Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - นกแก้ว

#1
คู่ของพระมีนัคชี คือพระสุนทเรศวร หรือสุนทเรศวราคับ ตอนที่ท่านเกิดนั้นมีพระถัน3เต้า

เกิดขึ้นจากการบูชาไฟขอบุตร ไม่ได้เกิดจากปฏิสนธิในครรภ์มนุษย์

มีพระนามว่า ธดาธกัย  เมื่อขึ้นเป็นกษัตรีแห่งเมืองมาดุไรมีพระนาม มีนัคชี อันหมายถึงดวงตา

ของปลา เพราะปลาชนิดหนึ่งในแม่น้ำคงคาจะไข่ไว้บริเวณดวงตา เพื่อคอยดูแลลูกอย่างดีไม่

คลาดสายตา เหมือนที่พระองค์ปกครองราษฎร  เรื่องอื่นๆ ท่านอื่นได้ตอบไว้แล้ว

#2
น่าจะวางพระตรีมูรติข้างบน  แล้วพระแม่ไว้ข้างล่างนะครับ ไม่รู้สิคับ

ตกแต่งสวยดี
#3

ท่านชื่อมาดูไร วีรั่น เป็นนักรบที่เก่งมากๆสมัยนึงในเมืองมาดุไร รัฐทมิฬ

ทางเข้าวิหารวัด พระแม่มินาคชี ที่เมืองมาดุไร ก็สร้างรูปท่านไว้เป็น เทพคอยดูแลรักษา


ชาวฮินดูยกย่องนับถ์อท่านให้เป็นเทพนักรบ ดูแลรักษา องค์นึง ทราบแแแแแค่นี้จ้า
#4
น่าจะเป็นวัดลักษมี นารายาณี ที่เมือง ศรีปุรัม ในรัฐทมิฬ

วิมาณัม และมันดาปัม หุ้มด้วยทองแท้ๆ สวยจริงๆ
#5
พระแม่ผู้เป็นมหาพลัง

#6
งานอินเดียแพงกว่างานไทยวัดราชฯอยู่แล้ว สวยถูกต้องตามเทวะลักษณะ

แบบฮินดู.......แต่สงสัยว่าทำไมค่าเชิญพราหมณ์และค่าทำพิธีแพงจัง คิดดีๆแล้วกันคับ ถ้าทำแล้ว

เราลำบากใจ ลำบากกระเป๋าก็ไม่ควร เคยเห็นแต่คนบูชาแล้วสบายใจอิ่มใจ   นี่บูชาแล้วเครียด  แถมมี

ระบบอิออนด้วยวู้ย
#7
เห็นมานานแล้้วคับ ในหนังหลายเรื่อง ถามร้านสุขจิตต์เพราะเห็นมีเป็นองค์สำริด จะมีใครบูชามั้ย

เค้าบอกว่าชื่อ กามเดวี เป็นพระมารดาที่ให้น้ำนม

หล่อเลี้ยงโลก อยากรู้จักข้อมูลมากกว่านี้  รู้สึกรักองค์นี้บอกไม่ถูกครับ 


#8
พี่นกแก้วขอแจ้งอีกครั้งนะครับ ว่าพี่ไม่ได้จบเทววิทยามาแต่ความรู้เท่าหาง

อึ่งที่พี่มีอยู่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่บูชามาและมีครูบาอาจารย์คอยไกด์ให้

