Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - ถุงแป้ง

#1
ไปด้วยค่ะ แล้วเจอกันที่โบถ์เฑพมณเพียร นะคะ
#2
Quote from: ShiwaTat on November 01, 2009, 22:08:51
แล้วตรีศูรย์มีคุณและโทษอย่างไรครับขอความกระจางเล็กน้อย?

แต่ถ้าจะบูชาพระแม่กาลีก็มีอีกอย่าง1 เมื่อวานลืมเลย นั่นคือ ศิวลึงค์เพราะแม่ท่าโปรดปราน
ถ้าอย่างไรเสียพระแม่กาลีเป็นเทพแห่งความการุณเมตตา ดังนั้นมิควรกลัวท่าน ท่านจะดุก็ต่อเมื่อปราบมารหรือเรากระทำตัวไม่ดี

และท่านก็จะประทานพรได้อย่างเหลือเชื่อหากทำให้พรแม่ท่านพึงพอใจ แม่ใจดีมากๆๆ

เดี๋ยวผมนำเพลงบูชาพระแม่กาลีเพราะๆ แบบเพราะมากๆมาให้โหลดกัน ขับร้องโดย Anuradha Paudwal ถ้าอยากหาเพลงสวดเพระๆต้องของคนนี้ครับ

โอมชยันตรีมังคลากาลี ภัทรกาลี ปกาลีนี ดุรกาสมา ศิวธาตรี สวาหา สวาธา นโม สตูติ
http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=298B85004CXOJ33VQDQRQXHT4JFPX
http://upload.one2car.com/download.aspx?pku=298B850059YV8[OZJ5I[7R[1YNKY3

เพระมากๆครับ

เข้าไปโหลดแล้ว เพราะมากๆๆค่ะ ขอบคุณคุณShiwatat มกๆๆค่ะ
#3
ไปค่ะ สรุปปีนี้วันที่12 กพ .ใช่ไหมคะ ไว้เจอกันนะคะ แป้งคงไปที่โบถเทพมณเฑียรค่ะ
ปีที่แล้วก็ไปคนเยอะมากๆๆ สุขกายสุขใจมากๆๆ
#4
ขอบคุณมากเลยค่ะ สำหรับความรู้และคำแนะนำ
สุดท้ายก็ไปที่เทพมณเฑียรค่ะ ^^
ไปที่เดียว 4 องค์เลย มีพระคเนศปางปางนาฏราช พระนายรายณ์ พระแม่ลักษมี พระแม่โพสพ
ถุงแป้งก็เตรียมดอกไม้ พวกมาลัย ไป
ส่วนเงินใส่ซองหรือตู้ที่เค้าตั้งไว้ก็ได้ค่ะก็แล้วแต่เราจะใส่ค่ะ
พรามหณ์ที่นั้นใจดีมากเลยค่ะ ก่อนที่จะเบิกเนตรที่เทวรูปที่เรานำไป
เค้าก็จะให้เรานำไปตั้งไว้หน้าเทวรูปของพระนารายณ์และพระแม่ลักษมีค่ะ
แล้วก็เริ่มทำพิธีสวดพร้อมอารตรี(ที่เค้าสวดกันทุกวัน)และสุดท้ายถึงจะทำพิธีเบิกเนตรให้รเาค่ะ
อ่อ .....ที่ถุงแป้งปก็ประมาณ1ทุ่มกว่าๆๆเห็นจะได้ค่ะ
#5
ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะคะ
เท่าที่เห็นรูปยันต์ตระที่คุณmahavateนำมาโพสนั้น ในความคิดของแป้ง น่าจะเป็นยันต์ที่เขียนหรือทำขึ้นมาใหม่ค่ะ
เพราะดูที่ตัวอักษรด้านมุมแล้วมันกลับหัว และดูหัวกะโหลกด้านนอกเหมือนเอามาใส่เพิ่ม อืมมมมม นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ
แต่ยันตระที่ถุงแป้งมีของพระแม่กาลี ก็มีอยู่ 2 รูปค่ะค่ะ
kaali-yantra

