  ญไม่ต้องคิดมากจ๊ะป้าไม่ได้คิดว่าอะไรหนูเลย   อย่าคิดมากนะเดี๋ยวแก่เหมือนป้าไม่รู้ด้วย  55555
#61
ขอบคุณในความมีน้ำใจของคุณอักษรมากค่ะ    ที่นำบารมีพระองค์ท่านมาให้ชมกัน  สวยงามมาก

  โอม....ข้าแต่ท่านทวยเทพมหาเทพ...  ข้าพเจ้าขอบารมีพระองค์ท่านโปรดทรง
ประทานพรอันยิ่งใหญ่....ให้แก่สาวกผู้บูชาพระองค์ท่านด้วยความศรัทราอันแรงกล้า
ด้วยจิตที่บริสูทธิ์ที่มีต่อพระองค์ท่านเหนือสิ่งอื่นใดด้วยเถิด....โอม.....ศานติ....ศานติ....ศานติ
   
#62
สวยมากค่ะสำหรับหิ้งบูชา   
และดีใจกับคุณด้วยที่พระองค์ท่านทรงพระเมตตา
#63
มีแต่คนตอบแบบโดนใจ(คนแก่)จริ๊ง ๆ  อยากให้ทุกคนบูชามหาเทพ  ด้วยความศรัทราอันแรงกล้า  ด้วยจิตที่บริสุทธิ์
ที่มีต่อพระองค์ท่านเหนือสิ่งอื่นใดก็เพียงพอแล้ว  พระองค์ท่านสถิตอยู่ทุกหนแห่งโดยฉะเพาะในใจเรานี้แหละ (สำคัญกว่าทุกที่)
มีคนเคยเล่าให้ฟังว่าประเทศอินเดียบางบ้านยากจนมาก   ไม่มีเงินจะซื้อหาเทวรูปมาบูชา  แต่พวกเข้า
ศรัทราในพระเป็นเจ้าของเค้า  เค้าก็จะเอาก้อนหินมาแทนพระองค์แล้วสวดบูชา  บางบ้านก็ไม่มีอะไรเลย
เพียงแต่หันหน้าไปในทิศทางที่พวกเค้าคิดว่าพระองค์ท่านสถิตอยู่   เค้าก็สามารถสวดมนตราถวายพระองค์ท่านได้แล้ว
(ฟังเค้าเล่ามาอีกที่หนึ่งแต่แหล่งข้อมูลค่อนข้างเชื่อถือได้)
#64
ขอคนแก่คุยด้วยคนนะจ๊ะ    คุณน้ำค่ะป้าอย่าบอกคุณน้ำว่าพระองค์ท่านมาโปรดคุณน้ำถึงเพียงนี้แล้ว   อีกไม่นานหรอกค่ะ
คุณน้ำได้พบพระองค์ท่านแนะนอน (กล้าบอกจากประสพการณ์เลยค่ะ)    
     ขอเพียงคุณบูชาพระองค์ท่านด้วยความศรัทราอันแรงกล้าด้วยจิตที่บริสุทธิ์ที่มีต่อพระองค์ท่านเหนือสิ่งอื่นใด
รับรองว่าพระองค์ต้องทรงพระเมตตาดูแลต่อสาวกของพระองค์ท่านแน่นอนค่ะ
      ป้าขอเอาใจช่วย โอม... ข้าแต่ท่านทวยเทพมหาเทพ   ทุกๆพระองค์   ทุกๆพระนาม ทุกๆพระญาณ   ขอบารมีพระองค์ท่าน...โปรดทรงประทานพรอันยิ่งใหญ่ ให้คุณน้ำ สมความปารถนาในทุกสิ่งที่คุณตั้งใจ
#65
ใส้ตะเกียงควรใช้แบบใยฝ้ายจะ ดูดซับน้ำมันได้ดี    ส่วนน้ำมันก็แล้วแต่ความสะดวกในการซื้อหา(ใช่น้ำมันพืชก็ได้  แต่ควันดำจะมาก)
แต่ถ้าจะให้แนะนำคือ   แถวพาหุรัดย่านสินค้าอินเดีย  มีน้ำมันเนยเป็นกระป๋องๆ   จำหน่าย  (ใช่แล้วไม่มีควัน)จะเป็นน้ำมันสำหรับ
จุดบูชาเทพเจ้าของอินเดียโดยตรงเลยจ๊ะ
ป้าก็ใช่แบบนั้นแหละ   กระป๋องเล็กราคาประมาณ  160 บาท   กระป๋องใหญ่   300 บาท   (แต่ตอนนี้อาจจะขึ้นราคานิดหน่อย
ป้าไม่ได้ไปซื้อหลายเดือนแล้ว )
แต่ส่วนใหญ่เค้าใช่น้ำมันพืชกันเพราะหาซื้อสะดวกแถมประหยัดกว่ากันมา   น้ำมันเนยจะหาซื้อได้แต่ร้านจำหน่ายสินค้า
จากอินเดียเท่านั้น  และไม่ใช่ทุกร้านจะมีจำหน่าย

