Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - พิษประจิม

#81
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on May 02, 2010, 21:29:45
รู้จักแต่มนต์ลาเครื่องสังเวยของศาสนาฮินดูครับ ยกเครื่องสังเวยต่างๆ ถาดผลไม้ ขนม น้ำ นม ฯลฯ ขึ้นจรดหน้าผากหรือเหนือศีรษะแล้วกล่าวว่าโอม ปราสดัม ศิรสา กฤนาม แต่ของพ่อแก่ไม่รู้


ผมว่าเป็น ปรสาดัม มากกว่านะคับ
จริงๆสะกดว่า ปฺรสาท หรือ ปฺรสาทมฺ-prasadam

เป็นคำเรียกอาหารที่ถวายเทพ
#82
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

โยเกิร์ต คือ นมเปรี้ยว
แต่คนไทยใช้ในความหมายกว้างออก ว่าหมายถึงนมเปรี้ยวข้นๆที่ใช้ช้อนตัก

...

คํ สันสกฤตออกเสียงว่า คัม
แต่ คัง คือการออกเสียงภาษาบาลีครับ
#83
ไม่ดอกจำปา ก็ดอกจำปี

ต้องเห็นตอนเขาเด็ดจากต้นครับ^^
#84
ทราบว่าพระกัลกี ถือดาบเป็นอาวุธ
#85
ขอบคุณมากครับ

เนื้อเรื่องเริ่มคุ้นๆแล้ว ชื่อเดิมแกชื่อ"รัตนากร"ใช่ป่าว ผมคุ้นๆตรงที่สวดนามพระนามจนจอมปลวกขึ้นนี่แหละ
#88
เห็นที่โบสถ์เทพมณเฑียร ฝาผนัง มีรูปฤๅษีวาลมิกี

บอกว่าแต่ก่อนท่านเป็นโจรป่า ภายหลังได้ฟังธรรมจากฤๅษี7ตน

ประวัติตรงนี้ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน และไม่ค่อยกล่าวถึง
ท่านเคยเป็นโจรจิงป่าวคับ

ขอบคุณครับ
#89
แล้วรู้ได้อย่างไรว่าตัดต่อแค่ฉากหลัง?

แล้วผ้าที่นุ่ง ที่ห้อยลงมา โธตีไม่ได้ห้อยมากมายแบบนั้น

และหน้าเขียวๆตรงกลาง ทำไมต้องหันแบบนั้น?
#90
ลายน้ำนั้น มะใช่ชื่อพระแม่หรอก
แต่เป็นชื่อคนทำมากกว่า

...

และพระแม่องค์นี้ คือ พระแม่โฟโต้ช็อปเทวี
ใช้โฟโต้ช็อปทำ การวางตำแหน่งมือ ส่าหรี ดูผิดรูปอะครับ
#92
พระแม่นาคเทวีที่ว่า องค์นี้ป่าวคับ

องค์นี้คือพระแม่นาคกันยา

ชาวพุทธเชื่อว่านางคือสาวกเจ้าแม่กวนอิม ภาาาจีนเรียก หลงหนี่ว์ คือ ธิดามังกร-龍女
#93
พระแม่ราชราเชศวรี นั่งห้อยขา
พระแม่กามากษี นั่งขัดสมาธิ

...

พระแม่มนสา ชาวเบงกอลนับถือมาก
ส่วนพระแม่มนสาของพี่กิฟ เป็นงานของทางเนปาล ทิเบต

#94
น้องเขาตอบผิดกระทู้ไง
#95
ต้นศมี คือ ต้นไมยราพณ์

ในมหาภารตะ ตอน"วิราฏบรรพ์"
ผัวเมียทั้ง6(ผัว5เมีย1)ถูกเนรเทศ13ปี ให้ไปใช้ชีวิตแบบนักบวชหรือ"วนวาสี"เป็นเวลา12ปี
ในปีที่13จะไปไหนก็ช่าง แต่เงื่อนไขคือปีที่13ห้ามมีใครจำหน้าได้(เทพประทานพรให้คนจำไม่ได้)
แล้วทั้ง5คนและอีก1นาง ไปแคว้นมัตสยะ เข้าเฝ้าท้าววิราฏ ท่านเลยหางานให้ทำในวัง เป็นคนสอนเล่นสกา พ่อครัว ครูสอนเต้นรำ คนเลี้ยงสัตว์ ช่างเสริมสวย

