............................
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
Show posts MenuQuote from: สวัสดีปีไหม่ครับ on April 05, 2010, 15:35:32
ภาพประกอบจาก horosworld.com
ประกาศสงกรานต์ปีพุทธศักราช 2553 (ไทยโพสต์)
ปีขาล (เทวดาผู้หญิงธาตุไฟ) โทศก จุลศักราช 1372 ทางจันทรคติเป็นอธิกมาส (ปีทางจันทรคติที่มีเดือน 8 สองหน) ทางสุริยคติเป็นปกติสุรทิน
วันที่ 14 เมษายนเป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพุธ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 เวลา 07 นาฬิกา 19นาที 19 วินาที นางสงกรานต์ทรงนามว่ามณฑาเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกจำปาอาภรณ์แก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนม เนย พระหัตถ์ขวาทรงเหล็กแหลมพระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จยืนมาเหนือหลังคัสพะ (ลา) เป็นพาหนะ
วันที่ 16 เมษายนเวลา 11 นาฬิกา 18 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1372 ปีนี้วันอังคารเป็นธงชัย วันพฤหัสบดีเป็นอธิบดี วันจันทร์เป็นอุบาทว์วันเสาร์เป็นโลกาวินาศ
ปีนี้ วันอังคารเป็นอธิบดีฝน บันดาลฝนให้ตก 300 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า ตกในมหาสมุทร 60 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 90 ห่า ตกในเขาจักรวาล 120 ห่า นาคให้น้ำ 7 ตัว
เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 5 ชื่อวิบัติ ข้าวกล้าในภูมินาจะเกิดกิมิชาติ (ด้วงกับแมลง) จะได้ผลกึ่ง เสียกึ่ง
เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีเตโช (ไฟ) น้ำน้อย
คำทำนายโบราณวันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพุธ วันเนาตรงกับวันพฤหัสบดีวันเถลิงศกตรงกับวันศุกร์ ทำนายว่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะได้รับการยกย่องจากต่างประเทศ ผลไม้จะแพงพ่อค้าคหบดีจะทำมาค้าขึ้น มีผลกำไรมาก นางสงกรานต์ยืนมาจะทำให้เกิดความเดือดร้อนเจ็บไข้
สำหรับทางล้านนาก็มีคำพยากรณ์ว่าถ้ามหาสงกรานต์ตรงกับวันพุธ ปีนั้นฝนบ่ตกทั่วเมือง หัวปีมีมากกลางปีน้อยข้าวในนาจะได้ครึ่งเสียครึ่ง ของบริโภคจะแพงขุนนางขุนเมืองจะตกต่ำ คนเกิดวันศุกร์มีเคราะห์คนเกิดวันจันทร์และวันเสาร์มีโชค
ขอขอบคุณไทยโพสต์...คร้าฟ
Quote from: wutthiphat on April 13, 2010, 12:40:35เหอะๆ พี่เอก วันหยุดมะช่าย หรา จะเมคมันนี่ไปถึงไหนอ่ะคุงพี่
ผมคงได้ไปรอบเย็น รอบเช้าทำงานไปไม่ได้อ่ะคับ
