Loader

ผงเจิมครับ

Started by โอม มหา บารมี เทวา โอม, December 05, 2009, 21:17:33

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

ใครทำเป็นมั้งช่วยบอกหน่อย คืิอ ผมซื้อผงเจิมกุมกุมมา เป็นตลับสีแดง จะเจิมถวายเทวรูปแต่เจิมไม่ติดเพราะเป็นทองเหลือง ไม่รู้ต้องผสมน้ำนิดนึงป่าว

ใครทำเป็นมั้งช่วยบอกหน่อยครับ
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

ถูกต้องครับ เวลาจะใช้กุมกุมในการเจิมเทวรูปนั้น จำเป็นต้องผสมน้ำนิดหน่อย ไม่อย่างนั้นแล้วกุมกุมจะไม่ติดที่องค์พระครับ
.
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

Quote from: อักษรชนนี on December 05, 2009, 21:24:24
ถูกต้องครับ เวลาจะใช้กุมกุมในการเจิมเทวรูปนั้น จำเป็นต้องผสมน้ำนิดหน่อย ไม่อย่างนั้นแล้วกุมกุมจะไม่ติดที่องค์พระครับ

ขอบคุณคับ คุณอักษรชนนี  เดี่ยวจะหาน้ำอบมาผสมดีกว่า
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

เมื่อวานเจี๊ยบก้อเจิมองค์พระที่บูชาที่บ้านเช่นกันค่ะ  ถ้าผสมน้ำเยอะไปก้อไม่ติดนะค่ะ
ต้องทำให้ข้นๆมากทีสุดค่ะ  แอบมือสั่นเล็กน้อย..กัวทำผิดทำถูก..ขอขมาแล้วขอขมาอีก   

เกรงใจองค์ท่านจัง   อ้อ..ผงศักดิ์สิทธิ์นี้ได้รับจากคุณพี่คิวค่ะ  ยกเครดิตให้อิอิ
ความดีไม่ต้องทำให้ใครเห็น
ไม่ต้องบอกประกาศให้ใครรู้
นั่นสิน๊ะคือความดีที่แท้จริง

ค่ะ แต่ถ้าจะให้ดี ต้อง ใช้น้ำที่ที่มีกลิ่น เช่น น้ำเครื่องหอม น้ำปรุง จาก กุหลาบ หรืออื่นๆ เพราะ ถึงแม้ ผง kum kum  จะมีกลิ่นหอมอยู่แล้วก็ตา แต่ถ้าเราใช้น้ำ ที่มีกลิ่นจากธรรมชาติ หมายถึงการที่เรา ใส่ใจรายระเอียด แม้กระทั่งน้ำ ที่ ใช้ ค่ะ
[HIGHLIGHT=#ffffff]
ภควาน จักรวาลชนนี
[/HIGHLIGHT]

เพราะ..สังคม ประเมิณค่า ที่จนรวย คนจึงสร้าง..เปลือกสวย ไว้สวมใส่

หากสังคม..วัดค่า ที่ภายใน  คนจะสร้าง..จิตใจ ที่ '' ใฝ่ดี''





**** หมายเหตุ การเจิม นั้น ก็ ควรใช้ นิ้วให้ถูก ต้อง เพราะ แต่ ละนิ้ว มีความหมาย ของ การใช้ และ จุด ประสงค์ในการ เจิม ที่ แตกต่างกัน
[HIGHLIGHT=#ffffff]
ภควาน จักรวาลชนนี
[/HIGHLIGHT]

เพราะ..สังคม ประเมิณค่า ที่จนรวย คนจึงสร้าง..เปลือกสวย ไว้สวมใส่

หากสังคม..วัดค่า ที่ภายใน  คนจะสร้าง..จิตใจ ที่ '' ใฝ่ดี''





ถ้าไม่รบกวนจนเกินไป แนะนำด้วยครับว่า
นิ้วไหนมีความหมายยังไงบ้างครับ และใช้
เวลาไหนบ้าง ขอบคุณครับ
โอม ทัต ปูรูชยา วิดมาเฮ วักรา ทุนดายา ดีมาฮี ทะโน ทันติ ปราโชดายะ 