black-kali-yantra

   มีคนให้ความคิดเห็นเกี่ยวกบเรื่องนี้มาว่า ต้องไปดูหนังเรื่อง เดอะ ดาวินชี โค้ด (The Davinci Code) หรือตำนานโฮลี่เกล(รูปจอกหรือความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องจอกศักสิทธิ์)
ลองสังเกตดูนะคะว่าสัญาลักษณ์ของพระแม่นั้นก็เหมือนโฮลี่เกล ที่เปรียบเสมือนสัญญาลักษณ์ของเพศ ญ นั้นเอง
ส่วนยันตระของพระศิวะนั้นจะเป็นรูป3เหลี่ยมแบบนี้ค่ะ

ถ้าใครพอให้ความรู้เพิ่มเพิมหรือมีผู้รู้ก็ช่วยตอบด้วยนะคะ ^^
#7
เมื่อวันก่อนเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ที่นั้น เค้าบอกว่าให้เอามาวันเดียวตอนเช้าแล้วเอากลับตอนเย็น เพราะปีนี้ไม่มีที่เก็บ
ก็เลยไม่รับฝาก อะไรประมาณนี และปีที่แล้วเทวะรูปก็หายกันมากด้วย หรือที่เจ้าหน้าที่เค้าพูดก็เพื่อให้เราไม่ตอ้งเอามาฝาก
เพราะเราไม่เคยเอามาคงไม่รู้อะไร และที่เก็บคงเต็มดูแลยากรึป่าว
ก็เลยไม่รู้จะทำยังไงดี
ให้คำแนะนำได้หน่อยคะ
#8
นั้นน่ะซิคะ แป้งก็ว่าตำนานนี้น่าจะมีแค่นี้นะคะ
เพราะไม่ได้กล่าวถึงเทวะรูปที่ยืนบนพระอุระของพระศิวะเลยT^T
ที่เอามาลงให้สมาชิคอ่านเพราะ จะได้รู้ว่าตำนานอื่นๆๆก็ได้กล่าวถึงพระแม่กาลี ในรูปแบบต่างๆๆ
แต่เราก็ทราบกันดีไม่ใช่รึค่ะว่า ประวัติและความเป็นมาของพระแม่ เป็นเช่นไร

