Loader
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Messages - visarut

#41
งามครับ
แต่อยากดูภาพใหญ่ๆๆอ่คะรับ
#42
ศิวะราตรี



คาถา บทสวดมนต์บูชาพระศิวะ
หมายเหตุ : ก่อนการสวดบูชาพระศิวะนั้น จะต้องสวดมนต์ต่อพระพิฆเนศก่อนเสมอแต่บางตำราก็กล่าวว่าพระคเณศพึงพอใจที่จะให้ผู้บูชากล่าวคำสรรเสริญพระบิดาและพระมารดาของท่านก่อนเพราะท่านเป็นเทพที่มีความกตัญญูสูง ส่วนจะเลือกแบบใดนั้นก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านครับ
บทสวดมนต์พระศิวะมีอยู่มากมาย ดังตัวอย่างต่อไปนี้
(เลือกสวดบทใดบทหนึ่งหรือหลายๆบท)
1. โอม นะมัส ศิวาย
2. โอม นะมัส ศิวายะ
3. โอม นะมัส ศิวายะ นะมะฮา
- บทอัญเชิญ
4. โอม อิศราเม ศิวะเทวัญจะ ภะวันตุเม
ทุติยัมปิ อิศราเม ศิวะเทวัญจะ ภะวันตุเม
ตะติยัมปิ อิศราเม ศิวะเทวัญจะ ภะวันตุเม
5. โอม กรรมปูระเคารัม กรุณาวะตารัมสัมสาระสารัม ถุชะเคนทะระหารัม
สะทะวะสันตัม หฤทะยาระวินเทภะวัมภะวานี สาหิตัม นะมามิ
6. โอม นะมัส ศิวายะ จะ นะมัสศิวารายะจำเปนะ เคารา นะสีธะ กายายะ
ตันตะ ปูระณะ กาวะนะสิ จะ กายอนะมัสศิวารายะ ยะยอ กัตตุกะรี
คิกากัง คะมะติ จัตติตา ยอเนสิสะกุลธะรา ยายะ นะมัสศิวาระยะ
อาระคัม สัมปุญญะยัม สีวิรุธตะรัยยะเก มะเหยเต
7. โอม นะมัส ศิวายะจำเป นะเคารา นะสีระกายายะ
กัตตะปูระณะ กาวะนะสี จะกายอนะมัสสิ วายะยายะ จะนะมัสสิ วายะยอ
กัตุกรี คิกากัง คะมะติวัตติตายายะมะมิกุณธะลายอ นะมัสสิวายายะ จะนะมัสสิวายาอะระคัม สัมปุญญัม สีวิรุส ตะไรยยะเก กาเม จะมะเหยะเต

คำแปล : พระศิวะมีรูป 8 รูป ที่เรารับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัส
รูปหนึ่งคือ น้ำ..ธาตุแรกที่พระพรหมได้สร้างขึ้น
รูปสองคือ ไฟ..ในพิธีถวายไฟแด่เทพ
รูปสามคือ พราหมณ์..ผู้ประกอบยัญพิธี
รูปสี่คือ พระจันทร์ รูปห้าคือ พระอาทิตย์
รูปหกคือ อากาศ..ที่แทรกซึมอยู่ทั่วจักรวาล
รูปเจ็ดคือ ดิน..อันเป็นเชื้อพื้นฐานสำหรับทุกสิ่ง
รูปแปดคือ ลม..ที่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายใช้หายใจ
ขอพระศิวะนั้นโปรดปกปักรักษาพวกท่านด้วยเถิด



โอม นะ-มะ-ศิ-วา-ยะ
นาเคนทะระ หารายะ ตะริโลจะนายะภัสมางคะ ราคายะ มะเหศะวะรายะ
นิตยายะ ศุทะธายะ ทิคัมพะรายะตัสไม นะการายะ นะมะศิวายะ
คำแปล : พระศิวะ ผู้มีสร้อยพระศอคือพระยานาค มีสามพระเนตร ทรงใช้ขี้เถ้าทาพระวรกายเป็นพระเป็นเจ้าสูงสุด ทรงคงอยู่ชั่วนิรันดร์ ผู้บริสุทธิ์หมดจด ผู้ใช้ทิศเป็นเครื่องนุ่งห่มอักษร "นะ" คือพระศิวะ ข้าพเจ้าขอไหว้พระศิวะพระองค์นั้น
มันทากินี สะลิละ จันทะนะ จะระจิตายะนันทิศะวะระ ประมาถะ มะเหศะวะรายะ
มันทาระปุษปะ พะหุปุษปะ สุปูชิตายะตัสไม มะการายะ นะมะศิวายะ
คำแปล : พระศิวะ ผู้ทรงลูบไล้พระองค์ด้วยน้ำจากแม่น้ำคงคาสวรรค์และกระแจะจันทน์ผู้เป็นเจ้าสูงสุดควบคุมพระโคนนทิและหมู่ภูติผีปีศาจผู้เป็นบริวาร ผู้ได้รับการบูชาด้วยดอกมันทาระและดอกไม้มากมายอักษร "มะ" คือพระศิวะ ข้าพเจ้าขอไหว้พระศิวะพระองค์นั้น
ศิวายะ เคารีวัทนาพะชะวะ รินทะสูระยายะ ทักษะ ธะวะระ นาศะกายะ
ศรีนีละกัณทายะ วะรึษะ ธะวะชายะตัสไม ศิการายะ นะมะศิวายะ
คำแปล : พระศิวะ ผู้เป็นความดีความหลุดพ้นผู้ทำให้พระพักต์ที่งามเหมือนดอกบัวของพระนางปารวตีเบิกเบานเช่นเดียวกับที่พระอาทิตย์ทำให้กลุ่มดอกบัวบานผู้ทำลายพิธีบูชายัญของท้าวทักษะ ผู้มีพระศออันงดงามเป็นสีน้ำเงิน ผู้มีรูปพระโคอยู่ในธงประจำพระองค์อักษร "ศิ" คือพระศิวะ ข้าพเจ้าขอไหว้พระศิวะพระองค์นั้น
วะสิษฐะ กุมโภทะภะวะ เคาตะมารยะมุนีนะทะระ เทวาระจิตะ เศขะรายะ
จันทราระกะ ไวศะวานะระ โลจะนายะตัสไม วาการายะ นะมะศิวายะ
คำแปล : พระเศียรของพระศิวะได้รับการบูชาโดยมุนีเลิศ คือ ฤาษีวสิษฐะ ฤาษีอคัสตยะ ฤาษีเคาตมะ เป็นต้นพวกเทวดามีพระอินทร์ พระอาทิตย์ พระจันทร์ เป็นต้น"วา" คือพระศิวะ ข้าพเจ้าขอไหว้พระศิวะพระองค์นั้น
ยักษะ สะวะรูปายะ ชะตาธะรายะปินากะ หัสตะตายะ สะนาตะนายะ
ทิวะยายะ เทวายะ ทิคัมพะรายะตัสไม ยะการายะ นะมะศิวายะ
คำแปล : พระศิวะ ผู้ทรงอยู่ในรูปของยักษ์ ทรงมุ่นมวยผมทรงธนูปินากะที่เป็นพระเป็นเจ้าที่มีมาแต่ดั้งเดิมอยู่ในสวรรค์ ที่เป็นเทพผู้เปลือยพระวรกายอักษร "ยะ" คือพระศิวะ ข้าพเจ้าขอไหว้พระศิวะพระองค์นั้น
ขอพรตามประสงค์ จากนั้นกล่าวคำว่า โอม ศานติ ศานติ ศานติ เพื่อขอความสงบสุขแก่สรรพชีวิต