ในมหาภารตะบอกว่าอรชุนนำอาวุธไป"แขวน"บนต้นศมีใกล้ตำหนัก

ถ้าต้นศมีคือต้นไมยราพณ์ แต่ต้นไมยราพณ์ใบมันเล็ก ใครเดินผ่านไปผ่านมา น่าจะเห็นอาวุธที่อรชุนแขวนไว้

แล้วอรชุนซ่อนเป็นเวลา1ปี แสดงว่าต้นมันต้องมีใบหนามากๆ พอที่จะไม่มีใครเห็นและสังเกตเห็นอาวุธ

เพราะในวันทุดท้ายของปี เกิดสงคราม พวกเการพยกทัพมาบุกแคว้นมัตสยะ อรชุนเลยเอาอาวุธลงมาจากต้นศมี

...

น่าแปลกว่า 1ปี อาวุธไม่หายไปไหน

แสดงว่าต้นศมี อาจไม่ใช่ไมยราพณ์

เพราะอาวุธซ่อนไว้บนต้นไม้ได้นานถึง1ปี แสดงว่าต้นไม้ต้องใหญ่ ใบหนา สามารถปกปิดสิ่งของที่อรชุน"ซ่อน"บนต้นไม้
#96


8กรส่วนใหญ่ เป็นปางนั่งครับ
#97
ช้างเอราวัณ หรือ ไอราวัต
ไอราวัต เปนลูกของนางอิราวตี นางอิราวตีเป็นลูกสาวนางกัทรุและเป็นหลานของฤๅษีกัศยปะ ไอราวัตเป็นเหลนของฤๅษีกัศยปะ
ไอราวัต แปลว่า เกิดจาก อิราวตี

แล้วปรากฎเรื่องครั้งแรกในเรื่องกวนเกษียรสมุทร ฤๅษีทุรวาสเอาพวงมาลัยถวายพระอินทร์ แต่พระอินทร์ไม่รู้กาลเทศะ เอาพวงมาลัยไปวางบนหัวช้าง แล้วช้างมันฉุน กลิ่นดอกไม้ทำให้ช้างอาละวาด ฤๅษีทุรวาสท่านโกรธมากเลยสาปให้ต่อไปเทวดารบแพ้อสูร

และภายหลังปรึกษากับมหาเทพ และทำพิธีกวนเกษียรสมุทร

ในจำนวนของวิเศษที่เกิดจากการกวน หนึ่งในนั้นมี"ช้างไอราวัต"

ทำให้สงสัยว่าพระอินทร์ท่านมีช้างไอราวัตกี่เชือกกันแน่

ขอบคุณครับ
#99
การที่พระศิวะนอนรองรับพระบาทพระแม่กาลี
สอนเรื่อง"ความเสียสละ"

และการเสียสละครั้งใหญ่ๆ เช่นตอนกวนเกษียรสมุทร พญานาควาสุกีปล่อยพิษจำนวนมาก พิษทำลายไม่ได้ แล้วพิษรุนแรงสามารถทำลายโลก พระศิวะท่านอาสาดื่มพิษนั้น จนคอท่านเป็นสีน้ำเงิน

และตอนท้าวภคีรถบำเพ็ญเพื่อเชิญแม่น้ำคงคาไหลลงมาบนโลก แต่แม่น้ำนั้นแรงพาทำให้โลกแตก พระศิวะท่านอาสายืนรองรับแม่น้ำจากสวรรค์เพื่อไม่ให้โลกแตก

และตอนพระแม่กาลีปราบอสูร แล้วท่านดีใจมากๆ เต้นรำไปมาจนสามโลกสะเทือน ไม่มีเทพองคืไหนกำราบได้ เทพเลยพาไปเฝ้าพระศิวะ พระศิวะเลยอาสานอนรองรับพระบาทพระแม่ เพื่อไม่ให้โลกแตก
#100
ถ้าไม่เจิมก็ไม่มีปัญหาอะไร
คนฮินดูในบาหลีก็ไม่เจิมเทวรูปเท่าไรนัก
#101
เจิมได้ครับ

