Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - ศรีเคารีปุตรายะ

#281
พอดีผมเห็นองค์ท่านแล้วอยากนำมาให้คนอื่นได้ชมบารมีท่านบ้าง เลยนำมาให้ดูกันคับ เป็นพระคเณศองค์แรกในชีวิตผมเลยคับ











บูชาตั้งกะผมอยู่ป.5 จนถึงบัดนี้ก็ประมาณ 8 ปีแล้วคับ
#282
พระแม่ศักติ หรือชื่อเต็มๆว่า พระแม่ศักติศิวา มีที่มาจากตำนานหลายๆตำนานว่า 

              เมื่อครั้งปฐมกัลป์ ในเวลานั้นมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดเลย ทุกหนแห่งอยู่ในความมืดมนอนธกาล พลันท่ามกลางความเงียบสงัดนั้นก็บังเกิดเสียงหนึ่งขึ้น เสียงนั้นเปล่งเป็นคำว่า โอม ดังก้องไปทั่ว และก็บังเกิดเป็นเทพองค์หนึ่ง แต่งกายเป็นฤาษี มี 5 พักตร์ 10 กร นามว่า พระสดาศิวะ และในเวลานั้นเอง พระสดาศิวะก็ทรงเปล่งถ้อยคำว่า ตรีภูอัมภวะ ภูชัม ก็บังเกิดพระแม่ศักติศิวาขึ้นจากกลางพระหทัยของพระสดาศิวะ และปรากฏเป็นพระเทวี มี 8 กร ทรงสิงโตเป็นพาหนะ ทั้งสองพระองค์ต่างสนทนากัน และก็เริ่มวางแผนสร้างสรรค์จักรวาลในเวลาต่อมา

              *ที่มาจากคัมภีร์ ศิวะมหาปุราณะ

รูปลักษณ์ของพระสดาศิวะ





รูปลักษณ์ของพระแม่ศักติศิวา










หวังว่าเจ้าของกระทู้คงจะทราบและเข้าใจถึงที่มาของพระแม่ศักติศิวาแล้วนะคับ 

ขอพระพรแห่งพระสดาศิวะและพระแม่ศํกติศิวาจงสถิตกับสานุศิษย์ของพระองค์ตลอดไป

โอม นมัช ศิวายฺ

โอม อริม ฮีม กลีม จามุณฑายฺ วิชเจย์ นะมะ
#283
งดงามมากคับพี่เสือน้อย 

บารมีพระนารายณ์เปล่งประกายมากเลยเวลาที่ผมดูรูปของพระองค์ผ่านฝีมือการวาดของพี่

สุดยอดจริงๆ

ขอพระนารายณ์โปรดประทานพรให้พี่เสือน้อย มีแต่ความสุขมากๆนะคับ

โอม นะโม ภควเต วาสุเทวายะ
#284
ตามที่คุณ mandm ขอรูปพระแม่ปารวตีทรงสิงโตกับผมนั้น ผมได้รับข้อความแล้วคับ ลองดูนะคับว่าจะถูกใจคนที่ขอมาหรือป่าว





















รูปสุดท้ายนี้ ผมวาดลงสีเองคับ เป็นสีไม้ สวยไม่สวยก็ช่วยๆกันติชมด้วยนะคับ  ขอให้พระพรของพระแม่ปารวตีจงมีแด่ผู้เข้ามาชมทุกท่านคับ

โอม ศรี เคารีศักติ ปารวตี มาตา นะมะ
#285
งามจังเลยคับผม

ขอบคุณนะคับสำหรับคำชม

ไงจะหามาลงให้ดูกันอีกคับ
#286
ภาพนี้เป็นภาพที่ พระวิษณุช่วย คเชนทรา(ช้าง) ซึ่งมีตำนานมาจาก ภาควัตปุราณะ คับ เรื่องมีอยู่ว่า
       