แถมครับ
#43
พระนามแห่งพระศิวะ
พระเทวาธิเทวะพระองค์ทรงเป็นผู้ยิ่งใหญ่พระผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่างพระผู้เกิดก่อนทุกสิ่งทุกอย่าง พระผู้ที่ไม่มีวันเกิดและตายพระองค์ทรงมีพระนามมากมายแต่ละพระนามนั้นมีความหมายในตัวเองพระนามของพระมหาเทวะที่กล่าวถึงในโลก คือ
๑.พระสดาศิวะ (พระผู้เป็นใหญ่แห่งพระศิวะเทพ)
๒.พระหะระ (พระผู้ทำลายล้าง)
๓.พระมหารุทร (เทพเจ้าแห่งการทำลายล้าง)
๔.พระศังกร (เทพเจ้าผู้มีน้ำพระทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตาสงสาร)
๕.พระปุษกร (พระผู้ทรงทำนุบำรุง)
๖.พระปุษกร (พระผู้ทรงทำนุบำรุง)
๗.พระอรธิคะมยะ (พระผู้ทรงเห็นใจต่อการอ้อนวอนของผู้กราบไหว้บูชา)
๘.พระสดาจาร (เทพเจ้าแห่งการกระทำอันสูงสุด)
๙.พระสรวะ (เทพเจ้าผู้อยู่ทั่วไปทุกหนแห่ง,พระผู้ประทานความผาสุข)
๑๐.พระมเหศวร (เทพเจ้ายิ่งใหญ่)
๑๑.พระจันทรปีฑ (พระผู้มีพระจันทร์เสี้ยวเป็นมงกุฏ)
๑๒.พระจันทรเมาลี (พระผู้มีพระจันทร์เสี้ยวอยู่บนเมาลี)
๑๓.พระวิศวัมกเรศวร (เทพเจ้าแห่งแผ่นดิน)
๑๔.พระกาปาลิน (เทพเจ้าผู้ถือหัวมนุษย์ในพระหัตถ์)
๑๕.พระนีลโลหิต (พระผู้มีโลหิตสีน้ำเงิน)
๑๖.พระฑยานาธาร (เทพเจ้าแห่งการทำสมาธิกรรมฐาน)
๑๗.พระอัปริจเจทยะ (พระผู้มีแต่ความลึกลับ)
๑๘.พระโคริภัตรฤ (พระสวามีแห่งพระแม่โครีอุมา)
๑๙.พระคเณศวร (เทพเจ้าแห่งบริวารคณะ)
๒๐.พระอัษฏมูรติ (พระผู้มีรูปร่างทั้ง ๘ ประการแห่งจักรวาล)
๒๑.พระวิศวมูรติ (พระผู้มีรูปร่างแห่งจักรวาล)
๒๒.พระตริวรคุ (พระผู้ให้มีการสร้างจักรวาลขึ้นมา)
๒๓.พระเทวะเทวา (เทพเจ้าแห่งเทวะทั้งหลาย)
๒๔.พระตริโลจนะ,พระตรีเนตร (พระผู้มีดวงตาสามดวง)
๒๕.พระวามเทวะ (เทพเจ้าผู้สมควรแก่การกราบไหว้บูชา)
๒๖.พระมหาเทวะ (เทพเจ้าผู้เป็นใหญ่)
๒๗.พระปตุ (พระผู้ประทานซึ่งผลบุญทั้งหลาย)
๒๘.พระทฤฑะ (พระผู้มีความมั่นคงไม่โอนเอน)
๒๙.พระวิศวรูป (พระผู้มีหลายรูปร่างลักษณะ)
๓๐.พระวิรูปากษะ (พระผู้มีดวงตาเป็นเลขคี่)
๓๑.พระวาคิศ (เจ้าแห่งวาทศิลป)
๓๒.พระสุรสัตตัม (เทพเจ้าดีเลิศที่สุด)
๓๓.พระฤษางคะ (เทพเจ้าผู้มีธงเป็นรูปวัว)
๓๔.พระวฤษวาหนะ (พระผู้มีวัวเป็นพาหนะ)
๓๕.พระอีศ (พระผู้เป็นใหญ่เหนือความยิ่งใหญ่ทั้งหมด)
๓๖.พระพินาคิ (พระผู้ทรงคันศรอันยิ่งใหญ่)
๓๗.พระจิรันตนะ (พระผู้เป็นอมตะ)
๓๘.พระตโมหระ (พระผู้ขจัดความโง่เขลาให้หมดสิ้นไป)
๓๙.พระมหาโยคิน (พระโยคียิ่งใหญ่)
๔๐.พระโคปัตฤ (พระผู้ให้ความคุ้มครองรักษา)
๔๑.พระพรหมมาทหฤต (พระดวงจิตแห่งจักรวาล)
๔๒.พระชฏิน (พระผู้มีเกษาเป็นลูกลอน)
๔๓.พระกาลกาล (พระผู้ประหารความตาย)
๔๔.พระกฤตติวาสัส (พระทรงนุ่งห่มด้วยหนังช้าง)
๔๕.พระปราณตาตมัก (พระวิญญาณแห่งผู้ที่มีความจงรักภักดีทั้งหมด)
๔๖.พระปุรุษ (พระวิญญาณยิ่งใหญ่แห่งบรรพบุรุษ)
๔๗.พระชุษยะ (พระผู้มีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา)
๔๘.พระทิวยายุช (พระผู้มีอาวุธอันยิ่งใหญ่)
๔๙.พระสกันฐะคุรุ (พระอาจารย์แห่งพระกุมารสกันฐะ)
๕๐.พระปรเมษทิน (พระผู้ประทับอยู่บนยอดเขาสูงสุด)
๕๑.พระอนาทิมาธยะนิธยะนิธน (พระผู้ที่ไม่มีการเกิดเริ่มต้น ตอนกลางหรือการสิ้นสุด)
๕๒.พระคินีศทิม (เทพเจ้าแห่งภูเขาทั้งหมด)
๕๓.พระคิริชาธวะ (พระสวามีแห่งพระแม่ปราวตี)
๕๔.พระกุเบรพันธุ (พระญาติแห่งพระพระกุเบร)