โอม เจ มา ตากาลี
#9
[COLOR=#2]พอดีไปเจอเวบนี้โดยบังเอิญยังไงเพื่อนๆๆก็ลองอ่านดูนะคะเผื่อเป็นความรู้ใหม่ๆๆ [/SIZE][/COLOR]
[COLOR=#2]ถ้าเวปมาสเตอร์เห็นว่า บทความนี้ไม่สมควรก็ลบได้เลยค่ะ[/SIZE][/COLOR]
ตำนานพระแม่กาลีในมุมมองของพรหมศาสตร์มหัศจรรย์
"เมื่อพระศิวะมหาเทพทรงทราบว่าพระแม่สัตรี
(พระแม่คายตรีปางก่อนที่จะมาจุติเป็นพระแม่ศรีมหาอุมาเทวี)
ทรงเผาตัวตายเพื่อประท้วงท้าวทักษะผู้เป็นพ่อที่กล่าววาจาลบหลู่พระศิวะมหาเทพพระสวามี
ต่อหน้าเทพเทวีและฤษีในงานพิธี
พระศิวะมหาเทพทรงพระพิโรธสุดขีดกระชากมวยผม
ฟาดลงกับพื้นเขาพระสุเมรุมวยผมขาดออกเป็นสองท่อน
ท่อนโคนกลายเป็นจอมอสูรมหาวีระภัทร์(ผู้ตัดและถือเศียรท้าวมหาพรหมธาดาด้วยมือตนเอง)
ท่อนปลาย  กลายเป็นพระแม่กาลีพระแม่ผู้มีรูปร่างน่าเกรงกลัวผิวดำ
(จากตำนานพรหมศาสตร์นี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า
พระแม่กาลีมิใช่องค์เดียวกับพระแม่ศรีมหาอุมาเทวี
ดังที่คนทั้งหลายเข้าใจกันมานานแสนนานเหตุที่เกิดการเข้าใจผิดกันขึ้น
เพราะพระแม่ศรีมหาอุมาเทวีทรงมีปางที่ดุร้ายมีพฤติกรรมเสมือนเจ้าแม่กาลี
สิ่งที่สังเกตได้ถึงความแตกต่างระหว่างปางดุร้ายของมหาเทวีทั้งเก้า
กับพระแม่กาลีคือ
พระแม่กาลีเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นที่ช่างวาดหรือช่างปั้นสร้างให้แลบลิ้น
ส่วนพระแม่อัมพิกา ช่างจะวาดหรือปั้นให้มีเลือดอสูรติดเต็มปาก
เพราะทรงให้พลังดึงดูดอสูรที่ฆ่าด้วยอาวุธไม่ตายกิน)
มหาเทพมหาเทวีทั้งสองถูกสร้างขึ้นจากความโกรธเกลียดและอาฆาตของพระศิวะมหาเทพ
ทรงมีบัญชาให้ทั้งสองไปทำลายล้างพิธีของท้าวทักษะ
และจัดการสังหารท้าวทักษะแก้แค้นให้พระแม่สัตรีฯลฯ
เป็นเรื่องน่าสมเพชที่พวกเจ้าตำหนักหรือสำนักทรงที่รู้ไม่จริงพอประทับทรงเจ้าแม่กาลี
เรียกร้องอยากจะกินเลือดแสดงท่าทางดุร้ายเกรี้ยวกราด
แสดงเอกลักษณ์ด้วยการแลบลิ้นตลอดเวลา
**(รู้กฎนะคะว่าห้ามพูดเองทรงเจ้า เข้าทรง แต่ต้องขอยกมาทั้งบทความของเค้าค่ะ ถ้าไม่เหมาะสมก็ลบได้นะคะ ^^ ไม่ว่ากันค่ะ)
ตามความเป็นจริงแล้วพระแม่กาลีท่านมิได้ปรารถนาที่จะเสวยเลือด
ไม่ว่าจะเป็นเลือดอสูรเลือดคนหรือเลือดสัตว์
แต่ที่ท่านเสวยเลือด(เพียงแค่ครั้งเดียว)ก็เพราะความจำเป็นสถานการณ์บังคับ
ให้ต้องจำใจเสวย
เพื่อแก้สถานการณ์ที่เจ้าแม่จากสวรรค์ทั้งเก้าละเลยหน้าที่ๆได้รับมอบหมาย
อสูรได้รับพระจากพระพรหมว่า
โลหิตอสูรแต่ละหยดตกกระทบพื้นโลกเมื่อใดจะบังเกิดเป็นอสูรตนใหม่เพิ่มขึ้นหยดละหนึ่งตน
แต่ละตนจะมีฤทธิ์เหมือนจอมอสูร
เมื่อเจ้าแม่สวรรค์ทั้งเก้ามัวแต่หลงมัวเมาในโลกจนลืมและละเลยหน้าที่
พระแม่กาลีจึงต้องเสด็จลงมาแก้สถานการณ์ในโลกด้วยพระองค์เอง
ทรงแลบลิ้นออกมาพร้อมแสดงปาฏิหาริย์อันยิ่งใหญ่
บันดาลให้ลิ้นที่พระองค์ทรงแลบออกมานั้นแผ่ขยายดุจพรมกำมะหยี่สีแดงสดปกคลุมพื้นโลกไว้
กันมิให้โลหิตจอมอสูรกระทบสัมผัสกับผิวโลกได้
ด้วยพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่พระแม่กาลีมีทีต่อสามโลก
ช่างวาดและช่างปั้นจึงมักแสดงเอกลักษณ์ส่วนพระองค์
ด้วยการสร้างตอนที่พระองค์ทรงแลบลิ้น
พระองค์ทรงเสวยโลหิตจอมอสูรเพียงครั้งเดียวเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของพระองค์
ผมเคยพบเห็นประสบการณ์ที่ขำขันในเรื่องการประทับทรงพระแม่กาลี
ผมไปพักที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านที่ต่างจังหวัดกับหลวงปู่
หญิงสาวในหมู่บ้านที่ไปศึกษาในสถาบันมีชื่อในกรุงเทพ
