Loader

"พราหมณ์" เค้าปฏิบัติตนกันเช่นไร

Started by กาลิทัส, January 27, 2009, 15:55:43

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

January 27, 2009, 15:55:43 Last Edit: January 28, 2009, 21:50:33 by สัตตเทวบุตร
ผมได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็นมาบ่อยๆ ว่าสมัยนี้คนที่นับถือเทพเจ้าหลายคนอยากเป็นพราหมณ์ อยากคล้องสายยัญโยปวีต ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสายยัญโยปวีต เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนนั้นเป็นพราหมณ์โดยสมบูรณ์ จริงหรือไม่ที่ทุกคนที่มีสายยัญโยปวีต ต้องเป็นพราหมณ์ ตัวผมเองสังเกตุเห็นมาหลายเว็บ หลายสถานที่ ที่ปฏิบัติกิจพรามหณ์ โดยที่บางครั้งแทบไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า จริงๆ แล้วพรามหณ์นั้นทำเป็นแค่สวดมนต์เหรอ ? ทำพิธีเป็นแค่นั้นใช่หรือไม่ ? โอ้ย !! แค่นั้นใครก็ทำได้ครับ แต่มาดูกันจริงๆ ดีกว่าว่า คนจะได้รับคำว่า "พราหมณ์" เค้าปฏิบัติตนกันเช่นไร



พรามหณ์จากเทวสถานโบสถ์พราหมณ์
มาดูหลักปฏิบัติของผู้เป็นพราหมณ์
พราหมณ์ คำว่าพราหมณ์ หมายถึง ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับพระพรหม พระเวท และอาตมัน ซึ่งจะเป็นพรมหณ์นั้นต้องมีลักษณะ 11 ประการตามธรรมชาติ ดังต่อไปนี้
1. ศม หมายถึง สภาพที่ภายในจิตใจไม่มีความยุ่งยาก หรือปั่นป่วนด้วย กาม โกรธ โลภหรือหลง (โมหะ) แม้แต่ประการใด เป็นธรรมชาติของเขาเช่นนั้นแม้ตั้งแต่วัยเด็กมา ความวิกลวิการยุ่งยากปั่นป่วนภายในจิตใจของบุคคลเช่นนี้ก็ไม่เกิดง่าย
2. ทม หมายถึง สภาพที่จิตใจได้รับการระงับไว้แล้ว กล่าวคือรู้จักข่มจิตใจของตนด้วยความสำนึกในเมตตาและมีสติอยู่เสมอ รู้จักมีจิตใจอดกลั้นไม่ปล่อยให้หวั่นไหวไปตามอารมณ์ได้ง่ายๆ
3. ตป แปลตามศัพท์แปลว่า ความร้อน หรือ การร้อน แต่ในที่นี้มีความหมายว่าฝักใฝ่แต่ในความประพฤติในอันที่จะหาความรู้ หาความจริงและพยายยามแต่จะให้ประสบผลสำเร็จในการหาความรู้และความจริงนั้น ไม่ว่าจะต้องผจญกับความยากลำบากสักเพียงไร ก็พยายามพากเพียรจนสำเร็จผลลงให้จงได้
4. เศาจ แปลตามศัพท์ว่า ความบริสุทธิ์ หมายถึง การทำตนเองให้เป็นผู้มีความบริสุทธิ์ทั้งจิตใจและร่างกายนั่นเอง
5. สนโตษ หมายถึง สภาพที่พอใจ หรือมีความสุขอยู่แล้วในทางสันติ
6. กษมา หมายถึง ความอดกลั้น หรือความอดโทษ กล่าวโดยย่อก็คือ (สงบ) มีความพากเพียรพยายามและอดทน โดยถือเอาความเมตตากรุณาเป็นที่ตั้งนั่นเอง
7. สรลตา แปลว่า ความซื่อหรือความตรงโดยนิสัย คือทั้งพูดตรงและทำตรง
8. ชญาน แปลว่า ความรู้ ความเห็น ความชอบ ความถูกต้อง หรือความวิเวก ในที่นี้ หมายถึงความชอบทางการศึกษาหาความรู้นั่นเอง
9. ทยา หมายถึง ความมีเมตตากรุณาต่อชีว (ะ) ทั้งหลาย
10. อสติกตา ได้แก่ การมีความเชื่อถือ ไว้วางใจ และมอบความจงรักภักดีไว้ต่อพระพรหมนั่นเอง
11.สตย แปลตามศัพท์ว่า จริงหรือความจริง หรือศุทธมติ (ความเห็นอันบริสุทธิ์ใจ) หรือความเห็นอันสุจริต กล่าวคือควรแสดงความซื่อสัตย์ต่อกันและกัน จนถึงทำให้เป็นที่ไว้วางใจกันและเชื่อใจกันได้โดยไม่คิดคดทรยศต่อกันอีกต่อไป

ที่มา http://my.dek-d.com/Writer/story/viewlongc.php?id=321977&chapter=12
ขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ครับ  :D

ขอบคุณค่ะพี่ยีนส์

แต่กิมได้ยินมาว่า  พราหมณ์นั้นสามารถที่จะมีครอบครัวได้จิงหรือเท็จอย่างไรคะ??

ช่วยอธิบายหน่อยค่ะ
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

จิงคราบ พราหมณ์นั้นสามารถที่จะมีครอบครัวได้ เผื่อที่จะต้องสืบเชื่อสายสกุลพราหมณ์ต่อนะคราบ
[HIGHLIGHT=#ffffff]บ้านคนจะเเต่งหิ้งพระสวยยังไงก้อยังเป็นบ้านคน จะให้บ้านคนเป็นวัดคงเป็นไปไม่ได้[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffffff]จงอยู่ในความพอดี ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป กลาง ๆ พอดี ๆ อะ เเล้วจะมีความสุขกะสิ่งที่ทำ[/HIGHLIGHT]

อย่างที่คุณ Kearnight ว่าครับ พราหมณ์สามารถมีภรรยาได้ครับ

เพราะศาสนาฮินดูนั้น ถ้าผมจำไม่ผิดคือตามคัมภีร์อุปนิษัทนั้น กำหนดไว้อย่างชัดเจนครับว่า

บุคคลที่จะเป็นพราหมณ์ได้ ต้องเกิดในตระกูลพราหมณ์เท่านั้น ห้ามมีการข้ามวรรณะโดยเด็ดขาด

คือพ่อต้องอยู่วรรณะพราหมณ์ และ แม่ต้องอยู่วรรณะพราหมณ์ครับ

ดังนั้นเพื่อให้มีผู้สืบสกุล และ ทำพิธีทางศาสนา จึงไม่มีข้อกำหนดหนดใดที่ห้ามไม่ให้พราหมณ์มีภรรยาครับ

อืม ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ

เข้าใจล่ะ


เฮ้อดีจัง  ได้รู้อีกล่ะ
[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

ขอถามหน่อยนะค่ะ 

ทำไมพราหมณ์ที่เทวสถานกับที่วัดแขก ถึงแต่งกายไม่เหมือนกันล่ะค่ะ ช่วยให้ความกระจ่างหน่อยจิอยากรู้จัง
ความดีไม่ต้องทำให้ใครเห็น
ไม่ต้องบอกประกาศให้ใครรู้
นั่นสิน๊ะคือความดีที่แท้จริง

แล้วแต่นิกายครับส่วนมากจะแต่งต่างกันไปตามนิกาย

อย่างเทวสถานเป็นไศวะนิกาย

จะถือเพศ นุ่งขาว ห่มขาว ไว้มวยผม

อย่างเทพมณเฑียรเป็นไวณวะ

จะไว้ผมเปียหรือมวยผม นุ่งห่มสีขาว หรือสีต่าง ๆ

อย่างวัดแขกสีลม เป็นพราหมณ์ทมิฬ ครับ


ขอบคุณสำหรับข้อมูลความรู้คร้าฟผ้ม

จะขอสารภาพ ตะก่อนเคยคิดเหมือนกัน อ่ะคร้าฟ 555+

จากที่อ่านผมมีแค่ไม่เกิน 2 ข้อเอง เหอ....เหอ....เหอ...

แล้วที่นุ่งห่มสีอกกส้มๆล่ะครับ ใช้พราหมณ์หรือป่าว เบนเจอที่วัดเทพมณเฑียร เจอในลิฟต์คับ พูดไทยไม่ได้ด้วยครับต้องใช้ภาษาอังกฤษกับสันกฤต
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

ขอบคุณสำหรับความกระจ่างนี้
เป้นประโยชน์มากเลยคับ

ขอบคุณครับ ข้อมูลชัดเจนกระจ่างแจ่มแจ้งเลยครับ
ทุกคนต่างมีหน้าที่ครับ  ทำหน้าที่เราให้ดีที่สุดก็พอแล้วครับ