สวัสดีค่ะ
หลังจากที่ไม่ได้แวะเข้ามาชวยทุกท่านคุยเสียพักใหญ่ ด้วยธุระติดพันมากมายดิ้นไม่หลุด ในที่สุดก็เริ่มกลับมาหายใจหายคอสะดวกขึ้น คิดถึงเพื่อนๆในบอร์ดค่ะ เลยกลับเข้ามาชวนคุยเรื่องไม่เป็นเรื่องเสียหน่อย
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสสนทนาวิสาสะกับบรรดาผู้มีศรัทธาอย่างยิ่งใหญ๋ต่อพระผู้เป้นเจ้ามากมายหลายท่าน ได้ทราบด้วยความชื่นชมว่าหลายต่อหลายท่านมีความสามารถในการประดับพระเทวรูปด้วยผ้าแพรพรรณและนานาวิภูษิตาภรณ์หลากหลายอันอลังการ ล้วนประดิษฐ์สรรค์สร้างอย่างปราณีตวิจิตรบรรจง ซึ่งแน่นอนว่าดิฉํนผูไร้ฝีมือเชิงช่างใดใดไม่สามารถทำได้
แถมหลายท่านยังมีใจเอื้อเฟื้อเผยแพร่กลวิธีอันแยบคายในการประดิษฐ์ตกแต่งนั้นสู่คนอื่นๆ เป็นกุศลมัยอย่างยิ่งยวด ดิฉันผู้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการใช้วาทะ เลยขออนุญาตมาชวนคุยเรื่องนี้กันค่ะ
การประดับตกแต่งพระเทวรูปนี้ เป็นหนึ่งในวิชาการประดับตกแต่งซึ่งเรียกตามอย่างภาษาสันสกฤตว่า 'อลังกาลัม' อันมาจากรากศัพท์เดียวกับคำว่า 'อลังการ' ที่ใช้ในภาษาไทย
เมื่อมิช้ามินานมานี้ ดิฉันได้มีโอกาสฟังบรรยายจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผ้าอินเดียท่านหนึ่ง ซึ่งท่านได้กล่าวถึงการอลังกาลัม ไว้อย่างน่าสนใจว่า ปรัชญาของการอลังกาลัมในอินเดียกับอลังกาลัมในบ้านเราต่างกัน ของเขาเน้นว่า ยิ่งเยอะยิ่งงาม ส่วนของบ้านเราเน้นความละเอียดวิจิตร แต่จะเยอะหรือน้อยไม่สำคัญค่ะ
ทั้งนี้ในส่วนนี้หากใครมีอะไรเพิ่มเติมก็ยินดีแลกเปลี่ยนนะคะ อยากได้ความรู้เพิ่มเติมเหมือนกันค่ะ
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Ff3cbc84a4f50193191f4b9251202d872.jpg&hash=395ae75c7e8175190936f0842af0d5fd0c1166ea) (http://www.upchill.com/image.php?id=f3cbc84a4f50193191f4b9251202d872)
คำถามที่ดิฉํนมักถูกถามอยู่เสมอก็คือ ในสมัยโบราณบ้านเมืองแถวนี้เขามีการอลังกาลัมพระเทวรูปกันหรือไม่ อย่างไร
ดิฉันตอบได้ทันที (แต่ไม่รู้ว่าจะถูกหรือเปล่านะคะ) ว่า 'มี'
ขออนุญาตให้ดูรูปนี้นะคะ
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F65599c33225074a4e0624e3521b73972.jpg&hash=ce6264f159d4aaab27c35681a1d9ca941d558583) (http://www.upchill.com/image.php?id=65599c33225074a4e0624e3521b73972)
พระวิษณุอนันตศายิน ปัทมนาภะ ศิลปะเขมรแบบก่อนนครวัด จัดแสดง ณ พิพิธภัณฑธสถานแห่งชาติกรุงพนมเปญ
พระวิษณุสำริดองค์นี้ จัดแสดงอยู่ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงพนมเปญ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มศิลปะเขมรแบบบาปวน
สังเกตว่าช่างเขมรทำให้พระองค์มีพระเศียรโล้นเรียบ ประดับพระองค์แต่น้อย และมีช่องว่างระหว่างพระหัตถ์ขวากับพระเศียร ทั้งนี้นักวิชาการสันนิษฐานว่าเพื่อให้สามารถสวมเครื่องประดับพระเศียรประเภททงกุฎลงไปได้ โดยที่พระหัตถ์จะรองรับพระมงกุฎพอดี และยังเชื่อว่าคงมีการประดับพระองค์ด้วยเครื่องประดับและผ้าแพรพรรณอีกด้วย หรือบางทีก็อาจจะไม่มีการใช้ผ้าเลยก็ได้ ดังจะได้แสดงให้เห้ฯต่อไปค่ะ
เครื่องประดับเหล่านี้ไม่มีเหลือมาถึงปัจจุบันค่ะ คงเป็นเพราะทำจากโลหะมีค่าเช่น ทองคำ และตกแต่งด้วยอัญมณีจึงกระจัดกระจายพลัดพรายไปตามเรื่อง
ในบ้านเรา มีองค์นี้ค่ะ
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Fde228e2d87988e6dab4ee028163f71f7.jpg&hash=4cf5ca1dee2f83fa0740874212c2afe9e6ec1716) (http://www.upchill.com/image.php?id=de228e2d87988e6dab4ee028163f71f7)
พระวิษณุอนันตศายินในความเห็นที่ 2 นัน พบที่ปราสาทแม่บุญตะวันตก ซึ่งเป็นเทวาลัยในลัทธิไวษณพนิกาย
ส่วนอันหลังนี้พบที่ปราสาทสระกำแพงใหญ่ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเชื่อว่าปราสาทหลังนี้เป็นเทวาลัยในลัทธิไศวนิกาย
ทั้งสององค์ถูกจัดอยู่ในศิลปะเขมรหมวดเดียวกันคือ บาปวน และมีรูปร่างคล้ายกันคือประดับกายแต่น้อย พระเศียรโล้น ในส่วนขององค์หลังนั้นมีพิเศษอยู่ที่กรองศอ พาหุรัด ทองกร และเบ้าตามีการเจาะลึกลงไป สันนิษฐานว่าเพื่อฝังอัญมณีมีค่า รูปสำริดนี้ถูกพบเมื่อปี พ.ศ.2532 ที่ด้านหน้าทางขึ้นโคปุระด้านทิศใต้ ขอให้สังเกตว่ามีเดือยอยู่ใต้ฐานเพื่อประดิษฐานบนแท่นที่เจาะรูป้องกันการขยับเขยื้อน
การค้นพบรูปนี้ที่ใกล้ประตูเทวาลัยทำให้ ศ.บวซเซลิเยร์ นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสที่เก่งกาจด้านเอเชียอาคเนย์ศึกษาสันนิษฐานว่าอาจเป้ฯรูปของพระนันทิเกศวร ซึ่งตามปรกติจะรักษาประตูเทวาลัยประธานในลัทธิไศวนิกายคู่กับพระมหากาล
แต่ดิฉันอดคิดไม่ได้จะเป็นพระอิศวรเองได้ไหมหนอ เพราะดูเขาตั้งใจหล่อเสียเหลือหลาย งดงามไม่มีที่ติ และพบแต่เพียงองค์เดียว ไม่เห้ฯมีพระมหากาลเป็นคู่สักหน่อย
ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ โถงทางเข้า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย ค่ะ
คำถามต่อไปก็คือ แล้วดิฉันเชื่อได้อย่างไรว่าเขาตกแต่งพระเทวรูปด้วยมงกุฎ ขอตอบด้วยภาพนี้ค่ะ
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Fe3edebafe3ffaea2d48b88cc4e9345ff.jpg&hash=85dc7ea91499e992b0d2f5aec1e6fc0aa2d09da9) (http://www.upchill.com/image.php?id=e3edebafe3ffaea2d48b88cc4e9345ff)
ชิ้นส่วนเครื่องประดับ จัดแสดง ณ พิพิภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย
ของจริงมีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับคนค่ะ ดังนั้นไม่ได้ทำเป็นเครื่องประดับของคนแน่ๆ น่าจะทำถวายรูปเคารพมากกว่า
ในระหว่างวันเวลาและการเปลี่ยนถ่ายทางอำนาจการเมืองระหว่างอาณาจักร คติการ 'ทรงเครื่อง' จึงค่อยๆเลือนหายไปพร้อมๆกับอิทธิพลทางศาสนาพราหมณ์ - ฮินดูที่ค่อยๆซาลง แต่ก็ไม่ได้หายไปเลยนะคะ เพียงแต่ลดลทลาทลงไปเท่านั้น โดยมีศาสนาพุทธทั้งฝ่ายมหายานและหินยานรุ่งเรืองขึ้นแทนที่
อย่างไรก็ตามการอลังกาลัมตามแบบแผนเดิมๆก็หาได้หดหายไปไม่ แต่ได้เปลี่ยนแปลงจนกลายเป็น
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F27027e60cf399e109cf3658afccebe04.jpg&hash=3109009c1efa9093f1aa75c92ad28f8d8e52fcfe) (http://www.upchill.com/image.php?id=27027e60cf399e109cf3658afccebe04)
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F946b185fbb9761362e9de87842798a42.jpg&hash=66b2c455bb14434b7a5be2ce0f63c3d6c3c35805) (http://www.upchill.com/image.php?id=946b185fbb9761362e9de87842798a42)
พระพุทธรูปทรงเครื่อง
และจากอาณาจักรหนึ่งก็ไหล่บ่าไปสู่อาณาจักรหนึ่ง จนแผ่ขยายไปทั่ว
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Fbf6c48b963759e8796132bb9ab0ff362.jpg&hash=2ba35832676f73d652931f7852610d3c9648c1d4) (http://www.upchill.com/image.php?id=bf6c48b963759e8796132bb9ab0ff362)
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F9b9abd911d1ad2a06af7711b38826aa4.jpg&hash=f748dc376737480ea9502960204ef5945559707e) (http://www.upchill.com/image.php?id=9b9abd911d1ad2a06af7711b38826aa4)
ขอให้ลองสังเกตดูว่าความปรารถนาจะสัการะพระพุทธรูปด้วยเครื่องอลังกาลัมนั้นไม่เคยห่างหายไปจากจิตสำนึกของผู้คนแทบนี้ เรายังได้เห็นพระพุทธรุปพร้อมเครื่องทรง ทั้งแบบที่ทรงเครื่อง และแบบที่ถวายเครื่องทรงทีหลัง อาทิ
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Ff7296138e5205754af414b5baa884ed0.jpg&hash=6e5d653ebeaf58c434dbd7413d8fe7d3fe76a611) (http://www.upchill.com/image.php?id=f7296138e5205754af414b5baa884ed0)
พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกตน้อย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาให้สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทรงเสาะหาหยกขนาดใหญ่ สีสันสดใสงดงามแล้วให้ช่างหลวง Faberche จำหลักเป็นพระพุทธรูป เมื่อส่งมาถึงกรุงเทพ ทรงพระกรุณาฯให้สร้างสังวาลย์พระนพและฐานชุกชีถวายเป็นพุทธบูชา
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F605886071c9abc5cd7a09d7f196106f1.jpg&hash=b5969cb8e974fbb78580b94bf974740d006a234e) (http://www.upchill.com/image.php?id=605886071c9abc5cd7a09d7f196106f1)
พระพุทธชินราชซึ่งมีธรรมเนียมที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างเครื่องทรงถวาย อาทิ รัชกาลที่ 4 ทรงถอดกำไลหยกที่ทรงสวมอยู่ถวายไว้ที่นิ้วพระหัตถ์ต่างพระธัมรงค์ หรือสังวาลย์นพรัตนราชวราภรณ์ที่ในหลวงรัชกาลปัจจุบันถวายไว้ เป้ฯต้น
และยังมีพระพุทธรูปอีกมามายที่เป็นเช่นนี้ แต่จะหาพระพุทธรูปองค์ใดที่ยังคงรักษษขนบของอลังกาลัมไว้ได้อย่างครบถ้วนเช่น พระพุทธรูปองค์นี้หาได้ยากแล้วในราชอาณาจักรไทย
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Fa9ed706a4758baa836ebd52793d1354a.jpg&hash=9a2a63b5db89ed573188e1c4a2f4465139b5afeb) (http://www.upchill.com/image.php?id=a9ed706a4758baa836ebd52793d1354a)
พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
เอาไว้พรุ่งนี้มาต่อนะคะ (สงสัยพูดกับตัวเองคนเดียวนะเนี่ย 55555)
ขอบพระคุณนะครับคุณอินทุศีตาลา ที่มีกระทู้ดีๆมาให้พวกเราได้อ่านและพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง
จะว่าไปแล้วเท่าที่เห็นส่วนใหญ่ บ้านเราจะเน้นการแต่งองค์ทรงเครื่องให้พระพุทธรูปเสียมากกว่าเทวรูป (อาจเป็นเพราะมีหลักฐานที่เป็นศิลปะวัตถุ เหลือให้เห็นมากกว่าก็เป็นได้)
ปล. ไว้ประเดี๋ยวจะพยายามลองค้นๆภาพเก่าที่พอมี มาร่วมแบ่งปันในกระทู้นี้นะคร๊าบบบ
พระราชพิธีประจำอันสำคัญยิ่งพระราชพิธีหนึ่งซึ่งพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ทรงปฏิบัติสืบเนื่องกันมาตลอดระยะเวลากว่า 200 ปีก็คือ พระราชพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
พระราชพิธีนี้มีความน่าสนใจตรงที่สามารถนำมาเปรียบเทียบเชื่อมโยงเข้ากับการปฏิบัติพระเทวรูปในศาสนาพราหมณ์ได้อย่างมีมิติ กล่าวคือ คล้ายกับการอภิเษกและเปลี่ยนเครื่องทรงพระเทวรูปซึ่งยังคงทำกันอยู่ในพิธีสำคัญประจำปี หรือแม้แต่ประจำวันในเทวสถานสำคัญหลายๆแห่ง
ลำดับพระราชพิธีคร่าวๆจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(หรือผู้แทนพระองค์) เสด็จพระราชดำเนินมาถึงยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ประทับพระราชอาสน์แล้วเจ้าพนักงานอาลักษณ์กราบบังคมทูลเชิญเสด็จขึ้นไปยังบุษบกทองคำทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรทางเกยด้านหลังฐานชุกชี
ก่อนหน้านั้นเจ้าพนักงานพระราชพิธีจะเปลื้องเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรออก คงเหลือไว้เพียงเครื่องประดับพระเศียร เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงยังชั้นบนสุดของเกยซึ่งลาดพระสุจหนี่ไว้ ทรงคม ถวายพวงมาลัยดอกไม้โดยทรงแขวนไว้ที่จงกลเทียนสองข้างบุษบกพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้วทรงถอดเครื่องประดับพระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรออก พระราชทานแก่เจ้าพนักงานซึ่งจะเชิญลงมาเบื้องล่าง ประดิษฐานบนโต๊ะบริเวณใกล้กับบันไดเกยด้านทิศตะวันออกซึ่งเชิญเครื่องทรงชิ้นอื่นๆลงมาประดิษฐานไว้ก่อนแล้ว โต๊ะนี้จะทอดภาชนะสำหรับทรงผสมพระสุคนธ์ไว้ด้วย
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Fd0d0b333347c5d095c2c1c19a33d75f4.jpg&hash=f8dd346727acb97de43741f7a18a04ebb867d3e9) (http://www.upchill.com/image.php?id=d0d0b333347c5d095c2c1c19a33d75f4)
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปลื้องเครื่องประดับพระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรออก
เมื่อทรงถอดเครื่องประดับพระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรออกนั้น เจ้าพนักงานประโคม ประโคมและเป่าสังข์ บัณฑิตไกวบัณเฑาะว์ไปจนตลอด
จากนั้นเจ้าพนักงานพระราชพิธีถวายพระมหาสังข์ประจำพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ซึ่งปรกติทอดถวายไว้ด้านหน้าองค์พระ ทรงรับแล้วหลั่งน้ำพระสุคนธ์ถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร แล้วพระราชทานพระมหาสังข์คืนให้เจ้าพนักงานรับแล้วเชิญลงมา
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F6ab6283ef71df59980fa4c067959f1bd.jpg&hash=bdf357605140e73578347bb7097921c65a228a84) (http://www.upchill.com/image.php?id=6ab6283ef71df59980fa4c067959f1bd)
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สรงพระสุคนธ์ถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ด้วยพระมหาสังข์ประจำพระองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
จากนั้นเจ้าพนักงานถวายผ้าขาวเนื้อดีเพื่อทรงซับพระองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระราชทานคืน เจ้าพนักงานเชิญลงมา
จากนั้นเจ้าพนักงานจะถวายเครื่องประดับพระเศียรสำหรับฤดูกาลใหม่ ทรงรับแล้วสวมถวายพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงคมแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับลงมาเบื้องล่าง ประทับพระราชอาสน์บริเวณโต๊ะซึ่งเชิญเครื่องผสมพระสุคนธ์ไว้ ทรงผสมพระสุคนธ์อันได้มาจากการสรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแล้วทรงแบ่งพระราชทานเจ้าพนักงานเก็บไว้ ระหว่างนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าพนักงานสวมเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรจนครบบริบูรณ์ แล้วเสด็จออกทรงเปลี่ยนพระรัศมีพระสัมพุทธพรรณีหน้าชุกชี แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการต่างๆบูชาพระพุทธรูปสำคัญในพระอุโบสถ แล้วประทับพระราชอาสน์
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Fa79a91b7f2a34fd41237562935f184dc.jpg&hash=9ef82888a8691da7378a3ab624cac8b8c1252126) (http://www.upchill.com/image.php?id=a79a91b7f2a34fd41237562935f184dc)
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงซับพระองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรด้วยผ้าขาวเนื้อดี
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F7f91c0d1e76c10cee0d73cd5fbf81888.jpg&hash=ec441a696d12579421256a6a9f6f45c74fabcfb8) (http://www.upchill.com/image.php?id=7f91c0d1e76c10cee0d73cd5fbf81888)
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงผสมพระสุคนธ์ในภาชนะต่างๆ บนโต๊ะที่ทอดอยู่เบื้องพระพักตร์นั้น เจ้าพนักงานอัญเชิญเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรซึ่งเพิ่งเปลื้องเสร็จ ลงมาทอดไว้
จากนั้นไป พระราชครูพราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนบายศรีทอง นาค เงิน เวียนเทียนสมโภชพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแล้วทรงหลั่งน้ำพระสุคนธ์จากพระมหาสังข์ลงในพระหัตถ์ลูบพระองค์เพื่อสวัสดิมงคล ตลอดจนพระราชทานแด่พระบรมวงศานุวงศ์ แล้วทรงพระสุหร่ายข้าราชการและประชาชนบรรดาที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่ทั่วกันจากนั้นเสด็จพระราชดำเนินกลับ
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F21c4dd4f9b8c763156eefdd37693f140.jpg&hash=f1d85aae0cfe988b2f7484f0d000560e42cc2c21) (http://www.upchill.com/image.php?id=21c4dd4f9b8c763156eefdd37693f140)
พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการเวียนเทียนสมโภช
จะเห็นว่าลำดับพระราชพิธีการเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรนั้น คล้ายกับการเปลี่ยนเครื่องทรงพระเทวรูป คือ เริ่มต้นด้วยการอภิเษก การเปลี่ยนเครื่องทรง การบูชาด้วยมนตราและอาหาร (ในที่นี้คือบายศรี) แล้วอารตีถวายไฟ
เมื่อไม่นานมานี้ได้สนทนากับท่านอาจารย์หริทาส ซึ่งได้กรุณาอธิบายไว้อย่างน่าสนใจและสามารถใช้เป็นบทสรุปของอินทุศีตาลาชวนคุยตอนนี้ได้อย่างดีว่า 'ร่องรอยของการถ่ายทอด รับส่งขนบธรรมเนียมและประเพณีของอินเดียกับไทยนั้นยังสามารถเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะในราชสำนักไทย '
นอกจากพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแล้ว พระพุทธรูปอีกหลายองค์ที่ทรงเครื่องอลังกาลัมไว้อย่างอลังการ อาทิ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก, พระพุทธเลิศหล้านภาลัยและบรรดาพระพุทธรูปฉลองพระองค์บนฐานชุกชีในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเครื่องทรงทุกชิ้นสามารถถอดประกอบได้อย่างน่าอัศจรรย์ ล้วนทำขึ้นจากโลหะมีค่า ดังเราสามารถใช้เป็นอย่างในการจินตนาการถึงการทรงเครื่องถวายแด่เทวรูปพระวิษณุอนันตศายินและพระศิวะ? ศิลปะบาปวนที่ได้ยกมาให้ชมตอนต้น
เพื่อให้เห็นภาพว่าพระพุทธรูปทรงเครื่องเหล่านี้ สามารถถอดประกอบเครื่องได้อย่างไรนั้น ดิฉันขอนำรูปพระพุทธรูปทรงเครื่องในพระอุโบสถวัดเทพธิดารามมาให้ชมกันเป็นการปิดท้ายค่ะ
พระพุทธรูปทรงเครื่องเช่นนี้ เป็นที่นิยมสร้างในกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นค่ะ โดยถือเป็นพระพุทธรูปฉลองพระองค์ของเจ้านายชั้นสูง เครื่องทรงทุกชิ้นถอดประกอบได้และสร้างสรรค์อย่างละเอียดปราณีต รูปแบบของฉลองพระองค์คล้ายคลึงกับพระเครื่องต้น
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F152862e8d8979386eaa05cff2bc4f66d.jpg&hash=590233fb278e3b23868a74d91c42117f5f645e21) (http://www.upchill.com/image.php?id=152862e8d8979386eaa05cff2bc4f66d)
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Fbb4683bd071bb53c03411f21f927fde2.jpg&hash=ca30a078e0625c899b4854ef3f6a4b0237ee1dc2) (http://www.upchill.com/image.php?id=bb4683bd071bb53c03411f21f927fde2)
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F82674e746936036c58c57148fa72fd5d.jpg&hash=ddb8e02193c73b55f12b39fb37670d6ce43a2c36) (http://www.upchill.com/image.php?id=82674e746936036c58c57148fa72fd5d)
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F780e40988c617b01df669ec17ec607bb.jpg&hash=50c7e87d3e7dab2004678aff681a3695c5caae86) (http://www.upchill.com/image.php?id=780e40988c617b01df669ec17ec607bb)