กลับไปเยี่ยมบ้านเยี่ยมพ่อแม่
เกิดอาการประหลาดประสาทหลอนอ้างว่าเจ้าแม่กาลีมาเข้าประทับทรง
แสดงท่าทางดุร้ายเรียกหาเลือดสดๆถ้าไม่ได้เลือดคนเอาเลือดสัตว์มาให้กินก็ได้
ชาวบ้านต่างเกรงกลัวคิดว่าถ้าหาเลือดให้กินไม่ได้ท่านอาจโกรธจะกินเลือดคนขึ้นมา
จับไก่(ตัวที่ถูกพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกดวงกำลังซวย)มาเชือด
เอากะละมังอลูมีเนียมรองเลือดเอาไปให้พระแม่กาลีดื่มกิน
พระแม่กาลีจอมปลอมแสดงบทบาทสารพัดเพี้ยนจนผู้ใหญ่บ้านทนดูไม่ไหว
ลุกขึ้นปรี่เข้าหาร่างทรงพระแม่กาลี
คว้ากาละมังเลือดสาดใส่หน้าร่างทรง
ใช้มือจิกผมทั้งฟาดกระบานและตบหน้าร่างทรงด้วยกาละมังไปหลายฉาด
เล่นเอาร่างทรงหงายหลังตึงพระแม่กาลีเสด็จลี้ภัยกาละมังออกจากร่างไปทันที
ผู้ใหญ่บ้านชี้หน้าด่าลั่นหมู่บ้าน
“...มึงมันพระแม่กาลีที่ไหน....มึงมันอีผีปอบ..
ผีห่า...มาหลอกกินลาบเลือดบ้านกูต่างหาก...”
ตั้งแต่โดนตบโดนโขกฟาดด้วยกาละมัง
ร่างทรงพระแม่กาลีไม่ยอมพูดยอมจากับใครเลย
รุ่งเช้าร่างทรงหอบข้าวของเก็บใส่กระเป๋าแอบหนีกลับกรุงเทพแต่เช้ามืด
นี่คงเป็นวิธีพิสูจน์ว่าใครประทับทรงพระแม่กาลีจริงหรือไม่ ?
แต่ถ้าคุณใช้กาละมังพิสูจน์แล้วพระแม่กาลีไม่กลัวไม่หนี
คุณก็ต้องเป็นฝ่ายเผ่นหนีเสียเอง
ให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า ๕๐-๕๐(วิ่งไปสันนิษฐานไปนะครับ)
ตามตำนานพรหมศาสตร์ ไม่ปรากฏว่าพระแม่กาลีแบ่งภาคไปจุติที่ใดอีก
พระแม่กาลีมีผู้กล่าวขานถึงพระนามของพระองค์แตกต่างกันไป
ตามดินแดนและพฤติกรรมของพระองค์
(มหาเทพและมหาเทวีแต่ละพระองค์ทรงมีฉายามากมายไม่มีที่สิ้นสุด)
ลักษณะโดยทั่วไป
พระแม่กาลีมีผิวกายดำสนิท ท่านสามารถเนรมิตกายได้ในรูปแบบต่างๆ
บางครั้งมียี่สิบมือยี่สิบเท้า บางครั้งหกมือหกเท้า ฯลฯ
แต่ที่แน่ๆคือ ท่านมิได้แลบลิ้นตลอดเวลา
ขอบคุณข้อมูลจากเวบhttp://www.saksitsart.com ด้วยนะคะ
นี่ก็เป็นอีกมุมมองนึงหรือความคิดเห็นนึง แล้วเพื่อนๆๆล่ะคะ คิดว่ายังไง
#10
หัวข้อนี้พูดถึงเทวรูป ไม่ใช่ศิวลึงค์ใช่ไหมคะ
ถ้าเป็นศิวลึงค์ล่ะคะ บูชาไว้ในบ้านได้ไหม๊
ขอโทษนะคะ อันนี้อยากรู้จริงๆๆ และไม่ทราบจริงๆๆค่ะ
รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยนะคะ
#12
รบกวนผู้รู้ด้วยค่ะ พอดีไปโบสถ์เทพมณเฑียร ได้ยินเพลงที่
คนที่มาร่วมพิธีทุกวันเค้าร้องกันค่ะคะตอนอารตรีเสร็จรู้สึกว่าเพราะดีค่ะ ใครมีช่วยบอกด้วยนะคะ
อยากได้ทั้งเพลง บทสวด และคำแปลน่ะคะ ไม่รู้ว่าถุงแป้งขอมากไปรึป่าว ^^
แต่ก็ขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ
#13
สำหรับคนงบน้อย หรือไม่มีเวลาไปตรอกแขก
แป้งใช้น้ำมันพืชปาล์มค่ะ ไม่มีกลิ่นและควันเลยค่ะ
บางทีก็ผสมน้ำมันจัทร์9 กลิ่นบ้าง(น้ำมันจัทร์9 กลิ่นแท้ต้องซื้อที่ร้าน ถาวรธนะสาร)
ตรงสำเพ็งค่ะ น้ำมันที่นี่หอมมากๆๆๆๆๆๆๆๆ คนละเรื่องคนละกลิ่นกับวัดราชนัดดาค่ะ ราคาจะแพงหน่อยแต่ใช้ได้นานมากๆๆๆๆๆ บางทีก็เอามาทาที่องค์พระแม่และองค์พระพุทธด้วย หอมคลุ้งไปทั้งห้อง^^
   ส่วนไส้เทียน ซื้อตามร้านร้านสังฆภัณฑ์ ทั่วไปค่ะ ได้มาเป็นฟ่อนๆเลยเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ
เส้นเล็กราคาก็ 20 บาทถ้าเส้นใหญ่ก็ 35 บาทประมาณนี้ค่ะลองดูนะคะ
#14
สวยมากๆๆๆๆๆค่ะ สุดยอดดดดดดดดด
#15
เห็นด้วยกับคุณกาลิทัสเป็นอย่างยิ่งค่ะ
#17
Quote from: กาลิทัส on October 22, 2009, 08:41:18
น่าจะเป็นช้อนตักน้ำครับ เวลาใช้บูชาครับ

