Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - โอม มหา บารมี เทวา โอม

#441
กลัศบูชา
กลัศบูชา คือ การถวายบูชา “เทพประธาน” ด้วยมะพร้าว
อุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ 1. หม้อ (ภาชนะสำหรับใส่น้ำ), ใบมะม่วง 5 ใบ (คัดขนาดใบที่ใกล้เคียงกัน ใบไม่มีรอยขาดแหว่ง หรือกัดแทะจากแมลง), มะพร้าวห้าว 1 ลูก(เหลาเนื้อเนียน ยอดแหลม), ผงเจิมสีแดง (บางแห่งใช้เพียงเท่านี้)
สูตร METRO LIFE ใช้เป็นภาพประกอบ มีของเพิ่มเติม อาทิ ใบพลู 1 ใบ, หมากลูกแห้งจากอินเดีย 1 ลูก(ซื้อได้จากตรอกแขก พาหุรัด ร้านขายหมากพลูไม่มี) เงิน 1 บาท และดอกไม้ประดับ
หมายเหตุ - บางแห่งใช้ผ้า(ดิบ) แดงหุ้มมะพร้าว ผูกยอดด้วยกลุ่มด้ายศักดิ์สิทธิ์
ภาชนะสำหรับกลัศบูชาเช่น หม้อดิน หรือ หม้อทองเหลืองหรือหม้อทองแดง หม้อแต่ละใบจะมี
ลวดลาย บ่งบอกถึงเทพประธาน
หมายเหตุ คนไทยไม่รู้เรียก “บายศรีแขก”
ขั้นตอนทำกลัศบูชา
1. เทน้ำบริสุทธิ์ใส่ในหม้อ
2. นำหมากแห้ง พร้อมเหรียญบาท วางไว้บนใบพลูและหย่อนใส่หม้อ
3. นำใบมะม่วงที่เตรียมไว้วางเรียงรายรอบหม้อ
4. นำมะพร้าวห้าววางไว้เหนือหม้อ ขณะวางลูกมะพร้าวด้วยมือขวา ให้กล่าวว่า “ ข้าพเจ้าขอบูชาต่อกลัศ
โดยขออัญเชิญพระวิษณุเทพอยู่บนปากแห่งภาชนะ อัญเชิญพระศิวะเทพประทับอยู่ที่คอของภาชนะ และอัญเชิญพระพรหมเป็นฐานของภาชนะ ขออัญเชิญพระแม่ศักติและพระโอรสประทับอยู่ใจกลางภาชนะใบนี้ ข้าพเจ้าขอน้อมบูชาเทพทุกพระองค์ที่ข้าพเจ้าได้กล่าวนี้

จากนั้นสั่นระฆัง และรำลึกน้อมบูชาต่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยกล่าวว่า “ข้าพเจ้าขอบูชา โดยอัญเชิญพระแม่คงคา,พระแม่ยมุนา,พระแม่โคทวรี,พระแม่สรัสวดี,พระแม่นรมัท,พระแม่สินธุ และพระแม่กเวรีมาประทับอยู่ ณ น้ำบริสุทธิ์ในภาชนะนี้เพื่อให้เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์
สุดท้าย กล่าวว่า “ข้าพเจ้าขอน้อมบูชาเทพเจ้าผู้เป็นประธาน (เอ่ยพระนาม) เหนือกลัศนี้ ด้วยการกราบไหว้ ถวายผงเจิมและประดับด้วยดอกไม้เพื่อเป็นเทวบูชา”
5. จัดเรียงใบมะม่วงให้สวยงาม
6. ใช้ผงเจิมที่ลูกมะพร้าวด้วยนิ้วนาง
7. ตกแต่งด้วยดอกไม้ มาลัยให้สวยงาม
8. นำกลัศนั้นขึ้นทูนบนศีรษะ และตั้งกลัศนี้ไว้ในที่อันควร เป็นเวลา 1 วัน
9. ถือว่า น้ำในหม้อกลัศนี้คือ น้ำศักดิ์สิทธิ์ ใช้อาบเพื่อเป็นสิริมงคล เหรียญบาทเก็บไว้เป็นขวัญถุง หรือสะสมไว้เพื่อทำบุญ
10. มะพร้าวเก็บไว้จนแห้ง แล้วจำเริญในน้ำในโอกาสต่อไป
หมายเหตุ - หากมีผ้า(ดิบ) แดงหุ้มมะพร้าวอยู่
ต้องแก้ด้ายมงคล แล้วนำผ้า – ด้าย และมะพร้าวจำเริญน้ำไป
- ช่วงนำไปจำเริญน้ำ เหลียวซ้ายและขวาให้ดี ว่าไม่มีเทศกิจอยู่ ไม่งั้นอาจจะต้องโดนเสียค่าปรับ
- หม้อรูปพระคเณศ และขนานข้างด้วย อักษร “โอม” และรูปตรีศูล
- หม้อพระลักษมี 8 ปาง มีรูป ธนลักษมี,ไอศวรรยลักษมี,วิชัยลักษมี,สันทนลักษมี,คชลักษมี,วีรลักษมี, ธัญญลักษมีและอธิลักษมี
- หม้อนารายณ์ 10 ปาง มีรูป มัตสยาวตาร,กูรมาวตาร,วราหาวตาร, นรสิงหาวตาร,วานาวตาร,ปรศุรามวตาร, รามาวตาร,กฤษณาวตาร,พุทธาวตาร,กาลกิยาวตาร
- หม้อเทพนพเคราะห์
- ส่วนพระอุมา นิยมตั้งเป็นหม้อดิน !! หรือถ้าใครไม่มีหม้อทองเหลือง,ทองแดง อนุโลมใช้เป็นหม้อดินได้หมด แล้วกำหนดเทพประธานเอา
หมายเหตุ หม้อกลัศ มีขนาดให้เลือกทั้งเล็ก,กลาง,ใหญ่ ราคาแตกต่างกันไป หม้อทองเหลือง ราคาแพงกว่าหม้อชนิดอื่น
#442
องค์ที่ได้มาจากวัดราชนัดดาไม่ใช้ทองเหลืองหรอ????
#443
หุหุ ขอบคุณครับพี่ยีนส์ แบบนี้เบนก็ประพรมน้ำอบที่สาหรี่พระแม่ได้อ่ะสิ
#444
ถ้าไม่ได้ทำพิธีสรงน้ำเทวร฿ปสามารถเจิมได้มั้ยคับ  เพราะเทวรูปเบนเป็นอง์ดทองไม่สามาถรโดนน้ำได้ พอดีบ้างครั้งผงเจิมที่เจิมเอาไวหลุดออกหรือบางครั้งก็ปัดฝุ่นผงเจิมจึงหลุดออก เราสามารถเจิมถวายใหม่ลยได้ป่าวครับ
#445
Quote from: kearnight on March 10, 2010, 04:28:17
ข้าวต้มนมในที่นี้อาจหมายถึงข้าวที่ถวายเเด่พระเป็นเจ้าหรือเปล่าคราบ
ส่วนประกอบที่เห็นก้อมีข้าว (เเต่เดียวนี้ส่วนใหญ่เห็นใช้เม็ดสาคูนะคราบ) น้ำนมจืด  เม็ดอัลมอน เม็ดมะม่วงหิมมะพาน(เขียนถูกเปล่าไม่รู้นั อิอิ) ลูกเกด น้ำตาลเล็กน้อย กวนจนเข้ากันใส่เครื่องเทศนิดหน่อยเคยเห็นเเต่เขาทำอะ เเต่ผมกินเเล้วว่าไม่อร่อยอิอิอิออิ คงไม่ถูกปากอะ อิอิอิอิ