Quote from: purush on April 12, 2010, 15:41:29
[HIGHLIGHT=#f2dcdb]อิสสา... คนอยู่ในเมืองหลวงหาที่ซื้อได้อ่ะ .... ใครก็ได้แนะนำกลิ่นเย็นๆ ให้หน่อย มีขายที่ไหน สั่งทางอินเตอร์เน็ตได้ไหม ?? วานบอก [/HIGHLIGHT]
Quote from: sacred avatar on October 28, 2009, 12:13:19โดนใจมากคร้าฟ คุณมีน ท๋อปเฟรน ของผม เหอะ เหอะ เหอะ
[HIGHLIGHT=#ffff00]
อันนนี้ต้องแล้วแต่ความคิดความเชื่ออ่ะค่ะ
บางคนที่เป็นเพื่อนกัน ก็มี แต่ จะนำท่าน บูชาแยก โดย ไม่ได้ให้ อยู่ในเรือนบ้าน แต่ จะสร้างโบรถ์เล็ก อาจจะ เมตร คูณเมตร สูง 1 เมตรกว่าๆ เปงห้อง อยู่ นอกร่มเงาบ้าน เช่นคนไทยก็มีศาลไช่ไหมค่ะ ที่ไม่ได้อยู่ในตัวบ้านแต่อยู่บริเวณบ้านอ่ะค่ะ
เช่นที่
[HIGHLIGHT=#ff0000]ตัวดิฉัน บูชา ก็ไม่ได้บูชา แบบ พราหม์บูชาเทพ แต่ บูชาเหมือน คนๆนึงที่บูชาพระ คนๆนึงที่บูชา พ่อแม่ คนๆนึงที่หาสิ่งที่หาสิ่างที่ดีที่สุดในการบูชาเท่าที่ทำได้ ตามกำลังมาบูชา[/HIGHLIGHT]
ตัวอย่าง
ไม่มีใคร คงไม่อยากให้ พ่อแม่เรา กินข้าวไม่ดี กินอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ฉันใด เรา ศรัทธาเทพ ศรัทธาพระ เวลาถวายผลไม้ หรือ ธัญยัม หรือแม้แต่ข้าว หุงน้ำนม ปยาซัม เราก็ต้องเลือกข้าวที่ดีที่สุด (สำหรับคนมีกำลัง และมีเวลานะค่ะ) เราก็ดูข้าวที่ เม็ดสวย ไม่แตกหัก ผลไม้เราก็ล้างให้สอาด น้ำถวายก็ต้องสะอาด จิงไหมค่ะ ใจเขาใจเรา ถ้าน้ำไม่สอาด ผลไม้ไม่ล้าง บางทีเรากินเองยัง ต้องล้างเลย
***แต่ ถ้า คนที่ไม่พร้อมอันนี้ให้ใช้ศรัทธาเป็นหลักคิดตามความคิดตน
แต่ละคนมีการบูชาที่ต่าง แรงกำลังที่ต่าง ก็เป็นคำตอบที่ยาก นานาจิตตัง
คิดแบบง่ายๆ เวลาคนอินเดีย ถวายของถวายดอกไม้ ถ้าพูดกันตรงๆ ความปราณีต ในการกระทำ กับ คนไทยจะนอบน้อมกว่าแต่เราก็คิดว่านั่นคือธรรมเนียมปฏิบัติของฮินดู แต่ พอมาเป็นเรา เราจะถวายอะไร มัน ก้อ เหมือนมีข้อคิดอยู่ในใจ ว่า เราไม่เคยโยนข้าว ถวายพระ โยนของถวายพระ เราไม่เคย ผสมๆของถวายให้ดูแปลกตาจนไม่ทาน ขนาดเราบางทียังดูไม่สวยดูไม่น่าทาน เรายัง ยี้ ไม่ทานนเลย แล้ว เราถวายแบบนั้น ใจเขาใจเรา เป็นที่ตั้ง เห็นไหมค่ะ แต่ละคนจะมีการบูชา ธรรมเนียมที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับ เจตนา และ ความคิด ของคนๆนั้น
ที่ต้องขอพูดเพราะ บางคนมีความคิดต่าง ที่เขา จะมีเทวรูปแบบไหน อาจไม่ใช่แบบทำตามวัด หรือแบบสังคมนิยม