ส่วนใหญ่แล้วการเจิมเทวรูป จะใช้นิ้ว นาง ในการเจิม ส่วน หน้า ระหว่างคิ้วก็ดี หรือ หน้าผาก และ จะใช้ นิ้วโป้ง เจิมเสย ช่วงเสกพระเกศาหรือส่วนกลางด้านบนสุด ของ พระเทวี ที่มี สวามีี แล้วเท่านั้น ค่ะ

**หมายเหตุ แต่บางที่ บางนิกาย ก็จะมีการเจิม โดยใช้นิ้ว ซึ่ง ต่างไปอีกค่ะ
[HIGHLIGHT=#ffffff]
ภควาน จักรวาลชนนี
[/HIGHLIGHT]

เพราะ..สังคม ประเมิณค่า ที่จนรวย คนจึงสร้าง..เปลือกสวย ไว้สวมใส่

หากสังคม..วัดค่า ที่ภายใน  คนจะสร้าง..จิตใจ ที่ '' ใฝ่ดี''





เท่าที่ทราบครับ สาเหตุที่ต้องใช้นิ้วนางมือขวาเพราะว่า เชื่อกันว่าเป็นนิ้วที่มีพลังแห่งเทพนารี หรือพระแม่ปารวตีครับ

ส่วนนิ้วชี้นี่เชื่อว่าเอาไว้สาปครับ เลยไม่นิยมใช้ครับผม

แย่แล๊ววววววววววพี่กาลิทัส 
เจี๊ยบใช้นิ้วชี้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จริงๆๆอ่ะ  แง๊ๆๆ 
ถือว่าผิดเปนครูล่ะกันนะค่ะ  ไม่ได้ตั้งใจจริงๆๆอ่ะ
ความดีไม่ต้องทำให้ใครเห็น
ไม่ต้องบอกประกาศให้ใครรู้
นั่นสิน๊ะคือความดีที่แท้จริง

ลองดูก่อนแล้วกันครับว่ามีนิกายไหนใช้นิ้วชี้รึเปล่าตรงนี้พี่ไม่ทราบเหมือนกัน แหะๆๆๆ

ใช่ค่ะ อย่างที่ กาลิทัส พูด แล้ว นิ้วนาง ยัง มีความเชื่อว่า เป็น นิ้วที่ สื่อ สำผัส กับ หัวใจเราที่สุด ส่วนนิ้วชี้ ไม่นิยม และ ถึงใช้คำว่า ไม่ใช้กันเลยค่ะ เพราะ ถึงไม่ต้องเจิม แต่ แค่ เอา นิ้วชี้ ชี้ไปทาง เทวรูป รูป สัญลักษณ์ แห่ง ศรัทธา ทั้งหลาย ก็ไม่ควรค่ะ เพราะ ถือ ว่า เป็นการดูถูก เหยียบหยาม พระองค์ อย่างรุนแรง ค่ะ
[HIGHLIGHT=#ffffff]
ภควาน จักรวาลชนนี
[/HIGHLIGHT]

เพราะ..สังคม ประเมิณค่า ที่จนรวย คนจึงสร้าง..เปลือกสวย ไว้สวมใส่

หากสังคม..วัดค่า ที่ภายใน  คนจะสร้าง..จิตใจ ที่ '' ใฝ่ดี''





*** หมายเหตุ ขอโทษ คุณ กาลิทัส ที่ โพส เมื่อกี้ ลืม ใส่คำว่า " คุณ " ขอโทษ ณ.ที่นี้  นะค่ะ พิมพ์ไวไปนิด นึง อิอิ
[HIGHLIGHT=#ffffff]
ภควาน จักรวาลชนนี
[/HIGHLIGHT]

เพราะ..สังคม ประเมิณค่า ที่จนรวย คนจึงสร้าง..เปลือกสวย ไว้สวมใส่

หากสังคม..วัดค่า ที่ภายใน  คนจะสร้าง..จิตใจ ที่ '' ใฝ่ดี''





โอ้...อ่านแล้วลมจับจะเปนลมอ่ะ   
เศร้าใจ T_T  ไม่รู้จิงๆหนิ๊เนอะ

ความดีไม่ต้องทำให้ใครเห็น
ไม่ต้องบอกประกาศให้ใครรู้
นั่นสิน๊ะคือความดีที่แท้จริง

ไม่รู้ ไม่ผิด ค่ะ  ไม่มีใคร เป็น ผู้รู้ ตั้งแต่ อุแว้ แรก โน๊ะ อิอิ
[HIGHLIGHT=#ffffff]
ภควาน จักรวาลชนนี
[/HIGHLIGHT]