มันจะนืบๆป่าวครับ
#446
นำหิ้งบูชาที่บ้านมาเสริมความศัทธาครับ






พระแม่ทรุคาที่เพิ่งจะอันเชิญมาครับ
#447
ชอบอ่ะคับ เอาโต้ะวางโทรทัศน์มาประยุคประหยัดแถมสวยงาม ของผมเอาโต้ะคอมคับชั้นสองของโต้ะวางเลยทำเป็นหิ้งบูชา เดี่ยวต้องเปลี่ยนโต๊ะแล้วเพราะเต็ม
#448
อยากทำห้องแบบนี้บ้างจัง  มีตู้คล้ายๆห้องแบบนี้ขายในประเทศไทยไหมคับเนี่ย
#449
ข้าวต้มนม  ต้มคล้ายๆกับข้าวต้มบ้านเราหรือป่าวคับ
#450
ยังมีอีกบทนึงครับ เดี่ยวเบนว่างจะพิมพ์มาอีก
#451
         บทบูชาพระแม่ศรีมหาอุมาเทวี

อา  มาร์  อา          ตูเยดิลเน           ปูการา...
ดิลเน ปูการา        ตูเฮเมเร             สหารา...
อา  มาร์  อา          ดูเยดิลเน           ปูการา...
...โฮ...เชราวัลลีเอ...โฮ...เมราวัลลีเอ...
เชราวัลลี...         เมราวัลลี...         โจตาวัลลีมาร์.
อา  มาร์  อา          ตูเยดิลเน           ปูการา...
ดิลเน ปูการา        ตูเฮเมเร             สหารา...
อา  มาร์  อา          ดูเยดิลเน           ปูการา...
สารีโบโล...          เจมาร์              ตาตี...
ตูเนฮีปาลา...        มุยุโก...ตูเนมูเย     ซัมฮาเล
ตูเนฮีเมเร...         ยีวันเม...            ปาลปาลกีเยอูยาลา...
มัยยา  มัยยา        โบโลเมรา...        มานะฮีกีตารามาร์
อา  มาร์  อา          ตูเยดิลเน           ปูการา...

อา  มาร์  อา          ตูเยดิลเน           ปูการา...
ดิลเน ปูการา        ตูเฮเมเร             สหารา...
อา  มาร์  อา          ดูเยดิลเน           ปูการา...
...โฮ...เชราวัลลีเอ...โฮ...เมราวัลลีเอ...
เชราวัลลี...         เมราวัลลี...         โจตาวัลลีมาร์.
อา  มาร์  อา          ตูเยดิลเน           ปูการา...
ดิลเน ปูการา        ตูเฮเมเร             สหารา...
อา  มาร์  อา          ดูเยดิลเน           ปูการา...
สารีโบโล...          เจ   มาร์  ตาตี...
เมนิเมนิเซเตรีปูยา...กีแฮซานวเวเร...
มุยุโก  ดารชันเดเกมัยยา... ปาคจกาเรา เมเร...
จารโนเม  เตเรเมเน...  ตันนีมันนิวารามาร์...
อา  มาร์  อา  ตูเยดิลเน  ปูการา...