อยู่บ้าง ซึ่งครูใครก็ครูของคนนั้นไม่สามารถเหมือนกันได้ ทำให้บางท่าน

อาจนึกค้่าน  ความเห็นไม่ตรงกัน พี่ก็เปิดใจรับ  แต่สิ่งที่พี่คาดหวัง

คืออยากให้น้องเด็กรุ่นหลังน้องหัวโปก ที่เพิ่งหัดบูชาได้เข้ามาแสวงหา

ความรู้ในเว็บแห่งดีๆนี้ ดีกว่าบูชาโดยที่ไม่รู้อะไรเลย คาดเดากันเอาเอง

จริงอยู่ว่าประเทศไทยมีวัดฮินดูอยู่หลายแห่ง แต่โอกาสที่เรา จะได้รับคำ

สอนในการบูชาแทบจะไม่มี ถ้าไม่ได้รู้จักพราหมณ์นั้นเป็นการส่วนตัว

ถ้าพี่ช่วยใครได้ก็อยากช่วย พี่ไม่ได้เป็นร่างทรงไม่ต้องการให้ใครงมงาย

สุดท้ายนี้ ขอบคุณ webmaster และHM มากๆที่เป็นเหมือนแสงสว่าง

ส่องทางในค่ำคืนที่มืดมนมองทางเดินไม่เห็น.....สังคมดีๆที่นี่ครับเคลียร์

นะจบ...

นกแก้วช่างพูด



#9
ขนาดกษัตริย์ยังร้ายเลยอ่ะ  นึกถึงคำนี้เลยคับ

"มารไม่มี บารมีไม่เกิด"
#10
ถ้าไม่มีบารมีพระแม่คุ้มครอง ไม่ต้องบอกเลยว่า เท้าพอง555 ขลังจริงๆ ศาสนาใดก็ไม่มีเหมือน

ศาสนาแห่งศรัทธา
#11
สวยมากครับ....

น้อเสืออยู่ไหน พี่นกแก้วอยากได้ฉัตรแบบในรูป ทำยังไงดีน้อง
#12
เย้!!! โพสต์รูปได้แล้วอิอิ

สังข์ที่ผมใช้อยู่มี2แบบ (ตามประสบการณ์ที่ไม่ได้เรียนมา)

1.สังข์ที่เอาไว้เป่า เน้นตัวใหญ่ เสียงแน่นเป่าง่าย ถ้าตัวเล็กที่ถูกกว่า เป่าเมื่อย
กามมากครับ เพิ่งเงินอีกหน่อยเอาแบบดีๆไปเลย เพราะใช้ได้ตลอดชีวิตซื้อครั้งเดียว ลงทุน

2. มหาสังข์ เป็นสังข์ตัวเล็กๆ วนขวาไม่ตัดหัวใช้สำหรับ สังขภิเษกคือ สรงน้ำศักสิทธิ์ครับ เมื่อสมัยก่อน ผมก็เอาสังข์ที่ไว้เป่ามาสรง ทุลักทุเลมากครับ บางทีเลอะขมิ้นอยู่ก็เอามาเป่า บางทีกลีบดอกไม้
เข้าไปอุดข้างใน เป่าไม่ออก เหนื่อยครับ ตอนหลังแยกไปเลยสะดวกดี  รูปข้างล่างนี้คือมหาสังข์ครับ


#13
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆนะคับ บางทีผมมีลืมอะไรก่อน หลังแต่อยู่ที่ใจ หวังว่าท่านคงไม่ว่าอะไร
คิดเองข้างเดียว..
#14
มหากาลี ชื่อที่รู้จักกัน 1หน้า10มือ เช็คที่พาหุรัดล่าสุดสัปดาห์ที่แล้ว

มีหลายขนาด เห็นที่ร้านอมร กับ สุขจิตต์อยู่ เพราะไปแค่2ร้าน พิมพ์นี้

เป็นที่นิยมของคนไทยจึงมีเยอะ ส่วนราคาไม่ได้ถาม ร้านเฮียศิวคิดว่ามี

เพราะขายดีมากรุ่นนี้...
#15
ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจสมาชิกใหม่อย่างผมนะครับ...ตอนนี้หายดีแล้ว จะแกะให้ต่อนะครับ

ถ้าท่านใดมีความรู้ด้านภาษาทมิฬ จะช่วยแกะก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับผม.... พระเวทย์ทุกคำมีอำนาจ

พลังในตัวเอง เค้าถึงไม่ให้วางไว้ในที่ไม่สมควร ไม่ให้เอามาสวดเล่นๆ แต่ผมเห็นความตั้งใจของคุณ