ซึ่งต้องทำจากวัสดุที่เป็นทองเหลืองและทองแดงเท่านั้นครับ เพื่อความบริสุทธิ์ บางครั้งจะให้ตักน้ำล้างพระบาทให้กับเทวรูปครับ

บางครั้งใช้ตักใส่อุ้งมือ แล้วเอาน้ำมาจิบ แล้วลูบศรีษะ เพื่อเป็นการขอพรครับ

และที่สำคัญอีกอย่างคือ ใช้เทน้ำจากช้อนลงบนอุ้งมือขวา แล้วจิบตรงโคนของอุ้งมือ 3 ครั้ง ก่อนทำการอารตีครับ

บ้างก็ใช้ตักรดเครื่องถวายก่อนถวาย เพราะเชื่อว่าจะทำให้เครื่องถวายนั้นบริสุทธิ์ เพราะผ่านการชำระล้างด้วยน้ำสะอาดครับ

อย่างวัดแขกพราหมณ์จะใช้เทจากกาน้อยๆ ซึ่งทำจากทองเหลืองหรือทองแดงหลังจากที่เจิมกุมกุมให้นะครับ (เมื่อก่อนว่ามี แต่เดี๋ยวนี้เห็นพราหมณ์ท่านเจิมอย่างเดียว) บางทีจะใช้ช้อนครับ 

มีหลายแบบนะครับ



นี่ก็เป็นอีกแบบนึงครับ ช้อนตักน้ำ สวยๆๆๆ บางคนใช้ตักเนยกีเวลาบูชาไฟก็มีครับ

*** ลองดูการใช้ช้อนตักน้ำเวลาทำอารตีได้จาก http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=25.0 ครับผม ***


อยากทราบว่าคำว่า "ที่สำคัญอีกอย่างคือ ใช้เทน้ำจากช้อนลงบนอุ้งมือขวา แล้วจิบ" น้ำนั้นคืออะไรคะ
เพราะเคยไปเข้าร่วมพิธีที่โบสถ์เทพมณเทียร ซึ่งพราหมณ์จะเจิมกุมกุม แล้วก็เทน้ำใส่มือให้เราดื่มน่ะคะ
ก็เลยอยากรู้ว่าน้ำนั้นคืออะไร แล้วทำมาจากอะไรค่ะ

รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยนะคะ
#18
ขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่อบอุ่นค่ะ ^^
#20
ขอบคุณมากค่ะ
ใครมีก็ช่วยเอามาแบ่งปันบ้างนะคะ^^
#21
แป้งเคยเห็นงานที่อื่นใหญ่กว่านี้อีก ^^
อยากได้รูปบายศรีใหม่ๆๆเพื่อเป็นไอเดียงานไหว้ครูปีหน้าค่ะ ^^
#23
หลักแสนเลยเหรอคะT^T
เป็นทองเลยรึป่าว หรือว่างานอินเดียจะราคาประมาณนี้คะ
หรือว่า องค์ใหญ่คะ
สงสัยงานนี้คงปริ๊นรูปใส่กรอบซะแล้ว ^^
#25
ถามผู้รู้หน่อยค่ะ.....
- ถ้าเราจะนำเทวรูปที่เราบูชาไปเข้าร่วมพิธีเราต้องทำอย่างไรบ้างคะ 
- แล้วต้องไปเข้าร่วมตั้งแต่วันไหน
- เทวรูปนั้นจะต้องเป็นเทวรูปเฉพาะไหม๊คะ ถ้าเป็นองค์พระแม่ลักษมี หรือพระแม่กาลี หรือ พระแม่ปารวตรี ได้ไหมคะ
รบกวนผู้รู้หรือผู้ที่เคยไปงานช่วยตอบด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ
#26
Quote from: Amrit_Phakti on April 20, 2009, 01:29:39
ส่วนตัว  ชอบพระแม่ ธัญญลักษมี ที่สุดเลย  อิอิ  มีนกฮูกด้วย   ชอบๆๆๆ  อิอิ  ที่บ้านก็บูชาอยู่ครับ

คุณ Amrit_Phakti บูชาองค์ พระแม่ธัญญาลักษมีอยู่รึคะ
อยากบูชาปางนี้เหมือนกัน แต่ไม่มีเลย หายากมากๆๆ พอจะรู้แหล่งหรือสถานที่ให้บูชาบ้างไหมคะ



#27
ใครมีรูป"บายศรี"สวยๆๆเอามาลงให้ดูบ้างนะคะ
เริ่มจากของถุงแป้งก่อนเลยละกันเนอะ ^^ งานไหว้ครูค่ะ
เป็นงานไม่ใหญ่มากเล็กๆ
ใครมีรูป บายศรีสวยๆๆ เอามาแลกเปลี่ยนกันดูนะคะ









เอามาแค่นี้ก่อนนะคะ ^^
#28
Quote from: jojo on October 19, 2009, 10:05:22
ลักษณะแบบนี้ใช่ไหมครับ ถ้าเป็นงานไทยแถวรัวราชนัดดามีครับ






ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อมูล
แต่อยากได้เหมือนรูปที่2 ค่ะ  มีใครเห็นบ้างไหมคะอยากบูชาแต่หาไม่เจอซักที
#29
ใครเคยห็นองค์บูชาพระพิฆเณศปางนาฎราช บ้างคะ
คือว่าเพื่อนไปหาบูชาไม่ได้เลย ปางนาฎราชที่เหมือนกับพระศิวะปางนาฎราช เลยนะคะ
แบบขาและมือจะไขว้กัน(อภัยใช้คำศัพท์ไม่ถูกค่ะ) ส่วนมากที่เจอจะไม่ไขว้กัน
ถ้าใครเจอ แจ้งด้วยนะคะ อยากได้ขนาดองค์บูชาค่ะหน้าตัก 3-6 นิ้วค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
#31
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ^^
ชอบครอบครัว HM ที่ซู๊ดดดดดดดดเลยค่ะ
#32
ชอบรูปพระแม่รูปนี้มากค่ะ มียันต์ตระของพระแม่ด้วย ^^