         คเชนทราเชือกนี้แต่เดิมเคยเป็นกษัตริย์มาก่อน นามว่า อินทรยุมนา แต่เบื่อหน่ายทางโลก เลยสละราชสมบัติมาบำเพ็ญเพียรบูชาพระวิษณุอยู่ในป่า อยู่มาวันหนึ่ง มีฤาษีตนหนึ่งเดินทางมาถึงอาศรมของอินทรายุมนา แต่ในตอนนั้นอินทรายุมนากำลังเข้าสมาธิ เลยไม่รู้ ว่าฤาษีมาหา เลยทำให้ฤาษีเข้าใจผิดคิดว่าไม่สนใจใยดีตน เลยสาปให้อินทรายุมนากลายเป็นช้างไป อินทรยุมนาต้องร่อนเร่อยู่ในป่าเรื่อยมาจนกระทั่งวันหนึ่ง กำลังจะข้ามแม่น้ำ เมื่อเดินไปถึงกลางน้ำ ก็โดนจระเข้ตัวหนึ่งกัดที่ขาหมายจะลากลงไปเป็นอาหาร อินทรายุมนาในร่างช้างเห็นว่าตนคงจะไม่รอด จึงขอพึ่งพระบารมีของพระวิษณุ ทันใดนั้นพระวิษณุก็ปรากฏพระองค์บนหลังพญาครุฑ แล้วใช้สุทรรศนจักรของพระองค์ตัดคอจระเข้ตัวนั้นจนตาย และอำนวยพรให้อินทรยุมนาพ้นคำสาปกลายเป็นบริวารไปอาศัย ณ ยังวิมาณของพระองค์สืบไป

ผิดถูกอย่างไรก็ช่วยติชมด้วยนะคับ  หวังว่าเจ้าของกระทู้คงพอใจนะคับ

โอม นะโม ภควเต วาสุเทวะ นะมะ
#287
มารับพรเช่นกันคับ

ขอให้พรของพระแม่กลับไปสู่เจ้าของกระทู้นะคับ

เจ มหา ภควตี ลักษมี มาตา นะมะ
#288
อ่อ ที่ผมขอนั่นคือ หนังสือ เทวีภาควัตปุราณะคับ จะกล่าวถึงพระเทวีปางต่างๆทั้งหมดอ่ะคับ นิกายศํกติน่าจะยึดปุราณะนี้เป็นหลักคับ
#289
ขอบพระคุณพี่อักษรชนนีอย่างสูงคับผม
#290
ผมหาหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ซักที เป็นหนังสือเกี่ยวกับเทวีของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู รบกวนพี่ๆน้องๆที่พอจะหาเจอช่วยลงให้ทีคับ ขอบพระคุณอย่างสูงคับ
#291
อยากได้รูปพระศิวะที่เป็นปางเสาไฟใหญ่ ตอนที่พระพรหมแปลงเป็นหงส์และพระวิษณุแปลงเป็นหมู่ป่าประลองฤทธิ์กันว่าใครเป็นพระผู้สร้าง อ่ะคับ  รบกวนช่วยลงให้ทีคับ ขอบพระคุณมากคับผม
#292
ศุภวารดิถีวันดีปาวลีมาถึง ผมก็เลยจัดหิ้งบูชาพระแม่ลักษมีใหม่ดูอ่ะคับ ไม่รู้เป็นไงบ้าง ถ้าไงพี่ๆน้องๆช่วยแนะนำด้วยนะคับ






พระนารายณ์ พระแม่ลักษมีคับ องค์ประธานบนหิ้งนี้คับ ด้านหลังจะมีรูปพระแม่ลักษมีคับ รูปนี้ผมบูชามาได้12ปีกว่าๆแล้วคับ






พระแม่สุรัสวดีคับ งามจริงๆเลย



พระแม่ลักษมี พระคเณศปางมยุเรศวรคับ


หม้อกลัศคับผม



หิ้งโดยรวมคับผม








ผมยังแต่งไม่ค่อยเก่งอ่ะคับ แต่ได้แค่นี้เอง ไงก็ช่วยติชมแนะนำกันด้วยนะคับ

สุขสันต์วันดีปาวลีคับผม  พระแม่ลักษมี จงเจริญ
#293
คับผม

ยินดีเช่นกันคับ

ไม่ว่าศาสนาใดก็เป็นเพื่อนกันได้คับ

อิอิ
#294
ยินดีที่ได้รู้จักนะคับ

ผมเอ เด็กใหม่เพิ่งมาไม่นานนี้เองคับ

มีอะไรปรึกษากันได้คับผม ยินดีคับ
#295
ผมงงอ่ะคับพี่ ผมอยากเปลี่ยนชื่อที่ใช้ในห้องเป็นภาษาไทย แต่เปลี่ยนไม่ได้อ่ะ 

ไม่รู้จะทำไงดี ไงพี่ๆช่วยชี้แนะผมทีคับ ขอบคุณล่วงหน้าคับผม
#296
ขอบคุณที่ติชมนะคับ

ยังไงก็จะเอาความรู้มาเผยแพร่แก่ผู้ที่ศรัทธาในพระเป็นเจ้าได้ทราบกันอีกนะคับ

ขอให้มีความสุขทุกคนคับผม
#297
ผมอยากได้รูปพระแม่ปารวตี พระแม่ลักษมี พระแม่สุรัสวดี แบบทั้งของทมิฬและก็แบบของอินเดียเหนือด้วยนะคับ