ส่วนเรื่องความหอม   ถ้ากลิ่นไม่ถูกใจก็สามารถผสมน้ำมันหอมกลิ่นที่ถูกใจได้
โดยเลือกซื้อร้านค้าย่านนั้นแหละจ๊ะ    มีน้ำมันหอมสำหรับบูชาเทพเจ้ามากมายให้เลือก
#66
ยิ้ม...มหานิยม

โดย สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี)
มนุษย์มีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งที่หาไม่ได้ในบรรดาสัตว์ที่มีชีวิตด้วยกัน สิ่งนั้นก็คือ "
ยิ้ม
"
สัตว์โลกทุกชนิดที่ยกย่องว่ากันว่า เป็นสัตว์ฉลาดและฝึกหัดได้นานัปการ แต่ฝึกให้
"
ยิ้ม
"
ไม่ได้ ยิ้มของคนซื้อขายไม่ได้ ยิ้มเป็นเครื่องดึงดูดให้คนเข้าใกล้ปราศจากความระแวง ยิ้มสามารถเป็นเกราะป้องกันภัยให้แก่ตนเองได้ด้วย แต่ต้องเป็นยิ้มตามปกติ มิใช่ยิ้มอย่างละคร ลิเก ที่โปรยยิ้มไปรอบๆ เวที เพราะนั่นเป็นยิ้มที่แต่งขึ้น ยิ้มแท้ต้องเป็นยิ้มที่เกิดจากใจจริง มีลักษณะที่เบิกบาน เยือกเย็น สดชื่น เป็นเครื่องดับและบรรเทาทุกข์ร้อนได้ ทำให้ผู้ยิ้มเป็นคนมีสติยั้งคิด ไม่ผลุนผลัน เมื่อฝ่ายหนึ่งหน้าบึ้งมาหา อีกฝ่ายหนึ่งยิ้มรับ เหตุร้ายย่อมกลายเป็นดี



โบราณท่านจึงให้ยิ้มไว้ก่อนเสมอ ยิ้มได้เมื่อภัยมา ย่อมช่วยให้เกิดสติ ไม่ตื่นเต้น วู่วาม ในเหตุอันใดที่เกิดขึ้น ยิ้มจึงส่งเสริมให้เป็นคนมีสติ ตรงข้ามกับความโกรธซึ่งทำให้ขาดสติ ไร้ความยั้งคิด ยิ้มไม่ต้องลงทุนซื้อหา แต่มีอยู่แล้วประจำตัวทุกคน เหมือนมีอาวุธในตัว ต้องหมั่นชโลมน้ำมันกันสนิมไว้ อย่าปล่อยให้สนิมจับจนฝืดไม่คล่องแคล่วทันท่วงที คนที่ยิ้มยากเพราะไม่เคยยิ้ม ถึงคราวยิ้ม ย่อมยิ้มไม่ออก จึงควรต้องหัดยิ้มไว้เสมอๆ
"
ยิ้มได้และยิ้มเป็นจะช่วยให้ปลอดภัยและสบายใจ
"
ดังคำที่ว่า ยิ้มง่าย สบายทัก รักผู้อื่น ตื่นอยู่เสมอ แล้วจักมีความสุขใจโดยแท้จริง


จากหนังสือ ๕๐ คติธรรมจากแสงธรรม
โดย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฐายี)

แหล่งที่มาจากธรรมจักรดอทเน็ต
#67
ป้าได้อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกดี    เลยอยากเอามาฝากพี่น้องหมู่เฮาจ้า
ความศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ข้อความที่ผู้เขียนจั่วหัวเอาไว้ อาจทำให้ท่านผู้อ่านหลายท่านขมวดคิ้ว


“มีด้วยหรือความศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์”

คำตอบก็คือ ‘มีจริง’ ความศักดิ์สิทธิ์นั้นคือ ‘กรรม’ ที่เกิดจากการกระทำของตัวเราเองนั่นแหละ ดังจะได้เห็นจากคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ทั้งหลายที่เคยได้รู้ได้ฟังมา ท่านจะเน้นลูกศิษย์ลูกหาให้รู้จักพึ่งพาตัวเองด้วยการประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบแห่งคุณงามความดี ไม่ล่วงละเมิดศีลอันถือเป็นความปกติของมนุษย์ที่มีชีวิตจิตใจประเสริฐกว่าสัตว์โลกอื่น


ในอดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีเหล่าคณาจารย์ผู้เรืองเวทวิทยาคม ได้สร้างวัตถุมงคลอันวิเศษเอาไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ใช้ปกป้องและกันภัยจำนวนไม่น้อย หากผู้ทรงภูมิเหล่านั้นก็มักจะย้ำเตือนอยู่เสมอ


‘จงหมั่นสร้างบุญ รักษาศีล รักษาใจ อยู่ในไตรสรณคมน์อย่างมั่นคงอย่างไม่ประมาท’


ครั้งหนึ่งในอดีต ผู้เขียนเคยกราบนมัสการเรียนถามครูบาอาจารย์สายพระกรรมฐานทางภาคอีสานรูปหนึ่งด้วยความใคร่รู้ เพราะครั้งนั้นยังอยู่ในวัยรุ่นวัยเรียนที่ปรารถนาหาวัตถุมงคลมาป้องกันตัวตามประสาคนเกเรอยู่บ้าง
“พระของหลวงปู่ป้องกันภัยได้จริงหรือครับ”

คำถามตามประสาซื่อ ซึ่งท่านตอบแบบยิ้ม ๆ

“ได้อยู่”

จำว่ารับแจกวัตถุมงคลจากมือหลวงปู่ด้วยความยินดีปรีดา และคิดในใจว่า จากนี้ไป ตัวเองจะหนังเหนียวเที่ยวไปไหน ๆ ด้วยความปลอดภัย แต่หลวงปู่ก็กล่าวแบบยิ้มเหมือนรู้ใจ


“แต่ว่าพระของหลวงปู่ป้องกันภัยจากผลกรรมไม่ได้เด้อ

วันวานเหมือนเข้าใจ แต่เพราะวัยน้อยนิดจึงคาค้างในจิตอยู่บ้าง จะเอ่ยถามก็เกรงใจ ก็เลยนิ่งเงียบ จนมาวันหนึ่งได้อ่านประวัติของเกจิอาจารย์ในหนังสือเกี่ยวกับพระเครื่องเป็นเรื่องราวของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์


ว่ากันว่า วัตถุมงคลของท่านนั้นป้องกันภัยจากอาวุธชะงัดนัก จนเป็นที่เลื่องลือไปทุกสารทิศ


วันหนึ่งเกิดมีคนถูกยิงตายไม่ไกลจากวัดหนองโพนัก คนตายมีเหรียญของหลวงพ่อเดิมห้อยคออยู่ ผู้คนจึงเรียนถามท่าน

“ทำไมห้อยเหรียญหลวงพ่อจึงถูกยิงตาย”


ว่ากันว่า หลวงพ่อเดิมท่านเดินมาดูศพด้วยตัวท่านเอง พอมาถึงท่านยืนดูและพิจารณาอยู่ชั่วครู่ขณะก่อนสั่งให้ชาวบ้านยกศพชายดังกล่าวขยับออกห่างจากจุดที่เกิดเหตุเพียงแค่สองวา พร้อมกับบอกให้ชาวบ้านชักปืนออกมายิงศพอีกครั้ง ผลปรากฏว่ากระสุนด้านทุกนัด


“อะไรก็กั้นกรรมไม่ได้ กรรมของมันต้องตายตรงนั้น ตรงนั้นคือที่ตายของมัน” คือประโยคยืนยันของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ ผู้เรืองเวท

นั่นคือคำกล่าวที่ว่า ‘กรรม’ มีอำนาจเหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง



ถึงตรงนี้ผู้เขียนไม่แปลกใจอะไรเลย จะให้แปลกอย่างไรล่ะครับ ก็ในเมื่ออาจารย์ผู้สร้างเครื่องรางและวัตถุมงคลเหล่านั้นท่านยังมิอาจพ้นภัยจากมรณกรรมได้ ผู้นำมาใช้จะรอดตายได้อย่างไร


แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ครูบาอาจารย์บางท่านก็กล่าวไว้ว่า วัตถุมงคลบางอย่างบางชนิดที่ผู้ทรงฤทธิ์ทรงอภิญญาท่านกำหนดจิตไว้ สามารถป้องกันภัยร้ายให้ได้ แต่มักจะเกิดกับผู้มีศีลธรรม หรือคนที่มีเคราะห์กรรมเบาบาง ในทำนองผ่อนหนักให้เป็นเบาเสียเป็นส่วนมาก


เกจิอาจารย์อีกองค์หนึ่งที่ผู้เขียนรู้จัก คือหลวงปู่ดู่วัดสะแก จ.อยุธยา ซึ่งในปัจจุบันท่านได้มรณภาพไปแล้ว ท่านเป็นครูบาอาจารย์อีกองค์หนึ่งที่อนุญาตให้ลูกศิษย์ช่วยจัดสร้างวัตถุมงคลและท่านอธิษฐานจิตให้จนโด่งดังไปทั่วในหมู่ผู้นิยมเครื่องรางของขลัง