เบนจึงอยากช่วย ก็เท่านั้น...
#16
สวยงามมากคับ โทนสีสวย แถมสะอาดเป็นระเบียบมาก ละอายของตัวเองอ่า
#17
ภาพสวยมากคับ แอบสงสัย

ทำไมช่องทางเดินตรงกลางถึงมีคนธรรมดาเดินขึ้นไปได้อะคับ ปรกติเค้าไว้ให้คนที่มรมาณตนขึ้นนี่นา

หรือว่าเฉพาะช่วงไทปูซั่มหว่า
#18
พระแม่kalighat size นี้เพิ่งเคยเห็นคับเช่ามานานยังวางบนอะไรคับ  แต่ยอมรับว่าศักสิทธิ์มากๆ ผม

ปิดทองคำเปลวที่ลิ้น ท่านแล้วขอพรสำเร็จหลายข้อ

พระบาทคู่นี้ก็งาม  สรุปหิ้งนิ้ รวมไว้หมดทั้ง3 กาลี  ภาพDakshineshwali kali, Tara Devi &

Kalighat ครบเลย เจ๋งมากคับ
ชอบๆ
#19
น้องเสือไม่ได้เรียนลายรดน้ำไม่ต้องเสียใจหรอก ขอให้ได้เรียนทำหัวโขน

ที่ผ่านมาพี่เคยเห็นเศียรพระอุมาแล้ว  แต่ยังไม่เคยเห็นเศียรพระกาลี

หวังว่าพี่คงจะได้เห็นสักครั้งนะคับ....
#20
น้องเสือ สวยมากเกินกว่าที่พร่คาดไว้ แต่ยังขาดอะไรรู้มั่ย....

ดวงตาไง ห้ามลืมนะ
#21
น่าจะพระนาร์ซิมฮา หรือ นรสิงหาวตาร เพราะดูหน้านึงเป็นผู้ชาย,หมูป่า

จึงตัดพระแม่เปริจายีออกไปว่าไม่ใช่ เพราะท่านเป็นผู้หญิง

ปล.ไม่ชัวร์ครับ
#22
แอบมาโหลดไปแย้ว   นากัม ตรีศูลัม... มากะมายี ผมเคยมีแต่เป็นแผ่น8ปีแล้วมั้งคนนี้ร้องเพราะ...ขอบคุณคับ
#23
เก่งจังเลยถ่ายรูปมาได้ด้วย อิอิ...ผมชอบวัดนี้มากๆหลายอย่าง ตั้งแต่หน้าบันที่เป็นพระมาริอัมมันนั่ง

บนหงษ์ แถมท่านมีเขี้ยวด้วย แล้วก็พระศิวะกับพระอุมานาฏราชในรูปนั่นแหละหยิบมือถือขึ้นมาจะถ่าย

โดนโวยซะงั้น แล้วก็พระแม่ดุรไกด้านข้างก็ขลังดี รวมทั้งเสาพระพิฆคเฌศกับพระมุรุกันก็งาม และที่

ผมชอบก้อกรอบเสาประตูที่เป็นดวงตะเกียงแบบในรูปนี่แหละ.....โดยรวมนะ วัดแขกบ้านเรากินขาด

วัดนี้ประตูเป็นสแตนเลส  แถมมีเวลาเบรควัดปิดก็ปิดประตูไม่ให้คนเข้าไปไหว้ ไ ม่ง้อด้วย 

ปล. ดอกไม้ค่อนข้างแพง ดอกบานบุรี1ดอกประมาณ 10 บาทได้ พวงมาลัยพวงละพันได้

ขอบคุณที่เก็บภาพมาฝากครับ
#24
อัพเดต วันนี้ทุกร้านในพาหุรัดไม่มีขาย กุลดิปก็ไม่มีคับ
มีแต่น้ำมันใส่ผม อัมรา เห้อคนละเรื่องเลยป้า
#25
ตอนนี้เป็นตาอักเสบข้างนึง หมอไม่ยอมผ่าให้อ่ะให้กินยาก่อน  อยากรู้ว่านี่มันมนต์อะไรเนี่ยไม่เอาด้วยแล้ว....ฮือๆๆๆ 
#26
จะขี่เสือหรือสิงโต ก็คือ Durga หรือ ทุรคา หมายถึง เข้าถึงได้ยากลำบาก ( เข้าถึงยากสิ ก็มีทั้งเสือทั้งสิงโตคอยจ้องจะกินอยู่นี 555)

