Loader

หญิงค่อม

Started by อินทุศีตาลา, January 08, 2010, 12:18:10

Previous topic - Next topic

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

ประติมากรรมหญิงค่อมที่วางอยู่แทบพระบาทเทวรูปพระกฤษณะ ที่วัดเทพมณเฑียร คือใครคะ

คนเดียวหรือคนละคนกับนักบวชหญืงชื่อ กาไลกาลัมเมยาร์ คะ

ขอบพระคุณค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

January 08, 2010, 12:56:33 #1 Last Edit: January 08, 2010, 15:42:21 by กาลิทัส
เอ่อ พระกฤษณะที่เทพมณเฑียร คือผมจำได้ว่าที่พระบาทท่านไม่มีรูปปั้นหญิงค่อมนะครับ

แต่เห็นเป็นพระกฤษณะตอนเด็กมากกว่าครับ

แต่ถ้าเป็น กาไลกัล อัมมัยยา นี่ผมว่าน่าจะเอาไปวางที่พระบาทแห่งพระศิวะมากกว่านะครับ เพราะท่านเกี่ยวข้องกับพระศิวะโดยตรง

โอ หรือคะเนี่ย เข้าใจผิดมาโดยตลอด

นี่เป็นเหตุให้ถามเลยค่ะ เพราะทราบว่านักบวชหญิงนี้มักปรากฎในเรื่องเกี่ยวกับพระศิวะ

ขอบพระคุณคุณกาลิทัสมากเลยนะคะ ที่ชี้ทางสว้างให้

เขาไปทีไร เขาคลุมผ้าไว้ทุกที เลยเข้าใจผิด (มาหลายปี)

ในที่สุดก็ฉลาดกับเขาขึ้นมาบ้าง

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

January 08, 2010, 15:04:49 #3 Last Edit: January 08, 2010, 16:08:26 by กาลปุตรา
ภาพนี้หรือเปล่าครับ



ถ้าดูจากภาพน่าจะเป็นพระกฤษณะในวัยเด็กมากกว่านะครับ ส่วนที่พูดถึงหญิงค่อมนั้น ในกฤษณาวตาร และมหาภารตะก็มีกล่าวถึงไว้เช่นกัน

โดยอยู่ในตอนที่พระกฤษณะได้รับคำเชิญจากกัมสะ (พญากงส์) ให้เข้าไปในเมืองเพื่อจะได้ทำการสังการพระกฤษณะและพลราม โดยเรื่องมีอยู่ว่า

เมื่อพระกฤษณะเสด็จเข้าไปในเมือง พระองค์ได้ทรงพบกับหญิงค่อมนางหนึ่งซึ่งถือถาดใส่แป้งกระแจะจันทน์เดินมา พระกฤษณะจึงตรัสทักหญิงค่อมผู้นั้นไปว่า "โอ้หญิงสาวผู้สูงโปร่งรูปงาม เธอนั้นเป็นใคร แล้วกำลังถือถาดกระแจะจันทน์ไปให้ใคร เราคิดว่าเธอนั้นควรที่จะถวายกระแจะจันทน์นั้นแก่เราทั้งสอง เพราะถ้าหากเธอกระทำเช่นนั้นเรามั่นใจว่าเธอนั้นจะกลายเป็นผู้ที่มีโชคดี"

หญิงค่อมจึงกล่าวตอบไปว่า "เรานั้นเป็นข้ารับใช้และกำลังจะนำแป้งกระแจะจันทน์นี้ไปถวายแด่ราชากัมสะ"

พระกฤษณะตรัส "น้องหญิงจะมีประโยชน์อันใด ที่เธอนั้นจะไปรับใช้มารเช่นกัมสะ เธอนั้นจงมารับใช้เราและองค์พลรามจะดีกว่า แล้วเธอนั้นจะได้รับผลแห่งการรับใช้เราทั้งสองในทันที"

หญิงค่อม ตอบ "โอ้ ... ศยามสุนทรผู้มีวรกายสีนิล ข้าพเจ้านั้นต้องส่งกระแจะจันทน์ให้แก่ราชากัมสะทุกวัน แต่ในครั้งนี้ข้าพเจ้าได้พบผู้สมควรแก่การถวายที่แท้จริงทั้งสองพระองค์แล้ว ดังนั้นแป้งกระแจะจันทน์นี้ข้าพเจ้าขอถวายแด่พระองค์แทนจะควรกว่าการนำไปถวายราชาแห่งมาร"

แล้วหญิงค่อมก็หยิบแป้งกระแจะจันทน์บรรจงทาไปทั่วร่างของพระกฤษณะและพระพลราม ปรากฏว่าแป้งกระแจะจันทน์ที่ถูกทาลงไปที่ทั้งสองพระองค์นั้น ปรากฏเป็นรัศมีเปล่งปลั่งสวยงามกว่าที่เคยมี

พระกฤษณะทรงพอพระทัยในการรับใช้ของหญิงค่อมเป็นอย่างมาก จึงพิจารณาว่าจะให้รางวัลอะไรเป็นการตอบแทน เมื่อพระกฤษณะคิดได้จึงกดพระบาทรูปดอกบัวของพระองค์ไปที่ฝ่าเท้าของหญิงค่อม และใช้พระหัตถ์จับที่แก้มของนาง จากนั้นก็ทรงกระตุกร่างของนางให้ลุกขึ้น ปรากฏว่าร่างของหญิงค่อมเปลี่ยนกลายมาเป็นหญิงสาวที่สวยสดงดงามและมีลำตัวที่ตรง ร่างกายสมส่วนในทันที

นางจึงรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณของพระกฤษณะมาก และนางเองก็เกิดความหลงรักในพระกฤษณะ นางจึงเกิดความเขินอายเมื่อยามพระกฤษณะทรงแย้มพระสรวลให้ นางจึงไปจับชายผ้าของพระกฤษณะแล้วบิดดึงไว้ พร้อมทั้งเกิดอาการเร่าร้อนประดุจต้องศรของกามเทพ จนนางเองลืมไปว่านางกำลังอยู่บนถนนและอยู่ต่อหน้าองค์พลรามด้วย

แล้วนางก็ได้สารภาพความในใจของนางว่านางนั้นเกิดความหลงรักพระกฤษณะตั้งแต่แรกเห็น แล้วทูลเชิญพระกฤษณะให้ไปยังบ้านของเธอ พระกฤษณะจึงตรัสว่า "น้องหญิงผู้น่ารักและเป็นที่รักของเรา เรานั้นยินดีตอบรับคำเชิญตามปรารถนาของเธอ และเราจะไปยังบ้านของเธอเมื่อเราเสร็จสิ้นภารกิจการกำจัดมารกัมสะเสียก่อน"

หลังจากพระกฤษณะได้สังหารมารคัมสะเรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็เสด็จมาหาหญิงค่อมผู้นั้นตามที่ได้สัญญาไว้ และได้รับนางนั้นไว้เป็นสนมตามที่นางปรารถนาด้วย

เรื่องของหญิงค่อมกับพระกฤษณะก็มีด้วยประการฉะนี้ บ้างก็ว่าหญิงค่อมนั้นเป็นหนึ่งในอวตารของพระลักษมี เพราะในมหากาพย์ภารตะนั้นพระลักษมีได้แบ่งภาคอวตารลงมาในหลายรูปแบบ เป็นชายาของพระกฤษณะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพระราธา หรือมเหสี ชายาองค์อื่นด้วย
[HIGHLIGHT=#ffff00]
[HIGHLIGHT=#ffff00]อันจิตมนุษย์นั้นชอบวิ่งออกไปแสวงหาพระเจ้าจากวัตถุภายนอก[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]จนลืมย้อนมองดูพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง อันสถิตอยู่ในใจเรา[/HIGHLIGHT]
[/COLOR][/HIGHLIGHT][/FONT]

ใช่ค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

โอเคครับ ผมได้เล่าเรื่องหญิงค่อมในมหาภารตะให้ฟังแล้วนะครับ
[HIGHLIGHT=#ffff00]
[HIGHLIGHT=#ffff00]อันจิตมนุษย์นั้นชอบวิ่งออกไปแสวงหาพระเจ้าจากวัตถุภายนอก[/HIGHLIGHT]
[HIGHLIGHT=#ffff00]จนลืมย้อนมองดูพระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง อันสถิตอยู่ในใจเรา[/HIGHLIGHT]
[/COLOR][/HIGHLIGHT][/FONT]

เหมือนที่พี่กาลิทัสและคุณกาลปุตรากล่าวมาครับ รูปเคารพที่อยู่ตรงพระบาทของพระกฤษณะในวัดเทพมณเฑียรนั้นก็คือ พระกฤษณะในตอนเด็กครับ


.
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

ขอบพระคุณทุกท่านจริงๆค่ะ
ดีใจจัง

เอ่อ มีหญิงค่อมในมหาภารตะ ในรามายณะ แล้วมีที่ไหนอีกไหมคะ

มีประติมากรรมของหญิงค่อมเหล่านี้บ้างหรือไม่

แค่อยากรู้ค่ะ

   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

แล้ว กาไลกัล อัมไมยา  เป็นใครอะคัฟ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

ในรามายณะ มีหญิงค่อม เป็นพี่เลี้ยงนางไกยเกษี(ไกเกยี) คือนางค่อมกุจจี รามายณะเรียกว่า มันถรา เป็นคนยุให้นางไกยเกยีให้เกลียดพระราม และให้ลูกตนเองเป็นกษัตริย์อโยธยา

แล้วมีเมืองกานยกุพชะ ปัจจุบันคือ kannauj คือเมืองหญิงค่อม
มีตำนานว่าพระพายเสด็จผ่านเมืองนี้ เกี้ยวพาราสีสาวแคว้นนี้ แน่พวกนางมะเล่นด้วย พระราชสาปนางให้เป็นหญิงค่อม....อ่านรายละเอียดในบ่อเกิดรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ร.6

Quote from: nai 3 on January 08, 2010, 18:22:03
แล้ว กาไลกัล อัมไมยา  เป็นใครอะคัฟ

காரைக்கால் அம்மையார் กาไรกฺกาลฺ อมฺไมยารฺ เธอเป็นนักบุญครับ


http://en.wikipedia.org/wiki/Karaikkal_Ammeiyar

เผอิญผมอ่านภาษาอังกฤษไม่รุ้เรื่องอะ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

Quote from: อักษรชนนี on January 08, 2010, 15:59:50
เหมือนที่พี่กาลิทัสและคุณกาลปุตรากล่าวมาครับ รูปเคารพที่อยู่ตรงพระบาทของพระกฤษณะในวัดเทพมณเฑียรนั้นก็คือ พระกฤษณะในตอนเด็กครับ


.


ชอบอ่ะครับเห็นอยู่ที่วัดเทพมณเฑียร เห็นแล้วน่ากอดมากน่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเหมือนต๊กตาเลย
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

ว้ายยยยยย พิมพ์ไรไปเนี่ยต้องขอขมาองค์ท่านด้วยลืมตัว
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้