๕๕.พระศรีกันฑะ (แห่งพระศอ อันมีแสงเป็นประกาย)
๕๖.พระโลกาวรโรตมะ (พระผู้มีวรรณะสูงสุดกว่าวรรณะทั้งหมดในโลก)
๕๗.พระสมาธิเวทยะ (พระผู้เป็นใหญ่แห่งการทำสมาธิรำลึกถึง)
๕๘.พระนีลกัณฑะ (พระผู้มีพระศอสีฟ้า)
๕๙.พระวิศาลากษะ (พระผู้มีดวงเนตรอันกว้างใหญ่)
๖๐.พระสุเรศ (เจ้าแห่งเทพเจ้าทั้งหมด)
๖๑.พระสูรยตามัน (พระผู้เผาไหม้ด้วยแสงอาทิตย์)
๖๒.พระธรรมธยักษะ (พระประธานแห่งคุรธรรม)
๖๓.พระกัษมาเกษตร (เทพเจ้าผู้มีพระทัยกว้างใหญ่ด้วยการให้อภัย)
๖๔.พระภัควัต (เทพเจ้ายิ่งใหญ่)
๖๕.พระภัคเนตรภิต (พระผู้ควักดวงตาของฤษี ภัคคะ)
๖๖.พระปศุปติ (เทพเจ้าแห่งความเมตตาและพระวิญญาณสูงสุด)
๖๗.พระปรันตัป (พระผู้ทำลายข้าศึกศัตรู)
๖๘.พระทยากร (พระผู้เต็มเปี่ยมด้วยความสมเพท)
๖๙.พระกปรทิน (พระผู้มีเกษาเป็นลูกลอน)
๗๐.พระกามศาสัน (พระผู้ทรงลงโทษพระกามเทพ)
๗๑.พระสัมศานนิสัย (เจ้าผู้อาศัยอยู่ ณ เชิงตะกอน)
๗๒.พระมหากรัตฤ (พระผู้สร้างจักรวาล)
๗๓.พระมเหษธิ (แพทย์ที่ยิ่งใหญ่)
๗๔.พระอัมฤตปะ (พระผู้ดื่มน้ำอมฤต)
๗๕.พระมหาเตชัส (พระผู้มีความสง่ายิ่งใหญ่)
๗๖.พระมหาธยุติ (พระนักรบยิ่งใหญ่)
๗๗.พระเตโชมัย (แห่งแสงสว่างยิ่งใหญ่)
๗๘.พระอัมฤตมัย (พระผู้เต็มเปี่ยมด้วยน้ำอมฤต)
๗๙.พระอันนมัย (แห่งอาหารธรรมชาติ)
๘๐.พระสุธาปติ (เทพเจ้าแห่งความยุติธรรม)
๘๑.พระปุราตัน (เทพเจ้าผู้มีความยิ่งใหญ่กว่าธรรมชาติ)
๘๒.พระนิติ (แห่งความยุติธรรม)
๘๓.พระศุทราตมัน (พระวิญญาณบริสุทธิ์)
๘๔.พระอาชาตศัตรู (ไม่มีศัตรูใดที่มีความยิ่งใหญ่ไปกว่าพระองค์ในจักรวาล)
๘๕.พระโลกัณกร (พระผู้สร้างจักรวาล)
๘๖.พระเวทกร (พระผู้ให้กำเนิดพระเวททั้งหมด)
๘๗.พระสนาตัน (พระผู้เป็นอมตะ)
๘๘.พระมหรษี (นักพรตยิ่งใหญ่)
๘๙.พระวิศวทปติ (พระผู้ให้แสงสว่างแก่จักรวาล)
๙๐.พระสุกฤต (พระผู้สมควรแก่การเคารพบูชา)
๙๑.พระสรวัท (พระผู้ประทานทุกสิ่งทุกอย่าง)
๙๒.พระพรหมสฤก (พระผู้สร้างพระพรหม)
๙๓.พระคงคาปละโวทัก (พระผู้ปล่อยให้แม่น้ำคงคาไหลลงสู่โลก)
๙๔.พระคงคาธร (เทพเจ้าแห่งแม่น้ำคงคา)
๙๕.พระวิชัตตาตมัน (พระผู้เอาชนะตนเอง)
๙๖.พระวิเธยาตมัน (พระผู้ควบคุมตนเอง)
๙๗.พระภูตวาหนะสวรธิ (พระผู้มีบริวารและพาหนะเป็นภูตปีศาจ)
๙๘.พระคณะกาย (ด้วยทรงมีบริวารคณะเป็นผู้คุ้มกัน)
๙๙.พระกามบาล (พระผู้ปกป้องแห่งความต้องการทั้งหลาย)
๑๐๐.พระภัสโมทธูลิตวิฌหะ (พระผู้ทาถูองค์ด้วยขี้เถ้าจากเชิงตะกอน)
๑๐๑.พระภัสมะปรียะ (พระผู้ทรงโปรดแห่งขี้เถ้าจากเชิงตะกอน)
๑๐๒.พระสมาวรัต (พระผู้ทรงหมุนวงล้อแห่งความมั่นคงของโลก)
๑๐๓.พระอนิวฤตตาตมา (พระผู้มีดวงวิญญาณที่ไม่รวนเรเปลี่ยนแปลง)
๑๐๔.พระอกลมัย (พระผู้ไร้บาป)
๑๐๕.พระจตุรพหุ (พระผู้มี 4 กร)
๑๐๖.พระทุราสัท (พระผู้ยากแก่การเข้าถึง)
๑๐๗.พระทุรคม (พระผู้ยากแก่การข้ามพ้นได้)
๑๐๘.พระทุรคะ (พระผุ้ยากแก่การเข้าถึง)
๑๐๙.พระสรวายุธวาศารัท (พระผู้มีความชำนาญในการใช้อาวุธทั้งหมด)
๑๑๐.พระศุภางคะ (พระผู้มีรูปร่างอันเป็นมงคล)
๑๑๑.พระโลกสารังคะ (พระผู้เป็นสาระสำคัญแห่งจักรวาล)
๑๑๒.พระอภีรุ (ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย)
๑๑๓.พระสาธุสาทยะ (พระผู้จะสามารถเข้าถึงได้ด้วยการบำเพ็ญสมาธิเท่านั้น)
๑๑๔.พระริปุชีวหร (พระผู้ทำลายล้างศัตรู)
๑๑๕.พระมหาหรัท (น้ำวกวนลึก)