ทางใต้นิยมให้ท่านขี่สิงโต  ส่วนทางเหนือมีวัดนึงอยู่บนเขาเล่าว่ามีคนเห็น พระแม่ขี่เสือเข้าไปในถ้ำแล้วเลื่อน

แผ่นหินมาปิดปากถ้ำไว้ ชื่อวัดVaishno Devi ถือว่าเป็นวัดที่ศักสิทธิ์มากิกวันนึง มีเทวรูปศักติทั้ง 3 พระองค์

เป็นเหมือนก้อนหินอ่ะ....  จะบูชาต้องเดิน

ขึ้นเขาร้องเพลงกันไป ใครมีสะตังก็เหมา ฮ.บินขึ้นไป   ผมเองได้ของฝากจากเพื่อนเป็นน้ำมนต์1แกลลอนเล็ก

สกรีนรูปพระแม่องค์นี้สีแดงมาซื้อมาจากวัดนี้  ถือว่าเป็นของฝากที่ ถูกใจเก๋ไก๋ทีเดียวเอาไว้ทำพิธีสำคัญ

คนอินเดีย ยกย่องให้พระแม่ทุรคาเป็นเทวีประจำประเทศอินเดีย คอยคุ้มครองประเทศให้ร่มเย็นนะครับ

ปล.เมืองที่คนโดนเสือกินมากๆนี่ใช่เบงกอล รึป่าวเอ่ย....เดาเอา

#27
และแล้ววันนี้ก็มาถึง วันนี้ผมคงจะยุ่งทั้งวัน ก็เป็นวันที่สำคัญที่สุดของพระ

แม่ที่ผมรักที่สุด

ครับ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันนี้ ใครยังเป็นโสดก็ขอให้หาสามีได้ไวๆ

อิๆ

ขอพระแม่ประทานพรทีเถิด...
#28
สวัสดีวันมีนัคชีกัลยานัม  คุณศรีรังกานายากีคับ....เห็นชื่อล็อคอินแล้วต้องเข้ามาดูแหละครับ ในอินเดียคงไม่มีวัดไหนใหญ่สู้วัดนี้ได้แล้วแหละ

โอกาสหน้า จะมาขอความรู้ที่คุณได้ศึกษา ได้อ่านมานะครับ  ที่สำคัญพระแม่ที่ผมรักที่สุดก็ คือ เทวีมีนัคชีนี่แหละ อิอิ...
#29
ขอบคุณคุณศรีมหามารตีที่แวะมาตอบ  จะลองแวะไปดูหายากมากช่วงนี้ ถึงได้เข้ามาถาม

เริ่มเบื่อ  Hem กำมะหยี่ กลิ่นจันทน์กับกุหลาบและ  คิดถึงรัตนมาลามากเคยใช้สมัย10ปีก่อนที่เริ่มบูชาเทพ  หอมแรงดี ไม่ปวดหัวเหมือนพวก ปากีซ่า

โมก แบบนั้น.....
#30
สวัสดีครับพี่น้อง....ถ้าเป็นผมจะวางพระพิฆคเณศสูงกว่า พ่อแก่ เพราพว่าพ่อ ฤาษี แก่เป็นศิษย์ของพระเป็นเจ้าอีกทีนึง

และจะไม่ถวายของคาวเด็ดขาด.....
#32
ขอบใจน้องเสือมากที่เป็นห่วง  มานึกขึ้นได้วันนี้พี่ต้องกินมังวันศุกร์  แต่ก่อนจะนอนประมาณ 10

โมงเช้า รู้สึกหิวๆจนนอนไม่หลับ เลยเดินไปหยิบมาม่า รสหมูน้ำตกมากินเข้า เพราะเพื่อนที่เคย

