ทำไมต้องจุดตะเกียงไฟ ???

[กาลิทัส]

ทำไมเราต้องจุดตะเกียงไฟขณะทำการบูชาพระเป็นเจ้า



ในบ้านของชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดูแบบจะทุกหลังคาเรือน ตะเกียงไฟจะถูกจุดที่แทนบูชาพระเป็นเจ้าเสมอ และการจุดนั้นจะจุดทุกด้านของสถานที่นั้นๆ  บางบ้านจะจุดเฉพาะในเวลาเช้ามืด ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น บางบ้านก็จุดสองรอบต่อวัน คือ เช้ามืดและพลบค่ำ และอีกจำนวนหนึ่ง ((ประเภทนี้มีอยู่น้อยครับ)) คือจุดอยู่ตลอดเวลา ไม่ดับเลย

งานทุกงาน พิธีทุกพิธีของชาวฮินดูนั้นจะมีการจุดตะเกียงไฟอยู่เสมอ และในระหว่างพิธีนั้นๆ จะต้องมีคนคอยดูและไม่ให้ตะเกียงไฟนั้นดับ เช่น การบูชาพระแม่ลักษมีในวันดิปาวาลิ คนในบ้านก็จะช่วยกันดูแลไม่ให้ตะเกียงไฟดับ จนสิ้นวันหรือเทศกาลการบูชาจบลง เป็นต้น

[กาลิทัส]

ความสว่าง เป็นสัญลักณ์แห่งความรอบรู้ ช่วยขจัดความมืด และ อวิชชาทั้งหลาย พระเป็นเจ้าก็เช่นเดียวกัน พระองค์เป็นเหมือนเจ้าแห่งความรู้  เป็นต้นกำเนิดของความรู้ทั้งหมด เป็นดั่งผู้ให้แสงสว่าง ขจัดสิ่งไม่ดีไม่งามทั้งหลาย ดังนั้นการจุดตะเกียงไฟ ก็เหมือนกับการอัญเชิญแสงสว่าง สิ่งที่เป็นมงคล เข้ามาสู่ภายในบ้าน หรือหลังคาเรือน กล่าวอีกทีคือ เป็นการอัญเชิญพระเป็นเจ้ามาสู่ปรัมพิธีนั่นเอง

ดังนั้นชาวอินเดียจึงมีความเชื่อว่า บ้านใดที่ใดจุดตะเกียงไฟ บ้านนั้นหลังนั้น จะประสบกับความสุขความเจริญ ความสำเร็จทั้งหลายทั้งปวงครับ

แค่ความสว่าง ทำไมไม่เปิดหลอดไฟที่เป็นไฟฟ้า ทั้งๆ ที่มันก็ให้ความสว่าง ขจัดความมืดเหมือนกัน

นั่นก็เพราะชาวอินเดียนั้นมีความเชื่ออย่างเข้มแข็งในการปฏิบัติตนตามวิถีที่ได้ทำมา และมีความเชื่อว่า การจุดตะเกียงไฟนั้นมีนัยในการบูชา มีผลทางจิตวิญญาณมากกว่า

เช่น น้ำมัน หรือ น้ำมันเนย ที่ใช้จุดตะเกียงไฟ ก็เป็นเครื่องหมายความความศรัทธา บูชา และภักดี อย่างแรงกล้า เป็นเสมือนเครื่องพลักดันให้เกิดแสงสว่างครับ เมือเราบูชาอย่างแรงกล้าดั่งน้ำมันเนย เมื่อถึงจุดหนึ่ง เปลวไฟเบื้องบน (พระเป็นเจ้า) จะแผดเผา จะขจัดความไม่รู้ ความเคลือบแคลง ความสงสัยต่างๆ (อีโก้) ให้หมดสิ้นไป และยิ่งเติมน้ำมันเข้าไปมากเท่าไหร่ เปลวไฟจะยิ่งสูงขึ้นและสว่างมากขึ้นเท่านั้นครับ

บ้างก็ว่าที่จุดตะเกียงไฟเพราะเน้นเรื่องธาตุทั้ง 5 ขณะประกอบพิธีทางศาสนาต่างๆ คือ

ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ, อากาศ

ซึ่งธาตุทั้ง 5 อย่างที่ใช้ในการบูชา เราเรียกว่า ปัญจะ มหาบูชา

ช่วงจังหวะการจุดตะเกียงไฟมีการสวดมนตราบูชาด้วยนะครับ แต่บังเอิญว่ามันเป็นเป็นภาษาสันสฤต (ผมไม่รู้ภาษานี้)
((อันนี้ให้เพื่อนช่วยอ่านให้ฟังแล้วนั่งสะกดออกมาเป็นตัวๆ ให้ครับ))

ดีปาจโยตี พาราพรหมา
ดีปา เซรวา ทราโมปฮาฮา
ดีปีนา สาดยาเต สารัม
สันดยา ดีโป นะโมสตุเต

คำแปลครับ

ข้าพเจ้าขอบูชา ยามเช้า/ยามพลบค่ำ ด้วยตะเกียงไฟ
เจ้าของแสงส่วางนี้คือเจ้าแห่งความรู้((ในที่นี้หมายถึงพระเป็นเจ้า))
ที่ซึ่งขจัดความมืด ความไม่รู้ อวิชชาต่างๆ
ทั้งหมดนี้เพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิต

ที่มา : http://www.scribd.com/doc/7772985/Hindu-Rituals-and-Routines-Why-Do-We-Follow-Them
แปลโดย : กาลิทัส

[Purple_Tulip]

ขอบคุณค่ะ

[nai 3]

คือ...
เวลาผมสวดมนต์
ผมก็จุดตะเกียงอะคัฟ
แล้วก็นั่งสมาธิ
พอออกจากสมาธิผมก็จะสวดอัคนีคายตรีมันตรา
ไม่ทราบว่าใช้ได้ไหมอะคัฟ

[กาลิทัส]

 กายาตรีมนตรา เป็นบทบูชาพระอาทิตย์นะครับเท่าที่ทราบ

ไม่ใช่บทบูชาไฟ

แต่การนั่งสมาธิ ไม่ว่าจะภาวนาอะไร ขอให้ถูกกับจริต ของผู้ที่ปฏิบัติก็พอครับ

บางคนภาวนาแบบนับเลข
บางคนภาวนาโดยใช้ "โอม" การ
บางคนภาวนาพระนามแห่งพระเจ้า

ก็ต่างกันไปครับ

เพราะอย่างงั้นที่ภาวนา กายาตรีมนตรา ถือโอเคครับ ถ้าถูกกับจริตของคุณ nai 3
แต่คงไม่เกี่ยวกับการจุดตะเกียงครับผม  

[nai 3]

ผมหมายถึงมนต์
อัคนีคายตรี
อะคัฟ

[กาลิทัส]

อ๋อ เข้าใจแล้วครับ เป็นบทคายตีของพระอัคนี

โอม มหาจวารายี วิดมาฮี
อัคนีเดวาย ดีมาฮี
ตันโน อัคนี ประโชดายา

บทบูชานี้เค้าว่าสามารถขับเคลื่อนพลังต่างๆ ในร่างกายได้ครับ  

[nai 3]

แต่ที่ผมสวดคือบทนี้อะคัฟ
Om Vaisvanaraya vidhmahe
     Lalelaya dhimahi
     Tanno Agnih prajodayat
ผมจะสวดบุชาดวงประทีปอะคัฟ

[กาลิทัส]

  http://www.mediafire.com/?u4wjdiznzyo

ว่าแล้วก็เอามาฝากกันครับ อัคนีคายตรี ครับ

แต่อันนี้เป็นแบบ โอม มหาจวารายี นะครับ

เอาไปเปิดตอนนั่งสมาธิก็ได้ครับ เห็นว่าเป็นมนตรากระตุ้น

จักราในร่างกายด้วยครับ

[nai 3]

รบกวนอีกนิดคัฟ
มนตราทั่งสองแบบต่างกันอย่างไรคัฟ

[กาลิทัส]

เดี๋ยวผมเอาบทของคุณ nai3 แบบ Mp3 มาลงไว้ให้ด้วยครับ

เท่าที่ทราบเป็นบทบูชาอัคนีเหมือนกันครับ

เพียงแต่ถ้าแปลความหมายโดยกว้างๆ แล้ว คือ บทมหาจวารายี

จะหมายถึงการบูชาธาตุไฟ ในร่างกาย หรือ จักราต่างๆ ครับ

แต่อีกบท จะใช้บูชาไฟภายนอกครับ เพื่อใช้ไฟนั้นเข้าถึงสมาธิครับผม
((จะว่าไปบทนี้คงคล้ายๆ แนวบูชากสิณไฟ)) ครับ

[จิ้งจอกพันหน้า]

อยากนั่งสมาธิได้มั่งจัง นัี่งไม่เคยได้เลยอ่ะเต็มที่ ไม่เกิน 10 นาที ก็ เริ่ม ยุกยิกๆ แระ อิอิ



ช่วงจังหวะการจุดตะเกียงไฟมีการสวดมนตราบูชาด้วยนะครับ แต่บังเอิญว่ามันเป็นเป็นภาษาสันสฤต (ผมไม่รู้ภาษานี้)
((อันนี้ให้เพื่อนช่วยอ่านให้ฟังแล้วนั่งสะกดออกมาเป็นตัวๆ ให้ครับ))

ดีปาจโยตี พาราพรหมา
ดีปา เซรวา ทราโมปฮาฮา
ดีปีนา สาดยาเต สารัม
สันดยา ดีโป นะโมสตุเต



(อันนี้ ใช้ท่องตอนกำลังจุด ตุเกียง เหรอคร้าฟ )

[กษิติ]

เหอะๆๆ....ผมจุดเอาไว้ทั้งวันทั้งคืนเลยครับ

[จิ้งจอกพันหน้า]

เหอะๆๆ....ผมจุดเอาไว้ทั้งวันทั้งคืนเลยครับ

นึกถึงหนัง เรื่องนึงที่นางเอกจุดตะเกียง รอพระเอก ไม่เคยให้ตะเกียงดับเรย สิบกว่าปี

เดวทำมั่งดีกว่า อิอิ

[sikhareshwara]

เอางั้นเลยเหรอคับคุณ narada
จะดีเหรอ

[จิ้งจอกพันหน้า]

อุ้ยยย....... ป่าว จ้า พูดเล่น ตะหาก แหม แหม แหม ...หุหุหุ