๑๑๖.พระวฤนทารวันทิต (พระผู้ได้รับการสรรเสริญบูชาจากเทพเจ้าทั้งหมด)
๑๑๗.พระวยาตรจรมามพร (พระผู้ทรงนุ่งห่มด้วยหนังเสือ)
๑๑๘.พระวยาลิน (พระผู้มีงูพันพระองค์)
๑๑๙.พระศัตรุชิต (พระผู้ปราบศัตรูให้หมดสิ้นไป)
๑๒๐.พระอาศรัม (พระเวทีแห่งชีวิต)
๑๒๑.พระวายุวาหนะ (ด้วยมีพระวายุเป็นพาหนะ)
๑๒๒.พระสัตยะพร (อุทิศเพื่อความดีและความซื่อสัตย์)
๑๒๓.พระอานันทะ (พระผู้ประทานพร)
๑๒๔.พระทังฑะ (พระผู้งลงโทษ)
๑๒๕.พระทัมยิตฤ (พระผู้อนุรักษ์)
๑๒๖.พระมหามายา (แห่งพระมายายิ่งใหญ่)
๑๒๗.พระวีตราคะ (พระผู้ไร้ตัณหาราคะ)
๑๒๘.พระกัมเลษัณ (พระผู้มีดวงเนตรดอกบัว)
๑๒๙.พระสรวกรมาลัย (ศูนย์รวมแห่งพิธีกรรมทางศาสนาทั้งหมด)
๑๓๐.พระมงคลยะ (เทพเจ้าแห่งมงคล)
๑๓๑.พระที่รฆตัปส์ (แห่งการบำเพ็ญพรตอันยาวนาน)
๑๓๒.พระปรัมตัปส (เทพเจ้าแห่งการทำกรรมฐานสูงสุด)
๑๓๓.พระสรวปาปหร (พระผู้ทำลายล้างบางทั้งหลาย)
๑๓๔.พระหระ (พระผู้กำจัดบาปทั้งหมด)
๑๓๕.พระกมัณฑลุธร (เทพเจ้าผู้ทรงถือหม้อน้ำมนต์)
๑๓๖.พระกาลโยคิน (เทพเจ้าผู้รวบรวมเวลาเอาไว้)
๑๓๗.พระมหานาท (พระผู้มีเสียงอันดัง)
๑๓๘.พระมโหสาหะ (แห่งความกระตือรือร้นยิ่งใหญ่)
๑๓๙.พระปุรันทร (พระผู้ทำลายเมืองทั้งหลายที่คล้ายเมืองสวรรค์)
๑๔๐.พระมหาสุทธิ (แห่งความฉลาดยิ่งใหญ่)
๑๔๑.พระมหาวีระ (แห่งความกล้าหาญยิ่งใหญ่)
๑๔๒.พระมโนคติ (พระผู้มีความนึกคิดได้กระจ่างแจ้งรวดเร็ว)
๑๔๓.พระมันฤตยะปรียะ (พระผู้ทรงให้กำเนิดการเต้นรำ)
๑๔๔.พระยุคารวตะ (ต้นเหตุแห่งการกำเนิดยุคทั้งหลาย)
๑๔๕.พระอิษฏะ (พระผู้สมควรแก่การกราบไหว้บูชา)
๑๔๖.พระสุรคณะ (พระผู้มีเทวะทั้งหมดเป็นบริวาร)
๑๔๗.พระอปามนิธิ (เทพเจ้าแห่งน้ำ)
๑๔๘.พระทรุชัย (ไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะพระองค์ได้)
๑๔๙.พระวิทเยศ (เทพเจ้าแห่งบทโคลงทั้งหมด)
๑๕๐.พระวาตรูป (แห่งลม)
๑๕๑.พระตุหะ (เอกลักษณ์ด้วยพรการัตติเกยะ)
๑๕๒.พระวีเรศวร (เทพเจ้าแห่งนักรบทั้งหลาย)
๑๕๓.พระคุรุ (พระอาจารยิ่งใหญ่)
๑๕๔.พระตรีศูลิน (เทพเจ้าผู้ทรงมีตรีศูลเป็นอาวุธ)
๑๕๕.พระศิวาลัย (เทพเจ้าผู้มีที่ประทับอันเป็นมงคล)
๑๕๖.พระลลาฏากษะ (พระผู้มีดวงตาอยู่ระหว่างหน้าผาก)
๑๕๗.พระวีตตะภัย (พระผู้ไม่มีความหวาดกลัว)
๑๕๘.พระธเยย (พระผู้มีค่าควรแก่การนั่งกรรมฐานรำลึกถึง)
๑๕๙.พระปราณวะ (พระผู้ริเริ่มคำสวด โอม)
๑๖๐.พระชันมาธิป (เทพเจ้าแห่งการให้กำเนิด)
๑๖๑.พระวิภุ (พระผู้อยู่ทั่วไปทุกหนแห่ง)
๑๖๒.พระลักถาคมปารัค (เทพเจ้าผู้เป็นเจ้าแห่งพระเวททั้งหมด)
๑๖๓.พระฤษี (นักพรต)
๑๖๔.พระพรหมณ์ (พราหมณ์ยิ่งใหญ่)
๑๖๕.พระชันมัมฤตยุราติค (พระผู้อยู่เหนือการเกิดแก่เจ็บและตาย)
๑๖๖.พระอนาทยันตะ (พระผู้ไม่เคยมีการเกิดและการตาย)
๑๖๗.พระคายตรีวัลลัภ (พระผู้ทรงโปรดต่อการท่องสวดมนตร์คายตรี)
๑๖๘.พระสุรศัตรูหา (พระผู้ประหารศัตรูทั้งหลายของเทพ)
๑๖๙.พระอิษฏเนมะ
๑๗๐.พระมุกันทะ (พระผู้ประทานพรให้พ้นจากบาปหรือทรงเป็นเอกลักษณ์ด้วยพระวิษณุเทพ)
๑๗๑.พระวิคตัชวร (ปราศจากความเจ็บไข้)
๑๗๒.พระสวยัมเชโยติ (พระผู้ทรงมีแสงสว่างในพระองค์เอง)
๑๗๓.พระอจัมเจล (พระผู้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง)
๑๗๔.พระกปิลัศมัศรุ (พระผู้มีเคราสีน้ำตาล)
๑๗๕.พระภาลเนตร (พระผู้มีดวงตาบนหน้าผาก)