เพราะ..สังคม ประเมิณค่า ที่จนรวย คนจึงสร้าง..เปลือกสวย ไว้สวมใส่

หากสังคม..วัดค่า ที่ภายใน  คนจะสร้าง..จิตใจ ที่ '' ใฝ่ดี''





Quote from: sacred avatar on December 08, 2009, 15:26:21
*** หมายเหตุ ขอโทษ คุณ กาลิทัส ที่ โพส เมื่อกี้ ลืม ใส่คำว่า " คุณ " ขอโทษ ณ.ที่นี้  นะค่ะ พิมพ์ไวไปนิด นึง อิอิ

เปิดประมวลกฎหมายอาญา ลงความเห็นว่า " คุณไม่มีความผิดครับ "

อิๆๆ อย่าคิดมากเพื่อนกันทั้งนั้นครับคุณมีน


ส่วนน้อง mena_friendly อย่างที่คุณมีนบอกครับ ไม่รู้ไม่ผิด แต่พอรู้แล้วอย่าให้ผิดอีกนะครับ

ถ้าจำไม่ผิด การเจิมอะไรต่างๆ เป็นหน้าที่ของวรรณะพราหมณ์ม่ะใช่หรอครับ

หรือผมเข้าใจผิด???

การเจิม เราต้องแยกค่ะ เพราะ ถ้ามีกฎ ที่ว่า ถ้าเราให้วรรณะพราหม์ เจิม อย่างเดียว แต่ถ้าบ้านใครมีเทวรุปที่เยอะ และ น้ำหนักสูง คงไม่สามารถนำไปให้พราหม์เจิม ได้เสมอไป

การเจิม บางครั้ง ก็เปรียบเสมือน การแต่งประดับองค์ค่ะ เหมือน สตรีเพศ ที่ มี การติดกระแจะ หรือ รอยเจิมที่หน้าผาก ก็เปรียบเสมือน เครื่องประดับ หรือ ความสวยงาม เพราะ ถ้า ในอินเดีย คนที่บูชาตามบ้าน ก็เจิม เอง ค่ะ เพราะ พระเป็นเจ้าไม่ได้อยู่ไกลจากเรา

ดั่งที่ คำสอนพระพุทธเจ้า ตรัสวา่า วรรณะพราหม์ ตามความเชื่อ คือ วรรณะ ที่สะอาด แต่ พระองค์ ทรงพูดว่า ถ้าพราหม์ คนนั้น ทำไม่ดี ทำไม่ชอบ ใช่ว่า จะสะอาดเสมอไป (แต่ เรา ก็ยังเหง อยู่ในวรรณณะพราหม์อยู่ดี)


+++พราหม์ แต่ละนิกาย ยังมีกฏ ข้อห้ามต่างกัน เลยค่ะ มากบ้าง น้อยบ้าง แต่ เราก็ยังให้เกียรติท่าน ใน ความเป็น พราหม์


ดิฉัน ไม่คิดว่า ต่างอะไร กับ ถ้าเรา ประพฤติดี ทำดี ศรัทธาบริสุทธิ์ เรา ก็คือ ผู้ที่มีความบริสุทธ์ ( เราต้องห้ามดูถูกตนเองค่ะ)


***หมายเหตุ เทวรูป และ ทุก อย่าง ที่ดิฉันบูชา ก็

1. เจิมเอง (ไม่ให้ใคร มาเจิมให้เพราะ คิดว่า ศรัทธานั้น มันมีพลัง เหนือ กว่า วรรณะ )

2. เจิม โดย หอเทพมณเทียร (เสาชิงช้า) ค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++

การบูชาเทพ นั้น บางที เราต้องใช้แง่ความเป็นจริง และ อิงความเป็นปัจจุบัน ค่ะ
[HIGHLIGHT=#ffffff]
ภควาน จักรวาลชนนี
[/HIGHLIGHT]

เพราะ..สังคม ประเมิณค่า ที่จนรวย คนจึงสร้าง..เปลือกสวย ไว้สวมใส่

หากสังคม..วัดค่า ที่ภายใน  คนจะสร้าง..จิตใจ ที่ '' ใฝ่ดี''





เอ่อ จริงๆแล้วเนี่ย การเจิมที่พระนาลาฎ (หน้าผาก) ของเทวรูป ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนการบูชาพระเป็นเจ้าตามธรรมเนียมของทางฮินดูครับ โดยมักจะเจิมหลังจากที่ทำการสรงสนานเทวรูปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากเราประกอบพิธีเองทีบ้าน (ที่พิธีไม่ได้ใหญ่โตหรือเป็นทางการมากนัก และไม่ได้เชิญพราหมณ์มาเป็นผู้ประกอบพิธีให้) ผู้ประกอบพิธีบูชาก็สามารถทำได้ด้วยตนเองครับ ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นคนในวรรณะพราหมณ์เท่านั้น ถือเป็นการถวายเครื่องหอมและผงเจิมแก่เทวรูปของพระเป็นเจ้าครับ

สำหรับขั้นตอนในการบูชาพระเป็นเจ้าตามธรรมเนียมฮินดู สามารถเข้าไปอ่านได้ในกระทู้นี้ครับ : http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=27.0

แต่ที่เรามักนำเทวรูปไปให้พราหมณ์เจิมนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเจิมครั้งแรกหลังจากที่ไปเช่าบูชาเทวรูปองค์นั้นๆมา เพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อความสบายใจของตัวผู้บูชาเอง ซึ่งจะให้พราหมณ์จากเทพมณเฑียร หรือเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์เจิมก็ตามสะดวก แต่เมื่อเราบูชาเองในภายหลังตามขั้นตอนหรือธรรมเนียมของฮินดู (แบบที่คนทั่วไปหรือผู้ที่ศรัทธาสามารถทำได้) เราก็สามารถเจิมได้เองครับ เพราะถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนการบูชาอย่างที่ได้เรียนไปในข้างต้นนั่นเอง แต่ถ้าหากพิธีบูชานั้นเป็นพิธีใหญ่หรือเป็นทางการมาก ซึ่งได้เชิญพราหมณ์มาเป็นผู้ประกอบพิธีให้ หน้าที่ในการเจิมเทวรูปก็เป็นหน้าที่ของพราหมณ์ครับ
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

ขอบคุณทุกๆท่านครับที่ให้ความกระจ่าง
โอม ทัต ปูรูชยา วิดมาเฮ วักรา ทุนดายา ดีมาฮี ทะโน ทันติ ปราโชดายะ 

ถ้าไม่ได้ทำพิธีสรงน้ำเทวร฿ปสามารถเจิมได้มั้ยคับ  เพราะเทวรูปเบนเป็นอง์ดทองไม่สามาถรโดนน้ำได้ พอดีบ้างครั้งผงเจิมที่เจิมเอาไวหลุดออกหรือบางครั้งก็ปัดฝุ่นผงเจิมจึงหลุดออก เราสามารถเจิมถวายใหม่ลยได้ป่าวครับ
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

ตอนที่ผมนำเทวรูปไปทำพิธีที่วัดวิษณุ

พราหมณ์ท่านก็ไม่ได้สรงน้ำรดองค์พระนะครับ เพียงแต่นำดอกไม้จุ่มน้ำ ลูบที่พระบาท แล้วค่อยเจิมครับผม

อีกอย่างเวลาเราบูชาพระในวัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรือวัดแขกสีลม พราหมณ์ท่านนำเข้าไปด้านใน แล้วก็เจิม แค่นั้น

ไม่ได้มีการสรงน้ำแต่อย่างใด ผมว่าไม่น่าจะผิดอันใดครับที่เจิมเทวรูปโดยไม่ผ่านการสรงน้ำ

แต่จริงๆแล้วสำหรับครั้งแรกควรอภิเสกเทวรูปให้ครบถ้วนกระบวนความก่อนครับ (ตามความคิดผมนะ)

หุหุ ขอบคุณครับพี่ยีนส์ แบบนี้เบนก็ประพรมน้ำอบที่สาหรี่พระแม่ได้อ่ะสิ
วงการมายา ไม่ใช่สนามเด็กเล่น แต่เป็นสมรภูมิรบ และ การผูกสัมพันธ์ไมตรี ทั้งจริงและจอมปลอม

มายา ความหมายของมันช่างลึบลับเหลือเกิน

วงการมายาไม่ใช่ของเล่นทั่วไป เข้าแล้วออกยาก ระวังเอาไว้

พี่ๆค่ะ ใช่น้ำมันจันทน์ ได้ไหมอ่ะคะ  ????   

ส่วนนิ้วที่ใช้เจิม  คนเรามีตั้ง 5 นิ้ว แล้วนิ้วอื่น หล่ะค่ะ !! มีความหมายว่าอย่างไร? อ่ะคะ ...




เจิมแบบอินเดียใต้เขาใช้ผงยังไงหรอคร่ะ ที่ปั้นเป็นแบนๆๆอ่ะ ที่มีกุมกุมด้วยย ???

April 19, 2010, 21:27:47 #25 Last Edit: April 19, 2010, 21:34:12 by จิ้งจอกพันหน้า
หมายถึง สีเหลืองๆ ช่ะมะ เคยถามพราห์ม ว่า: ดิส อีส  จันดาร๊า ?  

พราห์ม ตอบ:  เยส จันดารา.


เสร็จ แร้ว ก็ยืนดูเค้า พราห์มท่านเห็น ท่านก็ค่อยๆ ทำ(ท่านคงรู้ว่าเราจะก้อบปี้น่ะ)55+
ท่านก็หยิบเอาจันดาราสีเหลืองๆ ที่ผสมแล้วมาปั้นๆๆๆๆ  เป็นลุกกลมๆ พอประมาณ
และก็ บีบๆให้เป็นแบนๆ แล้วก็เอาไปติดที่เทวรูปเสร็จ แล้ว ท่านก็ใช้นิ้วนางข้างขวา
น่ะแระครับผม เจิม กุมกุม สีแดงทับลงไป  เป็นอันเสร็จ ... เหอะๆ
อันนี้เคยถามหลายคนแล้ว ไม่ยอม บอก ไปถามพราห์ม ซะัเลย จบข่าว ลิเกเลิก...สวยๆ

ถ้าไม่เจิมก็ไม่มีปัญหาอะไร
คนฮินดูในบาหลีก็ไม่เจิมเทวรูปเท่าไรนัก

April 22, 2010, 07:28:35 #27 Last Edit: April 25, 2010, 07:52:50 by จิ้งจอกพันหน้า
Quote from: แต่ก็มิได้นำพา on April 20, 2010, 07:16:58
ถ้าไม่เจิมก็ไม่มีปัญหาอะไร
คนฮินดูในบาหลีก็ไม่เจิมเทวรูปเท่าไรนัก

ฉันขำหล่อน อ่ะ นังตั้ม ยังจะแอบมา ตอด ยุกๆยิกๆ 555+

คืออันนี้เค้าหมายถึงถ้าจะเจิม ไง จะเจิม อ่ะ นึก มะ จะเจิม อ่ะ

นังตั้ม สรวน แมว มาก 555+ป่วงได้ใจ  เหอะๆ

ขออนุญาตนะครับ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ขอบอกว่าส่วนตัวจริง ๆ ตัวผมคิดว่า มนุษย์เราไม่มีสิทธิ์ที่จะได้แต่ต้องท่านเลยแม้แต่องค์เทวะรูป ที่เป็นตัวแทนแห่งท่าน เวลาผมจะเจิมแป้งหรือถวายแป้งให้ท่าน ผมทำแค่โปยไปที่ปลายเท้าท่านเท่านั้น เพราะผมคิดว่ามนุษย์เราทำได้แค่นี้ จริง ๆ มิอาจเอื้อมเอามือ อันสกปรกโสมม ไปเจิมที่กลางหน้าผากท่านเลย คืดแล้วดูจะบาปอย่างมาเลยครับ

อ่าว
ประเพณีปฏิบัติ  ที่ทำกันมาหลายชั่วอายุคน
ก็เป็นความผิดบาปอย่างมหัน นะซิครับ
ข้าแต่พระวาคีศวรีเจ้า พระมารดาแห่งพระเวทย์ พระมารดาแห่งศฤงคาร พระมารดาแห่งขุนเขา 
ในนามของ พระปารวตี  ลักษมี  สรัสวตี  สาวิตรี  คายตรี พระองค์คือปรมาตมัน 
พระผู้เป็นที่รักยิ่งแห่งพระพรหม วิษณุ รุทระ
ด้วยพระกรุณาแห่งพระองค์ จักทำให้โลกที่มืดด้วยอวิทยาสว่างขึ้นโดยพุทธิปัญญา