เบนพิมพ์มาจากหนังสือครับ คงเป็นประโยชน์นะครับ


หลักฐาน
#452
Quote from: Om Sakthi Parasakthi on March 04, 2010, 21:57:51
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on March 04, 2010, 21:24:31
ขอบคุณครับเป็นประโยชน์มากๆเลย ไม่ทราบว่าปีนี้วันไหนตรงกับวันประสูติของพระแม่ศรีมหาอุมาเทวีครับ

ตั้งแต่เกิดมา ดิฉันว่าคำถามนี้เด็ดสุดคะ

ดิฉันคิดว่าคงไม่มีหรอกคะ เพราะตำนานการเกิดของพระอุมา ไม่เคยบอก วันที่พระนางทรงกำเนิดเลยคะ



พระแม่กำเนิดในคืนที่ 9 เดือนมธุ (มีนาคม-เมษายน) แต่เบนไม่รู้ว่าตรงกับวันไหนของปีนี้ เบนคิดว่าเบนจะจัดงาน เมษสงกรานติ ที่บ้านในวันที่13เมษา แล้วก็จัดงานวันคล้ายวันประสูติของพระแม่ด้วย
#453
เห็นแล้วคับพี่เขาเอามาวางใหม่แล้ว แต่คุณแม่ไม่ให้เช่าแล้ว วันนี้เบนไปเดินเล่นตรอกแขกมันมากๆ ไม่ได้ไปซื้อารัยหรอกครับ แค่ไปเดินสำรวจของว่าถูกหรือแพงยังไง นึกขึ้นได้ผงกุมกุมที่บ้านหมดซะและเลยซื้อ แต่ไม่รู้คิดยังงัยถึงได้ซื้อผงจันทร์หอมมาด้วยกลุ้มใจไม่รู้ว่าจะไปใช้อารัย แล้วความคิดที่อยากซื้อเทวรูปมันก็พุ่งปรี้ด พอดีพกเงินมามากหน่อย เลยไปตลาดพระวัดราชนัดดา ก่ะว่าจะซื้อแม่ทรุคาขนาดสามนิ้วรมดำปิดทอง แต่โชคร้ายวันนี้ร้านขายเทวรูปส่วนใหญ่ของหมดไปมาก เบนเลยต้องเดินอยู่ที่นั้นเป็นชั่วโมง พี่ออสร้านใหญ่แดงก็ไม่เปิดก่ะจะไปเม้าซะหน่อย เลยต้องเดินถามร้านนั้นร้านนี้ว่ามีมัยอ่ะ เดินอยู่ได้2ช.ม ก็เจอแล้ว ร้านนั้นอยู่ติดกับร้านพี่ออสนั้นแหละเลยซื้อเลย 1190 เอง สวยมาก  พอซื้อเสร็จดันเลือบไปเห็นแม่มารีอัมมาองค์รมดำปางยืนที่เบนอยากได้ อยากจะคืนอ่ะเทวรูปแต่ไม่กล้า ลองถามเจ้เขาดูว่าองค์เท่าไหร่ เจ้าแกบอก2700เอง  โอ้ย!ใจนึงอยากคืนแต่ใจนึงไม่อยากคืนเพราะเทวรูปแม่ทรุคาสวยมาก เลยตัดใจไม่คืนจ่ายเงินแล้ววิ่งไปเลย++++ยังเหลือเวลาตั้ง2ชั่วโมงกว่าวัดเทพมณเฑียรจะเปิด เลยต้องนั้งฟังเทศที่วัดสุทัศ พอถึงเววัดเปิดดิชั้นขึ้นไปไม่มีใครเลยม่านเทวรูปยังปิดอยู่เลย เลยต้องลงลิฟต์มาข้างล้างอีก รอซัก10นาทีพราหมณก็มาแระ แต่ต้องรอให้ท่านทำความสะอาดก่อน เบนเลยนั้งสมาธิรอ แต่ในขณะเดี่ยวกันมีคนอินเดียมาแล้วชวนพราหมณ์คุย ไม่มีสมาธิเลย ไม่รูหรอกว่าเขาคุยรัยกันฟังไม่รู้เรื่อง แต่จับใจความได้เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับ ปารีส ฮิวตัน พอเขาคุยเสร็จพราหมณ์ก็เรียกผมเข้าไปหาพร้อมเทวรูป วันนี้มีผมกับลุงที่เป็นคนอินเดียที่มาไหว้พระ พราหมณ์เลยเบิกพระเนตรให้นานหน่อย พอเสร็จท่านก็เจิมให้ผม จากนั้นผมก็ไปสักการะแม่ทรุคาแล้วก็กลับบ้าน เหนื่อยจังเลย.......
#454
Quote from: narada on February 07, 2010, 13:41:41
องค์ที่พี่เกียร์ไนท์ สำรูปมาให้ ดู ผม ก็ ได้ มาจากวัดราชนัดดา คร้าฟ


แต่เอาสีดำล้วนมาไม่ปิดทอง สวย งามดี เป็นงานที่ก๊อปมาจากงานอินเดีย


เคยเห็น ของอินเดีย แท้ ๆ แร้วงามมาก ของพี่ออส นั่นเอง (งามมากละเอียดมาก)

ที่ผมบูชามา จากร้าน พี่นนท์ ที่แต่งหน้า แรงๆ  ใส่เสื้อ สีประจำวัน เดินเข้าไปนิดเดว

ก็ ถึงร้าน แระ ถ้าเดินเข้าไปเห็นคนขาย แร้ว เราตกใจ ใช่ เรย คนนั้นแระ พี่นนท์ พี่เค้า แรง

ได้ ใจมาก 55+ ใจดี ด้วย ต่อ ได้ ชัวร์ ที่พี่เกียร์เอามาให้ดู เค้าก็ ขาย ที่ 3000 บาท

แต่ ต่อเค้า เหลือ  2800 ลองดู คร้าฟ ลองดู เอาใจช่วยคร้าฟ

ง่ะ เดี่ยวนะ  พี่จิ้งจอกเช่าตัดหน้าเบนไปแล้วช่ายป่ะ  อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!  ม่ายยอม  ม่ายยอม  เบนม่ายยอม เดือนหน้าจะไปเช่าแล้วอ่ะ