ช่วยลองให้ดูหน่อย ขอเยอะๆได้ก็ดีคับ ชอบคุณล่วงหน้าคับ
#299
ผมขอเล่าเรื่องสักเรื่องหนึ่งนะคับ

มหาสตรีสาวิตรี เทวีผู้นำสามีพ้นจากความตาย

             กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกษัตริย์พระองค์หนึ่ง นามว่า อัชวาปตี กับพระชายาคือ พระนางมัลลาวี ทั้งสองไม่มีโอรสธิดา จึงทรงทำพิธีบูชาพระแม่มาเตศวรี(กายาตรี) ขอพรให้มีบุตร ทั้งสองทำพิธีอยู่ถึง19ปีจึงสัมฤทธิ์ผล พระแม่มาเตศวรีทรงปรากฏและได้ให้คำมั่นว่า ทั้งสองจะให้กำเนิดพระธิดาที่ทรงสติปัญญา และกล้าหาญ รวมถึงจะทำให้ชื่อของธิดาองค์นี้ปรากฏอยู่ในโลกชั่วกาลนาน
         
          จากนั้นไม่นาน ทั้งสองก็ให้กำเนิดพระธิดาองค์หนึ่ง โดยเทวฤาษีนารัท มาตั้งนามให้ ชื่อว่า สาวิตรี เจ้าหญิงสาวิตรีได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากพระบิดาและพระมารดา จนวันหนึ่งมาถึง เมื่อเจ้าหญิงสาวิตรีมีอายุได้ 19ปี ราชาอัชวาปตีกับพระชายาทรงกังวลว่าจะหาคู่ครองให้พระธิดาได้ยังไรดี จึงไปปรึกษากับเทวฤาษีนารัท จึงตกลงกันว่า ให้เจ้าหญิงสาวิตรีไปหาคู่ครองด้วยตนเอง

          เมื่อเจ้าหญิงทราบความประสงค์ของพระบิดาและพระมารดาแล้ว ก็ทรงเสด็จไปหาคู่ครองตามแว่นแคว้นต่างๆ จนได้เจอกับชายคนหนึ่งนามว่า สัตยวาน เป็นโอรสของกษัตริย์เมืองหนึ่ง แต่โดนแย่งบัลลังก์ไป และบิดามารดาของสัตยวานทั้งสองก็ตาบอดด้วย เวลานั้นทั้งสามพ่อแม่ลูกอาศัยอยู่ในกระท่อมกลางป่า สาเหตุที่ได้เจอกันสัตยวานนั้นก็เนื่องมาจาก เจ้าหญิงสาวิตรี ทรงออกล่าสัตว์ แต่กลับโดนเสือโคร่งไล่หมายจะเอาชีวิต สัตยวานไปพบโดยบังเอิญ จึงช่วยเจ้าหญิงให้พ้นจากอันตราย และเหตุการณ์นี้เองทำให้เจ้าหญิงหลงรักสัตยวานอย่างจิงใจ เพราะเนื่องจากจะช่วยนางให้พ้นจากเสือแล้ว สัตยวานยังมีความเป็นสุภาพบุรุษ และมีธรรมะเป็นอย่างมากด้วยนั่นเอง  เจ้าหญิงสาวิตรีจึงทรงกลับไปกราบทูลพระบิดาและพระมารดาให้ทราบว่า จะทรงเข้าพิธีแต่งงานกับสัตยวาน

          เมื่อกษัตริย์อัชวาปตี และพระชายาทราบเรื่อง กลับไม่พอใจที่เจ้าหญิงสาวิตรีทรงเลือกคู่ครองที่ไม่มีอนาคต จะพาเจ้าหญิงไปตกระกำลำบากในพงไพร แต่เจ้าหญิงทรงตั้งพระทัยแน่วแน่แล้วว่า จะทรงแต่งงานกับสัตยวาน จึงทรงดื้อดึงไม่ยอมท่าเดียว จนเทวฤาษีนารัททรงมาช่วยพูด และพยากรณ์ว่า จากนี้ไปอีก 1 ปี สัตยวานจะถึงแต่ความตาย นั่นหมายความว่า สาวิตรีจะมีความสุขกับสัตยวานได้เพียงปีเดียวเท่านั้น แต่เจ้าหญิงสาวิตรีทรงมีพระทัยมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง จึงได้เข้าพิธีแต่งงานกับสัตยวาน ทั้งสองได้ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขในพงไพร ในระหว่างที่อยู่ด้วยกัน สาวิตรีได้ทำพิธีอาคานโซบาวตี(พิธีประกอบบุญอันยิ่งใหญ่) ตลอดทุกวัน มาจนกระทั่ง.........