ทำวิจัยบอกว่า มาม่ามันใส่แต่กลิ่น ไม่มีหมูจริง หลังจากกินหมดแล้ว พลิกซองดูปรากฎว่า มัน

ใส่ผงหมูมาด้วยนิดนึง

เศร้า.....ไม่คิดจะกินมาม่ามาเป็นชาติ จะมากินเอาอีวันที่กินมัง 
#33
ตอบโดยยึดพิธีไหว้ครูของครูที่ผมนับถือ  เป็นหลักนะครับ  อาจต่างจากคนอื่นไปบ้างจัดแยก 2 พิธี แขก1วัน  ไทย1วัน


จัดแบบอินเดีย - ไม่ใช้บายศรี เน้นที่แจกันดอกไม้ พวงมาลัย ผลไม้ ต้นกล้วย ต้นอ้อย กองกูณฐ์ไฟของเผา  ผงศักสิทธิ์ หม้อกลัศ


จัดแบบไทย -  จะโฟกัสของถวายอยู่ที่ศาลเพียงตาทำ 3 ชั้น

ชั้นสูงสุด-เป็นหัวโขนแบบไทย ศิวะ พรหม นารายณ์ ชั้นนั้นตั้งบายศรีพรหมคู่ดอกบัวเยอะๆ

ชั้นที่2 ตั้งเศียรบรมครูพิฆคเณศ มุนี(พ่อแก่) พระพิราพ  ตั้งบายศรีเทพ 1 คู่

ชั้นล่างสุด- วางเครื่องเซ่น ไม่มีเนื้อสัตว์  วางบายศรีปากชาม 2 คู่

พื้นบริเวณขาโต๊ะวางบายศรีตอ 1 คู่

บริเวณหน้าบ้านตั้งเครื่องคาว เป็ด ไก่ ปลา หัว หมู เหล้า ไข่ต้ม เป็นต้น  ตั้งบายศรีปากชาม 2 คู่ ถวายเทวดาประจำทิศ

ยักษ์ อสูร บริวาร ขององค์เทพ  เทวดาชั้นล่าง เจ้าที่เจ้าทาง

สำคัญที่สุดคือบายศรีหลัก สูง16 ชั้น มีความสูงประมาณ 2 เมตรกว่า ตั้งใกล้ศาลเพียงตา เพื่อจะได้ทำการเบิกบายศรี จุดธูป เทียนปักทุกชั้น

โยงสายสิญจน์ จากปะรำพิธีผ่านบายศรีหลัก จนถึงเทวรูปประธาน

คร่าวๆนะ ใครจัดแตกต่างออกไปก็บอกกันบ้างนะครับ เป็นความรู้...
#34
ใช่บทที่สวดรับคำลงท้ายว่า ...โปห์ตรี รึเปล่า ถ้าใช่ผมใช้เปิด ซีดีเอาเพราะดี 

ปล. ไม่ได้ช่วย จขกทเลย
#35
ขี้เกียจเดินเข้าๆออกๆ หลายร้านอ่ะครับ มีใครเห็นบ้างเป็นหลอด สีม่วงๆรูปเพชร พลอยต่างๆคับ
#36
เรียนน้องโอมมหาบารมี....พี่จะขอยุติการแกะมนตราบทนี้ไว้ก่อน เนื่องจากไข้ขึ้นและปวดหัวมาก

#37
ผมว่าการเจิมเทวรูปเองนั้น คนที่บูชาสามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นพราหมณ์หรอก เพียงแต่วันที่คุณจะเจิมเทวรูป ก็ควรงดเว้นเนื้อสัตว์มาก่อน

จุดธูปบอกกล่าวท่าน ปั้นผงจันดาราแปะ แล้วตามด้วยผงกุมสีแดงลงไป แล้วค่อยอารตี สวด...ในต่างประเทศเอง อินเดีย มาเล สิงคโปร์ ก็เห็นตามบ้าน

