Loader

สิรวีย์พาเที่ยว ตอนที่1

Started by อินทุศีตาลา, April 16, 2010, 12:59:00

Previous topic - Next topic

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Quote from: สิรวีย์ on April 18, 2010, 14:44:25


องค์นี้คือนางตารา ศิลปะศรีวิชัย พบที่บ้านหัวคู อำเภอไชยาค่ะ




องค์นี้คือนางจุณฑา ศิลปะศรีวิชัย นางจุณฑาเป็นศักติของพระวัชรสัตว์ค่ะ ได้รับการนับถืออย่างมากในบางส่วนของเบงกอล เชื่อว่านางถือกำเนิดจากอำนาจของพระพุทธเจ้าอโมฆสิทธิหรือบางตำราก็ว่าพระพุทธเจ้าไวโรจนะ และเป็นบุคลาธิษฐานของคาถาจุนฑาธาริณี รุปเคารพของพระนางมักมีหกกร ด้านขวาบนทรงปะคำ ขวากลางประทานพรมีเม็ดมณีกลางฝ่าพระหัตถ์ ขวาล่างและซ้ายล่างปางสมาธิ พระหัตถืว้ายบนทรงถือคัมภีนร์และซ้ายกลางที่หักกายไปนี้ต้องถือหม้อน้ำ

นางจุณฑา  ก็คือ  พระจุณฑิพุทธมารดา (准提佛母)  ใช่ไหมครับ   

ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

เทวรูปพระนางปารวตีหรือพระอุมาเทวีค่ะ เป็ฯรูปแบบเดียวกับที่ปัจจุบัน เราเรียกกันว่า องค์แทน
หากเทวรูปองค์นี้ประดิษฐานเคียงข้างพระนารายณ์ก็จะหมายถึง พระลักษมี หากประดิษฐานเคียงข้างพระพรหมก็จะหมายถึงพระสรัสวดี (ซึ่งในสมัยสุโขทัยยังไม่รู้จักพระองค์)
แม้เทวรูปเหล่านี้จะมีลักษณะโดยรวมคล้ายกัน แต่ก็มีความต่างด้วยลายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เป็นต้นว่า รูปแบบของพระภูษาทรง ลวดลายในกรองศอ มงกุฎ พาหุรัด หรือแม้แต่รูปแบบของกุณฑล ซึ่งนักวิชาการศิลปะนำโดยหม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล ทรงศึกษาและใช้ลวดลายกำหนดรุ่นอายุ

ลายละเอียดของเทวรูปพระเทวีองค์นี้ คล้ายกับเทวรูปพระอิศวรองคืหนึ่ง จึงอาจสร้างคู่กัน ท่านจึงจัดให้เป็นพระนางปารวตีหรือพระอุมาเทวี

   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

คำถามของคุณ Nai3 ตอบค่อนข้างยากนะคะ

หากให้ตอบตามข้อความทางวิชาการทางประวัติศาสตร์ศิลปะ คงต้องบอกว่าน่าจะเป็นคนละองค์กัน เพราะรูปแบบและเรื่องราวของพระนางจุณฑิพุทธมารดา อาจจะยังไม่มีในเวลาที่ช่างศรีวิชัยสร้างรูปนางจุณฑาซึ่งดิฉํนชวยทุกท่านไปชมมา ในเวลานั้นพระพุทธมารดามหายานที่เป็ฯที่ยอมรับคือพระนางปรัชญาปารมิตา หรือปัญญาบารมี ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นแม่ของพุทธะทั้งมวล เพราะพระองค์คือปัญญา อันเป็นเครื่องนำพระโพธิสัตว์ไปสู่การตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ

นางจุณฑา ซึ่งนำมาให้ชมนั้น เป็นศักติของพระวัชระสัตว์ค่ะ อันที่จริงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร มีประติมากรรมรูปร่างคล้ายกันนี้อีกจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นนางตารา อีกส่วนหนึ่งเป็นศักติของพระโพธิสัตว์หรือพระมหาสัตว์

สำหรับพระพุทธมารดาพระองค์นี้ เคยทราบมาว่าเป็นคติที่เกิดขึ้นภายหลังจากอาณาจักรศรีวิชัยเรืองอำนาจ ดิฉันจึงเล่าว่าอาจจะเป็นคนละองค์ แต่จะคลี่คลาย รับส่งอิทธิพลกันหรือไม่อย่างไรนั้น คงต้องรอบรรดานักวิชาการและผู้รู้ศึกษาต่อไป
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

Quote from: สิรวีย์ on April 19, 2010, 14:13:44
เทวรูปพระนางปารวตีหรือพระอุมาเทวีค่ะ เป็ฯรูปแบบเดียวกับที่ปัจจุบัน เราเรียกกันว่า องค์แทน
หากเทวรูปองค์นี้ประดิษฐานเคียงข้างพระนารายณ์ก็จะหมายถึง พระลักษมี หากประดิษฐานเคียงข้างพระพรหมก็จะหมายถึงพระสรัสวดี (ซึ่งในสมัยสุโขทัยยังไม่รู้จักพระองค์)
แม้เทวรูปเหล่านี้จะมีลักษณะโดยรวมคล้ายกัน แต่ก็มีความต่างด้วยลายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เป็นต้นว่า รูปแบบของพระภูษาทรง ลวดลายในกรองศอ มงกุฎ พาหุรัด หรือแม้แต่รูปแบบของกุณฑล ซึ่งนักวิชาการศิลปะนำโดยหม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล ทรงศึกษาและใช้ลวดลายกำหนดรุ่นอายุ

ลายละเอียดของเทวรูปพระเทวีองค์นี้ คล้ายกับเทวรูปพระอิศวรองคืหนึ่ง จึงอาจสร้างคู่กัน ท่านจึงจัดให้เป็นพระนางปารวตีหรือพระอุมาเทวี



ถ้าเอากระเป๋าหลุยแขวน จะดูไฮโซมากเลยนะครับ

55555555555555555555555555555555555555555555555

ขอต้อนรับคุณแต่ก็มิได้นำพาอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะคะ และขอบพระคุณมากที่กรุณาร่วมเที่ยวกับเราค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

April 19, 2010, 15:07:18 #45 Last Edit: April 19, 2010, 15:29:54 by สิรวีย์
สิ่งควรชมอีกอย่างหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือเทวรูปพระลักษมีเทวี ศิลปะอยุธยาตอนต้น ซึ่งมีกลิ่นอายของศิลปะอินเดียแบบปัลลวะ แต่เดิมเทวรูปองค์นี้ประดิษฐานเคียงข้างเทวรุปพระนารายณ์สมัยสุโขทัย ในสถานพระนารายณ์ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า ก่อนจะถูกเชิญมาประดิษฐานที่นี่แล้วสร้างองค์จำลองไปประดิษฐานแทนไว้ที่เดิม ซึ่งฝีมือผิดกันอย่างมาก เรียกว่าเทียบไม่ติดฝุ่น ดิฉันขออนุญาตไม่ลงรูปเทวรุปองค์นี้นะคะ แต่อยากเชิญชวนทุกท่านมาชมด้วยตนเอง โดยเฉพาะบรรดาข้าพระบาทของพระศรี ขอเรียนเชิญให้ท่านหาโอกาสมาชมให้ได้นะคะ ท่านจะไม่ผิดหวังเลย



สถานพระนารายณ์(รุปนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นฝีมือคุณอักษรชนนีหรือเปล่านะคะ หากใช่ก็ขออนุญาตท่านเจ้าของรูปด้วยเลย ณ ที่นี้)
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

5555
คิดได้ไงเนี้ยะ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเต็มไปด้วยโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุมากมาย อาทิ พระพุทธรูป เครื่องงา เครื่องเคลือบ เครื่องเงินเครื่องทอง เครื่องราชูปโภคพระราชยานคานหาม ศิลาจารึก หุ่นละคร หัวโขน เครื่องดนตรี ผ้าโบราณ ฯ ของแต่ละชิ้นบรรพชนของเราบรรจงสร้างขึ้นอย่างดีที่สุด และวันนี้ได้กลายเป็นเครื่องหมายแห่งความรุ่งเรืองของชาติ รอให้ลูกหลานอย่างเราๆเข้าไปสัมผัส เรียนรู้และชื่นชม เพื่อความภาคภูมิใจในแผ่นดินมาตุภูมิ รวมถึงความเข้าใจในตนเองมากยิ่งขึ้น

ค่าเข้าชมสำหรับคนไทย 30 บาท ปิดวันจันทร์และอังคาร เปิดตั้งแต่เวลาแปดนาฬิกาถึงสิบหกนาฬิกา หากเป็นวันเสาร์และอาทิตย์หรือเมื่อท่านมาเป็นหมู่คณะจะมีเจ้าหน้าที่นำชมค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

ดิฉันขอส่งท้ายสิรวีย์พาเที่ยวทริปแรกนี้ด้วย เทวรูปพระคเณศ ศิลาทราย ขุดพบที่เมืองโบราณศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี
แม้ว่าพระคเณศองค์นี้จะแตกหักเป็นชิ้นๆจนไม่สามารถทราบว่าพระองค์ประทับนั่งหรือยืนด้วยรูปแบบใด ร่องรอยของเทพศาสตราวุธก็หายไปหมด แต่ด้วยขนาดมหึมาและฝีมือสลักอันปราณีตที่เหลืออยู่ก็ทำให้เราเห็นถึงความงดงามได้โดยง่าย นักวิชาการลงความเห็นกันว่าพระคเณศองค์นี้อาจจะเก่าแก่เป็นอันดับต้นๆของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยเชียว

   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

สุดท้ายนี้ ดิฉันขอขอบพระคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางไปกับดิฉันในทริปนี้ ขอบพระคุณที่ทนดูมาจนกระทู้สุดท้ายนี้นะคะ แม้ว่าจะน่าเบื่อไปบ้างแต่ดิฉํนยินดีนำเสนออย่างยิ่งค่ะ และหวังว่าอีกไม่นานทุกท่านคงจะหาโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ด้วยตนเอง

หากมีสิ่งใดที่ดิฉันพลาดไป ยินดีรับฟังความคิดเห็นจากทุกท่านนะคะ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทริปหน้าจะได้รับความกรุณาจากทุกท่านร่วมเดินทางไปด้วยกัน สำหรับทริปนี้ สวัสดีค่ะ

   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

มาร่วมทริปช้าไปนิด เอาเป็นว่าผมมารับกลับบ้านแล้วกันครับ

จริงๆ แล้วที่นี่ผมมีโอกาสเข้าไปครั้งแรก นานมากแล้วครับ จำได้เลยว่าเคยเข้าไปกับ "พ่อ"

ด้วยความที่เป็นครูศิลปะท่านเลยชอบพาผมเข้าวัดและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ครับ

ส่วนปัจจุบันก็มีโอกาสผ่านไปบ่อยๆ แต่ไม่ได้เข้าไปเลย ต้องขอบคุณคุณสิรวีย์ครับ ที่พามารื้อฟื้นความทรงจำที่งดงามอีกครั้งครับ

Quote from: สิรวีย์ on April 19, 2010, 15:07:18
สิ่งควรชมอีกอย่างหนึ่งของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คือเทวรูปพระลักษมีเทวี ศิลปะอยุธยาตอนต้น ซึ่งมีกลิ่นอายของศิลปะอินเดียแบบปัลลวะ แต่เดิมเทวรูปองค์นี้ประดิษฐานเคียงข้างเทวรุปพระนารายณ์สมัยสุโขทัย ในสถานพระนารายณ์ เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า ก่อนจะถูกเชิญมาประดิษฐานที่นี่แล้วสร้างองค์จำลองไปประดิษฐานแทนไว้ที่เดิม ซึ่งฝีมือผิดกันอย่างมาก เรียกว่าเทียบไม่ติดฝุ่น ดิฉันขออนุญาตไม่ลงรูปเทวรุปองค์นี้นะคะ แต่อยากเชิญชวนทุกท่านมาชมด้วยตนเอง โดยเฉพาะบรรดาข้าพระบาทของพระศรี ขอเรียนเชิญให้ท่านหาโอกาสมาชมให้ได้นะคะ ท่านจะไม่ผิดหวังเลย



สถานพระนารายณ์(รุปนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นฝีมือคุณอักษรชนนีหรือเปล่านะคะ หากใช่ก็ขออนุญาตท่านเจ้าของรูปด้วยเลย ณ ที่นี้)

ไม่ใช่ฝีมือผมถ่ายหรอกครับคุณสิรวีย์ เป็นภาพเก่าที่สแกนมาจากหนังสือเล่มหนึ่งครับ (เมื่อครั้งเรียบเรียงบทความเกี่ยวกับเทวสถานครั้งแรกนั้น ผมยังไม่มีโอกาสได้ไปถ่ายภาพจากสถานที่จริง เลยจำเป็นต้องสแกนภาพจากหนังสือมาลงประกอบครับ)

แต่ในโอกาสนี้ผมขอร่วมด้วยอีกสักครั้ง ในการนำภาพเทวรูปพระแม่ลักษมีที่อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กับที่เทวสถานมาให้ได้ชมกันนะครับ (เผื่อท่านที่อยู่ไกลไม่สามารถไปชมด้วยตัวเองได้ จะได้นึกภาพตามออก)



.
(เทวรูปพระลักษมี จัดแสดงที่ชั้น ๒ อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร)
.

.
(เทวรูปพระลักษมี  ประดิษฐานภายในสถานพระนารายณ์ เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์)
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

องค์เก่ากับองค์แทนนี่ความงามห่างกันลิบลับเลย
เสียดายจัง
อยากทราบจังครับว่า
องค์แทนนี่สร้างเมื่อใดแล้วใครเป็นผู้ออกแบบ
น่าเสียดายๆๆๆ

เทวรูปปูนปั้นพระลักษมีที่เทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างจำลองขึ้นหลังปี พ.ศ.๒๔๘๕ (ซึ่งเป็นปีที่อัญเชิญกลุ่มเทวรูปจากเทวสถานไปรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร) แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าใครเป็นช่างที่ปั้นเทวรูปองค์นี้ครับ
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