          เหลือเวลาอีก 4 วัน ก็จะถึงวันที่สัตยวานต้องจากโลกนี้ไป สาวิตรีรู้เรื่องนี้ดี แต่ไม่รู้จะทำประการใดได้ จึงบูชาพระแม่มาเตศวรีให้ช่วยชี้แนะ พระแม่ทรงพอพระทัยและมาปรากฏ พระแม่ได้ทรงแนะนำว่า ให้สาวิตรีทำพิธีบูชากูณฑ์เป็นเวลาสามวัน ในสามวันนั้นต้องไม่ทานอะไรเลย หากทำได้สัตยวานจะสามารถกลับฟื้นคืนได้ สาวิตรีได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของพระแม่ทุกประการ จนถึงวันสุดท้ายของสัตยวาน ในเย็นวันนั้น ทุกๆวันสัตยวานจะต้องไปตัดฟืนในป่า แต่วันนี้มีแต่ลางร้าย สาวิตรีจึงขอตามสามีของนางไปด้วย จนกระทั่งกลางป่าในเวลาพลบค่ำ สัตยวานโดนงูกัดจนตาย สาวิตรีเห็นสามีตายไปต่อหน้าต่อตาก็เสียใจ นางเอาศีรษะของสัตยวานมาหนุนตักของนางไว้ เมื่อพระธรรมราช(ยม)จะมาเอาวิญญาณของสัตยวาน ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะนางมีอำนาจตบะจากการที่นางได้สั่งสมบุญไว้ตลอดเวลาที่อยู่กับสามีของนาง จึงไม่สามารถทำอะไรนางได้ พระธรรมราชจึงบันดาลให้สัตยวานรู้สึกตัวและกระหายน้ำ สาวิตรีหลงกลเลยไปหาน้ำมาให้ พระธรรมราชจึงเอาวิญญาณของสัตยวานไปได้

          พอสาวิตรีกลับมา เธอรู้ว่าโดนหลอกเสียแล้ว และนางเห็นพระธรรมราชกำลังนำดวงวิญญาณของสามีนางไป นางจึงอ้อนวอนด้วยถ้อยคำที่ไพเราะและมีความหมายสรรเสริญพระธรรมราช จนพระองค์พอใจ และให้นางขอพรได้ข้อหนึ่ง เว้นแต่อย่าขอชีวิตของสัตยวาน นางจึงขอให้บิดาของสัตยวานได้บัลลังก์คืน เมื่อพระธรรมราชจะทรงกลับยมโลก สาวิตรีก็ได้ตามพระธรรมราชและกล่าวสรรเสริญพระองค์ไปตลอดทาง จนพระธรรมราชพอพระทัย และให้พรนางอีกสามข้อ นางขอว่า ให้บิดามารดาของสัตยวานได้กลับมามีดวงตามองเห็นได้อีกครั้งหนึ่ง , ขอให้พระบิดามารดาของนางมีโอรส100คนเพื่อสืบสันตติวงศ์ และขอให้นางมีบุตร 100 คน พระธรรมราชก็ได้ให้พรตามนั้น แต่สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนต่อนาง เพราะพรข้อสุดท้ายจะเป็นผลไปไม่ได้ถ้านางไม่ได้สามีนางกลับคืนไป พระธรรมราชจึงให้สัตยวานฟื้นคืนชีวิตอีกครั้ง นางจึงกลับไปอยู่กับสัตยวานอย่างมีความสุขอีกครั้ง

          ด้วยเหตุนี้ ผู้คนทั่วไปจึงขนานนามให้นางว่า มหาสตรีสาวิตรี

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หวังว่าคงจะถูกใจคอนิทานภารตะทุกคนนะคับ

ขอให้พรพระคเณศจงอยู่กับทุกคนคับ

โอม ศรีคเณศายะ นะมะ

ไว้คราวหน้าจะหานิทานมาเล่าให้ฟังอีกคับ         
#301
พอดีผมไปเจอมาจากเว็บนึงคับ เลยเอามาฝากให้กับสาวกของพระแม่ลักษมีคับ เป็นพระนามทั้ง 108 พระนาม พร้อมความหมายของแต่ละพระนามด้วยคับ


มีพระนามและความหมายดังนี้

1.ปรากรุตี                      เทวีผู้เป็นธรรมชาติ
2.
วิกรุตี                        เทวีผู้งามดังรัตนชาติ