ร้านขายของ เจ้าของร้านเค้าก็จะเช็ดผงเจิมเก่าออก แล้วเจิมผงจันดาราผสมขมิ้น ผงกุม ที่เทวรูปหรือรูปภาพ ทุกวัน แล้วอารตีขอพรให้ขายของดีในวัน

นั้นๆ  ถวายอาหารเครื่องดื่ม ดอกไม้อย่างดี ต้อนรับท่านทุกวันเชื้อเชิญ ท่านมารับบูชาแล้ว ให้พรมงคล มีความสบายใจไปตลอดทั้งวัน

ไม่จำเป็นต้องยกไปให้พราหมณ์ทำให้หรอก ส่วนใหญ่พราหมณ์เค้าไม่ทำให้ถ้าไม่เช่าจากวัดเค้า  และเราคงไม่สามารถเชิญพราหมณ์มาเจิมให้

ที่บ้านได้บ่อยๆ...


ปล.ในความคิดของผมนะใครอยากเจิม อยากแต่งส่าหรี อยากระบายสีเทวรูปโลหะ อยากใส่วิกให้พระ เชิญทำได้เลยเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าให้ผิดเท

วลักษณะของเทพแต่ละองค์ที่เค้ายึดกันมาหลายพันปี อย่ามาบอกว่าองค์มาบอกกับฉันอย่างนั้นอย่างนี้ พระแม่กาลีบอกว่าให้ทาสีเป็นสีชมพู  ถือหม้อ

โปรยเหรียญ ขี่มังกร  อันนั้นก็เกินไปหน่อย..... จะเป็นบ้าเอาได้นะ อิอิ

#38
น้องเสือ....กว่าจะถึงงานก็ตั้งเดือนตุลาโน่น ถ้ายังไงจะแวะมาดูก็ได้

แต่ถ้าจะมาสิง...อันนี้น่ากลัวนะ  อิอิ.ไม่ใช่โต๊ะของพี่หรอกเป็นของครูบา

อาจารย์มากกว่าค้าบ... แบกหามเนื้อยเหนื่อย ไม่มีเวลาเม้าท์กันมากหรอก

อยากจะเดินไปดูโต๊ะอื่น ยังไปไม่ได้เรยอ่า...


#39
พิธีนี้ยึดเอาตามวัดมีนัคชี-สุทเรศวรา ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของพระแม่มีนัคชี อยู่ที่เมืองมาดุไร

รัฐทมิฬนาดู เริ่มเช้า 09.15-10.10 จะมีการอันเชิญเทวรูปพระแม่ และพระสุนทเรศวร(พระศิวะ)

จากทั้ง2วัด ประกอบพิธี มีนัคชีกัลยานัมหรือธิรุกกัลยานัม อยู่ในช่วงของเทศกาลจิธิรัยทั้ง3วัน

โดยจะประดิษฐานเทวรูปทั้ง2 องค์จะยืนอยู่คู่กัน เสมือนท่านป็น มนุษย์จริงๆ โดยมีพราหมณ์ทำพิธี

สวดบูชาไฟ สวมสร้อยมงคลสูตร ถวายมาลัย ของมงคลต่างๆ และเลี้ยงอาหารแก่ผู้มาร่วม

งาน  พิธีนี้จัดยิ่งใหญ่มาก เนื่องจากความเชื่อว่าพระแม่เป็นกษัตรีที่ยิ่งใหญ่และมีพระองค์อยู่จริง

ในวันรุ่งขึ้นจะมีพิธีแห่ราชรถ  คือเชิญขบวนรถม้าของพระแม่ออกแห่รอบเมืองมาดูไร ซึ่งขบวนรถ

นั้นงดงามสูงใหญ่อลังการมากครับ .....ลองเสริชดูกันนะครับ Chithirai Festival

ปล.ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาล พราหมณ์จะจัดพิธีแต่งงานนี้ตอนเย็นของวันศุกร์ครับ
#40
เข้ามา PR และดันกระทู้นี้หน่อยคับ 

Meenakshi Kalyanam ปีนี้ตรงกับวันที่ 25 เมษายน 2553 คับ