๑๗๖.พระตรยีตนุ (พระผู้มีพระเวทประกอบเป็นรูปร่าง)
๑๗๗.พระมหานีติ (พระผู้ทรงความยุติธรรมยิ่งใหญ่)
๑๗๘.พระนาเกศ (พระผู้เป็นเจ้าแห่งสวรรค์)
๑๗๙.พระพฤหัทครถะ (พระผู้มีท้องอันกว้างใหญ่)
๑๘๐.พระนาคหารัธฤก (พระผู้ทรงสวมใส่เครื่องประดับแห่งงู)
๑๘๑.พระไวรัญจยะ (พระโอรสแห่งพระพรหม)
๑๘๒.พระอวตัมภุ (พระผู้ให้กำเนิดพระองค์เอง)
๑๘๓.พระอนิรุทร (ไม่มีสิ่งใดขัดขวางพระองค์ได้)
๑๘๔.พระอจล (ไม่เคลื่อนไหว)
๑๘๕.พระโลหิต (สีแดง)
๑๘๖.พระตนุนปาต (เทพเจ้าแห่งไฟ)
๑๘๗.พระพฏษัทศวะ (เทพเจ้าแห่งลม)
๑๘๘.พระตมิศรหา (พระผู้ทำลายความมืด)
๑๘๙.พระนิฑาคหะ (แห่งฤดูร้อน)
๑๙๐.พระเมฆภักษะ (พระผุ้ทำร้ายก้อนเมฆร้าย)
๑๙๑.พระศิษิราค (แห่งฤดูร้อน)
๑๙๒.พระปาวัน (แห่งการบวงสรวงบูชา)
๑๙๓.พระโฆร (พระผู้มีมีความหวาดกลัว)
๑๙๔.พระจตุรเวท (แห่งพระเวททั้งสี่)
๑๙๕.พระสหสรมูรธน (เทพเจ้าผู้มีหนึ่งพันเศียร)
๑๙๖.พระเทเวนทร (เทพเจ้าแห่งเทวะทั้งหลาย)
๑๙๗.พระเทวอสุรคุรุ (พระอาจารย์แห่งเทพและอสูร)
๑๙๘.พระเทวเทพอสุรนมัสฤต (เทพเจ้าผู้ทรงได้รับการเคารพบูชาเทพและอสูร)
๑๙๙.พระเทวตาตมา (พระวิญญาณแห่งเทพเจ้าทั้งหมด)
๒๐๐.พระติชิ (เทพเจ้าแห่งไฟ)
๒๐๑.พระพรหมจาริน (พระเจ้าแห่งการพราหมณ์)
๒๐๒.พระลึงคาธยักษะ (เทพเจ้าแห่งพระสัญลักษณ์ลึงค์)
๒๐๓.พระยุคาปหะ (พระผู้ทำลายกาลเวลา)
๒๐๔.พระฆฤณารัณวะ (พระสมุทรแห่งความเมตตา)
๒๐๕.พระวิโศก (ปราศจากความทุกข์โศก)
๒๐๖.พระโศกนาศัน (พระผู้ทำลายความโศก)
๒๐๗.พระตรีโลกบาล (เทพเจ้าแห่งสามโลก)
๒๐๘.พระอโรกษัช (เอกลักษณ์ด้วยพระวิษณุเทพ)
๒๐๙.พระปรศิวะ (พระศิวะเทพยิ่งใหญ่)
๒๑๐.พระไกลาศศิธราวาสิน (พระผู้ประทับอยู่บนยอดเขาไกลาส)
๒๑๑.พระทรุหิณ (เอกลักษณ์ด้วยพระพรหม)
๒๑๒.พระสรวารถปริวรตัก (ต้นเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงของทุกสิ่งทุกอย่าง)
๒๑๓.พระสหัสรารจี (แห่งรัศมีพันสาย)
๒๑๔.พระอรถานรก (แห่งโชคดีและโชคร้าย)
๒๑๕.พระนิษกัณฏัก (เทพเจ้าผู้ไร้บัลลังก์)
๒๑๖.พระสาตตวิก (พระผู้มีความรักเอ็นดู)
๒๑๗.พระฤตตาคม (พระผู้สร้างอาคม)
๒๑๘.พระอคมปิต (พระไร้ความหวาดกลัว)
๒๑๙.พระสุขทะ (พระผู้ให้ความผาสุข)
๒๒๐.พระอัปราชิต (พระผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ผู้ใดเลย)
๒๒๑.พระศรุติประกาศ (พระผู้เผยแพร่พระเวท)
๒๒๒.พระภูศายะ (พระผู้ประทับอยู่บนพื้นดิน)
๒๒๓.พระกาลหานิ (พระผู้ทำลายกาลเวลา)
๒๒๔.พระศานติปรายัณ (พระผู้ประทานความสงบสุข)
๒๒๕.พระศุภัท (พระผู้ประทานซึ่งโชคลาภยิ่งใหญ่)
๒๒๖.พระวิฆันนาคัน (พระผู้ทำลายอุปสรรคร้ายทั้งหมด)
๒๒๗.พระศุลิน (พระผู้ถืออาวุธร้ายแรง)
๒๒๘.พระมุณฑิน (พระผู้มีศีรษะโล้น)
๒๒๙.พระอมฤตยุ (พระผู้ไม่มีวันตาย)
๒๓๐.พระสรวัทฤก (พระผู้ทรงเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง)
๒๓๑.พระสิงหะ (เทพเจ้าแห่งสิงโต)
๒๓๒.พระมหามณี (แห่งเพชรน้ำเอก)
๒๓๓.พระอนุตตมะ (พระผู้ดีเลิศที่สุด)
๒๓๔.พระมหาภูช (พระผู้มีพระกรยิ่งใหญ่)
๒๓๕.พระสรวโยนิ (แห่งต้นกำเนิดของทุกสิ่งทุกอย่าง)
๒๓๖.พระสตุติปรียะ (พระผู้ทรงโปรดด้วยการสรรเสริญบูชา)
๒๓๗.พระนิตยสุนทร (เทพเจ้าผู้มีความงามเป็นอมตะ)
#44
อยากจะดูภาพงานตอนไหว้ครูอ่ะครับลเอามาลงด้วยน่ะครับ
#45
ที่นี้เป็นศุนย์รวมเทวรูปอ่ะป่าวครับเนี่ย
สวยอ่ะครับ

อยากทราบว่า องค์ศิวะนาฏราช มูลค่าเท่าไรเหรอครับที่เนื้อมรมมันปูอ่ะครับ
#46
มีเพิ่มเติมครับ   กล้องอาจไม่ชัดน่ะครับเพราะใช้มือ
ถ้ารูปที่ชัดมีขนาดใหญ่อ่ะครับโหลดช้าเน็ตเน่าเลยเอาแบบนี้มาให้
ทำใจน่ะครับขออภัยมาน่ะที่นี้ด้วย
















#47
ฮย่างงามเลยล่ะครับ ผมถามเค้าประมาณ 350RM ครับ เป้นพระมุรุกกัน ครับ ด้านในเป้นกระดาษด้านนอกเป้นดินพอกครับ
ข้างล่าง ด้านขาว(ของพระมุรุกกัน) เป้นพระแม่มารีมาอัมมัน
ด้านซ้ายเป็นพระพิคเศ
#48
น่าจะบูชามานมนานแล้วน่ะครับ
ด้วยศรัทธา สาธุน่ะครับ
#50
มีซุ่มคนไทยด้วย อ่ะครับ



ที่ littel india เจอคนไทยเยอะเหมือนกันน่ะครับ
ทักกันบ้าง  คนที่ทักผมก็ดีน่ะครับ  บอกหมดว่าอะไรถูก อะไรดี ตรงไหน ผมบอกหมด แต่เจอคนที่หยิ่งหน่อย อ่ะครับ ก็ให้เค้าเจอของเค้าเองอ่ะครับ แบบว่า ผมไปจนรู้อ่ะครับ
เช่น หม้อกาลัศ จากที่เค้าขาย กัน 40 RM ผมได้แค่ 18RM เองครับ
มีเจอแบบว่านุ่งขาวห่มขาว แบบอุบาสิกาด้วย ยืนขายพระห้อยพร้อมส้รอยอ่ะครับ ขายพวกอินเดีย เจออีตัวด้วยแต่เค้าเป้นคนนิสัยดีอ่ะครับทำงานเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ก้อเราดีกะเค้าเค้าทำอาชีพสุจริต(เล็กน้อย) อ่ะอิอิ
ครับ ค่อยโม้ต่อ ถามได้ครับ
#52
เมื่อ ไทปูซัม ที่ผ่านมา ได้มีโอกาส ไปร่วมงานที่ ปีนัง มาเลเซียครับ เลยมีโอกาสร่วมขบวนงานแห่ขอพระมุรุกัน ครับ และได้เทิลหม้อนมขึ้นเขาด้วยครับสนุกมากมายเลยครับ
#53
ซุ่มพระแม่ เก๋มากครับ นับถือเลย คิดได้ไงเนี่ย
เดวจะลองหามาทำบ้าง
แต่คงต้องไซพิเศษมากไม่รู้หาที่ไหน