3.
วิทยา                       เทวีผู้ทรงภูมิปัญญา

4.
สรวาภูทาหิตาประดา          เทวีผู้ไม่ได้กำเนิดจากบิดามารดา

5.
ศรัทธา                     เทวีแห่งความภักดี

6.
วิภูติ                         เทวีแห่งความมั่งคั่ง

7.
สุรภี                         เทวีผู้เป็นท้องฟ้า

8.
ปรมัตมิกา                   เทวีผู้อยู่ในทุกหนทุกแห่ง

9.
วาจี                        เทวีผู้มีวาทะดังน้ำอมฤต                        

10.
ปัทมาลา                   เทวีผู้สถิตบนดอกบัว

11.
ปัทมา                     เทวีแห่งดอกบัว

12.
ศูชิ                         เทวีผู้บริสุทธิ์

13.
สวาหะ                     เทวีผู้มีรูปร่างอันเป็นมงคล

14.
สวาทา                             "

15.
สุตา                       เทวีผู้เป็นดังน้ำทิพย์

16.
ธัญญา                     เทวีแห่งความกตัญญู

17.
หิรัญมายี                  เทวีผู้บันดาลให้ปรากฏแห่งทอง

18.
ลักษมี                      เทวีแห่งความมั่งคั่ง

19.
นิตยาพูศตา                เทวีผู้ทรงกำลัง

20.
วิภา                       เทวีผู้งดงาม

21.
กัณฑา                     เทวีผู้เป็นชายาของพระวิษณุ

22.
กามัคชี                     เทวีผู้มีดวงตาอันงดงาม

23.
กมลาสัมภวา               เทวีผู้สถิตอยู่ในทุกอนูของดอกบัว

24.อนุกราประฑา               เทวีผู้ปรารถนาดีต่อปวงชน

25.
พุทธิ                      เทวีผู้ทรงปัญญา

26.
อนากา                     เทวีผู้ไร้มลทินทั้งปวง

27.
นวทุรกา                    เทวีผู้เป็นนวทุรกา (รูปศักติทั้งเก้า)

28.
หริวัลลาภี                   เทวีผู้เป็นชายาของพระหริ (วิษณุ)

29.
อโศกา                      เทวีผู้ไร้ซึ่งความโศกเศร้า

30.
อมฤตา                     เทวีผู้เป็นอมตะ

31.
ทีปา                       เทวีแห่งประทีป

32.
ลากาโศกาวินาสินี            เทวีผู้ทำลายความทุกข์โศก

33.
ธมานิลายา                 เทวีผู้เป็นนิรันดร์

34.
กรุณา                     เทวีผู้ทรงไว้ซึ่งความกรุณา

35.
โลกามาตรี                  เทวีแห่งจักรวาล

36.
ปัทมาปรียา                 เทวีผู้เป็นที่รักแห่งดอกบัวทั้งหลาย

37.
ปัทมาหัสตรา               เทวีผู้มีหัตถ์(มือ)เหมือนดอกบัว

38.
ปัทมาสยา                   เทวีผู้มีตางดงามเหมือนดอกบัว

39.
ปัทมาสุนทรี                เทวีผู้งดงามเหมือนดอกบัว

40.
ปัทโมภวา                   เทวีผู้เกิดจากดอกบัว

41.
ปัทมามุขี                  เทวีผู้ผุดขึ้นจากดอกบัวกลางพิธีเกษียรสมุทร

42.
ปัทมานาภาปรียา             เทวีผู้เป็นที่รักของ ปัทมานาภา(พระวิษณุ)

43.
รามา                      เทวีแห่งพระราม
44.
ปัทมามาลาธรา             เทวีผู้สวมมาลัยดอกบัว