**แต่หลีกหนีไม่ได้ที่จะมีคนมีความคิดแบบนี้
เพราะดิฉันเองที่บอกแล้วตั้งแต่ต้น บูชาแบบ คนๆนึงที่บูชาเทิดทูน กับสิ่งนึง ด้วยความรัก เลย หาสิ่งที่ดีที่สุดมา เช่น ดิฉันเป็นคนบูชาพระลักษมี เป็นประธานหลัก ก็จะมีเทวรูปพระลักษมี ที่ดิฉันคิดว่า สิ่งใดบ้างเป็นสิ่งดี ที่สุด ของแต่หล่ะอย่าง
ดิฉันเลยบูชา พระลักษมี ที่ทำจาก
1.ทองเหลือง(แร่ทองเหลือง)
2.พระลักษมีที่ทำจากหินน้ำนม(ดิฉันคิดว่าคือสิ่งที่ดีที่สุดในอินเดียตอนเหนือ)
3.พระลักษมีที่ทำจากหินดำ (ดิฉันคิดว่าเป็น สิ่งที่ดีที่สุดและเป็นสัญลักษณ์ของอินเดียตอนใต้)
(*** ทำไม อินเดียเหนือ เทวรูป หินจึงขาว อินเดียใต้หินจะดำ เรามาเรียน รู้ หลักง่ายๆ คนอินเดียเหนือ ส่วนใหญ่ คือ แขกขาว คนอินเดียใต้ ส่วนใหญ เป็นเกษตรกรรม อยู่ในย่านที่อาจ ไม่ใช่ชุมชนเมืองมากนัก เทวรูปเลยมีรูปลักษณ์ ที่เป็นแบบนั้น) เช่น พระ ของไทย ทำไม พระพุทธรูปสุโขทัย จึง หน้ายาว พระโอถฐ์ยิ้ม เพราะ ยุค นั่นคือยุคทอง ยุคเจริญช่วงนึง แบบ พ่อปกครองลูก ทำไม่ พระสมัยอยุทยา ถึงสร้างมา หน้า ตึง พระเนตรนิ่ง ทรงหน้าดุ เพราะ ช่วงนั้น ช่วงสงครามค่ะ นี่คือ การสร้างการคิดที่ฉลาดของคนสมัยก่อน)
ทำไมคนอินเดียถึงบอกว่า ไม่สบายเปงโรคระบาท ต้องกินใบนิม ของ พระแม่ ง่ายๆ เลย ใบนิม มัน ขม มันเป็นตัวยาจากธรรมชาติ ทำไม พระแม่ ถึง มีมะนาว ในการบูชา มะนาว มีสรรพคุณ ว่า ถ้ามีพิษ สีมันจะเปลี่ยน บีบใส่ของ มันจะดูรู้ว่าบูดหรือเสีย ทำไม ถึงปลูกตุลสีไว้กลางบ้าน ตุลสีคือกระเพราแดง กลิ่น มัน ไล่สัตย์ ที่จะมากัด มาต่อย มาตอม นี่ แหละ คือ ความฉลาดของคนโบราณ ที่เอาพระเจ้า มาแฝงกับชวิต โดยเราไม่ขัดขืน นี่คือเหตุ ที่ดิฉันบูชาเทพ อินเดีย อีกเหตุผลหนึ่ง คือ ฉลาด คิดได้ ความเชื่อ มาผสม ความเป็นอยู่ จึง ปกป้อง ศาสนาฮินดูได้ เพราะ เขานำพระเจ้า มาอยู่ในชีวิตประจำวัน ในการดำเนินงาน ตลอด บางคนเชื่อว่า ถ้าคนจน จะไม่มีทางพระลักษมี จะ รับการบูชาในบ้านนั้น ที่จิงไม่ใช่ เขา สอนให้คนขยันทำงาน ถ้าขยัน พระเจ้าองค์นั้นก็จะอยู่ากับเขา ) ยังมีอีกมากมายในการแฝงคำสอน
4.พระลักษมีที่ทำมาจาก การเจรไนของแก้ว
5.พระลักษมีที่ทำจากเนื้อเงิน
6.พระลักษมีที่ทำจากทองคำ(อาจองค์เล็กหน่อย เพราะแพง อิอิ)
7.พระลักษมีที่ทำจากธาตุโลหะ
8.พระลักษมีที่ทำจากสัมฤทธิ์
9.พระลักษมีที่ทำจากดิน(ดินเมืองไทย) เพราะ ดิฉันเกิดเมืองไทยคนไทย แม่ฉันคือคนไทย เทพก็เปรียบเหมือนแม่ ดิฉันเลยไม่ลืมแผ่นดินเกิด โดยสั่งทำจากดินเมืองไทย)
10.พระลักษมีที่ทำจากหิน ที่เป็นหินของเมืองไทย ไม่ใช่หินพม่า หินจีน (เพราะดิฉันต้องการธาตุแข็ง หินของเมืองไทย ความแข็งเกร่งของคนไทยที่สร้างสมมา)
11พระลักษมีที่ทำจากไม้หอม
12.องค์นี้สำคัญสุด คือ พระลักษมี ที่ทำโดยศรัทธา แม่ในความคิด รูปลักษณ์ แห่งมารดา
*ถึงทุกวันนี้ดิฉันยังมีไม่ครบ 12 อย่าง แต่ ดิฉัน บูชา มา 4 ปี ดิฉัน ก็ทำ และหามาตลอด จนเกิน ครึ่งทาง แห่งศรัทธาในสิ่งที่ต้องการหาสิ่งที่ดี นี่ คือ ศรัทธา ของคน จึงบอกว่า นานาจิตตัง แต่ เราต้องบูชา โดยมีสติ ไม่ตึงจนสุด ไม่หย่อนจนยา บูชาให้ เข้ากับสังคมที่อาจเปลี่ยนแปลง เข้ากับอารยธรรม แห่งแต่ละเมือง นี่จึงมีคำนึงที่เรียกว่า พหุนิยม ซึ่งทางสายไวษณพ ได้มีข้อนี้
**ความเห็นส่วนตัวนะค่ะ [/HIGHLIGHT]
Quote from: เจ้านางน้อยพรทิพย์ on April 11, 2010, 15:33:35
[HIGHLIGHT=#548dd4]พรทิพย์อยากให้ ทางพี่ๆทีมงาน เวปมาสเตอร์ที่น่าเคารพและน่ารักยิ่งทุกท่าน ช่วยกันดูแล ตรวจตราและสอดส่อง บุคคลที่เข้ามาเล่นเวปบอร์ดแห่งนี้ โดยพรทิพย์ได้ขอเสนอแนวทางดังนี้จร้า
1. พรทิพย์อยากให้คุณพี่ทีมงานเวปมาสเตอร์ ตรวจสอบไอพีแอดเดรส ว่ามียูสเซอร์ท่านใด สมัคร ซ้ำๆแล้วเปลี่ยนยูเซอเนมเพื่อมาป่วนกระทู้ของคนอื่น โดยก่อความไม่สงบจร้า ถ้าจับได้พรทิพย์อยากให้พี่ทีมงานลงโทษให้หนักๆ จะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างจร้า
2. พรทิพย์อยากให้พี่ๆเวปมาสเตอร์ทุกท่าน ช่วยดูแลกระทู้นี้ทุกวันด้วยจร้า ถ้าพี่ๆทีมงานเห็นว่ากระทู้ใดไม่เหมาะสม หรือเข้ามาพูดจาดูหมิ่น เสแสร้ง ยั่วอารมณ์ หยาบคายขอให้คุณพรี่ทีมงานเวปมาสเตอร์จัดการโดยทันที!!!
3.ข้อนี้ ตอนนี้ได้มีผู้เล่นเวปบอร์ดแห่งนี้หลายท่านได้พิมพ์ข้อความส่วนตัวมาหาพรทิพย์ บอกว่า ที่เวปบอร์ดแห่งนี้มีพฤติกรรมการเล่นแบ่งเป็น ก๊ก เป็นเหล่า เป็นกลุ่มเ็ป็นก้อนกัน (ความหมายในที่นี้คือหมายถึงกลุ่มบุคคลที่รวมตัวกันจ้องป่วนกระทู้ของคนอื่น)
ซึ่งในเรื่องนี้พรทิพย์เห็นว่าไม่ผิด ถ้าพวกคุณเหล่านั้นจะจับกลุ่มกันทำเพื่อทำและคิดสร้างสรรค์ในสิ่งดีๆ
สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะจร้า ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมพรทิพย์จะมาเพิ่มเติมใหม่จร้า
พรทิพย์รักทุกคนนะจร้า[/HIGHLIGHT]![]()
[HIGHLIGHT=#548dd4]
[/HIGHLIGHT]
Quote from: sompope on April 07, 2010, 10:18:12
คือ เห็นงานนวราตรี ทุกปีั จะต้องมี โต๊ะบูชาตามเทวลัย หรือตำหนักต่างๆมาตั้ง ตามทางที่ประแม่จะผ่าน นะครับ
แล้วนำโต๊ะบูชามาตั้ง นี้เริ่มมีมาตั้งตั้งแต่เมื่อไหรครับ