ขอลอกเลียนแบบหน่อยน่ะครับ


ขอบคุณครับ
#54
ผมเป็นคนสงขลาครับ ขึ้นมาเที่ยวกรุงเทพช่วงปีใหม่และวันที่ 27 ธ.ค.53 ผมได้ไปสวดมนตืร่วมกับชาวฮินดู ณ วัดเทพมณเฑียนครับ จึงได้เจอท่านบัณฑิตครับท่านได้ชวนให้ร่วมพีมันตระ ภาวนาข้ามปี ในวันที่ 31 ธค 53 เวลา 21.00 -24.00 น.
จึงแจ้งมาเพื่อใครยังไม่ทราบถึงงานครั้งนี้ครับ
#56
เป็นเพลงพิณแคนอ่ะครับ เอาไว้เชิญเทพเวลาเขาจัด
นไหว้ครูประจำปี
แถวภาคกลางอ่ะครับจะมีมาก
#57
ขอบังอาจแนะนำนิสส นึ่งน่ะครับ
ไม่ว่ากาลเวลาใดๆเมื่อเรามีความประสงคืที่จะถวายของบุชาแด่องค์เทพเราสมควรจะวางบนภาชนะอย่างใดอย่างนึงเช่นถาดน่ะครับ หรือหาไม่ได้แล้วจริงๆก้ควรหาใบไม้มารองก็ได้ครับ  แต่ถ้าดีด้วยก็ล้างให้สะอาดด้วยน่ะครับ
#58
กล่าวว่าเมื่อพระศิวะต้องมีการประชุมเหล่าเทพ
ก้อจะสั่งให้พระอินทร์เป็นผู้เรียกประชุมโดยพระอินทร์จะมีพระมหาสังข์อยู่องค์หนึ่ง
ที่เมื่อเป่าออกมา
จะทั้งไปทั่วทั้งสามโลก
แม้แต่พระนารายณ์ที่บรรทมสินธุ์อยู่ก้อตื่นขึ้นมาเพราะด้วยเสียงสังข์ของพระอินทร์
ครับ
ดังนั้นจึงมีความเชื่อกันว่าเมื่อเราเป่าสังข์ในที่ที่มีงานเชิญเทวดาก้อจะเป่าสังข์เพื่อเชิญเทพมาชุมนุม ณ ที่นั้นครับ


ติ ชม กันได้น่ะครับ
#59
ของตอบเรื่องพระพุทธเจ้าครับ

ผมเคยอ่าน ทราบ บอกต่อ กันมากว่า
เมื่อคราวครั้งนึ่งเกิดความเสื่อมของศาสนาฮินดูเกิดขึ้นทำให้คนในศาสนาเกิดความแตกแยกกัน
พระนารายณ์เห็นดังนั้นจึงอวตาลเป็นพระพุทธเจ้าปางอภัยทานขึ้นและโปรดชาวศาสนาอินดูให้เกิดความรักใคร่กันมากขึ้นและเกิดความสามัคคีกันในที่สุดด้วยแกล้งต่อรูปลักษณ์ที่เป็นพระพุทธเจ้า

ของแจ้งอแค่นี้ครับใครมีไรเพิ่มเติมได้ครับ
หรือผิดก้อขอประทานอภัยมา ณ โอกาส นี้
(พระพุธทเจ้าปางประทานอภัยดูได้จาก วัดเทพมณเฑียน เสาชิงช้า ) ครับ


#60
มากมายจิงๆ
#61
นานๆเข้าคงจะเต็มโต๊ะน่ะครับ
แต่ของผมมีแค่องค์พ่อองค์เดียวเองคับ
#62
ผมอยากทราบประวัติพระศิวะปางนี้อ่ะครับ

ขอช่วยผู้รู้หน่อยน่าคร้าบ
#63
อยากทราบว่า ดอกไม่ที่นำมาร้อยอ่ะครับ
เป็นดอกไม้อะไรเหรอครับ
สวยงามดี
#64






พระขันธกุมาร , พระสกันย์<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:office:office" /><o:p></o:p>