#33
ใช่แล้วค่ะ คุณกิม
เผื่อมีเรื่องคุยกัน ^^
#34
Quote from: Fiath on October 17, 2009, 12:13:49
น่าจะชื่อร้าน ใหญ่แดง  อะไรเนี๊ยะอะคัฟ

ไม่ใด้ไปนาน ตั้งแต่เรียนอยู่ปี๑ (555+ก็ไม่นานเท่าไหร่)

หากชอบงานแนววัดราชฯ ลองไปดูร้านแถว ท่าพระจัน บ้างรึเปล่าครัฟ

จะมีอยู่ซอยนึงอ่ะคัฟ จะมีโรงหล่อและจำหน่ายเทวรูปแนวเดียวกับวัดราชฯเลย

ราคาจะถูกกว่าเป็นพัน เลยนะครัฟ

แค่วัดราชฯเอามา โมดิฟาย นิดหน่อยเพื่อเพิมมูลค่า

เพราะเมื่อก่อนเทวรูปยังไม่แพงขนาดนี้อ่ะคัฟ ขนาด ๙ นิ้ว

วัดราชฯปล่อยอยู่ที่ 2900 แต่ที่ท่าพระจันแค่ 1500 เอง

...ลองดูๆๆ



อยากทราบว่าร้านแถว ท่าพระจัน  อยู่แถวไหนคะ แล้วชื่อร้านอะไร ^^ รบกวนด้วยนะคะ





#35
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ

แต่ก็อยากรู้ขั้นตอนการเจิม เหมือนกันค่ะ กลัวทำผิดทำถูก
เพราะเคยทำที่ร้าน โอมศิวะ ที่ตรอกแขกค่ะ ก็มีพรามณืประจำอยู่ทุกๆๆเย็นเพื่อรอทำพิธี อารตรี
เลยอยากรู้ว่า โบสถ์พรามณ์ นั้นทำเหมือนกันรึป่าว ^^
#36
อันนี้ไม่ทราบจริงๆๆนะคะ ถ้าใครทราบกรุณาแนะนำด้วยนะคะ
อยากทราบว่า เวลาที่เราบูชาองค์เทพมาแล้ว เราจะให้พรามณ์ที่ สถานโบถ์พรามณ์ทำการเบิกเนตรให้
เราต้องทำอย่างไรบ้างคะ
ต้องเตรียมอะไรบ้าง
มีขั้นตอนยังไง
แล้วเสียค่าใช้จ่ายไหม๊

ขอรบกวนด้วยนะคะ
#37
น่าจะเป็นร้านเดียวกับที่ถุงแป้งเคยไปบูชา พระนารายณ์รวมภาค เป็นงานของกรมศิลป์ สวยมากค่ะ ราคาก็ต่อรองได้
เจ้าของร้านก็อัธนาศัยดีมากๆๆ

องค์พระนารายณ์องค์นี้หามานานมากๆๆๆๆๆๆ แต่ก็ไม่ถูกใจซักที
แต่พอเจอก็คือใช่เลย ไม่มีใครบอกเราได้หรอกว่าใช่หรือไม่ใช่สำหรับเรา นอกจากตัวของเราเอง ^^
#38
^^ ลืมแนะนำตัวอ่ะคะ อิอิ
#39
พระแม่สรัสวตี
เทพเจ้าแห่งนักปราชญ์เทวีแห่งสติปัญญา และความงามการสร้างสรรค์สรรพสิ่ง การดนตรี และมนต์ตรา
 