แม้ท่านจะรับรองในความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่อง หรือวัตถุมงคลที่ท่านยกไว้เหนือกว่านั้นคือ ‘การปฏิบัติ’ ดังจะได้เห็นจากคำกล่าวของท่านที่ว่า

“เอาของจริงดีกว่า พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิ นี่แหละของแท้”


ประโยคของหลวงปู่คือคำยืนยันชัดเจนว่าการเข้าถึงไตรสรณคมน์คือการปลอดภัยในชีวิตและจิตวิญญาณ แม้หมดลมหายใจคือต้องตายก็ตายในจิตที่มีพระรัตนตรัยเป็นอารมณ์ นั่นหมายถึงจะมีสุคติภูมิเป็นที่หมายในภายหน้า

ฉะนั้นแม้หลายต่อหลายคนจะแขวนพระ ห้อยเครื่องรางของขลังเต็มตัวที่ผู้ทรงคุณวิเศษอธิษฐานจิตไว้ให้ ก็ใช่จะอยู่รอดปลอดภัย อยู่ดีมีสุขดังใจหมายได้ตลอดเวลา เพราะอย่างไร


‘ความศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงคือ กรรม


และท้ายสุดคือ พระสติ พระปัญญา ที่ตนได้ฝึกฝนศึกษามาแล้วในสมาธิ อันเป็นปัญญาภายในเท่านั้นจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติ ‘รู้เท่าทัน’ พร้อมเผชิญปัญหาทั้งปวงในชีวิตอย่างไม่ทุกข์ใจ


นั่นคือแก่นแห่งพุทธศาสนาที่ใช้ขจัด ใช้ป้องกันภัยให้กับชีวิตอย่างแท้จริง!ทุกคนก็ต้องมีวิบากกรรมของตัวเอง และมิอาจหนีพ้นวิบากกรรมที่ตนได้สร้างไว้ในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ
#68
ขอบคุณมากๆค่ะ   ท่านอักษรชนนี   สำหรับสิ่งดีๆที่มามอบให้

ขอให้กุศลจิตอันบริสุทธิ์ของท่านอักษรฯ  จงส่งผลให้ท่านมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปนะค่ะ
#69
โอ๊ย.......เห็นแล้วใจสั่นอยากเป็นลม (อาการดีใจของคนแก่นะอย่าถือสานะ)  
              ขอบคุณมากมายค่ะ
ที่นำสิ่งดีงามมาให้ได้ชมกัน
#70
     งามสง่ามากๆๆๆๆๆ                                                                                                              โอ๊ย....ดีใจๆๆๆๆๆๆๆๆ  ไม่รู้ซิเป็นอารัย    ได้เห็นแบบนี้แล้วดีใจแบบอธิบายไม่ถูก  รู้แต่ว่าใจมันสั่นแบบเป็นปลื้มนะ        ยังไงๆป้าก็ต้องขอบคุณมากๆที่นำพระองค์ท่านมาให้ชมพระบารมี   
             
              ขอบคุณมากค่ะ 
#71
ป้าดีใจมากมายหลาย.....    ที่มาเพื่อนสมาชิกเข้ามาทักทายกับป้า  หนูกิม,คุณmena ,ท่านกาลิทัส

โอม.......  ข้าแต่เทวะของทรงโปรดพระเมตตา    โปรดทรงประทานพรอันยิ่งใหญ่......และทรงขจัดอุปสรรคอันยากแก่การแก้ไขให้หมดสิ้นไป
จากพวกข้าพเจ้าด้วยเถิด                 โอม....ศานติ....ศานติ.......ศานติ

         เรียนท่านกาลิทัส    ถ้าดูจากพ.ศ.เกิดของท่านแล้วท่านบอกว่าท่านเป็นลุง        ข้าพเจ้า        คงต้องรับตำแหน่ง  ย่าแน่นนอน(ไม่เอาจะเป็นแค่ป้าพอ)
          ยังไงก็   สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะจ๊ะ  มีแต่ความสุขๆๆๆๆๆแล้วก็ความสุขจ๊ะ
               ขอพระองค์ท่านจงคุ้มครอง
#72
 ป้าขอเป็นสมาชิกด้วยคนนะหลานๆๆเอ๋ย 
ป้าบูชามหาเทพมานานพสมควร   
ใครมีอะไรดีๆก็มาแนะนำป้าบ้างนะจ๊ะ   หรือ
ใครจะให้ป้าช่วยแนะนำอะไรก็ถามมาได้ถ้าป้ารู้ก็จะแนะนำให้ ถ้าไม่รู้ก็จะหาข้อมูลให้
ดีใจมากมายหลายคณานับที่มีคนรักพระองค์ท่านเหมือนกันกับป้า