ถ้าไม่เจิมก็ไม่มีปัญหาอะไร
คนฮินดูในบาหลีก็ไม่เจิมเทวรูปเท่าไรนัก
#102
นวราตรี วิชัยทศมี ศิวราตรี กฤษณชยันตี ฯลฯ จัดขึ้นเพื่อเอาใจชาวฮินดูกลุ่มอื่นที่มาเยี่ยมชม

เพราะถนนสีลม ไม่ได้มีชาวอินเดียเชื้อสายทมิฬกลุ่มเดียว เพราะคนอินเดียที่อาศัยในไทยนับถือองค์อื่นก็มี เช่น พระกฤษณะ พระวิษณุ พระศิวะ พระแม่ทุรคา พระแม่กาลี ฯลฯ

วัดมารีอัมมันในอินเดีย ก็ไม่จัดงานนวราตรี เพราะงานนวราตรีไม่ใช่งานบูชาพระแม่มารีอัมมัน

และวัดมารีอัมมัน ไม่มีพิธีศิวราตรี กฤษณชยันตี เพราะเป็นวัดคนละนิกายคนละความเชื่อ

...

ที่วัดนี้มีเทศกาลเยอะแยะ ก็แค่จัดเอาใจคนบางกลุ่ม อย่างน้อยทำให้วัดมีรายได้มาบำรุงวัด
#103
Quote from: สิรวีย์ on April 19, 2010, 14:13:44
เทวรูปพระนางปารวตีหรือพระอุมาเทวีค่ะ เป็ฯรูปแบบเดียวกับที่ปัจจุบัน เราเรียกกันว่า องค์แทน
หากเทวรูปองค์นี้ประดิษฐานเคียงข้างพระนารายณ์ก็จะหมายถึง พระลักษมี หากประดิษฐานเคียงข้างพระพรหมก็จะหมายถึงพระสรัสวดี (ซึ่งในสมัยสุโขทัยยังไม่รู้จักพระองค์)
แม้เทวรูปเหล่านี้จะมีลักษณะโดยรวมคล้ายกัน แต่ก็มีความต่างด้วยลายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เป็นต้นว่า รูปแบบของพระภูษาทรง ลวดลายในกรองศอ มงกุฎ พาหุรัด หรือแม้แต่รูปแบบของกุณฑล ซึ่งนักวิชาการศิลปะนำโดยหม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล ทรงศึกษาและใช้ลวดลายกำหนดรุ่นอายุ

ลายละเอียดของเทวรูปพระเทวีองค์นี้ คล้ายกับเทวรูปพระอิศวรองคืหนึ่ง จึงอาจสร้างคู่กัน ท่านจึงจัดให้เป็นพระนางปารวตีหรือพระอุมาเทวี



ถ้าเอากระเป๋าหลุยแขวน จะดูไฮโซมากเลยนะครับ
#104
เขาเรียกว่า มนัสบุตร คือ บุตรที่เกิดจากความคิด
#105
เริดหรูอลังการมากครับ
#107
ตอบตามความเห็นส่วนตัว

ถ้าผมกินขนมอินเดียบ่อยๆ มีงานอะไรก็ขนมอินเดีย ผมคงเบื่อหน่ะครับ

เหมือนที่ท่านบนบอก อย่ายึดติดเรื่องชื่อขนม
เพราะขนมอะไรที่เป็นมังสวิรัติ สามารถถวายได้หมด
#109
เทศกาลนี้มาจากจีน

เรื่องของเรื่อง คือสาวทอผ้าซึ่งเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ไปหลงรักหนุ่มเลี้ยงวัวบนโลก และภายหลังเด็กเลี้ยงวัวกลายเป็นดาว ไปมาหาสู่กัน จนเจ้าแม่สวรรค์ทราบเรื่อง เอาปิ่นปักผมขีดเป็นทางยาวๆกั้นระหว่างสวรรค์ แล้วกลายเป็นแม่น้ำเชี่ยวกราก ทั้ง2คนเลยได้แค่พบหน้ากัน