โอม ตัต สัต

ผมว่าการเจิมเทวรูปเองนั้น คนที่บูชาสามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นพราหมณ์หรอก เพียงแต่วันที่คุณจะเจิมเทวรูป ก็ควรงดเว้นเนื้อสัตว์มาก่อน

จุดธูปบอกกล่าวท่าน ปั้นผงจันดาราแปะ แล้วตามด้วยผงกุมสีแดงลงไป แล้วค่อยอารตี สวด...ในต่างประเทศเอง อินเดีย มาเล สิงคโปร์ ก็เห็นตามบ้าน

ร้านขายของ เจ้าของร้านเค้าก็จะเช็ดผงเจิมเก่าออก แล้วเจิมผงจันดาราผสมขมิ้น ผงกุม ที่เทวรูปหรือรูปภาพ ทุกวัน แล้วอารตีขอพรให้ขายของดีในวัน

นั้นๆ  ถวายอาหารเครื่องดื่ม ดอกไม้อย่างดี ต้อนรับท่านทุกวันเชื้อเชิญ ท่านมารับบูชาแล้ว ให้พรมงคล มีความสบายใจไปตลอดทั้งวัน

ไม่จำเป็นต้องยกไปให้พราหมณ์ทำให้หรอก ส่วนใหญ่พราหมณ์เค้าไม่ทำให้ถ้าไม่เช่าจากวัดเค้า  และเราคงไม่สามารถเชิญพราหมณ์มาเจิมให้

ที่บ้านได้บ่อยๆ...


ปล.ในความคิดของผมนะใครอยากเจิม อยากแต่งส่าหรี อยากระบายสีเทวรูปโลหะ อยากใส่วิกให้พระ เชิญทำได้เลยเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าให้ผิดเท

วลักษณะของเทพแต่ละองค์ที่เค้ายึดกันมาหลายพันปี อย่ามาบอกว่าองค์มาบอกกับฉันอย่างนั้นอย่างนี้ พระแม่กาลีบอกว่าให้ทาสีเป็นสีชมพู  ถือหม้อ

โปรยเหรียญ ขี่มังกร  อันนั้นก็เกินไปหน่อย..... จะเป็นบ้าเอาได้นะ อิอิ


Quote from: นกแก้ว on April 23, 2010, 23:13:30
ผมว่าการเจิมเทวรูปเองนั้น คนที่บูชาสามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นพราหมณ์หรอก เพียงแต่วันที่คุณจะเจิมเทวรูป ก็ควรงดเว้นเนื้อสัตว์มาก่อน

จุดธูปบอกกล่าวท่าน ปั้นผงจันดาราแปะ แล้วตามด้วยผงกุมสีแดงลงไป แล้วค่อยอารตี สวด...ในต่างประเทศเอง อินเดีย มาเล สิงคโปร์ ก็เห็นตามบ้าน

ร้านขายของ เจ้าของร้านเค้าก็จะเช็ดผงเจิมเก่าออก แล้วเจิมผงจันดาราผสมขมิ้น ผงกุม ที่เทวรูปหรือรูปภาพ ทุกวัน แล้วอารตีขอพรให้ขายของดีในวัน

นั้นๆ  ถวายอาหารเครื่องดื่ม ดอกไม้อย่างดี ต้อนรับท่านทุกวันเชื้อเชิญ ท่านมารับบูชาแล้ว ให้พรมงคล มีความสบายใจไปตลอดทั้งวัน

ไม่จำเป็นต้องยกไปให้พราหมณ์ทำให้หรอก ส่วนใหญ่พราหมณ์เค้าไม่ทำให้ถ้าไม่เช่าจากวัดเค้า  และเราคงไม่สามารถเชิญพราหมณ์มาเจิมให้

ที่บ้านได้บ่อยๆ...