45.
เทวี                        เทวีของปวงเทพ

46.
ปัทมินี                      เทวีแห่งดอกบัว

47.
ปัทมากันธินี                เทวีผู้มีกลิ่นกายหอมเหมือนดอกบัว

48.
ปัญญกัณฑา               เทวีผู้มีกลิ่นกายหอมของปัญญา

49.
สุปราสันนา                 เทวีผู้ร่าเริงและสดใสเสมอ

50.
ปราสดาภิมุขี               เทวีผู้ให้กำเนิดใหม่

51.
ประภา                     เทวีผู้มีรัศมีดังดวงอาทิตย์

52.
จันทราวทนา               เทวีผู้มีใบหน้ากลมงามดังดวงจันทร์

53.
จันทรา                     เทวีผู้งามดังดวงจันทร์

54.
จันทราสโฮดารี              เทวีผู้เป็นพี่สาวของพระจันทร์

55.
จตุรภุช                     เทวีผู้มี 4 กร

56.
จันทรรูป                   เทวีผู้มีรูปดังพระจันทร์

57.
อินทิรา                     เทวีผู้งดงาม

58.
อินทุศีตาลา                เทวีผู้มีพระทัยเย็นดุจดวงจันทร์

59.
อลาทาชนนี                 เทวีผู้เป็นมารดาแห่งความสุข

60.
พุทธิ                      เทวีแห่งสุขภาพ

61.
ศิวา                       เทวีแห่งความเป็นมงคล

62.
ศิวาการี                    เทวีแห่งสิ่งมงคลทั้งหลาย

63.
สัตยา                     เทวีแห่งความสัตย์จริง

64.
วิมาลา                     เทวีผู้มีวรกายงดงาม

65.
วิศวาชนนี                   เทวีผู้เป็นมารดาของจักรวาล

66.
พุทธิ                      เทวีผู้เป็นอำนาจของพุทธิ(สุขภาพ)

67.
ธาริทิยานาสินี               เทวีผู้ขจัดความยากจน

68.
ปรีตา ภุชการินี               เทวีแห่งความรื่นรมย์

69.
สัณฑา                     เทวีแห่งความสงบสุข

70.สุกลามาลามพรา             เทวีผู้แต่งกายและสวมมาลัยสีขาว

71.
ภาสการี                    เทวีแห่งแสงอาทิตย์

72.
พิลวานิลายา               เทวีผู้อยู่ภายในจิตใจของปวงชน

73.
วารารูฮา                   เทวีผู้ประทานพร

74.
วาสาสวินี                   เทวีแห่งชื่อเสียงเกียรติยศ

75.
วสุนทรา                   เทวีผู้เป็นบุตรีของพระแม่ธรณี (คราวที่ทรงอวตารเป็นสีดา)

76.
อุทารังกา                  เทวีผู้มีวรกายงดงาม

77.
ฮารินี                      เทวีผู้เยื้องกรายงดงามดังกวาง

78.
เฮมามาลินี                  เทวีผู้มีมาลัยดอกไม้สีทองอยู่บนพระศอ

79.
ธนาธัญญากี               เทวีผู้ประทานความั่งคั่ง

80.
สิทธิ                       เทวีแห่งความสำเร็จ

81.
โสมยา                      เทวีแห่งการสรงสนาน

82.
สุภาประทา                 เทวีผู้ประทานสิ่งมงคลทั้งหลาย

83.
นรุปาเวศวากาธันญา          เทวีผู้สถิตอยู่ในพระราชวัง

84.
วราลักษมี                   เทวีผู้โปรดปรานความมั่งคั่ง

85.
วาสุประทา                  เทวีผู้ประทานปัญญา

86.
สุภา                       เทวีผู้เป็นมงคล

87.
หิรัญญาประกา              เทวีผู้มีรัศมีเป็นทอง

88.
สมุทราธันญา               เทวีผู้เป็นธิดาของพระสมุทร (คราวที่กำเนิดจากพิธีกวนเกษียรสมุทร)

89.
ชยา                       เทวีแห่งชัยชนะ

90.
มังคลา                     เทวีแห่งความเป็นมหามงคล

91.
เทวี                        เทวีแห่งปวงเทพ

92.
วิษณุวาคสา                เทวีผู้สถิตในพระทัยของพระวิษณุ

93.
วิษณุปัตนี                   เทวีผู้เป็นชายาของพระวิษณุ

94.
ปราสันนากษี               เทวีผู้มีดวงตางดงาม

95.
นารายณา สามัสริตา          เทวีผู้สถิตอยู่ในพระนารายณ์ (วิษณุ)

96.
ทาริทตียา                   เทวีผู้ทำลายความยากจน

97.
เทวี                        เทวีแห่งปวงเทพ

98.
สรวาปาทราวานิวารีนี         เทวีผู้สถิตในสรวงสวรรค์

99.
มหากาลี                   เทวีผู้ปราบอสูรในรูปดุร้าย

100.
พรัหมา วิษณุ ศิวัตมิกา       เทวีผู้เป็นที่รักของพระพรัหมา พระวิษณุ พระศิวะ
101.
ตรีกาลา                  เทวีผู้อยู่ในภพทั้งสาม

102.
ภูวเนศวรา                 เทวีผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล
103.โลกมาตา                  เทวีผู้เป็นมารดาของโลก
104.กษิราธิธัญญา             เทวีผู้เป็นธิดาของพระสมุทร
105.ปัทมาวตี                   เทวีผู้ทรงไว้ซึ่งดอกบัว
106.เคารี                     เทวีผู้มีกายสีทอง
107.วิษณุปรียา                เทวีผู้เป็นที่รักของพระวิษณ
108.ศังกรีลักษมี               เทวีผู้ประทานโชคลาภอันยิ่งใหญ่
ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคับ หวังว่าคงจะถูกใจสาวกของพระแม่ทุกคนนะคับ