ทำร้ายจิตใจเด็กอ่ะ อิอิอิอิ  ขอเช่าต่อได้ป่ะอ่ะ
#455
แล้วที่นุ่งห่มสีอกกส้มๆล่ะครับ ใช้พราหมณ์หรือป่าว เบนเจอที่วัดเทพมณเฑียร เจอในลิฟต์คับ พูดไทยไม่ได้ด้วยครับต้องใช้ภาษาอังกฤษกับสันกฤต
#456
พอดีเบนนั้งแท็กซี้ผ่านอ่ะครับ สถานที่แห่งนั้นเบนคิดว่าน่าจะเป็นเทวสถานครับ
#457
ไปที่ร้านเจ้าแม่กาลีที่พาหุรัดเลยครับ รับรองแม่แน่ๆครับ ราคาก็ไม่แพงมากครับ
#458
ขอบคุณครับเป็นประโยชน์มากๆเลย ไม่ทราบว่าปีนี้วันไหนตรงกับวันประสูติของพระแม่ศรีมหาอุมาเทวีครับ
#459
เบนเคยเห็นเทวรูปองค์พระศิวมหาเทพองค์หนึ่ง เป็นองค์รมดำทั้งองค์เลยครับ  แต่ที่เบนสงสัยคือที่พระเนตรของท่านทั้งสองข้างมีฉาดสีแดงแต้มอยู่

อยากทราบว่าเขาแต้มเพื่ออะไร  หรือ ว่าแต้มไว้เพื่อให้เทวรูปดูโดดเด่นครับ
#460
สาธุครับ พระแม่เปิดทางบารมีครับ
#461
เบนไปเจอนี้มาด้วยครับ อาจเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของกระทู้ได้นะครับ

ข้าวผัดมังสวิรัติแบบอินเดีย

การกินมังสวิรัติที่อินเดียเป็นเรื่องปกติสามัญที่อยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนเลยทีเดียว

มีทั้งแบบเคร่งมาก คือไม่กินไข่ เห็นได้จากเมนูในร้านชาที่ขายพวกแคร็ป วัฟเฟิลต่างๆ จะใส่วงเล็บไว้ท้ายรายการว่าไม่ใส่ไข่ และแบบเคร่งน้อยกว่า คือ แค่ไม่มีเนื้อสัตว์ก็พอ

มันจุฬาเล่าว่า คนอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูจะกินมังสะวิรัติสองวัน คือ วันจันทร์ (วันแห่งพระอิศวร) กับวันเสาร์ (วันแห่งพระนารายณ์) อาจจะกินทั้งสองวัน หรือ เลือกกินวันใดวันหนึ่งก็ได้

(ผิดถูกอย่างไรไม่รับประกันนะคะ ฟังเธอมาอีกที)

กลับมาที่อาหารจานนี้ของเราดีกว่า "ข้าวผัดมังสวิรัติแบบอินเดีย"

--- เครื่องเครา ---

- แครอท

- ถั่วฝักยาว

- หอมแดง

- มะเขือเทศ

- ผักชี

- ข้าวสวย

- ผง Garam Masala - อันประกอบด้วยเครื่องปรุงสมุนไพรมากมายสารพัน คือ ผักชี ขมิ้น พริกไทยดำ พริก ใบอบเชย เปลือกอบเชย กานพลู กระวานดำ อนิซ (Anistar) เมล็ดยี่หร่า ขิงแห้ง Triphala (พืชตระกูลขิงข่า) เกลือ และ Caraway (พืชตระกูลยี่หร่า)

- ไข่

- น้ำมันพืชสำหรับผัด

-- วิธีการทำ --

๑. หั่นแครอทเป็นลูกเต๋าเล็ก ซอยถั่วผักยาว ใส่หม้อต้มให้สุก

๒. ซอยหอมแดง หั่นมะเขือเทศ ผักชีเตรียมไว้

๓. ตั้งน้ำมันในกะทะ เจียวหอม ใส่มะเขือเทศ ใส่ผงเครื่องเทศ

๔. ใส่แครอทกับถั่วฝักยาวที่สุกแล้วลงผัด ตอกไข่ใส่กะทะแล้วผัดให้เข้ากัน

๕. ใส่ข้าวสวย ผัดๆๆๆ จนสุกเข้ากันทั่วแล้ว ใส่ผักชี เสร็จเรียบร้อย ตักกินร้อนๆ หอมเครื่องเทศฉุยชื่นใจ มีประโยชน์ต่อสุขภาพดีแท้ๆ เลยเชียว











#462
Quote from: giftzy_69 on March 02, 2010, 20:54:34
ข้าวต้มนมหรือเปล่าค่ะ
ที่เบนดูมาข้าวนั้นคล้ายๆกับข้าวผัดเลยครับ มี3ถาด3สี มีสีขาว สีเหลือง สีออกแดงน้ำตาล  เบนเคยรู้มาอีกว่าในแต่ล่ะถาดมีรสชาติที่ต่างกัน
ถาด ส่วนมากจะมี รสเปรี้ยว  รสมัน  รสเค็มๆหวานๆ รู้มาแค่นี้ครับ สำหรับข้าวที่ใช้ถวาย
#463
พูดถึงเรื่องการถวายข้าว เบนเคยเห็นในคลิปที่youtube เขาถวายข้าวให้พระแม่ด้วยครับ ข้าวที่เบนเห็นนั้นเป็นข้าวที่ผ่านการปรุงรสมาแล้ว รู้สึกจะให้สมุนไพรกับเครื่องเทศในการปรุง เบนเองก็อยากทำถวายด้วยเหมือนกัน แต่ทำไม่เป็นไม่รู้ว่าต้องใส่อะไรบ้าง

ถ้าพี่จะถวายข้าวเบนว่าได้นะครับ
#464
Quote from: durgakali on February 27, 2010, 18:23:08
ผมว่าการปิดตา