    
[HIGHLIGHT=#000000][HIGHLIGHT=#d8d8d8]พระแม่สรัสวดี เทวีแห่งสติปัญญา คือชายาของพระพรมผู้สร้างโลก เป็นเทวีที่งดงามมาก พระฉวีวรรณผิวขาวผุดผ่องเปรียบดั่งไข่มุก หรือหิมะ อาภรณ์ผ้าไหมแก้วขาวพิสุทธิ์ประดับไปด้วยเพชร ระยิบระยับแวววาวสุกใสไปทั้งองค์ ประทับบนหงส์ และนกยูง มีเครื่องดนตรีที่ชื่อว่า "วีณา{พิณ}อันศักดิ์สิทธิ์ มีน้ำใจอันดีเป็นยิ่งนัก พระองค์ประทับอยู่ในวิมาน ณ สวรรค์ชั้นพรหม หรือพรหมโลก เป็นมหาเทวีหนึ่งในสามเทวีสูงสุด และยังเป็นบรมครูของพระคเณศท่านถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆให้แก่องค์พระพิฆเณศ ด้วย ในศาสนาพราหมณ์ -ฮินดู ในประเทศอินเดียยังมีแม่น้ำสายที่สำคัญมากที่ชื่อ สรัสวดี อีกด้วย [/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#000000][HIGHLIGHT=#d8d8d8]
[/HIGHLIGHT][/HIGHLIGHT]      
พระองค์ยังเป็นผู้ให้กำเนิดบทสวดมนต์บทแรกของจักรวาล ชาวฮินดูยังนับถือพระสรัสวดีเป็น เทวีแห่งเวทมนต์ คาถา และการประกอบพิธีกรรม ฉะนั้น หากมีการประกอบพิธีบูชาเทพหรือเทศกาลใดๆแล้ว ถ้าอัญเชิญ พระพิฆเนศ  เป็นเทพองค์แรกก็จะทำให้พิธีนั้นๆเกิดสิริมงคลขึ้น และการอัญเชิญ พระแม่สรัสวตี ร่วมด้วย ก็ย่อมบันดาลให้การสวดมนต์และการประกอบพิธีกรรมทุกขั้นตอน ดำเนินไปอย่างศักดิ์สิทธิ์ มีพลังเข้มข้นและมีประสิทธิภาพสูงสุด

      พระสรัสวดีทรงโปรดการแสดงดนตรี การบรรเลงบทเพลง การร้องเพลงถวาย การอ่านบทกวีถวาย ฯลฯ ผู้บูชานิยมเปิดเพลง หรือบรรเลงดนตรีที่มีท่วงทำนองประณีตงดงามถวายแด่พระองค์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรีประเภทใดท่านก็โปรดทั้งสิ้น เช่น พิณ จะเข้ ขิม ไวโอลีน กีต้าร์ เปียโน กลอง ฯลฯ

    รูปภาพของพระแม่สรัสวดี หรือ สรัสวตี นั้นจะสังเกตได้ง่ายที่สุดคือ พระองค์จะทรงเครื่องดนตรีที่เรียกว่า วีณา (จะเข้ของอินเดีย )อยู่เสมอ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการดนตรี ศิลปะทุกแขนง และการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ฯลฯ พระหัตถ์อีกข้างจะถือ คัมภีร์ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความรู้ ปัญญา การเขียน การอ่าน การศึกษา และพระหัตถ์อีกข้างทรงถือ ลูกประคำ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการสวดมนต์ การภาวนา การทำสมาธิ การประกอบพิธีกรรม ฯลฯ

     บางลัทธิ บางคติที่มีการวาดรูปพระสรัสวตีเพื่อการบูชานั้น อาจจะวาดให้พระองค์ทรง ขลุ่ย สังข์ คันศร คฑา บ่วง ลูกบด ประตัก ฯลฯ แล้วแต่จิตรกรจะสร้างสรรค์ขึ้น สำหรับพาหนะของพระแม่สรัสวดีคือ หงษ์ และ นกยูง เน้นที่สีขาว บางครั้งก็ทรงประทับบนดอกบัวสีขาว










#40
สวัสดีค่ะ ครอบครัว HM
ชื่อถุงแป้งค่ะ ฝากเนื้อฝากตัว ฝากหัวใจและแรงศรัทธาที่มีต่อองค์เทพเทวาและเทวีด้วยนะคะ
เพิ่งมาเจอเว็บนี้ เป็นเว็บที่ดีมากเลยค่ะ ดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆ ที่ได้รู้จักเว็บนี้
ยังไงมีอะไรก็แนะนำ เข้ามาพูดคุยกันนะคะ