แล้วคู่นี้รักกันมาก มีนกสวรรค์จำนวนนึงก่อตัวเป็นสะพานให้2คนไปหาด้วยความรัก

เทศกาลนี้ถึงมีการพับนกจำนวนมาก เพื่อให้คนรัก2คนได้พบกัน

ตำนานเรื่องนี้ภาษาจีนเรียกว่า 牛郎織女

#110
[HIGHLIGHT=#f79646]13. บูชาด้วยใบเทวมารุ [/HIGHLIGHT]ชื่อทางพฤกษาศาสตร์ว่า (Cedrus Deodora) ใบเล็กกลมมีกลิ่นหอมป้องกันยุงและแมลงได้ดี มีคำกล่าวบูชาว่า "สรเวศวราย นมะ เทวทารุปตรํ ปูชยามิ"

จริงๆเขาเรียกว่า เทวทารุ คนไทยเรียกว่า เทพธาโร หรือ เทพทาโร
#111
http://en.wikipedia.org/wiki/Aum
ੴ-โอม ในอักษรกุรุมุขี(แคว้นปัญจาบ)



ഓം- โอม ในอักษรมาลายาลัม

ఓం- โอม ในอักษรเตลุกุ และอักษรกันนะทะ
ༀ-โอม ในอักษรทิเบต
ওঁ-โอม ในอักษรโอริยะ อัสสมียะและอักษรเบงคลี
#112
ใช่ครับ

ของพระโพธิสัตว์เมตไตรย
#113
งามมาก

...

เที่ยงคืน ตี1 ไม่นอนหรอไงคร้าบบ หุหุ
#114
เพราะในพุทธประวัติ ปรากฎแค่ตอนนางผุดขึ้นจากดินและเป็นพยานให้พระพุทธเจ้า นางบีบน้ำจากมวยเพื่อเป็นหลักฐานการบำเพ็ญทานบารมีของพระพุทธเจ้าในชาติก่อน

น้ำที่หลั่งมากพอที่พัดพญามารไปได้
#115
ผมมะได้ทำงานที่นี่ครับ

แต่บางทีมีภารกิจแวะไปติดต่องานที่นี่ด้วยครับ

...

ไม่ต้องห่วง ได้ชมแน่ๆครับ
อดใจรอ

บอกก่อนว่าไม่สวยมาก ศาลไม่ได้ใหญ่เท่าศาลพระพรหมที่วัดแขก
ขนาดเท่าศาลพระพรหมธรรมดา เพียงแต่เป็นลายปูนปั้นแบบอินเดียใต้เท่านั้น
#117
นอกเรื่องนิดนึง

เรียนรด.ที่วิภาวดีป่าว คุ้นๆเหมือนเคยเจอ
#118

พระแม่ธรณี แบบไม่บีบมวยผม

แต่ในพระไตรปิฎกไม่ได้เรียกชื่อ"ธรณี"นิครับ
#119
คือว่าชื่อกระทู้ ผมเข้าใจว่าจขกท.ต้องการใส่แบบพราหมณ์
#120
Quote from: narada on March 05, 2010, 01:42:30
Quote from: แต่ก็มิได้นำพา on March 04, 2010, 06:44:39
แหมมมม
มะสายหรอก
ปกติผมอื่นตี5ครึ่งออกมาวิ่งแทบทุกวันก่อนทำงาน

55555+


จะวิ่งไปไหน เนี่ย แทบทุกวัน แทนที่จะวิ่งทุกวัน เฮ้อ คนเรา
วิ่งทุกวัน คือวิ่งตอน4โมงเย็น-5โมงเย็น

ส่วนวิ่งรอบตี5 วิ่งแค่บางวันเท่านั้นครับ

...


พระวิษณุ ทรงครุฑ


พระไภรพ ทรงสุนัข


พระกามเทพ ทรงนกแก้ว


พระแม่กาลราตรี หรือ ไภรวี ทรงลา



พระแม่เมลฑี


พระแม่โขฑิยาระ
http://en.wikipedia.org/wiki/Khodiyar


พระแม่โมมายะ