อาจจะทำก่อน

การเปิดเนตรเทวรูป

เพื่อป้องกันวิญญาณ

มาสิงแทนเทพคับ

ตามความเชื่อทางคติ

จีน-แขก

อันนี้คล้ายๆกันมากเลยครับ เบนเคยสร้างกระทู้เรื่องการบูชาเทวรูปที่ยังไม่ได้เบิกพระเนตร หลายคนหลายคติมีความเชื่อกันว่า สิ่งใดที่ดูคล้ายกับมนุษย์วิญญาณจะมาสิงได้ง่าย ดังนั้นควรเอาเทวรูปไปเข้าพิธีก่อนครับ
#465


ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
#466
Quote from: nai 3 on February 25, 2010, 22:55:48
ถึงวันนั้นเด๋วก็มีคนบริจาคหลังคา
แหละคัฟ
คุณเบนเค้าใจบุญอยุ่นา
เผอๆไม่แค่บริจาค
อาจจะขึ้นไปมุงให้ด้วยก็ได้

คิคิ เบนคงไม่มีแรงปีนขึ้นไปมุงแน่เลย เดี่ยวปีนขึ้นไปตกลงมาเดี่ยงซะ แทนที่จะได้ทำบุญแต่กลายไปทำอัมพาสให้ตัวเอง คิคิคิ
#467
Quote from: Om Sakthi Parasakthi on February 25, 2010, 19:27:40
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on February 25, 2010, 13:59:24
เคยไปสอบถามราคา แม่มารีอัมมาที่วัดแขกอ่ะครับ สุดยอดแห่งราคาเลยครับ แพงมากกกเคอะ  องค์ขนาด3นิ้วมี 2ราคา มี4999 บาท กับ 5999บาท แต่ก็สวยครับ องค์เป็นสีทองๆออกส้มๆ ไม่ใช้ทองเหลืองครับ เห็นคุณป้าผู้ดูแลร้านในวัดบอกว่า เป็นเนื้อโลหะทั้ง5 เหมือนในโบสถ์

ถ้าแพงก็ไม่ต้องเช่าสิคะ อิอิคะ ขำขำคะ

ดิฉันว่า ถ้าเราถูกใจเราก็เช่าคะ เพราะรายได้ ตรงนี้จะได้นำมาบูรณะวัดคะ

แพงไม่แพง ไม่สำคัญคะ ขึ้นอยู่กับเราเอง ทั้งหมด แพงก็ไว้ก่อน ถ้ามีกำลัง พอก็เช่าเถอะคะ

พูดถึงการบรูณะวัด เบนยังไม่ได้ไปทำบุญค่าบรูณะวัดเลย เห็นเขาเขียนป้ายว่ามีรอยร้าวในโบสถ์นี่ครับ
#468
เบนได้นำรูปสวยๆของแม่พระมาฝากคุณ JTPKNC และชาวHM ที่ชอบแม่พระด้วย


แม่พระผู้เห็นอกเห็นใจเพื่อความยุติธรรมแด่ผู้ที่น่าสงสาร
#469
เอ้ะ อยากจะรู้จิงๆเลยว่าตรอกแขกที่พาหุรัดเนี่ยมันเข้าทางไหน ผมจะได้เข้าไปเดินหาซื้อเทวรูปบ้าง รู้จักแต่ร้านเจ้าแม่กาลี  ร้านสุขจิรต  ร้านอมร แค่นั้นเองอ่ะ

แล้วราคาเทวรูปในตรอกแขกกับร้านที่ผมได้พูดมาอันไหนราคาย่อมเยากว่า
#470
พระแม่เจ้าศรีมหาอุมาเทวี กำเนิดในคืนที่ 9 เดือนมธุ (มีนาคม-เมษายน)

อยากทราบว่าวันประสูติของพระแม่ตรงกับวันที่เท่าไหร่ เดือนอะไร ในปีนี้    ขอบคุณครับ
#471
Quote from: JTPKNC on February 24, 2010, 23:26:39
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on February 24, 2010, 21:07:35
เอ้ ทำไมมีโต้ะพระคริสต์ด้วยอ่ะ