ขอให้สังเกตว่าเครื่องทรงทุกชิ้นมีรอยต่อประกบกัน สามารถถอดออกได้
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2Fd9ff2e7ab5b7a71a42db411f97bd2409.jpg&hash=17716c71904280cf8ab010987ba311494a9733f3) (http://www.upchill.com/image.php?id=d9ff2e7ab5b7a71a42db411f97bd2409)
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F5c6935c464fddce479a1943aab4e14fa.jpg&hash=9c79c1d6d9617b73380a8eb480ceb01548abaccc) (http://www.upchill.com/image.php?id=5c6935c464fddce479a1943aab4e14fa)
แม้แต่ฉลองพระบาทก็สามารถถอดออกได้ค่ะ
นักวิชาการเชื่อว่าการถวายเครื่องทรงแด่พระพุทธรูปมีวิวัฒนาการมาจากการถวายเครื่องทรงแด่พระเทวรูป โดยฝ่ายพุทธได้เพิ่มเติมคติเรื่องพระพุทธรูปปางทรมานพระยามหาชมพูขึ้นภายหลังค่ะ
นอกจากในเมืองไทยแล้ว ในประเทศเพื่อนบ้านหลายชาติก็มีการถวายเครื่องทรงแด่พระพุทธรูปด้วย อาทิ พระบางที่ประเทศลาว และที่สำคัญที่สุดคือพระมหามัยมุนีเมืองมัณฑเลย์ ประเทศพม่า ซึ่งนอกจากเครื่องทรงอันอลังการแล้ว ทุกเช้ายังมีพิธ๊ล้างพระพักตร์และถวายภัตตาหารแด่พระองค์ ซึ่งทำสืบต่อกันมาช้านานแล้ว สะท้อนให้เห็ฯกลิ่นอายการรับ - ส่ง - ถ่ายทอด ทางวัฒนธรรมอย่างน่าสนใจมากค่ะ
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Fwww.upchill.com%2Fdirect%2F3ac23baac99af67bea44a31b83b7dd2c.JPG&hash=8191b1d3de54522b832df21f9cb126a7ac4326e9) (http://www.upchill.com/image.php?id=3ac23baac99af67bea44a31b83b7dd2c)
ดังนี้ จึงขอยุติเพียงเท่านี้ โอกาสหน้าพบกันใหม่ สวัสดีค่ะ
ขอขอบพระคุณอีกครั้งนะครับ เชื่อว่าท่านที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้น่าจะได้รับเกร็ดความรู้ที่ดีๆไปไม่มากก็น้อยเลยครับ
ขออนุญาตนำภาพเครื่องทรงทั้งสามฤดูของพระแก้วมรกตมาร่วมแบ่งปันให้ชมกันด้วยนะครับ
หมายเหตุ : ภาพทั้งหมดจากคลังกระทู้เก่าเว็บ pantip.com
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Ftopicstock.pantip.com%2Flibrary%2Ftopicstock%2F2009%2F05%2FK7893495%2FK7893495-1.jpg&hash=655b4cd0ed18bb2388a2003494a900c71c2a4f03)
.
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Ftopicstock.pantip.com%2Flibrary%2Ftopicstock%2F2009%2F05%2FK7893495%2FK7893495-3.jpg&hash=2c3f96217fb90480db9357278926fa67cfceb8c0)
.
(https://forum.hindumeeting.com/proxy.php?request=http%3A%2F%2Ftopicstock.pantip.com%2Flibrary%2Ftopicstock%2F2009%2F05%2FK7893495%2FK7893495-4.jpg&hash=836b401a2b77477f3f5b6c22765bab829bc9ce6b)
ขออนุญาตแก้ไขข้อมูลผิดพลาดค่ะ ดิฉันเบลอไปนิด
จากความเห็นที่ 11 พราหมณ์เบิกบายศรี 'แก้ว ทอง เงิน' นะคะ ไม่ใช่ 'ทอง นาก เงิน'
ขอประทานอภัยค่ะ
สุดยอดครับพี่โด่ง ของพุทธของไทยเราก็มีอลังการัมด้วย เป็นกรรับส่งต่อของวัฒนธรรมอันดีงามทั้งสองศาสนาครับผม และระหว่างประเทศด้วยครับ
ขอบพระคุณ ครับสำหรับความรู้ดี ๆ