ขอให้มีความสุข ให้พรของพระแม่อยู่กับสาวกของท่านตลอดไปคับ

โอม ศรี มหาลักษมี กีเจ นะมะ

#303
จากที่คุณ โอม มหา บารมี เทวา โอม ให้ช่วยแปลบทนี้นะคับ
เชย เชย เทวี เชย เชย เทวี
ทูรฺกา เทวี สรณมฺ
เชย เชย เทวี เชย เชย เทวี
ทูรฺกา เทวี ศรณมฺ
ทูรฺกฺไก อมฺมไณตฺ ธูติตฺตาลฺ เยนฺรุมฺ
ทุณฺปมฺ ปรนฺโตดุม
ตรฺมมฺ กากฺกุมฺ ตรยุมฺ อวเล
ตริศณมฺ กณฺทาลฺ โปธุมฺ   (2 ครั้ง)
กรฺม วิไณกรุมฺ โอดุมฺ
ศรฺว มงฺคลมฺ ศูดุมฺ  (เชย เชย)
โปรฺกรงฺกลฺ ปติเณทฺดุมฺ นมฺไมศฺ
ศุรฺริวรุมฺ ปไก วิรทฺดุมฺ
เนรฺริยิเล กุงฺกุมปฺ โปทฺดุมฺ
เวรฺริปฺ ปาไตไยกฺ กาทฺดุมฺ
อายิรมฺ กณฺกลฺ อุไทยวเล
อาธิศกฺติ อวลฺ เปริยวเล
อายิรมฺ นามงฺกลฺ โกณทวเล
ตายฺ โปลฺ นมฺไมกฺ กาปฺปวเล (เชย เชย)
ศงฺกุ ศกฺกรมฺ วิลฺลุมฺ อมฺภุมฺ
มิณฺรุมฺ วาลุมฺ เวลุทณฺ ศูลมุมฺ
ศงฺกกฺ ไกกลีลฺ ตางฺกิ นิรฺปาลฺ อมฺมาตาณฺ (ซ้ำ)
สิงฺกตฺติณฺ เมลวลฺ วีรฺริรุปฺปาลฺ
ติงฺกไล มุทิเมลฺ ศูทิ นิรฺปาลฺ
มงคล วาฬฺวุมฺ ตนฺติทุวาลฺ
มงฺไกยรฺกฺกรศิยุมฺ อวเล
องฺกยรฺกณฺณิยุมฺ อวเล (เชย เชย)
กณก ทูรฺกา เดวี สรณมฺ (ซ้ำ 3 ครั้ง)
ผมแปลได้ประมาณนี้นะคับ  อาจจะอ่านง่ายขึ้นหน่อยนะ
            
เจ เจ เดวี เจ เจ เดวี
ดูรกาเดวี สะระณัม
เจ เจ เดวี เจ เจ เดวี
ดูรกาเดวี สะระณัม
ดูรักไก อัมมะไณต ธูติดตาล  เยนรุม
ทุณปัม ปรันโตดุม
ตระมัม  กากะกุม ตระยุม อวะเล
ตรีศะณัม กัณทาล โปธุม(2ครั้ง)
กระมะ วิไนกรุม โอดุม
ศระวะ มังกะลัม ศูดุม (เจ เจ)
โปรกรังกัล ปติเณทดุม นัมไมศะ
ศูรริวะรุม ปไก วิรัทดุม
เนรริยิเล กุงกุมัป โปทดุม
เวรริป ปาไตไยก กาทดุม
อายิรัม กัณกัล อุไทยะวะเล
อาธิศักติ อะวัล เปริยะวะเล
อายิรัม นามังกัล โกณะทะวะเล
ตายะ โปล นัมไมกะ กาปปะวะเล (เจ เจ)
ศังกุ ศักกรัม วิลลุม อัมภุม
มิณรุม วาลุม เวลุทัณ ศูละมุม
ศังกัก ไกกะลีล ตางกิ นิรปาล อัมมาตาณ (ซ้ำ)
สิงกัตติณ เมละวัล วีระริรุปปาล
ติงกะไล มุทิเมล ศุทิ นิรปาล
มงคล วาฬวุม ตันติทุวาล
มังไกยรักกะระศิยุม อะวะเล
อังกยระกัณณิยุม อะวะเล (เจ เจ)
กณะกะ ดูรกา เดวี สระณัม (ซ้ำ 3 ครั้ง)
ผมแปลประมาณนี้นะคับ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคับ
โอม อรีม ฮีม กลีม ดูรกา วิชเจย์ นะมะ
พระแม่ศักติศิวาจงเจริญ
#304
Quote from: น้องตองคร้าบบบ on August 02, 2010, 01:34:20
สวยครับสวย