ขอบพระคุณอาจารย์กาลิทัสที่กรุณามารับพวกเรากลับบ้านและคุณอักษรชนนีสำหรับรูปพระลักษมีงามๆนะคะ

ข้อสังเกตของดิฉันก็คือ หากเทวรูปที่นำมาประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์นั้นเดิมเคยประดิษฐานอยู่ที่สถานพระนารายณ์ แล้วเทวรูปพระมเหศวรีซึ่งประดิษฐานอยู่อีกด้านของพระลักษมีที่สถานแห่งนั้น มีองค์จริงหรือไม่ หากมีแล้วองค์จริงไปไหน และหากไม่เคยมี ใครเป็ฯต้นคิดให่หล่อรูปพระมหเศวรีไปประดิษฐานที่นั่น ดูจากฝีมือแล้ว พระมหเศวรีน่าจะสร้างจากช่างคนเดียวกัน และอาจจะสร้างขึ้นพร้อมๆกัน ข้อนี้คงต้องรบกวนท่านผู้รู้กรุณาสืบหาต่อไป


แต่ดิฉันเข้าใจว่าช่างหรือผู้เกี่ยวข้องคงตั้งใจจะเพียงจำลองรูปร่างคร่าวๆของเทวรูปพระลักษมีกลับไปประดิษฐานที่เดิมค่ะ

เรื่องของจำลองเอาไปตั้งแทนที่เดิมนี้ หากใครอยู่พิษณุโลกหรือเคยไปพิษณุโลก แล้วมีโอกาสแวะไปนมัสการพระพุทธชินราชคงทราบดี ที่นั่นยังมีวิหารที่เคยประดิษฐานพระพุทธชินสีห์และพระศาสดา ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ก็มีพระพุทธรูปซึ่งวังหน้าในรัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาฯให้ช่างหล่อจำลองไว้แทนที่

แต่ดูยังไงพระทั้งสององค์นั้นก็ไม่เหมือนหรือแม้แต่ไม่คล้ายพระพุทธชินสีห์และพระศาสดาเลยค่ะ พอจะกล่าวได้ว่าความ 'เพี้ยน' ของของจำลองนี่ไม่ได้มีมาแค่ไม่กี่ปีมานี้

หากไม่คิดอะไรมากก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ

ปล.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ไม่ขัดข้องหากจะนำพวงมาลัยไปสักการะนะคะ เพียงแต่ต้องระวังดังนี้

1. อย่าแตะต้องโบราณวัตถุค่ะ เพราะอาจเกิดการชำรุดเสียหาย แต่ก่อนที่โบราณวัตถุจะเกิดการชำรุดนั้น เราจะถูกเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ขย้ำคนเสียก่อน
2. วางพวงมาลัยได้เพียงบนฐานไม้รองรับโบราณวัตถุหรืออาจจะวางบนพื้นค่ะ เพื่อไม่ให้ความชื้นจากดอกไม้และสารพิษทำลายเทวรูป
3. ทางที่ดีควรขออนุญาตเจ้า (หน้า) ที่ ที่ดูแลห้องนั้นเสียก่อน เพราะตามปรกติแล้ว เจ้า(หน้า) ที่ เหล่านี้ดุร้ายมากค่ะ ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษเพียงบางคน แต่ทั้งนี้ไม่ใช่เขาเป็ฯคนไม่ดีนะคะ เพียงแต่หน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมายคือการเฝ้าระวังโบราณวัตถุที่สำคัญของชาติค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

อาจารย์กาลิทัส

ไม่อาจเอื้อมครับ เอาเป็นกาลิทัสเฉยๆ ดีกว่าครับคุณสิรวีย์ แหะๆๆๆๆ

เทวรูปสวยมากๆๆ เลยครับ ต้องไปชมด้วยตาแล้ว งดงามมาก ต้องไปให้ได้ ชอบเทวรูปเทพสตรีมากๆเลยครับ

ขบวนรถเที่ยวนี้ ได้พาดิฉัน ได้ไปพบเห็นเทวรูปสวยๆงามๆตา ระรานตา ระรานใจจริงๆ ขอบคุณนะค่ะ ดิฉันมีพี่ๆเป็น

กัลยามิตร ที่ดีๆเช่นนี้ อยากบอกว่ารักพี่ๆจังเลย

ขอบคุณนะค่ะ

Quote from: กาลิทัส on April 20, 2010, 13:56:59
อาจารย์กาลิทัส

ไม่อาจเอื้อมครับ เอาเป็นกาลิทัสเฉยๆ ดีกว่าครับคุณสิรวีย์ แหะๆๆๆๆ


5555   ขำพี่ยีนส์   สวัสดีคะท่านอาจารย์ยีนส์ เอิ้กๆ


อิอิ แหมใครเก่งและดี ดิฉันเรียกอาจารย์หมดแหละค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)