สวัสดีครับคุณโอมมหาบารมีเทวา

เหตุผลที่มีโต๊ะพระคริสตเจ้ารวมอยุ่ในห้องบูชานี้ด้วยนั้นเป็นเพราะความศรัทธาและแนวคิดโดยส่วนตัวของผมเองแหละครับ เมื่อก่อนตอนที่ผมอยู่ ตจว เพื่อนข้างบ้านเป็นคาทอลิก แต่เค้าก็มักจะไปช่วยงานบ้านชาวพุทธเวลามีงานบุญต่างๆ แถมยังไปช่วยงานที่วัดใกล้บ้านเราอีกต่างหาก มีวันหนึ่งบ้านนี้ชวนผมไปเที่ยวโบสถ์คาทอลิกแถวบ้าน ซึ่งก็เป็นโบสถ์เล็กๆไม่ใหญ่โต ผมก็คิดแค่ว่าเขายังมาช่วยเรา แล้วเราจะไปช่วยเขาบ้างไม่ได้เชียวหรือ ผมก็ตกลงไปช่วยงาน ไปแล้วทุกคนก็ให้การต้อนรับดีมาก ผมไปอยู่หลายหนจนกระทั่งสนิทสนมกับเหล่าคริสตังที่นั่น รวมทั้งคุณพ่อบาทหลวงด้วย ผมไปช่วยงานที่นั่นเป็นประจำจนกระทั่งร้องเพลงสวดได้หลายเพลง เวลาถึงเดือนแม่พระคือราวปลายปี ชาวคาทอลิกก็จะตระเวนไปบ้านคริสตังไปสวดมนต์ขอพรจากพระแม่มารีอากัน ผมก็ได้รับเชิญไปช่วยร้องเพลงและสวดมนต์แทบทุกบ้าน พอผมเรียนจบมัธยมและต้องไปเรียนต่อมหาลัยที่พิษณุโลก ผมได้อธิษฐานต่อรูปเคารพของพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีอาว่า หากลูกมีบุญกับพระองค์ขอให้ตลอดสี่ปีที่ลูกอยู่ที่พิษณุโลกลูกได้มีโอกาสพบพระองค์และได้รับพระหรรษทาน (พระพร) จากพระองค์ด้วยเทอญ ปรากฏว่าพอผมไปอยู่ที่พิษณุโลกได้ไม่นาน ผมมีธุระต้องมา กทม หลังจากทำธุระเสร็จผมก็เดินเล่นเตร็ดเตร่ไม่มีเป้าหมายไปเรื่อย ผมก็ไปเจอกับป้ายโบสถ์คาทอลิกแห่งหนึ่ง ผมก็ลองเดินเข้าไปดู หลังจากเข้าไปอธิษฐานในโบสถ์เสร็จแล้ว ผมดันปวดปัสสาวะก็เลยไปเดินหาห้องน้ำ ปรากฏไปเจอห้องที่ทางโบสถ์จัดจำหน่ายพระประติมา แล้วผมไปสะดุดตากับพระเยซูบนไม้กางเขนที่ท่านเห็นในรูปนั่นแหละครับ ผมก็เลยเชิญท่านกลับมาพิษณุโลกด้วย พอเชิญท่านมาได้ไม่นาน ผมก็ได้รู้จักกับเพื่อนที่เป็นคาทอลิกแล้วเขาก็พาผมไปโบสถ์ประจำจังหวัดพิษณุโลก น่าแปลกใจหลังจากเสร็จพิธีมิซซาคุณพ่อเจ้าวัดก็เข้ามาทักทายผมทั้งๆที่วันนั้นมีคนไปโบสถ์เยอะมาก แล้วถามผมว่าผมมาจากไหน เป็นชาวพุทธใช่มั้ย ใครแนะนำมาที่นี่ เคยรู้จักบาทหลวงท่านไหนหรือเปล่า ผมก็ตอบท่านหมดทุกอย่าง ท่านก็ว่า คุณพ่อที่ผมบอกชื่อไปนั้นเป็นเพื่อนของท่าน คุณพ่อเจ้าวัดก็บอกกับผมว่า พ่อยินดีมากที่เราได้มาที่นี่ ยังไงก็มาได้บ่อยๆนะ จะมานั่งเล่นที่บ้าน (ภาษาพุทธเรียกกุฏิน่ะครับ) พ่อก็ได้ จากนั้นผมก็ได้ไปโบสถ์ที่นั่นบ่อยๆ ตลอดสี่ปีที่ผมอยู่ที่นั่น ก็น่าประหลาดอีกเหมือนกันที่คุณพ่อเจ้าวัดไม่เคยบังคับหรือโน้มน้าวให้ผมเปลี่ยนศาสนาเลย เราเคยสนทนากันเรื่องศาสนาบ่อยครั้งมาก ทุกครั้งท่านจะบอกกับผมว่า เราเป็นชาวพุทธก็ต้องรักศาสนาของเราและรักศาสนาอื่น เช่นเดียวกับที่เรารักตัวเองและรักผู้อื่นด้วย เราทุกคนทุกศาสนาก็พี่น้องกันทั้งนั้น นี่เป็นเหตุให้ผมได้มีพระเยซูไว้ในบ้าน และอีกเหตุผลหนึ่งคือผมเป็นคนชอบศึกษาศาสนาต่างๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอได้ศึกษาศาสนาคริสต์และประวัติของพระเยซูแล้ว ผมศรัทธาในความรักและความเสียสละของพระองค์ที่มีต่อชาวโลก พระองค์ไม่เห็นแก่ความยากลำบากหรือความทรมานใดๆเลย ผมเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นพระศาสดาที่น่าสงสารมากที่สุดในบรรดาศาสดาทั้งหลาย พระองค์มิได้เกิดในวรรณะชั้นสูง ไม่ทรงถือพระองค์ เป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ให้ความรักกับทุกคนที่พระองค์ได้พบ และยอมที่จะสละชีพเพื่อไถ่บาปแก่มนุษยชาติ ในส่วนของการที่พระองค์ถูกตรึงกางเขนนั้น ผมก็มีมุมมองอีกแง่หนึ่ง ถึงชาวคริสต์จะมองว่าพระองค์ยอมตายเพื่อไถ่บาปแก่บรรดาคริสตชน แต่ผมกลับมองเห็นอีกแง่มุมหนึ่งคือ พระองค์สละชีพตนเพื่อให้ความทรมานของพระองค์เป็นสัญลักษณ์เตือนใจชนรุ่นหลัง ให้รู้จักละทิ้งความชั่วร้ายทั้งหลาย การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ทำให้เกิดความสะเทือนใจแก่บรรดาผู้ศรัทธามาตลอด 2 พันกว่าปีมานี้ หลายต่อหลายคนกลับตัวเป็นคนดีก็เพียงเพราะพิจารณาในพระมหาทรมานของพระองค์ เหตุการณ์ต่างๆที่ผมได้พบเจอจากคริสตศาสนาทำให้ผมเชื่อว่าพระเยซูและพระแม่มารีอาทรงประพระหรรษทานให้ ผมจึงตั้งที่บูชาต่อพระองค์ท่านขึ้น และทุกวันนี้แม้ผมจะไม่มีเวลาได้ไปโบสถ์เหมือนเื่มื่อก่อน แต่ทุกคืนก่อนวันคริสต์มาสผมจะไปร่วมพิธีมิซซาบูชาเพื่อต้อนรับเทศกาลพระคริสตสมภพทุกปี เหนือความเชื่อใดๆที่ผมมี ผมเชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดมีเพียงพระองค์เดียว แต่ด้วยความรัก ความสงสารในมวลมนุษย์ซึ่งล้วนแต่เป็นบุตรผู้ลุ่มหลงของพระองค์ พระองค์จึงทรงแบ่งภาคอวตารลงมาโปรดชาวเราในรูปลักษณะบุคลิกภาพที่แตกต่างกันไปตามจริตของผู้ที่พระองค์จะทรงไปโปรด ผมมีความเห็นเช่นนี้ครับ