เอาลงรุปใหญ่ๆสิครับผม ^^

ผมเอารูปลงใหม่แล้วนะคับ  รูปใหญ่ขึ้นอีกคับ แต่คราวนี้เสร็จสมบูรณ์เลยคับ เป็นไงก็ช่วยติชมด้วยนะคับ ไงคราวหน้าถ้าวาดรูปอื่นอีกผมจะเอารูปมาลงให้ได้ดูกันอีกคับ


โอม อรีม ฮรีม ครีม ดูรกา วิชเจย์ นะมะ
พระแม่ศักติศิวาจงเจริญ
#305
รูปพระแม่ศักติศิวา ผมวาดและลงสีเอง เป็นไงบ้างคับ ไงช่วยติชมกันด้วยนะคับ ผมจะได้เอาไปปรับปรุง และคราวหน้าจะเอารูปมาลงให้ได้ดูกันอีกคับ
ผม



โอม อริม ฮรีม ครีม ดูรกา วิชเจย์ นะมะ
พระแม่ศักติศิวา จงเจริญ
#306
อ่อ หินทั้งสามก้อนนี่ ผมไม่แน่ใจนะว่าพี่หมายถึงอันไหน แต่ที่ผมจะเล่าให้ฟังนี่คือหินสามก้อนที่เกี่ยวกับพระแม่ทั้งสาม คือ พระแม่ปารวตี (อุมาเทวี)
พระแม่ลักษมี และพระแม่สุรัสวตี แบ่งภาครวมกันอวตารเป็นพระแม่ไวษณุเทวี หรือไวษณวีเทวีอ่ะคับ  เค้าว่ากันว่าพระแม่ไวษณุเทวีได้มาบำเพ็ญตบะที่ถ้ำแห่งหนึ่ง และได้ทำพิธีบูชาพระแม่ทั้งสามด้วย โดยท่านได้เอาหินสามก้อนมาเป็นตัวแทนองคร์พระแม่ทั้งสาม เมื่อพระแม่บำเพ็ญตบะจนสำเร็จและปราบอสูรไภรวะ(ไภรวะคนละองค์กับพระศิวะปางไภรวะนะคับ อย่าปนกัน)เรียบร้อยแล้ว ท่านก็มาสถิตอยู่ในหินทั้งสามก้อนนี้ จนสานุศิษย์คนหนึ่งชื่อศรีธันย์ ได้มาพบเข้าโดยบังเอิญ และได้สร้างเทวาลัยให้กับพระแม่ในถ้ำแห่งนี้ ให้คนได้มาสักการะจนถึงทุกวันนี้คับ ผมได้เอารูปของพระแม่ไวษณุเทวีมาให้พี่ได้ดูด้วยนะคับ (ซึ่งหลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นแม่อุมาเทวีน่ะคับ) และสังเกตในภาพนะคับ จะมีหินสามก้อนอยู่ด้วย นั่นแหละคับหินทั้งสามก้อนที่พี่ถามถึงน่ะคับ ถ้าความรู้ที่ผมได้ถ่ายทอดไปผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยคับ 



โอม ศรี ไวษณุเทวี มาตา นะมะ
( โอม เจมาตากี )
#307
พระแม่อัมพิกา เป็นอวตารของพระแม่ศักติศิวาคับ ท่านปรากฏขึ้นในตอนที่พระแม่ทุรคาจะทรงปราบมหิษาสูรคับ
ท่านปรากฏในรูปสตรีที่งดงาม มี 8 กร ถือ จักร สังข์ ตรีศูล ตะบอง ธนู ลูกศร ดาบ และมือหนึ่งทำปางประทานพรคับ หรือจะถือหม้อมังกัลก็ได้คับแล้วแต่รูปนะคับ (ข้อแตกต่างของพระแม่อัมพิกากับพระแม่อุมาก็คือ ท่านจะขี่สิงโตเป็นพาหนะ ซึ่งจะต่างกับพระแม่อุมาที่ทรงเสือ และท่านจะไม่ถือหม้อมังกัลคับ) และผมเอารูปพระแม่อัมพิกามาฝากด้วยนะคับ  ถ้าข้อมูลของผมผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคับ