ขอเชิญร่วมสักการะและชมเทวรูปพระคเณศโบราณ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ๑๑ แห่งทั่วประเทศ ระห

[อักษรชนนี]

กรมศิลป์เผยโฉมพระคเณศอายุกว่า 1,200 ปี ให้ ปชช.กราบไหว้ 2-24 เม.ย.นี้

.
         กรมศิลป์ จัด 100 ปี กรมศิลปากร ขอพรพระคเณศ พร้อมเผยโฉมพระคเณศ จำนวน 32 รายการ ที่คัดเลือกนำมาให้ประชาชนสักการะ โดยเฉพาะพระคเณศที่อายุกว่า 1,200 ปี ที่หาชมที่ไหนได้ยาก เปิดให้ชม 2-24 เม.ย.นี้ และจัดพิมพ์หนังสือ แสตมป์จำหน่ายเป็นที่ระลึก
    
        วันนี้ (23 มี.ค.)นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากการที่กรมศิลปากรได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้รูปพระคเณศเป็นดวง ตราประจำกรมมาตั้งแต่ปี 2480 เพราะมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับศิลปวิทยาการต่างๆ ดังนั้น เนื่องในวันสถาปนากรมศิลปากร 100 ปี ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ จึงได้จัดกิจกรรมพิเศษ 100 ปี กรมศิลปากร ขอพรพระคเณศ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมมหัศจรรย์พิพิธภัณฑ์ วันเดียวเที่ยวไม่พอ โดย อัญเชิญพระคเณศ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 11 แห่ง จำนวน 32 รายการ มาจัดแสดงรวมกัน ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นครั้งแรกของประเทศ และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมกราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลนั้น ขณะนี้ทางพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เริ่มส่งรายละเอียดของพระคเณศ สำคัญๆ เข้ามายังกรมศิลปากรแล้ว
    
          นางโสมสุดา กล่าวต่อว่า พระคเณศ เป็นชื่อของเทพเจ้าองค์หนึ่ง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่รู้จักและให้ความเคารพนับถือมากที่สุด พระคเณศได้รับการยกย่องมากมาย เช่น เทพแห่งการเก็บเกี่ยว เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ บรมครูช้าง เทพแห่งความฉลาดรอบรู้ เทพแห่งอักษรศาสตร์การประพันธ์ เทพแห่งศิลปวิทยาผู้ประทานความสำเร็จในการศึกษาวิทยาการทุกแขนง ในประเทศไทยพบหลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับพระองค์หลายอย่างที่สำคัญได้แก่ ประติมากรรมรูปพระคเณศพบเกือบทุกภาคโดยเฉพาะภาคใต้ ภาคอีสาน
    
         "พระคเณศทั้ง 32 รายการที่กรมศิลปากรคัดเลือกนำมาให้ประชาชนสักการะเป็นพระคเณศที่มีรูปแบบ ศิลปะที่งดงาม เช่น พระคเณศจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 หรือกว่า 1,200 ปี พระคเณศ ศิลปะลพบุรี ร่วมสมัยศิลปะเขมรแบบเกาะแกร์ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 15 พระคเณศ ศิลปะศรีวิชัย จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 15 พระคเณศ ศิลปะชวาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ช้างต้น มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 22-23 โดยจะจัดพิธีบวงสรวงตามแบบประเพณีโบราณในวันที่ 1 เมษายน และเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 2-24 เมษายน ทั้งนี้ทุกวันอาทิตย์จะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไป นำเครื่องสักการะประเภทข้าวตอกดอกไม้มาขอพรเป็นกรณีพิเศษ"อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว
    
       ทั้งนี้ การจัดงานวันสถาปนากรมศิลปากร 100 ปี ยังจะมีการเสวนาองค์ความรู้ทางด้านโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์ในรอบ 100 ปี องค์ความรู้ด้านศิลปกรรมในรอบ 100 ปี องค์ความรู้ด้านเอกสาร ภาษา หนังสือในรอบ 100 ปี และองค์ความรู้ด้านนาฏศิลป์ ดนตรีในรอบ 100 ปี นิทรรศการผลงานสำคัญของกรมศิลปากร "100 ปี กรมศิลปากร 100 เรียง 100 เรื่องราว" และกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจด้วย
    
       นอกจากนี้ จะจัดพิมพ์หนังสือ พระคเณศ เทพเจ้าแห่งศิลปวิทยา จำนวน 2,000 เล่ม แผ่นพับนำชมพระคเณศ 15,000 เล่ม จัดทำสื่อมัลติมีเดีย พร้อมกันนี้ กรมศิลปากร ได้จัดทำตราไปรษณียากรที่ระลึก 100 ปี โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดพิมพ์ดวงตราไปรษณียากร จำนวน 700,000 ดวง จำหน่ายราคาดวงละ 3 บาท จัด จำหน่ายพร้อมซองวันแรกจำหน่ายและตราประทับ ราคา 10 บาท ในวันที่ 27 มีนาคม 2554 ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ และหน้าซุ้มไปรษณีย์ภายในบริเวณงานสถาปนากรมศิลปากร 100 ปี โดยดวงตราไปรษณียากรดังกล่าวเป็นภาพวาดสีน้ำรูปพระวิษณุกรรมประดิษฐานหน้า อาคารกรมศิลปากร ผลงานของ นายเกียรติศักดิ์ สุวรรณพงศ์ จิตรกรชำนาญการพิเศษ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-223-0976 หรือดูรายละเอียดได้ที่ WWW.finearts.go.th


ที่มาของข่าวจาก : http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000037117

[อักษรชนนี]

ภาพส่วนหนึ่งของเทวรูปพระคเณศโบราณ จากพิพิธภัณฑสถาน ๑๑ แห่งทั่วประเทศ ที่จะนำมาจัดแสดง และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สักการะ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (กรุงเทพมหานคร)
.

.

.

.

[fengshui]

งดงามมากๆ้เลยครับ

[۞ Musika ۞]

น่าไป...ไว้ชวนแม่ไปดีก่า

[อักษรชนนี]

พระคเณศ เทพแห่งศิลปากร
๑๐๐ ปี กรมศิลปากร ขอพรพระคเณศ

          คณปติ พิฆเณศวร์ หรือคเณศ เป็นนามหรือชื่อของเทพเจ้าองค์หนึ่งซึ่งประชาคมโลกส่วนใหญ่รู้จักและให้ความเคารพนับถือมากที่สุด ไม่เฉพาะในหมู่ชนผู้นับถือศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู หรือศาสนาพุทธเท่านั้น จนกล่าวได้ว่าเป็นเทพสากลหรือเทพแห่งจักรวาล (Universal God) พระองค์เป็นโอรสองค์หนึ่งของ พระศิวะ(พระอิศวร) เทพเจ้าสูงสุดแห่งไศวนิกายในศาสนาพราหมณ์ กับพระนางปารพตี (พระอุมา) สาเหตุที่ ทำให้พระคเณศ มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับนับถือมากที่สุดเพราะได้รับการยกย่องเป็นเทพเจ้าในด้านต่าง ๆ มากมาย เช่น เทพแห่งการเก็บเกี่ยว เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ บรมครูช้าง เทพแห่งความฉลาดรอบรู้ เทพแห่งอักษรศาสตร์การประพันธ์ เทพแห่งศิลปวิทยาผู้ประทานความสำเร็จในการศึกษาวิทยาการทุกแขนง โดยเฉพาะการเป็นเทพแห่งอุปสรรคผู้สามารถสร้างสิ่งกีดขวางนานาให้เกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถขจัดอุปสรรคทั้งปวงได้ ดังนั้นบุคคลผู้กระทำพลีกรรมบูชาพระองค์เป็นที่พอพระทัย ก็จะประสบความสำเร็จใน กิจการทุกด้านทุกประเภท

         นอกจากนี้ พระคเณศยังเป็นเทพเจ้าที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นคือเศียรเป็นช้าง มีงาข้างเดียว องค์เป็นมนุษย์ ทรงหนูเป็นพาหนะ ในประเทศไทยพบหลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับพระคเณศหลายอย่างที่สำคัญได้แก่ ประติมากรรมรูปพระคเณศ พบเกือบทุกภาคโดยเฉพาะภาคใต้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากอินเดียทั้งคติความเชื่อและรูปแบบศิลปะ

         กรมศิลปากร หน่วยงานราชการแห่งหนึ่งของชาติ มีภารกิจเกี่ยวข้องกับมรดกทางศิลปวัฒนธรรม เป็นหลักได้แก่ นาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ อักษรศาสตร์ โบราณคดี ประวัติศาสตร์ การพิพิธภัณฑสถาน สถาปัตยกรรม งานช่างศิลป์สาขาต่างๆ จึงได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้รูปพระ คเณศเป็นตราประจำกรมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๘๐ เนื่องในโอกาสสถาปนากรมศิลปากรครบรอบ ๑๐๐ ปี ใน พ.ศ. ๒๔๕๔ จึงจัดทำโครงการจัดกิจกรรม "๑๐๐ ปี กรมศิลปากร ขอพรพระคเณศ" เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม "มหัศจรรย์พิพิธภัณฑ์ วันเดียวเที่ยวไม่พอ" โดยอัญเชิญประติมากรรมรูปพระคเณศ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และโบราณวัตถุสำคัญที่มีสภาพสมบูรณ์และงดงามตามแบบศิลปะแต่ละ ยุคสมัย จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค รวม ๑๑ แห่ง จำนวน ๓๒ รายการ มาจัดแสดง ซึ่งเป็นโบราณวัตถุจาก

        - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จำนวน ๑๐ รายการ
        - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (คลังกลาง) จำนวน ๓ รายการ
        - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ช้างต้น จำนวน ๓ รายการ
        - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จำนวน ๒ รายการ
        - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม จำนวน ๑ รายการ
        - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี จำนวน ๑ รายการ
        - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย จำนวน ๑ รายการ
        - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์ จำนวน ๑ รายการ
        - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุบลราชธานี จำนวน ๓ รายการ
        - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา จำนวน ๑ รายการ
        - พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช จำนวน ๖ รายการ

        มาจัดแสดง ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ชมและกราบไหว้ขอพร ทั้งนี้ กรมศิลปากรจะจัดให้มีพิธีเปิดงานในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ แล้วเปิดให้สาธารณชนเข้าชมและกราบไหว้ขอพรได้ตั้งแต่วันที่ ๒ – ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ โดยทุกวันอาทิตย์จะเปิดโอกาสให้นำเครื่องสักการะประเภทข้าวตอกดอกไม้มาขอพรเป็นกรณีพิเศษ


ที่มาของข่าว : www.finearts.go.th

[อักษรชนนี]

Tribute to a symbolic patron   
Ganesha display to mark cultural agency's centenary

.
An event sure to draw both aficionados of art and devotees of a Hindu deity is an exhibition of 32 images of Ganesha which opens on Friday at Issaravinijjai Throne Hall, in the compound of Bangkok's National Museum, and is scheduled to run until April 24.

Selected from exhibits stored at 11 museums across the country, the statues represent a variety of artistic approaches popular at different periods in Southeast Asian history, ranging from ancient Dvaravati to Koh Ker, a style linked with the Angkorian site of the same name in what is now northern Cambodia. Believed to be largest collection of Ganesha images assembled in Thailand in modern times, the exhibition is being organised to mark the 100th anniversary of the establishment of the Fine Arts Department, whose logo incorporates a representation of the elephant-headed deity.

Amara Srisuchat, an expert at the department, noted that the Hindu god has been venerated in this country as far back as the 12th or 13th century in the Buddhist calendar because worshippers believe he can help them overcome difficulties in their lives.

"Historical evidence indicates that it was Indian traders who first brought the god's image to this part of the world," she said. "Travel was a much more arduous proposition in those days and these merchants must have felt that they needed Ganesha's assistance in reaching remote destinations. People in this region gradually adopted the same belief.

"As the god of destruction and rejuvenation, Shiva, Ganesha's father, has ferocious aspects. But Ganesha is different," Amara reasoned. "He only provides worshippers with blessings. He never punishes anyone."
Devotees of Ganesha are invited to visit the National Museum every Sunday while the exhibition is underway to pay their respects by leaving flowers and other traditional offerings before a specially consecrated statue of the deity.

"The reason the department adopted a likeness of Ganesha as its official symbol," Amara explained, "was because he is seen as a patron of art, literature and knowledge, which are areas over which the department has been given jurisdiction."

From : http://www.bangkokpost.com

[อักษรชนนี]

ส่วนหนึ่งของเทวรูปพระคเณศโบราณที่จะนำมาจัดแสดงภายในงาน (ที่มาของภาพจาก : bangkokpost)
.

.

.

.

.

.

.

.

[อักษรชนนี]

             สำหรับท่านที่ชื่นชอบการแสดงของไทย ในวันที่ ๒ เม.ย. ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปชมและสักการะเทวรูปองค์พระคเณศ ภายในพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยในวันเดียวกันนี้ที่เวทีสังคีตศาลา ตรงสนามหญ้าด้านหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จะมีการแสดงชุดพระคเณศเสียงา ของสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ซึ่งเป็นการแสดงที่หาชมได้ยาก ท่านใดที่สนใจสามารถรับชมได้ตั้งแต่เวลา ๑๗.๐๐ น. เป็นต้นไปครับ

.

.

[bleebee]

จัดหลายวันเลยนะคะเนี่ย ถ้าฝ่าด่านน้ำท่วมไปได้ก็ไม่อยากพลาด 

[อักษรชนนี]

ยังจัดอีกหลายวันครับ แต่ถ้าไม่สามารถมาได้ (เพราะจำได้ว่าคุณ bleebee อยู่ทางใต้ที่ำกำลังประสบอุทกภัยอยู่)

ก็รอชมติดตามข่าวสารจากทางเว็บนี้ได้ครับ รับรองว่าแม้ไม่ได้มาชมด้วยตัวเอง แต่ก็จะได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างครบถ้วนแน่นอนครับ