เบนชอบความเห็นของคุณนะครับ  เบนเองก็ชอบมนต์เสน่ห็ของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกเหมือนกันครับ เพราะศาสนานี้สอนให้ทุกคนรักกัน ไม่ว่าคนคนนั้นจะมีชั้นวรรณะแบบไหน อยู่ศาสนาไหน หรือ เป็นศัตรู เบนเองก็มีเพื่อนเป็นคริสต์ชนครับ เบนเคยไปช่วยงานที่วัดเหมือนกัน วัดนั้นมีชื่อว่า   วัด ดวงหทัยนิรมลของแม่พระ เบนเคยได้เข้าไปดูไปร่วมพิธีมิสซาครับ ทั้งยังเคยร้องเพลงสวดเหมือนคุณด้วย ทุกปีทางวัดจะจัดงานฉลองวัดวันที่ 12 สิงหาคมของทุกไป มีชาวคริสต์ชนและคณะคุณพ่อจากวัดต่างๆมามากมาย ประธานในพิธีคือ พระคาดินัล คุณพ่อ ไมเคิ้ล ไมไชย กิจบุญชู ท่านจะมาเป็นประธานทุกปี ชอบที่คุณพ่อเทศครับดีมากๆเลย  ที่วัดยังให้ไบเบิ้ลเบนมาอ่ายด้วยครับ ตอนนี้ลองศึกษาอ่านจบแล้ว แต่ที่ชอบที่สุดคือ คริสต์สมภพนี้ปหละคับ งานวันคริสต์มาสอีฟกลางคืนสนุกๆมากๆเลย

ยังไงก็ต้องขอชมเชยในความศัทธของคุณนะครับ


วันทามารีอาเปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระเจ้าสถิตกับท่าน ผู้มีบุญกว่าหญิงใดๆ และพระเยซูโอรสของท่านทรงบุญหนักหนา

สันตะมารีอา มารดาพระเจ้า โปรดอภัยให้เราคนบาป บัดนี้และตลอดทุกเมื่อนิรันดรน์ อาเมน

(ไม่รู้ว่าสวดแบบนี้ถูกป่าว ลืมๆเหมือนกัน)

พระเจ้าสถิตกับท่านนะครับ
#472
เคยไปสอบถามราคา แม่มารีอัมมาที่วัดแขกอ่ะครับ สุดยอดแห่งราคาเลยครับ แพงมากกกเคอะ  องค์ขนาด3นิ้วมี 2ราคา มี4999 บาท กับ 5999บาท แต่ก็สวยครับ องค์เป็นสีทองๆออกส้มๆ ไม่ใช้ทองเหลืองครับ เห็นคุณป้าผู้ดูแลร้านในวัดบอกว่า เป็นเนื้อโลหะทั้ง5 เหมือนในโบสถ์
#473
อยากอารตีแบบโบราณจัง  แต่กลัวมือพอง เห็นภาพแล้วไฟเยอะมาก
#474
เอ้ ทำไมมีโต้ะพระคริสต์ด้วยอ่ะ
#475
ที่บ้านผมเองก็ใช้แก้วน้ำแบบแก้วกับที่รองแก้วเป็นกระเบื้อง ส่วนตะเกียงประทีป ตะเกี่ยงอารตี โถกำยาน กระดิ่ง เป็นทองเหลืองครับ

ไม่ต้องยึดติดมากหรอกครับ เพราะบ้านเราไม่ใช้วัดหรือบ้านคนอินเดีย  บางคนยังไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้เขาก็ยังบูชาองค์เทพได้เลยครับ

แค่เราทำความสะอาดโต๊ะบูชาสม่ำเสมอก็สวยแล้วครับ
#476
ขอบคุณมากนะครับ  ไม่ทราบว่าใครมีบทอื่นอีกไหมครับ  ขอบคุณ
#477
ขอบทสวดพระแม่มารีอัมหน่อยคับ ขอบทแบบทมิฬอ่ะคับ ใครมีกี่บทใส่มาเลยครับ   




ขอบคุณมากครับ
#478
Quote from: Om Sakthi Parasakthi on February 21, 2010, 00:04:08
Quote from: โอมมหาบารมีเทวา on February 20, 2010, 20:35:23
สำหรับของถวายพระแม่กาลีเน้นสีแดงๆจะดีมากๆเลยครับ การจัดเตรียมของถวายก็มีดังนี้  กล้วยน้ำว้า 1 หวี หรือ ผลไม้ที่มีสีแดงเช่น แอปเปิ้ล ชมพู่  นมจืดกี่กล่องก็ได้  มะพร้าวอ่อน1ลูก น้ำแดง  ขนมที่มีสีแดงเช่น ขนมชั้น  ขนมน้ำเชื่อมกุหลาบ(มีขายที่พาหุรัด)  ดอกไม้ก็ดอกกุหลาบหรือดอกชบาแดง มะนาวกี่ลูกก็ได้

ห้ามนำเลือดหรือเนื้อดิบถวายนะครับ ห้ามเอาเลือดป้ายพระโอสพระแม่ด้วย ผิดมากๆ

ประทานโทษนะคะ ไม่ทราบว่าทำไมต้องเป้นขนมชั้นกับมะพร้าวอ่อนคะ พิมมี่ไม่เข้าใจคะ
แล้วพิมมี่เองก็เพิ่งศึกษาใหม่อยากทราบความหมายของสิ่งของที่คุณเบญ ให้ไว้ข้างต้นด้วยคะ

อยากจะทราบว่าความหมายของเครื่องบูชานี้ตรงกับของดิฉันและหลักสากลรึป่าวเพื่อเป็นวิทยาทานในการศึกษาศาสนาอย่างท่องแท้คะ

ขอบคุณคะ

เหอๆ ไม่มีอะไรมากหรอกครับผมบอกเพื่อไว้ เพื่อว่าคุณ จขกท อยากถวายขนมแต่ไม่รู้จะถวายขนมอะไรก็อาจจะถวายขนมชั้นพระแม่ได้เดี่ยวนี้ขนมชั้นมีหลายสีครับมีหลายลายด้วย

ส่วนมะพร้าวอ่อน
มะพร้าวเนี่ย เค้าใช้บูชาเทพเจ้ากันมานาน ตั้งแต่สมัยพระเวทครับ

โดยเจ้ามะพร้าวมีชื่อในทางภาษาสันสฤตว่า ศรีปาละ ซึ่งแปลว่าผลไม้ของพระเจ้า

แล้วทำไมมะพร้าวถึงได้ชื่อว่าเป็นผลไม้ของพระเจ้า เนื่องมาจากตั้งแต่สมัยพระเวทย์มา

มะพร้าวจะได้รับการบูชาเสมือนเป็นตัวแทนแห่งพระเป็นเจ้า ((เฉพาะในศาสนาฮินดูมีกุศโลบายดังนี้นะครับ))

- มะพร้าวมีหลายชั้น ตั้งแต่เปลือก กะลา เนื้อ และ น้ำ เปรียบเสมือนมายาแห่งพระเป็นเจ้าที่มีความสลับซับซ้อนยากจะเข้าถึง

- มะพร้าวเป็นตัวแทนพระเจ้า อย่างที่เค้าบูชากลาซัม ก็จะนำมะพร้าวมาวางด้านบนอันเป็นสัญลักษณ์แทนพระเป็นเจ้าองค์นั้นๆ
นอกจากนี้น้ำมะพร้าวยังเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้บรรจุในกลาซัมด้วย  ตัวอย่างคือ เชื่อกันว่าตาที่สามของกะละมะพร้าว เปรียบได้กับพระเนตรที่สามแห่งองค์พระศิวะเทพ

- บ้างก็ว่ามะพร้าวถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการปกป้องคุ้มครองให้ปลอดภัย เนื่องจากมีเปลือกที่แข็งห่อหุ้มเนื้อใน เปรียบดังพระเจ้าปกป้องคุ้มครองเหล่าสาวก

- มะพร้าวแสดงถึงตัวตนแห่งพระเป็นเจ้า เปลือกนอกคือส่วนแข็ง ใช้ในการป้องกันสิ่งชั่วร้ายสิ่งไม่ดี เนื้อในที่หวานหอม เปรียบพระเมตตาของพระองค์ ส่วนน้ำมะพร้าวถือเป็นส่วนที่บริสุทธิ์ที่สุด หมายถึงหัวใจของพระเจ้าที่บริสุทธิ์

ไม่น่าเชื่อมะพร้าวลูกเดียวบ่งบอกอะไรได้มากมายขนาดนี้

เวลากลับเค้าแจกกะลามะพร้าวนี่ไม่แน่ใจ ใช่เวลาที่เราเอาของไปถวายพระท่านในโบสถ์ แล้วพราหมณ์นำมาคืนให้อย่างนึงรึเปล่าครับ เพราะว่าถ้าเป็นแบบนั้นมันไม่ได้มีแค่กะลามะพร้าวครับ มีทั้งกล้วย นม ลองขยายความอีกทีครับ แต่ถ้าเป็นแบบที่พราหมณ์นำมาคืน ให้ติดไม้ติดมือกลับบ้าน อันนั้นเค้าเรียกว่า " ประชาต" ครับ เป็นธรรมเนียมของฮินดูครับ นำมาทานได้เลยครับ ถ้าบ้านเราเรียกง่ายๆ ว่าของไหว้นี่แหละครับ เพื่อความเป็นสิริมงคลครับผม
อ้างมาจากลิงค์นี้ http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?action=printpage;topic=418.0
#479
สำหรับของถวายพระแม่กาลีเน้นสีแดงๆจะดีมากๆเลยครับ การจัดเตรียมของถวายก็มีดังนี้  กล้วยน้ำว้า 1 หวี หรือ ผลไม้ที่มีสีแดงเช่น แอปเปิ้ล ชมพู่  นมจืดกี่กล่องก็ได้  มะพร้าวอ่อน1ลูก น้ำแดง  ขนมที่มีสีแดงเช่น ขนมชั้น  ขนมน้ำเชื่อมกุหลาบ(มีขายที่พาหุรัด)  ดอกไม้ก็ดอกกุหลาบหรือดอกชบาแดง มะนาวกี่ลูกก็ได้

ห้ามนำเลือดหรือเนื้อดิบถวายนะครับ ห้ามเอาเลือดป้ายพระโอสพระแม่ด้วย ผิดมากๆ
#480
มีเวลาปั้นให้เป็นหน่อยจิ อยากได้เป็นปางยืนบีบมวยผม เห็นเด็กเพาะช่างเขาปั้นสวยมาก