        ศรี มุรุกา เจยะ มุรุกา เจยะ เจยะ มุรุกา ศรี มุรุกา วาซุ ทานิล เมนไม เปรา นัน วาซิยายิ กัตตุม วาดิเวลา ธีรามุม วีรามุม นาน เปราเว ธีรูวารัล ปูริไว ธีรุมุรุกา อนุทินัม อุนไน ปาดิทาเว อารุล ปูริไว ธีรุ อรุ มุรุกา อรุทัล ธันไน ธันทิดูไว เวรุ ธูไน อิลไล เวลาวาเน กัตติยาดู เปราเว วาซทิดูเวน กันดา มุรุกา กัตติเวลา เนนชัม วานากือ อุรุกาโด เนนชัม กานินธือ วาราโย ทิรุวารัล ธาราเว วารุวาเย ธีรุมุรุกา นี วารุวาเย เวลายุม มาลิลายุม วานากิดูเวน เวกาไม วานดือ อารุล ธารุไว
#65
ขอแนะนำน่ะครับ
ถ้าสังเกตง่ายๆเลยว่าเป็นใบนีมแน่นอนคือ
ต้องมีรอยยักข้างใบด้วยน่ะครับ
มีลักษณะคล้ายกับเขียวอ่ะครับ
#66
ดูเอาน่ะครับว่าโดนกันอ่ะป่าว
#67
ทำไม เขาเจิมกันแรงจังเลยอ่ะครับ
อิอิ
(ความเห็นส่วนตั๋วส่วนตัว)
#70
นี่เป็นคเนศจากอินเเดยครับ ทำจาดหินดำครับ  แต่ปีนี่เป็นปีที่ ๕ ที่เชิญท่านมา
ท่านพราหมณ์จึงสร้างเป็น ๕ พักตร์








#71
นี่เป็นพระพิคเนศที่สร้างขึ้นจากหินดำนำมาอินเดียโดยตรงเลยครับ
จะมีพิธีบูชาไฟท่านทุกปีครับ
ส่วนภพที่แสดงนี่เป็นปีที่ ๕ ปี ๕๒
ครับ

ปกติองคืท่านจะมีพระพักตร์เดียวครับ  แต่เพื่อฉลองครบ ห้า ปี ท่านพราหมณ์ ท่างสร้างเป้น ๕ พักตร์ครับ









#72
ก็ไม่ยากน่ะครับ ถ้าคุณมีผงแป้งน่ะครับก้ผสมน้ำน้อยก็ปั้นแล้วก็ทาบที่หน้าเทวรุปเลยครับ
แล้วก็วาดด้วยสีน้ำนี่และครับ




#73
มานานแล้วแต่อยากโพสใหม่อิอิ

ฝากเนื้อ ฝากตัว ด้วย น่า 

ja_dom2@hotmail.com





#75
เพิ่งประดิษฐ์พระอรรถนารีศวรครับ
คือว่าเทวรูปหลักของท่านเป็นรูปลักษณ์พ่อศิวะครับ แต่อย่าบูชาทั้งสองพระองค์ในช่วงระยะเวลาหหนึ่งเลยประดิษฐ์ท่านขึ้นค้าบ
เลย


ขออำนวยพรจากองค์พ่อและองค์แม่  และ องค์พิคเนศ  ส่งพรถึงท่านทุกคนคร้าบบบบ

http://www.upchill.com/image.php?id=582ceb55461edf788cc5dbf6fdd48535

http://www.upchill.com/direct/582ceb55461edf788cc5dbf6fdd48535.jpg

http://www.upchill.com/image.php?id=9d9b4fe469fe8e66bf51f620f176cd12

http://www.upchill.com/direct/9d9b4fe469fe8e66bf51f620f176cd12.JPG

http://www.upchill.com/image.php?id=91e64a2184a22bae0fc428f4625a1d79

http://www.upchill.com/direct/91e64a2184a22bae0fc428f4625a1d79.jpg

#76
ผมเปิดรุปที่ ๘ ไม่ได้ครับ (ข้างบน)



รูปสวยมากครับ
ขอบคุณครับ
ผมจะเอามาอัดเก็บไว้ครับ
#77
เคยไปซื้อที่มาเลครับ
๕ เมตร ๑๙๐ บาท
๗ เมตร ๒๖๐ บาท
๙ เมตร ๓๕๐ บาท
นี่คือราคาสำหรับผ้าเนื้อธรรมดาสีขาวแทบเขียวแดง คัรบ
ส่วนผ้ามัน ก้ออีกราคาครับ
แต่ผมไม่เคยเห็นที่พาหุรัดอ่ะครับ ( ทำไมตาถั่วจังเรา )
 


การน่งผ้านี้ไม่ถือว่าเป็นการเรียนแบบน่ะครับเพราะคนอินเดียจะนุ่งเวลาไม่วัดหรือตามเทศกาลสำคัญครับ
ส่วนการกำกับคาถาเวทนั้นผมไม่เคยทรายน่ะครับเพราะที่ท่านสอนมาก้อไม่ได้แนะเรื่องพระเวทครับการน่งผ้าครับ
#78
ยังมีท่านพราหมณ์อีกคนครับที่สอนผมแต่ผมไม่ค่อยจะคุยกะท่านเนืองจากท่านพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยจะได้เลยใช้ภาษามือสะมากกว่าครับ
ผมเรียกท่านสั้นๆว่า "ศรี เจ" "shri jai" ซึ่งหมายความว่าผู้ใจดีครับ

#79
เรื่องกาลสบริวาล ครับ
กาลัสบริวาลอาจจัดได้หลายอันดับครับ เปรัยบเสมือนการร่วมของเทพเพื่อตั้งในงานพิธีนั้นๆครับ
ส่วนกาลัสทิศ จะตั้งอยู่ตามหมุนของยันตราซึ่งเขียนขึ้นมาจากข้าวสาลี ผสมสีอ่ะครับ
#80
ชื่อท่านสวาฮาม

" คุรุ ศรี มหา  อสฺมนฺ มนฺตรา นฐฺยนฺ สวา  เอก สวาฮาม"
" KURU SHRI AUSMAN MATRA NUTTAYAN SAWA AEK SAWAHAM" ( "K. sawaham" )
(ผมไม่แน่จั้ยที่ว่าเอกสวาฮามนั้นคือหน้าที่ที่แกทำหรือป่าวคร้าบ)