ปล.ในความคิดของผมนะใครอยากเจิม อยากแต่งส่าหรี อยากระบายสีเทวรูปโลหะ อยากใส่วิกให้พระ เชิญทำได้เลยเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าให้ผิดเท

วลักษณะของเทพแต่ละองค์ที่เค้ายึดกันมาหลายพันปี อย่ามาบอกว่าองค์มาบอกกับฉันอย่างนั้นอย่างนี้ พระแม่กาลีบอกว่าให้ทาสีเป็นสีชมพู  ถือหม้อ

โปรยเหรียญ ขี่มังกร  อันนั้นก็เกินไปหน่อย..... จะเป็นบ้าเอาได้นะ อิอิ





โดนใจมากครับ โดยเฉพาะตอนทิ้งท้าย

ทาสีชมพู ถือหม้อ โปรยเหรียญ ขี่มังกร

อ่านแล้วมันไหลลื่นดีครับ

555 

ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นนะคะ

ได้ความรู้ และ สาระมากๆ เลยค่ะ

[HIGHLIGHT=#92d050]เมตตามหานิยม อยู่ที่...คุณธรรม[/HIGHLIGHT]

ครับเป็นพิธีปฏิบัติในการถวายสิ่งอันเป็นมงคล หาข้อมูลหรือถามผู้รู้ดีกว่าครับอย่าใช้ความรุสึกของตัวเองตัดสิน เพราะเราอาจได้หรือคิดสิ่งที่ไม่ถูกต้องไป น่าเสียดาย

April 27, 2010, 14:01:18 #34 Last Edit: April 27, 2010, 14:06:37 by จิ้งจอกพันหน้า
Quote from: bopeep on April 23, 2010, 18:09:42
ขออนุญาตนะครับ นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ขอบอกว่าส่วนตัวจริง ๆ ตัวผมคิดว่า มนุษย์เราไม่มีสิทธิ์ที่จะได้แต่ต้องท่านเลยแม้แต่องค์เทวะรูป ที่เป็นตัวแทนแห่งท่าน เวลาผมจะเจิมแป้งหรือถวายแป้งให้ท่าน ผมทำแค่โปยไปที่ปลายเท้าท่านเท่านั้น เพราะผมคิดว่ามนุษย์เราทำได้แค่นี้ จริง ๆ มิอาจเอื้อมเอามือ อันสกปรกโสมม ไปเจิมที่กลางหน้าผากท่านเลย คืดแล้วดูจะบาปอย่างมาเลยครับ


หุหุ  ดีที่ท่านแจ้งไว้ว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว หุหุ ก็จริงอย่างที่ ท่านบอกนั่นแระครับผมเพราะจริงๆ เวลาที่ผมเล่น MSN มือผมก็จะสกปรกโสมม อย่างที่คุณว่าน่ะแระ หุหุแต่เวลาที่ผมจะทำการบูชาพระเป็นเจ้า ทุกครั้ง ก็จะต้องอาบน้ำชำระร่างกาย ที่สำคัีญ ชำระจิตใจ ให้สะอาดได้นั่นคือสืง
ที่บริสุทธิ์ เหนื่อสิ่งอื่นใด เสียอีก นอกจากนั้นจะยังมีการสนานน้ำ เพื่อชำระ ล้างสิ่งต่างๆ ให้หมดไป
ก่อนที่จะทำการบูชา เช่นนั้น มิต้องห่วงครับผม อันนี้ไม่บาป ฟันธง ฉับๆๆๆ 

เค้าถึงกล่าวกันเสมอครับว่าความเชื่อเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และค่อนข้างลึกซึ้งครับ

ครูบาอาจารย์ของผมสอนไว้ครับว่า

" อย่าคิดว่าเทพเจ้านั้นท่านสูง เหลือเกิน สูงเกินกว่าที่มนุษย์จะเอื้อมมือไปถึง แต่ให้คิดว่า ท่านเป็นดั่งบิดา เป็นดั่งมารดา ที่เราต้องทะนุบำรุงอย่างดี อย่างสุดความสามารถ เท่าที่เราจะทำได้และคิดว่าดีที่สุดแล้ว การคิดเช่นนี้ไม่ใช่ว่าจะดึงทุกพระองค์ลงมาสู่เบื้องต่ำ แต่ถ้าคิดว่า ท่านอยู่สูงมาก แล้วเมื่อไหร่ล่ะที่เราจะเอื้อมไปถึง "

การเจิมพระนลาฎให้กับเทพเจ้าทั้งหลาย ได้รับการสืบทอดและเป็นประเพณีปฎิบัติกันมานานครับ แน่นอนว่าไม่ผิด แต่การกระทำนั้น ต้องกระทำด้วยความปราณีต ต้องกระทำด้วยความสำรวมทั้งกาย วาจา ใจ ครับ