Loader

เทวาลัยสมัยสุโขทัย

Started by อินทุศีตาลา, December 22, 2009, 12:04:30

Previous topic - Next topic

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

เมื่อสุดสัปดาห์กลับบ้านมาค่ะ ว่างๆเลยไปเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยมา

คนที่เคยไปที่นั่น น้อยคนจะได้เห็นเทวาลัยมหาเกษตรพิมาน ซึ่งตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองด้านทิศตะวันตก ในปัจจุบันเหลือเพียงซากของฐานอาคารรูปเกือบจตุรัส ยกพื้นสองชั้น ชั้นบนมีเสาอิฐผสมศิลาแลง 8 ต้นตั้งอยู่ ภายยังปรากฎแท่นวางเทวรูป เทวาลัยหันหน้าไปทางตะวันออก มีประตูสองประตูอยู่ทางด้านหน้า ด้านหน้ามีบันไดลงทางเดียว และยังเหลือลูกกรงระเบียงเล็กน้อย เทวาลัยตั้งอยู่ท่ามกลางต้นมะม่วงป่า โพ ไทรและไร่นาป่าอ้อยของชาวบ้านค่ะ มีทวเขาเป็นฉากหลัง สวยสงบอย่าบอกใครเลย

ปรากฏหลักฐานกล่าวอ้างถึงในศิลาจารึกวัดป่ามะม่วง ภาษาเขมร พุทธศักราช ๑๙๐๔ (ด้านที่ ๑ บรรทัด ๕๑-๕๔) ใจความว่า
“(ปี) ฉลู วันศุกร์ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๘ ปุรวาษาฒ นักษัตรฤกษ์...เวลารุ่งเช้า เมื่อเสด็จประดิษฐานรูปพระมเหศวรรูปพระวิษณุ...ในหอ[COLOR=#NaNNaNNaN][HIGHLIGHT=#99ff99]เทวาลัย[/HIGHLIGHT][/COLOR][COLOR=#NaNNaNNaN][HIGHLIGHT=#ffff66]มหา[/HIGHLIGHT][/COLOR][COLOR=#NaNNaNNaN][HIGHLIGHT=#a0ffff]เกษตร[/HIGHLIGHT][/COLOR]ในป่ามะม่วงนี้...ดาบส พราหมณ์ทั้งหลายบูชาเป็นนิตย์...”

เทวรูปที่ศิลาจารึกเล่าว่าพระยาลิไททรงสร้างนี้ปัจจุบันอยู่ที่วังหน้ากับเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ค่ะ องค์ไหนเก่าจริง องค์ไหนจำลองก็คงทราบแล้ว จารึกยังให้รายละเอียดว่ามีเทวรูปพระอิศวร พระนารายณ์ พระอุมา พระพรหมและพระคเณศ

เสียดายยังอัพรูปไม่เป็นค่ะ ถ้าทำเป็นเมื่อไรจะนำมาให้ชมกัน
ว่างๆผ่านไปแถวนั้นลองแวะไปชมนะคะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันกันครับ

ปล. วิธีโพสภาพในบอร์ดสามารถเข้าไปศึกษาได้ที่กระทู้นี้เลยครับ http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=842.0
WELCOME TO HINDUMEETING

เรียน สมาชิกเก่าและสมาชิกใหม่ของเว็บ HinduMeeting
ขอความกรุณาทุกท่านศึกษากฎ กติกา มารยาทของเว็บด้วยนะครับ

http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=1423.0

หนึ่งในเทวรูปที่เคยประดิษฐานอยู่ ณ หอเทวาลัยมหาเกษตร

   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

เทวรูปขนาดใหญ่ที่สุดที่หล่อขึ้นคราวนั้นสูงถึงสามเมตรกว่า งดงามด้วยรูปลักษณ์และแสดงออกถึงความก้าวหน้าในเชิงช่างหล่อโลหะของผู้คนในยุคนั้น
หลักฐานจากจารึกวัดป่ามะม่วง ระบุว่าพระยาลิไททรงหล่อรูปพระอิศวร พระนารายณ์ พระพรหม พระอุมาและพระคเณศ



พระพิฆเณศที่โบสถ์พราหมณ์

สิ่งที่น่าเสียดายคือ เทวรูปอันหาค่ามิได้เหล่านี้ ตกทอดมาเป็ฯสมบัติของโบสถ์พรามหณืจนถึงปัจจุบันเพียงไม่กี่องค์ ส่วนหนึ่งกลายไปเป็น 'ของ' ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ซึ่งตั้งไว้ให้ดูกันแห้งๆ ทั้งๆที่เป็นของควรค่าแก่การสักการะบูชา แม้ว่าครั้งหนึ่งเทวรุปเหล่านี้จะเคยอยู่ถูกที่ถูกทาง แต่รัฐบาลสมัยหนึ่งดำริว่าถ้าอยู่ที่โบสถ์พราหมณ์เกรงจะเป็นอันตราย ทั้งจากน้ำท่วมและการเสียหายจากการอื่นเป็นต้น จึงย้ายไป อ้างว่าเพื่อหนีน้ำ แต่จนถึงเวลานี้ เทวรูปสำคัญของพระยาลิไทยก็ไม่เคยกลับมาที่โบสถ์พราหมณือีกเลย

ดิฉันขอเชิญทุกท่านที่มีเวลาแวะไปสักการะท่านที่ห้องศิลปะสุโขทัย อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ชั้นสอง
(ดีใจจัง อัพรูปเป็นสักที)
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

วันที่ไปอากาศดีมากค่ะ แดดเต้นยิบๆเลย แต่เพราะบ่ายคล้อยแล้ว ประกอบกับกล้องไม่ใช่ดีนักหนาอะไร แถมคนถ่ายยังเป็ฯแรงงานด้อยฝีมือ เลยออกมาเดี้ยงๆค่ะ

ต้องขับรถออกจากเมืองเก่าไปทางตะวันตก ผ่านประตูเมืองโบราณชื่อประตูอ้อ แล้วจะพบกับเทวาลัยค่ะ



ภาพนี้ถ่ายจากด้านหลังค่ะ เห็นเสาทั้ง 8 สันนิษฐานว่าเดิมน่าจะเป็นอาคารทรงมณฑป
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

บันไดทางขึ้นลงของเทวาลัยอยู่ทางทิศตะวันออกค่ะ มีส่วนของระเบียงเหลืออยู่
ภาพอาจจะสีแปลกๆนะคะ ถ่ายมามันมืด ใช้โฟโต้ช้อปเพิ่มแสงค่ะ



มีประตูเข้าเทวาลัยสองประตู ภายในมีแท่นที่เคยประดิษฐานเทวรูป


รูที่เสานั้น สันนิษฐานว่าใช้สำหรับสอดคานไม้สำหรับทำผนังและเพดานค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

ทิศเหนือของเมือง ภายในเขตกำแพงเมือง ปรากฎโบราณสถานแห่งหนึ่ง สร้างจากศิลปาแลงทั้งหลัง ด้านหน้าเป็นมุขยื่น ใช้เป็นทางขึ้น ฐานซ้อนเป็นชั้นๆ ด้านหลังเจาะช่องประตูแต่ไม่มีทางลง ด้านข้างทั้งสองด้านทำเป็นประตูหลอก ภายในปรากฎชิ้นส่วนพระบาทของรูปเคารพหินปราย และแท่นโตรณะวางเรียงอยู่ สันนิษฐานว่าเป็นสิ่งก่อสร้างศิลปะลพบุรี น่าจะสร้างขึ้นก่อนสมัยสุโขทัย ช่วงที่ขอมปกครองดินแดนแถบนี้อยู่ และคงเป็นเทวาลัยสำคัญ ดังปรากฎว่า สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเคยทรงพบชิ้นส่วนรูปเคารพจำนวนหนึ่งในบริเวณนี้ จำนวนหนึ่งถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง ใกล้ๆกันนั้นเอง เป็นรูปสลักสตรี เปลือยอก นุ่งผ้ามีเชิงจีบเป็นริ้วคล้ายศิลปะเขมรแบบนครวัด ภายในโบราณสถานปัจจุบันปรากฎชิ้นส่วนของหน้าบันแต่รายละเอียดกระเทาะหมดแล้ว ยอดพังทหลายลงหมด แต่สันนิษฐานว่าเคยเป็นยอดปรางค์ ชาวบ้านเรียกเทวาลัยแห่งนี้ว่า "ศาลตาผาแดง"



ด้านหน้า บันไดชันมาก




ด้านหลังเห็นช่องประตูที่เจาะไว้ ด้านข้างทำเป็นประตูหลอก



พระบาทของเทวรูปทำจากหินทรายสีแดง (ไม่รู้ถ่ายมาสีเพี้ยนไหม) อยู่กลางครรภคฤหะพอดี น่าจะเป็นเทวรูปประธาน คงมีคนเชิญเสด็จท่านจากไปนานแล้ว



โตรณะที่ไม่แน่ใจว่าอยู่ที่นี่มาแต่เดิมหรือย้ายมาจากไหน กับเครื่องบูชาร่วมสมัย สร้างบรรยากาศได้ดีสุดยอดค่ะ

   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

ขอแก้คำผิดค่ะ พระบาทของรุปเคารพเป็นหินทรายสีขาวนะคะ แต่เปื้อนฝุ่นของศิลาแลงจนเป็ฯสีแดงๆค่ะ
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

แต่ถ้าอยากชื่นชมเทวาลัยสมัยใหม่  ที่เป็นศิลปะสุโขทัยประยุกต์  อย่าลืมแวะไป  เทวาลัยพระแม่ย่า  จ.สุโขทัย นะครับ  !!!!


รูป  เทวาลัยพระแม่ย่า
ที่มา  :  www.palungdham.com/t451.html

ขอบพระคุณคุณ NaGa มากค่ะ
สมัยเด็กๆเมื่อยังเป็นศาลหลังเก่าอยู่นั้น เราได้ขึ้นไปปิดทองที่เทวรูปพระแม่ย่าเลย สมัยนี้เขาไม่อนุญาตแล้ว
กลับบ้านที่ไรแวะไปกราบทุกที
   ขอพาหาพลรามอันงามขาว    ดังจันทร์คราวเริ่มแรกอุทัยไข
ทรงกำลังสามารถฉกาจไกร       ดังว่าได้ดื่มซึ่งอาสวรส
เต็มด้วยอวตารแห่งปัทมา        ลักษมีกันยาสุภาสด
น่าใคร่ราววสันต์อันงามงด       จงคุ้มท่านทั้งหมดในที่นี้


(คัดจากเทวีวาสวทัตตา ของภาสะ แปลโดย ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล)

ขอบคุณน้องโด่งค่ะ ที่ได้มาแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ
สุ จิ ปุ ลิ  ขาด สักข้อ ก็ไม่ครบการเป็นปราชญ์

ปราชญ์ที่ดีต้องเป็นผู้ฟังมากกว่า พูด พูดในสิ่งที่สมควรพูด

ผู้ที่ฉลาดแท้จริง ฟัง มากกว่าพูด เพราะถ้าเรารู้ไม่จริง หรือไม่หมดก็จงอย่าพูด

เพราะเมื่อเปิดปากออกมา เมื่อนั้นได้แสดงความโง่ออกมาโดยไม่รู้ตัว

คนเก่งจริง ต้องเรียนรู้เสมอว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือตัวเรายังมีคนที่เก่งกว่า จงถ่อมตนเสมอ จงเป็นผู้ให้เสมอ